ใครจะคิด ใครจะเชื่อว่า ปฐพีนี้และขุนเขาสิเนรุจักลุกไหม้ จักวินาศ จักสูญสิ้นไปได้
ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง (อนิจฺจ) ไม่ยั่งยืน (อธว) เป็นสิ่งที่หวังอะไรไม่ได้ (อนสฺสาสิก).
ภิกษุ ท. ! เพียงเท่านี้ก็พอแล้วเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอแล้วเพื่อจะคลายกำหนัด พอแล้วเพื่อจะปล่อยวาง.
ภิกษุ ท. ! ขุนเขาสิเนรุ โดยยาว ๘๔,๐๐๐โยชน์ โดยกว้าง ๘๔,๐๐๐ โยชน์
หยั่งลงในมหาสมุทร ๘๔,๐๐๐โยชน์ สูงขึ้นจากผิวพื้นสมุทร ๘๔,๐๐๐ โยชน์
ภิกษุ ท. ! มีสมัยซึ่งล่วงไปหลายปี หลายร้อยปี หลายพันปี หลายแสนปี ที่ฝนไม่ตกเลย.
เมื่อฝนไม่ตก(ตลอดเวลาเท่านี้) ป่าใหญ่ ๆ อันประกอบด้วยพีชคามภูตคาม
ไม้ หยูกยาและหญ้าทั้งหลาย ย่อมเฉา ย่อมแห้ง มีอยู่ไม่ได้
ภิกษุ ท. ! เพียงเท่านี้ก็พอแล้วเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอแล้วเพื่อจะ
คลายกำหนัด พอแล้วเพื่อจะปล่อยวาง.
ภิกษุ ท. ! มีสมัยซึ่งในกาลบางครั้งบางคราวโดยการล่วงไปแห่งกาลนานไกล อาทิตย์ดวงที่สอง ย่อมปรากฏ.
เมื่อดวงอาทิตย์ดวงที่สองปรากฏ, แม่น้ำน้อย หนองบึงทั้งหมดก็งวดแห้งไป ไม่มีอยู่
ภิกษุ ท. ! มีสมัยซึ่งในกาลบางครั้งบางคราวโดยการล่วงไปแห่งกาลนานไกล อาทิตย์ดวงที่สาม ย่อมปรากฏ.
เมื่อดวงอาทิตย์ดวงที่สามปรากฏ, แม่น้ำสายใหญ่ ๆ เช่น แม่น้ำคงคา ยมุนา
อจิรวดี สรภูมฮีทั้งหมดก็งวดแห้งไป ไม่มีอยู่
ภิกษุ ท. ! มีสมัยซึ่งในกาลบางครั้งบางคราวโดยการล่วงไปแห่งกาลนานไกล อาทิตย์ดวงที่สี่ ย่อมปรากฏ.
เมื่อดวงอาทิตย์ดวงที่สี่ปรากฏ, มหาสระทั้งหลาย อันเป็นที่เกิดแห่งแม่น้ำใหญ่ ๆ เช่น แม่น้ำคงคา ยมุนา อจิรวดี สรภูมฮี มหาสระเหล่านั้นทั้งหมดก็งวดแห้งไป ไม่มีอยู่
ภิกษุ ท. ! มีสมัยซึ่งในกาลบางครั้งบางคราวโดยการล่วงไปแห่งกาลนานไกล อาทิตย์ดวงที่ห้า ย่อมปรากฏ.
เมื่อดวงอาทิตย์ดวงที่ห้าปรากฏ, น้ำในมหาสมุทรอันลึกร้อยโยชน์ ก็งวดลง
น้ำในมหาสมุทรอันลึก สอง - สาม - สี่ - ห้า - หก - เจ็ดร้อยโยชน์ก็งวดลง
เหลืออยู่เพียงเจ็ดชั่วต้นตาล ก็มีเหลืออยู่เพียงหก - ห้า - สี่ - สาม -สอง กระทั่งหนึ่งชั่วต้นตาลก็มี
งวดลงเหลืออยู่เพียงเจ็ดชั่วบุรุษ ก็มี เหลืออยู่เพียงหก - ห้า - สี่ - สาม สอง-หนึ่ง กระทั่งครึ่งชั่วบุรุษ ก็มี
งวดลงเหลืออยู่เพียงแค่สะเอว เพียงแค่เข่า เพียงแค่ข้อเท้า กระทั่งเหลืออยู่
ลึกเท่าน้ำในรอยเท้าโค ในที่นั้น ๆ เช่นเดียวกับน้ำในรอยเท้าโคเมื่อฝนเม็ดใหญ่เริ่มตกในฤดูสารทลงมาในที่นั้น ๆ.
ภิกษุ ท. ! เพราะการปรากฏแห่งอาทิตย์ดวงที่ห้า น้ำในมหาสมุทรไม่มีอยู่แม้สักว่าองคุลีเดียว
ภิกษุ ท. ! มีสมัยซึ่งในกาลบางครั้งบางคราวโดยการล่วงไปแห่งกาลนานไกล อาทิตย์ดวงที่หก ย่อมปรากฏ.
เพราะความปรากฏแห่งอาทิตย์ดวงที่หก, มหาปฐพีนี้และขุนเขาสิเนรุ ก็มีควันขึ้น ยิ่งขึ้นและยิ่งขึ้น
เปรียบเหมือนเตาเผาหม้อ อันนายช่างหม้อสุมไฟแล้ว ย่อมมีควันขึ้นโขมง ยิ่งขึ้นและยิ่งขึ้น
ภิกษุ ท. ! มีสมัยซึ่งในกาลบางครั้งบางคราวโดยการล่วงไปแห่งกาลนานไกล อาทิตย์ดวงที่เจ็ด ย่อมปรากฏ.
เพราะความปรากฏแห่งอาทิตย์ดวงที่เจ็ด, มหาปฐพีนี้และขุนเขาสิเนรุ ย่อมมีไฟลุกโพลง ๆ มีเปลวเป็นอันเดียวกัน.
เมื่อมหาปฐพีนี้และขุนเขาสิเนรุ อันไฟเผาอยู่ ไหม้อยู่อย่างนี้ เปลวไฟถูกลมซัดขึ้นไป จนถึงพรหมโลก.
ภิกษุ ท. ! เมื่อขุนเขาสิเนรุถูกไฟเผาอยู่ ไหม้อยู่ วินาศอยู่ อันกองไฟท่วมทับแล้ว,
ยอดทั้งหลายอันสูงร้อยโยชน์บ้าง สอง - สาม - สี่ - ห้าร้อยโยชน์บ้าง ก็พังทำลายไป.
ภิกษุ ท. ! เมื่อมหาปฐพีนี้และขุนเขาสิเนรุอันไฟเผาอยู่ ไหม้อยู่, ขี้เถ้าและเขม่าย่อมไม่ปรากฏ
เหมือนเมื่อเนยใส หรือน้ำมันถูกเผาขี้เถ้าและเขม่าย่อมไม่ปรากฏ ฉะนั้น
ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน เป็นสิ่งหวังอะไรไม่ได้ ฉันนั้น.
ภิกษุ ท. ! เพียงเท่านี้ก็พอแล้วเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอแล้วเพื่อจะคลายกำหนัด พอแล้วเพื่อจะปล่อยวาง.
ภิกษุ ท. ! ในข้อความนั้น ใครจะคิด ใครจะเชื่อว่า ปฐพีนี้และขุนเขาสิเนรุจักลุกไหม้ จักวินาศ จักสูญสิ้นไปได้ นอกเสียจาก พวกมีบทอันเห็นแล้ว.
สตฺตก. อํ. ๒๓/๑๐๒ - ๑๐๕/๖๓.