ความคิดเห็นที่ 1 จริงๆแล้วอานาปานุสสติกรรมฐาน การกำหนดรู้ลมหายใจนี่เขาแนะนำกันให้ทำทั้งวันนะ ยิ่งตอนนอนนี่ยิ่งดีมาก นอนกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกไปด้วย ทำใหม่ๆจะพบว่าทำแล้วนอนไม่หลับ ไม่เป็นไรนะ ทำพอจิตสงบอารมณ์สบายก็ค่อยคลายอารมณ์ลง แป๊บเดียวหลับเลย พอทำชินๆแล้ว จิตทรงสมาธิได้ดีทีนี้มันหลับเองเลย จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 12:21:30

ความคิดเห็นที่ 2 ตราบใดยังไม่ถึงจุดหมาย อย่าว่าแต่ตอนหลับเลยครับ ตอนตื่นกิเลสก็มาครับ ปล่อยครับ ปฏิบัติกลับมารู้สึกตัว คิดไปแล้วเผลอไปแล้วอย่าต่อหางอารมณ์และความคิดครับ จากคุณ : 17247c เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 12:23:22

ความคิดเห็นที่ 3 ขอรบกวนนะครับ แล้วกลางวัน มันไม่ผุดขึ้นมาให้เห็นหรือครับ จากคุณ : norapob เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 13:23:49

ความคิดเห็นที่ 4 บางครั้งมันก็มีเผลอบ้างเป็นธรรมดาครับ หากเผลอตามความคิดหรือกิเลสไม่ทันก็ขอให้กำหนดรู้ เราจะกำหนดว่ารู้ว่าคิด หรือรู้ว่าโกรธ เกลียด ก็ขอให้รู้ว่าได้เกิดขึ้นแล้วก็ได้ดับไปแล้ว หรือยังคงอยู่ก็กำหนดไปจนกลับมาที่ลมหายใจก็ดีครับ จากคุณ : goodfriday เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 13:33:46

ความคิดเห็นที่ 5 นอนเจริญสติ ซิค่ะ หัดไว้ จากคุณ : honeybfit เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 13:39:24

ความคิดเห็นที่ 6 เก่งนะ  พิจารณาในตอนนอนด้วย  เคยอ่านพระสูตร พระพุทธเจ้าท่านให้ตั้งสติก่อนนอนไว้ว่าเราจะไม่หลงแม้กระทั่งนอน ความจริงแล้วไม่มีอะไรมากไปกว่า  ทำให้มาก  มีสติให้มาก   เมื่อทุกอย่างมากแล้ว  แม้แต่นอน  หรือแม้แต่จิตรับรู้อารมณ์นิดเดียว คุณจะไม่หลงลืมสติ  แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะอยากได้แล้วลอยมา ได้มาจากหยาดเหงื่อและแรงงาน  การทุ่มเทกายและใจ  ประกอบความเพียร สติจะเกิดหรือไม่นั้น  ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร แต่สร้างเหตุใกล้ให้เกิดได้  โดยการประกอบความเพียรเสมอๆคะ จากคุณ : goodsthailand เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 13:57:03

ความคิดเห็นที่ 7 ท่าทางจะบังคับจิตมากไป พอกลางคืนหมดแรงบังคับ มันเลยกระโดดโลดเต้นใหญ่ จากคุณ : msdossys เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 14:41:41

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นเหมือนกัน ตอนกลางวันไม่เคยคิดสักกะนิด พอนอนดันฝันลามกซะงั้น จากคุณ : Salsera ดีเจ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 14:47:30

ความคิดเห็นที่ 9 แนะนำให้เจริญสติไปเลย คิดอะไรที่อกุศล ให้พิจารณาว่าจิตคิด จิตไม่ใช่ตัวเรา เราจึงควบคุมไม่ได้ จากคุณ : snoopy21 เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 16:50:00

ความคิดเห็นที่ 10 นั่งสมาธิ ก่อนนอนครับ นอกจากจะไม่ฝันแล้ว ยังตั้งเวลาปลุกได้อย่างแม่นยำด้วย จากคุณ : กันดั้มตัวนี้สีชมพู เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 18:27:03

ความคิดเห็นที่ 11 ผมว่าคุณก็รู้ตัวดีนี่ครับ ตามรู้ได้ว่ากิเลสมันผุด เพียงแต่ว่าคุณพามันไปฟุ้งต่อ รู้แล้วก็วางไว้แค่นั้นแหละครับ จากคุณ : จะมาเอาอะไรกับโผ๊มมมมม เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 18:44:10

ความคิดเห็นที่ 12 เป็นเหมือนกันเลยค่ะ คงเป็นเพราะจิตมันพาเราไป ตอนหลับไม่มีสติมากำกับทำให้สัญญาสังขาร คือความทรงจำและความคิดปรุงแต่งมันมาครอบงำจิตเราได้ คิดว่ากำลังสมาธิน่าจะอ่อนไป บางคนที่ฝึกสมาธิหนัก เขาถึงขั้นควบคุมความฝันได้เลยนะคะ แบบว่ารู้ตัวเลย ว่ากำลังฝันอยู่ เหมือนในหนัง inception เลยล่ะค่ะ พระอาจารย์มิตซูโอะท่านก็เคยฝึกหนักถึงขั้นทำเนสัชชิก คือไม่นอนเลย จะนอนเฉพาะที่จำเป็น ทำให้ขณะหลับ ไม่เกิดความฝันขึ้น และท่านยังแนะด้วยว่า ถ้าทำสมาธิ ถึงขั้นลึก จะเหมือนเราได้นอนหลับพักผ่อนไปเลย บางคนหลับเป็นสิบชั่วโมงก็ยังรู้สึกเหนื่อยเพราะฝันทั้งคืน แต่บางคนหลับแค่4-5ชม.แต่ไม่ฝันเลยก็รู้สึกกะปรี้กะเปร่ามากกว่า ทั้งนี้ขึ้นกับคุณภาพของการนอนหลับ และสมาธิของเราด้วยนะ จากคุณ : หมาชายหาด เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 18:44:33

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วยกับคุณmsdossys นะ สงสัยจะอย่างนั้น.. กลางวันคุมได้ดี เลยมาพลุ่งพล่านตอนกลางคืน ทำได้สองอย่าง อย่างแรก ก็ทำให้มีสติต่อเนื่องไปจนถึงตอนกลางคืน ทำให้ได้ตลอดสายไปเล้ย.. จิตมีกำลังตั้งมั่น กิเลสก็เป็นแค่เศษฝันเท่านั้น.. อย่างที่สอง ก็นอนไปตามปกติ ไม่ต้องไปสนใจมันมาก.. มันจะดิ้นรนอะไรก็ช่างมัน ไม่เกี่ยวกับเราซะหน่อย.. ทำใจยอมรับว่ามันเป็นธรรมดา ไอ้ที่พลุ่งพล่านน่ะมันธรรมดา แต่มันไม่ใช่เราหรอก.. กิเลสก็ส่วนกิเลส  มันมาทำอะไรเราไม่ได้ตอนกลางวัน มันก็เลยมาหาเรื่องตอนกลางคืน มันก็เหมือนความฝันนั่นแหละ.. ทำจิตให้ตื่นเข้าไว้ กิเลสอะไรมันก็แค่ความฝันเท่านั้นเอง.. จะหัวเราะเยาะมันสักหน่อยก็ได้นะ...  ตอนตื่นทำไรคุณไม่ได้ เลยมาลักหลับ.. 5555 เราเคยสู้กับกิเลสตัวนึง มันชอบย่องมาลักหลับอย่างนี้แหละ..เพราะมาตอนตื่นไม่ได้ แรกๆ ก็ตกใจ ใจตก วิตกจริต  แต่โดนบ่อยๆ ก็เริ่มชิน..  วันที่ผ่านได้ คือวันที่ตื่นขึ้นมาแล้วเฉยๆ ไม่ยินดียินร้ายกับมันเลย.. ไม่ชายตามองเลยด้วย.. อยากจะฝันก็ฝันไปสิ.. ตูไม่บ้าด้วยหรอก..ตูรู้ทันเมิงแล้ว.. วันนั้นแหละ..ที่สอบผ่าน จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 20:35:38

ความคิดเห็นที่ 14 [๓๐] ดูกรมหานาม อย่างไร อริยสาวกจึงจะชื่อว่าเป็นผู้ประกอบความเพียรเครื่องตื่น อริยสาวกในพระธรรมวินัยนี้ เวลากลางวันชำระจิตให้บริสุทธิ์จากธรรมเครื่องกั้นจิต ด้วยการเดิน การนั่ง เวลากลางคืน ในปฐมยาม ชำระจิตให้บริสุทธิ์จากธรรมเครื่องกั้นจิต ด้วยการเดิน การนั่ง เวลากลางคืน ในมัชฌิมยาม สำเร็จสีหไสยาสน์โดยข้างเบื้องขวา ซ้อนเท้าเหลื่อมเท้า มีสติสัมปชัญญะ มนสิการสัญญาในอันที่จะลุกขึ้น เวลากลางคืน ในปัจฉิมยาม ลุกขึ้นแล้ว ชำระจิตให้บริสุทธิ์จากธรรมเครื่องกั้นจิต ด้วยการเดิน การนั่ง ดูกรมหานาม อย่างนี้แล อริยสาวกชื่อว่าเป็นผู้ประกอบความเพียรเครื่องตื่น. จากคุณ : ยัยก้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 00:01:26

ความคิดเห็นที่ 15 ท่านพุทธทาส เสนอไว้ว่า (จากความจำ) -- สุนัข กัด ไม้ ที่เหย่  แต่ เสือ กัด คนถือไม้ -- ปัญหาใด ในสมัยใดนั้น จึง สมควร แก้ ที่ ต้นเหตุ เสมอ อีกทั้ง อุปกิเลส คือ ราคะ โทสะ โมหะ  (ตามพระพุทธภาษิต จูฬทุกขักขันธสูตร) กับ กิเลส คือ ราคะ โทสะ โมหะ ชาวพุทธ -- เข้าใจ ว่า เหมือน หรือ ต่างอย่างไร? (ตาม ปริยัติธรรม ตามที่ตรัสไว้)นั่นแหละ และ เมื่อ คนเรา ที่ยัง "เคยชิน กับ อุปกิเลส" = ยังมี กิเลส (ใช่หรือไม่) ก็ ยังเนื่องกับ อิริยาบท ๔ คือ ยืน เดิน นั่ง นอน เป็น วิสัยธรรมดา ฯ เมื่อ กำหนด รู้รอบ (ตามข้างบน  กำหนดได้ว่า เหมือน -ต่างกับ คำว่า -- เวลานอนหลับทำยังไงดี กิเลสผุด ?? อย่างไร) ได้เองแล้ว ที่ถามในกระทู้ว่า --- หรือว่าไม่ต้องทำอะไร ดิฉันคิดมากไปเองรึเปล่า เวลานอนเราควรปล่อยไปตามปกติ ? ท่านเอง  ก็ จะ  "รู้ได้เองว่า"  อ้อ ----- เช่นนี้เอง ------- จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 07:12:11

ความคิดเห็นที่ 16 จะมาเพลี่ยงพล้ำก็อีตอนจะนอนหลับนี่แหละ กิเลสมาเลย ฟุ้งซ่าน ระยะหลังๆนี่กำหนดได้เลยไม่ค่อยจะมา จากคุณ : ดาวสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 21:57:14