ความคิดเห็นที่ 1 อันอื่นไม่รู้ แต่ว่าของสวนสันติธรรม เราว่ามัน work สำหรับเราอ่ะ แต่ว่าพอได้ยินคนอื่นด่ามากๆเข้าใจเราก็เอนเอียงหมดศรัทธา ปฎิบัติอะไรไม่ได้อีกเลย ฮ่าๆๆ จากคุณ : n-OO//bit-a เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 00:42:45

ความคิดเห็นที่ 2 ท่านก็ควรหันมาพิจารณาบ้างเถิด ลดความยึดมั่นถือมั่นลง มองให้แยบคายด้วยใจเป็นกลาง                                            ประโยชน์ไม่ได้เกิดแก่ใคร แต่เกิดแก่ตัวท่านเอง จากคุณ : P2wichai เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 00:48:30

ความคิดเห็นที่ 3 ............ผมเพิ่งจะรู้จักวัดนาป่าพง จากปัญหากรณีตัดปาฏิโมกข์ 227 ข้อ เหลือ 150 ข้อ พอลองดูคำสอนของพระอาจารย์คึกฤทธิ์พบว่า แนวทางการศึกษาและปฎิบัติตามพุทธวัจนโดยตรง ก็เป็นวิธีที่ดี เพราะจะทำให้ไม่หลง ใส่ความคิดตัวเองเข้าไป ส่วนบรรยากาศวัด (เท่าที่เห็นจากรูป) เหมาะจะเป็นวัดที่ใช้ปฏิบัติธรรมจริงๆ ดูเรียบง่าย(แบบสวนโมกข์) สมควรจะเป็นวัดมากกว่า วัดอื่นๆ ที่สร้างอย่างสวยงาม สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ           ส่วนกรณีตัดปาฏิโมกข์เหลือ 150 ข้อ ใน 77 ข้อ ที่ตัดออกไปส่วนใหญ่เป็นวินัยเพื่อความสำรวม ไม่สมควรตัดแน่นอน แต่ข้อสังเกตุคือ การไม่สวด ก็ไม่ได้หมายความว่าท่านจะไม่รักษาวินัยนะครับ ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร              คุณเห็นเปลือกที่เสียหาย แต่แก่นอาจจะสมบูรณ์ก็ได้              หลักสำคัญของพุทธศาสนาคือการสวดปาฏิโมกข์ หรือ การปฏิบัติให้ได้ตามนั้นกันแน่            เวลาจะตัดสินใครขอให้พิจารณาลึกลงไปถึงแก่นก่อนนะครับ จากคุณ : ชนาธิป - พุทธแท้ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 01:20:21

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าใช้หลักการ คนจำนวนมากทักนี่ สงสัย บ้านเมืองเราจะต้องหันมาฟัง พุทธ-พราหมณ์แล้วล่ะครับ เยอะมัก :D ปล.ไม่ต้องโยนให้ผมเป็นฝั่ง 150 นะครับ ผมยังเชียร์ 227 อยู่แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ เชียร์ระบบพิจารณา ให้เป็นไปตามอะไรๆที่ชาวพุทธ(ตามความคิดผม)  พึ่งจะเป้น จากคุณ : Panda-baker เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 02:51:41

ความคิดเห็นที่ 5 ด้วยคำสอนที่ว่าให้ >>>ปฎิบัติตามพุทธวัจนโดยตรง<<< นั้นทำให้มีหลายคนไม่ยอม ที่จะสวดมนต์พาหุง-มหากา หรือ ชินบัญชร โดยอ้างว่าบทสวดมนต์นี้แต่งใหม่ ไม่ใช่คำสอนตามพุทธวัจนโดยตรง อันนี้ทำให้ผมล่ะอึ้งกิมกี่ไปเลยครับท่าน จึงไม่ทราบว่าพระอาจารย์คึกฤทธ์ไม่ให้สวด หรือว่าลูกศิษย์คิดเอาเอง จากคุณ : TGDEV เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 04:22:17

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่มี ท่านพุทธทาส รึ ท่านเจ้าของกระทู้ (แซว) (ถ้าจะว่ายังงั้น อิ อิ) แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 54 06:31:36 จากคุณ : ปัญญาประดิษฐ์ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 06:30:59

ความคิดเห็นที่ 8 คห 5 ผม สงสัย ครับ ท่อง ชินบัญชร ทำไม ครับ ถ้า ไม่ท่อง แล้ว ไปท่อง อานาปานสติสูตร หละครับ จะไม่ดีกว่า หรือครับ ถ้า ดีกว่า ผมว่าน่าจะเลิก นี่ แล้วไปท่อง อานาปานสติสูตร ไม่ดีกว่าหรือครับ --------- ไม่ได้ว่า ไม่ดี นะครับ แต่ ประเด็น เรื่อง ชินบัญชร ไม่ว่าไม่น่่าเกี่ยวกัน ครับ จากคุณ : a235 เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 07:40:12

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ ชนาธิป - พุทธแท้ เปลือกเสียหาย ต้นไม้ก็อยู่ไม่ได้ครับ มันเป็นทิฐิที่ผมเห็นว่าไม่สมควรอย่างหนึ่ง ก็คือ ละทิ้งเปลือกเพื่อเอาซึ่งแก่น จะเปลือก จะกระพี้ จะแก่น ชาวพุทธต้องเอาทั้งหมด ต้องได้ทั้งหมด ส่วนประเด็นที่ จขกท. ว่ามาเกี่ยวกับเรื่องสำนักและวัดต่างๆ ผมว่าอย่าเพิ่งไปไกลเลยครับ วัดนาป่าพงที่มีประเด็นก็มีแค่เรื่องเดียวเท่านั้น เรื่องอื่นๆก็เรียบร้อยดีนี่ครับ จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 07:50:36

ความคิดเห็นที่ 10 ที่คุณว่า ชินบัญชร ไม่ว่าไม่น่่าเกี่ยวกัน นั้นมันมีคนคิดอย่างนี้จริงๆว่า ไม่ควรไปท่องเพราะว่าไปยึดแนวที่ว่าต้องตามพุทธวัจนโดยตรง ส่วนผมท่องชินบัญชร เพราะว่าผมอ่านคำแปรแล้วมันดีน่ะครับ เป็นการอัญเชิญพระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์-พระอรหันต์มาคุ้มกาย ส่วน อานาปานสติสูตร ผมจะไปท่องทำไม ผมยังเป็นฆราวาสอยู่ ถ้าผมเป็นพระผมคงท่องล่ะครับ ครูบาอาจารย์สอนให้สวดตามนี้ครับ อิติปิโส สวากขาโต สุปฏิปันโน พาหุง-มหากา อิติปิโส เท่าอายุ + 1 แต่ผมเพิ่ม ชินบัญชรเข้าไปอีก และอาจารย์ผมสอนอีกว่า >>>อะไรที่เกินให้ตัด อะไรที่ขาดให้เติม เพื่อประหยัดเวลา<<< จากคุณ : TGDEV เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 07:52:33

ความคิดเห็นที่ 11 แหม ถ้าจะเปรียบเทียบ เราคงต้องมาชั่งในใจเราเลยนะ ต่างคนย่อมต่างกัน เป็นธรรมดามากๆ "จากสันติอโศก วัดธรรมกาย สวนสันติธรรม สู่วัดนาป่าพง" 4 ที่ ที่กล่าวมานั้น ตามระดับความโอเคภายในใจของผม จาก 1-100 เรียกว่าความถูกจริตก็ได้นะครับ(เน้นไปด้านคำสอน และข้อวัตรบางส่วนเท่าที่เห็นนะ เพราะด้านลึกอื่นๆ ผมจะไม่ทราบ) สันติอโศก ผมโอเค 10% วัดธรรมกาย ผมโอเค 0% สวนสันติธรรม ผมโอเค 99% วัดนาป่าพง ผมโอเค 80% แถมนะครับ สวนโมกข์ ผมโอเค 80% แล้วก็ถ้าตัวอย่างที่ผมจะให้ 100% ผมให้ที่ วัดบุญญาวาส ครับ จากคุณ : แมงกุ๊ดจี่ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 08:01:08

ความคิดเห็นที่ 12 แล้วที่ว่าบทสวดมนต์นั้นดีกว่า อันนี้ไม่ดี ผมก็สงสัยว่ามันดีกว่าตรงไหน เอาอะไรมาวัดว่าดีกว่า จากคุณ : TGDEV เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 08:13:02

ความคิดเห็นที่ 13 พระพุทธวจนะ  "ตามที่พระเถระครั้งปฐมสังคายนา"  รักษามา ฯลฯ ---- ธรรม ที่ตถาคตแสดง  วินัยที่บัญญัติ  จักเป็นศาสดาของพวกเธอ ในกาลที่เราล่วงไปแล้ว --- มี ใคร ไม่ เคย ผ่านตา "พระพุทธวจนะ" นี้ บ้าง (จากความจำ) (๑) พระเถระครั้งปฐมสังคายนา --- เหมือน หรือ ต่างกับ "ทุกๆ ท่าน  ที่ ปรากฎในกระทู้นี้"  หรือ ? (๒) พระเถระครั้งปฐมสังคายนา ---- กับ ภิกษุ "ไม่ว่า สมัยไหน" ?  เหมือน  ต่างกัน อย่างไร? (๓) ตรัสว่า --ภิกาุทั้งหลาย มีสติ รักษาตน จักอยู่เป็นสุขนะ (จากความจำ) "ทุกๆ ท่าน  ที่ ปรากฎในกระทู้นี้"   -- มี สติ ตรงตาม ที่ตรัส ไหม? ถ้ามี "ตรงตาม ที่ตรัส " ----- ขออนุโมทนา ฯ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 08:17:55

ความคิดเห็นที่ 14 สงสัยว่า ในห้องศาสนานี้ พูดถึงวัดธรรมกายบ่อย(ในแง่ไม่ถูกต้อง) แต่อยากรู้ว่า ทำไมไม่มีคนพูดถึง สันติอโศก เลยว่าไม่ดียังไง(ไม่ชอบสำนักนี้ แต่อยากรู้) หรือว่าก่อนหน้านี้พูดกันมามากแล้ว (จขกท.เพิ่งเข้ามา 3 เดือนเอง) จากคุณ : สิงห์ขี้เมา เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 08:21:47

ความคิดเห็นที่ 15 ความเห็นท่านแมงกุ๊ดจี่ใกล้เคียงผมเลยครับ ต่างกันนิดหน่อย สำหรับผม สันติอโศก ไม่อยู่ในการพิจารณา เพราะว่า สันติอโศกประกาศ "ชัดเจน" ว่า ไม่ใช่ เถรวาท ธรรมกาย(ธัมมชโย) ติดลบไปเลย -100% สวนสันติธรรม 99.99% วัดนาป่าพง ผมยังคงดูท่าทีครับ ขอให้ไว้ที่ 50% จากท่านแมงกุ๊ดจี่ สวนโมกข์ 99.99% วัดป่าบุญญาวาส 99.99% ผมไม่ใส่ 100% เพราะลบความศรัทธาที่อาจคลอนแคลนของตัวผมเอง แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 54 08:30:52 จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 08:27:49

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องท่องปาติโมกข์เห็นเป็นประเด็นมาหลายวันแล้วส่วนตัวคิดว่าควรสวด๒๒๗ข้้อเหมือนกับวัดอื่นๆเพื่อเห็นแก่ชนรุ่นหลังเราจะได้ไม่สับสน จากคุณ : คนพุทธ (คนพุทธ) เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 08:29:23

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องครูอาจารย์นี่เรื่องของใครของมัน อย่างบางคนว่า สวดทำไมพาหุงมหากา ชินบัญชร และบทอื่น ๆ ที่อาจารย์รุ่นหลัง ๆ ประพันธ์ไว้ เช่น สวดชัยน้อย สวดมหาสันติงหลวงฯ สู้ไปสวดมหาสติปฏฐานสูตรไม่ดีกว่าเหรอ ก็มีเรื่องเล่า สมัยหนึ่งพระพุทธเจ้่าไปเมือง ๆ นึงกะพระอานนท์ ชาวบ้านไม่ได้สนใจพระพุทธเจ้ากะพระอานนท์เลย พระอานนท์จึงสงสัย  พระพุทธเจ้าจึงตรัสบอกพระอานนท์ว่าให้รอก่อน รอพระมหากัสสัปปะ ชนเหล่านั้นเป็นศิษย์ของพระมหากัสสัปปะ แล้วเหตุการณ์ก็เป็นอย่างนั้น คือ พอพระมหากัสสัปปะมาถึงเมือง ผู้คนก็สนใจใคร่รู้แล้วก็มาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้่าเพราะพระมหากัสสัปปะพามา ใครที่ดูถูกดูหมิ่นครูบาอาจารย์รุ่นหลัง ๆ ใครที่ปัญญาน้อยมองไม่เห็นลักษณะแบบนี้ก็อย่าเพิ่งตำหนิปฏิเสธตำราของครูบาอาจารย์ท่าน อย่างวิสุทธิมรรคนี่นะที่บางคนไปดูถูกนี่ สำหรับเราถือว่าเป็นงานวิจัยชิ้นเยี่ยมที่สุด ปาฏิโมกข์ 227 ข้อ เป็นมรดกที่ได้ปฏิบัติกันมานมนานสืบต่อกันมารุ่นต่อรุ่นด้วยความพากเพียรของบรรพชน ถ้านึกถึงความพากเพียรของบรรพชนที่พากันสืบทอดทั้งธรรมทั้งวินัยมาแต่โบราณกาล จนมาถึงรุ่นเรานี่ น้ำตาเต็มมหาสมุทรก็ไม่พอแสดงความซาบซึ้ง แล้วมามีไอ้บ้าที่ไหนเกิดดูโลกได้กี่ปี ถึงมาบอกว่าที่บรรพชนทำมานั่นมันผิด ไม่เหมาะไม่สม จากคุณ : ช่างต่อเรือฯ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 09:01:08

ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อเรายึดมั่นถือมั่นใน..รูป..เวทนา..สัญญา..สังขาร...วิญญาณ..หรือ.. เมื่อเรายึดมั่นถือมั่นใน...ทิฐิ..กาม..ศีล..ความมีหรือไม่มีอัตตาโดยวาทะ.. เราจะมีความคิดว่า..นั้นเป็นเรา...นี้เป็นเรา...นั้นเป็นของเรา..นี้เป็นของเรา... อาจารย์นี้เป็นอาจารย์เรา...อาจารย์นั้นไม่ใช่ของเรา... เถรวาทนี้เป็นของเรา...มหายานไม่ใช่ของเรา.. มหายานนี้เป็นของเรา...เถรวาทไม่ใช่ของเรา.. เมื่อเรายึดมั่นถือมั่น...ซึ่งเกิดจากการ..ไม่ได้ละสักกายะทิฐิ..อกุศลธรรมก็เกิดขึ้นในจิต...อกุศลธรรมในจิตที่เกิดขึ้นแล้วก็เจริญขึ้น... แต่หากเราพยายามละความยึดมั่นถือมั่น...ซึ่งก็จะทำให้มีการพยายามละสักกายะทิฐิ...กุศลธรรมก็เกิดขึ้นในจิต...อกุศลธรรมในจิตที่เกิดขึ้นแล้วก็เสื่อมลง...ธรรมก็จะเจริญขึ้นเรื่อยๆ... เราสามารถเลือกปฎิบัติได้.... ท่านก็ควรหันมาพิจารณาบ้างเถิด ลดความยึดมั่นถือมั่นลง มองให้แยบคายด้วยใจเป็นกลาง ประโยชน์ไม่ได้เกิดแก่ใคร แต่เกิดแก่ตัวท่านเอง เจริญในธรรม..ครับ จากคุณ : โกวิทย์ (โกวิทย์) เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 09:15:17

ความคิดเห็นที่ 19 อะไรทำแล้วดี ทำแล้วสบายใจก็ทำกันไปเหอะครับ ธรรมที่พระพุทธเจ้าท่านแสดงไว้ ชี้ทางไว้ มันจะถูกพิสูจน์เมื่อธรรมนั้นประจักษ์แจ้งที่ใจเรา วันไหน คำสวดไหน ถ้าไม่ผิดหลัก ไม่ผิดทาง พาพ้นทุกข์ได้ก็จัดกันไป ทางเดินมีหลายสาย หลายวิธี สุดท้ายก็ไปเจอกันที่อริยสัจ 4 จากคุณ : ป๊าป๋ามือใหม่ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 09:48:57

ความคิดเห็นที่ 20 คนที่ว่า 100% สมัยนี้ เมื่อไปเทียบกับสมัยพุทธกาล จะเหลือกี่ % จะมีใครรู้ จะมีใครตัดสินได้ ? ยังมีอีกหลายกรณี วัดในธิเบต วัดในญี่ปุ่น วัดในพม่า วัดในไต้หวัน คนประเทศเขาก็บอก 100% 100% ของประเทศเขา กับ 100% ของประเทศเรา ทำไมช่างต่างกันลิบลับ ทั้งที่ศาสนาเดียวกัน ? จากคุณ : Rovivta เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 12:28:33

ความคิดเห็นที่ 21 สงสัยในสวนสันติธรรม เพราะดูมันค่อนข้างชัด เรื่องผลประโยชน์เกี่ยวข้อง เรื่องโกหกว่าไม่มีเงิน หรือเรื่องเทศน์คุณไสย เรื่องทักวาระจิต  ไม่รู้ว่าเรื่องที่DSIสอบบัญชีไปถึงไหนแล้ว แต่เห็นที่ห้องนี้มีคนนับถือกันหลายคนถ้ามีกระทู้เกี่ยวข้องนิดหน่อยหรือเปิดใจว่าได้ประโยชน์จากการปฏิบัติอย่างไรก็จะให้กิฟกันนับสิบแล้วจะเป็นกระทู้แนะนำกันทีเดียวเชียวในขณะที่ธรรมกายไม่ทำ ซึ่งเชื่อว่าเขาทำได้ถ้าจะทำเพราะคนเขาเยอะ จากคุณ : จันทร์สุขสดใส เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 12:56:00

ความคิดเห็นที่ 22 น่าเห็นใจ คคห. ๑ ครับ ไม่เป็นไรครับ เริ่ม นับ ๑ ใหม่ก็ได้ครับ เคยฟังพระสุปฏิปันโนรูปหนึ่งพูดถึง "อริยูปวาโท" (การกล่าวร้ายพระอริยะ) แล้วน่ากลัวครับ ทางที่ดีไปกราบขอขมาพระรัตนตรัย แล้วตั้งใจปฏิบัติต่อนะครับ เอาใจช่วยให้ได้ภาวนาต่อครับ อนุโมทนาและเห็นด้วยกับ คคห. ๑๑ และ ๑๕ แต่กิ๊ฟหมดครับ จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 13:04:13

ความคิดเห็นที่ 23 อนุโมทนา คคห. ๑๖ และ ๑๘ ด้วยครับ จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 13:13:11

ความคิดเห็นที่ 25 #22 55 ขู่กันเลยเชียว สำหรับพวกที่มีความเชื่อ แต่คิดว่าการแอบอ้างว่าเป็นพระอริยะ  น่ากลัวกว่านะ   ความจริงไม่ควรยึดมั่นถือมั่นอะไรทั้งนั้น ใช้ปัญญาพิจารณาศึกษาธรรมและความเป็นจริงตามธรรมชาติดีกว่า จากคุณ : จันทร์สุขสดใส เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 14:51:37

ความคิดเห็นที่ 26 รู้สึกดีนะครับที่ได้ฟังธรรมที่นำมาจากพระพุทธวจนะ   แต่ความรู้สึกจริงๆ ต้นไม้มันจะเติบโจแข็งแรงได้ มันก็ต้องมีทั้งเปลือก กระพี้ แก่น  จะเอาแต่แก่นอย่างเดียว ไม่ได้หรอกครับ  อยากให้วัดนาป่าพง กลับมาสวดปาฏิโมกข์ 227 ข้อตามธรรมเนียมปฏิบัติแบบเดิมครับ : ] จากคุณ : OnceWakeUp เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 14:56:32

ความคิดเห็นที่ 27 คคห. ๒๕ ไม่ได้ขู่ครับ ได้ยินมาอย่างนี้ก็บอกต่ออย่างนี้ครับ เพราะอยากให้เขาได้ภาวนาต่อครับ ไม่เชื่อไม่ว่าอะไรครับ สงสัยได้ ตามสบายครับ ไม่ว่ากันครับ จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 16:39:09

ความคิดเห็นที่ 28 ....เกี่ยวกับอริยูปวาโท ครับ พระอรรถกถาจารย์จึงกล่าวว่า อริยูปวาท เป็นกรรมที่กระทำอันตราย และมีโทษเสมอด้วยอนันตริยกรรม ภิกษุกล่าวโทษพระอริยะ พึงถึงความพินาศ ๑๐  อย่าง คือ ภิกษุนั้นไม่บรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ  ๑ เสื่อมจากธรรมที่บรรลุแล้ว  ๑   สัทธรรมของภิกษุนั้นย่อมไม่ผ่องแผ้ว  ๑   เป็นผู้เข้าใจว่าตนได้บรรลุในสัทธรรมทั้งหลาย  ๑   เป็นผู้ไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ ๑ ต้องอาบัติเศร้าหมองอย่างใดอย่างหนึ่ง   ๑   ย่อมถูกโรคอย่างหนัก   ๑   ถึงความเป็นบ้า  มีจิตฟุ้งซ่าน  ๑   เป็นผู้หลงใหลกระทำกาละ  ๑   เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงอบาย  ทุคติ  วินิบาต  นรก  ๑ จากคุณ : STL เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 17:43:07

ความคิดเห็นที่ 29 นตฺถิ โมหสมํ ชาลํ ไม่มีข่ายดักสัตว์ใด เสมอโมหะ จากคุณ : ปริญญาบ้าเกมส์ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 20:39:33

ความคิดเห็นที่ 30 จาก คห 12 บทอะไร ดีไม่ดี โดยส่วนตัว นะครับ วัดจาก ประโยชน์ ที่ น่าจะได้ จากบทสวดนั้น ซึ่งต้องตรงตามแนวทาง ของพุทธ ตามความคิดผมด้วยครับ ชินบัญชร ในความคิดผม จะเชิญ มาทำไม ถ้ายังทำตัวไม่ดี แล้วจะเชิญมาทำไม ในเมื่อทำตัวได้ดีแล้ว เชิญมา แล้ว ลด โมหะ โทสะ โลภะ ได้ หรือครับ ถ้า ว่า สวดเอา สติ สวดอะไรก็ได้ มั๊ง ครับ แ่ค่ พุธโธ ยังได้เลยครับ -------------- ไม่ได้ บอกว่า บทสวดชินบัญชร ไม่ควรสวด นะครับ แต่ ถ้า ท่านได้ ผ่าน อะไร มาบ้างแล้ว ก็อยากให้เดินต่อไป ครับ ไม่ใช่ มาหยุด แค่ บริกรรม ครับ น่าจะเดินมาสู่ การพิจารณา ธรรมได้ แล้ว มั๊ง ครับ สรุป ที่ กล่าวมานั้นเพียงอยากจะบอกว่า พุทธ ไม่ใช่การท่องมนต์ นะครับ -------------- ขออภัย หากกล่าววาจาไม่เหมาะสมครับ จากคุณ : a235 เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 21:37:23

ความคิดเห็นที่ 31 จิ้งจกทักยังต้องฟัง แต่... จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 21:58:19

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าหากพูดถึงประโยชน์ ผมเองคิดว่าได้ประโยชน์จากคาถาชินบัญชร จะบอกไรให้ทราบว่า เมื่อหลายเดือนก่อน ผมเปิดประตูไปเหยียบงูเห่า ผมคิดว่าจากอานิสงส์การสวดมนต์ทุกๆวัน ทำให้ผมรอดชีวิตมาโดยที่ไม่โดนงูเห่ากัด แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 54 08:20:00 จากคุณ : TGDEV เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 22:26:25

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าจะเปรียบต้องเปรียบกับวัดทั้งหมดประเทศแค่ 2 สำนักดูน้อยไป ลองไปดูว่าวัดนาป่าพงสอนอะไร จากคุณ : เนตังมม (เนตังมม) เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 23:38:34

ความคิดเห็นที่ 34 พุทธวจนสนทนาที่ททบ 5 จากคุณ : เนตังมม (เนตังมม) เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 23:40:11

ความคิดเห็นที่ 35 ศีลของพระภิกษุ พระพุทธองค์ทรงบัญญัติเอาไว้ 227 ข้อครับ แม้จะอ้างว่าบางข้อล้าสมัยไม่เข้ากับแนวทางในปัจจุบัน แต่ถ้ารักษาข้อบังคับพื้นฐานไม่ได้ การปฏิบัติในขั้นสูงก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก ถึงแม้ว่าศีลจริงๆนั้นมีเพียงข้อเดียว แต่กระนั้นนักปฏิบัติก็มีปัญญาและภูมิธรรมหลายระดับ การรักษาคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธองค์เอาไว้จนสิ้นอายุพุทธกาลย่อมเป็นทางปฏิบัติที่เหมาะสมสำหรับคนหมู่มาก แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 54 01:25:51 จากคุณ : หมัดดาวใต้ เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 01:25:19

ความคิดเห็นที่ 36 อย่ายึดติดสมมุติ เลือกเอาเฉพาะสิ่งที่ดีๆ ไม่มีที่ไหนดีทั้งหมดหรอก แบบนี่มิดีกว่าหรือ เหมือนไปตลาดซื้อของ ก็ต้องเลือกนะ จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 08:03:32

ความคิดเห็นที่ 37 ผมเองรับรู้เรื่องวัดนาป่าพงมาเมื่อราวๆต้นปี 2553 ได้ดาวโหลดวิดีโอมาฟังจากเน็ตหลาย10ตอน ฟังแล้วรู้สึกชอบมาก แต่เมื่อบรรดาลูกศิษย์บางท่านพูดว่า สวดไปทำไมพาหุงมหากา สวดไปทำไมชินบัญชร เพราะว่ามันไม่ใช่คำพระพุทธเจ้า ตอนนี้ผมเลยรู้สึกไม่อยากเอาตัวเองไปยึดติดกับคำว่า พุทธวจน อีก จากคุณ : TGDEV เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 12:40:06

ความคิดเห็นที่ 38 คุณ TGDEV ฟังธรรมเพื่อให้เราได้เข้าถึงธรรมะของพระพุทธองค์ทรงลำบาก 6 ปี กว่าจะตรัสรู้และเมื่อทรงตรัสรู้แล้วทรงเมตากรุณาสั่งสอนสัตว์โลก เผยแผ่ธรรมะให้เราได้รู้เพื่อความดับทุกข์ พ้นทุกข์ และวัดนาป่าพงได้เอาคำสอนที่เป็นพุทธพจน์นำมาสอนให้เราได้รู้จักและศึกษาเหมือนเปิดธรรมที่ถูกปิด หงายของที่คว่ำ และทุกบทธรรมที่พระอาจารย์คึกฤทธิ์ถ่ายทอดเป็นพุทธวจนจริงหาได้ในพระไตรปิฏก เราได้ฟังแล้วรู้สึกนึกถึงพระพุทธองค์วันไหนฟังธรรมที่พระอาจารย์สอนแล้วรู้สึกถึงอัศจรรย์ในพระพุทธองค์ทำไมทรงมีพระปัญญาอย่างยิ่งเราลืมพระอาจารย์คึกฤทธิ์ไปเลย จริงๆเพราะเราจะนึกถึงแต่พระพุทธองค์เพราะนั้นคือคำสอนของศาสดาเราจริงๆและทรงเป็นศาสดาเอก เราก็สวด อิติปิโส และครั้งแรกที่เราสวดมนต์เพราะ หลวงพ่อจรัญ จะสวดอะไรก็สวดไปจะได้มีสมาธิถ้าเราทำแล้วจิตเป็นกุศลก็สวดไป อย่างที่บอกเราสวดอิติปิโสก่อนนอนเพราะอยากสวดนะ แต่ถ้าอยากสวดบทที่พระพุทธองค์ทรงสวดคือ  ปฎิจสมุปบาท ลองเข้าไปดูนี้เป็นบทสวดจากพระโอษฐ์ http://www.watnapahpong.org/UserFiles/BudhaQuote-Media/พุทธวจน%2010_สาธยายธรรม/พุทธวจน%2010_สาธยายธรรม.pdf ลองไปดูแล้วเลือกทุกอย่างที่ดีเพื่อตัวเราเองนะ จากคุณ : เนตังมม (เนตังมม) เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 18:52:03

ความคิดเห็นที่ 39 ผมเริ่มมีความรู้สึกแปลกๆกับวัดนาป่าพง เช่น วัดนาป่าพงไม่มีการสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น แต่ให้พระสวดลำพังตามกุฏิ หรือ อย่างเรื่องการตัดปาฏิโมกข์ 227 เหลือ 150 หรือ ทำให้ลูกศิษย์ท่านยึดเอาพุทธวจนเอามากๆ จนมากล่าวอ้าง สวดไปทำไมพาหุง-มหากา สวดไปทำไมชินบัญชร เพราะไม่ใช่มาจากพุทธวจน ซึ่งผมมองว่า พาหุง-มหากา ถึงจะแต่งใหม่ เป็นการยกย่องชัยชนะของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่คำสอนที่บิดเบือนจากความจริง ชินบัญชร สมเด็จโตท่านแต่งบูชาพระอรหันต์ต่างๆ ก็ไม่ใช่คำสอนที่บิดเบือนเช่นกัน แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 54 10:51:05 แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 54 06:41:36 จากคุณ : TGDEV เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 54 06:09:51

ความคิดเห็นที่ 40 สำหรับผมขอยึดตามแนวทางครูบาอาจารย์ผม คือ หลวงพ่อจรัญ ซึ่งกาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่า เป็นพระสุปะฏิปันโน ที่เป็นทั้งพระนักปฏิบัติ เป็นทั้งพระนักเทศน์ ซึ่งเมื่อปฏิบัติจริงจะได้ผลจริง อนึ่งเมื่อครั้งที่ผมตกงาน จนไม่มีสตางค์ใช้แล้ว แต่เมื่อได้ไป ปฏิบัติธรรมที่วัดท่าน 7 วัน 7 คืน แล้วเหมือนมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น คือออกกรรมฐานกลับบ้านมีคนโทรมาให้ไปช่วยทำงานเลย ผมจึงศรัทธาท่านที่ว่า >>>ถ้าปฏิบัติจริงจะได้ผลจริง<<< เหมือนกระทู้ข้างบน พุทธไม่ใช่การท่องมนต์ แต่ต้องปฏิบัติ แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 54 06:52:11 แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 54 06:45:50 แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 54 06:36:49 จากคุณ : TGDEV เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 54 06:29:56

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ TGDEV ก่อนที่เราจะมาศึกษาพุทธวจน หนังสือเล่มแรกที่ได้อ่านคือของหลวงพ่อจรัญ ที่เป็นหนังสือสวดมนต์อิติปิโส พาหุงมหากา ในนั้นจะมีเรื่องกรรมของหลวงพ่อที่ประสบอุบัติเหตุและมีต้มเต่า ชอบมากและนี้คือเหตุให้เราหัดสวดมนต์ก่อนนอนได้ และยิ่งไปกว่านั้นขณะนอนป่วยที่รพ ก็มีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งจำชื่อไม่ได้แต่เล่มหนาหน่อย เปิดไปข้างในเป็นประวัติของหลวงพ่อจรัญ เนื้อเรื่องคือท่านไปพิษณูโลกเพื่อจะหาฤกษ์สึกและไปพบหลวงพ่อเดิม (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อหลวงพ่อเดิม) และมีเรื่องราวมากมายที่ท่านเล่าไว้อ่านแล้วทำให้เราหายกลัวการผ่าตัดเลย มีความสุขมากที่ได้อ่านหนังสือเล่มนั้น แต่ที่ประทับใจจนทุกวันนี้คือ มีอยู่ประโยคหนึ่งเพราะท่านต้องการจะไปสึกแต่เพราะหลวงพ่อเดิมทำให้ท่านเปลี่ยนใจไม่สึกแล้ว และที่สำคัญประโยคหนึ่งที่ทำให้เราซึ้งมากคือ  ที่หลวงพ่อได้กล่าวปณิภาณไว้ "เราจะเป็นสงฆ์ที่ดีจนวันตาย" และจากวันนั้นจนบัดนี้ก็พิสูจน์ได้ว่าคำพูดนั้นได้ถูกปฎิบัติให้เป็นจริงดังปฎิภาณของท่านหลวงพ่อจรัญเป็นสงฆ์ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบและเป็นแบบอย่างที่น่านับถือ เรานับถือท่านมากๆ   แต่เราคงต้องแยกว่าธรรมะที่เราควรศึกษาคือคำของพระศาสดา พุทธวจนะเป็นธรรมที่ประเสริฐยิ่งและทำให้เราคลายทุกข์ลงได้มากมาย เช่นกัน   ก็คงไม่มีอะไรแค่แลกเปลี่ยนประสบการณ์และมุมมอง แค่คุณบอกว่าเคยฟังธรรมพุทธวจนะแล้วชอบก็พอรู้ว่ามีธรรมในใจเช่นกัน จากคุณ : เนตังมม (เนตังมม) เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 54 21:00:00

ความคิดเห็นที่ 42 ผมลบทิ้งไฟล์วิดีโอของ พระอาจารย์คึกฤทธิ์ หมดแล้ว ผมเห็นคุณถกกันเรื่อง ปาฏิโมกข์ ๒๒๗ หรือ ๑๕๐ ข้อในกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10676377/Y10676377.html แล้วปวดหัว ไม่อยากไปยึดติดกับพุทธวจน อีก ผมเป็นแค่ฆราวาส ขอแค่ปฏิบัติตามคำสอนครูบาอาจารย์ผมก็พอแล้ว คือ สวดมนต์และเจริญวิปัสสนากรรมฐานแนวสติปัฏฐาน 4 พยายาม ถือศีล 5 ถือกุศลบท 10 ถือมงคลชีวิต 38 แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว สำหรับฆราวาสตัวน้อยๆ จากคุณ : TGDEV เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 54 22:09:56

ความคิดเห็นที่ 43 ขึ้นกับ objective มากกว่าไหมค่ะ ถ้าต้องการแค่สมาธิ จะสวดพาหุง สวดอะไรที่สาวกแต่งแบบไม่มีคำแปล หรือ แค่ท่องสูตรคูณก็ได้สมาธิ แต่ถ้าจะสวดแล้วอยากได้ปัญญา ท่องให้ขึ้นใจในสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านสอน สวดคำจากพุทธวจน ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ชีวิตมันสั้น เอาเวลามาศึกษาที่มีน้อยมาใช้กับสิ่งที่มีประโยชน์สุด น่าจะเป็นทางเลือกที่ฉลาดสำหรับมนุษย์ที่มีโอกาสเกิดในพุทธศาสนาค่ะ หรือจะสวดคำที่สาวกแต่งและแปลก็ได้ ถ้าคิดว่าไม่ทำให้ตัวเอง เดินผิด เข้าใจคลาดเคลื่อน ก็แล้วแต่วิจารณญาณค่ะ จากคุณ : just the way it is เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 16:06:01

ความคิดเห็นที่ 44 อย่างไรก็ดี ครูบาอาจารย์ผมกล่าวไว้ว่า บุญที่สูงสุดในพุทธศาสนาคือการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ไม่ใช่การสวดมนต์ สวดมนต์เป็นยาทา วิปัสสนาเป็นยากิน ดังนั้นมาปฏิบัติกันมากๆดีกว่า ไปเสียเวลาถกเถียงกันเรื่องพุทธวจน แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 54 17:57:10 จากคุณ : TGDEV เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 12:45:20

ความคิดเห็นที่ 45 การสวดมนต์ ก็คือ การใช้สติยึดอยู่กับวาจาที่เปล่งออกมา คือ ทำให้จิตนิ่ง ก็เป็นทางหนึ่งที่จะขึ้นสู่วิปัสสนากรรมฐานไม่ใช่เหรอคะ ทำไมเราต้องตัดโน่น ตัดนี่ออก เปรียบเหมือนการสร้างบันได เราอาจจะสร้างข้างล่างให้แข็งแรง ใหญ่ ๆ เดินวนสักสามสี่รอบ แล้วค่อยสร้างขั้นต่อไป หรือจะสร้างทีละขัั้นเล็ก ๆ แล้วเดินขึ้นไป บางท่านอาจจะใช้บันไดลิง ขึ้นไป คือเร็วไว้ก่อน แต่หากเราสร้างบันไดอย่างแข็งแรงแล้ว ผู้อื่นจะได้ใช้ประโยชน์ด้วยค่ะ อาทิ การสวดมนต์ นัั้นนอกจากจะทำให้จิตนิ่ง แล้วยังมีอานิสงค์ ที่เรามองไม่เห็น อาจจะมีคนใกล้ชิด สิ่งมีชีวิต เทวดา ที่ได้รับฟังถ้อยคำอันมีความหมายลึกซึ้ง ทรงคุณค่า เป็นการสืบสานสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ เป็นสิงที่ท่านทิ้งไว้ให้พวกเรา ไม่มีคำใด ๆ แสดงถึง่งคเจตนารมณ์ที่ไม่ดีเลย การเอ่ยถ้อยคำเหล่านี้ ย่อมแสดงถึงความกตัญญูต่อพระพุทธเจ้า พระธรรม และ พระสงฆ์ ซึ่งความกตัญญูก็เป็นบันไดขึ้นหนึ่งเหมือนกัน _/\_ จากคุณ : pui_001 เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 08:46:03

ความคิดเห็นที่ 46 คุณ pui_001  ไม่มีใครตัดนะค่ะ วัดนาป่าพงสวดเต็มตามแบบที่พระพุทธองค์บัญญัติและปฎิบัติทุกข้อวัตรที่พระพุทธองค์บัญญัติและบอกสอนในคำสอนของพระพุทธองค์ เราถึงได้รู้จักพุทธวจนคำสอนจากพระโอษฐ์ก็เพราะวัดนี้ เวลาที่เรากราบพระพุทธองค์ก็คงสมบูรณ์ได้ว่าเราจะศึกษาคำบอกสอนของพระองค์พระพุทธวจน และปฎิบัติตนดั่งที่ทรงบอกให้กระทำเพื่อสืบทอดพระศาสนาต่อไปในแนวทางที่ถูกต้อง จากคุณ : เนตังมม (เนตังมม) เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 54 14:00:44