คือผมจะแนะนำอย่างนี้นะครับ
การศึกษาที่ถูกต้องนั้น ก็คือ เราศึกษาพระไตรปิฎก แล้วก็ดูอรรถกถาควบคู่กัน เป็นการขยายอธิบายเนื้อความนั้นๆ ให้ชัดเจนขึ้น ดังพระพุทธพจน์ความว่า
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุปัชฌายะพึงสงเคราะห์ อนุเคราะห์ สัทธิวิหาริก ด้วยสอนบาลี และอรรถกถา ด้วยให้โอวาทและอนุศาสนี." http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=4&A=1679&Z=1776
ผมจะยกเนื้อความจาก พระไตรปิฎก และ จากอรรถกถา มาแสดงประกอบ เป็นลำดับดังนี้นะครับ
-------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
เอกบุคคลบาลี
[๑๔๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เอก เมื่อเกิดขึ้นในโลก ย่อมเกิด ขึ้นเป็นผู้ไม่มีที่สอง ไม่มีใครเช่นกับพระองค์ ไม่มีใครเปรียบ ไม่มีใครเปรียบ เสมอ ไม่มีส่วนเปรียบ ไม่มีบุคคลเปรียบ ไม่มีใครเสมอ เสมอด้วยพระพุทธเจ้า ผู้ไม่มีใครเสมอ เป็นผู้เลิศกว่าสัตว์ทั้งหลาย บุคคลผู้เอกเป็นไฉน คือ พระตถาคต อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เอกนี้แล เมื่อเกิดขึ้นในโลก ย่อมเกิดขึ้นเป็นผู้ไม่มีสอง ไม่มีเช่นกับพระองค์ ไม่มีใครเปรียบ ไม่มีใคร เปรียบเสมอ ไม่มีส่วนเปรียบ ไม่มีบุคคลเปรียบ ไม่มีใครเสมอ เสมอด้วย พระพุทธเจ้าผู้ไม่มีใครเสมอ เป็นผู้เลิศกว่าสัตว์ทั้งหลาย ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=20&A=585&Z=627
-----------------------------------------------------------------------------------------
อรรถกถา อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เอกบุคคลบาลี
ในสูตรที่ ๕ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :- บทว่า อทุติโย ความว่า ที่ชื่อว่า อทุติโย เพราะไม่มีพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๒.
จริงอยู่ พระพุทธะมี ๔ คือ สุตพุทธะ จตุสัจจพุทธะ ปัจเจกพุทธะ สัพพัญญูพุทธะ.
ในพุทธะ ๔ นั้น ภิกษุผู้เป็นพหูสูต (มีพุทธพจน์อันสดับแล้วมาก) ชื่อว่าสุตพุทธะ. ภิกษุผู้เป็นพระขีณาสพ (นี้อาสวะสิ้นแล้ว) ชื่อว่า จตุสัจจพุทธะ. พระองค์ผู้บำเพ็ญบารมีสองอสงไขย กำไรแสนกัป แล้วแทงตลอดปัจเจกพุทธญาณ ชื่อว่าปัจเจกพุทธะ. พระองค์ผู้บำเพ็ญบารมี ๔-๘-๑๖ อสงไขย กำไรแสนกัป แล้วย่ำยีกระหม่อมแห่งมารทั้ง ๓ แทงตลอดพระสัพพัญญุตญาณ ชื่อว่า สัพพัญญูพุทธะ.
ในพุทธะ ๔ เหล่านี้ พระสัพพัญญูพุทธะชื่อว่าไม่มีพระองค์ที่ ๒. ธรรมดาว่าพระสัพพัญญูพุทธะพระองค์อื่นจะเสด็จอุบัติร่วมกับพระสัพพัญญูพุทธะพระองค์นั้นก็หาไม่.
บทว่า อสหาโย ความว่า ชื่อว่าไม่มีสหาย เพราะท่านไม่มีสหายผู้เช่นกับด้วยอัตภาพ หรือด้วยธรรมที่ทรงแทงตลอดแล้ว. ก็พระเสขะและพระอเสขะ ชื่อว่าเป็นสหายของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย โดยปริยายนี้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นทรงได้เสกขปฏิปทาและอเสกขปฏิปทาเป็นสหายแล.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20.0&i=139&p=2
-----------------------------------------------------------------------------------------
ในอรรถกถาแสดงไว้ว่า
ภิกษุผู้เป็นพหูสูต (มีพุทธพจน์อันสดับแล้วมาก) ชื่อว่าสุตพุทธะ.
ซึ่งก็เป็นการแปลตรงตัว เข้าใจได้ไม่ยาก
จากบทตั้งต้นที่เป็นการสรรเสริญพระพุทธคุณ
เมื่อเราได้ศึกษาความรู้ในอรรถกถาเพิ่มเติม
เราก็จะเห็นการจำแนก พุทธะ ๔ ดังที่แสดงข้างบน คือ
สุตพุทธะ จตุสัจจพุทธะ ปัจเจกพุทธะ สัพพัญญูพุทธะ
และ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้นที่ทรงเป็น สัพพัญญูพุทธะ บุคคลอื่นนอกนี้ไม่มีเลย และจะมาปรากฏได้เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ในแต่ละพุทธศาสนาแต่ละยุค
ซึ่งจะเป็นการยกให้ได้เห็นพุทธคุณชัดเจนยิ่งขึ้น จากการศึกษา ทั้งพระไตรปิฎกและอรรถกถานี้
จากคุณ |
:
ชาวมหาวิหาร
|
เขียนเมื่อ |
:
22 มิ.ย. 54 00:11:37
|
|
|
|