ความคิดเห็นที่ 1 มาถึงพี่ผู้ใหญ่บ้านก็รีบมาเตรียมต้อนรับ และขนหนังสือพระไตรปิฏก จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 23:52:18

ความคิดเห็นที่ 2 สารถีขับรถมาให้ไม่มีบ่นสักคำเลยยย เพราะตั้งจิตอธิษฐานมาเป็นลูกศิษย์วัดนี้โดยเฉพาะเลยค่ะ จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 23:53:13

ความคิดเห็นที่ 3 พระอาจารย์ออกมาต้อนรับและช่วยอีกแรง จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 23:54:00

ความคิดเห็นที่ 4 หนังสือของคุณอีบียู๊ค่ะ ที่จะนำมาแจกในวันงาน จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 23:54:41

ความคิดเห็นที่ 5 นำตู้บริจาคมาถวาย เพื่อใช้ในงานนี้เช่นกัน จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 23:55:17

ความคิดเห็นที่ 6 แท่นเชิงเทียนหน้าองค์หลวงพ่อรวยทันใจค่ะ จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 23:55:50

ความคิดเห็นที่ 7 พร้อมแท่นที่คล้องพวงมาลัย จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 23:56:13

ความคิดเห็นที่ 8 หมอนกราบพระหน้าโต๊ะหมู่บูชา จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 23:56:44

ความคิดเห็นที่ 9 ของทั้งหมดนำมาวางเรียงไว้ก่อน วันรุ่งขึ้นจะจัดแยกถวายเป็นบางอย่างไป จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 23:57:48

ความคิดเห็นที่ 10 จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 23:58:37

ความคิดเห็นที่ 11 บรรยากาศโดยรอบเปลี่ยนไป มีเสาศาลาอเนกประสงค์ตั้งเด่นเป็นสง่า แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 54 00:00:21 จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 23:59:44

ความคิดเห็นที่ 12 หลวงพี่พระธนนท์ พาชมสถานที่โดยรอบ จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:01:16

ความคิดเห็นที่ 13 มาครั้งก่อน บ่อน้ำตรงนี้ยังเล็กๆ อยู่เลย มาวันนี้ บ่อนี้ได้แบ่งเป็น 2 ช่อง ซึ่งในบ่อจะเป็นน้ำฝนเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้อาบ โดยนำสารส้มมากวนให้ตกตะกอน ก็จะได้น้ำที่ใสสะอาด จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:04:41

ความคิดเห็นที่ 14 ด้านหน้ากำแพงวัด กำลังเร่งก่อสร้างกันอย่างขมักเขม้น จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:06:07

ความคิดเห็นที่ 15 ชาวบ้านปักธงธรรมจักร และธงชาติไทย ที่ไข่หวานซื้อมาถวาย จำนวนอย่างละ 50 ผืน ตามทาง จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:08:53

ความคิดเห็นที่ 16 ทางเข้าวัดจะเป็นดินแดงลูกรัง จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:10:01

ความคิดเห็นที่ 17 จากนั้นจึงขอตัวไปเที่ยวชมเขื่อน อ่างเก็บน้ำลำคันฉู ยามเย็นย่ำสนธยา จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:11:11

ความคิดเห็นที่ 18 เที่ยวจนเพลินเกินห้ามใจ ต้องรีบกลับมาอาบน้ำ เพราะเดินทางมาเหนื่อยทั้งวันแล้ว ก็ขอพักกางเต้นท์นอนหน้าองค์หลวงพ่อรวยทันใจ ที่จริงหลวงพี่ท่านก็เตรียมห้องไว้ให้พัก แต่เราทั้งสองขอพักตรงนี้จะดีกว่า ลมเย็นสดชื่นแรงมากๆๆ ตอนแรกคิดว่าจะไม่ค่อยมีลมสักเท่าไร แต่ผิดคาดค่ะ ต้องขอบอกว่า นอนไม่หลับเกือบครึ่งคืน ระแวง กลัวว่าจะพัดหอบเราไปไกลๆ จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:14:52

ความคิดเห็นที่ 19 นอนฟังเสียงตั๊บแกทั้งคืน สลับกับเสียงดนตรีอันไพเราะจากไข่เค็ม ก็เพลินไปอีกแบบ เปลี่ยนบรรยากาศจากนอนในห้องแอร์ มาเป็นธรรมชาติ จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:16:43

ความคิดเห็นที่ 20 คนที่สดชื่นที่สุด เห็นจะเป็นคนนี้แหล่ะคะ ปลุกให้ตื่นแต่เช้าไม่รีรอ รีบอาบน้ำแต่งตัว เตรียมเป็นลูกศิษย์ออกบิณฑฯ ทันที เพราะตั้งจิตอธิษฐานมา ครั้งนี้ขอเป็นลูกศิษย์พระป่าสักครั้งเถิดหลังจากที่เคยเป็นลูกศิษย์ในเมืองกรุงมาแล้ว จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:21:46

ความคิดเห็นที่ 21 ระยะทางจากวัดมายังหมู่บ้านไม่ไกลมากนัก แค่ไม่กี่หลังคาเรือน วิถีชีวิตเรียบง่าย อยู่กันแบบสันโดษจริงๆ ค่ะ จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:24:06

ความคิดเห็นที่ 22 มีข้าวก็ใส่ข้าว มีกับก็ใส่กับ แล้วแต่ศรัทธา จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:24:40

ความคิดเห็นที่ 23 ไข่หวานเดินตามด้วยเท้าเปล่าเช่นเดียวกับหลวงพี่ รู้เลยว่า เป็นพระลำบากแค่ไหน กว่าจะได้ข้าวสักบาตรมาฉัน ไข่หวานเดินไปก็ต้องกำหนดสติอยู่ที่เท้าตลอดเวลา เจ็บหนอ เจ็บหนอ ภาวนาไปเรื่อยๆๆ อีกทั้งต้องเจอทั้งสัตว์น้อย สัตว์ใหญ่ มดแดง กัดเท้าบ้าง แต่ได้แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ ก็หายเจ็บ หายคัน   เจอหิน กรวด ทราย บาดเท้าบ้าง นับว่าเอาการอยู่พอควร ใจก็ภาวนาว่า เมื่อไรจะถึงวัดหนอ สงสารพระท่านเหมือนกัน แต่ก็สุขใจที่ได้เดินตามรอยพระพุทธองค์ ตอนอยู่ในเมืองกรุง เดินตามหลวงพี่ (พระอาจารย์) ก็ใส่รองเท้าได้ ไม่รู้สึกเท่าไร พอมาเจอความลำบากแบบนี้ เป็นการสอนให้รู้ว่า เราต้องอดทนกับความยากลำบาก อดทนต่อทุกสิ่งที่มากระทบตัวเรา ใจเรา ทั้งสิ้น จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:31:35

ความคิดเห็นที่ 24 อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ จากคุณ : มด2002 เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:34:21

ความคิดเห็นที่ 25 เส้นทางเข้าไปในหมู่บ้าน หลวงพี่ท่านเมตตาพาชมทุกหลังคาเรือน ชาวบ้านต่างยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่เคยเห็นคนกรุง ต่างก็สอบถามว่า มาทำบุญเหรอคะ มากันกี่คน สลับกับเสียงผู้ใหญ่บ้านก็ประกาศประชาสัมพันธ์วันงานทอดผ้าป่าไปด้วย ดูแววตาแล้วเขาตื่นเต้นมากที่มีคนบ้านไกลจากกรุงเทพ มาเยี่ยมเยียนถึงบ้าน และคาดหวังว่า คงจะมีคนกรุงเทพมาร่วมงานในหมู่บ้านเขามากมาย จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:36:11

ความคิดเห็นที่ 26 จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:37:03

ความคิดเห็นที่ 27 ถ่ายเป็นที่ระลึก จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:37:34

ความคิดเห็นที่ 28 ชื่อวัดยังเป็นป้ายเก่า ยังไม่ได้ถอดออก เพราะประตูวัดยังดำเนินการไม่เสร็จ เนื่องจากมีฝนตกลงมาทุกวันเลยล่าช้า จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:38:39

ความคิดเห็นที่ 29 รีบเดินเข้าวัด ต้องไปจัดเตรียมประเคนภัตตาหารเช้าทันที จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:40:14

ความคิดเห็นที่ 30 คุณโยมแม่ของหลวงพี่ได้มาพักค้างคืนที่วัด ซึ่งเป็นหน้าเทศกาลทุ่งดอกกระเจียวบาน และร่วมกันกล่าวคำถวายสังฆทานพร้อมกัน จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:41:52

ความคิดเห็นที่ 31 เสร็จสิ้นภารกิจ ก็ไปช่วยพี่แอ๊ดคาราบาว ทาสีองค์พระกัน จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:42:48

ความคิดเห็นที่ 32 ตอนทาสีองค์พระตั้งจิตอธิษฐาน ขอบุญบารมีที่สั่งสมมาให้ลูกได้มาพัฒนาวัดนี้ให้เจริญรุ่งเรือง กว่าที่เป็นอยู่นี้ด้วยเทอญ จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:44:52

ความคิดเห็นที่ 33 อนุโมทนาบุญกับพี่ไข่หวานและท่านอื่นๆด้วย เห็นความคืบหน้าในส่วนต่างๆ ก็ชื่นใจเช่นกัน ขอให้พี่และครอบครัวมีความสุขยิ่งๆขึ้นไปนะคะ สาธุ จากคุณ : nu_aorr เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:45:20

ความคิดเห็นที่ 34 สาธุ สาธุ สาธุ ขอให้มีเงิน มีทอง มีสุขภาพที่แข็งแรง และเดินทางปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:46:19

ความคิดเห็นที่ 35 หลังจากนั้นก็ปรึกษาหารือเตรียมงานกัน และขอตัวนมัสการลาหลวงพี่ไปเที่ยวทุ่งดอกกระเจียว จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:58:02

ความคิดเห็นที่ 36 จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 00:59:24

ความคิดเห็นที่ 37 เอ่อ  ครัยน้อ ตั้งชื่อได้เพราะพริ้งจริงๆ เลยยยย จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:00:38

ความคิดเห็นที่ 38 ตามไข่หวานไปซื้อตั๋วเข้าชมกันค่ะ จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:02:55

ความคิดเห็นที่ 39 มีป้ายประชาสัมพันธ์ จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:03:28

ความคิดเห็นที่ 40 ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:04:16

ความคิดเห็นที่ 41 ป้ายบอกราคา จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:04:48

ความคิดเห็นที่ 42 บริเวณที่กางเต้นท์ จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:05:27

ความคิดเห็นที่ 43 จะมีรถสองแถวบริการรับส่ง ไป-กลับ ผู้ใหญ่ 20 บาท  เด็ก 10 บาท จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:06:56

ความคิดเห็นที่ 44 ตั๋วไป-กลับ 2 คน  โปรดเก็บตั๋วไว้ตรวจตอนกลับ จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:08:18

ความคิดเห็นที่ 45 ยืนเข้าแถวรอรถสองแถว จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:09:56

ความคิดเห็นที่ 46 รถสองแถวมาแล้วววเตรียมตัวขึ้นรถกันค่ะ จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:10:52

ความคิดเห็นที่ 47 ถึงแล้ว เร็วมาก แต่ขับนิ่มจริงๆ ไม่เหมือนเขาคิชกูฎเลยย จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:12:09

ความคิดเห็นที่ 48 มีห้องสุขาให้บริการ จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:12:56

ความคิดเห็นที่ 49 ข้อห้าม และให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:13:41

ความคิดเห็นที่ 50 กว่าจะถึงทุ่งดอกกระเจียว ก็อีกไกลโข จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:16:10

ความคิดเห็นที่ 51 ผาสุดแผ่นดิน จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:17:33

ความคิดเห็นที่ 52 อึ๊ยยยย มานั่งตรงนี้ น่ากลัวสุดๆ เลยค่ะ จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:18:48

ความคิดเห็นที่ 53 ธรรมชาติสวยงามมาก สามารถมองเห็น 3 ภาค คือ ภาคเหนือ กลาง อีสาน จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:21:04

ความคิดเห็นที่ 54 เดินไปดูทุ่งดอกกระเจียว ที่สวยที่สุด จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:22:03

ความคิดเห็นที่ 55 สวยหรือป่าวคะ ชอบมากเลยสีชมพู จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:22:50

ความคิดเห็นที่ 56 อีกมุมหนึ่ง จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:23:41

ความคิดเห็นที่ 57 เดินทางกลับ กทม.แล้วค่ะ แวะซื้อหม่ำไปให้พี่กอบัวทองชิมเล่นๆ แก้เหงาไปพลางๆ ก่อน กว่าจะถึงที่นัดหมายไว้กับพี่กอบัวทองก็ค่ำ ไปทานหมูกระทะกัน และไปเดินช้อปปิ้งที่ตลาดนัดสวนรถไฟ ก็เป็นอันจบภารกิจของวันหยุดสุดสัปดาห์ในอาทิตย์นี้ ขอให้ทุกท่านจงประสพแด่ความสุข ความเจริญ ในทุกด้านนะคะ สาธุค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 54 01:28:53 จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 01:26:10

ความคิดเห็นที่ 58 ขออนุโมทนาสาธุครับ หม่ำ ซ๊กม๊ก อร่อยมากๆครับ แต๊งกิ้วหลายๆที่หิ้วติดมือมาฝาก คห.ที่37 เขาแปลเป็นภาษาอีสานบ้านข้อยว่า...เนิน...ตั้ง แห่งนี้ใครเดินไปจนถึง(โดยเฉพาะผู้ชาย)ยอดเนิน จะมีเรี่ยวมีแรงกำลังวังชาจะเพิ่มพูนคูณทวีจนประมาณมิได้เชียวล่ะครับ อิอิ จากคุณ : กอบัวทอง เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 02:43:43

ความคิดเห็นที่ 59 สุดยอดครับพี่ไข่ทั้งสอง........ รักษาสุขภาพนะครับ.... อนุโมทนาบุญจ้า... _/\_ จากคุณ : ซำเหมาพเนจร เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 06:13:00

ความคิดเห็นที่ 60 อนุโมทนาสาธุ ด้วยค่ะ จากคุณ : หมวยขาว (หมวยขาว) เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 06:38:46

ความคิดเห็นที่ 61 สุดยอดครับ อนุโมทนาด้วยครับ วัดดูน่าสงสารมากเลยนะ วัดโพธิ์ไทร ชื่อเพราะออก ทำไมกลายเป็นสำนักสงฆ์ไปได้ล่ะครับ เขามีแต่เป็นสำนักสงฆ์ก่อนแล้วค่อยเป็นวัด จากคุณ : จักรแก้ว เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 07:11:16

ความคิดเห็นที่ 62 ขอเรียนชี้แจงให้พี่หมอทราบว่า ทำไมจึงเป็นชื่อวัดโพธิ์ไทร สาเหตุและที่มาของสำนักสงฆ์แห่งนี้ที่ต้องร้าง จะเกิดขึ้นมาจากตัวของพระสงฆ์ที่อยู่จำพรรษาที่นี่เอง ไม่ไช่ชาวบ้าน ชาวบ้านส่วนใหญ่จะดีมากๆๆ ทำบุญใส่บาตรกันเป็นประจำ แต่ตัวของพระสงฆ์เองนั่นแหละที่ประพฤติผิดพระธรรมวินัย ไม่อยู่ในศีลในธรรม จึงเป็นเหตุที่มาของการเสื่อมศรัทธา ขณะนั้นมีพระสงฆ์อยู่จำพรรษาอยู่เพียง ๑ รูป ท่านเป็นพระที่อายุอานามก็มากพอสมควร ท่านเป็นพระที่ดื่มสุราเป็นนิจ แทบจะทุกวัน แล้วท่านก็ไม่ออกบิณฑบาตร ไม่ทำการอันใดที่เป็นกิจของสงฆ์เลย แรกๆๆชาวบ้านก็ไม่ว่าอะไรท่าน (คอยดูไปก่อน เหตุเพราะอาบัติ ปราจิตตรี ปลงอาบัติย่อมสำเร็จ) แต่นานเข้าบ่อยเข้า โลกย่อมติฉินนินทาว่าไม่เหมาะสมแก่สมณะรูป ชาวบ้านจึงพากันไปนิมนต์เพื่อให้ท่านไปจำพรรษาที่อื่น ถ้ายังไม่สามารถงดดื่มเหล้าได้ ปัจจุบันทราบท่านลาสิกขาบทแล้ว ตราบจนบัดนั้นมา สำนักสงฆ์แห่งนี้ก็ไม่มีพระภิกษุรูปใดมาอยู่จำพรรษาอีกเลย จนปัจจุบัน ประกอบกับในหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านเล็กๆๆ ประชากรมีไม่มาก ประมาณ เกือบจะ ๓๐ หลังคาเรือน เห็นจะได้ กิจนิมนต์ย่อมไม่มีเลยถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาล จึงไม่มีพระรูปใดอยากจะมาอยู่ วันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๓ ที่ผ่านมานี้ (วันที่เดินทางมาอยู่) เดิมทีอาตมาภาพจำพรรษาอยู่ที่ วัดใหม่สามัคคี (บ้านลำคันฉูเก่า) ซึ่งอยู่ไกลออกไปจากที่ราวๆๆ ๑๐ กิโลเมตร ทราบดีอยู่แล้วว่าที่นี่นั้น ร้างมานานไม่มีพระภิกษุสงฆ์รูปใดมาจำพรรษาที่นี่ ที่ไม่มาแต่แรกนั้น เพราะช่วงนั้นจำพรรษาอยู่กับครูบาอาจารย์ จึงช่วยท่านสร้างวัดเช่นกัน ชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้นั้น รู้จักมักคุ้นกับอาตมาภาพอยู่บ้าง เนื่องจากเคยไปนิมนต์มางานบุญอยู่บ่อยๆๆ จึงได้รวมตัวกันนิมนต์อาตมาภาพมาอยู่จำพรรษาที่นี่ ซึ่งทางครูบาอาจารย์ของอาตมาภาพท่านก็เห็นดีด้วย ไม่อยากให้สำนักสงฆ์แห่งนี้ต้องร้างอีกต่อไป จึงอนุญาต อาตมาภาพก็เห็นดีเมื่อชาวบ้านอยากให้มาอยู่และพัฒนาที่นี่ใหม่ ชาวบ้านก็ไปช่วยขนสัมภาระ มากันยกใหญ่เลยทีเดียว (ก็ไม่มีอะำไรมาก) นี่แหละคือสาเหตุทั้งหมดที่มาอยู่และพัฒนาที่นี่ แล้วชื่อวัดนี้ พระสงฆ์ที่ถูกชาวบ้านขับออกไปนั้นท่านก็ตั้งชื่อขึ้นมาเองโดยไม่ปรึกษาหารือกับชาวบ้านหรือเจ้าคณะอำเภอ แต่ถ้าตามจริงแล้วท่านเจ้าคณะอำเภอจะระบุว่าเป็นสำนักสงฆ์หน้าเขื่อน จนกว่าจะจดทะเบียนเป็นทางการให้เป็นวัดหน้าเขื่อน ต่อไป จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 10:02:48

ความคิดเห็นที่ 63 หลวงพี่เล่าให้ฟังว่า ครั้งแรกที่เข้ามาก็คิดหนักมาก เข้ามา ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๓ พระรูปอื่นเขาไม่เห็นอยากจะมาอยู่เลย สำนักสงฆ์ร้างมานาน กุฏิก็ไม่มีจะอยู่ ห้องน้ำก็ชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก นั่งคิดอยู่นานพอสมควร แต่คิดไปคิดมาชาวบ้านเขาก็ดีกับเราทั้งนั้น อยากให้เรามาอยู่ที่นี่จริงๆๆ อย่างน้อยก็อยากจะทำบุญ เราก็คิดเลยละ่ว่า เราต้องทำให้ได้ทำเพื่อศาสนา ขัดเกลากิเลส สั่งสอนชาวบ้านให้เข้าถึงธรรม จะได้มากหรือน้อยก็ยังดี ที่ได้ลงมือทำ มาพูดถึงเรื่องเสนาสนะก่อนเลยนะ เข้ามาครั้งแรก กุฏิสงฆ์ก็พังชำรุดหมดเลย มีอยู่แค่ ๒ หลังเท่านั้น เป็นหลังคาสังกะสีบ้าง หลังคามุงหญ้าบ้าง นอนก็ไม่ได้ (ช่วงนั้นเป็นหน้าฝนพอดี ถ้านอนก็คงเป็นเหมือนไก่เงาแน่นอน ก็มีศาลาอยู่หลัง ๑ ปัจจุบันเป็นหอสวดมต์ นั่งปฏิบัติกรรมฐานอยู่ทุกวัน เอาที่นี่แหละ กางกรต นอนที่นี่แหละเรา ยังไงก็คงไม่เปียกเวลาฝนตก จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 10:07:04

ความคิดเห็นที่ 64 ก็แปลกนะวัดร้างมานาน เรานอนไปหลายวันไม่มีอะไรมากวนเลย จนปัจจุบัน สงสัยท่านอยากให้เรามาอยู่เห็นจะได้มั้ง ที่นี่มาเล่าถึงเรื่องกุฏิสงฆ์ก่อน อยากจะให้ดูภาพ มันนอนไม่ได้จริงๆๆ หลายๆๆท่านเห็นแล้วคงจะนึกว่า เล้าไก่ เล้าเป็ด แต่นี่มันคือกุฏิพระจริงๆๆ ที่ร้างมานานมาก ย่อมผุพังตามกาลเวลา และเป็นเหตุผลที่อาตมาได้บอกบุญในครั้งแรกเลย แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 54 11:46:03 จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 10:08:18

ความคิดเห็นที่ 65 หลังจากนั้น เราก็คิดทำไงดีนะ จึงตัดสินใจบอกบุญทางเว็บพลังจิตและคุณโยมไข่หวานก็ช่วยเป็นสะพานบุญอีกทอดหนึ่งนี่แหละ ประกาศถึงความจำเป็นอย่างที่สุด สำนักสงฆ์ร้างขาดกุฏิพระจำพรรษา ไม่นานนักคณะศรัทธาผู้ใจบุญหลายๆๆท่าน ทั้งนอกเว็บ ในเว็บ ในประเทศไทย และต่างประเทศ ก็ได้ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดีที่สุด จนเราสามารถปิดยอดรับบริจาคได้อย่างรวดเร็ว และเริ่มก่อสร้างกุฏิขึ้นมาทีละหลัง ปัจจุบันนี้ เราสร้างไว้ จำนวน ๓ หลัง จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 10:09:39

ความคิดเห็นที่ 66 การก่อสร้างก็ทั้งช่าง ทั้งพระ ต่างก็ช่วยกันเป็นอย่างดีมาก (เราก็อยากให้เสร็จไวๆๆ) ก็สนุกนะที่ได้ทำ ผิดกับในครั้งแรกที่เข้ามาที่นี่ มานั่งคิดเราจะทำได้เหรอ ใครจะมาช่วยเรา ชาวบ้านก็มีไม่กี่หลังคาเรือน ส่วนใหญ่รับจ้างทั้งนั้น เรื่องปัจจัยในสิ่งก่อสร้างแทบมองไม่เห็นเลย แต่ปฏิหารก็เกิดนะ เราปิดยอดได้เร็ว ก็เลยก็สร้างกันทันที ชาวบ้านก็ช่วยเราดี เราก็บอกชาวบ้านว่าเราบอกบุญทางอินเทอร์เน็ดนะ จะได้สร้างวัดได้อีกทาง เผื่อผู้ใจบุญที่ไม่เคยมาเห็นวัด จะได้เข้ามาช่วยโดยง่าย จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 10:10:42

ความคิดเห็นที่ 67 อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ จากคุณ : ชอบแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 10:29:13

ความคิดเห็นที่ 68 ภาพขณะที่เรากำลังสร้างกุฏิกัน ก็สนุกนะ เพลินมากช่วงนั้น หายเหนื่อยเลยไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงที่ใหนมาทำกัน เราทำด้วยใจจริงๆๆ ชาวบ้านก็มาช่วยด้วยใจจริงๆๆ จึงเกิดความสามัคคีขึ้นอย่างย่อมๆๆ สร้างบุญร่วมกัน ย่อมได้รับบุญกันถ้วนหน้า จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 11:56:08

ความคิดเห็นที่ 69 มีบางวันฝนก็ตกเราก็ไม่หยุดก็มี อยากให้สำเร็จไวๆๆ เห็นความสำเร็จในขั้นแรกแล้วก็ดีใจมากๆๆ กุฏิเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่พระเราๆๆจะใช้สำหรับจำวัด จำพรรษา เร่งกันยกใหญ่ มีเหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่สั้นๆๆ แต่พอผลงานสำเร็จลงแล้ว เหมือนยกภูเขาออกไปหลายลูกเลยทีเดียว วัดก็ร้างมานาน ผ้าป่า กฐิน ก็ไม่เคยมี ปัจจัยไม่มีเลยแม้สักแดงเดียว ก็มีผู้ใจบุญหลายๆๆท่านนี่แหละ ที่คอยช่วยเหลือมาโดยตลอด อาตมาภาพต้องขออนุโมทนามายังผู้ใจบุญทุกๆๆท่านที่ร่วมช่วยเหลือมาตั้งแต่ต้นด้วยใจจริง จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 11:57:55

ความคิดเห็นที่ 70 นี่ก็คือผลลัพท์ ที่เราเหนื่อยกันมา เป็นรูปธรรมที่สามารถสัมผัส จับต้องได้ แม้จะเหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง แต่พอเสร็จแล้วมีความสุขลึกๆๆจริง ท่านทั้งหลาย เราใช้เวลาบุกเบิกที่นี่ไม่นาน เราเอากำลังใจจากทุกท่านมาเป็นที่ตั้ง มาเป็นแนวทาง และตั้งใจจริง ความสำเร็จย่อมอยู่ไม่ไกลอย่างแน่นอน พระพุทธองค์ท่านเจออุปสรรค์มามากต่อมาก ท่านยังเอาชนะมาได้ทุกอย่าง เราเป็นเพียงแค่เศษธุรีในบวรพระพุทธศาสนาเท่านั้น ขอแค่ตั้งใจจริง ไม่นานย่อมเห็นผลลัพท์แน่นอน สาธุๆๆ จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 11:59:02

ความคิดเห็นที่ 71 เรื่องน้ำดื่มน้ำใช้ทางสำนักสงฆ์ ก็ยอมรับว่าขาดแคลนเช่นกัน เราใช้น้ำฝนในทุกอย่าง บางครั้งน้ำหมดก็ต้องสั่งซื้อน้ำมาใช้บ้างก็มี ปัจจุบันเราเดินท่อปะปามาจากในหมู่บ้านแล้ว แต่เป็นปะปาที่สูบน้ำมาจากบาดาล ในช่วงหน้าแล้ง น้ำก็แห้งไม่ไหลเลยก็มี ก็ต้องประหยัดกันไป อันใหนพอใช้ก็ใช้อันใหนพอที่จะประหยัดก็ประหยัด คุณโยมในหมู่บ้าน นำทีมโดยผู้ใหญ่บ้านมาช่วยกันเทพื้นปูน บริเวณหลังครัวเพื่อขยับโอ่งน้ำมาไว้รอน้ำฝน เพื่อใช้ดื่ม เพื่อใช้ ความสามัคคีเกิดขึ้นอีกแล้ว ไม่นานนักโอ่งที่มีขนาดใหญ่และหนักเอาการก็ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ เพื่อกักเก็บน้ำฝนไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง เราต้องขออนุโมทนาขอบคุณมายังชาวบ้านทุกท่านที่ร่วมช่วยกันจนสำเร็จโดยเร็ว จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 12:00:04

ความคิดเห็นที่ 72 เราเริ่มเข้ามาที่นี่ไม่นานคุณโยม เป็นเรื่องธรรมดาต้องเหนื่อยกันบ้าง การบุกเบิก พัฒนาใหม่นั้น เราต้องเริ่มต้นนับ ๑ ๒ ๓... กันใหม่เลยทีเดียว อะไรที่พอทำได้ สละได้แม้ความสุขความสบายส่วนตนก็ยอม เพราะเราอุทิศตัวแล้ว ไม่ว่าอย่างไงก็ต้องทำเพื่อผลบุญในภาคหน้า บุญนั้น... ไม่ใช่จะทำกันง่ายๆๆนะ ถ้าเราทำแล้ว จิตของเรายังคงนึกถึงสิ่งที่เราทำไป เสียดายอยู่อย่างนั้น แม้จะทำด้วยปัจจัยที่มากมาย อย่างไรผลบุญย่อมไม่เกิดแน่นอน สู้เราตักบาตรแม้เพียงข้าวสวย เพียงช้อนเดียว ทัพพีเดียว ผลบุญย่อมมากมายหลายเท่านัก อะไรที่เราพอทำได้ ก็จงทำ ถ้าไม่เริ่ม ย่อมไม่มีวันสำเร็จแน่นอน ทื่เห็นนี้คือ โรงครัว จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 12:01:49

ความคิดเห็นที่ 73 ส่วนที่สำคัญอีกส่วนที่ต้องเร่งสร้างใหม่ คือห้องน้ำ เดิมทีห้องน้ำของทางสำนักสงฆ์ มีอยู่ ๒ ห้อง ซึ่งชำรุดใช้งานไม่ได้อยู่ ๑ ห้อง ก่อสร้างมานานมากแล้ว ผลของห้องน้ำที่ชำรุด ทำให้ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน บางครั้งต้องยืนรอกันก็มีมาแล้ว เราจึงประกาศบอกบุญออกไป ผลที่ได้รับ ผู้ใจบุญหลายๆๆ ท่านได้ให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดีเยี่ยม ปัจจุบันห้องน้ำหลังใหม่ ทางสำนักก่อสร้างเพิ่มเติมเป็น ๖ ห้องด้วยกัน เพื่อจะได้เพียงพอต่อการใช้งาน ห้องน้ำเก่าที่มีอยู่เดิม ๒ ห้อง ชำรุด ๑ ห้อง แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 54 12:03:01 จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 12:02:32

ความคิดเห็นที่ 74 เราประกาศบอกบุญไป ถึงความลำบาก ความต้องการที่จะก่อสร้างห้องน้ำเพิ่มเติม เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานในอนาคต ท่านรู้ใหมคนไทยนี้ มีจิตใจที่งดงามมาก ช่วยเหลือกันได้เสมอยามเดือดร้อน ทุกข์ร้อน ขณะนี้ทางสำนักก็ปิดยอดรับบริจาคไปแล้ว อยู่ในขั้นตอนกำลังเร่งก่อสร้างอยู่ ขณะนี้ก็คืบหน้าไปมาก ไม่นานก็จะสำเร็จแล้วจ๊ะ ขออนุโมทนาบุญมายังทุกๆๆ ท่านที่ร่วมช่วยเหลือ สนับสนุนมาโดยตลอด ขอให้ทุกท่าน หมดทุกข์ โศก โรค ภัย ทุกคนทุกท่านด้วยเทอญ สาธุ ห้องน้ำที่สร้างเพิ่มเติม จำนวน ๖ ห้อง จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 12:04:01

ความคิดเห็นที่ 75 โรงครัวก็เป็นสิ่งที่สำคัญนะ สภาพจากที่เข้ามาในครั้งแรก มองไม่ออกเลยว่า "นี่คือโรงครัว" มันเหมือนเล้าไก่ซะมากกว่า ยิ่งถ้าไม่มี เตา หม้อ จาน ชาม หรืออุปกรณ์ประกอบอาหาร คุณโยมต้องมองไม่ออกแน่ๆๆ ว่าเป็นโรงครัว ดูจากสภาพที่ก่อสร้างมานาน โครงหลังคาที่เป็นสังกะสี ก็โดนลมพายุพัดจนสังกะสีปลิวหายไปหลายแผ่น ฝากั้นที่เป็นไม้ไผ่ ตัดจากในบริเวณสำนัก ก็ผ่านแดด ฝนมานานย่อมผุพังตามสภาพ คุณโยมเชื่อใหม แม่ไก่ก็เคยไปออกไข่ในตู้กับข้าวมาแล้วนะ มีลูกดกด้วย มันคงจะคิดว่าเป็นเล้าไก้มั้ง อดีตที่น่าจดจำ เป็นแรงผลักดันให้พัฒนาต่อไป จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 12:04:37

ความคิดเห็นที่ 76 โครงการนี้ ก็เป็นอีกโครงการที่กำลังก่อสร้าง ไม่นานคงจะสำเร็จแล้วจ๊ะ ด้วยน้ำใจจากผู้ใจบุญหลายๆๆ ท่านให้การช่วยเหลือ และเล็งเห็นว่าเราสร้างๆๆ ทำจริงๆๆ สิ่งก่อสร้างที่เกิดขึ้นมาใหม่ทั้งหมดนี้ เราเอาอะไรติดตัวเราไปไม่ได้เลยซักอย่างเดียว จักฝากไว้เพื่ออนุชนรุ่นหลังจะได้ใช้งานต่อไป บรรดาชาวบ้าน ผู้ที่มาทำบุญ หรือปฏิบัติธรรมที่สำนัก จะได้ใช้งานอย่างแน่นอนผลบุญแห่งอานิสงส์นี้ ท่านทั้งหลายจะมีกินมีใช้อย่างไม่ขาดมือเลยจ๊ะ จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 12:06:47

ความคิดเห็นที่ 77 ขออนุโมทนาบุญมายังคณะศรัทธาทุกๆๆท่าน ที่ร่วมบุญสร้าง "องค์พระสีวลีโชคลาภ" ถวายแก่ สำนักสงฆ์หน้าเขื่อน จ.ชัยภูมิ ขณะนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 54 13:26:19 จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 12:09:25

ความคิดเห็นที่ 78 ภาพสวยค่ะ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ จากคุณ : มด2002 เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 21:39:57

ความคิดเห็นที่ 79 อนุโมทนาครับ คุณไข่หวาน และ ทุกๆท่าน จากคุณ : ปันน้ำใจ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 22:04:07

ความคิดเห็นที่ 80 อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ จากคุณ : เป็ดน้อยสีขาว เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 10:24:57

ความคิดเห็นที่ 81 สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ จากคุณ : AliceTM เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 15:44:18