|
วิธีการสาธยายธรรมให้แจ่มแจ้งได้นาน ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ถูกเหนี่ยวรั้ง ย่อมรู้ย่อมเห็นอุบายเป็นเครื่องสลัด ออกซึ่งนิวรณ์ทั้งห้า (กามราคะ, พยาบาท, ถีนมิทธะ, อุทธัจจกุกกุจจะ,วิจิกิจฉา) ทำให้รู้เห็นประโยชน์ตามที่เป็นจริง สํ. มหาวาร. ๑๙/๑๖๖/๖๐๓
ข้อควรระวังและวิธีป้องกันในการสาธยายธรรม
.....อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุ ทำการสาธยายธรรม ตามที่ฟัง ได้เรียนมาโดยพิสดาร, แต่เธอไม่รู้ทั่วถึงความหมายอันยิ่งแห่งธรรมนนั้ ๆ ด้วยปัญญา. ภิกษุนี้ เราเรียกว่า ผู้มากด้วยการสวด (นัก สวด) ยังมิใช่ ธรรมวิหารี (ผู้อยู่ด้วยธรรม)....
....เธอไม่ใช้วันทั้งวันให้เปลืองไปด้วยการเรียนธรรมนั้นๆ ไม่เริดร้างจากการหลีกเร้น, ประกอบตามซึ่งธรรมเป็นเครื่องสงบใจ ในภายในเนืองๆ. ภิกษุอย่างนี้แล ชื่อว่า ธรรมวิหารี (ผู้อยู่ด้วยธรรม).... อํ. ปญฺจก. ๒๒/๙๙-๑๐๐/๗๓-๗๔ ๑. เพื่อความตั้งมั่นของพระสัทธรรม (หนึ่งในเหตุห้าประการเพื่อความตั้งมั่นของพระสัทธรรม) อํ. ปญฺจก. ๒๒/๑๖๑/๑๕๕
๒. เป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ (หนึ่งในธรรมให้ถึงวิมุตติห้าประการ) อํ ปญฺจก. ๒๒/๒๓/๒๖
๓. เป็นอาหารของความเป็นพหูสูตร อํ. ทสก. ๒๔/๑๒๐/๗๓
๔. เป็นองค์ประกอบของการเป็นบริษัทที่เลิศ อํ. ทุก. ๒๐/๖๘/๒๙๒
๕. ทำให้ไม่เป็นมลทิน อํ. อฎฺฐก. ๒๓/๑๔๙/๑๐๕
๖. เป็นบริขารของจิตเพื่อความไม่มีเวรไม่เบียดเบียน (หนึ่งในห้าบริขารของจิต) ม. มู. ๑๓/๕๐๐/๗๒๘
๗. เป็นเหตุให้ละความง่วงได้ (หนึ่งในแปดวิธีละความง่วง) อํ. สตฺตก. ๒๓/๗๓/๕๘
จากคุณ |
:
ซุ้มเฟื่องฟ้า
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ก.ค. 54 22:42:51
|
|
|
|
|