ความคิดเห็นที่ 1 ผมถือศาสนาคริสต์ นิกายคาทอลิกครับ โดยส่วนตัว ผมเชื่อว่าศาสนาทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดีของสังคม ตามความเชื่อของคนคริสต์ ศาสนาอื่น ๆ ก็ทำให้คนเป็นคนดีได้เช่นกัน ดังนั้น คนที่ไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์ ไม่ใชว่าพระเจ้าจะลงโทษเค้า หรือ ทำร้ายเค้าครับ เพราะพระองค์ทรงเป็นองค์ความรักและองค์ความเมตตา รวมทั้งไม่มีพฤติกรรมในการดูหมิ่นศาสนาอื่น ๆ ด้วยครับ เพราะว่าการทำไม่ดีหรือไม่ควรแบบนั้น จะยิ่งทำให้พระเจ้าเป็นที่น่ารังเกียจของศาสนาอื่นครับ แต่ว่าทั้งนี้ แล้วแต่บุคคล และ การได้รับความเชื่อจากบุคคลที่สอนเค้าครับ ผมขอแนะนำว่า ตอนนี้ คุณน่าจะพูดกับน้องชายคุณดี ๆ โดยบอกให้เค้ายอมรับและเคารพศาสนาอื่นด้วย อย่าคิดว่าศาสนาอื่นใดผิดหมด ถ้าไม่ฟัง คุณอาจจะต้องยอมต่อต้านน้องบ้างนะครับ ยังไงก็ตาม อย่าได้เหมารวมคนคริสต์ทุกคนว่าเหมือนกันหมดนะครับ เพราะโดยหลัก ๆ แล้ว พระเจ้าสอนให้เรารักเพื่อนมนุษย์ทุกคน (ทุกศาสนา) อยู่แล้วครับ จากคุณ : Batholomew เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 12:54:11

ความคิดเห็นที่ 2 แม่ขอตั้งหิ้งพระเหนือเตียงนอนผม ผมยังไม่ว่าเลย บ้านแม่นี่หว่า ผมยังแซวแม่เล่นเลย ช่วงไหนอากาศร้อนก็แซวว่านอนไม่ค่อยหลับโดนรัศมีเหนือเตียงเข้าต้องรีบเผ่นไปเปิดแอร์นอน โดนแม่เขกหัวพูดว่าจะหาข้ออ้างเปิดแอร์หรอ ก็บอกว่าแสงรัศมีแดดเหนือเตียงไง โดนเขกไปอีกหนึ่งทเพราะกะล่อนเก่ง ตอนแม่ชวนเข้าวัดก็แกล้งทำเป็นร้อน 555 แม่บอกว่าเป็นผีหรือไงถึงร้อนเข้าวัดไม่ได้ ก็เลยยิงมุขใส่ว่า ร้อนน่ะ คือร้อนรุ่มหัวใจ เข้าก็ไปนั่งสำรวมพอไม่ต้องไปไหว้พระก็ได้ ตอนสวดมนต์ก็สำรวมไว้ ตอนโปรยน้ำมนต์ผมยังแซวแม่ต่อเลยว่าโดนน้ำมนต์เข้า ร้อนสุดๆเลย คนข้างๆฮาใหญ่เลย ตอนนี้ที่บ้านใหม่แม่ขอตั้งหิ้งห้องตัวเอง ประสบการณ์ผมนะ แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 54 13:28:18 จากคุณ : Sheckler เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 13:25:08

ความคิดเห็นที่ 3 ผมเป็นคริสต์คนเดียวในบ้าน แต่เชื่อไหมล่ะ แม่สนิทกับผมมากที่สุด เพราะผมชอบเล่นกับแม่ แม่บอกว่าถ้าผมเป็นะไรไปแม่ก็อยู่ไม่ได้ แล้วผมถามว่าแล้วถ้าพี่น้องคนอื่นล่ะ แม่บอกว่าเขาโตกันหมดแล้ว ไม่ค่อยมาพูดกับแม่ มีชีวิตส่วนตัวกันเยอะ หลายคนพอรู้ว่าผมเป็นคริสต์คนเดียวในบ้านคงคิดว่า อยู่โดดเดียว อันนี้แค่ช่วงแรกๆบ้านแทบแตก แต่หลังๆไม่เลย ความเชื่อใครก็ของมันไม่ก้าวก่ายกัน จากคุณ : Sheckler เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 13:35:07

ความคิดเห็นที่ 4 เคยเจอ ครอบครัว ที่พ่อเป็นคาทอลิก แล้วแม่เป็นพุทธไหม เพื่อนผมบวชพระ  แล้วตอนเข้าไปเยี่ยมบ้าน คุณพ่อเค้ายังไหว้พระลูกชายเลย (เห็นแล้ว โคตรงดงามเลย) แล้วที่บ้าน ก็มีหิ้งพระ  แล้วก็หิ้งบรรพบุรุษ  ที่ยังมีกล้วยไหว้อยู่เลย เรื่องพวกนี้ มองในมุม ที่มันเป็นสุนทรียะ คนโบราณ เค้ามีความฉลาดทางจิตวิญญาณ พอเราได้รู้แนวคิดอะไร ก็จะไปหักล้างซะแล้ว เป็นปัญหาที่ตัวบุคคล ซะมากกว่าครับ ผมเชื่อว่า คาทอลิก มีหลักต่างจาก แนวคิดของน้องชายที่คุณว่านะครับ แล้วก็ใจกว้างพอ ที่จะทำความเข้าใจกับผู้อื่นด้วยความเมตตา (หากไม่ตรง ขอช่วยบอกด้วยครับ) จากคุณ : หน้ากาก ธรรมะ เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 14:13:17

ความคิดเห็นที่ 5 ศาสนาคริสต์มีข้อปฏิบัติที่สำคัญที่สุด 2 ข้อใหญ่ๆครับ  คือ 1. จงรักพระเจ้าอย่างสุดใจสุดจิต  ซึ่งน้องซายคุณจขกหกำลังทำอยู่ครับ  แต่ในการรักพระเจ้านั้นต้องเป็นการสรรเสริญพระสิริของพระองค์ด้วย  ซึ่งอันนี้น้องซายคุณจขกหทำไม่ถูกวิธีครับ  ซึ่งพระเจ้าคงไม่ยินดีแน่ๆ 2. จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง  อันนี้ที่น้องชายคุณจขกททำไปก็เป็นเพราะรักทุกคน  อยากให้ทุกคนพบความจริงและได้ขึ้นสวรรค์  เพราะกฏข้อหนึ่งของบัญญัติ 10 ประการของศาสนาคริสต์  ก็คืออย่ากราบไหว้รูปเคารพ อยากสอบถามนิดหนึ่งครับ  น้องซายคุณจขกทเปลี่ยนศาสนานานหรือยังครับ จากคุณ : ScubaBall เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 14:26:50

ความคิดเห็นที่ 6 ปัญหาความไม่เข้าใจกันระหว่างคนใกล้ชิด เนื่องจากศาสนา ก็ควรที่เราจะยอมรับฟังซึ่งกันและกัน หากจะถือทิฐิต่อกันย่อมมีแต่ความขัดแย้ง ตัวคุณเองอยากจะแก้ไขความขัดแย้ง น่าจะลองนำน้องคนทั้งสองคนมานั่งคุยกัน หากแต่ตัวคุณเองต้องทำตัวเป็นกลางไม่แสดงความคิดเห็นเข้าข้างว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ... ไม่เช่นนั้นปัญหาความไม่ลงลอยกันก็จะไม่จบสิ้น 1.ลองปลอบใจน้องชายว่าศาสนาคริสต์ สอนว่า บิดามารดาไม่แบกรับความผิดบาปของบุตร และบุตรไม่แบกรับความผิดบาปของบิดามารดา การที่คุณแม่จากไปก่อน แม้เขาตั้งใจดีที่จะช่วยจิตวิญญาณของคุณแม่ แต่เป็นด้วยความผิดบาปเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล ปลอบใจเขาให้เข้าใจว่าตัวเองได้พยายามแล้ว 2.ลองคุยน้องสาวให้เข้าใจว่า เพราะศาสนาคริสต์ ของน้องชาย ถือว่าของบูชาทุกอย่าง เป็นที่สิ่งน่ารังเกียจในสายพระเนตรของพระเจ้า แล้วปลอบใจน้องสาวดูว่า ศาสนาของคุณเองแท้จริงไม่มีเครื่องบูชาประเภทนี้ แต่ให้ยึดคำสอน... (พระรัตนไตรคืออะไรบ้างผมจะไม่กล่าว เพราะไม่สมควรกล่าว)   3.ลองเปลี่ยนจากความถือทิฐิในศาสนา มาเป็นการแบ่งบันความรู้ของแต่ละศาสนาว่าด้วยเรื่อง ...ศาสนาล้วนต้องการสันติสุข ... ความสุขสงบ ...   ส่วนใครจะมีความเชื่ออย่างไร ส่วนตัวผมความจริงปรากฏแจ้งอยู่ในใจผมแล้ว ก็ขอให้เป็นตามแต่...น้ำพระทัยของพระเจ้า... อาเมน จากคุณ : คริสต์ (christ_kit) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 16:39:44

ความคิดเห็นที่ 7 ครับ ค่อยๆคุยกันครับ  เรื่องความเชื่อนั้นเป็นเรื่องส่วนตัว  บอกกับน้องชายว่าอย่าเอามาพัวพันกับเรื่องครอบครัว  หากอยู่บ้านด้วยกัน  เดิมบ้านคงมีพระพุทธรูปอยู่แล้ว  น้องชายไม่ควรไปแตะต้องสิ่งที่ยังมีเจ้าของ  เว้นแต่บ้านนี้คุณยกให้น้องชาย  คุณก็ควรจัดการย้ายเข้าของที่น้องชายไม่ชอบเสียก่อนที่น้องชายเขาจะทำ  ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องที่บานปลาย  อย่างไรเสียก็เป็นพี่น้องกัน  การกระทำของฝ่ายไหนว่าจะบาปไม่บาปไม่ใช่ทางแก้ปัญหา  หากน้องเขาจำเป็นต้องอยู่อาศัยบ้านนี้ ควรตกลงกันน่าจะคุยกันได้  ถ้าเห็นว่าคุยกันไม่ได้  ควรเข้าหาผู้ใหญ่ของคริสจักรช่วยดำเนินการ คิดว่าทางคริสตจักรคงช่วยแก้ไขเรื่องดังกล่าวได้ครับ      บรรพบุรุษผมไหว้เจ้าเคร่งครัดในขนบธรรมเนียมจีน  ผมเชื่อพระเจ้าตอนหาเงินเองได้แล้ว  ตอนรับเชื่อทางบ้านก็ต่อต้านและตัดผมออกจากตระกูล  น้องชายถีบผมตกจากเตียงฐานเปลี่ยนความเชื่อ  แต่คุณทราบไหม ทั้งคุณพ่อคุณแม่ท่านได้นอนพักผ่อนตามแบบคริสต์  งานพิธีเรียบง่าย  ประหยัด  ร่างของท่าน ไม่ต้องถูกเปลี่ยนให้เป็นเถ้าเพื่อนำไปลอยทิ้ง  มีโอกาสก็แวะไปเยี่ยมท่านได้ทุกเมื่อ   ผมตอบแทนคุณท่านทั้งสองตามประเพณีจีน  ตอนท่านมีชีวิตดูแลท่านให้ถึงที่สุด   ตอนท่านเสียก็ยังไม่ทิ้งท่านครับ   จากคุณ : SURAWISH เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 16:48:28

ความคิดเห็นที่ 8 พี่สาวดิฉันก็เป็นคนที่ถือคริสต์ เปิดเพลงพระเจ้าเต็มบ้าน กะว่าตัวเองอยู่ไหนให้ได้ยินตลอด แต่คนอื่นถือพุทธสวดมนต์ห้องนอน บังเอิญได้ยิน(เดินมาตากผ้า) ทำเสียงดังสารพัดกวดสมาธิ พี่น้องคนอื่นพูดคุยเรื่องวัดไม่ได้เลยโมโหตลอด ทั้งที่แยกมาคุยห่างๆ แล้ว ทำให้พวกเรามองพระเจ้าของคริสต์เว่อร์เกินไปมั้ย ยิ่งใหญ่เกินไปมั้ย พี่น้องในบ้านไม่เอา แต่พี่น้องในโบสถ์ยิ่งกว่าบรรพบุรุษ  ที่เล่าแค่ 5 % ของปัญหานะ พวกเราส่วนใหญ่อดทนเงียบ ยอม มาตลอดเพื่อความสงบในบ้าน จากคุณ : Nay_nan เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 19:09:06

ความคิดเห็นที่ 9 . น้องชายคุณกำลังหลงทางครับ เข้าไปถามน้องชายคุณเลยครับ ว่า เป็นคริสต์นิกายไหน เข้าโบถส์ไหน ที่ไหน อย่างไร สอนอย่างไร ทำไม สอนแบบนี้ พวกนี้ทำเสื่อมเสียครับ คริสต์ ก็มีหลายนิกาย หรือ พวกนี้พูดเป็นอยู่คือ ต้องเชื่อในพระเจ้า พระเจ้า พระเจ้าา  พระเจ้า ถามว่าพระเจ้าคือ ใคร ไม่รู้หรอก ถามว่าจะรู้ได้ยัง ก็บอกว่าต้องเชื่อในพระเจ้า ต้องเชื่อ ต้องเชื่อ เท่านั้น แค่นี้ อีกหน่อยเขาก็ได้สติเองแหละครับ คริสเตียน กินเหล้าแบบนี้ บ้าไปแล้ว จนผมเจอ คนหนึ่งว่า คริสเตียนเฮงซวย พาลูกเขาไปกินเหล้าจนเมาแล้วขับรถล้ม เหอะ ส่วนผมคริสต์วิสุทธิชนยุคสุดท้าย ครับ ดูกันดีๆ ก็แล้วกันครับ . จากคุณ : Oasis (Thai_DeSeRT) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 20:34:13

ความคิดเห็นที่ 10 . พระผู้เป็นเจ้าให้เสรีภาพ แก่คุณ คุณเองยังมีเสรีภาพเลย แล้วทำไม คุณกับ ไม่ให้เสรีภาพแก่คนอื่น พวกนี้ ไม่ไหวจริงๆ เข้าไปถามเขาเลยครับ จริง ข้อนี้สำคัญมากในศาสนาจักรฯ 11. เรา​อ้างเอกสิทธิ์​แห่ง​การ​นมัสการ​พระผู้เป็นเจ้า​ผู้ทรง​ฤทธา​นุ​ภาพ ​ตาม​การ​วินิจฉัย​จากมโนธรรม​ของ​เรา​เอง, และ​ยอม ​ให้​มนุษย์​ทั้งปวง​มี​เอกสิทธิ์​เช่น​เดียวกัน, ให้​พวก​เขานมัสการโดย​วิธี​ใด, ณ สถาน​ที่​ใด, หรือ​สิ่ง​ใด​ก็ได้​ที่​พวก​เขา​จะ​นมัสการ. . จากคุณ : Oasis (Thai_DeSeRT) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 20:41:09

ความคิดเห็นที่ 11 . อ่อ ขอเล่าประสบการณ์ ส่วนตัวหน่อยนะ งานศพ ของพ่อและแม่ผม นี้ เพราะมีบางคนในครอบครัวก็นับถือพุทธ งานศพ ก็จัดแบบสองแบบเลยครับ พระสวดเสร็จ คริสต์ก็ทำพิธีต่อ ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยครับ คนที่มาร่วมงาน ชาวบ้าน ใกล้บ้านเรือนเคียงกัน ก็บอกว่าดีนะ ลูกๆ รักพ่อและรักแม่มาก ที่ลูกหลานได้มาช่วยกันจัดงานให้ และความตายก็ไม่ใช่จุดสิ้นสุด - * - ขอพลังแห่งความดีงามจงอยู่กับท่านทั้งหลาย . จากคุณ : Oasis (Thai_DeSeRT) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 20:54:58

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ  ป้าติ๊กป้อมยาม312  ครับ ผมว่าที่ผม รู้จัก คริสต์ ทั้งสามนิกายหลัก ผม ขอฟันธงเลยละกัน ว่า น้องชายคุณ เป็น  คริสเตียน หรือ นิกาย โปรแตสแตน นะครับ  แต่ไม่ใช่คริสเตียนทั้งหมดที่เป็นแบบนั้นนะครับ แต่จะเป็น เฉพาะ บางโบสถ์ เท่านั้น ยกตัวอย่าก็ คริสตจักรความหวังฯ  นะครับ ลักษณะการสอน ของเขา เป็นแบบนั้นละครับ แต่การ ไม่ยอมให้มีหิ้งพระในบ้าน ให้รื้อทิ้ง และออกแนวดูถูกศาสนาอื่น นี่ผมก็ว่าเกินไปนะครับ พระเจ้า ไม่ได้ให้เราไหว้พระอื่น แต่ก็ไม่ได้หมายถึงให้เราลบหลู่ ดูถูกศาสนาอื่น จนพี่น้องศาสนิกอื่นต้องผิดใจกับเรา  ส่วนของคาทอลิกเรานั้น ถ้าจะให้ไปไหว พระพุทธรูป เราก็ขอบอกว่า ก็ต้องห้ามเหมือนกันนะครับ แต่เราก็ถือว่า ความศรัทธาของคนอื่นเราไปบังคับไม่ได้ เมื่อผู้ที่อยู่ร่วมบ้านเดียวกับเราไหว้พระพุทธรูป เราก็ไม่ไหว้ ก็เท่านั้นแต่เราก็ไม่ก้าวก่ายความเชื่อกัน คาทอลิก เรา ถ้าอยู่กันเป็นครอบครัว แม้มีคนพุทธอยู่ด้วย เราก็อยู่ร่วมกันได้  ดัง เช่น  มีคุณพ่อ ที่เพิ่ง บวช ใหม่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา บิดา ของคุณพ่อ ท่านยังเป็นพระสงฆ์พุทธอยู่เลย ครับ เนี่ย เอารูปมาให้ดูละกัน นะครับ จากคุณ : orapronobis (orapronobis) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:50:51

ความคิดเห็นที่ 13 บ้านผมฝั่งพ่อเป็นคาทอลิก ฝั่งแม่เป็นพุทธ ผมก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรกับการอยู่ร่วมกับชาวบ้าน ผมศึกษาศาสนาพุทธในฐานะปรัชญาที่ละเอียดลึกซึ้ง แต่กลับชอบคำสอนเรื่องความรักมากกว่า การที่เราจะได้รับเกียรติ เราก็ต้องให้เกียรติเขาก่อนครับ ทำอย่างนี้คนอื่นเขาก็มองพระเป็นเจ้าว่าใจแคบ โหดร้าย ขี้อิจฉากันพอดี แล้วจะอยู่กับใครได้ครับ ในเมื่อทั้งบ้านเหลือแค่ไม้กางเขนกับคริสตชนที่ขาดความรัก พระเจ้าท่านไม่ประทับอยู่บนไม้กางเขนหรอกครับ จากคุณ : ปลาทองสยองเมือง เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:22:53

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณมากค่ะ  สำหรับทุกๆคำตอบ      น้องชายเพิ่งเปลี่ยนศาสนาเป็นคริสเตียน  ได้ไม่ถึงปี      เป็นคนไม่ยอมฟังใคร    ไม่มีเหตุผล   เชื่อในความเชื่อของตัวเอง    ที่เป็นห่วงสุดตอนนี้ก็คือ    น้องชายสุขภาพไม่ดี  มีหลายโรค  แต่ไม่ยอมไปหาหมอ   บอกแต่ว่า    พระเจ้าจะรักษาเค้าให้หายได้     พูดให้ไปหาหมอ  ก็ไม่ยอมฟัง  จนอ่อนใจ   ปรกติเมื่อคุณแม่มีชีวิตอยู่     จะดูเเลต้มยาให้ทาน    เป็นทุกอย่างให้   เพราะคุณเเม่รักเค้ามาก     เมื่อขาดแม่ชีวิตก็คงไร้หลักเกาะ     แต่พี่น้องทุกคนก็ช่วยกันดูเเลแทนแม่    เท่าที่จะทำได้    อยากหาทางออกที่ดีที่สุด    ให้น้องทุกคนค่ะ     เพื่อคุณแม่จะได้ไปสู่สุขติ    โดยไม่มีห่วงค่ะ จากคุณ : ป้าติ๊กป้อมยาม312 เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:26:25

ความคิดเห็นที่ 15 พอเข้าใจเลยครับ  ครั้งหนึ่งก็มีนิสัยคล้ายๆน้องคุณป้าติ๊กป้อมยาม312เหมือนกัน  เนื่องจากเขาพึ่งเปลี่ยนศาสนาไม่นาน  แสดงว่ายังอยู่ในช่วงต้องเติบโตทางจิตวิญญาณ  และยังอาจหลงทางในบางเรื่อง   ถ้าไปพูดกับเขาเองตอนนี้ก็คงจะมีแต่ทะเลาะกันเป็นส่วนใหญ่  ขอแนะนำให้ขอหาคนรู้จักที่เป็นคริสที่ค่อนข้างเติบโตแล้ว  มาฟังปัญหาและไปพูดคุยกับเขาดูครับ   หรือลองไปที่คริสตจักรของน้องคุณป้าติ๊กป้อมยาม312  และปรึกษากับศิษยาภิบาลดูครับ  อันนี้ค่อนข้างแน่ใจว่าช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ครับ จากคุณ : ScubaBall เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 00:17:00

ความคิดเห็นที่ 16 เหตุการณ์ที่เกิดกับเจ้าของกระทู้ นั้น ปัญหานี้ต้องให้พี่เลี้ยงทางวิญญาณทางคริสต์ช่วยให้แนะครับ ให้พี่เลี้ยงทางวิญญาณคุยกับเขาตรงๆและวิธีการดำเนินชีวิต ยกตัวอย่างครับ ผมยกเหตุการณ์ในพระคัมภีร์ 1)ทำไม ชาวอิสราเอลถึงต้องไปอียิปต์ 2)ทำไม กษัตริย์ดาวิดหลบหนีกษัตริย์ซาอูล ไปอยู่กับพวกฟิลิสเตีบ 3)ทำไม พระเยซูช่วงตอนเป็นเด็กถึงมีชีวิตอยู่ในอียิปต์ ซึ่งถ้าดูในพระคัมภีร์แล้ว ในบัญญัติของGod จะเกิดคำถามมากมายครับ และสิ่งที่ผมเขียนนี้ไม่ได้เป็นข้ออ้างในการละเมิดกฏพระเจ้าน๊ะครับ เพราะยังมีอีกหลายเงื่อนไขในการเรียนรู้และเติบโตในหนทางพระเจ้าครับ แต่การแก้ปัญหานั้น จะใช้ความเห็น 1),2),3) สรุปว่าเป็นการแก้ปัญหาตายตัวไม่ได้ครับและถ้าใช้แบบตายตัวอันตรายมากครับ เพราะยังมีเงื่อนไขอีกหลายอย่างซึ่งแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกันครับ เรื่องแบบนี้แก้ได้ครับ โดยพี่เลี้ยงทางวิญญาณทางคริสต์เก่งๆครับ สรุปว่า ผู้เชื่อพระเจ้า พระเยซูคริสต มีหนทางแสดงวิถีของสันติ และ เติบโตในหนทางของGodครับ แต่ต้องพี่เลี้ยงทางวิญญาณที่มีของประทานเท่านั้นครับ แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 54 12:37:56 จากคุณ : Chukiet_pr เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 19:22:36

ความคิดเห็นที่ 17 คห.12 เป็นเพื่อนกะบร.1 ชิมิคะ จากคุณ : proflex เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 15:59:24

ความคิดเห็นที่ 18 เพิ่งจะเห็นกระทู้นี้นะครับ ประการแรกบอกก่อนว่า เมื่อตอนที่คุณพ่อของผมเสีย ผมก็มิมีส่วนประกอบพิธีใดๆในทางพุทธศาสนา ซึ่งผมอาจจะโชคดีนิดที่ทางครอบครัวและพี่ๆเข้าใจ ถ้าคุณแม่จะให้ผมทำอะไร ท่านก็จะถามก่อนว่า ทำได้ไหม ? สิ่งที่น้องชายคุณทำ เป็นสิ่งที่เค้าได้อ่านในพระคัมภีร์(หมายถึงการต่อต้านรูปเคารพ) ซึ่งปัญหาคือการนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน คือในความเป็นจริงนั้น เราต้องเคารพในความเชื่อของคนอื่นๆด้วย ถ้าน้องชายซื้อบ้าน และบ้านเป็นของเขา เขาอยากจะทำอะไรก็เป็นเรื่องของเขา แต่การอยู่ร่วมกับคนในสังคม มีสิ่งที่เราต้องยอมรับหลายๆเรื่อง ขอให้บอกน้องชายคุณว่า ถ้าน้องชายของคุณคิดว่า รูปเคารพเป็นเพียงดินและหิน มันก็เป็นแค่ดินและหิน ก็ขอให้ขออย่าไปใส่มัน กันก็แค่นั้น เมื่อคุณแม่ของผมมาพักอยู่กับผม ท่านก็ขนพระเครื่องของท่านมาด้วย ท่านอยากจะทำอะไร มันก็เรื่องความเชื่อของท่าน เราคงไปห้ามไม่ได้ (กฎข้อหนึ่งของผมคือ ต้องเชื่อฟังพระเจ้า กฎข้อสองของผมคือ พระเจ้าสั่งให้ต้องผมเชื่อฟังพ่อแม่) ท่านอยากจะสวดมนต์ อยากตักบาตร ผมก็ยินดีจะช่วยเหลือตามสมควร แต่เวลาท่านไม่สบายใจ ผมก็บอกว่าผมจะอธิษฐานเผื่อ... ผมเชื่อว่า คต. เราถูกเลือกเพื่อให้อยู่ในโลก(สังคม) เพื่อเป็นแบบอย่าง เพื่อเล่าความจริง เพื่อสำแดงความรักของพระเจ้า เพื่อรักคนที่ไม่น่ารักให้ได้ ต่อคนในครอบครัว ถ้าเรายังไม่สามารถจะรักได้ และจะรักคนอื่นๆได้อย่างไร อยากฝากข้อความเหล่านี้ไปหาน้องชายของเจ้าของกระทู้ครับ สิ่งที่สำคัญบอกเขาว่า สำหรับศาสนาพุทธแล้ว กับคนที่ตายไปแล้ว พวกเขาสามารถทำบุญ อุทิศส่วนกุศลไปให้ได้ แต่สำหรับคริสเตียนแล้ว สำหรับ่คนที่ตายไปแล้วเราจะทำอะไรไม่ได้เลย ฉะนั้นให้เร่งทำความดีต่อคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ขอพระเจ้าอวยพระพร ในความรักของพระเยซูคริสต์ จากคุณ : เกลือจืด เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 11:17:35