ความคิดเห็นที่ 1 ข้างล่าง เป็นกราฟแสดงการเติบโตของสมาชิก Facebook ในเอเชีย เปรียบเทียบกัน 4 ประเทศ คือ Thailand, Taiwan, Singapore และ Hong Kong และอย่างที่เห็นดังภาพ ว่าประเทศไทยนั้นเติบโตอันดับหนึ่ง ชนิดนำลิ่วแบบ Taiwan, Singapore, Hongkong นั้นไม่ติดฝุ่นกันเลยทีเดียว ตัวเลขเปอร์เซนต์การเติบโตนี้เป็นของเดือนตุลาคม 2553 ที่ผ่านมานี้เอง และหากเปรียบเทียบกันทั่วโลก ประเทศไทยก็ยังอยู่อันดับ 3 ของการเติบโตที่สูงที่สุดใน 12 เดือนทีผ่านมา ด้วยอัตราการเติบโตถึง 320.5% จากเดือน กันยายน 2553 เดือนเดียวโตกันเป็นหลักร้อยเปอร์เซ็นต์1 จากการเติบโตอันรวดเร็วและแพร่สะพัดแบบทันด่วนเช่นนี้ ทำให้เป็นกระแสที่ขยายตัวต่อยอดไปทุกวันเวลาโดยยากที่จะสะกัดได้ แน่นอนทีเดียว กระแสแรงๆ อีกกระแสหนึ่งนี้เยาวชนมุสลิมเราต้องไม่พลาดที่จะขอเอี่ยวเพื่อไม่ให้ตกยุคกับใครเขาเป็นแน่ล่ะ และอย่างที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน เราต่างก็เห็นว่ามี Facebook ของพี่น้องเราเกิดขึ้นอย่างมากมาย และเกิดการเชื่อมโยงขยายตัวอย่างกว้างขวางและรวดเร็วไม่แพ้ใครเลยทีเดียว เชียวคลื่นกระแสมาแรงดังกล่าวนี้จึงกลายเป็นอีกสังคมที่ไม่เล็กก็ใหญ่อีกสังคม หนึ่ง ซึ่งใครหลายคนถึงกับต้องสละเวลาส่วนหนึ่งในแต่ละวันของตน เพื่อเกาะติดทุกสถานการณ์เคลื่อนไหว หรือรอคอยคอมเม้นท์และการกดถูกใจจากใครบางคนที่แวะผ่านเข้ามาอ่าน จนอาจกลายเป็นโรคจิตเล็กๆ สำหรับบางคนเลยก็ว่าได้ แลดูเหมือน Facebook จะ มีอิทธิพลบางอย่างครอบงำจิตใจสำหรับคนที่ติดอย่างมาก ซึ่งไม่แพ้กับอาการของคนที่ติดเกมเลย และบางทีสำหรับบางคนอาจถึงขั้นละเลยต่อคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺโดยไม่รู้ตัวเลย ก็ว่าได้   แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 54 20:00:31 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 19:50:11

ความคิดเห็นที่ 2 จะอย่างไรก็ตาม เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Social Network ดังกล่าว ก็มีข้อดีอย่างมากมายเช่นกันสำหรับผู้ที่มีเป้าหมายอย่างชัดเจนในการใช้พื้นที่ Facebook เพื่อการเผยแพร่ข่าวสารและทำความดี แม้ว่าสื่อนี้อาจเป็นการแพร่กระจายสิ่งชั่วร้ายอย่างรวดเร็วในหมู่พี่น้อง เราให้ตกต่ำก็ตาม  แต่มันก็เป็นสื่อหนึ่งที่สามารถใช้เป็นพื้นที่ในการเผยแพร่สัจธรรมไป อย่างกว้างขวางและรวดเร็วได้ด้วยเช่นกัน แต่กระนั้นก็เถอะ สื่อทันโลกยุคนี้นับได้ว่าเป็นดาบสองคมที่เราต้องพิถีพิถันตรวจสอบกันอย่าง ลงรายละเอียดมากหน่อย ทั้งก่อน-ขณะ-หลังใช้งาน เพื่อกลั่นกรองทุกอณูหัวใจ ว่าแน่แท้แล้วเราทำเพื่อสิ่งใดและจะยังประโยชน์ต่อสังคมอัล-อิสลามจริงหรือไม่ แน่ใจหรือไม่ว่าเราไม่ได้มีไปกับเขาเพียงเพราะกระแส และสิ่งดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบด้านลบต่อหัวใจ รวมถึงหลักศรัทธาและอิบาดะฮฺต่างๆของเราอีกด้วย สื่อเครือ ข่ายเทคโนโลยีที่มากมายสลับซับซ้อนในทุกวันนี้ นับว่าเป็นอีกบ่อเกิดหนึ่งแห่งหัวใจที่ซับซ้อนของมนุษย์ยุคปัจจุบัน ซึ่งผู้ศรัทธาต้องรู้จักแยกแยะและระวังตนให้ดี เมื่อเราอยู่หน้าจอแล้ว ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าจะอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของสมองเราทั้งสิ้น หากเราจะกดคลิกหรือกดพิมพ์สิ่งใด ขอจงอย่าลืมว่าทุกสิ่งต้องไม่พลาดจากการถูกสอบสวนอย่างแน่นอน เพื่อเป็นการเตือนสติเราให้ปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนานัปการจึงทำให้มีบทความนี้เกิดขึ้น เพื่อเป็นการตักเตือนและเตือนสติบรรดาพี่น้องมุสลิมทั้งหลายรวมถึงตนเองใน เรื่องการใช้สื่ออินเตอร์เนทอย่างมีสติและเกิดประโยชน์ต่ออัล-อิสลาม จากการติดตามความคืบหน้าของพี่น้องมุสลิมกับ Facebook อยู่ห่างๆราวสองเดือน พบว่า Facebook นั้น เป็นได้ทั้งลู่ทางที่จะนำไปสู่ความดีและลู่ทางที่จะนำไปสู่ความหายนะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเจตนา การโพสต์ข้อมูลต่างๆ และรูปแบบการใช้งานของแต่ละคน ว่าจะนำตนไปสู่ลู่ทางใด จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 19:53:10

ความคิดเห็นที่ 3 ตัวอย่าง ข้อเปรียบเทียบบางประการที่ผู้ใช้งาน Facebook ควรตรวจสอบตนเอง Facebook กับ ผู้ศรัทธา · ตั้งเจตนาที่ดีก่อนที่จะสมัคร ว่าทุกสิ่งเพื่ออัลลฮฺ · เผยแพร่ข้อมูลที่ดีและเป็นประโยชน์ต่ออัล-อิสลาม โดยปราศจากการโชว์ออฟ เช่น การโพสต์บทความศาสนา สถานการณ์โลกมุสลิมในปัจจุบัน อายะฮฺอัลกุรอาน อัลฮะดีษ หรือเชิญชวนไปสู่การทำความดีในรูปแบบต่างๆ ด้วยความยำเกรงและบริสุทธิ์ใจ · ใช้งานพร้อมตรวจสอบตนเองควบคู่ไปพร้อมๆกันอยู่เสมอทั้งก่อน ขณะ และหลังใช้งาน ให้ทุกสิ่งเป็นไปเพื่ออัลลอฮฺ · ใช้งานแต่พอเหมาะและจะต้องไม่กระทบต่อการอิบาดะฮฺในแต่ละวันของเรา โดย รู้จักแบ่งเวลาและสามารถจัดการกับตัวเองได้ Facebook กับ ผู้หลงลืม · สมัครโดยปราศจากการตั้งเจตนาที่ดี (ซึ่งอาจมาจากการล่อลวงของชัยฏอนมารร้าย) · เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวอันไม่พึงเปิดเผยและไม่เป็นประโยชน์ต่ออัล-อิสลาม เช่น โพสต์รูปภาพถ่ายเล่นของตัวเอง การใส่ข้อความบ่งบอกถึงอารมณ์(ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์) การบอกเล่าอัพเดทข้อมูลส่วนตัวที่อาจก่อให้เกิดฟิตนะฮฺ · ใช้งานไปวันๆและอัพเดทข้อมูลข่าวสารไปเรื่อยๆ โดยปราศจากการตรวจสอบตนเอง ว่าใช้งานเพื่อสิ่งใด · ใช้งานอย่างฟุ่มเฟือยเวลา หรือส่งผลให้การอิบาดะฮฺของเราลดน้อยลง หรือใช้งานเพลินจนทำให้การอิบาดะฮฺเกิดการล่าช้าออกไป จงตรวจสอบ และเลือกทางเดินที่เที่ยงแท้ ให้กับตัวเอง เรากำลังจะทำให้ Facebook กลายเป็น Faithbook ? หรือเรากำลังใช้ Facebook ให้กลายเป็น Fakebook ? หรือว่ามันเป็นเพียง Facebook ที่ไร้จุดหมายปลายทางเท่านั้น ? แต่การเดินทางของผู้ศรัทธานั้นย่อมมีเป้าหมาย และต้องมีจุดหมายปลายทาง ที่เรามุ่งหวังอันเที่ยงตรงอย่างแน่นอน....   ....ด้วยความรักและปรารถนาดี.... ฮูรุนอัยนฺ http://www.baanmuslimah.com   แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 54 19:59:52 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 54 19:59:27 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 54 19:58:09 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 19:57:34

ความคิดเห็นที่ 4 FACEBOOK บ้านเราบางคน มีเป็น 10 ID เลยครับไว้เล่นกมส์ -*- จากคุณ : รักคนมีแฟน เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 20:24:09

ความคิดเห็นที่ 5 facebook มีประโยชน์มากนะ ถ้าใช้ให้เป็น เหมือนกับหมากกระดาน( หมากรุก หมากฮอส ) หรือ เกมส์คอมพิวเตอร์ นั้นละ แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เราเพลิดเพลินกันมันจนหลงลืมละหมาดหรือไม่ จากคุณ : Lamelez เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 21:31:13

ความคิดเห็นที่ 6 ผมนับถือพุทธครับ แต่หลุดเข้ามาเพราะคำว่า Facebook ขอแสดงความเห็นหน่อยนะครับ ผมรู้สึกว่ามุสลิมบางคนบางครั้งก็ทำตัวเหมือนเป็นศาสดาซะเอง โดยบอกให้ผู้อื่นปฎิบัติตามคำแนะนำที่เขาตั้งเพิ่มเอาเอง โดยอ้างความบริสุทธิ์ใจหรือยำเกรงในพระเจ้า อันที่จริง Facebook มันไม่ได้พิเศษไปกว่า ทีวี วิทยุ โทรศัพท์ อินเตอร์เนตเลย สิ่งเหล่านั้นล้วนใช้เพื่อความเพลิดเพลินได้ แล้วทำไมจะใช้ Facebook เพื่อความบันเทิงไม่ได้ อีกหน่อยถ้ามี Face-paper, Face-pencil, Face-rubber....บลาๆๆๆ ก็ต้องออกกฎใหม่เรื่อยๆจนถึงวันโลกแตกเลยงั้นหรือ ? จากคุณ : นกแคปหมู เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 16:09:31

ความคิดเห็นที่ 7 เราว่า คุณนกแคปหมูคงจะใช้ความรู้สึกมากไปหรือเปล่าคะ คิดมากหรือคิดไปเอง ทึกทักเอาเองไปไหม....ว่าจะมีกฎอะไรต่างๆเรื่อยมาอยู่เรื่อยๆ โดยเพิ่มขึ้นมาเอง   หาก คุณ ทำหัวใจให้อยู่เป็นกลาง รอบคอบสักนิดนึงในการแสดงความคิดเห็น แล้วศึกษา ค้นคว้าถึงเหตุผลและข้อเท็จจริงในเรื่องราว เรื่องหนึ่งในหลักการอิสลาม   คุณก็จะพบว่า ทุกอย่างที่คุณกำลังอ่าน และเกิดความรู้สึก ว่าบางคนได้ทำตัวเหมือนศาสดา เสียเองนั้น คงเป็นเรื่องที่คุณเอง น่าจะเข้าใจที่ผิดเพี้ยนเลยหล่ะค่ะ   คุณ คงไม่ทราบ หรืออาจจะทราบแล้วว่า อิสลาม เป็นศาสนาแห่งการป้องกันการเกิดการทำผิดขึ้น หรือการป้องกันไม่ให้ศีลธรรมนั้น ถูกทำลายลง   แต่ไม่ใช่เป็นศาสนาที่จะต้องตามแก้ๆๆ ในทุกๆเรื่อง ให้เกิดก่อนแล้วค่อยแก้ ไม่ใช่อย่างนั้น (คงไม่ต้องยกตัวอย่างหรอก ว่า มีอะไรบ้างที่เห็นๆในปัจจุบันที่พอจะให้เห็นภาพ)   คุณ คงจะเห็นว่า ทำไม จะต้องมีการบอกกล่าว ตักเตือนก่อนด้วยว่า ระวังเฟสบุ๊ค... คุณเอง ก็ทราบดีไม่ใช่หรอคะ กระแสของเทคโนโลยี มันมีผลเสียต่อเยาวชนเรามากแค่ไหน ในปัจจุบัน   อิสลาม มีข้อกำหนด ข้อใช้ ข้อห้ามและเสนอแนะ ตักเตือน วิธีป้องกันอย่างรัดกุมมากมาย เช่นในเรื่องข้างต้น   กรณีที่มีมุสลิมปฏิบัติทำิผิดหลักการ อิสลามก็ได้สอน โดยผ่านท่านศาสดามาเผยแพร่ และคุณ รุ้ไหม ท่านศาสนา ว่าอย่างไร   ท่านศาสดาบอกว่า “ใครคนหนึ่งในพวกท่านที่เห็นความชั่ว เขาจะต้องเปลี่ยนแปลงมันด้วยมือของเขา ถ้าไม่มีความสามารถให้เขาใช้ปากพูด และถ้ายังทำไม่ได้อีกให้เขาคิดปฏิเสธสิ่งนั้นในใจ และนั่นคือความศรัทธาขั้นต่ำสุด”(หนังสือหลักคำสอนจากวจนะคำพูดของท่่านศาสดาที่เรียกว่า หะดีษฺ ดู เศาะฮีหฺ อัล-ญามิอฺ, หมายเลขหะดีษฺ 6250)   คุณนกเห็นไหม ว่าท่านศาสดา ให้มุสลิมที่เห็นความชั่วที่กำลังจะเกิด หรือเกิดให้กระทำอย่างไรบ้างแล้ว ใครบางคนที่คุณว่า เค้าทำตัวเหมือนเป็นศาสดาซะเองนั้น   เราว่า คุณน่าจะต้องปรับความรู้สึกให้เข้ากับความเป็นจริงที่ปรากฎชัดในหลักคำสอนของต่างศาสนากันแล้วหล่ะ   และอันที่จริง ก็ไม่มีใครบอกว่า Facebook มันจะพิเศษไปกว่า ทีวี วิทยุ โทรศัพท์ อินเตอร์เนตเลย   สิ่งเหล่านั้นล้วนใช้เพื่อความเพลิดเพลินได้ ไร้สาระไปวันๆได้ สำหรับบางคนที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต   และหากจะมี เฟส เบิร์ด บลาๆ ภูมิใจนำเสนอต่อไปเรื่อยๆ มุสลิมก็จะต้องออกมารักษาซึ่งเกียรติและศีลธรรมให้คงอยู๋เช่นเดิม ก็ต้องออกมาตักเตือนเรื่อยๆ   แต่ใครจะเลือกปฏิบัติ หรือไม่ปฏิบัิติ นั่นอยู๋ที่พื้นฐานของการศึกษาของแต่ละคนไป ว่าไหมคะ คุณนกแคปหมู....   แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 54 23:45:54 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 54 23:03:11 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 54 23:00:54 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 22:57:48

ความคิดเห็นที่ 8 *ซ้ำ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 54 22:59:01 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 22:58:15

ความคิดเห็นที่ 9 ดูเหมือน คห ผมจะแรงไปหน่อย แต่ผมไม่ได้หมายความแรงขนาดนั้นนะครับ ที่จริงแล้วผมเองพอจะรู้ครับว่าคนที่ให้คำแนะนำนั้น ไม่ได้ตั้งใจที่จะวางตัวตีเสมอศาสดา ผมเองก็พูดตามลักษณะที่เห็นเท่านั้น และผมก็ไม่เห็นด้วยที่คุณมอง Facebook หรือ ทีวี วิทยุ มือถือเป็น "ความชั่วที่กำลังจะเกิด" เพราะแม้แต่พวกประเทศมุสลิมเองก็ยังมีโรงหนัง ค่ายหนัง ค่ายเพลง ค่ายมวยกันเลย ถ้าจะมียกเว้นก็คงเป็นอัฟกันที่เคยเป็นของตาลีบันนั่นแหละครับ ไม่ทราบว่าคุณ Ms.Kohlanta ทุกวันนี้ยังดูหนัง ละคร การ์ตูน คอนเสริท ฟังเพลงอยู่หรือเปล่าครับ จากคุณ : นกแคปหมู เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 01:41:18

ความคิดเห็นที่ 10 5555 เราเองก็พูดไปตามลักษณะข้อเท็จจริงที่เป็นอยู่นั่นหล่ะ ก็เห็น คุณ กล่าวไว้เช่นนั้นหนิ เป็นใคร ใครเขาก็ต้องท้วงติงไว้ จริงไหม คุณนกแคปหมู เอาหล่ะ ดูเหมือนสิ่งที่คุณแสดงความรู้สึกเป็นครั้งทีสองนี้ ฟังแล้วมันจะขัดๆยังไงไม่รู้หละ เหมือนคุณไม่ค่อยจะยอมรับความจริงสักเท่าไหร่ว่า Facebook หรือ ทีวี วิทยุ มือถือเป็น "ความชั่วที่กำลังจะเกิด" จริงๆ เอ๊...จะลองคิดใหม่ ตอบใหม่ดีกว่าไหม ว่าเป็นจริงอย่างที่เราว่าไหม และขอบอกว่า สิ่งที่คุณยก เรื่องพวกประเทศมุสลิม ว่ายังมีโรงหนัง มีค่ายหนังอะไรนั้น เราคิดว่า คุณกำลังตีรวน หลงประเด็นไปไกลเลยหล่ะค่ะ เป็นการอ้างที่มั่วๆทีุ่สุด เพราะเรื่องศาสนา คุณจะยกตัวอย่าง ว่าคนมุสลิมคนนั้นทำ ประเทศมุสลิมนั้นมี แล้วมันจะเป็นเรื่องที่อิสลามอนุญาตหรือไม่อนุญาต ไม่ได้หรอกนะค่ะ เรื่องศาสนา เค้าไม่ได้พิจารณาที่ตัวบุคคลหรือประเทศเลย แต่เค้าดูที่ตัวบท และหลักคำสอนที่ถูกระบุไว้ มิฉะนั้นแล้ว หากพิจารณาที่บุคคลทำ เราว่า ในประเทศเรา เราคงจะบอกได้ว่า ศาสนานั้น สอนให้กินเหล้า ศาสนานั้นสอนให้ทำประเวณี ถูกไหมค่ะ คุณแคปหมู จากคุณ : Ms.Kohlanta (Ms.Kohlanta) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 06:10:41

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ อ้าว ลืม ผิดสี ผิด คอนเซป ^^ จากคุณ : Ms.Kohlanta (Ms.Kohlanta) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 08:46:30

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ : Ms.Kohlanta   facebook นี้ตกลงเป็นภัยคุกคามต่อศาสนาอิสลามไปแล้วหรือนี้  ดูจากการตอบของคุณ ที่เปรียบ facebook เป็น  "ความชั่วที่กำลังจะเกิด" หรือ คุณมองว่า facebook และ social network ในรูปแบบอื่นๆใน internet  เป็นสื่อกลางในการนำคนต่างเพศที่ไม่รู้จักกันมาทำความรู้จักกัน แล้วเลยไปสู่การสนิทสนม และนัดเจอเพื่อมี sex กัน ซึ่งนำมาสู่ปัญหาสังคมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น โดนหลอกไปข่มขืนโดยรู้จักกันใน internet  ปัญหาการตั้งท้องของเด็กในวัยเรียน เด็กกำพร้าที่โดนทอดทิ้ง และอีกมากมาย จากคุณ : Lamelez เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 13:06:17

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ  Lamelez   ถ้าคุณอ่าน ความคิดเห็นของเราข้างบนดีดี รวมทั้ง เนื้อหาของหัวข้อกระทู้ คุณจะเข้าใจในสิ่งที่ต้องการจะสื่อถึงค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 13:16:16 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 13:13:38

ความคิดเห็นที่ 14 ผมเชื่อแล้วว่า..... คุณ Ms.Kohlanta เชื่อว่า Facebook,ทีวี, วิทยุ, มือถือ เป็นความชั่วจริงๆ ตามสบายล่ะกันครับ ถ้าพอใจจะเชื่ออย่างงั้น จากคุณ : นกแคปหมู เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 15:21:47

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ Lamelez จะสรุป อย่างที่สองมันก็ใช่นะ ว่า facebook และ social network ในรูปแบบอื่นๆใน internet  เป็นสื่อกลางในการนำคนต่างเพศที่ไม่รู้จักกันมาทำความรู้จักกัน แล้วเลยไปสู่การสนิทสนม และนัดเจอเพื่อมี sex กัน ซึ่งนำมาสู่ปัญหาสังคมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น โดนหลอกไปข่มขืนโดยรู้จักกันใน internet  ปัญหาการตั้งท้องของเด็กในวัยเรียน เด็กกำพร้าที่โดนทอดทิ้ง และอีกมากมาย หรือคุณ  Lamelez คิดว่ามันไม่จริง ??? ส่วนคุณ นกแคปหมู ก็คงต้องปรึกษากับคุณ  Lamelez แล้วหล่ะว่า ตกลง Facebook,ทีวี, วิทยุ, มือถือ เป็นความชั่วจริงๆ หรือ เป็นสื่อในหนทางที่ไม่ดีจริงๆหรือเปล่า (เห็นคุณ เหมือนจะยังไม่ยอมรับ แม้จะถูกท้วงติงในข้ออ้างมั่วๆแล้วข้างต้น) หวังว่า คุณจะได้รับคำตอบให้กับตัวเอง โดยไม่หลอกตัวเองอีกนะค่ะ.... จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 02:20:01

ความคิดเห็นที่ 16 ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำสูงต่ำอยู่ที่ทำตัว เฟคบุคไม่ใช่สิ่งเลวร้าย ไม่ใช่ทางของชัยฏอน ไม่ใช่สิ่งที่ชัยฏอนสร้างมา แต่จิตใจใผ่ต่ำของมุมินบางท่านเองต่างหาก ที่หลงในนัฟซูปล่อยให้ชัยฏอนใช้เฟคบุกหรือเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือล่อลวงจิตใจของพวกท่านทั้งหลาย ปล.ชัยฏอน ผมว่าเจ๋งมาก พร้อมที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ของตน แล้วทำไมท่านไม่รู้เท่าทันชัยฏอน แล้วใช้เครื่องมือดังกล่าวตอบโต้ชัยฏอนบ้างเล่า แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 54 11:44:59 จากคุณ : aramis_s เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 11:43:13

ความคิดเห็นที่ 17 รถยนต์ก็พาไปทำชั่วได้นะครับ... (หยอกเล่นครับอิอิ) จากคุณ : โปรยปราย เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 12:11:14

ความคิดเห็นที่ 18 ก็อย่างที่มุสลิมต้องการจะสื่อให้เห็นตั้งแต่ต้นนั้นแหล่ะค่ะว่า Facebook หรือ Internet นั้น เป็นได้ทั้งลู่ทางที่จะนำไปสู่ความดี และ ลู่ทางที่จะนำไปสู่ความหายนะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเจตนา การโพสต์ข้อมูลต่างๆ และรูปแบบการใช้งานของแต่ละคน ว่าจะนำตนไปสู่ลู่ทางใด   มุสลิมมองว่า  ศาสนานั้นคือ การตักเตือนกัน และการตักเตือนกัน  ก็เป็นส่วนหนึ่งของคำสอนอิสลาม  เพราะการบอกกล่าวในสิ่งที่พลาดพลั้ง และการเตือนสติกันนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์  ทั้งตัวของผู้ที่ตักเตือน และผู้ที่ถูกตักเตือน ในเรื่องที่ดี และเรื่องที่ไม่ดี ถ้าเราไม่ตักเตือนซึ่งกันและกัน ความชั่วจะแพร่ระบาด และเมื่อพระองค์อัลลอฮฺประสงค์จะลงโทษ ให้เกิดภัยบะลาอฺต่างๆ ทั้งคนดีและคนชั่ว ก็จะประสบทั้งหมด   จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 13:09:32