ช่วงที่ผมเข้าร่วมสามัคคีธรรมที่คริวตจักรความหวังที่ออสก้า เวลาประชุมกลุ่มย่อยคริตจักรจีนช่วงบ่าย เรามีการถกกันค่อนข้างจะซีเรียจในเรื่องการถวายสิบลด ว่าจะหักสิบ%ที่รายได้จุดไหน ก่อนหักณ ที่จ่าย หรือหลังหักณ ที่จ่าย กลุ่มที่ให้ความเห็นหักสิบลดก่อนหัก ณ ที่จ่ายส่วนใหญ่ค่อนข้างจะมีรายได้ดี ส่วนที่มีความเห็นว่าให้หักสิบลดหลังจากเคลียร์ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นประจำแต่ละเดือนนั้นส่วนใหญ่จะยากจนซึ่งรวมผมอยู่ด้วย แต่เนื่องจากผู้มั่งมีมีเสียงที่ดังกว่า จึงสรุปควรหักที่รายได้เบื้องต้นเลย ตั้งแต่ช่วงนั้นเป็นต้นมา ทำให้ผมเริ่มไม่ชอบคนคริสเตียนที่ร่ำรวย....
ความจริงเรื่องการหักสิบลดนั้น พระเจ้าประทานให้ทุกคนปฏิบัติก่อนที่จะมีการใช้เงินแทนมูลค่า ซึ่งสมัยก่อนที่มีเงิน/ทองแทนมูลค่าเกิดขึ้น ทุกคนจะทำไร่ เลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็ยผลิตผลที่ยังไม่มีค่าเป็นเงินทองเหมือนสมัยนี้ ทุกคนที่มีผลผลิตที่เพิ่มขึ้น จึงพากันถวายสิบลดตามส่วนที่เพิ่มขึ้นของแต่ละผลผลิตได้โดยไม่ค่อยมีปัญหา
ส่วนสิบลดที่ได้รับการถวายจะถูกเก็บเข้าคงคลังของพระเจ้าเพื่อนำไปใช้จ่ายในยามที่จำเป็น นับว่าเป็นวิธีออมที่ช่วยสังคมได้มากในขณะนั้น
อย่างไรก็ตาม หลังพระเยซูคริสต์เข้ามาเติมให้พระบัญญัติของพระเจ้าสมบูรณ์มากขึ้น (ไม่ยกเลิก) ทำให้การถวายสิบลดของคริสเตียนเปลี่ยนไปเป็นการถวายที่ลอยตัว ไม่มีการบังคับ ทุกคนถวายได้ตามกำลังความสามารถของแต่ละบุคคลโดยห้ามเปิดเผยอีกด้วย ซึ่งเท่าที่ผมสัมผัสมาหลายๆที่ มีเพียงกลุ่มของพยานพระยะโฮวาที่ไม่มีการผ่านถุงถวายเลย ใครยินดีถวายสามารถนำทรัพย์ไปหย่อนเองในตู้ที่จัดไว้โดยเฉพาะ ซึ่งบริเวณที่ตั้งตู้รับการถวายก็ไม่อยู่ในจุดที่เด่นชัดต่อสายตานัก แต่ก็ปลอดภัย...
โบสถ์ที่ผมอยู่ สุดท้ายก็ยอมเข้าใจเรื่องสิบลด
