Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เล่าเรื่องผีๆ ในวันพระ.. ติดต่อทีมงาน

วันนี้วันพระ... แต่ดันนึกจะเล่าเรื่องผี..

นึกอยากมาแต่สายๆ รอจนอยากดับแล้ว ก็ยังอยากอยู่ดี.. เลยมาเล่าตอนโพล้ๆ เพล้ๆ ได้อารมณ์ดี..

จะเข้าข่ายผีเจาะปากรึปล่าวก็ไม่ทราบ..  เห็นเขาชอบเล่าเรื่องผีกัน เล่ามั่ง..


เรื่องมีอยู่ว่า.. เมื่อทบทวนดูแล้วตลอดชีวิต  เราไม่เคยเห็นผี เต็มๆ ตาเลย  แต่เจอผีบ่อยมาก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นผีหรือเปล่านะ..   ลองฟังดู




ตอนเด็กๆ น้องชายฝันร้าย ตื่นขึ้นมาร้องไห้ บอกว่ามีผู้หญิงสวมชุดแดงมาคุยด้วย ที่บ้านเราเอง  พี่เลี้ยงเราก็เห็น  เราไม่เห็น แต่น้องเล่าปั๊บ มันเกิดจินตภาพในใจเลย ตอนนี้ยังจำภาพนั้นได้อยู่  พี่เลี้ยงนี่ตัวดี ชอบเล่าเรื่องผี พี่เลี้ยงอีสานก็เล่าผีอีสาน ผีเลี้ยงภาคกลางก็เล่าเรื่องผีภาคกลาง  โตมาก็มีความเชื่อพื้นฐานในเรื่องผีๆ แต่ไม่เคยเจอผีจริงๆ


มาเจอใกล้เคียงกับผี คือครูดนตรี ประเภทมีเสียงดนตรีดังสนั่นครบวง พร้อมกลิ่นหอม ในห้องดนตรีไทยตอนเช้าหรือตอนเย็นๆ โดยที่ไม่มีใครอยู่ในห้องเลย แบบนี้เจอบ่อย.. เออที่โรงเรียนเก่าเจอผีแบบเห็นอาจารย์เดินลงมาสองหน อะไรงี้ มันก็ดูจะไม่เป็นผีเท่าไหร่..


ตอนเข้ามหาวิทยาลัย (ทับแก้ว) เขาเจอผีกันสนุกสนาน เราไม่เคยเจอเลย นอนหลับสนิทเหมือนบ้านตั้งแต่วันแรกยันปัจจุบัน เมื่อตอนสาวๆ ติสต์แตก สามารถไปนั่งสระแก้วคนเดียวได้ตีสองตีสามไม่กลัวผีเลย  เชาเล่นผีถ้วยแก้วกัน ก็เล่นกับเขาบ้าง.. แต่ก็นะ..มันก็อาจจะเป็นมือของพวกเราที่ดันแก้วดันเหรียญไปเองก็ได้  เจอกันขนาดน่ากลัวสุดๆ ก็ยังเป็นเรื่องสนุกของหนุ่มสาว..


เรื่องผีที่มหาลัยมีเยอะ เราทำละคร มีเรื่องผีเล่ากันมากมาย คนอื่นเขาเจอกัน แบบน่ากลัวก็มี ขำๆ ฮาๆ ก็มี


ที่จริงเราเจอเหมือนกัน เป็นลักษณะของเสียง ความรู้สึกบ้าง มาช่วยทำละครบ้าง ออกแนวกึ่งผีกึ่งอาจารย์  ออกแนวกลัวๆ รักๆ ยังไงไม่ทราบ เอาเป็นว่าผูกพันกัน เวลาจะทำละครก็อ้อนท่านๆ ให้ช่วยดูแลคุ้มครอง เวลาเจอผีมันรู้สึกได้ว่าจะเจอ มีขนลุก เย็นวูบ  ถ้ารู้สึกอย่างนี้เราจะทำนั่นทำนี่ให้หายกลัว ถ้าไม่หาย คิดไปว่า ตูไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ ผีไม่ต้องมาหลอก (คิดไปได้) ตอนเด็กๆ ก็คิดว่าตัวเองไม่มีศาสนาเหมือนกันแหละ.. เด็กมันโง่ไง ก็คิดว่าเป็นคนดี ทำความดี พอแล้ว ไม่ต้องมีหรอกพิธีกรรมศาสนาอะไรน่ะ



และผีน่ากลัวที่เจอ คือผีอำ ผีอำที่บ้านของพ่อเรา ที่นครปฐมนี่แหละ.. อำทุกวัน
อำจนนอนกลางคืนไม่ได้ ต้องนอนกลางวัน ก็ไม่วายอำตอนกลางวัน.. นอนพระราชวังโบราณที่มหาลัย ไม่เคยโดนอำ แต่กลับบ้านโดน.. มันก็แปลก...

แต่ทฤษฏีเขาว่า การโดนผีอำนี่มันคือการนอนหลับที่ไม่ปกติ ก็เลยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง..  ตอนนั้นก็เลยไม่ได้กลัวมาก กลัวเหมือนกัน แต่อยู่ได้..   ยังจำได้ว่าเวลาผีอำเนี่ย.. สวดมนต์นะ แต่ผีสู้ บางทีหัวเราะ แล้วอำหนักขึ้น  เราก็สวดมนต์ต่อไป ผิดๆ ถูกๆ แล้วผีก็ปล่อย..  

ที่บ้านหลังนี้ เจอผีมาหลอกให้ไปเที่ยว (เคยเล่าไปแล้วสองสามครั้ง)  ปัจจุบันนี้ก็ได้รู้ว่าที่โดนอำน่ะ โดนอำจริงๆ ถ้าไปกับเขาก็คงตายไปแล้วล่ะ.. ไหลตายไง..

ที่บ้านนั้น เคยเป็นที่ฝังศพมาก่อน มีผีเยอะ คนแถวนั้นก็ตายกันบ่อย เราอยู่ก็ไม่ค่อยสงบสุขหรอก ย้อนไปมองก็หลอนเหมือนกัน คิดได้ว่าดีแล้วที่ขายบ้านไป และดีแล้วที่ตอนนั้นไม่รู้เรื่องรู้ราว เลยอยู่ได้ตั้งหลายเดือน





ที่เจอผีแบบมีพยานหน่อย คือย้ายออฟฟิต เป็นกลุ่มละครไง วันแรกเข้าไป เหมือนเห็นอะไรขาวๆ ที่หางตา แว่บ.. แว่บ.. เราก็คอยหันไปมอง ก็ไม่มีอะไร  แต่ขาวๆ นี่ไม่เลิกรบกวนความรู้สึก  ห้องที่เราทำงาน อยู่ติดรั้วเลย ข้างขวาเป็นประตูสีขาว  คงจะประตูนี่แหละทำให้คิดไปว่ามีอะไรสีขาว แว่บๆ


นั่งจัดของจนตอนกลางคืน.. เฮ้ย.. ขาวๆ เนี่ย.. เคลื่อนไหวได้ด้วยแฮะ.. แว่บเดินไปเดินมาด้วย..  หันไปมองก็ไม่เห็น  พอไม่สนใจก็แว่บเห็นด้วยหางตาอีก.. ไหนจะความรู้สึกว่า เขาเดิน แล้วมายืนมอง..


อาการอย่างนี้ดำเนินอยู่สองวัน  จนวันที่สองตอนกลางดึก เราทำงานกันดึกมาก.. คราวนี้รู้สึกเลย ว่าขาวๆ เนี่ย  เขามายืนใต้ต้นไม้ เอามือไพล่หลัง แล้วชะโงกเข้ามาดูเราทำงาน..  ความรู้สึกบอกว่า เป็นผู้ชาย ชุดขาว ผมยาว
เขาเดินตรวจตรงกำแพงบ้านทั้งคืนเลย  แล้วก็ออกแนวมาดูว่าเด็กพวกนี้ทำไรกัน.. เท่านั้นล่ะ.. ลุกเลย.. ไม่ไหวแล้ว


เดินมาหาเพื่อน  เพื่อนนั่งอยู่ไม่ไกลกัน เป็นส่วนที่เป็นประตูเข้าบ้านใหญ่ บอกเพื่อนว่า แกๆ.. ชั้นมีอะไรจะบอก  ชั้นกลัวมาก ชั้นต้องบอกใครสักคน เพื่อนก็ลุกขึ้นจากโต๊ะ หน้าซีด ปากสั่น..  เพื่อนพยักหน้าว่า.. แกไม่ต้องบอกหรอก ชั้นก็เห็นเหมือนกัน..    


แกเห็นอะไร ..  เพื่อนว่า.. เห็นผู้ชายชุดขาว ผมยาว เค้ายืนมองแกอยู่หน้าประตู.. เฮ้ย !!!  บอกเพื่อนว่า..เราไม่เห็นนะ แต่เรารู้สึกน่ะ..  เรารู้สึกมาหลายวันแล้ว มีวันนี้แหละที่รู้สึกชัดที่สุด เลยชักกลัว   แต่เพื่อนน่ะเห็นเต็มๆ ตาเลย เขาบอกรูปพรรณมาตรงกันเป๊ะ..


ตอนนั้นจำได้ว่า เห็นว่าเพื่อนกลัว เลยต้องทำตัวเป็นผู้สันทันกรณี ยกมือไหว้..ในอากาศนั่นแหละ แล้วก็บอกคุณลุง  พวกหนูมาอยู่ใหม่ มาทำงานกัน ลุงไม่ต้องห่วงพวกหนูเป็นเด็กดี  ขอบคุณลุงมาดูแลพวกหนู แต่ไม่ต้องมาให้เห็นก็ได้นะ หนูกลัว...  


จากนั้นคุณลุงก็หายไป   ในเวลาเดียวกันเพื่อนอีกคนกลับบ้าน ที่ลพบุรีมีหมอดูใบไม้ เขาทักว่าที่บ้านมีเจ้าที่ เราเอาขยะกองไม้ไปวางตรงนั้น ให้เอาออก..  เจ้าที่ท่านดี ตั้งศาลอะไรให้ท่านก็ได้  ที่ทำงานเขาก็ทำกัน และเราก็อยู่ที่นั่นอย่างปลอดภัยต่อมา..   เจอผีครั้งนั้นดูจะตรวจสอบกันได้ว่าเจ้าที่มีจริงๆ เราเห็นในใจว่าท่านอยู่ที่ต้นวาสนา อย่างที่หมอดูเขาทักมา (หมอดูนี่เขาไม่เคยเห็นบ้าน แต่เขาทักว่าตรงต้นไม้ยอดแหลมๆ สูง)  และเราก็ได้รับรู้เก็บข้อมูลไว้ว่า เจ้าที่ท่านเดินตรวจบ้านทั้งคืนจริงๆ แหละ.. เดินไปเดินมาแถวรั้วหน้าบ้าน ตามตำนานที่เคยได้ยินมาเป๊ะเลย..


และคุณลุงเจ้าที่นี้ บางทีไปแหย่เพื่อน เช่นเอาหน้าแนบกระจก มองเข้ามาในบ้านให้หลอนกันก็มี  แต่เราไม่เจออย่างนั้นนะ.. ในบ้านมีผีอีกหลายคน ผู้หญิงผมยาวก็มี บางห้องเราก็อยู่ไม่ได้ หายใจไม่ออก ก็ไม่เข้าไป.. แต่ผีเล็กผีน้อยนี่พิสูจน์ไม่ได้ เพราะว่าไม่ได้เห็นพร้อมๆ กัน ไม่มีพยานให้ตรวจสอบ อาจจะหลอนไปเองก็ได้   จะมีพยานก็คือแมว  ซึ่งมันให้การอะไรไม่ได้  และแมวมันก็กลัวผี ถ้าวันไหนไม่มีใครอยู่บ้านเลย ต้องเฝ้าออฟฟิตคนเดียว แมวนี่ตามติดแทบจะเข้าห้องน้ำด้วยกันเลย  แต่ถ้ามีคนอยู่ มันไม่มาวอแวหรอก..

และคุณลุงจะว่าไปก็ไม่ใช่ผี ท่านเป็นเทวดา เป็นเจ้าที่นั่นเอง..



คุณลุงเจ้าที่ นี้ในภายหลัง เราได้ขอความช่วยเหลือจากท่านด้วย  (เอาเรื่องคุณลุงมาเล่าแล้ว ก็นึกอธิษฐานอุทิศกุศลให้คุณลุงเลยนะคะ จำหนูได้ป่าว..ยังอยู่ที่เดิมเปล่าก็ไม่รู้)




เคยเจอผีที่หลอนที่สุดสองเรื่อง ตอนนั้นเป็นอาจารย์แล้ว พานักศึกษาไปสัมมนาที่กาญจนบุรี โดนผีหลอกกันทั้งกลุ่ม มันออกแนวหนังฝรั่งเขย่าขวัญได้เลย แบบเวลาเดินช้ามาก ไม่เช้าสักที เด็กเสียขวัญร้องไห้ระงม จิตตกแล้วตกอีก แต่ออกไปไหนไม่ได้ รอเช้าอย่างเดียว ภาวนาว่าอย่าให้เกิดเรื่องร้ายๆในคืนนี้

เด็กบางคนเห็นผีมาเดิน แต่เราเห็นเพียงเป็นเงาๆ ขาวๆ ที่ประหลาดคือ มันรับรู้ได้ว่าเขามาเดินจริงๆ อย่างที่เด็กบางคนเห็นนั่นล่ะ  พอรุ่งเช้าก็เผ่นกันออกมา.. เราก็ดันรู้สึกว่าเขาตามเข้ามาจากบ่อพลอยนี่เข้ามาในเมืองเลยล่ะ  เราอยู่ในร้านอาหาร เขาก็อยู่ข้างนอก..  ในใจรู้สึกว่าเป็นเจ้าที่อีกแหละ พวกเราคงไปทำอะไรไม่ดีสักอย่าง ขออภัยแล้วเขาไม่ให้อภัย..    

ความรู้สึกมันก็คลุมเครือว่า เราไปซุกซนลบหลู่เจ้าที่ท่าน หรือว่าเจ้าที่ท่านมาคอยดูแลเรากันแน่  ที่เราเห็นในใจน่ะเป็นผู้ชายชุดขาวอีกเหมือนกัน (ทำไมต้องชุดขาวก็ไม่รู้นะ)  รุ่งเช้าขึ้นมา อาจารย์ไปคาดคั้นกับเจ้าของบ้าน เลยได้รู้ว่าบ้านนี้ไฟคลอกตาย หรือเป็นอะไรตายกันหลายคน น่ากลัวมากๆ เลย

งานนั้นอาจารย์ของเราแอบแวะเข้าบ้านไปเอาพระ.. (555) แล้วปล่อยเด็กร้องคาราโอเกะกันที่ร้านอาหาร  ส่วนเรากลัวจัด โทรหาพี่คนนึง ให้แกช่วยจุดธูปบอกคุณลุงเจ้าที่ที่ทำงานให้ช่วยเจรจากับ เจ้าที่ที่เขาตามโกรธพวกเรา   (ไม่รู้คิดได้ไง) สรุปหลังจากนั้นเหตุการณ์คลี่คลาย เหลือแต่เรื่องเมาท์ ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า  แต่พิสูจน์ไม่ได้..

แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 54 19:17:15

จากคุณ : chaosy
เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 19:10:28




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com