ความคิดเห็นที่ 1 ถือว่าเป็นการให้ทานละกันนะครับ แม้จะไม่เต็มใจ แต่ก็ขอให้มีปีติกับการทำทานช่วยโรงเรียน กุศลจะได้เกิด และผลบุญจะได้ไม่เศร้าหมอง ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ส่วนหนึ่งได้ฐานะแม่ดีเด่นก็เป็นเพราะกุศลกรรมที่เคยทำมา ไหนๆกุศลส่งให้ได้รับคำสรรเสริญแล้วก็นับเป็นเกียรติประวัติเพื่อให้ลูกของเราและลูกของเพื่อนตลอดจนผู้ปกครองท่านอื่นและคุณครูได้ร่วมยินดีและร่วมเป็นสักขีพยาน จากคุณ : คืนวันอันแสนดี เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 12:58:42

ความคิดเห็นที่ 2 อืม..โลกมันเป็นแบบนี้ ผมก็เบื่อนะ จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 13:06:31

ความคิดเห็นที่ 3 โลกว่างเปล่า จิตที่ติดกับโลกก็ว่างเปล่า จากคุณ : Serene_Angelic เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 13:08:07

ความคิดเห็นที่ 4 เท่าที่อ่านจากที่ คุณ yamplu น่าจะเกิดจาก เบื้องต้น จิตเกิดยินดีพอใจในการได้เป็นแม่ดีเด่น ต่อจากนั้น มานะ ก็เกิดขึ้นต่อมาเป็นลำดับ และกิเลสตัวมานะนี้แสดงออกได้หลายอย่าง ต่อจากนั้นก็เกิด ความฟุ้งซ่านรำคาญใจ ทั้ง อุทธัจจกุกกุจจะ และ โทสะต่างๆ ทำให้รู้สึกเดือนร้อนไม่สบายกายไม่สบายใจ หรือ การแสดงออกในรูปความประหม่าต่างๆ ---------------------------------------------------------------------------- โลกธรรม ๘ เหล่านี้ มันก็เกิดขึ้นเป็นธรรมดา มีลาภ มีเสื่อมลาภ มีสรรเสริญ มีนินทา เป็นอนัตตา จะไปบังคับบัญชาว่าอย่าให้สิ่งนี้ๆ มันเกิดแก่เรา ก็ทำไม่ได้ เมื่อมันจะเกิดมันก็เกิดตามเหตุปัจจัย แล้วมันก็ดับไป ไม่ว่า โลกธรรมสิ่งใดจะเกิดขึ้น พระพุทธองค์ก็สอนให้กำหนดรู้สิ่งเหล่านี้ ด้วยความเป็นกลาง สละคืน ไม่ยึดมั่นถือมั่น ไม่ผลักไล่ไสสง กำหนดรู้ลักษณะตามที่มันเกิดขึ้นตามเป็นจริง ละวางสมุทัย คือเหตุแห่งทุกข์ หรือความปรารถนา ในสิ่งตรงข้ามกับ ที่เราไม่อยากเป็น หรือความปรารถนาในสิ่งตรงข้ามกับที่เราเป็นทุกข์ในขณะนี้ ---------------------------------------------------------------------------- อาการ ประหม่า ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ด้วยกิเลสละเอียด ทั้งที่เป็นอนุสัย และที่ครุกรุ่นอยู่ในใจนี้ ต้องละด้วย สมาธิ และ ปัญญา   ซึ่งก็ขอให้คุณ yamplu หมั่นฝึกเจริญสมาธิให้มากๆ  และทำให้บ่อยๆนะครับ เมื่อจิตเป็นกุศลและมีกำลังสมาธิมีมากพอ ก็จะทำให้อาการเหล่านี้ ลดลงไปได้ในที่สุด จากคุณ : ชาวมหาวิหาร เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 13:26:27

ความคิดเห็นที่ 5 น่าเห็นใจ แต่ถ้าเราพอใจจะให้เท่าไหร่ ควรให้เท่านั้น หรือ ให้ไปแล้วก็ควรทำใจรับกุศลที่เพิ่งทำไปดีกว่า โลกเราก็อย่างนี้แหละ ได้อะไรมา ก็มีเสียอะไรไป ครูโรงเรียนอนุบาล จะเห็นอะไรๆที่ควรได้จากพ่อแม่เด็ก... เพราะพ่อแม่ที่มีลูกคนแรก หรือคนเดียว ส่วนมากจะปลื้มที่ครูชมลูกตัวเองว่าเก่ง เพียงเพื่อหวังอะไรสักอย่าง จากคุณ : พรีมาวารี เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 13:27:50

ความคิดเห็นที่ 6 คิดเสียว่าเป็นวิบากกรรมที่จะต้องพบต้องเจอในลักษณะแบบนี้ ไม่อยากเป็นแต่ก็ได้เป็นจึงเป็นทุกข์ ดั่งคำที่ว่าประสบกับสิ่งที่ไม่ปรารถนาเป็นทุกข์ ในเมื่อได้เป็นแล้วก็จบแล้ว ส่วนเรื่องจะกระทำตัวอย่างไร ก็ทำเหมือนเดิมก่อนได้รับรางวัลครับ เพราะการกระทำเหล่านั้นดีแล้ว เขาจึงมอบรางวัลให้ ส่วนเรื่องเงิน 5000 บาทที่ทางโรงเรียน ไม่ทราบว่าให้ไปแล้วหรือยัง ถ้าให้ไปแล้วก็คิดเสียว่าเงินนั้นไม่ใช่ของเราแล้ว ไม่ควรคิดที่จะเสียดาย แต่หากยังไม่ได้ให้หรือรับปากทางโรงเรียนว่าจะให้ ลองหาคำพูดดีๆที่โรงเรียนจะยอมรับได้และทำให้ไม่ต้องเสียเงิน หรืออาจจะต่อรองกับทางโรงเรียนให้น้อยลง จะเพราะความจำเป็นอย่างไรก็ว่าไป ตอนนี้ทำใจสบายๆแล้วหาข้าวหาปลามากินก่อนเถอะครับ เดี๋ยวไม่สบายขึ้นมาต้องหาหมอเสียเงินอีกนะครับ เดี๋ยวจะยิ่งไม่สบายใจหนักเข้าไปอีก จากคุณ : Garcinia เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 14:36:13

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเป็นตัวเราเองนะ ถ้าเราไม่รู้สึกอยากให้เลย เราจะบอกตรงๆ ว่าเราไม่มีกำลังทรัพย์พอที่จะทำบุญเป็นจำนวนสูงแบบนี้หรอก จำได้ว่า ตอนเราเด็กๆ เราชนะการประกวดระบายสี ได้ที่ 2 ได้เงินรางวัล 3 หมื่นบาท ทางโรงเรียนของผู้ชนะการประกวด เค้าก็ให้รางวัลด้วย เป็นเงินเท่าไหร่จำไม่ได้ แต่ก็เยอะนะ ซิสเตอร์มาถามเราเลยว่า "เธอจะเอาเงินมาบริจาคช่วยโรงเรียนเท่าไหร่" เราบอกเลยว่า "คงไม่อ่ะค่ะ เพราะตั้งใจจะนำเงินไป บลาๆๆ" จะมองว่าเรางกก็ได้นะ แต่เรารู้สึกว่าทางโรงเรียนก็ได้เงินจากการชนะของเราไปแล้ว ทำไมมาขอแบ่งเงินรางวัลจากเราอีก (เรื่องเงินนี่ ถ้าเราไม่เต็มใจร่วมบุญด้วย เราจะไม่ค่อยฝืนใจตัวเองเท่าไหร่ อยากทำตอนที่ใจมันอยากทำจริงๆ มากกว่า) จากคุณ : snoopy21 เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 15:16:41

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณทุกความเห็นมากๆ ค่ะ ตอนนี้ทำใจได้มากแล้ว ตอนแรก คิดว่าเป็นแม่มาแค่ 5 ปี ลูกยังไม่ประสบความสำเร็จ อยากให้คนอื่นที่ได้เป็นแม่นานกว่าเรา ดีกว่าเราได้รางวัลนี้มากกว่า..คิดว่าเราไม่เหมาะสม ตอนนี้ไม่ยึดติด เฉยๆ ทำตัวเหมือนเดิม ก็แค่ตำแหน่งที่มอบมาให้ คิดว่าจะทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุด พอได้รางวัลแล้วรู้สึกอึดอัด เรื่องเงิน ผอ.โรงเรียงคงคิดว่ามีฐานะ แต่ทำงานในกงสี เงินที่มีก็ต้องใช้ 4 คน พ่อแม่ลูก2คน คงจะบอกว่า ให้บริจาคเท่าที่ได้ หลายๆ ครั้งดีกว่า บริจาคชุดใหญ่แบบนี้ ขอโทษด้วยที่ทำให้ลำบากใจ จากคุณ : yamplu เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 16:41:54

ความคิดเห็นที่ 9 คิดว่าทำทานไปค่ะ จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 16:43:22

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นกลอุบายเพื่อหาเงินของโรงเรียน  ด้วยการยกย่องผู้ปกครองเด็กแล้วมาขอบริจาคทีหลัง  คนที่ไม่อยากเสียหน้าก็ยกให้ไป  ....  คุณก็พิจารณาเองว่าจะเอายังไง จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 16:55:25

ความคิดเห็นที่ 11 อยากให้เท่าไหร่ก็ให้เท่านั้น ถ้าไม่อยากให้ก็บอกว่าไม่พร้อม คุณสามารถเป็นแม่ดีเด่นได้ทุกวัน ทุกเดือน ทุกปี โดยไม่ต้องมีใครมาออกใบประกาศนียบัตรให้ค่ะ ถ้าลูกของคุณเติบโตมาเป็นคนดี มีศีล มีธรรม เป็นคนดีของครอบครัว ของสังคม ของประเทศชาติ จากคุณ : เสาริมทะเล (เสาริมทะเล) เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 19:55:01

ความคิดเห็นที่ 12 คงพิจารณาไปว่าเขาขอไปแล้วได้ทำประโยชน์ต่อโรงเรียนไหม และถ้ามีประโยชน์จริงก็คงต้องมองว่าเราสามารถให้ได้ไหมแล้วเรามีปัญหามากน้อยแค่ไหนที่จะให้ไป จากคุณ : เนตังมม (เนตังมม) เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 20:43:28

ความคิดเห็นที่ 13 ส่วนนึงเกิดจากความตื่นเต้นและไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเองน๊ะครับ  เวลารู้ต้วว่าต้องออกหน้า เวทีจะมีความวิตกกังวลไปต่างๆนาๆ   แนะนำให้ฝึกสติ  มองให้เห็นความกังวลความไม่ชอบ ที่ต้องออกหน้าเวที  การมีสตินี่แหละจะทำให้ไม่ตื่นเต้นไม่กังวลจนเกินเหตุ และสามารถออก หน้าเวที พูดจาได้เสียงไม่สั่นหรือสั่นก็เล็กน้อย จิตใจก็เป็นปรกติเบิกบาน ไม่วิตกกังวลหรือ กลุ้มใจจนเกินเหตุน๊ะครับ ^^ จากคุณ : ล้าน5 เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 21:16:06

ความคิดเห็นที่ 14 จริงๆนะ ผมย้อนกลับไปตอนเด็กๆ แม่ของผมดีเด่นกว่าแม่คนอื่นตั้งเยอะ แน่ล่ะครับลูกเราย่อมเห็นตุณแม่คุณพ่อยอดเยี่ยมกว่าใครๆในโลก ถือเสียว่าเป็นแม่ดีเด่นสำหรับลูกเราก็พอแล้วครับ (ไม่เชื่อลองไปถามลูกดูเลยครับว่าเค้ารักใครมากที่สุดในโลก) รางวัลนี้ก็ดีนะ มันเป็นผลมาจากกรรมดี(ในอดีตและอดีตชาติมั๊ง) คนมีบุญช่วยไม่ได้ ได้มาแล้วก็เก็บเอาไว้ให้ลูกดูครับ (อ้ออย่าลืมทำตัวดีๆ เช่นรักษาศีล ๕ ให้ลูกดูเป็นตัวอย่างทุกๆวันนะครับ) ส่วนเรื่องการบริจาค ก็ทำตามกำลังศรัทธาครับ ทำบุญอย่าเบียดเบียนตนเบียดเบียนครอบครัวครับ จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 22:10:00

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณทุกความเห็นอีกครั้ง ในฐานะที่เป็นแม่ดีเด่น จะไม่บริจาคเงินจำนวนมากเพื่อรักษาหน้าตาไว้ แต่จะบริจาคเท่ากำลังทรัพย์ที่อำนวย(เพื่อความสบายใจ) แล้วจะเก็บเงินเอาไว้..เพื่อลูกๆ ใช้ในอนาคตต่อไป จากคุณ : yamplu เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 06:58:48

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีค่ะ :) ดิฉันคิดอีกแง่หนึ่งว่า ลูกๆ คงจะเกิดความรู้สึกภูิมิใจที่แม่ได้รับเกียรติเป็นแม่ดีเด่น ถึงแม้ตัวเราเองไม่ได้ยินดีที่จะได้รับตำแหน่งนั้นก็ตามนะคะ ส่วนเรื่องที่โรงเรียนขอเงินบริจาค โดยระบุจำนวนเงินมามากถึงห้าพันบาทนั้น ถ้าเป็นดิฉัน..ก็อาจจะบอกไปตามตรงว่า คงให้ได้แค่เท่าที่พอมีอยู่อ่ะค่ะ รอไว้ถ้าดิฉันมีเยอะๆ แล้วจะทะยอยนำมาบริจาคเพิ่มเติมให้ภายหลังนะคะ (บอกตามตรงว่า ดิฉันไม่ชอบวิธีการของโรงเรียน ที่มัดมือชกแบบนี้ค่ะ) อย่างไรก็ตาม...ดิฉันขอเป็นกำลังใจให้คุณนะคะ ขอให้คุณทำให้ลูกๆ มีความรู้สึกภูมิใจ ที่มีแม่ดีเด่น ซึ่งมีน้อยคนนักที่จะได้รับเกียรติเช่นนี้ค่ะ จากคุณ : แสนดีเหมือนทราย เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 54 08:53:48