|
ถึงกระนั้น พระพุทธเจ้าได้ตรัสเตือนมนุษยชาติก่อนปรินิพพาน (ตาย) ว่า “สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมสูญไปเป็นธรรมดา ขอท่านทั้งหลายจงดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาทเถิด” ความจริงคือ เราเองก็ไม่ทราบว่า เมื่อใดเราจะเดินทางไปสู่ความเสื่อม หรือจุดจบของชีวิต ด้วยเหตุนี้ เราจึงควรนำ "จุดจบของชีวิต" มาพัฒนาให้เป็น "จุดเริ่มต้นของชีวิต" โดยการเตือนตัวเองตามที่พระองค์จึงเตือนเราไว้ในภัทเทกรัตตคาถาว่า "ความเพียรเป็นสิ่งที่ต้องรีบทำตั้งแต่วันนี้ (หรือแม้กระทั่งในทุกวินาทีของลมหายใจ), ใครเล่าจะรู้ว่า เราอาจจะตายในวันพรุ่งนี้ก็ได้"
คำเตือนดังกล่าวได้ส่งต่อมาถึงสตีพ จอบส์จนทำให้เขาได้ตกผลึก และรับรู้บทเรียนที่ทรงคุณค่าเกี่ยวกับ “ความตาย” จนเป็นที่มาของประโยคทองที่ว่า “คุณ มีเวลาจำกัด ดังนั้นอย่าเสียเวลาไปกับการใช้ชีวิตแบบคนอื่น อย่าตกหลุมลัทธิความเชื่อที่ว่าต้องใช้ชีวิตอย่างที่ผู้คนเขาคิดกันว่าควรจะ เป็น อย่าปล่อยให้ความคิดของคนอื่นเข้ามารบกวนเสียงจากใจของคุณ (Inner Voice) และที่สำคัญที่สุด คุณต้องมีความกล้าที่จะทำตามหัวใจและการหยั่งรู้ (Intuition) ของคุณ ที่จะช่วยให้คุณบรรลุสิ่งที่คุณต้องการจะเป็นจริงๆ แล้วก็ปล่อยให้เรื่องอื่นๆ นั้นเป็นเรื่องรองไป” และเพื่อให้บรรลุความฝันและแรงบันดาลใจดังกล่าว "จงกระหายที่จะเรียนรู้ และจงทำตนเหมือนคนโง่" (Stay Hungry, Stay Foolish ) จะเห็นว่า การมีสติระลึกถึงความตายทุกวินาทีแห่งลมหายใจนั้น จะทำให้มนุษย์ตื่นรู้ ใส่ใจ และเพียรสร้างสิ่งต่างๆ ทำสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความดี ความงาม และความสุข รวมไปถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เอาไว้เป็น "ธรรมเจดีย์" แก่ชีวิตและโลกของเรา ที่มา : ผศ.ดร.พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการ, ผอ.สำนักงานสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ, ผู้อำนวยการสถาบันภาษา มหาจุฬาฯ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย www.mcu.ac.th/site/articlecontent_desc.php?article_id=1202&menutype=1&articlegroup_id=187
จากคุณ |
:
Mr.Terran
|
เขียนเมื่อ |
:
12 มิ.ย. 54 20:08:02
|
|
|
|
|