ความคิดเห็นที่ 1 ขั้นตอนตั้งแต่ย่างเท้าเข้าไป กีกี้เจอลุงคนนึงเป็นธรรมบริกร หน้าตาใจดีตั้งแต่ข้างหน้าตึกอ่ะค่ะ ลุงใจดีมาก เข้ามาถามว่ามีอะไรให้ช่วยยกไม๊ แล้วก็กุลีกุจอช่วยยกพาเข้าไปในตึกขอบคุณมากนะคะ เหมือนแกยืนรอช่วยเหลือคนที่ไปอยู่อ่ะค่ะ หลังจากนั้นก็เป็นไปตามขั้นตอนดังนี้ค่ะ 1.ลงทะเบียนว่าเรามาแล้ว กรอกรายละเอียดเพิ่มเติม แล้วเราก็รับกระดาษที่จดชื่อ เบอร์ห้อง และเบอร์ถุงใส่ของมีค่า เราต้องเก็บกระดาษใบนี้ไว้ให้ดีนะคะ เพราะใช้รับของคืนวันสุดท้ายค่ะ 2.ฝากของมีค่าโดยจะมีถุงผ้าตามเบอร์ของเรา ใส่มือถือ กระเป๋าตังค์ เครื่องประดับ สร้อยพระก็ต้องฝากนะคะ ไม่งั้นเราต้องถอดเก็บเพราะห้ามใส่ค่ะ 3.ถ้าต้องการส่งผ้าซัก พี่เค้าจะให้ถุงที่มีเบอร์อีกใบให้เราค่ะ 4.ไปเก็บสำภาระของเราได้ค่ะ มีอาหารเย็นให้กินค่ะ เจ้าหน้าที่จะเตรียมไว้ให้ วันแรกของกีกี้เป็นผัดซีอิ้วค่ะ 5.ปฐมนิเทศ ฟังกฏระเบียบ และขั้นตอนต่างๆ รวมทั้งรับหมายเลขที่นั่ง (อาสนะ) หลังจากนี้เราก็พักผ่อนสักครู่แล้วก็ไปปฏิบัติรวมค่ะ จากนี้ไป กฏความเงียบ ก็จะเริ่มต้น ห้ามพูดกันแล้วนะคะ ถ้ามีคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติก็ไปลงชื่อขอพบอาจารย์ในช่วงพักกลางวัน อันนี้จะส่วนตัวค่ะ หรือ รอจบการปฏิบัติหลังสามทุ่มในแต่ละวันก็สามารถไปถามอาจารย์ได้ค่ะ ซึ่งช่วงนี้จะมีธรรมบริกร หรือผู้อื่นที่ต้องการถามคำถามนั่งอยู่ด้วยค่ะ ถ้ามีคำถาม หรือเรื่องอะไรเกี่ยวกับการกินอยู่ก็ติดต่อกับธรรมบริกรนะคะ ทุกคนใจดีแล้วก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเราค่ะ สามารถฝากซื้อของใช้ส่วนตัวบางอย่างที่เราลืม หรือต้องการเพิ่มเติมได้ เช่นกระดาษทิชชู่ ผ้าอนามัย สบู่ ไม่แน่ใจว่าศูนย์อื่นมีการฝากซื้อของหรือเปล่า ยังไงก่อนไปพยายามเตรียมของใช้ส่วนตัวไปให้พร้อมดีกว่านะคะ เขียนถึงธรรมบริกรนี่ ต้องขอบคุณมากๆ ทุกคนทำงานกันโดยไม่ได้ค่าจ้างนะคะ ตื่นก่อน นอนหลัง กินหลัง ล้างห้องน้ำ ทำความสะอาด ทุกคนทำงานด้วยใจบริสุทธิ์ อำนวยความสะดวกต้องการให้ผู้อื่นได้พบธรรมมะ ขออนุโมทนาอีกทีค่ะ จากคุณ : กีกี้ แรบบิท (กีกี้ แรบบิท) เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:46:43

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องกิน เป็นอาหารมังสวิรัติค่ะ มีมื้อเช้า กลางวัน ส่วนตอนเย็นจะเป็นเวลาน้ำปานะค่ะ ก่อนเวลาอาหาร ธรรมบริกรก็จะมาจัดวางอาหารที่โต๊ะตรงกลางตึกอ่ะค่ะ พอถึงเวลาเราก็มาเข้าแถวตัก เอาไปกินที่หน้าห้องของเราค่ะ มื้อเช้าส่วนใหญ่จะเป็นก๋วยเตี๋ยว ราดหน้า ข้าวต้ม ประมาณนี้ค่ะ มีขนมปัง ชา กาแฟ น้ำหวานให้ ชา กาแฟนี่จะมีแค่ตอนเช้านะคะ คิดว่าไม่ให้ตอนอื่นคงกลัวว่าผู้ปฏิบัติจะนอนไม่หลับ มื้อกลางวัน มักมีกับข้าวสามอย่างค่ะ จะมีแกงหรือต้ม แล้วก็เป็นพวกผัดๆ ค่ะ ไม่ต้องกังวลนะคะบางอย่างเรากินไม่ได้ เช่น วันไหนมีลาบ คนสูงอายุอาจกินไม่ได้เพราะว่าเผ็ดไปก็เลือกกินอย่างอื่นได้ค่ะ  (แต่จริงๆอาหารจะรสไม่จัดมากค่ะ) อาหารก็เปลี่ยนไปแต่ละวัน มีแกงส้ม ผัดขิง ต้มยำ ผัดผัก ยำวุ้นเส้น ประมาณนี้ค่ะ แล้วก็มีขนมหรือผลไม้เสมอค่ะ เช่น มะละกอ เงาะ กล้วย ต้มถั่วแดง ต้มลูกเดือย ตอนเย็นถ้าเป็นศิษย์เก่า ถือศีล8 จะดื่มได้แต่น้ำปานะ งด นมหรือนมถั่วเหลืองด้วยนะคะ บางวันเป็นน้ำมะตูม บางวันน้ำกระเจี๊ยบ ตะไคร้ใบเตย ก็สับเปลี่ยนไปค่ะ ส่วนผู้ปฏิบัติครั้งแรก ถือศีล 5 สามารถดื่ม นำ้ปานะ ไมโล โอวัลติน น้ำหวาน(น้ำแดง น้ำเขียว) มีขนมปัง แยม น้ำผึ้ง ขนมปังที่เป็นปี๊บๆก็มีค่ะ มีมาม่าเจด้วยค่ะ น้ำปานะจะแยกนำ้เชื่อมมาให้ ใครชอบหวานมากใส่มาก หวานน้อยใส่น้อยค่ะ กีกี้ว่าที่นี่ใส่ใจในทุกรายละเอียดเลยค่ะ อ้อ ถ้าบางคนป่วย ต้องการอาหารเย็นด้วย ก็สามารถแจ้งได้ล่วงหน้านะคะ ทางเจ้าหน้าที่จะเตรียมไว้ให้ค่ะ วันแรกที่ไป กีกี้หิวมากค่ะ มือสั่น ตอนแรกว่าจะเดินไปบอกเจ้าหน้าที่แล้วว่าไม่ได้แจ้งชื่อไว้ แต่ว่าหิวมาก จะขอกินข้าวด้วย แต่พอเห็นว่ามีมาม่า ก็ซัดไปแทนค่ะ กิน ขนมปังแยมด้วย กินจนอิ่ม ไปปฏิบัติต่อนี่อึดอัดเลยค่ะ แต่วันต่อๆมาก็เหมือนร่างกายปรับตัวได้นะคะ คือก็ยังกินอยู่แต่กินน้อยลง เพราะเป็นคนหิวบ่อยค่ะ เผาผลาญเร็ว แต่ถ้ากินเยอะไปก็จะไม่สบายตัวเวลาปฏิบัติค่ะ ส่วนตัวแล้วคิดว่าอาหารอร่อยค่ะ เพียงพอกับทุกคน แล้วก็ไม่เบียดเบียนสัตว์ได้ 10 วันก็ได้บุญมากๆแล้วนะคะ เพราะตัวเองเป็นคนกิเลสเยอะอยู่ค่ะ อยากหันมากินมังแต่ก็ยังใจไม่แข็งพอ เวลาตักอาหารก็ตักให้พอดีกับที่เราจะกินนะคะ ไม่น้อยเกินไป เพราะยังต้องใช้พลังงานอยู่นะคะ ^^ แต่ก็อย่าตักเกินจนต้องเหลือทิ้งนะคะ กินเสร็จ เราก็ต้องมาล้างจานกันค่ะ จะมีที่ให้ล้างจาน ประมาณ10 ซิงค์ ล้างเสร็จก็ใช้ผ้าเช็ดจาน เช็ด เก็บไว้ใช้คราวต่อไป สรุปว่าหมดห่วงเรื่องกินได้เลยค่ะ ทุกอย่างเตรียมมาพร้อม จากคุณ : กีกี้ แรบบิท (กีกี้ แรบบิท) เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:49:16

ความคิดเห็นที่ 3 ตรงนี้เป็นบริเวณกลางตึกค่ะ มาตักอาหารกันบริเวณนี้ ชายหญิงแยกกันชัดเจนค่ะ จากคุณ : กีกี้ แรบบิท (กีกี้ แรบบิท) เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:50:25

ความคิดเห็นที่ 4 ลองอัพรูปใหม่นะคะ จากคุณ : กีกี้ แรบบิท (กีกี้ แรบบิท) เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:54:08

ความคิดเห็นที่ 5 ดีใจ รูปขึ้นแล้ว อันนี้เป็นที่กดน้ำค่ะ มีน้ำร้อน น้ำเย็นค่ะ จากคุณ : กีกี้ แรบบิท (กีกี้ แรบบิท) เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:55:40

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องอยู่ กินแล้วก็มาถึงเรื่องอยู่นะคะ จะนอนยังไง เข้าห้องน้ำยังไง สกปรกไม๊ มีผีไม๊ น่ากลัวหรือเปล่า ก่อนไปกีกี้ยอมรับเลยค่ะว่ากลัว กลัวการนอนคนเดียว กลัวความมืด กลัวสิ่งที่มองไม่เห็น เอาเป็นว่าปรุงแต่งไปก่อนซะเยอะค่ะ แต่ที่ธรรมธานีค่อนข้างใหม่ค่ะ ตัวอาคารด้านหน้าเป็นที่จอดรถและสำนักงาน ตรงกลางจะเป็นโถงไว้ตั้งบอร์ดประกาศ โต๊ะสำหรับตักอาหาร และก็เป็นทางขึ้นไปห้องปฏิบัติรวมค่ะ เดินมาด้านหลังจะเป็นส่วนห้องพัก คล้ายๆหอพักค่ะ เป็นช่องๆ มีประมาณ 6 ช่อง ซึ่งที่นี่เรียกว่า Bay ค่ะ แต่ละ Bay จะมีห้องนอน 22 ห้อง และห้องน้ำ 8 ห้องค่ะ ห้องนอนไม่น่ากลัวเลยค่ะ ถึงจะแยกกันนอน แต่ห้องติดๆกันเลยไม่รู้สึกว่าน่ากลัวเลยค่ะ เดินเลยมาด้านหลังอีกจะเป็นที่สำหรับตากผ้า ด้านหลังนี่จะมีบึงน้ำค่ะ ไว้มองพักสายตาได้ดีเลยค่ะ เดี๋ยวเพื่อนๆเห็นรูปแล้วก็จะพอนึกออกค่ะ ห้องนอนขนาดเล็กๆ แต่ก็เพียงพอต่อการนอนและทำธุระส่วนตัว รวมถึงกรณีปฏิบัติในห้องด้วยค่ะ กีกี้ไม่ได้ถ่ายรูปในห้องนอนมา แต่ประมาณว่าเปิดประตูุปุ๊บเจอเตียงอยู่ด้านซ้ายและด้านขวาเป็นที่ว่างเล็กๆ มีชั้นวางของ พัดลม เก้าอี้ มีถุงผ้าที่ใส่ถาดอาหาร ช้อน ส้อม ช้อนเล็ก ช้อนชงกาแฟ แก้วน้ำ แล้วก็มีอีกถุงเป็นถุงพลาสติก ใส่หมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าเช็ดจาน (ตอนแรกกีกี้ไม่รู้ว่าเป็นผ้าเช็ดจาน เอามาปูทับปลอกหมอนอีกชั้น ^^'') ทุกอย่างจัดไว้อย่างเป็นระเบียบและสะอาดสะอ้านค่ะ ที่ประตูห้องนอน จะติดเหล็กที่เอาไว้วางถาดข้าวกับแก้วน้ำไว้ ดูตามรูปเลยนะคะ เวลาใช้ก็ดึงลงมา เหมือนที่อยู่ที่หลังเบาะรถทัวร์อ่ะค่ะ แล้วเราก็เอาเก้าอี้ของเราออกมา นั่งกินข้าวที่หน้าห้องเลยค่ะ ที่ห้องนอนมีแอร์ด้วยนะคะ แต่จะเปิด-ปิดเป็นเวลา กีกี้ขี้หนาวค่ะ แล้วแอร์มันเป็นแบบเปิดรวมแล้วปล่อยมาที่ช่องตามแต่ละห้องอ่ะค่ะ ช่องแอร์นี้เปิดปิดได้ แต่ถึงจะปิดไอเย็นก็ยังลงมาอยู่ค่ะ ต้องขอผ้าห่มเพิ่มจากธรรมบริกร ห้องน้ำ มีทั้งน้ำอุ่น และน้ำเย็น เพียงพอต่อผู้ปฏิบัติไม่ต้องแย่ง หรือรอกันค่ะ ที่นี่ใส่ใจในเรื่องความสะอาดและรายละเอียดต่างๆมากนะคะ แม้แต่ผ้าเช็ดเท้าในห้องน้ำ พี่ๆธรรมบริกรก็จะซักค่อนข้างบ่อยค่ะ (เหมือนจะทุกๆสองวัน) แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 20:21:03 จากคุณ : กีกี้ แรบบิท เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:00:21

ความคิดเห็นที่ 7 หน้าห้องนอน กับที่วางถาดอาหารค่ะ จากคุณ : กีกี้ แรบบิท (กีกี้ แรบบิท) เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:01:24

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องเสื้อผ้าและการซักผ้า เสื้อผ้า เลือกที่ใส่สบาย ไม่บางเกินไป No ขาสั้น สายเดี่ยว เอวลอย นะคะ;) ผู้ปฏิบัติสามารถส่งผ้าซักและรีดได้ในราคาชิ้นละ 7 บาทค่ะ โดยตอนที่เราลงทะเบียนวันแรก ถ้าเราแจ้งว่าต้องการส่งผ้าซัก ธรรมบริกรก็จะเอาถุงผ้าที่มีเบอร์ให้เราค่ะ เวลาเราจะส่งซักก็เอาเสื้อผ้าใส่ในถุง แล้วก็เอาไปวางไว้ที่โต๊ะที่ตั้งไว้ตรงโถงกลาง เขียนชื่อ ห้องที่พัก เบอร์ถุง แล้วก็จำนวนผ้าค่ะ พอวันรุ่งขึ้นก็ไปรับคืนได้ในที่เดียวกัน เราก็หยิบถุงที่มีเบอร์ของเรามา วิธีนี้ทำให้ไม่วุ่นวายแล้วก็ไม่ปะปนกันด้วยค่ะ หรือหากต้องการซักผ้าเอง ด้านหลังก็จะมีห้องซักผ้าให้ค่ะ แล้วก็มีที่ให้ตากด้านหลัง ที่ตากก็เพียงพอเช่นกันค่ะ ไม่ต้องแย่งกัน กีกี้เอาเสื้อผ้าไปครบเลยค่ะ ไม่อยากมาคอยดูแล ซักแค่ชุดชั้นในเท่านั้น จากคุณ : กีกี้ แรบบิท เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:03:46

ความคิดเห็นที่ 9 นี่ค่ะ ด้านหลังเป็นบึงน้ำค่อนข้างใหญ่ แล้วก็มีที่ตากผ้าค่ะ จากคุณ : กีกี้ แรบบิท (กีกี้ แรบบิท) เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:04:34

ความคิดเห็นที่ 10 อนุโมทนาสาธุด้วยครับ จากคุณ : ชาวมหาวิหาร เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:15:27

ความคิดเห็นที่ 11 อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะที่นำมาแบ่งปัน จากคุณ : Pig_Rangsit เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:16:26

ความคิดเห็นที่ 12 การปฏิบัติ การปฏิบัติมีจุดหมายอยู่ที่การหลุดพ้น หลุดพ้นจากกิเลสเครื่องเศร้าหมอง เราไม่สามารถหลุดพ้นจากกิเลสได้ จากการแค่คิดหรือทำความเข้าใจ เพื่อนๆคงเป็นเหมือนกันใช่ไม๊คะ บางครั้งเราไปงานศพ แล้วเราก็คิดได้ว่า วาระสุดท้ายคนเราก็เอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง ตอนมีชีวิตอยู่ก็อยากได้นั่น อยากได้นี่ ไขว่คว้าให้ได้มา ทั้งสิ่งของ เงินทอง แม้กระทั่งคนที่เรารัก เราจะเหมือนปลงได้ อ่านหนังสือบางเล่ม หรือฟังธรรมบางที ก็จะเหมือนบรรลุ คิดได้แล้ว(โว้ย) แต่หลังจากนั้นไม่นาน ถ้ามีอะไรมาสั่นคลอน ความเป็นตัวเราของเรา เช่นiphone 4 หาย เพิ่งซื้อมาเมื่อวานเอง (ถ้าเป็นของเพื่อนเรา เราก็จะรู้สึกนิดเดียว ^^”) หรือถ้าแฟนทิ้ง เราก็จะเป็นจะตายขึ้นมาอีก คิดยังไงก็ไม่หายทุกข์ (ถ้าเป็นแฟนเพื่อนเราก็จะสงสารเพื่อน แต่เราจะไม่ทุกข์มาก เพราะใจเราไม่ยึดว่าเป็นของเรา) กิเลสของเรามันนอนก้นในระดับจิตไร้สำนึกค่ะ การคิดได้ในระดับจิตสำนึกจึงช่วยให้สงบได้เป็นครั้งคราว แต่ไม่ใช่การถอนรากถอนโคนกิเลสค่ะ การวิปัสสนา หรือ การเฝ้าดูความจริงที่เกิดขึ้น โดยไม่ปรุงแต่งเพิ่มเติม จะช่วยให้กิเลสเก่าค่อยๆหลุดไปค่ะ แล้วเราก็ต้องระวังไม่สร้างกิเลสใหม่ ต้องพยายามวางอุเบกขาให้ได้ค่ะ (บางคนอาจจะบอกว่าจะช่วยได้ไง แม้แต่กีกี้เองก็สงสัยค่ะ ต้องลองมาปฏิบัติค่ะ มันเป็นกฏธรรมชาติ เหมือนแอปเปิ้ลหลุดแล้วต้องตกบนพื้นน่ะค่ะ) ในแต่ละวันหลังการปฏิบัติ อาจารย์จะเปิดธรรมบรรยายซึ่งทำให้เราเข้าใจธรรมะ และการปฏิบัติได้ละเอียดมากขึ้นค่ะ แต่แน่นอน จะทำให้เกิดผลได้เราต้องลงมือทำค่ะ เหมือนถ้าเพื่อนๆ อ่านหนังสือการสอนว่ายน้ำ แต่ถ้าไม่เคยลงฝึกก็จะไม่เห็นผล ว่าเราสามารถว่ายน้ำ ลอยบนน้ำได้นะ แต่ไม่ใช่มาแล้วจะไม่ทุกข์อีกเลย หลุดพ้นสิ้นเชิงนะคะ แต่มันเป็นก้าวแรกที่จะทำให้เราเผชิญหน้ากับความทุกข์ได้อย่างมีสติ ทำได้เป็นบางครั้งก็ยังดีค่ะ ^^ จากคุณ : กีกี้ แรบบิท เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:18:14

ความคิดเห็นที่ 13 หลักการปฏิบัติ จะยึด 3 ข้อตามที่ท่านพระพุทธเจ้าได้ทรงสอนไว้ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อให้เห็นภาพรวมกว้างๆของแต่ละวัน จะเขียนถึงนิดหน่อยนะคะ แต่ขั้นตอนและรายละเอียดในการปฏิบัติ ต้องมาด้วยตัวเอง เพื่อให้เป็นไปในวิธีที่ถูกต้อง และมีอาจารย์ดูแล ไม่เหมาะกับการฝึกเองค่ะ วันที่1- วันที่ 3  ฝึกอานาปานสติ คือการมีสติรู้ลมหายใจเข้าออก โดยไม่ท่องพุทโธ ยุบหนอ พองหนอ หรือคำบริกรรมใดๆทั้งสิ้น ผู้ที่กำลังจะไปฝึกสามารถฝึกตรงส่วนนี้ก่อนได้นะคะ รู้ลมหายใจ เข้าออก รู้ว่ามันกำลังเข้า หรือกำลังออก รู้สัมผัสของเราที่กระทบส่วนต่างๆของจมูก  ขั้นตอนนี้จะทำให้เรามีสมาธิและมีสติที่แหลมคมมากขึ้นค่ะ พยายามผ่าน 3 วันนี้ไปนะคะ อาจจะเบื่อ ทุกข์ หดหู่ หรืออะไรก็ตามแค่เฝ้าดูมันนะคะ ตั้งใจให้มั่น ผ่านมารต่างๆให้ได้ ไม่ว่าจะมารขี้เกียจ มารขี้โกรธ ขี้ขุ่นเคือง ทั้งหลาย ถ้ามันจะมาก็ให้มันมา แล้วมันก็จะผ่านไป เหมือนทุกสิ่งค่ะ วันที่ 4 เป็นต้นไป  เริ่มฝึกวิปัสสนา ตามรู้เวทนา (ความรู้สึก)ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย จากวันนี้ไปจะมีชั่วโมงที่เรียกว่า "ชั่วโมงอธิษฐาน" วันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง โดยเราจะต้องพยายามตั้งจิตให้มั่นและอธิษฐานว่า จะไม่มีการเปลี่ยนอริยาบถเลย ขั้นตอนนี้**ไม่ใช่การมาทรมาน**ตัวเองนะคะ เพียงแต่เป็นการฝึกการวางอุเบกขา และเป็นการสร้างอธิษฐานบารมี หากร่างกายไม่สามารถทนได้ เราสามารถเปลี่ยนท่าทางได้ค่ะ แต่พยายามปลี่ยนให้น้อยที่สุด และให้น้อยลงเรื่อยๆ วันที่ 10  อาจารย์จะสอนแผ่เมตตาค่ะ วันนี้หลัง 10 โมง การรักษาความเงียบเป็นอันสิ้นสุด กีกี้คิดว่าเหมือนกับการ Cool Down หลังจากที่เราไม่ได้พูดคุยเลยเป็นเวลา 9 วัน ก่อนที่เราจะออกไปเจอโลกข้างนอก แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถสัมผัสตัวกันได้นะคะ การฝึกจะสิ้นสุด 6.30 ในตอนเช้าของวันที่ 11 ค่ะ หลังจากนั้นมีอาหารเช้าให้กินค่ะ จะกินหรือกลับเลยก็ได้ค่ะ จากคุณ : กีกี้ แรบบิท เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:22:07

ความคิดเห็นที่ 14 หน้าห้องปฏิบัติรวมค่ะ จากคุณ : กีกี้ แรบบิท เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:22:55

ความคิดเห็นที่ 15 ขออนุโมทนาด้วยค่ะ ^__^ จากคุณ : If Love Were All เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:23:02

ความคิดเห็นที่ 16 เวลาพักระหว่างชั่วโมง ก็มายืดเส้นยืดสายที่นี่ค่ะ จากคุณ : กีกี้ แรบบิท เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:23:38

ความคิดเห็นที่ 17 อีกรูปนะคะ จากคุณ : กีกี้ แรบบิท เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:24:07

ความคิดเห็นที่ 18 เดี๋ยวมาต่อ ประสบการณ์ส่วนตัวค่ะ ;) จากคุณ : กีกี้ แรบบิท เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:29:48

ความคิดเห็นที่ 19 อนุโมทนาครับ __/\__ ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป จากคุณ : ฮิมาวาริซซัง เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 18:08:23

ความคิดเห็นที่ 20 อนุโมทนาด้วยค่ะ เป็นอีกที่หนึ่งที่อยากไปปฏิบัติธรรมด้วยค่ะ จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เหร่ in uk เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 18:19:48

ความคิดเห็นที่ 21 อนุโมทนาสาธุ จากคุณ : l_yan1 เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 18:32:05

ความคิดเห็นที่ 22 อนุโมทนาค่ะ จากคุณ : กึมซุน (คนยองกึมชุน) เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 18:37:05

ความคิดเห็นที่ 23 อนุโมทนาสาธุ อ่านแล้วอิ่มเอิบใจแทนครับ จากคุณ : ปันน้ำใจ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 18:39:50

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณที่เข้ามาอนุโมทนากันค่ะ เป็นคนที่คิดมาก อ่อนไหว เศร้าง่าย แล้วก็เป็นพวกยึดติดมากๆๆๆๆๆ มาเจอแนวทางนี้คงพอช่วยได้บ้างค่ะ :)  คุณลูกเป็ดขี้เหร่ ลองหาโอกาสไปดูนะคะ ขั้นตอนการสมัคร และศูนย์ต่างๆดูรายละเอียดได้จากเวปเลยค่ะ การสมัคร http://www.thaidhamma.net/ เลือกเวลาและศูนย์ กรอกรายละเอียดต่างๆ จากนั้นรอเจ้าหน้าที่ติดต่อมาค่ะ แต่ถ้า จะถึงแล้ว ประมาณเดือนครึ่งก่อนวันไปสามารถโทรไปถามได้ค่ะ ตอนนี้มี 6 ศูนย์ค่ะ ที่กรุงเทพ พิษณุโลก ปราจีนบุรี ขอนแก่น กาญจนบุรี ลำพูน แล้วก็ นครศรีธรรมราชกำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้างค่ะ จากคุณ : กีกี้ แรบบิท เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 18:40:20

ความคิดเห็นที่ 25 <ขออนุญาตลบประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ> แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 54 22:05:09 จากคุณ : กีกี้ แรบบิท เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 18:44:11

ความคิดเห็นที่ 26 ผู้สนใจ ไม่่ว่าจะนับถือศาสนาอะไรก็เข้าร่วมได้นะคะ (แต่ต้องงดพิธีกรรมต่างๆระหว่างเข้ารับการฝึกนะคะ) ความทุกข์เป็นเรื่องสากล ทุกชาติ ทุกภาษา ทุกศาสนา ก็มีความทุกข์กันทั้งนั้น ไม่มีแบ่งแยกว่า ทุกข์แบบพุทธ ทุกข์แบบคริสต์ ดังนั้นหนทางดับทุกข์ก็ต้องเป็นสากลด้วยเช่นกัน... อีกอย่างที่กีกี้เห็นว่าเป็นแนวคิดที่ดีมากคือ ผู้บริจาคเงิน หรือสิ่งของ คือผู้ที่เห็นคุณค่าของธรรมะอย่างแท้จริง ต้องเป็นศิษย์เก่า คือเคยผ่านการปฏิบัติอย่างน้อย 10 วันจากที่นี่ การเผยแผ่ธรรมมะแบบนี้จะเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ไม่มีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง  สิ่งอำนวยความสะดวก บรรยากาศธรรมะ และกฏต่างๆ มีขึ้นเพื่อช่วยเอื้อต่อการปฎิบัติค่ะ กีกี้คิดว่าเป็นการตัดเรื่องกังวล และสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการฝึกออกไป ให้เราจดจ่อกับการฝึกชำระจิต ดังนั้นผู้ปฏิบัติเข้ามาฝึกถือว่าได้โอกาสที่ดีมากๆค่ะ สุดท้ายนี้ กีกี้ขอขอบคุณ คุณเหมียว ไขสมการความสุข และคุณฐิตินาถ เข็มทิศหัวใจ ที่ทำให้รู้จักแนวทางนี้ และสถานปฏิบัตินี้ ทำให้เกิดความคิดริเริ่มอยากไป ขอบคุณอากู๋ และเพื่อนๆผู้เขียนข้อมูลต่างๆให้เตรียมตัว เตรียมใจ ให้ได้ระงับความกังวลบางอย่าง อาจารย์โกเอ็นก้า อาจารย์ภัทรา ธรรมบริกรทุกท่าน ขอบคุณค่ะ  ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายมีความสุข และมีโอกาสได้ลิ้มรสธรรมมะที่บริสุทธิ์นะคะ  จากคุณ : กีกี้ แรบบิท เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 18:46:42

ความคิดเห็นที่ 27 ได้ ธรรมบรรยาย โดย ท่าน อาจารย์โกเอ็นก้า มาเล่มใหญ่เลยครับ ยังไม่มีเวลาอ่านเลย   เห็นกระทู้นี้แล้ว ไปหยิบมาอ่านดีกว่า.... จากคุณ : กันดั้มตัวนี้สีชมพู เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 19:38:39

ความคิดเห็นที่ 28 สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ จากคุณ : Zen Entania เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 19:44:45

ความคิดเห็นที่ 29 ขอ อนุโมทนา ด้วยค่ะ จากคุณ : Alpha เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 19:57:41

ความคิดเห็นที่ 30 สาธุ เอาไว้เครียร์ภาระครอบครัว หน้าที่การงานได้ จะตามไปเปนศิษย์น้องครับ จากคุณ : นายจองชัย เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 20:03:54

ความคิดเห็นที่ 31 อนุโมทนาสาธุนะค่ะ จากคุณ : Sofar_ka เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 20:18:03

ความคิดเห็นที่ 32 สาธุ อนุโมทนาค่ะ จากคุณ : smoothly เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 20:33:27

ความคิดเห็นที่ 33 อนุโมทนาครับ จากคุณ : thanunnop เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 20:36:04

ความคิดเห็นที่ 34 อนุโมทนาครับ  สา...ธุ... ผมก็ศิษท์เก่าท่านอาจารย์โกเอ็นก้าคนนึง  เคยไปปฏิบัติที่ศูนย์สีมันตะ จ.ลำพูน  หลักสูตร 10 วัน รู้สึกประทับใจมาก ได้ประสบการณ์หลายๆ จากการปฏิบัติแนวทางนี้  3 วันแรกดูลมหายใจ เกิดนิมิตต่างๆมากมาย (พอดีมีพื้นฐานการปฏิบัติสมถะมาก่อน) ของเก่าโผล่ออกมาเพียบ แค่ตามรู้ตามดูเฉยๆ พอเริ่มเข้าวันที่ 4 วิปัสสนา สามารถแยกกายกับเวทนาได้อย่างชัดเจน มองเห็นเวทนาเป็นแค่สิ่งๆหนึ่ง แยกกับจิตเหมือนเป็นวัตถุที่วางไว้เฉยๆ ความปวดมันก็มีอยู่ แต่จิตไม่สนใจ แค่มองเฉยๆ คงเป็นเพราะกำลังของสมถะก็เป็นได้  อุเบกขากับอนิจจังเป็นสิ่งสำคัญที่สุด สำหรับการปฏิบัติแนวทางนี้ เวทนาเกิดขึ้นเมื่อไร ให้จับอุเบกขาทันที ดูมันไป มันจะแสดงอาการต่างๆ ก็แค่รู้แค่ดูเฉยๆ แล้วความเป็นอนิจจังก็จะเกิดขึ้น ท่องไว้ตรงนี้ จะผ่านพ้นไปด้วยดี... จากคุณ : หนุ่มทิพย์ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 20:56:26

ความคิดเห็นที่ 35 อนุโมทนาด้วยค่ะ จากคุณ : @# k[A]tty #@ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 21:01:30

ความคิดเห็นที่ 36 ผมไปมาเมื่อต้นปี ตามลิ้งนี้ http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2011/03/Y10298325/Y10298325.html ดีมากครับๆ ตอนนี้ก็ฝึกปฏิบัติไปเรื่อยๆตั้งใจจะไปทุกปี ยามเหงาๆแปลกคิดถึงศูนย์นี้เฉยเลยคงคิดถึงความสุขความสงบจากการปฏิบัติ อนุโมทนา สาธุกับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ จากคุณ : Green Green เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 22:14:18

ความคิดเห็นที่ 37 อนุโมทนาสาธุด้วยครับ พรุ่งนี้กำลังจะไปเข้าค่ายกรรมฐานเหมือนกัน 7 วัน :) ครั้งแรกของชีวิต แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 54 06:04:35 จากคุณ : เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 06:04:15

ความคิดเห็นที่ 38 คุณ หนุ่มทิพย์ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ กีกีคงยังเป็นขั้น Pre อนุบาล คงต้องเพิ่มกำลังสมาธิให้มากๆก่อน :) จะพยายามค่ะ คุณ Green Green เข้าไปเยี่ยมกระทู้แล้วนะคะ กำลังมีความคิดว่าอยากไปที่ศูนย์นี้ตอนปีใหม่ค่ะ แต่กลัวว่าจะลางานติดต่อกันไม่ได้ แล้วก็กังวลเรื่องเดินทางผู้หญิงคนเดียวด้วยค่ะ คุณ เมื่อลมแรง ... อนุโมทนาด้วยนะคะ ขอให้้พบธรรมมะที่บริสุทธิ์ดังใจค่ะ จากคุณ : กีกี้ แรบบิท เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 07:55:18

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณครับ จากคุณ : มังกรจักรวาล เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 08:15:49

ความคิดเห็นที่ 40 อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ และก็ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ  ตรงกับใจที่อยากรู้พอดี หากมีโอกาสต้องไปปฏิบัติที่นี่ให้ได้แน่ ๆ ค่ะ สงสัยนิดนึง ได้ยินมาว่า ไม่ให้เปลี่ยนท่านั่ง 2 ชั่วโมง แต่ที่ จขกท.เล่ามานี้ 1 ชั่วโมง   ตกลงจริง ๆ แล้วกี่ชั่วโมงกันแน่คะ  ถ้าชั่วโมงเดียวอันนี้พอทำได้อยู่ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : โมงยามแห่งความสุข เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 09:16:19

ความคิดเห็นที่ 41 สาธุ........อนุโมทนาบุญด้วยครับ แต่ขอติงนิดนึงนะครับตอนที่ผมไปฝึกที่ธรรมอาภา  พิษณุโลกนั้นเขาขอให้เราไม่เผยแพร่วิธีปฏิบัตินะครับ  เพราะเรายังไม่รู้อะไรจริง ๆ  หากแนะนำอะไรที่ไม่ตรงกับทางสำนักอาจจะทำให้ผู้อื่นเกิดความสับสนได้  ในส่วนตัวคิดว่าน่าจะบาปมากนะครับ แต่ผมก็ขออนุญาตถ่ายรูปสถานที่ฝึกมาเผยแพร่และแนะนำให้คนอื่นไปฝึกปฏิบัตินะครับ แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 54 10:35:36 จากคุณ : จิตสิกขา เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 10:34:02

ความคิดเห็นที่ 42 แต่ผมเห็นว่า กระทู้นี้ยังไม่ใช่เข้าข่ายการเผยแพร่การปฏิบัติ เป็นแค่เพียงแชร์ประสบการณ์การปฏิบัติมากกว่า รายละเอียดและวิธีการสอน ของท่านอาจารย์โกเอ็นก้าก็ไม่มี ต้องไปปฏิบัติเองจากที่นี่ถึงจะรู้รายละเอียด อย่าไปสนใจมากนักครับ เป็นการดีซะอีกที่จะกระตุ้นให้คนอยากไปสำหรับแนวทางนี้ จากคุณ : หนุ่มทิพย์ เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 11:16:10

ความคิดเห็นที่ 43 เห็นด้วยกับคุณหนุ่มทิพย์นะคะ เท่าที่อ่านดู ก็เป็นเพียงการเล่าสิ่งที่ทำที่นั่น เรา คนที่ยังไม่เคยไป ก็ได้รู้ว่าเค้าทำอะไรกันบ้าง ได้ยินได้ฟังมาว่า หนักอย่างนั้น อย่างนี้ จะได้ประมาณตัวเองถูกว่า สมควรจะไปหรือไม่ ความจริง จขกท. ก็คงเคยมีคำถามในใจก่อนไปปฏิบัติที่นั่นเหมือนกัน เวลาไปกลับมาแล้ว  จึงได้นำมาถ่ายทอด ให้คนที่ยังไม่เคยไปได้ทราบด้วย เป็นการตอบข้อสงสัย ที่ตัวเองเคยมี และตอบได้ตรงกับโจทย์ที่อยู่ในใจของหลาย ๆ คน ขอบคุณ จขกท. อีกครั้งนะคะ จากคุณ : โมงยามแห่งความสุข เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 14:03:15

ความคิดเห็นที่ 44 ขออภัยครับคุณกีกี๊ ผมว่าการรีวิวสถานปฏิบัติธรรมของอาจารย์รวมถึง "วิธีปฏิบัติ" ของท่าน .. ทางท่านอาจารย์โกเอ็นก้าได้บอกไว้ชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือครับ? ว่าผู้ปฏิบัติไม่ควรบอกกล่าวถึงวิธีปฏิบัติให้กับบุคคลที่ยังไม่เคยได้ไปอมรม เพราะขนาดวิธีการฝึกวิปัสนา อาจารย์ผู้สอนยังใช้เพียงแค่ "เทป" ที่ได้รับการรับรองแล้วว่าแปลโดยถูกต้อง เป็นผู้ถ่ายทอด ส่วนอาจารย์ผู้ควบคุมมีหน้าที่เพียงการสอบอารมณ์เท่านั้น เพราะวิธีปฏิบัติเป็นประสบการณ์เฉพาะบุคคล การถ่ายทอดประสบการณ์ส่วนตัวของผู้ปฏิบัติเองให้กับผู้อื่นอีกทีหนึ่ง อาจทำให้เกิดการเข้าใจที่ไม่ถูกต้องกับวิธีปฏิบัติของอาจารย์ด้วยครับ โดยความเคารพ จากคุณ : Top27 เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 14:44:48

ความคิดเห็นที่ 45 อนุโมทนาครับ ขอบคุณครับที่นำมาเล่าสู่กันฟัง ... จากคุณ : ltf06 เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 15:54:18

ความคิดเห็นที่ 46 "เพราะวิธีปฏิบัติเป็นประสบการณ์เฉพาะบุคคล การถ่ายทอดประสบการณ์ส่วนตัวของผู้ปฏิบัติเองให้กับผู้อื่นอีกทีหนึ่ง อาจทำให้เกิดการเข้าใจที่ไม่ถูกต้องกับวิธีปฏิบัติของอาจารย์ด้วยครับ ..."   แต่ผมคิดอีกแบบนึง  การปฏิบัติทุกแบบอยู่ที่ตัวผู้ปฏิบัติเองทั้งสิ้น เป็นสิ่งรู้ได้เฉพาะตนเท่านั้น ต้องปฏิบัติเองเท่านั้นถึงจะพบกับประสบการณ์  ขนาดตัวผมเอง ผลการปฏิบัติยังไม่เหมือนใครเลย    อย่าไปสนใจข้อปลีกย่อยเล็กๆน้อยๆ  แต่ควรมุ่งเน้นที่ผลการปฏิบัติดีกว่าว่าเป็นอย่างไงบ้าง  การสอนของท่านอาจารย์ก็เพียงชี้แนะแนวทางการปฏิบัติเท่านั้น ส่วนผลที่ได้อยู่ที่ตัวผู้ปฏิบัติเองทั้งสิ้น  เชิญชวนทุกท่านที่ยังไม่เคยปฏิบัติแนวทางนี้มาลองดูกันนะ จะพบกับความจริงด้วยตัวของท่านเอง   อนุโมทนา... จากคุณ : หนุ่มทิพย์ เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 19:57:46

ความคิดเห็นที่ 47 จากความเห็นที่13 "เพื่อให้เห็นภาพรวมกว้างๆของแต่ละวัน จะเขียนถึงนิดหน่อยนะคะ แต่ขั้นตอนและรายละเอียดในการปฏิบัติ ต้องมาด้วยตัวเอง เพื่อให้เป็นไปในวิธีที่ถูกต้อง และมีอาจารย์ดูแล ไม่เหมาะกับการฝึกเองค่ะ" คุณกีกี้ก็บอกแล้วไม่ใช่หรอคะ ว่าขั้นตอนและรายละเอียดต้องมาด้วยตนเอง อนุโมทนาสาธุที่มาบอกบุญด้วยคนค่ะ จากคุณ : ตาแพนด้า หน้ามารุโกะ เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 21:34:57

ความคิดเห็นที่ 48 ขอตอบคำถาม คุณ โมงยามแห่งความสุข ก่อนนะคะ ที่ไปปฏิบัติมา จะเป็นครั้งละ 1 ชั่วโมงค่ะ วันละ 3 ครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 4  ค่ะ แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ ทำได้แค่ไหน ขอให้ตั้งใจทำที่สุดก็พอค่ะ ด้วยการอธิษฐาน และความตั้งใจอันแน่วแน่ กีกี้เองก็ทำแบบสมบูรณ์ไม่ได้เหมือนกันค่ะ แต่ก็เห็นการพัฒนาขึ้นบ้าง สำหรับผู้ปฏิบัติที่มีอาการเจ็บป่วย หรือว่าไม่สะดวกนั่งบนเบาะ สามารถแจ้งขอเก้าอี้ได้นะคะ  การเคลียร์ภาระหน้าที่เพื่อไป 10 วัน นับว่าต้องอาศัยจังหวะ ช่วงเวลา ความตั้งใจจริงอย่างมาก มีผู้ร่วมปฏิบัติบางคนรับราชการ หรือทำงาน Office แต่สุดท้ายก็มาจนได้ ตัวกีกี้เองก็ผ่านมาเกือบสองปีเนื่องด้วยปัญหาส่วนตัว ยังไงขอให้ธรรมะจัดสรรได้ไปร่วมปฏิบัตินะคะ  จากคุณ : กีกี้ แรบบิท เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 22:03:26

ความคิดเห็นที่ 49 สำหรับคุณ จิตสิกขา และคุณ Top27  คิดว่าทุกศูนย์เหมือนกันค่ะ คือการ "ห้ามสอน" ผู้อื่น อาจารย์ระบุไว้ชัดเจนว่า สามารถอธิบายวิธีการปฏิบัติได้ แต่จงอย่าสอนผู้อื่น ควรแนะนำ หรือกระตุ้นให้เค้าเข้ามาปฏิบัติเพื่อเรียนรู้แนวทางและรายละเอียดที่ถูกต้องจากอาจารย์ผู้สอน  กีกี้จึงระวังตรงนี้มากค่ะดังที่เห็นในความเห็นที่ 13 อยากให้เพื่อนๆเห็นภาพรวมในการปฏิบัติมากกว่าค่ะ เนื้อหาในการเขียนถึงการปฏิบัติคิดว่าไม่ผิดจากสิ่งที่อาจารย์ได้สอน และห้ามไว้ค่ะ สำหรับการแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว เนื่องจากมีความคิดเหมือนคุณหนุุ่มทิพย์ค่ะ และให้ใช้วิจารณญาณในกาารอ่าน แต่ตรงส่วนนี้ ไม่แน่ใจว่าจะเกิดประโยชน์ หรือโทษ หรือเป็นกลาง กีกี้ขอลบตรงส่วนนี้ออกนะคะ เพื่อป้องกันผลเสียที่ "อาจ" เกิดขึ้นได้ การถ่ายภาพ กีกี้ขออนุญาตก่อนถ่ายเช่นกันค่ะ  ในระหว่างการปฏิบัติมีความรู้สึกอยากให้ผู้อื่นได้เข้ามาปฏิบัติบ้าง และได้คิดถึงเวปบอร์ดนี้ขึ้นมาค่ะ คิดว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ดีในการแนะนำเพื่อนๆ การถ่ายภาพทำในวันสุดท้ายของการฝึกค่ะ ขอบคุณสำหรับคำติค่ะ  จากคุณ : กีกี้ แรบบิท เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 22:12:50

ความคิดเห็นที่ 50 เพิ่งหัดใช้เวปบอร์ดค่ะ กดลบไปแล้ว แต่ยังไม่ลบน่ะคะ คิดว่าอาจต้องใช้ระยะเวลา ยังไงจะเข้ามาเชคให้อีกทีนะคะ จากคุณ : กีกี้ แรบบิท เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 22:18:16

ความคิดเห็นที่ 51 อ่อ การลบนั้นผู้ดูแลเว็บบอร์ดจะเป็นคนลบครับ ต้องใช้เวลา คุณกีกี้ใช้วิธีแก้ไขข้อความดีกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 09:06:19 จากคุณ : ฮิมาวาริซซัง เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 09:05:31

ความคิดเห็นที่ 52 การปฏิบัติในครั้งแรกก็มีปัญหาเรื่องอิริยาบถ อดทนต่อเหน็บชาไม่ได้ ปวดนั่นปวดนี่ อาจารย์พูดมาอย่างนึง ซึ่งเป็นจิตวิทยาสำหรับดิฉันมาก อาจารย์บอกว่า "ไม่เคยมีใครปฏิบัติธรรมแล้วตาย" แค่นี้ละค่ะ เหมือนคำท้าทายสำหรับเรามาก (คิดไม่ถูกนะคะ อย่าคิดแบบนี้ คิดว่าแรงบันดาลใจแล้วกัน) ดิฉันก็เลยท้าทายกับเหน็บชา เฝ้าพิจารณาไปว่ามันจะหายไหม แล้วสุดท้ายมันก็หายไป แล้วหายไปก็กลับมาอีก อะไรประมาณนี้ ดิฉันพิสูจน์ได้ว่าจริงค่ะ เหน็บชาไม่ได้ทำในดิฉันตายค่ะ แค่เป็นๆ หายๆ ..ปัญหาเรื่องอิริยาบทสำหรับดิฉันก็หายไปค่ะ แต่ปัญหาเรื่องจิตนี่ยังต้องฝึกอีกเยอะ ไม่ง่วง ไม่หลับ แต่มันฟุ้งค่ะ ปฏิบัติคนละที่นะคะ แต่อยากแชร์ประสบการณ์ค่ะ จากคุณ : ม่องเท่ง เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 10:27:05

ความคิดเห็นที่ 53 ขออนุโมทนาสาธุครับ. อ่านและฟังธรรมนั้นว่ายาก แต่การปฎิบัติแล้วได้ผลนั้นยากยิ่งนัก คนที่ตั้งใจไปปฎิบัติธรรมแม้จะไปเพียงชั่วคราว ถ้าได้มีความตั้งใจดี ก็คือมีฉันทะ มีความเพียร แล้วย่อมได้ผลไม่มากก็น้อยครับ สาธุ จากคุณ : สายลมแสงแดด เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 21:38:21

ความคิดเห็นที่ 54 อนุโมทนา สาธุค่ะ จากคุณ : Little Junior เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 18:58:23

ความคิดเห็นที่ 55 อนุโมทนาสาธุค่ะ เคยไปมาแล้วครั้งนึง อีกครั้งก็ไปแบบวันเดียว  รู้สึกดีมากๆค่ะ จะหาโอกาสไปอีก จากคุณ : westie (westie) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 21:07:43

ความคิดเห็นที่ 56 แก้ไขแล้วค่ะ ^-^ ง่ายกว่าจริง จากคุณ : กีกี้ แรบบิท เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 22:08:37