ความคิดเห็นที่ 1 แล้วจะห้ามคนมาถามได้มั๊ย ไม่น่าจะได้นะ....ไม่ได้เปนเจ้าของ pantip ก็มีกันคนละอมยิ้ม  มีสิทธิเท่ากัน จะถามก็ได้  จะตอบก็ได้  ไม่มีใครไปบังคับ  ให้ต้องมาถาม  หรือจะต้องมาตอบนะ อยากตอบก็ตอบ...ไม่อยากตอบก็ไม่ต้องตอบ....ก็แค่นั้น จากคุณ : starting_over เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 05:35:20

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วคำถามล่ะ....อันไหนปัญญาอ่อน...อันไหนสำคัญ ....แล้วใครจะฟันธงล่ะ...พี่น้องเอ้ย แต่ละคนมองโลกต่างกัน...บางเรื่องของคนหนึ่ง...เขาคิดเขาเห็นว่ามันสำคัญ คนอื่นจะไปบอกว่าปัญญาอ่อนได้ไง...มันคนละคน...คนละสถานการณ์กัน ม่ายงั้น..ตรรกะนี้....อาจมีใครมาเห็นว่า  ไอ้พวกหมอดูนี่มันดำเนินชีวิตปัญญาอ่อนจริงๆ แถมบางคนมีความรู้เท่าหางอึ่ง...ดันมองตัวเองเป็นเทวดาเจ้าเข้าทรงไปแล้ว มาตอบกระทู้นิด...ต้องให้คนถามมากราบแทบเท้ากันเชียวหรือ  555 ข้างบนนั่น....แค่สมมุตินะครับ....สมมุติครับ จากคุณ : starting_over เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 05:41:12

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนตัวผม...ไม่ชอบกระทู้ถามดวงครับ แต่ผมก็แค่ไม่อ่าน...ไม่สนใจอะไรมาก  ยกเว้นบางกระทู้ที่ประเด็นแปลก ผมชอบกระทู้..ความรู้แปลกๆของคุณ พยัคฆ์น้อย ของคุณ ภะวันตุเม ที่เอาอะไรแปลกๆที่ไม่ได้คิดมาให้อ่านบ่อยๆ บางอันอ่านแล้วถึงบางอ้อ...อย่างนี้นี่เอง จากคุณ : starting_over เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 05:47:32

ความคิดเห็นที่ 4 ท่านเองก็หนีดวงไม่พ้นนะ ดวงชี้นำลากจูงท่านมาตั้งกระทู้ด้วยเช่นกันครับ เพราะ... 1. เวลา 05.15 - 06.27 น. ที่ท่านมาตั้งกระทู้ (วันสุริยุปราคาราศรีมิถุนซะด้วย) เป็น "ราศรีมิถุน" ดังนั้นท่านคงมีดวงอะไรสักอย่างไปเกี่ยวข้อง กับราศรีนี้ หรือเกี่ยวข้องกับพุธ(4) หรือเกตุ(9) ครับ จริงๆ ทั้งพุธ, เกตุ เป็น ตัวแทนแห่งการสื่อสารและปัญญาอยู่แล้ว การที่ท่านมาตั้งกระทู้เชิงให้คิด แถมมี หลากหลายแนวคิดนี้ก็เหมาะสมกับราศรีมิถุนในห้วงเวลาที่ท่านมาตั้งกระทู้นี้ดีครับ 2. ยามอัฏกาล 04.30 - 05.59 น.วันพฤหัสบดี(ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเช้าวันศุกร์) เป็น "ชีโว(พระพฤหัสบดี)" ซึ่งเกี่ยวข้องกับศาสนา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ การศึกษาเรียนรู้ แต่...มักจริงแค่ครึ่งเดียว ...ส่วนสิ่งที่ท่านว่าข้อมูลผม "แปลกๆ"  ก็เพราะท่านยังไม่ได้เรียนรู้นะครับ ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด แต่เมื่อไม่รู้ก็อย่าเพิ่งหมิ่นวิชาที่ไม่รู้ ไม่งั้นปัญญาไม่เกิดครับ คุณ starting_over อาจเข้าใจผิดตรงที่ผมได้ "คิด" ก่อนเขียนเสมอครับ... +_+ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 54 06:32:37 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 54 06:28:07 จากคุณ : วป.มิ้ม (มิ้มเฒ่า) (ภะวันตุเม) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 06:18:07

ความคิดเห็นที่ 5 อือ.... ผมชม...ทำไมถึงอ่านเปนติ แปลกๆ....หมายถึง...ไม่ธรรมดา...out of ordinary หมายถึงข้อมูลที่คนอื่นไม่รู้ เขามาอ่านของคุณแล้วถึงบางอ้อ มันหมิ่นตรงไหน ผมชมคุณด้วยความเป็นมิตร...ดันมาชวนทะเลาะ...เวรกรรมจริงๆ จากคุณ : starting_over เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 06:57:29

ความคิดเห็นที่ 6 ไหนๆ...เมื่อชมแล้ว...มาชวนทะเลาะ งั้นเรามาทะเลาะกันสักตั้งก็แล้วกันครับ คุณสังเกตุมั๊ย...ว่าคุณเองก็ฉลาด...ฉลาดมากด้วย คุณรู้อะไรๆหลายอย่างที่คนอื่นไม่รู้ แต่ทำไมมีหลายอมยิ้ม...ไม่ชอบคุณ...บางคนเกลียดคุณเลยด้วยซ้ำ ทั้งๆที่คุณเอาความรู้ดีๆมาแปะอยู่เรื่อยๆ ตอบกระทู้คุณก็ตั้งใจชอบ ทำไมดวงเป็นงั้นครับ.... จากคุณ : starting_over เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 07:02:34

ความคิดเห็นที่ 7 ผม...คิดก่อนพิมพ์ครับ คิดสามชั้นด้วยซ้ำ มาลองทะเลาะกันดูครับ รับรองว่าคนอื่นไม่กล้ามาตอบกระทู้นี้ ไม่ช่วยทั้งคุณทั้งผมครับ  555 จากคุณ : starting_over เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 07:05:00

ความคิดเห็นที่ 8 อยากอ่านอะไรๆที่ น่าอ่าน Don't live another day without knowing   และช่วงนี้ สนใจแนว nature psychic หรือสัญชาติญาณของการเอาตัวรอดของมนุษย์ที่ผ่าน nature psychic  โดยหันสังเกตจากปฏิกิรยาทาง "ร่างกาย" และ "ใจ"   - เป็นการปรับเปลี่ยน "มุมมอง" และนิยาม "perception" ใหม่ ก็จะเข้าใจมากขึ้น เพราะ ฝึกมวยจีนมาเกือบ30 ปี (ไม่ต้องเดาอายุนะค่ะ ฝึกตั้งแต่วัยรุ่น) ติดนิยามคำศัพท์คำว่า "ชี่" แบบที่เขาแปลกันทั่วบ้านทั่วเมือง จนกระทั่งมาเจอหลวงพ่อวิโมกข์และเหล่าซือ ที่มีอธิบายนิยามของคำว่า "ชี่" ใหม่ ในมุมมองใหม่ ทำให้เข้าใจมันมากกว่าเดิม อย่างที่มันเป็นธรรมชาติจริงๆ และทำให้เข้าใจเนื้อหา มวยจีนด้านพลังมากขึ้นและเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม  - และเบื่อ คำถามเดิมๆ แถมไม่มีความสุขที่จะตอบ ยกเว้นบางคำถามเท่านั้น ที่คนถามจะเดือดร้อน และต้องการทางเลือกในการคิดและตัดสินใจค่ะ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 54 09:25:09 จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 09:24:21

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นคนสนใจไพ่ทาโร เลยทำให้เปิดประตูมาสู่ความสนใจเรื่อง nature psychic  อาทิ - Intuitive Way - Power of Creativity - Perception - Remote Viewing ทำลังสังหนังสือมาอ่านหลายเล่ม   ขอยกตัวอย่างง่ายๆ ในหนังสือ Intuitive Way ผู้เขียนทำอาชีพออกแบบมาหลายตลอดอาชีพ ใช้เวลาเกี่ยวกับการออกแบบสัญลักษณ์ต่างๆ สี รูปทรง เสียง ที่ไม่ยุ่งยาก แต่มีผลกระทบกับจิตใจผู้รับฟัง ถ้าตามองเห็นสัญลักษณ์แบบนี้ สมองและใจที่มี "Perception" จะทำให้พวกเขารู้สึกอย่างไร คิดอย่างไร ในบางครั้งเราเห็นสัณลักษณ์ อาทิพระพุทธเจ้า เราจะรู้สึกสบายใจ นี้เป็นเรื่องของสัญลักษณ์กับPerception การรับรู้ของเรา ที่ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เราสะสมมา และตอบสนองกับจิตใจของเราอย่างอัตโนมัติ - Perception บางอย่างเกิดจากการสะสมความรู้ จนเป็นอัตตา เชื่อมัน ทำให้ไม่อาจจะเกิด Power of Creativity หรือ  Intuitive Way - แต่ Perception บางอย่างมาจากสัญชาติญาณที่ร่างกายพยายามจะบอกจิตใจ แต่บางทีจิตปัจจุบันที่มีอาจจะละเลย อาทิ ผู้เขียนยกตัวอย่าง ในงานสัมนา เธอพาคนสัมนามาเรียนในห้องที่ เพดานกดต่ำลงมาด้านหน้า แล้วถามผู้เข้าสัมนาว่า "รู้สึก" อย่างไร ให้ตอบตาม "ความจริงของความรู้สึก"     คนส่วนใหญ่ตอบว่า อึดอัด ไม่สบายใจ แต่ว่าด้วยงานสัมนาทำให้พวกเขาละเลยและทนนั่งเรียนได้ คล้ายๆกับเหตุการณ์ ในงานทดลองทางวิทยาศาสตร์ หาเหตุผลว่าทำไมคนถึงตายกันเยอะเมื่อเกิดภัย   ในงานทดลอง สมมติว่ามีภัยเช่น ไฟไหม้ หรืออื่นๆ บางคนจะรู้สึกได้ว่า ไม่น่าจะอยู่ในที่นี้ อยากจะออกไปข้างนอก แต่เห็นคนอื่นๆในห้อง ยังคงทำงานเป็นปกติ พวกเขาจึงบังคับตนเองหรือก็ไม่สนใจความรู้สึกนั้น ปล่อยให้ตนเองถูกความรู้สึกรวมของสังคมรอบข้างมีอิทธิพล การศึกษาดังกล่าว บ่งบอกว่า ความเป็นอยู่ของคนในสังคมมีผลต่อปฏิกิริยาการเอาตัวรอดในทางธรรมชาติ และทำให้มีผลในการออกแบบ วิธีรับมือหาเกิดภัยพิบัติ โดยเน้นฝึกพวกที่เป็นหัวหน้าห้อง หัวหน้าแผนกและการฝึกหน่วยกู้ภัย  กลับมาที่งานสัมนา เมื่อแต่ละคนบอกถึงความรู้สึกที่ไม่สบายใจ บางคนบอกเหตุผลได้ว่าเป็นเพราะ "เพดาน" และทางออกที่มีทางเดียวหรือประตู   นั้นเป็นเพราะ "ร่างกาย" กำลังส่งสัญญาณการเอาตัวรอด ว่าสถานที่ในห้องนี้เพดานกดต่ำเกินไป  อากาศไหลเวียนก็ไม่ดี และหากเกิดภัย อันตรายจะมาถึงเร็ว และหนีได้ช้า ห้องนี้ไม่เหมาะกับการนั่งเรียน   - สิ่งที่ผู้เขียนกำลังจะบอกคือการหัดกับมาดู "feeling" ที่เกิดกับ สัมผัส รส เห็น ได้ยิน ที่มีผลกระทบกับใจที่แตกต่างไปจากความรู้สึกปกตินั้น มันกำลังบอกอะไร หรืออาจจะไม่มีอะไรเลย หรือมีแต่เราไม่รู้ เราจะเข้าใจมันอย่างไร รับมือย่างไร และถ้ามีประโยชน์เราจะพัฒนามันอย่างไร โดยมีหลงทาง และต้องไม่เพิ่ม "อีโก้" ตนเอง เพราะมันจะทำให้หลงทางได้ง่ายๆ อะไรแบบนี้นะค่ะ จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 09:48:39

ความคิดเห็นที่ 10 ภาพสวยๆ เปิดประตูสู่ความรู้อันไพศาล จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 09:49:22

ความคิดเห็นที่ 11 หาวววววว ! จากคุณ : solo 356 เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 09:50:07

ความคิดเห็นที่ 12 ขอยกตัวอย่างเรื่อง Remote Viewing  เป็นโครงการณ์ที่ตอนนี้ไม่ลับของ CIA แล้ว โครงการนี้มีจุดเริ่มต้นสมัยฮิตเล่อร์ และเมื่อเกิดภาวะสงครามเย็นระหว่างรัสเซียกับอเมริกัน รัสเซียมีงานทดลองเรื่องสายลับพลังจิตก่อน และอเมริกาก็ตั้งโครงการณ StarGate เพื่อพัฒนาสายลับพลังจิต หนึ่งในนั้นคือ Remote Viewing - Remote Viewing  คือการแอบดูว่าชาวบ้านเขากำลังทำอะไร ในกรณีที่ดาวเทียมทางทหารไม่สามารถรู้ได้ว่าจะต้องถ่ายที่ไหน เพราะเราจะต้องป้อนพิกัดให้ จึงทำให้มีนัก viewer ผู้ดูของ Remote Viewing เป็นคนแอบมองว่า "เป้าหมาย" อยู่ที่ไห - โครงการณ์ Remote Viewing  ใช้งบประมาณหลายร้อยล้านเหรียญดอลล่าร์ในงานวิจัยจากทีมที่เจ๋งในโลก มาออกแบบ เพื่อตัดปัญหา eror ของจิตใจมนุษย์ที่เกิดจาก Perception การจดจำของสมองและ จิตปัจจุบัน ขอยกตัวอย่าง viewer ผู้ดูของ Remote Viewing ที่เป็นระดับต้นๆ จากงานทดสอบการแอบดูเป้าหมายทางไกล 100 ไมล์ ภาพที่เห็นนี้คือภาพที่ร่างขึ้น จากในห้องทดลอง จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 10:07:52

ความคิดเห็นที่ 13 และภาพนี้คือ ภาพของจริง ที่viewer ผู้ดูของ Remote Viewing ไม่เคยทราบว่าหน้าตาจริงๆเป็นอย่างไร จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 10:08:38

ความคิดเห็นที่ 14 ลองดูการสัมภาษณ์ของ Russell Targ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญ เรื่องRemote Viewing และเคยทำงานในโครงการณ์นี้ เขียนหนังสือด้วย กำลังให้สัมภาษณ์ Alan Steinfeld เกี่ยวกับ Remote Viewing ที่ใครๆก็สามารถทำได้ เพราะมันคือธรรมชาติของมนุษย์ จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 10:15:07

ความคิดเห็นที่ 15 นี้เป็นคลิปในยูทูป จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 10:15:57

ความคิดเห็นที่ 16 แทนที่รัสเซล จะตอบคำถาม กับให้อเลนทดลองใช้ Remote Viewing ให้ดูว่า "วัตถุ" ในกระเป๋าของเขานั้นมีหน้าตาอย่างไร คุณอเลนได้ ทดลองวาดภาพออกมา จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 10:24:53

ความคิดเห็นที่ 17 ภาพที่วาดสุดท้าย จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 10:25:22

ความคิดเห็นที่ 18 ส่วนของจริงคือภาพใบพัดโลหะขนาดเล็ก นี่เป็นการทดสอบครั้งแรกของคุณอเลน ที่ไม่ทราบเรื่องการตัดข้อeror ออกไป ในงานทดสอบนั้น เหล่า viewer จะต้องเรียนรู้เรื่อง feeling และ perception ที่มันขึ้นมาในใจ เพราะมันเป็นการทำงานของสมอง ยกตัวอย่าง - ในจิตใต้สำนึก ที่รับภาพมาแบบ 3D แต่จะต้องถ่ายทอดให้จิตปัจจุบันรู้นั้น มันจะผ่านสมอง - สมองมีรับภาพมา แล้วไปค้นข้อมูล ว่าภาพอะไรที่ใกล้เคียงที่สุด แต่มันจะมาพร้อมกับความหมายโดยอัตโนมัติ อาทิ สำหรับมือใหม่ที่จิต pop up ลวดลายแบบนี้ อาจจะทึกทักทันที่ว่า ดอกไม้ - ในการเรียน Remote viewing ก่อนจะวาดภาพนั้น เขาจะเรียนรู้หลายอย่างอาทิ อธิบายความรู้สึกว่า สิ่งนั้นเป็นวัสดุธรรมชาติ หรือไม่ใช่ เป็นต้น ในส่วนตัวของคุณรัสเซล เวลาให้สัมภาษณ์ที่ไร เขามักจะบอกว่า เขาสอนได้แต่ใช้ว่าจะเป็นมือหนึ่งใน Remote viewing แต่ที่ Remote viewing ให้คือการทำความเข้าใจเรื่องการทำงานของจิตใจ อธิบายที่ไร จะมีคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าไปด้วยเสมอ ในการอธิบายปรากฏการณ์เหล่านี้ จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 10:32:08

ความคิดเห็นที่ 19 คคห.2 ให้หลายกิ๊ฟได้หรือเปล่าครับ จากคุณ : bigjinbook เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 14:07:47

ความคิดเห็นที่ 20 เรียนคุณ starting_over 1. ผมไม่ได้ชวนทะเลาะกับท่าน ลองอ่านดีๆ ผมไม่ได้เขียนด่าท่านเลยแม้แต่ประโยคเดียว และ...โปรดอ่านดีๆด้วยว่าลงท้ายผมใส่เรื่องหมาย " +_+ " เพื่อให้รู้ว่าผมงงๆ และพูดฉันมิตรแนวแซวท่านเล่นเท่านั้น 2. จากรูปข้างล่างนี้ ข้อความที่ผมป้ายแถบสี ผมอ่านเป็นเช่นนั้นจริงๆ ก็ท่านเขียนเองว่า "แปลกๆ ที่ไม่ได้คิด" ผมก็ว่าผมอ่านภาษาไทยไม่ผิดนะว่ามีคำว่า   2.1 " แปลกๆ " กับคำว่า   2.2 "ไม่ได้คิด"   (ผมขอโทษนะครับ ถ้าเอาข้อความนี้มาย้ำ แล้วทำให้ท่านรู้สึกไม่ดี) แต่เมื่อดูจากท่านตั้งกระทู้ราศรีมิถุน และยามอัฏกาลเป็นดาวพฤหัสบดีแล้วผมก็เชื่อว่า ท่านไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร จึงเข้ามาเขียนอธิบายเป็นความรู้เสียมากกว่าเข้ามาด่าหรือมาชวนทะเลาะครับ ดูง่ายๆ ผมใช้คำสรรพนามแทนตัวคุณ starting_over ว่า "ท่าน" คือผมให้เกียรติ 3. สมัยวัยรุ่นผมเคยลุ่มหลงกับคำว่า "ฉลาด" จนเสพติดและมันทำลายผมจนแทบไม่เหลืออะไร ดังนั้นผมจึงไม่สามารถยอมรับคำๆนี้ได้ครับ ปัจจุบันผมเชื่อเรื่อง "พรแสวง" ครับ 4. เรื่องบางคนไม่ชอบผม ผมเฉยๆครับ เขาเกลียดเขาไม่ชอบก็ปล่อยเขาจมปลัก กับมโนทุจริตหรือจิตสีเทาของเขาต่อไป เพราะผมไม่ได้ทุกข์ร้อนด้วยเลย ในทางกลับกันผมไม่เคยโกรธเกลียดพวกเค้า ทั้ง...   4.1 ในความคิด หรือ   4.2 นำมาเขียนด่าแบบเป็นทางการ (หรือตั้งกระทู้ด่าเฉพาะกิจไปเลย) หรือ   4.3 anti ด้วยการไม่ยอมให้ gift ผมไม่เคยทำ สำหรับผมไม่มีฝ่ายซ้าย-ขวา ใครตอบดีผมก็ให้ Gift หมด ซึ่งบางคนก็เป็นคนที่คนอื่นคิดว่าเป็นคู่กรณีผม นั่นเพราะผมไม่เคยไปคิดโกรธ เกลียด เอาอะไรมาแค่ใน webboard จะถึงขนาดเกลียด หรือตั้งแง่ลบกันทั้งชาติ ผมว่าปัญญาอ่อน ทำตัวเป็นเด็กไปได้นะ บอกตรงๆ ผมไม่ดีแต่พูดแต่ทำไม่ได้อย่างที่พูดครับ 5. ....บางครั้งการโกรธ การไม่พอใจ มันแสดงถึง "ตัวตนที่แท้จริง" ของคนๆนั้น เช่นท่าน starting_over นี่ไง ท่านอ่านข้อความแล้วอนุมานว่าผมชวนท่านทะเลาะ (ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่) เลยทำให้ผมได้รู้ความจริงว่าใจลึกๆทั้งคิดกับผมยังไง เช่น   "แต่ทำไมมีหลายอมยิ้ม...ไม่ชอบคุณ...บางคนเกลียดคุณเลยด้วยซ้ำ" แบบนี้เหมือนนิสัยผู้หญิงครับ ไม่ก็ลุงแก่ๆประมาณไม้แก่ดัดไม่ได้ ที่ชอบเอาเรื่องเก่าๆ เอาประวัติมาตอกย้ำพูดแล้วพูดอีก ไม่ก็เก็บไว้ในใจ (10 ปีก็ต้องเป็นแบบนี้ตลอด) แต่...ก็ดี เพราะทำให้ผมได้รับรู้ว่าท่านคิดกับผมยังไง? 6. รู้จักคำว่า " Open " ไหมครับ? เป็นคำที่ฝรั่งชอบใช้กัน แต่คนไทยรับไม่ได้...   6.1 Open คือการมานั่งสุมหัวกัน(เช่นในหน่วยงานหรือเรื่องการทำงาน)  แล้วก็พูดกันตรงๆ เปิดอกไปเลย อะไรดีก็ว่าดี อะไรไม่ดีก็ว่าไม่ดี จุดประสงค์ให้สิ่งที่สุมหัวนั้น(เช่นเรืองงาน) ก้าวไปข้างหน้าได้   6.2 คนไทย เป็นสังคมที่ถูกเลี้ยงดูมาบนพื้นฐานของการเอาอกเอาใจ (บางครั้งก็มากไปจนเรียกว่าตามใจ) พอมาเจอการพูดตรงๆ หรือเจอคนแย้งความคิดตนก็รับไม่ได้ แถมดีไม่ดีโกรธกลียดกันอีก (เช่นที่ผมโดนนี่ไง) ผมเลยเฉยๆ เพราะเข้าใจ   6.3  จากข้อ 6.1 + 6.2 ถ้าใครอยากก้าวข้ามไปให้ได้ ต้องมองภาพรวม(overview) ให้ออก พูดง่ายๆคือมองเป็น Macro ไม่ใช่ Micro ถ้าเป็นปัจจุบันก็เรียกง่ายๆว่าหลักการบริหาร(management) นั่นเองครับ เอาง่ายๆ ทำไมพระพุทธเจ้าท่านไม่มี case by case โดยเอา "ประเด็นที่เกิดขึ้นนั้นๆ" หรือ "บุคคล" เป็นที่ตั้ง แต่ท่านมองข้ามช๊อคไปเป็น "เรื่องๆนั้น" แทน  เช่น A ขโมยเงิน B (รายละเอียดยาวเป็นวา), C โกง D,E,F(รายละเอียดยั๊วเยี๊ยะ) ฯลฯ แต่พระพุทธเจ้าท่านกลับมองเป็น "ห้ามการลัก (ศีลข้อ 2)" แทน นี่แหละครับหลักการแบบมองเป็นภาพรวมและ macro ตามหลักการบริหารยุคใหม่ล้วนๆ ฝรั่งมันคิดว่ามันแน่ แต่จริงๆพระพุทธเจ้าคิดได้ตั้ง 2500 กว่าโน้นนนแล้ว okay นะครับท่าน starting_over สรุปว่าสำหรับตัวผม ผมไม่ได้ชวนท่านทะเลาะ+โกรธเคืองท่านแต่อยางใด ที่เหลือสุดแท้แต่ท่านจะพิจารณาเองละกัน อืมๆ.... จากคุณ : วป.มิ้ม (มิ้มเฒ่า) (ภะวันตุเม) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 14:17:38

ความคิดเห็นที่ 21 ชักขี้เกียจพิมพ์ ..นี่มันภาษาคอมพิวเตอร์....มักจะพิมพ์สั้นๆเป็นอันเข้าใจกัน เพราะไม่ได้เขียนบทความ ผมจะขยายความ " ผมชอบกระทู้..ความรู้แปลกๆของคุณ พยัคฆ์น้อย ของคุณ ภะวันตุเม ที่เอาอะไรแปลกๆที่ไม่ได้คิดมาให้อ่านบ่อยๆ บางอันอ่านแล้วถึงบางอ้อ...อย่างนี้นี่เอง " ผมเขียนและหมายความว่าอย่างนี้ 1. ผมชอบกระทู้ของคุณพยัคฆ์น้อย  ที่นำความรู้แปลกๆ  ที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน ในแง่มุมที่น่าสนใจ   มาให้อ่านกัน   เช่นเรื่องฮวงจุ้ย   เรื่องฝัน 2. ผมชอบกระทู้ของคุณภะวันตุเม ที่นำความรู้แปลกๆ ที่ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อน มาให้อ่านอยู่เรื่อยๆ  เช่น  เรื่องของพระราหู ตามหลักเวลามีคราส   คนจะหนีจากบริเวณนั้น   คนมีตังค์  บินหนีไปประเทศอื่นเลยด้วยซ้ำ แต่คุณภะวันตุเม  เอ่ยว่า  อาจเป็นคุณกับคนที่ดวงเดิมราหูให้คุณ อันนี้เป็นสิ่งที่ผมไม่ได้คิดมาก่อน   ทำให้ถึงบางอ้อ  ว่าอาจเป็นไปได้ ... เอาเปนว่าจากนี้ไป   ผมจะไม่ยุ่งกับคุณอีกแล้ว ไม่ด่า  ไม่เป็นมิตร  ไม่เอ่ยชื่อ  ไม่พาดพิง   ไม่อะไรทั้งนั้น ตามนั้นครับ จากคุณ : starting_over เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 15:09:42

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณ...คุณพยัคฆ์น้อย มากครับ เรื่อง perception ผมรู้สึกว่ามนุษย์  รับรู้ perception  กับโลกใบนี้ได้น้อยกว่า animal พวก animal เวลาจะเกิดแผ่นดินไหว  หรือจะมีพายุใหญ่  จะรับรู้ได้ก่อน ทำไมถึงเป็นงั้น แล้วทำไมมนุษย์ถึงไม่รับรู้ล่วงหน้าบ้าง แต่มีข้อยกเว้นว่า...มนุษย์บางคน  psychic ทำไมล่ะ....ถ้าตีปัญหาแตก เราอาจจะ psychic กันได้ทุกคนนะครับ   จากคุณ : starting_over เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 15:21:19

ความคิดเห็นที่ 23 จากคลิปของยูทูปนะครับ ผมตีความออกมาอย่างนี้ครับ คนที่ psychic คือ Russel ไม่ใช่ Alan ครับ ที่ Alan เขียนภาพได้ถูก  ไม่ใช่เพราะมี power อะไรเลย แต่เป็นเพราะ Russel นั่งอยู่ข้างๆ  และเป็นคนส่งภาพนั้นไปเข้าสมอง Alan ทาง psychic ที่ Russel ทำได้ สรุปคือถ้า Russel ไปนั่งข้างใคร  คนนั้นก็วาดได้ครับ แต่ถ้าไม่มีตัว Russel.....มานั่งอยู่ แล้วเปนคนอื่นมาอธิบายแทน...ไมว่าใครก็วาดไม่ถูกครับ ผมคิดอย่างนี้นะครับคุณ พยัคฆ์น้อย จากคุณ : starting_over เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 15:33:48

ความคิดเห็นที่ 24 ^ ^ ^ ผมเชื่อว่าคุณไม่อ่านข้อความยาวๆที่ผมเขียนจนหมด+ให้เข้าใจ ถึงตอบแบบนี้ (แต่ถ้าอ่านแล้วตอบแบบนี้ก็ยิ่งน่าเสียใจ) ผมไม่ได้เขียนด่าคุณ หรือเขียนแทงใจดำใคร แต่เขียนตามสิ่งที่ผมคิด ตามสิ่งที่ผมเห็นๆ ก็เท่านั้น และผมให้เกียรติคุณตลอด โดยเรียกว่า "ท่าน" ทุกคำ ...และผมก็ไม่เคยเชื่อว่าตนเองนั้น "คิดถูกเสมอ" อย่างกรณีนี้ไง ผมก็แปลความที่คุณ starting_over  เขียนมาเป็นภาษาทันสมัย ทำให้เข้าใจผิด/คลาดเคลื่อนไปได้เช่นกัน แต่ก็เข้าใจเจตนาดีของคุณ จึงไม่ได้โกรธเคือง แคไม่สบายใจนิดหน่อย+งงๆ กับคำที่คุณเขียนก็เท่านั้นเอง ผมจึงเขียนชวนวิเคราะห์มากกว่ามาเขียนด่ากันไร้สาระ แต่ถ้าคุณจะไม่ยอมรับอะไรเลย แม้ที่ผมเขียน "ขอโทษ" แต่คุณไม่ เพราะคุณไม่ยอมใช่หรือไม่? คนเราทำดี 1,000 ครั้ง มีปัญหากันครั้งเดียว คุณ "ตัดขาดเลย" มิตรภาพคุณเปราะบางเหลือเกิน... ....แค่ webbaord เอง (+เรื่องไม่เป็นเรื่อง) จะโกรธแค้นเหมือนเคยฆ่ากันตายมา ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง แต่....เมื่อปัญหาเกิดแล้ว มี 2 ทางเลือกครับ        1. แก้ปัญหา        2. หนีปัญหา แล้วแต่ว่าจะเลือกทางใด   ย้ำอีกทีว่ามันเรื่องไม่เป็นเรื่องอ่ะครับ อย่าทำให้เป้นเรื่องเลยนะ แต่...ถ้าอยากจะเป็นเหมือนข้อ 4,6 ที่ผมเขียนก็ตามใจครับ (จริงๆที่เขียนเพื่อให้สติ) เอาเป็นว่าสุดแท้แต่คุณละกัน ตัวผมก็ไม่มีอะไรครับ... แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 54 16:40:24 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 54 15:58:44 จากคุณ : วป.มิ้ม (มิ้มเฒ่า) (ภะวันตุเม) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 15:38:54

ความคิดเห็นที่ 25 ...ท้ายนี้ ถ้าผมทำอะไรให้คุณ starting_over ไม่พอใจ ผมขอโทษจากใจจริงด้วยครับ ผมเพียงแต่เขียนวิเคราะห์ตามคำพูดและสิ่งทีท่านเขียนไว้เท่านั้น ไม่ได้มุ่งร้ายคุณ ...และอะไรที่คุณ starting_over ทำให้ผมไม่สบายใจ ผมขออโหสิกรรมให้หมดสิ้น เพื่อไม่ให้กอบเป็นกรรมเวรต่อกัน    ** กระทู้นี้ผมจะไม่เข้ามาตอบอีกครับ เพื่อไม่ให้กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ** จากคุณ : วป.มิ้ม (มิ้มเฒ่า) (ภะวันตุเม) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 15:45:24

ความคิดเห็นที่ 26 จริงๆในยูทูป มีคลิปดีๆมากเลยค่ะ - หลักการของ RV: Remote viewing คือ ใครๆก็ทำได้ค่ะ - เอาคลิปของ ดรไซมอน มาให้ดูค่ะ เป็นคนเดียวที่แนะนำแบบง่ายๆแต่ได้ใจความ ไม่ต้องมานั่งอ่าน text เล่มโตกับศัพท์เทคิคฟิสิกส์ยากๆ ที่คุณเขียนว่า "สรุปคือถ้า Russel ไปนั่งข้างใคร  คนนั้นก็วาดได้ครับ แต่ถ้าไม่มีตัว Russel.....มานั่งอยู่ แล้วเป็นคนอื่นมาอธิบายแทน...ไมว่าใครก็วาดไม่ถูกครับ" ตอบ ไม่แน่ใจค่ะ แต่ว่าพอจะมีมุมมองในความติดเห็นส่วนตัว - คุณอเลน มีความตั้งใจอยากจะทราบ และเคยอ่านหรือสนใจเรื่อง RV มาก่อน พอจะทราบขั้นตอนหรือ protocal - คุณรัสเซล มีประสบการณ์การณ์ เชื่อเรื่องแบบนี้ สามารถทำสมาธิให้มีความสงบออกมากได้ เรียกวาเครื่องส่งดี - แนวทางของ RV เชื่อว่า มันคือธรรมชาติของคนค่ะ เพียงแค่ไม่เข้าใจและพัฒนามันขึ้นมาเท่านั้น ดังนั้น คุณอเลนมีค่ะ แค่เข้าใจมากหรือน้อย ถ้าเป็นไทยก็คงเรียกว่า "ของเก่า" ในอดีต จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 15:57:37

ความคิดเห็นที่ 27 ความเห็นผม... เครื่องส่งสำคัญมาก...กว่าเครื่องรับ...อย่างสูงครับ ผมเห็นว่า...ถ้าเรามีเครื่องรับที่ดีที่สุด.....แต่ไม่มีใครส่งอะไรมา เราก็รับอะไรไม่ได้เลย แต่เครื่องส่ง...ถ้าพลังมหาศาล.... แม้แต่เครื่องรับที่คุณภาพด้อยก็ยังรับได้ครับ และถ้าเครื่องส่งพลังมหาศาลขนาดหนัก ยัง enforce เครื่องรับ... เหมือนที่ Nina ทำให้หัวใจกบหยุดเต้น ในอีกคลิปน่ะครับ จากคุณ : starting_over เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 16:24:35

ความคิดเห็นที่ 28 คลิป ดร.ไซมอน ขอฟังหลายๆรอบนะครับ หลายอย่างฟังดูขัดแย้งกันเอง ผมขอคิดก่อนครับผม จากคุณ : starting_over เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 16:27:11

ความคิดเห็นที่ 29 ตามสบายค่ะ แต่ประเด็นหลักคือการใช้ RV ขึ้นอยู่กับผู้สนใจค่ะ - บางคนอยากรู้ เฉยๆ - อยากรู้ และอยากลอง - บางคนใช้ RV เพื่อตอบความเข้าใจบางเรื่องค่ะ - บางคนใช้ RV เพื่อความใจในเรื่องความคิด การทำงานของจิตใจ สมอง จิตใต้สำนึก เพราะถ้าอ่านแบบนี้จะเข้าได้ง่ายกว่าแบบอื่น ในกรณีของ RV คือการแอบดู "เป้าหมาย" ค่ะ ดังนั้น เป้าหมาย อาจจะเป็น - สถานที่ - สิ่งของ - คน สัตว์ อะไรก็ได้ แต่ต้องมีจริง และไม่ใช่การไปอ่านใจใครค่ะ ลักษณะของ RV คือการที่ "มีเป้าหมาย" จริงๆ จะไม่เกี่ยวกับที่ "เป้าหมาย" ส่งสัญญาณให้ค่ะ  ที่เราทำ RV เพื่อไม่ให้เป้าหมายทราบ หรือรู้ตัวว่าเราแอบดู - ค่อยๆดูคลิป และก็ไม่ต้องเคร่งเครียดค่ะ ถือว่าเป็นความรู้สนุกๆของ CIA ก็แล้วกัน จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 16:39:07

ความคิดเห็นที่ 30 ขออนุญาต ออกความเห็นเรื่อง "ถ้าเรามีเครื่องรับที่ดีที่สุด.....แต่ไม่มีใครส่งอะไรมา เราก็รับอะไรไม่ได้เลย"   - เป็นมุมมองแบบที่เราถูกระบบการศึกษาในสมัยก่อน สอนมาว่า "ใช่-ไม่ใช่" ซึ่งปัจจุบันระบบการสอน ศึกษาจะเปลี่ยนไป เพราะไม่มีแค่ "ไม่ใช่หรือใช่" แต่อาจจะเป็นอะไรก็ได้ค่ะ ถ้าจะมองเรื่อง "ถ้าเรามีเครื่องรับที่ดีที่สุด.....แต่ไม่มีใครส่งอะไรมา เราก็รับอะไรไม่ได้เลย" มองแบบคณิตศาสตร์  ถ้ามองแบบ พุทธ หรือความสามารถทางจิต ไม่ว่าจะเกิดจากการฝึก ของเดิม ปฏิบัติธรรม บารมีธรรม "คนที่มีความสามารถนั้น สามารถเข้าไปแฮกข้อมูลได้ค่ะ"   หลวงพ่อฮ่องกง ท่านบอกว่า พระพุทธเจ้ามีค่ะ หรือที่นิยมเรียกกันว่า "ข่ายพระญาณ" ของพระพุทธเจ้า ที่เกิดจากการสร้างสมบารมีของพระโพธิสัตว์ ซึ่งเหล่าพระอรหันต์บางท่านมีความสามารถ้านนี้ เพราะเคยบำเพ็ญโพธิสัตว์บารมีมาก่อน แต่จะไม่ทะลุปุโปร่งแบบพระพุทธเจ้า แสดงความคิดเห็น จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 16:45:18

ความคิดเห็นที่ 31 ผมว่า คนเรามีความเห็นที่แตกต่าง ในเรื่อง ๆ เดียวกันได้ ครับ โดยเฉพาะความเห็น ในเรื่องการตอบกระทู้ หรือ ไม่ตอบกระทู้ ที่คุณได้พาดพิงถึง คุณลองกลับไปอ่านให้ดีเถิดครับ ประเด็นคือว่า ผู้ที่โพสต์ถามเรื่องดวงที่เดือดร้อนนั้น มีหลาย ๆ ท่านในห้องนี้เต็มใจ และช่วยตอบทั้งสิ้นครับ ส่วนคำถามปัญญาอ่อนดังที่ผมกล่าว ถ้าคุณเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญคอขาดบาดตาย ตามวิจารณญาณของคุณ ผมก็เคารพในวิธีคิดของคุณ เคารพในสติปัญญาของคุณ แต่ผมไม่เคยพูดหรือคิด ถือตนว่าเป็นเทวดาเจ้าเข้าทรง ต้องให้คนถามมากราบแทบเท้า ดังที่คุณกล่าวมาเลยครับ ผมว่าการ กล่าวแบบป้ายขี้ กันครับอย่างนี้ (ถึงแม้คุณจะใช้คำว่าสมมุติ มาหลอกด่า และ เตรียมไว้แก้ต่าง ว่าเป็นเรื่องสมมุติก็ตาม) ลองกลับไปดู คุณธรรมในใจคุณ เอาเถิดครับ กลับเข้าไปดู เจตนา ของคุณเถิดครับ ว่ามีจุดประสงค์อะไร ขอให้โชคดีในการดำเนินชีวิตครับ....หาววววว ! จากคุณ : solo 356 เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 17:12:31

ความคิดเห็นที่ 32 เรื่องของศาสนา-การพยากรณ์ การพยากรณ์เกิดขึ้นก่อน ศาสนาตามมาทีหลัง คนเราแต่โบราณเกิดความต้องการอยากเห็นอนาคต รวมถึงการหาคำตอบของธรรมชาติ ด้วยวิธีต่างๆ ต่อมาจึงกำเนิดเป็ฯศาสนาและวิทยาการต่างๆ แต่ก็ใช่ว่าศาสนา(หรือวิทยาการ)ใดๆ จะสามารถตอบได้ทุกคำตอบ ก็ยังคงมีปริศนาของธรรมชาติดำรงต่อไปอยู่ ฉะนั้น การพยากรณ์อนาคต ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งสำหรับมนุษย์ ส่วนเรื่องการตอบกระทู้ ผมเองก็เพิ่งรู้ไม่นานว่า ในห้องศาสนามีห้องย่อยของการพยากรณ์อยู่ก่อน จึงได้เข้ามาโผล่เพื่อแสดงความเห็นไม่กี่เรื่อง ส่วนตัวแล้วมักไม่ค่อยอยากตอบกระทู้ที่ชวนทะเลาะ และไม่ตอบกระทู้ที่ไม่มั่นใจว่าเรารู้จริง รวมถึงไม่สนใจกับแนวทางของพิธีกรรม(เพราะผมเชื่อว่า มันมอมเมาและมีแต่คนไม่รู้จริง) และส่วนตัวก็เคยตั้งกระทู้ขอให้ดูดวงให้ด้วยละ ความจริงแล้ว เป็นการบอกคนบางคน(ที่ผมรู้สึกไม่ดีด้วย)ให้รู้จักผม ผ่านดวงชะตา จะได้รู้จักผมมากกว่าแค่ตัวหนังสือ ซึ่งก็ได้ผลนะ ๕๕๕ ^____^ จากคุณ : JEA เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 17:31:00

ความคิดเห็นที่ 33 เท่าที่เห็นๆผ่านมา...ห้องศาสนาที่มีปัญหา...ขัดแย้ง พูดไม่รู้เรื่อง...ก็เพราะมีคนแบบ คห.ที่ 31 นี่แหละ ผมไม่ได้ไปเอ่ยไปกล่าวอะไรถึงคุณเล้ย... กลับมาว่าผม...เพราะอะไรก็ไม่ทราบ ผมคงไม่เสียเวลา...เอามาแลกกับคนอย่างคุณนะครับ เวลาผมมีค่า....ชีวิตผมมีค่า ไม่มาโต้ตอบกับคุณนะครับ.... ซึ่งตัวจริงคุณที่พิมพ์คอมนี้.... ไม่น่าจะมีราคาอะไรกับผมครับ จากคุณ : starting_over เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 19:25:55

ความคิดเห็นที่ 34 ความคิดเห็นที่ 30     ขออนุญาต ออกความเห็นเรื่อง "ถ้าเรามีเครื่องรับที่ดีที่สุด.....แต่ไม่มีใครส่งอะไรมา เราก็รับอะไรไม่ได้เลย"  - เป็นมุมมองแบบที่เราถูกระบบการศึกษาในสมัยก่อน สอนมาว่า "ใช่-ไม่ใช่" ซึ่งปัจจุบันระบบการสอน ศึกษาจะเปลี่ยนไป เพราะไม่มีแค่ "ไม่ใช่หรือใช่" แต่อาจจะเป็นอะไรก็ได้ค่ะ ถ้าจะมองเรื่อง "ถ้าเรามีเครื่องรับที่ดีที่สุด.....แต่ไม่มีใครส่งอะไรมา เราก็รับอะไรไม่ได้เลย" มองแบบคณิตศาสตร์ ถ้ามองแบบ พุทธ หรือความสามารถทางจิต ไม่ว่าจะเกิดจากการฝึก ของเดิม ปฏิบัติธรรม บารมีธรรม "คนที่มีความสามารถนั้น สามารถเข้าไปแฮกข้อมูลได้ค่ะ"  หลวงพ่อฮ่องกง ท่านบอกว่า พระพุทธเจ้ามีค่ะ หรือที่นิยมเรียกกันว่า "ข่ายพระญาณ" ของพระพุทธเจ้า ที่เกิดจากการสร้างสมบารมีของพระโพธิสัตว์ ซึ่งเหล่าพระอรหันต์บางท่านมีความสามารถ้านนี้ เพราะเคยบำเพ็ญโพธิสัตว์บารมีมาก่อน แต่จะไม่ทะลุปุโปร่งแบบพระพุทธเจ้า แสดงความคิดเห็น จากคุณ : พยัคฆ์น้อย   เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 16:45:18     ********************* ตรงที่ว่า "คนที่มีความสามารถนั้น สามารถเข้าไปแฮกข้อมูลได้ค่ะ" อันนี้น่าสนใจครับ ผมไม่เคยคิดมาก่อน แสดงว่า  คนที่มีเครื่องรับดีที่สุด  ก็คือคนที่มีเครื่องส่งที่ดีที่สุด  เป็นคนเดียวกัน ขอไปคิดต่อครับ จากคุณ : starting_over เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 19:29:43

ความคิดเห็นที่ 35 ความคิดเห็นที่ 29     ตามสบายค่ะ แต่ประเด็นหลักคือการใช้ RV ขึ้นอยู่กับผู้สนใจค่ะ - บางคนอยากรู้ เฉยๆ - อยากรู้ และอยากลอง - บางคนใช้ RV เพื่อตอบความเข้าใจบางเรื่องค่ะ - บางคนใช้ RV เพื่อความใจในเรื่องความคิด การทำงานของจิตใจ สมอง จิตใต้สำนึก เพราะถ้าอ่านแบบนี้จะเข้าได้ง่ายกว่าแบบอื่น ในกรณีของ RV คือการแอบดู "เป้าหมาย" ค่ะ ดังนั้น เป้าหมาย อาจจะเป็น - สถานที่ - สิ่งของ - คน สัตว์ อะไรก็ได้ แต่ต้องมีจริง และไม่ใช่การไปอ่านใจใครค่ะ ลักษณะของ RV คือการที่ "มีเป้าหมาย" จริงๆ จะไม่เกี่ยวกับที่ "เป้าหมาย" ส่งสัญญาณให้ค่ะ  ที่เราทำ RV เพื่อไม่ให้เป้าหมายทราบ หรือรู้ตัวว่าเราแอบดู - ค่อยๆดูคลิป และก็ไม่ต้องเคร่งเครียดค่ะ ถือว่าเป็นความรู้สนุกๆของ CIA ก็แล้วกัน ********************************** แอบหาข้อมูลเป้าหมาย โดยเป้าหมายมิได้ส่งสัญญาณอะไรมา อืม แล้วจะแอบดูยังไง คุณพยัคฆ์น้อย  ดูหนังเรื่อง  เดจาวู  ยังครับ ที่เดนเซล วอชิงตันเล่นน่ะครับ คล้ายๆแบบนี้ครับ จากคุณ : starting_over เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 19:34:59

ความคิดเห็นที่ 36 เดจาวู ดูแล้วค่ะ เป็นนักดูทีวี ซี่รี่ยส์ ค่ะ บางทีดูชนิดไม่หลับ ไม่นอน จนไม่สบายหรือเครื่องเล่นดีวีดี พังไปเลย ปล ใช้คำว่า "แอบดู" เป็นคำแซว หรือชื่อเล่นไว้เรียก RV คะ จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 19:54:18

ความคิดเห็นที่ 37 เช่นกันครับ ^_^ จากคุณ : solo 356 เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 23:29:33

ความคิดเห็นที่ 38 สนฺทิฏฺฐิโก จากคุณ : axolot เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 08:41:08