ขณะที่โลกุตตรจิตเกิดขึ้นนั้น (ขณะที่บรรลุมรรคผล) วิรตีเจตสิกทั้ง ๓ ดวงเกิดขึ้นพร้อมกัน
โดยทำกิจวิรัติ(ทำหน้าที่งดเว้น)ทุจริตเป็นสมุจเฉทตามขั้นของโลกุตตรจิตนั้นๆ
เมื่อบรรลุอรหัตตผลแล้ว วิรตีเจตสิกไม่เกิดกับมหากิริยาจิต(จิตของพระอรหันต์)
เพราะเมื่อพระอรหันต์ดับกิเลสทุกประเภทเป็นสมุจเฉทแล้ว วิรตีเจตสิกไม่เกิดขึ้นวิรัติ(งดเว้น)ทุจริตใดๆ อีกต่อไปแล้ว คือท่านพ้นจากทุจริตใดๆทั้งทางกาย ทางวาจา ทางใจแล้ว ท่านทำสิ่งใดก็ไม่มีอกุศลเป็นมูล ทำสิ่งใดๆก็สักแต่ว่าเป็นกิริยา ไม่เป็นกรรม ปราศจากเจตนาทุจริต
วิรตีเจตสิก เป็นเจตสิกที่เกิดขึ้นทำกิจวิรัติทุจริต มี ๓ ดวง คือ
๑. สัมมาวาจาเจตสิก เป็นเจตสิกที่เกิดขึ้นทำกิจวิรัติวจีทุจริต ๔ คือ
มุสาวาท ปิสุณวาจา ผรุสวาท สัมผัปปลาปวาจา ขณะใดที่ไม่ล่วงวจีทุจริต
ขณะนั้นสัมมาวาจาเจตสิกเกิดขึ้นวิรัติวจีทุจริตประเภทนั้นๆ
๒. สัมมาักัมมันตเจตสิก เป็นเจตสิกที่เกิดขึ้น วิรัติกายทุจริต ๓ คือ
ปาณาติบาต อทินนาทาน กาเมสุมิจฉาจาร ขณะใดที่เว้นกายทุจริต ๓
ขณะนั้นสัมมากัมมันตเจตสิกเกิดขึ้นทำกิจวิรัติกายทุจริตนั้นๆ
๓. สัมมาอาชีวเจตสิก เป็นเจตสิกที่เกิดขึ้น วิรัติกายทุจริต ๓ และ
วจีทุจริต ๔ ซึ่งเป็นมิจฉาชีพ ขณะใดที่ละเว้นมิจฉาชีพ
ขณะนั้นสัมมาอาชีวเจตสิกเกิดขึ้นทำกิจวิรัติมิจฉาชีพนั้นๆ
แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 14:02:57
แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 14:00:22