ความคิดเห็นที่ 1 อปุญฺญลาโภ จ คตี จ ปาปิกา ภีตสฺส ภีตาย รตี จ โถกิกา ราฃา จ ทณฺฑํ ครกํ ปเณติ ตสฺมา นโร ปรทารํ น เสเว ฯ ๓๑๐ ฯ สถานหนึ่ง ได้บาป สถานสอง ได้ภพชาติชั่วร้ายในอนาคต สถานสาม ทั้งคู่มีสุขชั่วแล่นแต่สะดุ้งใจเป็นนิตย์ สถานสี่ พระราชาย่อมลงโทษอย่างหนัก เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรผิดภริยาของคนอื่น There is a gain of demerit and evil destiny, Brief is the joy of frightened couple, And the king imposes heavy punishment. Therefore let no man commit adultery. จากคุณ : Nina_AnGeLic เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 21:01:51

ความคิดเห็นที่ 2 ปาโปปิ ปสฺสตี ภทฺรํ ยาว ปาปํ น ปจฺจติ ยทา จ ปจฺจตี ปาปํ อถ ปาโป ปาปานิ ปสฺสติ ฯ ๑๑๙ ฯ เมื่อบาปยังไม่ส่งผล คนชั่วก็เห็นว่าเป็นของดี ต่อเมื่อมันเผล็ดผลเมื่อใด เมื่อนั้นแหละเขาจึงรู้พิษสงของบาป For the evil-doer all is well, While the evil ripens not; But when his evil yields its fruit, He sees the evil results. จากคุณ : Nina_AnGeLic เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 21:03:00

ความคิดเห็นที่ 3 ภทฺโรปิ ปสฺสตี ปาปํ ยาว ภทฺรํ น ปจฺจติ ยทา จ ปจฺจตี ภทฺรํ อถ ภทฺโร ภทฺรานิ ปสฺสติ ฯ ๑๒๐ * ฯ เมื่อความดียังไม่ส่งผล คนดีก็มองเห็นความดีเป็นความชั่ว ต่อเมื่อใดความดีเผล็ดผล เมื่อนั้นแหละเขาจึงจะเห็นผลของความดี For the good man, perhaps, all is ill, While as yet his good is not ripe; But when it bears its fruit, He sees the good results. จากคุณ : Nina_AnGeLic เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 21:03:10

ความคิดเห็นที่ 4 มาวมญฺเญถ ปาปสฺส น มตฺตํ อาคมิสฺสติ อุทพินฺทุนิปาเตน อุทกุมฺโภปิ ปูรติ อาปูรติ พาโล ปาปสฺส โถกํ โถกมฺปิ อาจินํ ฯ ๑๒๑ ฯ อย่าดูถูกความชั่วเล็กน้อยว่าจักไม่สนองผล น้ำตกจากเวหาทีละหยาดๆ ยังเต็มตุ่มได้ คนพาลทำความชั่วทีละเล็กละน้อย ย่อมเต็มด้วยความชั่วได้เช่นกัน Despise not evil, Saying, 'It will not come to me'; Drop by drop is the waterpot filled, Lidewise the fool, gathering little by little, Fills himself with evil. จากคุณ : Nina_AnGeLic เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 21:03:23

ความคิดเห็นที่ 5 มาวมญฺเญถ ปุญฺญสฺส น มตฺตํ อาคมิสฺสติ อุทพินฺทุนิปาเตน อุทกุมฺโภปิ ปูรติ อาปูรติ ธีโร ปุญฺญสฺส โถกํ โถกมฺปิ อาจินํ ฯ ๑๒๒ ฯ อย่าดูถูกบุญเล็กน้อยว่าจักไม่สนองผล น้ำตกจากเวหาทีละหยาดๆ ยังเต็มตุ่มได้ นักปราชญ์สะสมบุญทีละเล็กละน้อย ย่อมเต็มด้วยบุญได้เช่นกัน Despise not merit, Saying, 'It will not come to me'; Drop by drop is the waterpot filled, Likewise the man, gathering little by little Fills himself with merit. จากคุณ : Nina_AnGeLic เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 21:03:37

ความคิดเห็นที่ 6 วาณิโชว ภยํ มคฺคํ อปฺปสตฺโถ มหทฺธโน วิสํ ชีวิตุกาโมว ปาปานิ ปริวชฺชเย ฯ ๑๒๓ ฯ พ่อค้ามีทรัพย์มาก มีพวกน้อย ละเว้นทางที่มีภัย หรือคนรักชีวิตละเว้นยาพิษ ฉันใด บุคคลพึงละบาป ฉันนั้น As a rich merchant, with small escort, Avoids a dangerous path, As one who loves life avoids poison, Even so should one shun evil. จากคุณ : Nina_AnGeLic เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 21:04:50

ความคิดเห็นที่ 7 อกตํ ทุกฺกฏํ เสยฺโย ปจฺฉา ตปฺปติ ทุกฺกฏํ กตญฺจ สุกตํ เสยฺโย ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ ฯ ๓๑๔ ฯ ความชั่ว ไม่ทำเสียเลยเป็นดี ทำแล้วย่อมเดือดร้อนภายหลัง มาทำความดีกันดีกว่า ทำแล้ว ไม่เดือดร้อน Better left undone is an evil deed, For it torments one afterwards. Better done is a wholesome deed, After doing which one feels no remorse. ******************************** ที่มา : หนังสือพุทธวจนในธรรมบท โดย อ.เสถียรพงศ์ วรรณปก http://www.dhammathai.org/dhammapada/dhammapada.php จากคุณ : Nina_AnGeLic เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 21:06:56

ความคิดเห็นที่ 8 อนุโมทนาครับ มาช่วยกันถือศีลครับ แล้วช่วยกดโหวดให้กระทู้นี้กันหน่อยก็ดีครับ จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 22:54:13

ความคิดเห็นที่ 9 ขอแสดงความเคารพพระธรรม จากคุณ : 7887 เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 06:58:18

ความคิดเห็นที่ 10 หยุดก่อนครับ ทุกท่าน อย่าเพิ่งชื่นชมเธอนัก บังเอิญผมตามลิ้งค์ที่เธอให้ไว้ไปอ่านต้นฉบับ อ่านหัวข้อแรกที่เธอโพสต์ก็เจอความจริงอะไรบางอย่าง ผมก๊อปตัวจริงในเว็ปมาให้ดูก็แล้วกัน ๔. จตฺตาริ ฐานานิ นโร ปมตฺโต อาปชฺชตี ปรทารูปเสวี อปุญฺญลาภํ น นิกามเสยฺยํ นินฺทํ ตตียํ นิรยํ จตุตฺถํ ฯ ๓๐๙ ฯ คนที่มัวเมา ผิดเมียท่านเป็นนิตย์ ย่อมได้รับเคราะห์ร้าย สี่สถานคือ หนึ่งได้รับบาป สองนอนไม่เป็นสุข สามเสียชื่อเสียง สี่ตกนรก Four misfortunes befll that man Who, heedless, courts the neighbour's wife: Aczuisition of demerit is acquired by him, He has a bad sleep at night, Ill-repute he, thirdly, gains, And hell, fourthly, he attains. ___________________________ คราวนี่้เทียบกับที่เธอบิดเบือนเอาลงเองนะครับ จตฺตาริ ฐานานิ นโร ปมตฺโต อาปชฺชตี ปรทารูปเสวี อปุญฺญลาภํ น นิกามเสยฺยํ นินฺทํ ตตียํ นิรยํ จตุตฺถํ ฯ ๓๐๙ ฯ คนที่มัวเมา ผิดผัวเมียผู้อื่นอยู่เสมอ ย่อมได้รับเคราะห์ร้าย สี่สถานคือ หนึ่งได้รับบาป สองนอนไม่มีความสุขใจ สามเสียชื่อเสียง สี่ตกนรก Four misfortunes befll that man Who, heedless, courts the neighbour's wife: Aczuisition of demerit is acquired by him, He has a bad sleep at night, Ill-repute he, thirdly, gains, And hell, fourthly, he attains. ผมรังเกียจคนไม่ซื่อตรงต่อพระธรรม ไม่เข้าใจว่าคุณ Nina_AnGeLic ทำแบบนี้มีจุดประสงค์ใด จึงตั้งใจบิดเบือนคำพูดของ อ.เสถียรพงศ์ วรรณปก  สันนิฐานว่า  เพราะตัวเองผิดหวังในสามีใช่หรือไม่ ถ้าใช่ กรุณาเลิกความคิดแบบนั้นเถิดนะครับ มันทำให้พระธรรมมัวหมอง และทำให้ อ.เสถียรพงศ์ วรรณปก ไปมัวหมองด้วย อย่าเอาความคิด ความผิดหวังของตัวเองมาดัดแปลงพระธรรมเลยครับ มันบาป จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 09:10:46

ความคิดเห็นที่ 11 ๔. ปิยโต ชายเต โสโก ปิยโต ชายเต ภยํ ปิยโต วิปฺปมุตฺตสฺส นตฺถิ โสโก กุโต ภยํ ฯ ๒๑๒ ฯ ที่ใดมีของรัก ที่นั่นมีโศก ที่ใดมีของรัก ที่นั่นมีภัย เมื่อไม่มีของรักเสียแล้ว โศกภัย ก็ไม่มี From the beloved springs grief, From the beloved springs fear; For him who is free from the beloved There is neither grief nor fear. จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 09:17:39

ความคิดเห็นที่ 12 ๓. โย เจตํ สหเต ชมฺมึ ตณฺหํ โลเก ทุรจฺจยํ โสกา ตมฺหา ปปตนฺติ อุทวินฺทุว โปกฺชรา ฯ ๓๓๖ ฯ ผู้ใดเอาชนะตัณหาลามก ที่ยากจะเอาชนะได้นี้ ความโศกย่อมตกไปจากผู้นั้น เหมือนหยาดน้ำ ตกจากใบบัว But whoso in the world overcomes This base craving, difficult to overcome- His sorrow falls away from him As water drops from a lotus leaf. จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 09:38:56

ความคิดเห็นที่ 13 ขอร่วมอนุโมทนา ในเจตนาดีค่ะ จากคุณ : houisjung (houisjung) เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 14:24:03

ความคิดเห็นที่ 14 จขกท. อาจจะกลัวว่าไม่ชัดเจน และ ไม่เสมอภาคทางเพศหรือเปล่าคะ เลยปรับนิดนึง อันแรกๆ คิดว่าแต่งเป็นกวีภาษาอังกฤษได้สละสลวยดี พอหลังๆ ไม่ค่อยคล้องเท่าไรละ แต่เนื้อความยังครบถ้วน เสียดาย ถ้าให้มันคล้องกันจะได้ไว้ท่องเพลินๆดีค่ะ จากคุณ : scarlett เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 18:34:54

ความคิดเห็นที่ 15 คคห. ๑๐ ครับ ขอบคุณครับที่ตั้งข้อสังเกต แต่คุณ จขกท. เขาคงไม่มีเจตนาทำให้ศาสนาเสียหายครับ ผมดูรูปประโยคบาลีแล้ว ต้องแปลอย่างอาจารย์เสถียรพงษ์แปลจึงจะถูกไวยากรณ์ แต่ตอนเรียนบาลี ท่านพระอาจารย์ที่สอนท่านก็มักสอนว่า เมื่อกล่าวถึง บุรุษ ให้หมายถึง มนุษย์ทุกคนทุกเพศ เพราะเป็นความนิยมของภาษายุคนั้นเป็นแบบนั้นครับ (แม้ในยุคนี้ ภาษาอังกฤษก็ใช้กฎเกณฑ์นี้ เช่น Chairman-บุรุษผู้เป็นประธาน ใช้ได้ทั้งชายและหญิง  เป็นต้น แต่พักหลังๆกระแสสิทธิสตรีมาแรงจึงเปลี่ยนเป็น Chairperson-บุคคลผู้เป็นประธาน ) เช่นถ้าบอกว่า บุรุษใด เป็นผู้กตัญญู ย่อมเป็นนิมิตรหมายให้เห็นถึงความเป็นบุรุษที่ดี อันนี้ให้หมายความว่า ชายหญิงใด เป็นผู้กตัญญู ย่อมเป็นนิมิตรหมายให้เห็นถึงความเป็นคนดี อย่างนี้คือความหมายของประโยค แต่ตอนเรียนแปลนั้น ให้แปลรักษารากศัพท์เดิมเอาไว้ ไม่ต้องใส่ชายและหญิงดีกว่า สรุปว่า การกล่าวอย่างคุณนินาก็พอยอมรับได้ในระดับหนึ่งครับ แม้ไม่ถูกต้องตามศัพท์ทีเดียวนักครับ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 54 17:00:33 จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 16:53:50

ความคิดเห็นที่ 16 สรุป ก็อยู่ที่เจตนา ครับ  ทางที่ดีนำมาประยุกต์ใช้  ให้สอดคล้องกับชีวิตครับ จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 23:30:58

ความคิดเห็นที่ 17 กุศโลบาย...บางคนใช้ทางอ้อมในการฝึกตน  และฝึกตนอื่น..หากผลของสิ่งนั้นคือประโยชน์  ก็ควรสรรเสริญ จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 23:32:11

ความคิดเห็นที่ 18 #15 ถ้าคุณ Nina แปลพุทธพจน์เอง ก็คงไม่ใช่ประเด็นหรอกครับ ประเด็นอยู่ที่คุณNina แกไปก๊อปของอาจารย์เสถียรพงศ์มาทั้งดุ้น ทั้งบาลี ไทย และก็อังกฤษ แล้วก็เอางานแปลของอาจารย์มาแก้ไขเองตามอารมณ์ของเธอ ก็เมื่อเราไม่ได้มีความรู้ความสามารถที่จะแปลเอง ต้องพึ่งความสามารถคนอื่น เราก็ควรจะเคารพงานของคนอื่นไม่ใช่หรือครับ ถ้าตามกฏหมายนี่ อ. เสถียรพงศ์หรือ สำนักพิมพ์สามารถฟ้องร้องเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ได้เลยนะครับ ผมไม่คิดว่าคุณ nina จะมีความรู้แปลบาลีได้ ตัวผมเองก็ไม่รู้บาลีเหมือนกัน แต่ผมรู้ภาษาอังกฤษว่า courts the neightbor's wife แปลว่าคบชู้กับภรรยาของเพื่อนบ้าน จึงเข้าใจว่าท่านเสถียรพงศ์ตั้งใจแปลว่าชายที่กำลังคบชู้กับหญิงที่เป็นภรรยาของคนอื่น ท่านเป็นเปรียญ 9 ประโยคและเป็นราชบัณฑิต ผมไม่คิดว่าท่านจะแปลผิดหรอกนะครับ อย่าเพิ่งเถียงนะครับว่า อ้าวแล้วผู้ชายข้างบ้านที่แต่งงานแล้ว ไปคบกับผู้หญิงโสดไม่บาปหรือ อันนี้คนละประเด็น พระสูตรอื่นที่พูดถึงโทษของกาม โทษของความรัก พระสูตรอื่นก็มี ทำไมไม่ไปยกมาแสดงหล่ะครับ เหตุไฉนจึงเอาพระสูตรนี้ซึ่งมีความหมายจำกัดมาเติมแต่งซะเอง ก็ถ้าเราไม่ซื่อตรงต่อเจ้าของงาน ก็เท่ากับไม่ซื่อตรงต่อเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านด้วย เพราะทุกคนที่เข้ามาอ่านก็คงนึกว่าท่าเสถียรพงศ์แปลอย่างนี้จริงๆ บางท่านอาจจะก็อปเอาไปเผยแพร่ต่อๆกันด้วยซ้ำไป ก็ถ้าเราไม่ซื่อตรงต่อผู้อื่น เราไม่ซื่อตรงแม้กระทั่งคำพูดของพระพุทธเจ้า เราจะซื่อตรงต่อตัวเราเองหรือ ถ้าเราไม่ซื่อตรงต่อตัวเราเอง. สามีเราจะซื่อตรงต่อเราหรือ จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 23:36:40

ความคิดเห็นที่ 19 จากคำกล่าวจากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม   ที่ว่า ผมรังเกียจคนไม่ซื่อตรงต่อพระธรรม ไม่เข้าใจว่าคุณ Nina_AnGeLic ทำแบบนี้มีจุดประสงค์ใด จึงตั้งใจบิดเบือนคำพูดของ อ.เสถียรพงศ์ วรรณปก  สันนิฐานว่า  เพราะตัวเองผิดหวังในสามีใช่หรือไม่ ถ้าใช่ กรุณาเลิกความคิดแบบนั้นเถิดนะครับ มันทำให้พระธรรมมัวหมอง และทำให้ อ.เสถียรพงศ์ วรรณปก ไปมัวหมองด้วยออย่าเอาความคิด ความผิดหวังของตัวเองมาดัดแปลงพระธรรมเลยครับ มันบาป   ขอแสดงความคิดเห็นครับ รักกันเถอะครับ  อย่ารังเกียจกันเลย โลกจะแตกวันไหนยังไม่รู้เลยครับ และอย่าไปสันนิษฐานอะไรเลื่อนลอย  รักกันดีกว่าเกียจกัน  ผิดเป็นครู  คนล้มอย่าข้าม  อภัยทาน  ...โลกก็จะสวยงามครับ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 54 23:52:38 จากคุณ : ผู้ฝึกตน (paisan746) เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 23:38:38

ความคิดเห็นที่ 20 เรียน  ความคิดเห็นที่ 18  อย่าคับแคบไปเลยครับ  อย่าตีความว่าเจ้าของกระทู้จะผิดหวังจากรักสิครับ เลื่อนลอยเกินไปไหม  ยัดเยียดตราบาปให้ใครหรือไม่ พระพุทธเจ้าสอนให้ปฏิบัติมากกว่าพูด และเชื่อในสิ่งที่เราพิสูจน์ว่าดีจริง  อย่าเชื่อแม้ว่าเขาจะเป็นอาจารย์ผู้เก่งกล้าของประเทศไทย ของโลก   แต่เชื่อมั่นในตัวเองดีที่สุด.... จากคุณ : ผู้ฝึกตน (paisan746) เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 23:45:59

ความคิดเห็นที่ 21 ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์ มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต แม้พูดชั่วตัวตายทำลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 23:50:16

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ คคห ที่#19,20,21 บอกว่า ผมเข้ามาโพสต์เพราะต้องการข้ามคนที่ล้ม "คนล้มอย่าข้าม" เพราะผม "ใจคับแคบเกินไป", "พูดชั่วตัวตายทำลายมิตร" และ  กำลัง "ยัดเยียดตราบาปให้เธอ" ??? อืม ขอบพระคุณท่านมากครับ ท่านสมกับที่ใช้ชื่อว่า "ผู้ฝึกตน". ผมจะเก็บเอาไว้พิจารณาสอนใจตัวเอง ในคราวต่อๆไปนะครับ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 54 06:25:12 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 54 00:07:46 จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 00:01:10

ความคิดเห็นที่ 23 #19 ก็คุณบอกเองว่า อย่าสัณนิฐานเอง แล้วคุณรู้ได้ยังไงครับว่า คุณnina เป็นคนกำลังล้ม ถึงบอกว่า "คนล้มอย่าข้าม" คุณกำลังสัณนิฐานเองรึเปล่าครับ หรือรู้จักเธอเป็นการส้วนตัวหรือครับ จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 00:14:02

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ paisan746 ถ้ารู้จักเธอเป็นการส่วนตัว ช่วยเรียนให้เธอทราบว่ากระทู้เธอขึ้นกระทู้แนะนำด้วยนะครับ (ไม่ใช่ผมแนะนำนะครับ เป็นคุณสติ ตามคคห ที่8 เป็นผู้แนะนำนะครับ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่าผมเป็นคนแนะนำ) เผื่อเธอจะเข้ามาให้คคห ในกระทู้ของเธอเองนะครับ กระทู้ที่เธอนำผลงานของ อ.เสถียรพงศ์ และพระพุทธพจน์มาเผยแพร่ให้เพื่อนๆในห้องนี้ได้รู้จัก จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 00:20:26

ความคิดเห็นที่ 25 เรียนคุณ อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม  ผมไม่ได้รู้จักใครส่วนตัว  แต่คนเราเป็นสัตว์ประเสริฐควรให้โอกาสคนอื่นได้ ปรับปรุงตัว ยิ่งเป็นสตรียิ่งเป้นสัตว์ปะะเสริฐที่พระพุทธเจ้าได้กล่าวว่าการเป็นบุรุษนั้นสบายกว่าการเกิดเป็นสตรี  การที่คุณบอกข้อผิดพลาดของคุณนินา เท่ากับการอุปมาว่าเขาล้ม ซึ่งอ้างอิงจากประเด็นต่างๆที่คุณกล่าวถึง การพลาดก็ควรให้โอกาสเขาได้มาปรับปรุงตัว แก้ตัวบ้าง  ผมยืนยันนะว่าพระพุทธเจ้า สอนให้เราเชื่อตัวเอง มากกว่าเชื่อผู้ที่เก่งกล้าของไทย  ของโลก จากคุณ : ผู้ฝึกตน (paisan746) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 17:32:57

ความคิดเห็นที่ 26 เรียนคุณ paisan746 ที่คุณบอกว่า  "การที่คุณบอกข้อผิดพลาดของคุณนินา เท่ากับการอุปมาว่าเขาล้ม" แล้วผมไปข้าม --->ไม่ทราบใช้ตรรกะอะไรคิดครับนี่ ผมว่าคุณเข้าใจผิดไปใหญ่แล้วมั้งครับ กลับไปคิดใคร่ครวญดูใหม่มั้ยครับ ถ้าใครทำผิดแล้วเราบอกกล่าว เตือนสติเค้า นี่แสดงว่าเค้ากำลังล้มแล้วเรากำลังเข้าไปซ้ำเติมเค้าอยู่หรือครับ  อย่างนี้ถ้าเกิดคุณทำผิดแล้วพ่อแม่ ครูบาอาจารย์คุณตักเตือน ก็แสดงว่าพวกเค้าเห็นคุณเป็นไม้ล้ม กำลังก้าวข้ามคุณอยู่อย่างสะใจ? อย่างนั้นเหรอ สังคมนี้บ้านเมืองนี้ ใครเห็นคนทำผิดแล้วพูดเตือน ก็แสดงว่ากำลังจะแสดงความเลวของตัวเองให้คนอื่นเห็น ด้วยการซ้ำเติมคนอื่นเหรอ?? ถ้าทุกคนคิดแบบคุณ ต่อไปพ่อแม่คงไม่ต้องสอนลูก ครูคงไม่ต้องสอนนักเรียน ญาติผู้ใหญ่คงไม่ตักเตือนสติเราเพราะกลัวโดนด่า สังคมนี้คงต่างคนต่างอยู่ อยากทำอะไรก็ทำ สังคมคงยุ่งเหยิง คนดีคงท้อแท้นะครับ เพราะใครเห็นคนทำผิดกะคนอื่น ไม่ว่าเรื่องอะไร ก็ปล่อยเค้าทำไปเพราะพูดไปนอกจากตัวเองจะไม่ได้อะไรแล้วยังมาโดนด่าอย่างที่คุณกำลังทำกับผมอยู่นี่ ส่วนที่คุณว่า "การพลาดก็ควรให้โอกาสเขาได้มาปรับปรุงตัว แก้ตัวบ้าง" ไม่ทราบว่าผมไปปิดกั้นการโพสต์ปรับปรุงตัว แก้ตัวของเธอตรงไหนครับ ผมได้แต่รอเธอมาแสดงความเห็นต่อ ป่านนี้ก็ยังไม่เห็นมา ถึงฝากคุณไปบอก จบแล้วครับ ความคิดเห็นของผม ต่อไปใครแสดงความคิดเห็นอะไร ผมจะพยายามไม่เข้าไป "เจือก" เข้าไป "ข้าม" แล้วครับ ในชีวิตประจำวันผมก็เหมือนกันเห็นใครสอนใครผิดๆ หรือเห็นใครเอาเปรียบใครอยู่ ใครปล้นใครอยู่ ใครรังแกใครอยู่ ผมก็จะพยายามไม่เข้าไปยุ่ง ขอบพระคุณอีกครั้งครับคุณ paisan746  ที่ให้บทเรียนนี้แก่ผม ทำให้รู้ว่าความคิดของ "คน" นั้นเป็นอย่างไร แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 54 19:00:17 จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 18:57:01

ความคิดเห็นที่ 27 กาลครั้งหนึ่ง..... คนแก่ เดินจูงลา มา....แล้วให้ เด็ก นั่งบนหลังลา ชาวบ้านแถวนั้น เห็นเข้า...ก็ด่า เด็ก ว่า " ทรมานคนแก่ " จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 19:02:16

ความคิดเห็นที่ 28 เด็ก ก็เลยลงมาจูง ลา ให้ คนแก่ นั่งบนหลัง ลา ชาวบ้านอีกแถว ก่นด่า "ทรมานเด็ก" จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 19:02:38

ความคิดเห็นที่ 29 ทั้งเด็กทั้งคนแก่ เลยขึ้นไปนั่งบนหลังลา สมาคมพิทักษ์สิทธิสัตว์ประท้วง "ทรมานสัตว์ จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 19:03:05

ความคิดเห็นที่ 30 ทั้งคู่เลยลงมาจูงลา ชาวเมืองนินทาเสียงดัง ว่า "ไอ้โง่" จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 19:03:29

ความคิดเห็นที่ 31 คำกล่าวที่ว่า  "ผมรังเกียจคนไม่ซื่อตรงต่อพระธรรม"    ช่วยขยายความนิดสิครับ หากจะประเมินใครด้วยความ  "รังเกียจ" อาจเจือปนไปด้วย อคติไหมครับ? ขอบพระคุณ  ในองค์ความรู้ที่นำมาเผยแพร่ครับ การที่เราให้อภัยคน  กฎแห่งกรรมก็จะนำเราให้เป็นทีรักของผู้อื่น รวมถึงได้รับการอภัยจากผู้อื่น  สำหรับในการดำเนินชีวิตของคุณ ให้กรรมทำหน้าที่ของเค้าครับ  ส่วนคุณนินา ต้องขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ ที่นำแสงสว่างในการดำเนินชีพมาให้ครับ ..ขอบพระคุณครับ จากคุณ : ผูฝึกตน (paisan746) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 54 00:39:48

ความคิดเห็นที่ 32 สู้ๆๆครับ  ให้กำลังใจ  อย่าน้อยใจไปเลย..... จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 54 00:40:46

ความคิดเห็นที่ 33 สู้ๆๆครับ  ให้กำลังใจ  อย่าน้อยใจไปเลย..... จากคุณ : ผู้ฝึกตน (paisan746) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 54 00:41:13

ความคิดเห็นที่ 34 เราเจ้าของกระทู้ค่ะ   บทพระบาลีที่เป็นประเด็นคือ จตฺตาริ ฐานานิ นโร ปมตฺโต อาปชฺชตี ปรทารูปเสวี       แก้อรรถ                         บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ฐานานิ ได้แก่ เหตุแห่งทุกข์ทั้งหลาย.             บทว่า ปมตฺโต ได้แก่ ประกอบด้วยการปล่อยสติ.             บทว่า อาปชฺชติ คือ ย่อมถึง.             บทว่า ปรทารูปเสวี ความว่า เข้าไปเสพภรรยาของคนอื่นอยู่ ชื่อว่ามักประพฤตินอกทาง.             บทว่า อปุญฺญลาภํ ได้แก่ การได้อกุศล.             บทว่า น นิกามเสยฺยํ ความว่า บุคคลนั้นไม่ได้การนอนอย่างที่ตนปรารถนา ย่อมได้การนอนตลอดกาลนิดหน่อยเท่านั้น ซึ่งตนไม่ปรารถนา.             บทว่า อปุญฺญลาโภ จ ความว่า การได้สิ่งอันไม่เป็นบุญนี้อย่างหนึ่ง คติอันลามก กล่าวคือนรก เพราะสิ่งอันไม่เป็นบุญนั้น (เป็นเหตุ) อย่างหนึ่ง ย่อมมีแก่บุคคลนั้น อย่างนี้.             สองบทว่า รตี จ โถกิกา ความว่า แม้ความยินดีของบุรุษผู้กลัวนั้น กับหญิงผู้กลัวมีประมาณน้อย คือมีนิดหน่อย.             บทว่า ครุกํ ความว่า อนึ่ง พระราชาย่อมลงอาชญาอย่างหนักด้วยสามารถแห่งการตัดมือเป็นต้น.             บทว่า ตสฺมา เป็นต้น ความว่า บุคคลผู้เสพภรรยาของคนอื่น ย่อมถึงฐานะทั้งหลายมีสิ่งมิใช่บุญเป็นต้นเหล่านั้น; เพราะฉะนั้น นระจึงไม่ควรเสพภรรยาของคนอื่น.   http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=32&p=4 ย้อนกลับมาที่ "บทว่า ปรทารูปเสวี ความว่า เข้าไปเสพภรรยาของคนอื่นอยู่ ชื่อว่ามักประพฤตินอกทาง." ในที่นี้ พระพุทธเจ้าทรงตรัส "ปรทารูปเสวี" ขึ้นเป็นหัวข้อเทศนาเท่านั้น เพราะนัยยะของธรรมบทข้อนี้คือการประพฤติผิดในกามทั้งหญิงและชายค่ะ การแปลจากพระบาลี ในบางครั้งใช้เพียงหัวข้อเทศนาได้ เพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทราบอัธยาศัยของเวไนยสัตว์ว่าควรทรงสอนเช่นไร บางคาถา ตรัสว่า ให้ฆ่ามารดาและบิดาเสียถึงจะเป็นสุขก็มี เมื่อฟังแล้วพระภิกษุก็บรรลุธรรมด้วยคำว่าให้ฆ่ามารดาบิดานี้เอง มารดาบิดาในอัธยาศัยของเวไนยสัตว์นั้น ๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงนำคำนั้นมาสอนคือสิ่งใด คือนัยยะของเทศนาสำหรับผู้ฟังที่จะบรรลุธรรมได้ด้วยคำนั้น ๆ http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25.0&i=31&p=4 บางคนเรื่องเดียวกัน ฟังอีกคำไม่เข้าใจ ต้องฟังอีกคำถึงเข้าใจ หรือที่เรียกกันในสมัยนี้ว่า "โดนใจ" ในคาถาธรรมบทตอนนี้ เราขยายความคำแปลเพื่อให้ครอบคลุมตามเนื้้อความของศีลข้อที่สาม ดังต่อไปนี้ จะสังเกตได้ว่า ไม่ใช่เพียง "ปรทา" หญิงที่ไม่ควรเกี่ยวข้องสำหรับชายเท่านั้น ที่ถือได้ว่าเป็นการละเมิดศีล        เพราะแม้ที่หญิงล่วงละั้้เมิดกับผู้ชายที่ไม่ควรเกี่ยวข้อง ก็ืุืถือว่าศีลขาด ได้รับโทษเช่นเดียวกัน อคมนียวัตถุ ได้แก่วัตถุต้องห้ามซึ่งเกี่ยวเนื่องในกาเมสุมิจฉาจาร โดยทั่วไป อคมนียวัตถุ สำหรับชายนั้น เมื่อแสดงโดยละเอียดก็ได้แก่หญิง 20 ประเภท ดังที่ทราบกันดี เท่าที่พบหลักฐานในอรรถกถามีแสดงรายละเอียดไว้ดังนี้ (ขออนุญาตคัดมาเพียงบางส่วนเฉพาะที่เกี่ยวกับกาเมสุมิจฉาจาร) อรรถกถา มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ มูลปริยายวรรค สัมมาทิฏฐิสูตร ว่าด้วยความเห็นชอบ แก้กาเมสุมิจฉาจาร ก็บทว่า กาเมสุ ในข้อว่า กาเมสุมิจฺฉาจาโร นี้ ได้แก่ เมถุนสมาจาร. ความประพฤติลามกที่บัณฑิตตำหนิโดยส่วนเดียว ชื่อว่ามิจฉาจาร. แต่โดยลักษณะเจตนาที่ล่วงเกินอคมนียฐาน (คนที่ต้องห้าม) ที่เป็นไปทางกายทวาร ด้วยความประสงค์ต่ออสัทธรรม ชื่อว่ากาเมสุมิจฉาจาร. ก่อนอื่น (หญิง) ที่ชื่อว่าเป็นอคมนียฐาน (หญิงที่ต้องห้าม) สำหรับผู้ชาย ในกาเมสุมิจฉาจารนี้ ได้แก่หญิง ๒๐ จำพวก คือ หญิงที่มีมารดารักษา เป็นต้น. หญิง ๑๐ จำพวก คือ หญิงที่มารดารักษา ๑ ที่บิดารักษา ๑ ที่ทั้งมารดาและบิดารักษา ๑ ที่พี่ชายน้องชายรักษา ๑ ที่ญาติรักษา ๑ ที่โคตรรักษา ๑ ที่ธรรมรักษา ๑ ที่มีการอารักขา ๑ ที่มีอาชญารอบด้าน (อยู่ในกฏมณเฑียรบาล) ๑. และหญิงอีก ๑๐ จำพวก มีหญิงที่ไถ่มาด้วยทรัพย์เป็นต้นเหล่านี้ คือ ภรรยาที่ซื้อมาด้วยทรัพย์ (ภรรยาสินไถ่) ๑ ที่อยู่ด้วยกันเพราะความพอใจ ๑ ที่อยู่ด้วยกันเพราะโภคะ ๑ ที่อยู่ด้วยกันเพราะเครื่องนุ่งห่ม ๑ ที่ผู้ปกครองเต็มใจยกให้ ๑ ที่ชายยกเทริดลงจากศีรษะ ๑ ที่เป็นทั้งภรรยาเป็นทั้งทาส ๑ ที่เป็นทั้งภรรยาเป็นทั้งลูกจ้าง ๑ ที่เป็นเชลยศึก ๑ ที่อยู่ด้วยกันเพียงครู่เดียว ๑. ส่วนชายอื่น นอกจากสามีของตนชื่อว่าเป็นอคมนียฐาน (ชายต้องห้าม) สำหรับหญิง ๑๒ จำพวก คือ ๒ จำพวกสำหรับหญิงมีอารักขาและหญิงมีอาชญารอบด้าน และ ๑๐ จำพวกสำหรับภรรยาที่ไถ่มาด้วยทรัพย์เป็นต้น ในจำนวนหญิงทั้งหลาย (๑๐ จำพวก) สำหรับภรรยา. อนึ่ง มิจฉาจารนี้นั้นชื่อว่ามีโทษน้อย ในเพราะอคมนียฐาน (ผู้ต้องห้าม) ปราศจากคุณธรรมมีศีลเป็นต้น ชื่อว่ามีโทษมาก เพราะถึงพร้อมด้วยคุณธรรมมีศีลธรรมเป็นต้น. กาเมสุมิจฉาจารนั้นมีองค์ประกอบ ๔ อย่าง คือ เป็นบุคคลต้องห้าม ๑ จิตคิดจะเสพในบุคคลต้องห้ามนั้น ๑ การประกอบการเสพ ๑ การยังมรรคให้ดำเนินไปในมรรคหรือหยุดอยู่ ๑ ประโยคมีอย่างเดียว คือสาหัตถิกประโยคเท่านั้น. http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=12&i=110&p=1#แก้กาเมสุมิจฉาจาร จากอรรถกถานี้ กล่าวถึง อคมนียวัตถุ สำหรับชายได้แก่หญิงทั้ง 20 ประเภท ส่วนอคมนียวัตถุสำหรับหญิงนั้น แสดงไว้แก่หญิง 12 ประเภทเท่านั้น คือชายอื่นที่ไม่ใช่สามีตน แต่ไม่มีแสดง อคมนียวัตถุ สำหรับหญิง 8 ประเภทแรก และไม่มีกล่าวถึงชายที่จารีตรักษา แต่จากที่ได้พบใน "สารานุกรมพระพุทธศาสนา ประมวลจากพระนิพนธ์สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส" พิมพ์ครั้งที่ 1/2529 มีกล่าวไว้ว่า..........(ขออนุญาตคัดลอกมาอ้างอิง และเพื่อไม่ให้เยิ่นยาวไป จึงขอตัดตอนมาเฉพาะส่วนที่ตรงประเด็นเพียงบางส่วน) ดังนี้ ชายก็เป็นวัตถุที่ห้ามของหญิงเหมือนกัน แต่ท่านไม่ได้พรรณนายืดยาว, เมื่อยกขึ้นกล่าวก็ได้ ๒ จำพวกดังนี้: ชายอื่นนอกจากสามีเป็นที่ห้ามของหญิงมีสามี, ชายที่จารีตห้ามเป็นที่ห้ามของหญิงทั้งปวง ชายที่จารีตห้ามนั้น พึงรู้โดยนัยอันกล่าวแล้วในฝ่ายวัตถุที่ห้ามของชายเถิด, ในที่นี้จะแสดงแต่ตัวอย่าง : ภิกษุสามเณร เป็นผู้อยู่ใต้พระบัญญัติในพระพุทธศาสนา มีสิกขาบท ห้ามร่วมประเวณี และเป็นผู้ที่กฎหมายบ้านเมืองห้ามไม่ให้หญิงร่วมประเวณีด้วย, หญิงผู้ประพฤติล่วงข้อห้ามเป็นวัตถุให้ภิกษุต้องประถมปาราชิก ต้องโทษแผ่นดินดุจเดียวกันกับชาย; ถึงนักพรตผู้ถือเมถุนวิรัติในศาสนาอื่นก็เป็นวัตถุแห่งกาเมสุมิจฉาจารเหมือนกัน หญิงยินยอมร่วมสังวาสด้วยชายผู้เป็นวัตถุที่ห้ามของตน เป็นกาเมสุมิจฉาจาร เว้นไว้แต่ตนไม่ยินยอม แต่ชายทำพลการ ตนไม่อาจต่อสู้หรือหลบหลีก ดังนี้ไม่เป็นกาเมสุมิจฉาจารแก่หญิง เป็นแต่ชายฝ่ายเดียว ส่วนหญิงที่อยู่ในพิทักษ์รักษาของท่าน เมื่อลอบลักสมคบกับชายที่ไม่ต้องห้าม ในพระคัมภีร์ท่านก็ไม่ปรับเป็นกาเมสุมิจฉาจาร, นอกจากนี้แล้ว ยังได้พบความบางตอน จากหลักสูตรวิชาเบญจศีล-เบญจธรรม (ธรรมศึกษาตรี)แสดงถึง ชายที่จารีตห้าม อันเป็นวัตถุต้องห้ามสำหรับหญิง แสดงไว้ว่า.......... ชายต้องห้ามสำหรับหญิง มี ๒ ประเภท คือ ๑. ชายอื่นนอกจากสามี เป็นวัตถุต้องห้ามสำหรับหญิงที่มีสามีแล้ว ๒. ชายที่จารีตห้าม เป็นวัตถุต้องห้ามสำหรับหญิงทั้งปวง ชายที่จารีตห้ามนั้น มี ๓ จำพวก คือ ๑. ชายที่อยู่ในพิทักษ์รักษาของตระกูล เช่น ปู่ พ่อ ตา ทวด ๒. ชายที่อยู่ในพิทักษ์รักษาของธรรมเนียม เช่น นักพรต นักบวช ๓. ชายที่กฏหมายบ้านเมืองห้าม เช่น พระภิกษุ สามเณร ชายที่ไม่เป็นวัตถุแห่งกาเมสุมิจฉาจารของหญิง มี ๔ คือ ๑. ชายที่ไม่มีภรรยา ๒. ชายที่จารีตไม่ห้าม ๓. สามีของตน ๔. ชายที่ทำโดยพลการพ้นอำนาจของหญิง (เช่นชายที่ข่มขืน) http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php?user=dokgaew&topic=11258 เจตนาในการขยายความของคำแปลออกไปอีก ไม่ใช่เพื่อให้เสียรูป แต่เื่พื่อให้ผู้อ่านที่ยังไม่ทราบได้เห็นภาพครบและชัดเจนค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 54 22:00:31 จากคุณ : Nina_AnGeLic เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 54 01:20:33

ความคิดเห็นที่ 35 โทษมีอะไรบ้าง อดีตชาติของพระอานนท์ ท่านเคยเกิดเป็นธิดาในราชสกุลพระนามว่า พระนางรุจาราชธิดา ทรงระลึกชาติและสอนพระบิดากรรมชั่วไม่ควรทำ โดยเฉพาะในศีลข้อที่สามว่าดังนี้ "แม้หม่อมฉันก็ระลึกชาติที่ตนได้ท่องเที่ยวมาแล้วได้ ๗ ชาติ และระลึกชาติที่ตนจุติจากชาตินี้แล้วจะไปเกิดในอนาคตอีก ๗ ชาติ ข้าแต่พระจอมประชาชน(ทรงทูลพระบิดา) ชาติที่ ๗ ของกระหม่อมฉันในอดีต หม่อมฉันเกิดเป็นบุตรนายช่างทองในแคว้นมคธราชคฤห์มหานคร  หม่อมฉันได้คบหาสหายผู้ลามก ทำบาปกรรมไว้มาก เที่ยวคบชู้ภรรยาของชายอื่น เหมือนจะไม่ตาย กรรมนั้นยังไม่ให้ผล เหมือนไฟอันเถ้าปกปิดไว้ ในกาลต่อมาด้วยกรรมอื่นๆ หม่อมฉันนั้น ได้เกิดในวังสรัฐเมืองโกสัมพี เป็นบุตรเดียวในสกุลเศรษฐีผู้สมบูรณ์ มั่งคั่ง มีทรัพย์มากมาย คนทั้งหลายสักการะบูชาอยู่อยู่เสมอ ในชาตินั้น หม่อมฉันได้คบหา สมาคมมิตรสหายผู้ยินดีในกรรมอันงาม ผู้เป็นบัณฑิต เป็นพหูสูต เขาได้แนะนำให้กระหม่อมฉันรักษาอุโบสถศีลในวัน ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ ตลอด ราตรีเป็นอันมาก กรรมนั้นยังไม่ให้ผล ดังขุมทรัพย์ที่ฝังไว้ใต้น้ำ ครั้นภายหลังบรรดาบาปกรรมทั้งหลาย ปรทารกกรรมอันใดที่หม่อมฉันได้กระทำไว้ในมคธรัฐ ผลแห่งกรรมนั้นมาถึงกระหม่อมฉันแล้ว เหมือนดื่มยาพิษอันร้ายแรง ฉะนั้น ข้าแต่พระองค์ผู้ครองวิเทหรัฐ หม่อมฉันจุติจากตระกูลเศรษฐีนั้นแล้ว ต้องหมกไหม้อยู่ในโรรุวนรกสิ้นกาลนาน เพราะกรรมของตน หม่อมฉันระลึกถึงทุกข์ที่ได้เสวยในนรกนั้นไม่ได้ความสุขเลย หม่อมฉันยังทุกข์เป็นอันมากให้สิ้นไปในนรกนั้นนานปี  แล้วเกิดเป็นลาถูกเขาตอนอยู่ในภินนาคตมหานคร. จากคุณ : Nina_AnGeLic เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 54 22:12:59

ความคิดเห็นที่ 36 [๘๖๔] หม่อมฉัน (เมื่อเกิดเป็นลา) ต้องพาลูกผู้ดีทั้งหลายไปด้วยหลังบ้างด้วยรถบ้าง นั่นเป็นผลแห่งกรรม คือ การที่กระหม่อมฉันคบชู้ภรรยาของผู้อื่น ข้าแต่พระองค์ผู้ครองวิเทหรัฐ หม่อมฉันจุติจากชาติเป็น ลานั้นแล้ว ไปบังเกิดเป็นลิงในป่าใหญ่ ถูกนายฝูงผู้คะนองขบกัดลูกอัณฑะ นั่นเป็นผลแห่งกรรม คือ การที่กระหม่อมฉันคบชู้ภรรยาของผู้อื่น   ข้าแต่พระองค์ผู้ครองวิเทหรัฐ กระหม่อมฉันจุติจากชาติเป็นลิง นั้นแล้ว ได้เกิดเป็นโคในทสันนรัฐ ถูกเขาตอน มีกำลังแข็งแรง หม่อมฉันต้องเทียมยานอยู่สิ้นกาลนาน นั่นเป็นผลของกรรม คือการที่กระหม่อมฉันคบชู้ภรรยาของผู้อื่น ข้าแต่พระองค์ผู้ครองวิเทหรัฐหม่อมฉันจุติจากชาติเป็นโคนั้นแล้ว มาบังเกิดเป็นกะเทยในตระกูล ที่มีโภคสมบัติมากในแคว้นวัชชี จะได้เกิดเป็นมนุษย์ยากจริงๆ  นั่น เป็นผลแห่งกรรม คือ การที่กระหม่อมฉันคบชู้ภรรยาผู้อื่น ข้าแต่พระองค์ผู้ครองวิเทหรัฐ หม่อมฉันจุติจากชาติเป็นกะเทยนั้นแล้ว ได้ไปบังเกิดเป็นนางอัปสรในนันทวัน ณ ดาวดึงส์พิภพ มีวรรณน่าใคร่ มีผ้าและอาภรณ์อันวิจิตร สวมกุณฑลแก้วมณี เป็นผู้ฉลาดในการฟ้อนรำ ขับร้อง เป็นบาทบริจาริกาของท้าวสักกะ ข้าแต่พระองค์ผู้ครองวิเทหรัฐ เมื่อหม่อมฉันอยู่ในดาวดึงส์พิภพนั้น ระลึกชาติแม้ในอนาคตได้อีก๗ ชาติ ที่หม่อมฉันจุติจากดาวดึงส์พิภพนั้นแล้ว จะไปเกิดต่อไป                           กุศลที่กระหม่อมฉันกระทำไว้ในเมืองโกสัมพีตามมาให้ผล หม่อมฉัน จุติจากดาวดึงส์พิภพนั้นแล้ว ท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ ข้าแต่พระมหาราชา หม่อมฉันเป็นผู้อันชนทั้งหลายสักการบูชาแล้วเป็นนิตย์ตลอด ๗ ชาติ หม่อมฉันไม่พ้นจากความเป็นหญิงตลอด ๖ ชาติ                           ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐ ชาติที่ ๗ หม่อมฉันจะได้เกิดเป็นเทวดาผู้ชาย  เป็นเทพบุตรผู้มีฤทธิ์มาก เป็นผู้สูงสุดในหมู่เทวดา แม้วันนี้ นางอัปสรทั้งหลายก็ยังร้อยดอกไม้เป็นพวงมาลัยอยู่ในนันทวัน  เทพบุตร พระนามว่าชวะสามีของกระหม่อมฉัน ยังรับพวงมาลัยอยู่ ๑๖ ปี ในมนุษย์นี้ราวครู่หนึ่งของเทวดา ๑๐๐ ปีในมนุษย์เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดา ดังที่ได้กราบทูลให้ทรงทราบมานี้  กรรมทั้งหลายย่อมติดตามไปทุกๆ ชาติ แม้ตั้งอสงไขย ด้วยว่ากรรมจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตามยังไม่ให้ผลแล้วย่อมไม่พินาศไป. จากคุณ : Nina_AnGeLic เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 54 22:16:34

ความคิดเห็นที่ 37 ชายใดปรารถนาเป็นบุรุษทุกๆ ชาติไป ก็พึงเว้นภรรยาผู้อื่นเสีย เหมือนบุคคลล้างเท้าสะอาดแล้วเว้นเปือกตม ฉะนั้น หญิงใดปรารถนาเป็นบุรุษ ทุกๆ ชาติไป ก็พึงยำเกรงสามี เหมือนนางเทพอัปสรผู้เป็นบาทบริจาริกายำเกรงพระอินทร์ ฉะนั้น ผู้ใดปรารถนาโภคทรัพย์ อายุยศและสุขอันเป็นทิพย์ ก็พึงเว้นบาปทั้งหลายประพฤติแต่สุจริตธรรม ๓ อย่าง(กาย, วาจา, ใจ)   สตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม  ควรเป็นผู้ไม่ประมาท(เลินเล่อ)ด้วยกาย วาจา ใจ มีปัญญาเครื่องพิจารณาเพื่อประโยชน์ของตน   นรชนเหล่าใดเหล่าหนึ่งในโลกนี้ ที่เป็นคนมียศ  มีโภคทรัพย์บริบูรณ์ทุกอย่าง นรชนเหล่านั้นได้สั่งสมกรรมดีไว้ในปางก่อนแล้วโดยไม่ต้องสงสัย สัตว์ทั้งปวงล้วนมีกรรมเป็นของตัว ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐ  ขอพระองค์ทรงพระราชดำริด้วยพระองค์เถิด ข้าแต่พระจอมชน พระสนม (ผู้ทรงโฉมงดงาม) ปานดังนางเทพอัปสรผู้ประดับประดาคลุมกายด้วยร่างแหทองเหล่านี้ พระองค์ทรงได้มาเพราะผลแห่งกรรมอะไร พระนางรุจาราชกัญญา ทรงยังพระเจ้าอังคติราชพระชนกนาถให้ทรงยินดี พระราชกุมารีผู้มีวัตรอันดีงามทรงกราบทูลทางสุคติแก่พระชนกนาถ ดังหนึ่งบอกทางให้แก่คนหลงทาง และได้ทรงกราบทูลข้อธรรมถวายโดยนัยต่างๆ ดังนี้แล ฯ จาก มหานารทกัสสปชาดก http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=28&i=834 จากคุณ : Nina_AnGeLic เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 54 22:19:07

ความคิดเห็นที่ 38 หากรักษาศีลข้อนี้หรือรักษาพรหมจรรย์ได้ จะได้รับสิ่งดีในชีวิตอย่างไรบ้าง ?               อพฺรหฺมจริยา เวรมณี มีผลเป็นต้นดังนี้ คือ ความไม่มีศัตรู ความเป็นที่รักของคนทุกคน ความได้ข้าวน้ำผ้าและที่นอนเป็นต้นตามต้องการ ความนอนสบาย ความตื่นสบาย ความพ้นภัยในอบาย ความเป็นผู้ไม่เกิดเป็นสตรีหรือเกิดเป็นคนไม่มีเพศ ความไม่โกรธ ความกระทำโดยเคารพ ความเป็นที่รักกันแห่งสตรีและบุรุษ ความมีอินทรีย์บริบูรณ์ ความมีลักษณะ(รูปร่างหน้าตา)บริบูรณ์ ความไม่มีความสงสัย ความเป็นผู้ขวนขวายน้อย(ไม่ลำบาก) ความอยู่เป็นสุข ความไม่มีภัยแต่ที่ไหน ความไม่มีความพลัดพรากจากสัตว์สังขารที่รัก *************************** อรรถกถา ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ สิกขาบท ๑๐ หัวข้อปาฐะว่าด้วยสิกขาบท http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=2 จากคุณ : Nina_AnGeLic เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 54 22:31:30

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบพระคุณครับ จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 54 19:30:00

ความคิดเห็นที่ 40 อนุโมทนาบุญ ค่ะ จากคุณ : แสนดีเหมือนทราย เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 54 20:41:59

ความคิดเห็นที่ 42 อันคนถ่อยปัญญาเบาเจ้าอิจฉา ชอบนินทามาดร้ายคนหนีหาย กระทำชั่วกรรมสนองจนวันตาย ต้องครวญคร่ำถูกควักใจในโลกา จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 13:14:45

ความคิดเห็นที่ 43 การให้ร้ายผู้อื่นนั้นหากมาจากต​นเองคือการแสดงออกซึ่งความริษยา​ มองให้ลึกลงจะเกี่ยวกับความสูญเ​สียที่เรามี หากอยากหยุดการให้ร้ายผู้อื่นนัั่น ต้องรู้ก่อนว่าอะไรคือสาเหตุทำใ​ห้เกิดการให้ร้ายผู้อื่นเสียก่อ​น จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 13:15:28

ความคิดเห็นที่ 44 ถึงความเห็นที่ 41 (ซึ่งลบออกไปแล้ว)พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนให้เวไนยสัตว์ดูถูกกันเอง ว่าคนอื่นแต่มาทำเสียเอง แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 12:26:29 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 12:14:07 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 12:07:42 จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 13:23:50

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องเข้ามาอ่าน  รักษาศีลห้าให้ครบบริบูรณ์ก่อนเถิด  พระพุทธเจ้าสอนให้ทำ  มากกว่าพูด  ไม่มีใครในโลกทีบรรลุธรรมได้ด้วยการพูดไปวันๆ หรอกครับ  การที่คุณnina นำสิ่งดีดีมาแชร์ กัน เขาเรียกโวหาร ในการเขียนหนังสือ  โวหาร ก็คือ ต้นกำเนิดของนักเขียนนี่หละครับ  ทุกสิ่งล้วนถูกปรุงแต่ง แต่ถ้าผลแห่งการปรุงแต่งนั้นทำให้คนดีจริง  ก็น่าสรรเสริญครับ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 54 13:33:28 แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 54 13:29:16 แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 54 13:28:36 จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 13:24:44

ความคิดเห็นที่ 46 ไม่ทราบคุณ แสนดีเหมือนทรายไปทำอะไรให้คุณ paisan จึงว่าเธอเช่นนั้น ตอนแรกๆ ผมนึกว่าคุณเข้ามากระทู้นี้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ กรุณานำกลอนและข้อความทั้งหลายที่เอามาลง เตือนสติตนเองให้ได้ก่อนนะครับ ดูก็เห็นชัดว่าสักแต่เอามาด่าคนอื่นโดยไม่ได้พิจารณาตัวเองเลย จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 18:46:56

ความคิดเห็นที่ 47 อันคนถ่อยปัญญาเบาเจ้าอิจฉา ชอบนินทามาดร้ายคนหนีหาย กระทำชั่วกรรมสนองจนวันตาย ต้องครวญคร่ำถูกควักใจในโลกา จำขึ้นใจก็ดีแล้วครับ ไว้สอนตัวเองนะครับ จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 18:50:27

ความคิดเห็นที่ 48 คำพูดคุณไพศาลที่นำมาลง คำก็ชั่ว คำก็ถ่อย เค้าว่าคนสันดานเป็นเช่นไรก็พูดออกมาแบบนั้น จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 18:55:46

ความคิดเห็นที่ 49 เรียนคุณคุณอย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม   ในกระทู้นี้ ผมยืนยันครับ ว่าผมตอบโต้คำพูดของคุณอย่ามารู้จักเดี๋ยวจะหลงรักผมเพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนคนอื่นผมตีความได้ว่าเขามีความคิดงดงาม จิตใจงดงาม  และอนุโมทนาบุญไปด้วยกัน    เลิกป้ายสีคนอื่นได้แล้วนะครับ  และกรุณาใช้คำสุภาพบนกระดานด้วยครับคุณอย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม   อ่านให้รอบคอบซะก่อน แล้วก็ใช้สมองคิด คิดไม่ออกก็หวดกาแฟสักแก้วพอคิดแล้วก็ค่อยมานั่งพิมพ์นะครับ....ฝากไว้นิดนนะครับโพสแล้วก็อย่ามานั่งลบความเห็นที่41 ซึ่งเนื้อหาที่แปลได้คือคุณดูถูกคุณNina_AnGeLic  จนคุณก็รู้ตัวเองดีว่าไปดูถูกการศึกษาความรู้ของเขา ไปหาว่าเขาโง่  พอคุณสำนึกผิดว่าแรงเกินไปก็มานั่งลบออกพอลบของตัวเองออก  จะมากลับตาลปัตร โยนความผิดให้ผมไปว่าผมไปต่อว่าคุณแสนดี  อันนี้ไม่เอาเปรียบกันไปหน่อยเหรอครับ จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 12:22:38

ความคิดเห็นที่ 50 ----------------------------- เพิ่งพบ คิดว่าจากกระทู้นี้เองทึ่ทำให้คุณ Nina_AnGeLic   ลาออกจากสมาชิกพันทิบ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10800533/Y10800533.html ---------  ความผิดพลาด ที่คุณ Nina_AnGeLic ทำคือ แก้คำในบทประพันธ์ของท่านอื่น (ด้วยเจตนาจะให้เข้าใจครอบคลุม แต่การแก้บทประพันธ์ของท่านอื่น (ไม่ได้เจตนาแอบอ้าง แต่ต้องการให้ผู้อ่านเข้าใจครอบคลุมตามพระธรรม)  เรื่องการแอบอ้างบทประพันธ์ ข้อเขียน หรือแก้ไขเอง   เป็นสิ่งที่ต้องระวัง ด้วยมีชื่อท่านที่ประพันธ์ไว้(กลายเป็นว่าสิ่งที่ ปรากฏไม่ใช่สิ่งที่ที่ท่านประพันธ์)   --------- การอ้างอิง(ทำได้ ให้ถูกต้อง)หรือแก้ไขข้อเขียน(ทำไม่ได้ ผิด) นี้ในการเรียนค่อนข้างถือ   ต้องทำให้ถูกต้อง     ตามเหตุการณ์ คุณนีนาฯ ทำไปโดยเจตนาดี แต่ไม่ทราบว่าทำไม่ได้(คือทำได้ แต่ผิด) เมื่อเข้าใจแล้ว ก็บอกกล่าว แก้ไข และขออภัยผู้เกี่ยวข้อง(ท่านผู้ประพันธ์ ผู้อ่าน)ได้  ท่านเจ้าของบทประพันธ์ท่านคงเมตตาอดโทษให้ ถือว่าเป็นบทเรียน   (เพิ่มเติม----- ในการแสดงข้อพระธรรมให้ครอบคลุม อาจใช้การอธิบายเพิ่มต่อจากข้อเขียนหรือบทประพันธ์นั้น ) ผิดนี้เป็นผิดน้อยอภัยได้  ยังไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวง และได้กุศลที่ทำมามีผู้ได้ตรวจสอบท้วงติงให้   ควรยินดีที่มีผู้ท้วงติงสิ่งที่เราทำพลาด(ละความเสียใจ น้อยใจ ออกไปเสีย   ถ้าไม่มีผู้ท้วงติง แม้เราจะไม่เสียใจ  แต่ไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย  วันหน้าเราอาจทำพลาดเช่นนี้แต่เกิดผลที่เสียหายมากๆกว่านี้ได้   ดังนั้นเราควรยินดีที่มีผุ้ชวยตรวจสอบท้วงติงให้  แม้ว่าเราอาจจะไม่ยินดี ไม่พอใจในคำพูดในคำพูดของท่านก็ตาม   ผมคิดว่าแม้เป็นเช่นนั้นเรายังต้องขอบคุณท่านผู้ท้วงติง(การทำใจได้ เป็นไปตามอายุ ที่มีมากขึ้นของกายและจิตนี้(เพิ่มเติม --หากสมมตินับอายุตั้งแต่ปฏิสนธิในภูมินี้ และสะสมความรู้ -- แท้จริงกายและจิตเกิดดับตลอดเวลาทุกขณะจิต วินาทีละหลายๆครั้ง เพียงแต่สะสมความรู้ ความคิดได้)) ขอให้คุณนีนาฯ  จิตใจพ้นจากความเศร้าทั้งหลาย  ขอกุศลกรรมที่ได้ทำแล้ว นำท่านให้ออกจากความเศร้าหมองอันเป็นอกุศลธรรม   ไปสู่ความผ่องใสอ้นเป็นกุศลธรรมโดยพลันเทอญ เมื่อลาออกแล้ว  หากวันหลังมีโอกาส  หวังว่าจะได้พบอีก   จะยินดียิ่ง กายและจิตอันสมมตขื่อว่า  วงกลม แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 16:15:40 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 13:11:21 จากคุณ : วงกลม เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 12:25:23

ความคิดเห็นที่ 51 กลับมานะครับ  เรารออยู่ จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 12:27:56

ความคิดเห็นที่ 52 เรียนคุณอย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม   กระผมกับคุณ Nina_AnGeLic  ยอมแพ้แล้วหละครับ เอาเหรียญทองไปเลยครับ จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 12:44:31

ความคิดเห็นที่ 53 เรียนคุณ ไพศาล ทราบ อย่าคิดว่าคนอื่นจะมีนิสัยแบบคุณสิครับ ผมไม่เคยไปลบกระทู้ 41 อะไรเลย อาจจะมีคนอื่นแจ้งลบก็เป็นได้ เราไม่สามารถลบกระทู้ได้เอง ต้องมีึคนแจ้งเวป แล้วเว็ปจึงลบให้ ถ้าผมไม่อยากให้ใครเห็นข้อความผม ผมก็แค่เข้าไปแก้ไขแล้วลบเฉพาะข้อความทิ้ง ไม่เห็นต้องลบทั้งหัวข้อ คคห เลย มีแต่คุณเองนั่นแหละ ที่ด่าหยายๆคายๆติดต่อกัน แล้วคุณยังไปว่าคุณแสนดีเหมือนทราย พอผมมาท้วง คุณก็เข้าไปแก้ไขคำพูดตัวเองใหม่จริงหรือเปล่าครับ แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 54 09:22:58 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 54 09:13:30 จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 22:23:24

ความคิดเห็นที่ 54 ความคิดเห็นที่ 52 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน เรียนคุณอย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม   กระผมกับคุณ Nina_AnGeLic  ยอมแพ้แล้วหละครับ เอาเหรียญทองไปเลยครับ จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 12:44:31 [แก้ไข] ____________________________________________ ตกลงคุณทั้งสองสนิทกันหรือครับ ถึงมาตอบแทนคุณ Nina ได้ มิน่าคุณถึงมาด่าผมฉอดๆ จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 22:26:20

ความคิดเห็นที่ 55 ไม่ได้ด่า..ไม่รู้จักกัน  ตีความเสียใหม่ครับ จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 54 08:24:53

ความคิดเห็นที่ 56 ผมไม่ได้ว่าคุณแสนดีเลย...อ่านหนังสืออกไหม จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 54 08:25:36

ความคิดเห็นที่ 57 เรียน คุณอย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม ผมไม่เคยใช้คำหยาบคายในเวป  ไปหาหลักฐานมายืนยันด่วน  มีแต่ใช้สุภาษิต คำพังเพย  ในการอุปมาอุปไมย  ห้ามป้ายสี   คนในเวปนี้เขาก็รู้ว่าคุณไปพูดเสียดสีจนคุณ  Nina_AnGeLic   ต้องขอลาออกจากสมาชิก   ตามไปเสียดสีคุณ Nina_AnGeLic  แทบทุกกระทู้   มีจิตสำนึกหน่อยครับ  ฮ่่่าๆๆๆ  โห้ๆๆๆ  เหอๆๆๆ   ตลกมาก   คำ...โกหก...สามารถกลบเกลื่อนคว​ามผิด...ooo...แต่ไม่มีสิทธิ์ลบ​เลือน...ความจริง...ครับพี่น้อง คนที่รู้ตัวเองว่าทำผิดแล้วปรับปรุงตัว อันนี้น่าสรรเสริญ  แต่คนที่รู้ตัวว่าทำผิดไม่คิดปรับปรุงตัว แถมมาแนวข้างๆๆคูๆๆ แม่น้ำ   อันนี้น่าสมเพชมากๆๆครับ  พี่น้อง....มนุษย์หนอมนุษย์ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 54 08:33:15 จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 54 08:31:49

ความคิดเห็นที่ 58 คุณกล้าปฏิเสธไหม ที่เพื่อนดีดีของเราในเวปpantipคนหนึ่งที่ชื่อว่า Nina_AnGeLic ลาออกจากเวปก็เพราะคุณอย่ามารู้จักเดี๋ยวจะหลงรักผม  จากวลีเด็ด """จนป่านนี้แลัวก็ยังกล้าพูดเนาะว่า การแปลของเรา """ ของคุณคุณอย่ามารู้จักเดี๋ยวจะหลงรักผม   คุณฝังใจไปตามแทะโลมNina_AnGeLic  เค้าทุกกระทู้เลยนะครับ  รู้ตัวบ้างหรือเปล่าครับว่าไปทำร้ายจิตใจเค้า  เสียดสีคนอื่นแบบนี้ ไม่ยุติธรรมเลย เมื่อคุณเริ่มต้นที่จะเสียดสีคนอื่น  ก็ต้องยอมรับการโดนเสียดสีกลับเสียด้วยนะครับ...ถึงเวลานี้ก็รอให้กรรมทำงานของเค้าเถอะครับ  ผมยืนยันว่าผมไม่ได้ด่าทออะไรคุณ ไม่ได้พูดคำหยาบ แต่ใช่คติ สุภาษิตเปรียบเทียบ เป็นการปะทะคารมกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของปัญญาชน  ถ้าด่าทอกันอันนั้นเป็นวิสัยของผู้โง่เขลาเบาปัญญา หละครับ  คิดใหม่ทำใหม่นะครับ  ขอบคุณนะครับที่เห็นกระทู้อโหสิกรรม ของคุณ  แต่พูดแล้วก็ต้องทำให้ได้ตามคำพูดด้วย อโหสิกรรมหนะครับ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 54 08:47:53 จากคุณ : ผู้ฝึกตน (paisan746) เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 54 08:46:51

ความคิดเห็นที่ 59 ช่วยเอาหลักฐานที่ผมว่าคุณแสนดีมาดูด่วน  ตรงไหนครับ  ชาวบอร์ดจะได้รู้กันทั้งหมด  ขอหลักฐาน  อย่ามาเลือนลางครับ จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 54 08:49:13

ความคิดเห็นที่ 60 กระทู้ที่คุณอย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผมเขาลบ  หรือทางเวปลบเอง  ก็เพราะมีเหตุผลหลายประการคือ หยาบคาย  โกหก ทำลายคนอื่น  เขาจึง  ลบ  ไตร่ตรองด้วยครับ ว่า ตนเองโพสสิ่งไม่ได้ลงในเวป  รู้ตัวเปล่า .. จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 54 08:50:54

ความคิดเห็นที่ 61 คุณ ไพศาลช่วยไปอ่านความเห็นที่ 50 ของคุณวงกลมนะครับ แล้วพยายามทำตัวให้มีวุฒิภาวะหน่อย แล้วรู้ไว้ด้วยว่าการกระทำของคุณ Nina ในกระทู้นี้นั้นผิดกฏหมายลิขสิทธิ์ หรือคุณใช้แต่ของละเมิดลิขสิทธิ์ประจำหรือไง ถึงรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดาและไม่ผิด ความจริงผมและคุณNina ไม่มีอะไรกันมาก ต่างคนต่างอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน เราเป็นผู้ปฏิบัติธรรมด้วยกันทั้งคู่ ผิดถูกก็เตือนกัน จะมีแต่คุณไพศาลนี่แหละที่มาคอยยุแยงตะแคงรั่วไม่ยอมเลิกลา ผมชักจะเบื่อนิสัยคุณเต็มทนแล้ว ถ้ายังไม่เลิกอีกนี่ ผมอาจจะต้องทำอะไรบางอย่าง เช่นแจ้งเว็ปมาสเตอร์หรือรายงานผู้บังคับบัญชาของคุณ ส่วนที่คุณว่าคุณ แสนดีนั้น คุณเขียนเอง ผมจำได้ คุณเขียนเลขกระทู้ที่20 ที่คุณแสนดีลงไว้ แต่คุณลบไปแล้วนี่ ยังมาโกหกอีก กล้าทำก็กล้ารับให้สมเป็นทหารหน่อย ไม่งั้นก็ไปเอาผ้าถุงมานุ่งแทน แล้วไอ้ที่คุณบอกว่าไม่ได้ใช้คำหยาบมาด่า ให้ผมเอาหลักฐานมาดู คุณว่าคุณเอาแต่เอากลอนมาเปรียบเปรย  มาต่างกันนักเหรอ ไอ้กลอนของคุณที่เอามาลงนี่ ความคิดเห็นที่ 21 MsgStatus(Msv[21], 21); ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์ มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต แม้พูดชั่วตัวตายทำลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 23:50:16     MsgStatus(Msv[47], 47); ความคิดเห็นที่ 42 MsgStatus(Msv[42], 42); อันคนถ่อยปัญญาเบาเจ้าอิจฉา ชอบนินทามาดร้ายคนหนีหาย กระทำชั่วกรรมสนองจนวันตาย ต้องครวญคร่ำถูกควักใจในโลกา จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 13:14:45 กลอนทั้งหลายที่คุณลงนี่ ผมเอามาลงซ้ำอีกที อันนี้คุณอ่านแล้วลองเทียบกับตัวเองนะ อ่านหลายๆครั้ง ----------------------------------- "คุณฝังใจไปตามแทะโลมNina_AnGeLic  เค้าทุกกระทู้เลยนะครับ" ---------------------------------------------------------------------------- นี่ก็โกหกอีก ผมเขียนท้วงคุณ Nina ในกระทู้นี้ กระทู้เดียว ส่วนกระทู้อื่นมีแต่เข้าไปให้กำลังใจให้กิ๊ฟและอนุโมทนาเค้า ตามลิ้งไปดูก็ได้ คุณนี่โกหกหน้าด้านๆเลย แทะโลมนี่แปลว่าพูดเกี้ยวชู้สาว ผมไม่เคยไปทำอย่างนั้น แค่กระทู้นี้เองที่ผมเข้าไปท้วง http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10800533/Y10800533.html ส่วนอันนี้เข้าไปชม ทั้งคุณ Nina และผมต่างให้ กิ๊ฟซึ่งกันและกัน  http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10801800/Y10801800.html อันนี้ผมและคุณ Nina อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10800533/Y10800533.html ตอนแรกหาว่าผมลบกระทู้ที่ 41 พอผมมายืนยันว่าไม่ได้ลบ ก็มาว่าๆเพราะกระทู้ "พูดหยาบ โกหก ทำลายคนอื่น" คุณนี่พูดกลับกลอกไปมา มิน่าเล่า พูดกลับไปกลับมา ประโยคนึงบอกว่าไม่ได้ว่าผม  ความคิดเห็นที่ 55 MsgStatus(Msv[55], 55); ไม่ได้ด่า..ไม่รู้จักกัน  ตีความเสียใหม่ครับ จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 54 08:24:53  "แต่ใช่คติ สุภาษิตเปรียบเทียบ เป็นการปะทะคารมกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของปัญญาชน"  แต่อีกประโยคกลับพูดว่า ต้องการพูดเสียดสีผม  "เมื่อคุณเริ่มต้นที่จะเสียดสีคนอื่น  ก็ต้องยอมรับการโดนเสียดสีกลับเสียด้วยนะครับ"  ตกลงคุณพูดอย่างไรกันแน่ ทำตัวไม่สมเป็นทหารของชาติเลย แล้วยังมีหน้ามาบอกว่า ใช้สุภาษิตมาเสียดสีคนอื่นเป็นเรื่องของปัญญาชน ปัญญาชนเค้าไม่ทำแบบนี้หรอกครับ กลับไปเรียนศีลธรรมมาใหม่ ผมจะก๊อปความเห็นคุณเป็นหลักฐานเอาไว้ ไม่งั้นเดี๋ยวคุณมาลบออก แล้วก็โกหกอีกว่าไม่ได้เขียน ความคิดเห็นที่ 58 MsgStatus(Msv[58], 58); คุณกล้าปฏิเสธไหม ที่เพื่อนดีดีของเราในเวปpantipคนหนึ่งที่ชื่อว่า Nina_AnGeLic ลาออกจากเวปก็เพราะคุณอย่ามารู้จักเดี๋ยวจะหลงรักผม  จากวลีเด็ด """จนป่านนี้แลัวก็ยังกล้าพูดเนาะว่า การแปลของเรา """ ของคุณคุณอย่ามารู้จักเดี๋ยวจะหลงรักผม   คุณฝังใจไปตามแทะโลมNina_AnGeLic  เค้าทุกกระทู้เลยนะครับ  รู้ตัวบ้างหรือเปล่าครับว่าไปทำร้ายจิตใจเค้า  เสียดสีคนอื่นแบบนี้ ไม่ยุติธรรมเลย เมื่อคุณเริ่มต้นที่จะเสียดสีคนอื่น  ก็ต้องยอมรับการโดนเสียดสีกลับเสียด้วยนะครับ...ถึงเวลานี้ก็รอให้กรรมทำงานของเค้าเถอะครับ  ผมยืนยันว่าผมไม่ได้ด่าทออะไรคุณ ไม่ได้พูดคำหยาบ แต่ใช่คติ สุภาษิตเปรียบเทียบ เป็นการปะทะคารมกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของปัญญาชน  ถ้าด่าทอกันอันนั้นเป็นวิสัยของผู้โง่เขลาเบาปัญญา หละครับ  คิดใหม่ทำใหม่นะครับ  ขอบคุณนะครับที่เห็นกระทู้อโหสิกรรม ของคุณ  แต่พูดแล้วก็ต้องทำให้ได้ตามคำพูดด้วย อโหสิกรรมหนะครับ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 54 08:47:53 จากคุณ : ผู้ฝึกตน (paisan746) เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 54 08:46:51     ความคิดเห็นที่ 60 MsgStatus(Msv[60], 60); กระทู้ที่คุณอย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผมเขาลบ  หรือทางเวปลบเอง  ก็เพราะมีเหตุผลหลายประการคือ หยาบคาย  โกหก ทำลายคนอื่น  เขาจึง  ลบ  ไตร่ตรองด้วยครับ ว่า ตนเองโพสสิ่งไม่ได้ลงในเวป  รู้ตัวเปล่า .. จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 54 08:50:54 อันนี้คุณก็พยายามจะให้กล่าวให้ร้ายผม ทั้งๆที่เหตุผลที่เว็ปจะลบกระทู้นั้นมีมากกว่านี้  สุดท้ายนี้ผมคงจะไม่ตอบโต้อะไรด้วยคำพูดอีกแล้ว ปล่อยให้คนอ่านเค้าพิจารณาเอง แต่ถ้าคุณยังเข้ามาด่าผมอีก ผมก็จะทำตามที่ผมกล่าวไว้ข้างบน                                                                                                                                                                                                                                                แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 54 12:36:51 จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 12:32:30

ความคิดเห็นที่ 62 อ่านความเห็นนี้หลายๆครั้งนะครับ ความคิดเห็นที่ 50 MsgStatus(Msv[50], 50); ----------------------------- เพิ่งพบ คิดว่าจากกระทู้นี้เองทึ่ทำให้คุณ Nina_AnGeLic   ลาออกจากสมาชิกพันทิบ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10800533/Y10800533.html ---------  ความผิดพลาด ที่คุณ Nina_AnGeLic ทำคือ แก้คำในบทประพันธ์ของท่านอื่น (ด้วยเจตนาจะให้เข้าใจครอบคลุม แต่การแก้บทประพันธ์ของท่านอื่น (ไม่ได้เจตนาแอบอ้าง แต่ต้องการให้ผู้อ่านเข้าใจครอบคลุมตามพระธรรม)  เรื่องการแอบอ้างบทประพันธ์ ข้อเขียน หรือแก้ไขเอง   เป็นสิ่งที่ต้องระวัง ด้วยมีชื่อท่านที่ประพันธ์ไว้(กลายเป็นว่าสิ่งที่ ปรากฏไม่ใช่สิ่งที่ที่ท่านประพันธ์)   --------- การอ้างอิง(ทำได้ ให้ถูกต้อง)หรือแก้ไขข้อเขียน(ทำไม่ได้ ผิด) นี้ในการเรียนค่อนข้างถือ   ต้องทำให้ถูกต้อง     ตามเหตุการณ์ คุณนีนาฯ ทำไปโดยเจตนาดี แต่ไม่ทราบว่าทำไม่ได้(คือทำได้ แต่ผิด) เมื่อเข้าใจแล้ว ก็บอกกล่าว แก้ไข และขออภัยผู้เกี่ยวข้อง(ท่านผู้ประพันธ์ ผู้อ่าน)ได้  ท่านเจ้าของบทประพันธ์ท่านคงเมตตาอดโทษให้ ถือว่าเป็นบทเรียน   (เพิ่มเติม----- ในการแสดงข้อพระธรรมให้ครอบคลุม อาจใช้การอธิบายเพิ่มต่อจากข้อเขียนหรือบทประพันธ์นั้น ) ผิดนี้เป็นผิดน้อยอภัยได้  ยังไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวง และได้กุศลที่ทำมามีผู้ได้ตรวจสอบท้วงติงให้   ควรยินดีที่มีผู้ท้วงติงสิ่งที่เราทำพลาด(ละความเสียใจ น้อยใจ ออกไปเสีย   ถ้าไม่มีผู้ท้วงติง แม้เราจะไม่เสียใจ  แต่ไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย  วันหน้าเราอาจทำพลาดเช่นนี้แต่เกิดผลที่เสียหายมากๆกว่านี้ได้   ดังนั้นเราควรยินดีที่มีผุ้ชวยตรวจสอบท้วงติงให้  แม้ว่าเราอาจจะไม่ยินดี ไม่พอใจในคำพูดในคำพูดของท่านก็ตาม   ผมคิดว่าแม้เป็นเช่นนั้นเรายังต้องขอบคุณท่านผู้ท้วงติง(การทำใจได้ เป็นไปตามอายุ ที่มีมากขึ้นของกายและจิตนี้(เพิ่มเติม --หากสมมตินับอายุตั้งแต่ปฏิสนธิในภูมินี้ และสะสมความรู้ -- แท้จริงกายและจิตเกิดดับตลอดเวลาทุกขณะจิต วินาทีละหลายๆครั้ง เพียงแต่สะสมความรู้ ความคิดได้)) ขอให้คุณนีนาฯ  จิตใจพ้นจากความเศร้าทั้งหลาย  ขอกุศลกรรมที่ได้ทำแล้ว นำท่านให้ออกจากความเศร้าหมองอันเป็นอกุศลธรรม   ไปสู่ความผ่องใสอ้นเป็นกุศลธรรมโดยพลันเทอญ เมื่อลาออกแล้ว  หากวันหลังมีโอกาส  หวังว่าจะได้พบอีก   จะยินดียิ่ง กายและจิตอันสมมตขื่อว่า  วงกลม แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 16:15:40 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 13:11:21 จากคุณ : วงกลม เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 12:25:23   จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 12:40:24

ความคิดเห็นที่ 63 ความคิดเห็นที่ 55 MsgStatus(Msv[55], 55); ไม่ได้ด่า..ไม่รู้จักกัน  ตีความเสียใหม่ครับ จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 54 08:24:53 ความคิดเห็นที่ 56 MsgStatus(Msv[56], 56); ผมไม่ได้ว่าคุณแสนดีเลย...อ่านหนังสืออกไหม จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 54 08:25:36 ความคิดเห็นที่ 57 MsgStatus(Msv[57], 57); เรียน คุณอย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม ผมไม่เคยใช้คำหยาบคายในเวป  ไปหาหลักฐานมายืนยันด่วน  มีแต่ใช้สุภาษิต คำพังเพย  ในการอุปมาอุปไมย  ห้ามป้ายสี   คนในเวปนี้เขาก็รู้ว่าคุณไปพูดเสียดสีจนคุณ  Nina_AnGeLic   ต้องขอลาออกจากสมาชิก   ตามไปเสียดสีคุณ Nina_AnGeLic  แทบทุกกระทู้   มีจิตสำนึกหน่อยครับ  ฮ่่่าๆๆๆ  โห้ๆๆๆ  เหอๆๆๆ   ตลกมาก   คำ...โกหก...สามารถกลบเกลื่อนคว​ามผิด...ooo...แต่ไม่มีสิทธิ์ลบ​เลือน...ความจริง...ครับพี่น้อง คนที่รู้ตัวเองว่าทำผิดแล้วปรับปรุงตัว อันนี้น่าสรรเสริญ  แต่คนที่รู้ตัวว่าทำผิดไม่คิดปรับปรุงตัว แถมมาแนวข้างๆๆคูๆๆ แม่น้ำ   อันนี้น่าสมเพชมากๆๆครับ  พี่น้อง....มนุษย์หนอมนุษย์ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 54 08:33:15 จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 54 08:31:49 จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 13:46:28

ความคิดเห็นที่ 64 เรียนคุณอย่ามารู้จักเดี๋ยวจะหลงรักผม ..ผมไม่ได้รู้สึกแปลกใจประหลาดใจหรอกครับว่าทำไมคุณถึงรู้ว่าผมเป็นใคร  ผมทราบดีครับต้องขอชื่นชมคุณที่คุณสนใจในตัวกระผมค้นหาผม       เมื่อผมบอกว่ายอมแพ้ก็คือยอมแพ้  เมื่อคุณชนะก็คือผู้ชนะ แต่สิ่งหนึ่งที่อยากบอกคุณ คุณทำอะไรลงไปก็ควรรู้จิตตนว่ากำลังทำอะไรมีสติอยู่กับกาย วจี มโน ประพฤติของคุณ คุณกล่าวว่าคุณปฏิบัติธรรมก็ต้องนำมาใช้กับชีวิต ใช้เหตุผลในการตัดสินสิ่งต่างๆ  ความจน ความรวย ยศฐา ล้วนแต่เป็นตัณหา และ กามราคะ  เรื่องเอาผ้าถุงมานุ่ง เรื่องทหาร ถ้าพุดโดยทั่วไปก็น่าอดสูต่อตัวกระผมเหมือนกัน แต่ด้วยผมได้ฝึกตนเองมาบ้างและปลงในสิ่งพวกนี้ ถึงแม้วันใดต้องออกจากอาชีพ ต้องถูกบล๊อกจากเวปก้ไม่ได้เสียใจดีใจอะไร ตั้งอยู่ ดับไปเป็นเรื่องธรรมดา ต้องเรียนคุณอย่างหนึ่งว่ากระผมนั้นไม่เคยถูกสอนมาให้ดูถูกใคร จะไม่ขอกล่าวถึงการดูถูกคนเรื่องการศึกษา อาชีพ วุฒิภาวะ ในเวป และห้องศาสนาแห่งนี้ เห็นทีจะไม่สมควรอย่างยิ่ง  ที่จริงถ้าผมอยากรู้ว่าคุณเป็นใคร ทำงานที่ไหน ผมก็ทำได้ครับ แต่ผมไม่ทำหรอกครับ เพราะมันยิ่งสร้างกิเลสในใจของผม  ผมรู้ว่าขณะนี้คุณต้องการฟังในสิ่งที่ผมต้องการเขียนถึงคุณว่าจะเป็นไปในทิศทางใด    บุพการีของกระผมสอนกระผมเสมอว่าอย่าดูถูกคน อย่าลืมอัตตา และภูมิหลังของตน  และกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ ผมเคยเป็นลูกศิษย์วัด หลวงพ่อสอนผมเสมอให้รู้จักให้อภัยคนอื่น หรืออภัยทาน ให้โอกาสคนที่เขาหลงผิด มีอะไรแบ่งกันกินแบ่งกันใช้    ต้องตื่นแต่เช้าเอาอาหารไปให้สัตว์ที่เขตอภัยทาน   และเดินตามหลังหลวงพ่อทุกวัน ลำบากลำบนมาก็มาก ลองผิดลองถูกกับชีวิตมาก็เยอะ ถ้าวันนี้ ยังไม่ฝึกตนสิ่งที่ทำมาแต่เด้กก็จะไร้ค่า หลวงพ่อของกระผมสอนผมว่าไม่มีใครในโลกใบนี้ใหญ่คับฟ้าหรอกครับถึงเวลาก็ตายด้วยกันทั้งนั้น  แต่ก่อนตายนั้นได้สั่งสมบุญบารมี หรือทำสิ่งดีดีให้โลกใบนี้บ้างหรือยังเท่านั้นเอง เตรียมเสบียงความดีไว้เลี้ยงตนเองแล้วหรือยังเท่านั้นเอง     สุดท้ายนี้คงไม่มีอะไรที่ต้องพูดให้คุณเจ็บช้ำน้ำใจแล้ว มีเพียงกำลังใจที่ให้    ผมก็เช่นเดียวกันแค่คนเดินดินธรรมดา เป็นเพียงเวไนยสัตว์  หรือผู้ฝึกตนเท่านั้นเอง  หลังจากนี้เรามาดับกิเลส  และ ฝึกตนไปพร้อมๆกันนะครับ  ผมต้องขอโทษคุณอย่ามารู้จักเดี๋ยวจะหลงรักผม และทุกท่านในเวป หากวจีกรรม  ของกระผมได้ทำให้คุณไม่สบายใจ ผมเป็นมนุษย์ธรรมดาคนนึง มีปัญญาอันต่ำต้อย มีร่างกายอันไม่จีรังยั่งยืน หากได้กล่าวล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ครูบาอาจารย์ สัตว์ร่วมวัฎสงสาร  ขอกราบอโหสิกรรมมา ณ ที่นี้ด้วย แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 54 15:14:54 จากคุณ : ผู้ฝึกตน (paisan746) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 14:40:28

ความคิดเห็นที่ 65 ขอโทษ ขอกราบอโหสิกรรมมา ณ ที่นี้ด้วย จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 15:26:12

ความคิดเห็นที่ 66 ขอโทษ ขอกราบอโหสิกรรมมา ณ ที่นี้ด้วย ครับ จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 15:26:24

ความคิดเห็นที่ 67 เรียนคุณไพศาล ความจริงผมไม่ได้ไปค้นหาอะไรในรายละเอียดส่วนตัวของคุณหรอกครับ เพียงแต่จำได้เพราะเคยไปอ่านกระทู้นึงในห้องศาสนาที่คุณลงชื่อนามสกุลจริงพร้อมยศทางทหารในนั้น (วันนี้เข้าไปดู คคห นั้นถูกลบไปแล้ว) แต่คุณเองอาจจะพอจำได้ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10779995/Y10779995.html ผมอ่านที่คุณเล่าเกี่ยวกับที่บุพการีและอาจารย์ของคุณสอนคุณ ตั้งแต่เด็กใน คคห ที่64 แล้วรู้สึกชื่นชมที่คุณถูกฝึกมาดี สมกับที่คุณใช้ชื่อว่า ผู้ฝึกตน ผมเองชื่นชมและเป็นห่วงทหารหาญทุกคนที่เค้าเสียสละเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อประเทศชาติ โดยเฉพาะทหารที่อยู่ทาง 3-4 จังหวัดชายแดนยิ่งน่าเป็นห่วงใหญ่ เพราะถูกลอบกัดโดยไม่มีทางรู้ตัวและเปิดโอกาสให้สู้ซึ่งๆหน้า ก็ไม่รู้ว่าคุณอยู่แถวไหน แต่ก็ขอเอาใจช่วย และเป็นกำลังใจให้ ขอให้พระรัตนไตรและความดีของคุณช่วยปกป้องคุณให้พ้นจากภยันตราย ที่ผ่านมาผมอาจใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมล่วงเกินคุณ Nina ไป ผมและคุณ Nina ก็ได้กล่าวอโหสิกรรมซึ่งกันและกันไปนานแล้ว ขอโอกาสนี้กล่าวอโหสิกรรมต่อคุณด้วย สิ่งใดที่ผมล่วงเกินไปทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดี ขอคุณช่วยอโหสิกรรมแก่ผมด้วย ผมเองก็เช่นกัน ขออโหสิกรรมให้คุณทั้งสิ้น ไม่มีสิ่งใดตกค้างอยู่ ขออวยพรให้ทั้งผมและคุณลดละกิเลส โลภ โกรธและหลง ไปถึงฝั่งพระนิพพานโดยเร็วพลันเช่นกันครับ จากคุณ : อย่ามารู้จัก เดี๋ยวจะหลงรักผม เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 15:53:51

ความคิดเห็นที่ 68 เรียนคุณอย่ามารู้จักเดี๋ยวจะหลงรักผมในวันพรุ่งนี้ หากตะวันยังขึ้นอยู่ในวัฏของมัน และหากดารายังส่องแสง อันมีดาวประจำเมืองนำแสงทางประจิมทิศ วันนั้นจงเข้าใจว่ามีใครคนหนึ่งอยู่ในจังหวัดปัตตานี เอาใจช่วย ให้คนทางฝั่งกระโน้นได้ฝึกตนสู่นิพพาน...ก้าวไปพร้อมๆๆกันนะครับ....มิตรภาพใหม่ จากคุณ : paisan746 เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 19:35:46