ความคิดเห็นที่ 1 อ้าวกระทู้ดราม่าหรอกหรือนี่ จากคุณ : คืนวันอันแสนดี เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 20:08:53

ความคิดเห็นที่ 2 อ่านงานเขียนของคุณดังตฤณหลายเรื่อง ยอมรับว่าชอบและนับถือในระดับหนึ่งครับ ... เรื่องที่บิดเบือนและต้องสอบทาน ไม่รู้ซี ผมจำได้เรื่องเดียว คือ เรื่้องที่แกเปรียบเทียบขนาดของอวัยวะเพศชายกับอะไรสักอย่าง แต่ส่วนนี้ผมก็ฟังเขาท้วงมาอีกที ไม่ได้คิดท้วงเอง เคยอ่านและเคยเจอที่แกเขียนบอกไว้นะ(เรื่องอวัยวะเพศ) อีกอย่างไม่รู้จะอ้างอิงคำตอบอะไรหรือสอบทานยังไงต่อ เพราะไม่ได้มีปัญหาเรื่องนั้น และปัญญาก็น้อยเกินกว่าจะคิดหาที่มา ก็อ่านผ่านๆไป เก็บความรู้ที่จำเป็นเอาไว้ต่อยอด ผมชอบที่มีคนมาท้วงติงงานที่เราสนใจ จะได้มองคนหลายๆด้าน ได้เรียนรู้นักเขียนที่เราชื่นชม ผมจะได้รู้ข้อเท็จจริงจากงานเขียนด้วย อีกอย่างคุณดังตฤณมาอ่านก็จะได้ปรับปรุงงานเขียนให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ... รอความเห็นต่อไปครับ. แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 54 20:25:32 จากคุณ : Zen Entania เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 20:20:21

ความคิดเห็นที่ 3 การแลกเปลี่ยนความเห็นเป็นสิ่งดี ขอทุกท่านแสดงออกนุ่มนวล นะครับ ให้กำลังใจครับ (การแสดงออกนุ่มนวล จะเป็นผลดี กับคนที่เรานับถือ เพราะแสดงว่า ได้นับถือ ได้เรียนรู้แล้ว มีความใจเย็น มีอุเบกขา มีเมตตา ) ปล. เมตตาความเห็นนี้ด้วยนะครับ จากคุณ : ART_TRA_MAN เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 20:27:00

ความคิดเห็นที่ 4 ผมก็อยากรู้นะ ผมเองอ่านหนังสือของคุณดังตฤณมาทุกเล่ม สามปีก่อนไปกวาดเตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัวมารวดเดียว 12 เล่ม คนขายถามว่าซื้อไปบริจาคเหรอคะ  ไม่กล้าบอกว่าซื้อไปอ่านเอง เดี๋ยวเค้าตกใจ เท่าที่รู้คุณดังตฤณ มักจะพูดถึงบทสวดอิติปิโส มากที่สุด เรื่องบทสวดชินบัญชร รวมถึงยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนั้น ผมเคยอ่านหนังสือเรื่องสวดมนต์...(จำชื่อหนังสือได้ไม่ครบ) ของอาจารย์วศิน อินทรสระ ท่านอาจารย์วศินก็เขียนในทำนองคล้ายกับความคิดเห็นของคุณดังตฤณ แต่ก็อย่างว่า หลายคนย่อมหลายความคิด แล้วแต่ว่าใครจะเชื่อไปในแนวทางใด ที่น่าจะตรงกับใจของตัวเองมากกว่า อาจจะไม่มีใครถูกใครผิดก็ได้ แต่ก็อยากให้คุณ smiling-girl ชี้แจงหน่อย ว่าคุณดังตฤณเขียนอะไรมั่วเองไว้บ้าง และกระทู้นั้น ผมก็ไม่เคยอ่านเหมือนกัน จากคุณ : ธุวัง มรณัง (คุณหมูน้อยตัวขาว) เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 20:35:15

ความคิดเห็นที่ 5 อวัยวะเพศชาย ขนาดเล็กหรือใหญ่ บุญทำกรรมแต่ง !? http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2011/01/Y10168854/Y10168854.html จากคุณ : นัยนะ เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 20:36:41

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณพี่นัยนะมากเลยค่ะ  กระทู้นี้ล่ะค่ะ   ที่ยังไม่ได้ตอบอะไรเพราะมัวแต่หากระทู้นี้อยู่ แต่ก็หาไม่เจอ นี่ก็ว่าจะเข้ามาบอก "รับทราบ และขอเวลาหากระทู้ก่อน" หาไม่เจอ ก็ยังนึกอยู่หากกระทู้ไม่ได้เก็บเข้าคลังคงต้องไปตามพยานมายืนยัน  :-) อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องการเกิดเป็นเพศหญิงนะคะ  แต่อันนี้ต้องหากันนานเลย  เพราะจำไม่ได้จริงๆ ว่ากล่าวไว้ในเล่มไหน   เราก็ซื้อหนังสือของคุณดังตฤณแทบทุกเล่มเช่นกันนะคะ ส่งไปให้คนในต่างแดนอ่านด้วย แต่อ่านแล้วสะดุดก็ต้องยอมรับว่าสะดุดล่ะค่ะ  เมื่อสะดุดก็วาง มิได้อ่านต่อ... แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 54 20:56:19 จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 20:51:46

ความคิดเห็นที่ 7 กร๊ากกก   เรื่อง เจ้าโลก หรือว่า เจ้าจิ๋ว เนี่ย ผมอ่านในเวบดังตฤณ เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เขาเรื่มตอบในเวบให้อ่านใหม่ๆ เพราะเขาตั้งตน เป็น ศาสดาแห่งกรรมพยากรณ์ ตอนแรกก็เข้าไปอ่านสม่ำเสมอ พอมาเจอ การพยากรณ์กรรม กรณี เจ้าโลก-เจ้าจิ๋ว เนี่ย เลิกเปิดเวบนั้น ไปอีกเลย จนบัดนี้ เอิ๊กกก กก ก ทำไม เพิ่งมาเปนปัญหา ที่พันทิป เมื่อต้นปี นี่เองหรือ จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 20:54:50

ความคิดเห็นที่ 8 ในตอนนั้น ก็ได้อ่านกระทู้นั้นเหมือนกัน คิดว่า ขนาดอวัยวะเพศ ไม่มีแจกแจงไว้ในพระไตรปิฎกนะ จากคุณ : ฮิมาวาริซซัง เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 21:09:41

ความคิดเห็นที่ 9 อ่านหนังสือคุณดังตฤณหลายเล่มเหมือนกันส่วนมากก็อ่านที่แต่งเป็นนิยายมากกว่า และก็เป็นเพราะคุณดังตฤณนี่แหล่ะที่ดิฉันได้หัดนั่งสมาธิอย่างจริงจัง จากการอ่านหนังสือ๗ เดือนบรรลุธรรม พอได้โหลดเสียงอ่านหนังสือเสียดายคนตายไม่ได้อ่านฉบับเก่าที่ยังไม่ได้ปรับปรุงนะคะเพราะฉบับใหม่นี่ไม่มีแล้ว และไอ้อวัยวะอะไรนั่นก็ในหนังสือเล่มเดียวกันนี่แหล่ะค่ะ ดิฉันก็ฟังไม่จบ เพราะสะดุดจริงๆเหมือนคุณน้องยิ้มบอก หลายอย่างที่เธอพูดดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล ทำเอาคนที่ปรารถนาจะเกิดเป็นหญิงทุกๆชาติเสียสูญและทำให้ดิฉันรู้สึกว่าเป็นผู้หญิงเนี่ยเป็นปมด้อยจริงๆ ยังกะเราเนี่ยคงทำเวรทำกรรมสารพัดถึงได้โชคร้ายมาเกิดเป็นหญิงไปซะอย่างงั้นแหล่ะ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 54 21:29:23 จากคุณ : Rinta เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 21:27:41

ความคิดเห็นที่ 10 แปลกประหลาดมากๆค่ะ ไปอ่านข้อมูลที่คุณนัยนะ นำมาให้แล้ว งง และ สงสัยมากๆ ท่านใด ทราบ กรุณาชี้แนะด้วย ว่า จริงหรือไม่คะ จากคุณ : มด2002 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 21:31:09

ความคิดเห็นที่ 11 ู^ ^  คุณอีวาได้กรุณาชี้แจงไว้ให้แล้วนะคะว่า "ไม่ได้มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก" หากเจอเรื่องเหตุเกิดเป็นหญิง แล้วเราจะนำมาโพสต์นะคะ  คุณจะมึนงงกว่านี้อีกค่ะ จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 22:10:36

ความคิดเห็นที่ 12 ปัญหาไม่ใช่ อยู่ที่มีในพระไตรปิฎกหรือไม่มีหรอกครับ เป็นเพราะดังตฤน เป็นแค่ฆาราวาส คนหนึ่ง และไม่ใช่พระระััดับผู้ใหญ่ก็แค่นั้น อันนี้ไม่ได้หมายถึงดังตฤน พูดถูก   เพราะไม่ต้องเป็น คนที่เก่งกาจในพระไตรปิฎก  ก็พอมองออกอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป้นงานเขียนชิ้นนี้ หรือ งานเขียนชิ้นอื่นลักษณะการเขียนเป็นการเขียนเชื่อมโยง ให้คนตระหนัก ถึง การทำดีมากที่สุด แม้คำถามมันจะพิสดาร แค่ไหนก็ตาม คนอ่านจะเห็นอยู่แค่ 2แบบ -1. ดังตฤน คุยเรื่อง ปิ๊กาจู แล้วปิํํกาจู ในเรื่องนี้ก็ไม่ได้อยู่ในพะไตรปิฎก -2. ดังตฤนพยายามเชื่อมต่อ วิบาก อันที่ดีที่สุด ก็ยังคงต้องเป้นคนที่ประกอบด้วยคุณงามความดี    "ริเริ่มในกิจอันเป็นบุญ หนักแน่นในการรักษาสัจจะอันควร กล้ารับผิดชอบในสิ่งที่ตนทำ ตลอดจนไม่ลักกินขโมยกิน กล่าวอีกทางหนึ่งคือถ้าไม่ได้เป็นคนขลาด ไม่เอาตัวรอด ไม่คิดกินแรงคนอื่น ไม่ทิ้งพ่อแม่และลูกเมีย" ต่างจากแม่ชีทศพรนะครับ ไปให้แก้กรรม โดยกอดผู้ชาย ไปเป็นแฟนแม่ชีอะไรแบบนั้น  ไม่ต้องไปเปรียบเทียบ งานเขียนของดังตฤน จริงหรือไม่จริงไม่ทราบ แต่ถ้ายังอยู๋ในหลักของการเชื่อตามศานาพุทธ  อะไรที่เป็นกุศล และชอบด้วยเหตุผล จะเชื่อหรือไม่ใช่เรื่องเสียหาย จากคุณ : Panda-baker เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 22:49:19

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าใครซักคนกระปู๋ใหญ่แสดงทำบุญมามากเหรอ ผมว่าคนมีบุญคือคนที่ไม่ต้องใช้กระปู๋มากกว่านะ 555 จากคุณ : โอไซริส เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 23:15:35

ความคิดเห็นที่ 14 หากเป็นงานเขียนทั่วไป นิยาย นิทาน เืรื่องเล่า ฯลฯ  อันนี้ตามถนัดเลยค่ะ จะสร้างช้างให้ตัวใหญ่เป็นสองสามเท่าของไอ้แหว่งก็ยังได้ เพราะมันคือ เรื่องแต่ง มันคือจินตนาการ แต่หากเป็นเรื่องที่อ้างอิงกับธรรมะ ก็ควรจะนำเสนอให้ถูกต้องมิใช่หรือ จะพูดเป็นตุเป็นตะเองได้อย่างไรคะ คนอ่านจะรู้กันมั้ยคะว่า ผู้เขียนโยงนู่นนี่เอาเอง บางกระทู้ที่เป็นกระทู้คำถาม บางท่านก็ quote ข้อความของคุณดังตฤณมาตอบ เอาคลิปมาลง บอกว่าคุณดังตฤณพูดไว้อย่างนี้ อย่างนี้ (กรุณาอย่าถามหากระทู้นั้นๆ เพราะมีหลายกระทู้ และเราก็ไม่ได้จดจำไว้หรอกค่ะ) ... สิ่งนี้ไม่ใช่ "เครดิต" ทางธรรมะที่ผู้อ่านมอบให้กับคุณดังตฤณหรือคะ คุณแพนด้านึกภาพของผู้ที่อ่านแล้วเชื่อสนิทใจออกหรือไม่ ? จะทำให้บางท่านเข้าใจผิดในเรื่องวิบากกรรมผิดเพี้ยนไปมั้ยคะ ?? ตกลงคุณดังตฤณบอกเล่าเรื่องวิบากกรรมที่เชื่อมโยงเอาเองแบบนี้ เหมาะสมแล้วหรือคะ ??? แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 54 23:36:35 จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 23:35:04

ความคิดเห็นที่ 15 เคยผ่านไปร้านดอกหญ้าสาขาพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำ เมื่อหลายปีก่อน เห็นหนังสือเล่มหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องการทำแท้ง ผลของการทำแท้งในแง่หลักกรรมอะไรเทือกนั้น หนังสือนั้นมีบทสัมภาษณ์หลายคน โปรยปกหลังเอามาลงไว้ 4 คน หนึ่งในนั้นคือ ดังตฤณ ดังตฤณพยากรณ์กรรมไว้ว่า พ่อแม่คู่ใดทำแท้งให้เด็กตาย เด็กนั้น(ทำนองว่าเป็นวิญญาณ) จะพยาบาทพ่อแม่นั้น ไปเป็นเวลานานเท่ากับอายุขัยของเด็กนั้น หากไม่ตายเพราะโดนทำแท้งซะก่อน!! ดังตฤณยกตัวอย่างไว้ว่า ถ้าเด็กนั้นเกิดมา มีชีวิตอยู่จนตาย อายุ 70 ปี เด็กแท้งนั้นก็จะพยาบาทพ่อแม่ที่ทำแท้งตน ไป 70 ปี !? ผมเห็นหนังสือเล่มนั้นแล้วเกิดความรู้สึกต่อบุคคล 2 พวก 1. พวกนักเขียนหนังสือกรรมเวรของประเทศไทยอย่างดังตฤณ, ชีหัวหลิม "โมบายหอย" ฯลฯ 2. พวกที่ยังเชื่อ ศรัทธา หรือนิยมงานเขียนที่ประเด็นกระทู้นี้เรียกว่า "มั่ว" ของนักเขียนจำพวกนี้ เคยคิดจะเก็บเรื่องนี้ไว้วิจารณ์ใน "มหากาพย์อริยะกำมะลอ" เหมือนกัน แต่เมื่อคุณ Smiling-girl สะกิดให้มาดูกระทู้นี้ จึงขอเขียนคร่าวๆ ทิ้งไว้ให้คิดสักหน่อย ไม่น่าเชื่อว่าบุคคลที่คนจำนวนมากเชื่อว่าเป็นผู้รู้ธรรม (ในที่นี้ ยังไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงการถูกแต่งตั้งให้เป็นอริยบุคคล งดไว้).. บุคคลอุดมคติเช่นนี้ ยังไม่เข้าใจแม้กระทั่งเรื่องทิฏฐิ เรื่องกรรม ตามหลักการของพุทธศาสนา ?! กลับแสดงความไม่รู้ไม่เข้าใจนั้นออกไปสู่สาธารณะ เท่ากับเผยว่าตนเป็น "สัสสตทิฏฐิ" เป็นมิจฉาทิฏฐิ ! ชาวพุทธเรานั้น แม้เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดานี่แหละ.. ถ้าได้ "เรียนหนังสือของพระพุทธเจ้า" สักหน่อย ก็จะรู้ว่าทิฏฐิต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ เป็นอย่างไร เอาง่ายๆ รู้จักอนันตริยกรรมกันบ้างไหม ? ฆ่าบิดา ฆ่ามารดา น่ะ เป็นอนันตริยกรรม ใช่ไหม ? นายเป็ดชอบเลี้ยงไก่ นายเป็ดมีลูกชายชื่อ นายห่าน วันหนึ่งนายเป็ดหัวใจวาย ก่อนตายนายเป็ดเป็นห่วงไก่ที่ตนเลี้ยงไว้ จิตนายเป็ดได้ยึดพวกไก่นั้นไว้ นายเป็ดตาย! จุติ ! เมื่อจุติจิตของนายเป็ดดับลง ปฏิสนธิย่อมเกิดขึ้นเป็นภพใหม่ทันที นายเป็ดตายแล้ว ภพชาติของนายเป็ดเป็นอันยุติ จิตที่จับอารมณ์ "ไก่" ไว้ก่อนตาย เป็นปัจจัยให้เกิดคตินิมิตอารมณ์ นำให้นายเป็ดปฏิสนธิในฟองไข่ เกิดเป็นไก่ ฟักออกจากไข่เป็นลูกเจี๊ยบในบ้านนายเป็ดเอง ลูกไก่น้อยอดีตนายเป็ด โตขึ้นเป็นไก่เต็มตัว วันหนึ่ง นายห่านจับไก่ตัวนั้นมาเชือดคอ ฆ่าไก่ทำกับแกล้ม !! ถามว่านายห่านสำเร็จอนันตริยกรรมไหม? ความเข้าใจว่า นายเป็ดไปเกิดเป็นใครหรืออะไรก็ตาม แล้วยังคงเป็นนายเป็ด คือความหลงผิด หลงเข้าใจไปว่าสิ่งนั้นเที่ยงแท้ตลอดไป นายเป็ด ตายแล้วก็ยังต้องเป็นนายเป็ด!? นี่แหละ "สัสสตมิจฉาทิฏฐิ"! ทฤษฎีดังตฤณ บอกว่าเด็กในท้องแม่เพิ่งปฏิสนธิได้ 2 เดือน โดนทำแท้งตายลง ก็จะไปเกิดเป็นวิญญาณเด็ก ถ้าเด็กนั้นเกิดมามีอายุ 70 ปี เมื่อเด็กจุติ-ปฏิสนธิในภพใหม่แล้ว วิญญาณก็ยังจะมีอายุได้อีกตั้ง 70 ปี ซึ่งเป็น "สภาวะ" ของภพเก่า อยู่อีก ?! และจำเพาะจะต้องให้เด็กนั้นเกิดเป็นวิญญาณป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้พ่อแม่ เพื่อจะได้สะดวกในการตามอาฆาตพยาบาทพ่อแม่มันไปอีก 70 ปี เท่าอายุตนอีกด้วย? คนสองคนมาเจอกัน คนหนึ่งมีอายุขัย 75 ปี แต่โดนอีกคนฆ่าตายขณะอายุแค่ 25 ปี ใช้ทฤษฎีดังตฤณ ก็ต้องบอกว่า คนตายนั้น จะต้องเกิดเป็นวิญญาณเพื่อจะพยาบาทไอ้คนฆ่าตนไปอีก 50 ปี ! นี่แหละ สัสสตทิฏฐิ ! นี่คือทฤษฎีส่งเดช (กระทู้นี้เรียกว่า "มั่ว") ที่ไม่มีหลักการ ไม่มีพื้นฐานความรู้ทางสภาวธรรมเลย ยังใช้พยากรณ์เวรกรรมได้เป็นคุ้งเป็นแคว ดีไหมล่ะ !? สำหรับประเทศพุทธศาสนาเถรวาท เขียนหนังสือได้งามหน้าอย่างนี้ ยังอุตส่าห์มีคนเลื่อมใสค่อนเมือง เพราะอะไร เพราะที่นี่.. มีคนไทย!! จากคุณ : ระนาดเอก เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 00:57:11

ความคิดเห็นที่ 16 "ริเริ่มในกิจอันเป็นบุญ หนักแน่นในการรักษาสัจจะอันควร กล้ารับผิดชอบในสิ่งที่ตนทำ ตลอดจนไม่ลักกินขโมยกิน กล่าวอีกทางหนึ่งคือถ้าไม่ได้เป็นคนขลาด ไม่เอาตัวรอด ไม่คิดกินแรงคนอื่น ไม่ทิ้งพ่อแม่และลูกเมีย" ริเริ่ม หนักแน่น ไม่กินแรง ไม่เอาตัวรอด ไม่ทิ้งลูกเมีย จะทำให้กะปู๋ใหญ่ !! เฮ่ย จิงป่าว ?!? ชาติหน้า ตูจะได้ใหญ่เป็นเฮนจ์สโตนล่ะโว้ย ทีนี้สนุกล่ะ ไอ้แผนเอ๋ย ริเริ่ม หนักแน่น ไม่กินแรง ไม่เอาตัวรอด ไม่ทิ้งลูกเมีย ทำให้กะปู๋ใหญ่ !! เชื่อเขาได้ ไม่เสียหาย เพราะยังอยู๋ในหลักของการเชื่อตามศาสนาพุทธ เพราะริเริ่ม หนักแน่น ไม่กินแรง ไม่ตัวรอด ไม่ทิ้งเมีย ย่อมเป็นกุศล กะปู๋ก็ใหญ่อย่างชอบด้วยเหตุผล ธรรมกายเอาม็อตโต้นี้ไปอ้างได้เล้ย ทำบุญกะธรรมกายอย่าง ริเริ่ม หนักแน่น ไม่กินแรง ไม่ตัวรอด ฯลฯ ตายไปเกิดเป็นเทพดุขวิดบุรี เป็นเมพกะปู๋ใหญ่ยักษ์ จนพระอินต้องอายจนขาดใจตายไปเกิดใหม่เลย ( เกิดใหม่เป็นคน เป็นมนุดที่มีอายุยืนเท่าพระอิน ได้ลงกินเนสอายุยืนสุดในโลก ไชโย้ ) จากคุณ : ระนาดเอก เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 01:16:59

ความคิดเห็นที่ 17 ผมมีคำถาม คือว่า ผมไม่ทราบประวัติเค้าเลย แต่อยากรู้ว่า เหตุใด เขาถึงไม่บวชอ่ะครับ ทั้งที่รู้เรื่องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาตั้งมากมาย ป.ล. ผมไม่อยากให้คนที่เพิ่งศรัทธาหรือศรัทธาอย่างผิดๆ มาอ่าน เรื่อง ปิกาจูอารายนี้เลย ยังไม่เห็นว่าจะเป็นเหตุให้ตั้งมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างแท้จริง เรากำลังขาดหลักอันสำคัญเรื่อง กาลามสูตร ไปไหม ชาวพุทธ?? แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 01:22:25 จากคุณ : artinfinity เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 01:18:00

ความคิดเห็นที่ 18 เคยอ่านหนังสือของคุณดังตฤณค่ะ แต่ไม่ถูกจริต(ใช้คำนี้ได้ไหมนะ) อ่านสองสามเล่ม ไม่จบสักเล่มค่ะ ดังนั้น ไม่เคยทราบเรื่องที่ท่านข้างบนพูดกันค่ะ ขอมามุงด้วยคน จากคุณ : ธารน้ำ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 01:33:08

ความคิดเห็นที่ 19   ดังตฤณ เป็นเพียงนักอ่าน ที่ขยันอ่านหนังสือมาก ๆ หลาย ๆ ครูบาอาจารย์ และมาสนใจพระไตรปิฎกในทีหลัง รู้จริงบ้าง รู้ไม่จริงบ้าง  (รู้ไม่จริงซะมากกว่า) แล้วเอามาเขียนสะเปะสะปะได้เรื่อย ๆ ไป     ไม่แปลกหรอกครับ ที่เขามีแฟนคลับมากมาย เพราะในประเทศไทย มีเรื่องแปลก ๆ แบบนี้เกิดขึ้นได้เสมอ ทุกยุคทุกสมัย    -บางเวลา เด็ก7 ขวบ บังเอิญไปหยิบกิ่งไม้อะไรมาสักกิ่งหนึ่ง เอามาหัก ๆ ต้มน้ำ ให้ใครดื่มเป็นยา บังเอิญคนคนนั้น กำลังจะหายป่วยจากไข้หวัดพอดี  พูดต่อ ๆ กันไป จนเด็กนั่นกลายเป็น "หมอเทวดา"  มีคนมาหาจากทั่วทุกสาระทิศ วันหนึ่งนับหมื่น ๆ คน ปีหนึ่งเป็นล้านคน  เด็กบ้านนอกนั่น ยังมีแฟนคลับมากกว่านายดังตฤณนะ  ว่าไหม - วันร้าย คืนสลัว  ต้นกล้วยหลังบ้านใครสักคน ออกปลี แตกยอด ออกมา พิกล พิการผิดรูป แล้วดันไปคล้ายรูปพะยานาคเข้า  งานเข้าเลยครับ มีคนแห่ไปจุดธูปวันละนับพันคน    10 วัน หมื่นคน และเกิดขึ้นบ่อย ๆ เรื่องพรรค์อย่างนี้ จนคนนับล้าน ๆ คนไปแห่กันจุดธูปไหว้ต้นกล้วย  เห็นไหมว่า มีคนจำนวนมากกว่าแฟนคลับของนายดังตฤณ  ผมกำลังพยายามสื่อว่า...จำนวนคนที่นิยม ใครต่อใคร ในเรื่อง "ความเชื่อ" นั้น ไม่ใช่สาระอะไรหรอกครับ เณรแอ เอง ก็มีแฟนคลับ พอ ๆ กับดังตฤณ ยันตระ น่าจะมีแฟนคลับมากกว่าดังตฤณ ด้วยซ้ำ   โดยส่วนตัว ผมอ่านคร่าว ๆ แค่ ไม่กี่หน้า ผมก็เมินหน้าหนีแล้ว สำหรับ นักเขียนสะเปะสะปะ คนนี้ โดยเฉพาะ เรื่องการที่หมอนี่ พยายาม พยากรณ์ระดับภูมิธรรม ของพระหลาย ๆ รูป ว่าเป็นอริยะ หรือไม่ ฯลฯ  และพยากรณ์ ตนเองประมาณว่าบรรลุธรรม ซึ่ง ฟังแล้วรู้ได้ไม่ยากว่า ไร้สาระ ครับ ไม่ต่างอะไรจาก พวกเจ้าเข้าทรง ที่อยากจะพูดอะไรก็ได้  เพียงแต่ หมอนี่ อ่านหนังสือมากกว่า พวกเจ้าสำนัก เจ้าเข้าทรง ก็แค่นั้น เลย จ้อได้มากกว่า และฟังเหมือนกับว่า จะมีหลักการกว่านิด ๆ  ก็แค่นั้น จากคุณ : รถเรณู เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 01:47:57

ความคิดเห็นที่ 20 คห.5  อ่านแล้วขำกลิ้งเลย! จากคุณ : คนโบราณนานมาแล้ว เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 02:21:53

ความคิดเห็นที่ 21 มีเยอะ ที่คุณดังตฤณตอบคำถามมั่ว   เคยอ่านเจอมานานหลายปีแล้ว  จำไม่ได้  ขี้เกียจสนใจ  ไปหาอ่านจากเว็บลานธรรมสมัยสิบปีก่อน นั่นแหละ เพราะคุณดังตฤณ  ยังฝึกไม่ได้ลึกซึ้งอะไรนัก และขาดความรู้ในทางด้านอภิธรรมและอรรถกถา  บางครั้งจะปฏิเสธอภิธรรมและอรรถกถาซะด้วย  ดูเหมือนจะอ่านแต่พระสูตรเท่านั้น และตีความผิดหลายๆอย่าง แต่สำนวน อาจจะเหมาะสำหรับคนใหม่ๆ  ที่ไม่คุ้นเคยธรรมะ  ไม่เคยศึกษาธรรมะแบบละเอียดลึกซึ้งมาก่อน .... แต่สำหรับคนที่ศึกษาธรรมะมาลึกซึ้งในระดับหนึ่งแล้ว   สำนวนของคุณดังตฤณ  ก็งั้นๆ  ไม่มีอะไรน่าสนใจ .. จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 06:26:02

ความคิดเห็นที่ 22  อ่านตอนแรก เห็น "ก" เป็น "ถ"  ใจคิดว่า แรงงง แต่มาอ่านอีกทีไม่ใช่นี่นา  ตาหาเรื่องจริงๆ เรา  ผมชอบอ่านหนังสือกลุ่มนี้นะครับ สนุกดี ถ้าเข้าไปในร้านหนังสือ จะพบว่ามีหนังสืออีกหลายเล่มมากๆ ที่เป็นแนวเดียวกันนี้ แต่จะเชื่อหรือไม่ ต้องตัดสินใจกันเองครับ  จากคุณ : แมงกุ๊ดจี่ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 07:06:58

ความคิดเห็นที่ 23 เคยอ่านเจอ ที่แกบอกว่า   เหตุที่ชาตินี้ไม่มีลูก เพราะชาติก่อนทำหมันหมาแมวไว้เยอะ เรางี้เหวอเลยค่ะ แล้วตั้งแต่นั้นมา ก็ไม่เสียเงินซื้อหนังสือแกอีกเลย จากคุณ : น้องพี่อิ้ว เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 08:46:27

ความคิดเห็นที่ 24 "เมื่อใจงาม คุณจะรู้สึกถึงความงามแม้ในสิ่งเลวร้าย แต่หากใจร้าย คุณจะเห็นแค่แง่ร้ายแม้ในสิ่งดีงาม" เป็นหนึ่งในข้อความของคุณดังตฤณที่อ่านแล้วชอบมากครับ ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าตัวเองมีปัญญามากพอจะไปตัดสินใคร แต่ก็ชอบอ่านหรือฟังข้อเขียนหรือความคิดเห็นของผู้ที่มีเจตนาให้ผู้อื่นมีจิตเป็นกุศล หรือชี้ชวนให้สนใจในการทำทาน ถือศีล เจริญภาวนา มีคนรู้จักในชีวิตจำนวนหนึ่งที่หันมาให้ความสนใจกับคำสอนในศาสนาพุทธผ่านทางนิยายและบทความของนักเขียนหลายๆท่าน และหนึ่งในนักเขียนเหล่านั้นก็มีคุณดังตฤณรวมอยู่ด้วย เข้าใจและยอมรับในความต่างว่าแต่ละคนมีบุคคลที่ชื่นชมนับถือแตกต่างกันไปตามจริตของตนเองครับ ผ่านมาเห็นกะทู้นี้ (รวมทั้งกะทู้เรื่องบทสวดก่อนหน้านี้) ก็ขอออกต่อคุณดังตฤณและผลของของท่านไว้ตามนี้แหละครับ จากคุณ : jhobby เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 09:27:59

ความคิดเห็นที่ 25 คุณดังตฤณ เป็นนักเขียนที่ใช้ภาษาได้สวย  คมคาย โดนใจ บางครั้งก็ออกแนวฟุ้งฝัน บางคราก็ยอกย้อนได้เจ็บแสบ ก็เป็นไปตามจริตของเขา และก็คงถูกจริตของคนกลุ่มใหญ่  ซึ่งก็รวมเราด้วยแหละ (เฉพาะในเรื่องการใช้ภาษานะคะ) แต่ถ้าอ่านแล้ว คิดวิเคราะห์เนื้อความที่เขาขียนมาให้ดีๆ ในบางเรื่อง ก็จะมองเขาออก  และพอเข้าใจได้ ว่าอย่าไปยึดไปถืออะไรจริงจังนัก อ่านผ่านๆ พอสนุก  เรื่องไหนที่ใช้ปัญญาคิดแล้วว่าดี ก็ทำไป เรื่องไหนดูโม้ๆ มั่วๆ ก็ข้ามไปซะ  (แต่น่าห่วง คนอ่านที่ขาดการวิเคราะห์นะ) ปล. เราว่าส่วนดีของเขาก็มีอยู่เยอะนะคะ  แต่อย่างว่าแหละ ส่วนดีไม่ได้ทำให้ส่วนผิดกลายเป็นถูกซะหน่อย จากคุณ : น้องพี่อิ้ว เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 10:15:18

ความคิดเห็นที่ 26 ที่นี่ทำให้เห็นโลกจริงๆเลย ^^ ชอบๆ จากคุณ : แล้ว... เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 10:40:31

ความคิดเห็นที่ 27 ผมชอบอ่านผลงานของคุณดังตฤณน๊ะ  ผมว่าเป็นการตอบคำถามเรื่องกรรมได้ดี บางอย่างไม่มีอธิบายในพระไตรปิฎกทั้งหมด  แต่เมื่อพระพุทธเจ้าสอนเรื่องกรรม ทำเหตุอย่างใดก็มีผลอย่างนั้น   การพูดถึงเรื่องที่มาของแต่ล๊ะคน  อันนี้อาจเป็นการ คาคคะเนกรรม  ซึ่งอาจไม่ถูกทั้งหมดเพราะไม่เห็นจากฌาณอันลึกซึ้ง  แต่ก็เป็นสิ่ง ที่อยู่ในวงพระพุทธศาสนา   การทำเหตุที่ดีย่อมส่งผลดี กรรมทุกอย่างจะเป็นตัวจัด สรรรูปแบบให้ทุกคน  นี่คือรูปแบบที่อยู่ในหลักพุทธศาสนาเช่นกัน  ^^ จากคุณ : ล้าน5 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 10:43:30

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นด้วยกับคุณ jhobby ค่ะ อย่างน้อยข้อเขียนคุณดังตฤณก็มุ่งให้คนประพฤติดีอยู่ในศีลธรรมไม่ใช่หรือคะ จากคุณ : ไตรโสภณ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 10:51:33

ความคิดเห็นที่ 29 อืม ถ้าเป็นเรื่องนั้น ก็เคยอ่านแล้วในหนังสิอเสียดายคนตายไม่ได้อ่าน ฉบับยังไม่ได้ปรับปรุง แต่ตอนนั้นอ่านแล้ว ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร หากเป็นอย่างที่หลายท่านบอกกล่าว คุณดังตฤณอาจจะผิดพลาดตรงที่เขียนโดยไม่ได้อ้างอิงพุทธพจน์ หรือพระไตรปิฎก จึงอาจทำให้ความน่าเชื่อถือดูมีน้อย แต่เรื่องกรรม และการให้ผลของกรรม เป็นเรื่องซับซ้อน จะรู้ได้อย่างไรว่าคุณดังตฤณพูดไว้ผิด ในเมื่อมันอาจจะถูกก็ได้ไม่ใช่หรือ เห็นบางคนในที่นี้ เวลามีใครยกพระพุทธพจน์ หรือพระไตรปิฎกมาอ้าง ก็ส่อเสียดว่านั่งกอดนอนกอดตะกร้าสามใบบ้าง อะไรบ้าง ไม่รู้จะเอายังไงกันแน่  ระหว่างต้องยกพระพุทธพจน์กับไม่ต้องเอามาอ้าง หรือสรุปคือ ถ้าเป็นเรื่องของกรรม การให้ผลของกรรม ไม่ควรเขียนอะไรโดยไม่มีพระพุทธพจน์รองรับใช่ไหมครับ จากคุณ : megamix100 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 11:08:00

ความคิดเห็นที่ 30 แล้วเรื่องที่คุณดังตฤณพยากรณ์ภูมิธรรมของพระหรือของใครน่ะครับ เอามาจากไหนกัน ผมไม่เคยอ่านเจอในหนังสือเล่มไหนนี่ หากใครรู้ ช่วยเอาที่มามาให้หน่อยครับ เพราะผมหาที่มาไม่ได้เลย  นอกจากพูดกันขึ้นมาลอยๆ ในเว็บแอนตี้วิมุตติ แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 11:20:55 จากคุณ : megamix100 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 11:11:21

ความคิดเห็นที่ 31 เคยไปยืนอ่าน 7 เดือนบรรลุธรรม ที่ร้าน SE-ED แบบสแกนคร่าวๆ รู้สึกไร้สาระมาก นับแต่นั้นไม่เคยหยิบหนังสือของนายคนนี้ มาลองอ่านอีกเลย ว่างๆ ก็ลองไปที่ Link นี้ดูนะ เผื่อได้เห็นโลกในมุมมองอีกแบบ http://www.antiwimutti.net/forum/index.php?board=1.0 จากคุณ : Seeing เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 11:27:09

ความคิดเห็นที่ 32 เรื่องทำนายกรรมนี่นะ พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ในเรื่องอจินไตย ก็แปลกดีนะ ที่คนเราก็พยายามที่จะหาให้ได้ว่าทำกรรมอย่างนี้แล้วจะได้อะไร.. จากหนังสือ ยถากรรมุตาญาณปฏิบัติแทบตายกว่าจะได้ แต่หาคำตอบได้ที่ร้านหนังสือ??? ผมเคยยืนอ่านหนังสือธรรมะหลายเล่มนะ ในร้านหนังสือนี่แหละ ตอนนั้นกำลังเริ่มศึกษาการปฏิบัติธรรมอยู่นะ ตอนนั้นหนังสือ เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน ดังมาก ผมก็หยิบมาอ่านดูเนื้อหา อ่านสารบัญ เนื้อหา.. แล้วก็วาง... ผมไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรนักหรอกนะครับ ผมรู้แต่ว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้่ช่วยอะไรผมเลย เสียดายเงินที่จะซื้อ จากนั้นมา ผมก็หยิบหนังสือเล่มใหม่ๆของคุณดังตฤณมาอ่านอีกหลายเล่ม เหมือนเดิม อ่านได้ไม่กี่หน้าแล้วก็วาง แล้วก็วาง แล้วก็วาง วางทุกเล่มไว้ที่เดิม เพราะอ่านแล้วไม่ได้อะไร หรือคุ้มกับเงินที่ต้องเสียไป อาจจะเป็นเพราะราคาหนังสือสมัยนี้มันทารุณก็ได้นะ จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 11:31:21

ความคิดเห็นที่ 33 เรื่องกรรมและผลของกรรม. จะ ทราบได้ต้องอาศัยพระสัพพัญุตญาณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พวกเราทราบว่า เมื่อทำกรรมใดจะได้รับผลกรรมอย่างไร ก็อาศัยการศึกษาจากพระไตรปิฎก ดังนั้น ถ้าพระไตรปิฎกไม่บันทึกไว้ ก็น่าแปลกใจว่าข้อมูลเหล่านี้ซึ่งลงไว้ละเอียดทีเดียว ผู้เขียนได้ข้อมูลมาจากที่ใด. หรือว่ามีท่านใดทราบที่มาให้ค้นต่อได้ ช่วยบอกด้วย จะเป็นพระคุณยิ่ง จากคุณ : เอิงเอย เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 11:57:44

ความคิดเห็นที่ 34 ก็คุณดังตฤณ น่ะ  เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าสมาชิก "ชมรมคนนั่งเทียนแห่งประเทศไทย"  เชียวนาครับ สมาชิกชมรมคนนั่งเทียน แห่งประเทศไทย ยกย่องให้แกเป็นผู้สร้า้งชื่อเสียงดีเด่น แก่ชมรม ติดต่อกันนานหลายปีแล้วนะครับ จากคุณ : รถเรณู เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 12:40:13

ความคิดเห็นที่ 35 คำของ megamix100 คือจะบอกว่า แม้จะไม่มีพระพุทธพจน์ ไม่มีในพระไตรปิฎก สิ่งนั้นอาจจะถูกก็ได้ไม่ใช่หรือ การที่ใครพูดอะไรโดยไม่ได้อ้างพุทธพจน์หรือพระไตรปิฎก ไม่ได้หมายความว่าที่พูดนั้นผิด เพียงแค่ "ทำให้ความน่าเชื่อถือดูมีน้อย " เท่านั้นแหละ แต่ที่พูดนั้นอาจจะถูกก็ได้ไม่ใช่หรือ พวกลัทธิปลวก สร้างความเสียหายให้แก่พระศาสนา ก็ใช้ "ตรรกะห้าห่วง" อย่างของนาย megamix100 นี่แหละ !! กระทู้นี้ คุณห้าห่วงนี่ก็หาเรื่องเอง "ตั้งเรื่อง" ขึ้นมาเอง ขอหลักฐานว่าดังตฤณ "มั่ว" ครั้นมีผู้นำหลักฐานมาแสดง เช่น เรื่องกะปู๋ คุณห้าห่วงก็ลอยหน้าบอกว่า "แค่ไม่ได้อ้างพุทธพจน์" เท่านั้นเอง แล้วก็เบี่ยงประเด็นปั้บเลยว่า พออ้างพระไตรปิฎก ก็บอกว่ากอดตะกร้าสามใบ ดังนั้น การที่ท่านดังตฤณไม่อ้างพระไตรปิฎก ซึ่งอาจจะถูกก็ได้ไม่ใช่หรือ ก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ชอบแล้วนี่ แล้วตกลงไอ้พวกกอดตะกร้าหน้าโง จะเอาอะไรกับท่านอีก เอายังไง หาา?!? จากคุณ : ระนาดเอก เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 13:02:48

ความคิดเห็นที่ 36 เคยเห็นผ่านๆ ในเนชั่นสุดสัปดาห์ แต่ลองอ่านดูแล้ว มันแหม่งๆ ขอโทษนะครับ "ออกแนวเพ้อเจ้อ" เลยข้ามที่จะอ่านของคุณดังตฤณไป หลังๆ เห็นไม่มีลงแล้วก็สบายใจ จากคุณ : aramis_s เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 13:04:04

ความคิดเห็นที่ 37 ลักษณะการเขียนของคุณดังตฤณ บางข้อความนำมาจากในพระไตรปิฎก(ซึ่งจริงๆควรจะบอกให้ชัดเจนว่าส่วนนี้มาจากพระไตรปิฎก)  และส่วนที่ไม่ได้มาจากพระไตรปิฎก คือ เสริมแต่งเอาเองตามสิ่งที่ตนเองเข้าใจ (เรียกอัตตโนมติ) โดยความเห็นผม  ผมเห็นด้วยกับทางคุณ smiling-girl ที่บอกว่ามีบางส่วนที่นักเขียนคนดัง  นำข้อมูลที่ไม่มีข้อมูลจากพระไตรปิฎก จริงๆก็เป็นแบบนั้นครับ .... เอาเป็นว่า นี้เป็นเสียงหนึ่งที่เรียกร้องให้นักเขียนคนดัง ได้ทราบนะครับ ถือว่าเป็นการช่วยกันทำให้เกิดสิ่งที่ควรจะทำต่อไป(เช่น เขียนวงเล็บบอกว่า ส่วนนี้ไม่มีในพระไตรปิฎก หรือ ทำอย่างไรก็แล้วแต่เทคนิค  ความเห็นของตนคือความเห็น  ส่วนข้อมูลพระไตรปิฎกว่าอย่างไร  และอรรถกถาขยายความอย่างไร เพราะ หนังสือนักเขียนที่มีการเขียนวิจิตรจะมีผู้อ่านมากและบางครั้งผู้อ่านก็ยังไม่เคยอ่านพระไตรปิฎก).... ...ผมเข้าใจว่า การตอบคำถามบางเรื่องในพระพุทธศาสนา ควรจะเงียบ การไม่ตอบจะดีกว่าการตอบออกไป เช่น เรื่องกรรมเกี่ยวกับอวัยวะเพศ  ฯลฯ .   แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 13:20:38 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 13:18:49 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 13:18:30 จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 13:14:38

ความคิดเห็นที่ 38 เอาลิงก์คำถามและคำตอบที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการทำแท้งมาแปะไว้นะครับ อย่างน้อยการรับฟังคำวิจารณ์ที่พาดพิงถึงบุคคลที่สามจะได้รู้ว่าข้อเท็จจริงนั้นเค้าได้พูดหรือแสดงความเห็นจริงๆไว้อย่างไรครับ ถาม – การที่ทำแท้งแล้วประสบแต่เรื่องร้ายๆในภายหลัง แสดงให้เห็นว่าวิญญาณเด็กตามอาฆาตหรือเปล่าคะ? "ถ้าคิดว่าเป็น ‘แรงอาฆาตของวิบากกรรม’ ก็จะครอบคลุมดีครับ หากวิญญาณอาฆาตมีจริง ความอาฆาตของวิญญาณในที่นี้ก็เกิดจากการที่คุณ ‘ตั้งใจ’ ทำแท้ง แต่ถ้าวิญญาณอาฆาตไม่มีจริง ความเคราะห์ร้ายนานาชนิดก็เป็นการแสดงตัวของวิบากมืดอันเกิดจากการทำแท้งอยู่ดี ตอนเด็กอยู่ในท้อง สภาพจิตจะเหมือนคนตกอยู่ในภวังค์เกือบตลอดเวลา แม้มีความรู้สึกนึกคิดขึ้นมาบ้างก็เหมือนฝันเลอะเลือน เมื่อคุณไม่ให้เขาเกิด เขาก็ไปเกิดใหม่แบบไม่รู้เรื่องรู้ราวตามยถากรรม คือตามแต่แรงกรรมจะซัดส่งให้ไปไหนต่อ อาจไปเข้าท้องคนอีก เพราะไหนๆบุญเก่าส่งมาเข้าท้องคนได้ทีหนึ่งแล้ว ก็พอบอกได้ว่าน่าจะยังมีบุญไปเข้าท้องคนได้อยู่ แต่ถ้าขาดปัจจัยเพียงพอ เช่นจังหวะนั้นๆยังไม่มีท้องที่เหมาะสมกับกรรมเดิม ก็ต้องโต๋เต๋อยู่ในสภาพครึ่งๆกลางๆ เป็นเปรตที่มีสำนึกคิดอ่านคล้ายมนุษย์เด็กไปก่อน จะมีบางกรณีที่ยกเว้น คือเคยเป็นเทพที่หมดบุญ หรือเป็นเปรตชั้นสูงที่มีบุญเก่าพอจะถึงจังหวะโอกาสได้เป็นมนุษย์ หากบวกกับอำนาจความผูกพันกับคุณหรือสามี พวกนี้มีสิทธิ์รู้ล่วงหน้าได้จริง จ้องรอว่าจะเข้าท้องใครได้จริง ฉะนั้นหากหลุดจากท้องไป เขาอาจกลับสู่ความเป็นอะไรที่ใกล้เคียงสภาพเดิมๆ จึงยังจำคุณได้ รู้เจตนาทำแท้งของคุณได้ น้อยใจคุณได้ แล้วก็เข้ามาติดต่อคุณได้เมื่อจิตของคุณเหลือแต่สัมผัสที่ ๖ นั่นคือขณะหลับฝัน ซึ่งสามารถรับคลื่นความสะเทือนจากวิญญาณของเขาได้มากกว่าตอนลืมตาตื่น สำหรับเคราะห์ร้ายหรือเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นหลังจากทำแท้งนั้น ส่วนใหญ่ไม่ใช่การกลั่นแกล้งของวิญญาณหรอกครับ จะเป็นในรูปที่ว่าคุณฆ่ามนุษย์แล้ว พลังบุญของความเป็นมนุษย์ที่ถูกระงับไปนั้น แปรรูปเป็นพลังลงโทษผู้ระงับ คือธรรมชาติจะมีมุมกลับอยู่ อะไรที่ควรเกิดแล้วไม่เกิด ก็ย่อม ‘เกิดเรื่อง’ ขึ้นอีกอย่างหนึ่ง ไม่มีพลังอะไรสูญหายไปเฉยๆ กำเนิดมนุษย์เป็นความสว่าง เมื่อห้ามความสว่างย่อมกลับเป็นความมืด และความมืดนั้นก็ตกอยู่กับผู้ห้ามความสว่างนั่นเอง อันดับต้นๆก็ปรากฏแสดงบนใบหน้าหมองคล้ำและจิตใจหดหู่ซึมเศร้าของหญิงที่ทำแท้งนั่นเอง ทั้งก่อนทำ ขณะทำ และหลังทำ" ที่มา http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2010/03/Y8958314/Y8958314.html อ่านมาไม่เจออย่างที่สมาชิกบางท่านอ้างอิงขึ้นมาตำหนิบอกเลยนะครับ จากคุณ : jhobby เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 13:23:29

ความคิดเห็นที่ 39 เพิ่งจะรู้นะเนี่ย   เพื่อนให้หนังสือมาไม่ได้อ่านเลย  เคยฟังแต่ซีดี จากคุณ : Pig_Rangsit เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 15:30:52

ความคิดเห็นที่ 40 เห้อ///พิจรณากันเอาเองบ้างคะ เรื่องบางเรื่อง ไม่ใช่เอามาหมดทุกคำสอน ไม่ใช่เชื่อทุกเรื่องที่ใครเขาพูดมา มีสติกันบ้างค่ะ พระพุทธเจ้าท่านก็สอนไว้อยู่แล้ว ให้มีสติ ดูสติตัวเอง อันไหนดีก็เอามาใช้ อันไหนไม่ดีก็พิจรณาดัวยปัญญา จากคุณ : gambei (gambei) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 15:31:31

ความคิดเห็นที่ 41 เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน นี่มีเขียนหลายคนเหรอเปล่าค่ะ  จำได้ว่าเคยอ่าน(แต่จำไม่ได้ว่าใครแต่ง)   อ่านจบ... .... เสียดายตัง จิงๆๆ  T T มี 2 เล่ม    อีกเล่มเพ้อเจ้อมาก ขนาดที่ว่าไม่กล้าไปเอาบริจาคเลยทีเดียว(กลัวคนที่เอาไปอ่านต่อ จะรับข้อมูลอะไรผิดๆ)    ....ฮือๆๆๆ  ระลึกความหลังแล้ว   เสียดายตัง จากคุณ : annyfatgirl เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 15:50:16

ความคิดเห็นที่ 42 คุณดังตฤณอาจจะผิดพลาดตรงที่เขียนโดยไม่ได้อ้างอิงพุทธพจน์ หรือพระไตรปิฎก จึงอาจทำให้ความน่าเชื่อถือดูมีน้อย แต่เรื่องกรรม และการให้ผลของกรรม เป็นเรื่องซับซ้อน จะรู้ได้อย่างไรว่าคุณดังตฤณพูดไว้ผิด ในเมื่อมันอาจจะถูกก็ได้ไม่ใช่หรือ ู^ ^ จขกท. เข้าใจคลาดเคลื่อนนะคะ ไม่ใช่เพราะคุณดังตฤณมิได้อ้างอิงพระไตรปิฎก แต่ คุณดังตฤณหยิบนู่นโยงนี่และแต่งความเอาเอง ค่ะ ตอนที่ จขกท. ตั้งกระทู้นั้น ออกอาการง้างเท้ามาแต่ปากซอยเลยนะคะ มาถามหากระทู้ที่ตัวเองไม่เคยอ่าน  ก็มีคนเมตตาทำลิงค์มาให้แล้วใน คคห. ที่ 5 จะไม่แสดงมารยาทขอบคุณพี่นัยนะแกหน่อยหรือคะ ให้กิ๊ฟไปค่ะ 3 เลยค่ะ :-) อาการปลื้มนักเขียนของ จขกท. ออกจะน่าเป็นห่วงนะคะ เพราะคุณเล่นปลื้มขนาดมาบอกว่าสิ่งที่คุณดังตฤณกล่าวโดยองค์พระศาสดามิได้สอนไว้ อาจจะเป็นจริงก็ได้ ==> เริ่มเข้าสู่ "มิจฉาทิฎฐิ" แล้วนะคะ อย่างไรก็ตาม เราเองชื่นชมคุณดังตฤณในฐานะ "นักเขียน" คนหนึ่ง รู้จักแกในผลงาน "กรรมพยากรณ์" ซึ่งเป็นนิยายอิงธรรม โดยมีผู้ทำลิงค์ไว้ในกระทู้ เราก็ตามไปอ่าน อ่านตั้งแต่บ่ายๆ ยันเช้ารวดเดียวไม่นอน อ่านจนจบ .... ชอบหรือไม่ชอบ สิ่งที่ตามมาก็คือ เราซื้อหนังสือของคุณดังตฤณเกือบทุกเล่มล่ะค่ะ (ที่ว่าเกือบเพราะหลังๆ ไม่ได้ซื้อแล้ว) แต่สำหรับเรื่องคำแนะนำทางศาสนานี้ ต้องแยกแยะออกจากกันนะคะ ไม่ใช่ชอบแล้ว จะต้องมืดบอด ชาบูให้นักเขียนกลายเป็นเทวดา อย่างนี้ก็เสียคนแย่สิคะ นักเขียนที่ให้ข้อคิดด้านธรรมะดีๆ ยังมีอีกหลายท่านนะคะ แก้วเก้า ทมยันตี (งานช่วงหลังๆ) ฯลฯ ลองไปหาอ่านดูค่ะ ล้วนให้แง่คิดดีๆ ทั้งสิ้น แต่ท่านๆ ก็ดำรงตนในฐานะ "นักเขียน" มิใช่ "กูรูด้านธรรม" จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 15:54:42

ความคิดเห็นที่ 43 หาก จขกท. จะทำตัวเหมือนพวกแฟนขับดารา ประมาณ "นักเขียนข้า ใครอย่าแตะ" คุณต้องไปลุยที่เว็บเหล่านี้นะคะ http://www.antiwimutti.net/forum/index.php?topic=1729.0 http://larndharma.org/index.php?/topic/1346-%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%81%E0%B8%A2%E0%B8%B0-%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%B0-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AA/ นี่คือผลพ่วงจากการตั้งกระทู้ของคุณ ที่พาเราเข้าไปสู่เว็บเหล่านี้ (ปกติไม่เข้าค่ะ) ในลิงค์นั้น เขามีฉายาให้คุณดังตฤณด้วยค่ะ ....  ตามไปลุยนะคะ :-) จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 16:00:11

ความคิดเห็นที่ 44 ส่วนตัวมองว่าดังตฤณเป็นพวกอรรถประโยชน์นิยม (Utilitarianism) (อรรถประโยชน์นิยมพัฒนามาจากแนวคิดสุขนิยม) คือ ความสุขเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต เป็นสิ่งสุดท้าย เป็นเป้าหมายสุดท้ายที่มนุษย์เราควรไปให้ถึง จากหนังสือ เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน เนื้อหาทั้งเล่มเจาะถึงรูป, ฐานะ, ปัญญาสมบัติทั่วสรรพางค์กายของมนุษย์ว่าทำอย่างไรถึงจะได้มา ใครที่เกิดชาติหน้าอยากจนมีรูปร่างหน้าตาบ้านๆ ธรรมดา แม้ตัวประกอบยังไม่พิจารณายกมือขึ้น!!! ไหนขอนับหน่อยซิว่าจะยกกันให้พรึ่บหรืออ้างว้างวังเวง.....555 คำตอบก็ไม่พ้นให้รักษาศีล 5   http://dungtrin.com/whatapity/05.htm ใครจะมองว่าเป็นกิเลสก็มองไป พวกท่านก็ไปนิพพานกันก่อน คนที่เขาอยู่ระหว่างการเดินทางเขาต้องใช้ร่างกาย ในโลก เกิดมามีกำไรย่อมดีกว่าเกิดมาขาดทุน หรือหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัวก็เช่นเดียวกัน มีคนถามเรื่องเนื้อคู่ ดังตฤณเขาตอบโดยอิงสิ่งที่พระพุทธเจ้า ตรัสแสดงไว้ว่าความรักเกิดขึ้นได้จากเหตุปัจจัยในอดีตและปัจจุบัน พร้อมถึงความเสมอกันในสิ่งที่ควรมี ศีล ฯลฯ http://dungtrin.com/prepare/archieve/prepare064.htm จะเห็นได้ว่าดังตฤณไม่ได้เอาอะไรใหม่ๆมาเสนอเลย เพียงแต่บางอย่างเป็นสิ่งมีอยู่แล้ว รู้อยู่แล้ว แต่นำมาเรียบเรียงโดยผ่านข้อความหรือภาษาที่อ่านแล้วคล้อยตามและดูดี อ่านแล้วมีความรู้สึกอยากทำตาม อ่านแล้วมีใจปราณีตขึ้นในการมอง คิด และกระทำความดีต่อตนเองและผู้อื่น ตรงนี้ก็เป็นกุศลด้านดีของเขา แต่นี่คือทฤษฏีการจูงใจหรือโน้มน้าวใจ (Persuasion Theory) นอกจากจะเอาทฤษฏีการจูงใจมาใช้ แล้วยังผนวกจิตวิทยาเข้าไปอีกด้วย โดยจับประเด็นในสิ่งที่เป็นพื้นฐานของคน คือ กินขี้ ปี้ นอน แล้วแยกย่อยออกมาเป็นรายละเอียดในการไปสู่ขั้นสำเร็จหรือ how to ของข้อนั้นๆ  เป็นการแฝงของการสร้างแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ไปโดยปริยาย ส่วนตัวอ่านของดังตฤณเพียงแค่นี้ เพราะจับประเด็นได้ตั้งแต่หนังสือเสียดายคนตายไม่ได้อ่าน หนังสือของเขาบางเล่มก็พออ่านได้ดังที่ได้ยกมา ส่วนหนังสือแนวบรรลุธรรมก็เป็นไปตามวิจารณญาณของ แต่ละคน แต่โดยส่วนตัวดิฉันไม่อ่านเลย ก็คงเหมือนกับที่ดิฉันชอบอ่านหนังสือของประภัสสร เสวิกุล หรือ อกาธา คริสตี้ ล่ะมั้ง คือ บางเล่มก็อ่านได้ บางเล่มก็อยากเขวี้ยงทิ้งด้วยความเสียดายตังค์ ไม่ได้ต่อว่าดังตฤณไม่ได้หมายความว่าดิฉันเป็นสาวกหรือแฟนคลับของดังตฤณนะ เพียงแต่ว่า อ่าน-เห็น-วิเคราะห์-เข้าใจ มาอย่างไรก็นำมา เขียน-วิพากษ์-แสดงไปอย่างนั้น ไม่ได้ตามน้ำหรือตามกระแส อย่างไรก็ดี ดิฉันก็ชอบในข้อความบางอย่างที่เขาได้แสดงวาทะไว้ คือ อำนาจนัยน์ตาของคนที่รักคุณจริง อาจทำให้คุณสงบลงได้ทั้งที่กำลังวุ่นวายสิ้นดี แต่อำนาจนัยน์ตาของคนที่เอาแต่เรียกร้องให้คุณรัก อาจทำให้คุณวุ่นวายสิ้นดีทั้งที่กำลังสงบอยู่แท้ๆ ล้อเกวียนนั้นเป็นวงกลม ไม่ต่างอะไรกับประเด็นในห้องนี้....ที่ผ่านมา จากคุณ : ning JFK. เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 16:42:07

ความคิดเห็นที่ 45 หลายคนในนี้ตอบคำถามด้วย ตัวหนังสือแนวเสียดสี,,, นี่หรือห้องศาสนา? ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สนใจในพระพุทธศาสนาก็คือคุณดังตฤณครับ,,,  จะถูกจะผิด ก็ต้องสอบทานกันเอา   ส่วนดีๆ  ก็เลือกมอง เลือกนำมาใช้ ส่วนไหนที่ไม่ใช่ทางตรง ก็เลี่ยงๆ เอา : ) "เมื่อใจงาม คุณจะรู้สึกถึงความงามแม้ในสิ่งเลวร้าย แต่หากใจร้าย คุณจะเห็นแค่แง่ร้ายแม้ในสิ่งดีงาม"   ชอบคำนี้จริงๆ ครับ จากคุณ : OnceWakeUp เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 16:44:25

ความคิดเห็นที่ 46 #38 คุณ jhobby อ่านมาไม่เจออย่างที่สมาชิกบางท่านอ้างอิงขึ้นมาตำหนิบอกเลยนะครับ ก็จะไปเจอได้ยังไงล่ะครับ มันมาจากคนละแห่งคนละที่ !! จะอ้างอิงใคร ก็ระบุชื่อเขาตรงๆ ไปเลยก็ได้ ระบุ "ระนาดเอก" ไปเลยตรงๆ ไม่มีปัญหาหรอก แหม จะป๊อดทำไม้!! ไอ้ที่คุณยกมานั้น มันมาจากเว็บ เอามาจากคำถามคำตอบเริ่มจากไหนก็ไม่รู้ แต่เอามาจากเว็บดังตฤณ เฉพาะดังตฤณ แต่ที่ผมเล่าให้ฟังนั้น มันมาจากหนังสือ เป็นหนังสือที่รวบรวมจากหลายคนมารวมกัน มีดังตฤณอยู่ด้วย มีระบุเรื่องอายุขัย 70 ปี อะไรนั่นแหละ ซึ่งก็ไม่แปลก ดูแต่เรื่องกะปู๋เล็กใหญ่นั่น จะเห็นว่ามีสมาชิกยกมาให้ดู ทั้งที่เป็นถามตอบ (คงมาจากเว็บดังตฤณ) และที่ยกมาจากหนังสือ เสียดาย..ไม่ได้อ่าน ที่สำคัญ ตามที่ #38 ยกมาแสดงนั้น ดังตฤณก็แสดงความ "มั่ว" เพ้อเจ้อหนักข้อขึ้นไปอีก เปรตชั้นสูง เทพหมดบุญ มีอำนาจ "รู้ล่วงหน้า" ว่าจะไปเข้าท้องใคร พอไปเข้าท้องคนก็ไม่รับรู้ เพราะเป็นภวังค์ (พี่แกจำขี้ปากคนอื่นมาละเลง นี่ชัดเลยว่าไม่เคยเรียนหนังสือ!!) สิ้นชาติสิ้นภพเมพเปรตไปแล้ว แท้งจากท้องคน กลับมาเป็นเมพเปรตบุญน้อยตามเดิม ก็อาฆาตได้ถูกตัว จำพ่อแม่มันได้เพราะ "รู้ล่วงหน้า" ดักทางไว้แล้ว เป็นตุเป็นตะสนุกจังเลย !? พอดีต้องรีบเผ่น ค่ำๆ ดึกๆ (หวังว่า)มีเวลาจะมาขยายให้ฟังอีกซักหน่อย! _____________________ ( แก้ไข ) คุณ Smiling-girl หลังไมค์มาบอกว่า ตรงที่ว่า ไม่รับรู้ เพราะเป็นภวังค์ (พี่แกจำขี้ปากคนอื่นมาละเลง นี่ชัดเลยว่าไม่เคยเรียนหนังสือ!!) น่าจะตัด ตรงนี้ออก --> พี่แกจำขี้ปากคนอื่นมาละเลง นี่ชัดเลยว่าไม่เคยเรียนหนังสือ!! คุณ Smiling-girl  บอกว่า เดี๋ยวจะโดนฟ้องหมิ่น !! โธ่ ! มันก็แค่สำนวน เหมือนข้างบนนั่นไง ที่ว่า เรียนหนังสือของพระพุทธเจ้า มันไม่ใช่การให้ร้าย ใส่ความ ทำให้ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง แต่เพื่อสนองตอบความหวังดี อ้ะ ผมตัดออกให้ก็ได้ ตกลงเหลือแค่นี้นะ ไม่รับรู้ เพราะเป็นภวังค์ ( ตัด "พี่แกจำขี้ปากคนอื่นมาละเลง นี่ชัดเลยว่าไม่เคยเรียนหนังสือ!!" ออกไป ) :) แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 21:52:31 จากคุณ : ระนาดเอก เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 16:56:59

ความคิดเห็นที่ 47 "เมื่อใจงาม คุณจะรู้สึกถึงความงามแม้ในสิ่งเลวร้าย แต่หากใจร้าย คุณจะเห็นแค่แง่ร้ายแม้ในสิ่งดีงาม" ชอบคำนี้จริงๆ ครับ ครับ ดีงามจังเลย เข้ามาตดสบายท้องแล้วก็ไสหัวไปไกลๆ เลยครับ ที่นี่ห้องศาสนา .. พวกหัววงแหวนอย่างคุณมงน่ะ น่ารำคาญ รู้เปล่า !! จากคุณ : ระนาดเอก เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 17:05:54

ความคิดเห็นที่ 48 เหมือนหลงประเด็นกันยังไงก็ไม่ทราบนะคะ ประเด็นกระทู้นี้มาจาก มีผู้อ้างอิงคำตอบของคุณดังตฤณในเรื่องสวดพระคาถาชินบัญชร ประเด็นกระทู้เริ่มมาจากตรงนั้นนะคะ คุณๆ เจ้าขา ส่วนงานเขียนของคุณดังตฤณดีงามอย่างไร มันก็ต้องมีดีล่ะค่ะ ไม่งั้นจะขายได้มาจนป่านนี้รึ ? หากจะเขียนแนวธรรมะ ก็ต้องอ้างอิงหลักธรรมที่ถูกต้อง นี่เป็น fight บังคับ เป็น a must ค่ะ จะเป็นนักเขียนที่ดีก็ต้องทำการบ้าน ค้นคว้าหาข้อมูล คิดว่าคุณดังตฤณก็คงจะทำเช่นกัน หากจะเขียนประเด็นธรรม ยูก็เอาที่ถูกต้องมา ศีลห้าก็ควรเป็นศีลห้า ไม่ใช่มีห้าข้อจริง แต่กลายเป็น ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ผิดกาม ไม่พูดปด ไม่เที่ยวผับ (ยกตัวอย่างเฉยๆ โอเค๊ ?) เฉกเช่นเดียวกับการแสดงความเห็นด้านธรรมไม่ว่าจะทางตัวอักษรหรือทางคำพูด ก็ควรจะเป็นหลักธรรมที่ถูกต้องเช่นกัน จะพูดเรื่องวิบากรรมก็ให้มันตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า  ไม่ใช่จับโยง แต่งเติมเอาเอง .... จะน่าชื่นชมอนุโมทนากว่าที่เป็นอยู่มั้ยคะ ?? แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 54 17:04:32 จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 17:18:08

ความคิดเห็นที่ 49 #45  เคยฟังเพลงของ "คาราบาว" มั้ยคะ  เสียดสีเยอะเลยนะคะ ขายดิบขายดี คนฟังตรึม คุณเลือกเสพย์สิคะ ในสิ่งที่คุณมองว่าเสียดสีนั้นน่ะ คุณไม่เห็นอะไรมากกว่านั้นเลยหรือคะ และห้องนี้ คือ ห้องศาสนา ถูกต้องค่ะ ไม่ใช่ห้องอริยะหรือโสดาบัน รึหากจะใช่ มันก็เป็นเพียงแค่ "ชื่อของห้อง" นะคะ  ทำนองเดียวกะแบบเนี้ยอ่ะค่ะ ชื่อเล็ก แต่ อ้วน ชื่อสมชาย แต่ เป็นตุ๊ด ชื่อหวาน  แต่  เปรี้ยวเข็ดฟัน ชื่ออลิซเบท แต่ หน้าไท๊ย ไทยย เห็นสมมติของ "ชื่อ" หรือยังคะ :-) จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 17:43:06

ความคิดเห็นที่ 50 เลือกเอาแต่สิ่งที่ดี  ไม่มีอะไรสมบูรณ์ทั้งหมด  แค่อย่าติดยึดกับสมมุติ เออ.....เขาดังเพราะ ชื่อของเขา ถูกโฉลกหรือเปล่า เข้่าท่าดีนะ จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 18:27:03

ความคิดเห็นที่ 51 จาก #15 คุณระนาดเอกเขียนไว้ว่า "ดังตฤณพยากรณ์กรรมไว้ว่า พ่อแม่คู่ใดทำแท้งให้เด็กตาย เด็กนั้น(ทำนองว่าเป็นวิญญาณ) จะพยาบาทพ่อแม่นั้น ไปเป็นเวลานานเท่ากับอายุขัยของเด็กนั้น หากไม่ตายเพราะโดนทำแท้งซะก่อน!!" มานั่งทวนความจำในสิ่งที่ได้เคยผ่านตางานเขียนของคุณดังตฤณมา ก็นึกไม่ออกว่าคุณเค้าเขียนแบบนี้เอาไว้นะครับ เลยไปลองหาใน google ในส่วนที่เกี่ยวข้องกํบเรื่องการทำแท้ง ก็ได้ในข้อความที่ยกมา ที่เห็นว่าควรจะยกมาก็เพราะความคิดเห็นของคุณระนาดเอก ได้ให้ข้อเท็จจริงว่าคุณดังตฤณเขียนไว้อย่างนั้น ถ้าไม่มีการข้อมูลที่มาจากหลักฐานที่มีอยู่จริงมาให้ดู ก็อาจจะทำให้หลายๆท่านที่ผ่านมาอ่านสับสนในข้อเท็จจริงได้ครับ จริงๆคิดว่าจะเป็นธรรมกับคุณดังตฤณที่เป็นบุคคลที่สามนะครับ ถ้าคุณระนาดเอกจะนำหลักฐานมายืนยันข้อความข้างต้น เผื่อว่าหากมีข้อความอย่างนั้นจริง ก็จะได้ดูบริบทของข้อความว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรครับ จากคุณ : jhobby เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 18:35:14

ความคิดเห็นที่ 52 แวะเข้ามาให้กำลังใจ คุณ smilling-girl ครับ ประเด็นของกระทู้ เริ่มมาจาก กระทู้ เรื่อง การสวดชินบัญชร และเจ้าของกระทู้ก็ได้ถามหา กรณีต่างๆ ที่เป็นการแสดงเองของ คุณดังตฤณ ซึ่ง คุณนัยนะ ก็ได้ยกมาแสดงไว้แล้ว ในความเห็นที่ ๕ เรื่องอวัยเพศ ซึ่งก็น่าจะ จบประเด็นตามที่ คุณ megamix100 ได้ตั้งขึ้นไว้แล้วนะครับ ส่วนที่เหลือ ก็คงจะเป็นการแตกประเด็นต่างๆนานๆออกไป เห็นด้วยกับ คุณ smilling-girl ใน #48 ที่ว่า งานเขียน คุณ ดังตฤณ ก็ต้องมีดีอยู่มากมาย คุณ smilling-girl เองก็ได้กล่าวไว้ใน #42 ว่า เป็นผู้หนึงที่ซื้อหนังสือของคุณดังตฤณ เกือบทุกเล่ม ดังนั้นความเห็น คุณ smilling-girl ก็น่าจะปลอดจาก อคติ ในระดับหนึ่ง ส่วนในกรณี ที่กล่าวถึง การสวดชินบัญชร ในกรณี ดิสเครดิตว่า เป็นไปในทางเดียวกับลัทธิที่นิยมมนต์กฤตยาอาถรรพณ์ อันนี้ผมเห็นว่าเป็นส่วนที่ไม่สมควร และอาจสุ่มเสี่ยงต่อ การล่วงเกินต่อ สมเด็จโต ได้ และในกรณีที่กล่าวถึงเรื่อง อวัยเพศ จาก ลิ้ง ใน ความเห็นที่ ๕ ก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควรแสดงเลย เพราะ เป็นธรรมที่ทำให้เกิดความปรารถมาก ไม่ใช่เป็นธรรมที่ทำให้เกิดความปรารถน้อย คลายกำหนัด สละวางจากความยึดมั่น ถึงแม้จะมีผู้ถามเข้ามาจริง ในกรณีคำถามแปลกๆอย่างนี้ ก็อาจจะตอบไปสั้นๆว่า เรื่องกรรมเป็นเรื่องอจินไตย ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ และก็ยังนับถือในส่วนคุณความดีต่างๆ ที่คุณดังตฤณ ได้ทำไว้เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ศึกษาต่างๆ ชี้นำให้คนเข้าในเรื่องวิบากแห่งกรรมว่ามีจริง แม้จะมีที่ผมไม่เห็นด้วยในบางเรื่อง (ส่วนดีก็ส่วนดี ส่วนไม่ดีก็ส่วนไม่ดี แยกเป็นกรณีๆไป) จากคุณ : ชาวมหาวิหาร เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 19:12:33

ความคิดเห็นที่ 53 เราอ่านงานเขียนของคุณดังตฤณมาไม่มากนัก ถ้าความเห็นผิดไปก็ขออภัยด้วยนะคะ คือเป็นความเข้าใจของเราเอง ว่าจุดประสงค์ของคุณดังตฤณในการเขียนหนังสือนั้น ก็เพียงแค่จะใช้งานประพันธ์จุดประกายให้คนสนใจธรรมะในวงกว้าง.. เป็นไปในลักษณะบันเทิงธรรม..รึเปล่านะ ? คือจุดประกายให้คนสนใจเรื่องราวจากข้อเขียนนั้นก่อน แล้วจึงดึงสู่เป้าหมายหลัก  คือความสนใจแนวทางพุทธศาสนา ซึ่งผู้สนใจจะต้องไปขวนขวายศึกษาต่อไปเอง.. มิใช่ให้ผู้อ่านศึกษาและเชื่อจากข้อเขียนนั้นโดยตรง สำหรับเรา  เราสนใจพุทธศาสนาอยู่ก่อนแล้ว  จึงมาอ่านโดยบังเอิญ.. ซึ่งก็ไม่มีผลต่อเราในทางลบแต่ประการใด และเราก็เลือกอ่านแต่ประเภทนวนิยายในยามต้องการผ่อนคลาย   ซึ่งก็ได้ความเพลิดเพลินมาตามที่ต้องการ   แถมด้วยแง่คิดดีๆ  ที่ไม่ออกนอกลู่นอกทางของเราจนหลงไปไกลนัก จึงเห็นว่าในโลกที่เราพากันเกิดมาเป็นเพื่อนร่วมทุกข์กันอยู่นี้ ก็ย่อมมีทั้งสิ่งที่ถูกและไม่ถูกจริตให้เราพบมากมาย ถ้าเป็นคุณก็รับไว้  ถ้าไม่ใช่ก็ผ่านเลยไปเสีย   แบบนี้น่าจะเบาสบายมากกว่ามั้ยคะ งานเขียนของคุณดังตฤณฉบับที่เราไม่รู้สึกสนใจที่จะอ่าน เราจึงเลือกที่จะข้ามไป  เพื่อสิ่งที่ใช่สำหรับเรามากกว่า ขอเรียนด้วยความเคารพอีกครั้งว่า..เราเป็นผู้รู้น้อยนัก ความเห็นของเราอาจผิด  หรือแม้แต่กระทบใจใครให้ขุ่นได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น  ก็ต้องขออภัยอย่างยิ่ง จากคุณ : มาดิน เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 20:54:12

ความคิดเห็นที่ 54 ผมคิดเหมือนท่านนี้ครับ อ้างจาก orchid สำหรับตัวเอง เมื่อก่อนนักเขียนคนนี้คือโสดาบัน XXเขียนอะไรเชื่อหมด แต่พอมีบทความกล้องเกอร์เลี่ยนออกมา http://www.dlitemag.com/index.php?option=com_content&view=article&id=287:2010-02-22-07-19-09&catid=34:lite-talk&Itemid=59 เป็น บทความที่สร้างความเชื่อติงต๊องปัญญาอ่อน ใส่ร้ายลูกประคำที่หลวงปู่ฟักปลุกเสกว่ามีคุณไสย ใครที่เปลี่ยนใจเลิกนับถือพระปราโมทย์คือโดนคุณไสย ทำให้เกิดความสงสัยในตัวนักเขียนผู้นี้ เกิดการค้นหาความจริง และในที่สุดก็รู้ว่าตัวเองโง่โดนแก๊งค์ค้าXXXต้มเปื่อยมาหลายปี  XXXXนี้ก็ไม่แตกต่างไปจากแม่ชีโมบายหอย เพียงแต่เนียนกว่า ฉลาดกว่า ศึกษามากกว่า เก่งด้านจิตวิทยาและมีวาทศิลป์เริ่ดกว่า เขาจะไม่ทำอะไรโง่ๆ อย่างแนะนำให้ไปเอากับหนุ่มอายุน้อยกว่า 2 ที หรือแขวนโมบายหอย  กรรมจะได้ไปตกที่โมบายไม่ตกกับหอยคนถาม  XXXก็แค่โซดาปั่นภาวนาไม่เป็น ขี้โกหกเหมือนXXXที่เคยพยากรณ์ให้มัน แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 22:14:38 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 22:13:49 จากคุณ : Skytrain9 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 22:09:17

ความคิดเห็นที่ 55 เข้ามาเตือน ให้สบายใจว่า "ใครต่อใคร" ก็เป็น "คนในจิตเรา" นะครับ ตามหลัก ขันธ์ นะ จากคุณ : เตือนซื่อๆจ้า (ART_TRA_MAN) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 22:23:16

ความคิดเห็นที่ 56 หนังสือที่ว่านั้น ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชื่ออะไร? เห็นเกี่ยวกับการทำแท้ง หยิบขึ้นมาดู เผอิญเจอดังตฤณ แต่อ่านแล้วก็วางโดยไม่แยแสที่จะดูกระทั่งปกหน้าเลย แล้ว จะให้ไปหาหนังสือเวรกรรมนั่นจากที่ไหนดี.. ในความทรงจำ มันไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือนี้เลย นอกจากไอ้ปกหลังที่จำได้ไม่ลืม ก็เป็นตามที่เล่าไว้เรื่องอายุขัย 70 ปีนั่นแหละ ทำไมถึงจำข้อความปกหลังหนังสือนี้ได้ ? ก็เพราะอ่านแล้วมันรู้สึก รู้สึกจนจำได้ไม่ลืม ยังเก็บเอาไปเล่าให้พรรคพวกฟัง เล่าต่อจากอีกเรื่อง ที่เคยอ่านคอลัมน์ตอบปัญหาของดังตฤณใน เนชั่นสุดฯ ที่ดังตฤณว่า "โมหะมีลักษณะเหมือนหมอกมัวๆ" พรรคพวกส่ายหน้ากันทั้งวง ส่ายหน้าด้วยความรู้สึกในใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน .. สังเวช ! อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุด เร็วที่สุด ง่ายที่สุด ที่จะหาหลักฐานการพูดของดังตฤณ.. คือถามดังตฤณ ถามว่าเคยพูดเคยเขียนไอ้เรื่องทำแท้งกับอายุขัยเด็ก 70 อะไรนั่นไหม ถ้าดังตฤณปฏิเสธ หรือแม้แต่บอกว่า "จำไม่ได้" ! ผมจะไปหาหนังสือนั่นมาให้ดูกันชัดๆ อย่างน้อย การค้นหาหนังสือ ซึ่งเ็ป็นเรื่องไร้สาระเหมือนคนบ้า ก็ยังจะมีประโยชน์กับดังตฤณ ถ้ายังกล้าปฏิเสธออกมาได้เต็มปาก .. เขาจะได้รู้ตัวว่า "กำมะลอ" คืออะไร จะได้ตื่นเสียที นั่นคือสิ่งที่เพื่อนคนหนึ่งจะ "ช่วย" เพื่อนได้ จากคุณ : ระนาดเอก เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 22:36:53

ความคิดเห็นที่ 57 มาให้กำลังใจคุณ Smiling-Girl ครับ ที่อาจหาญ ไปกระเทือนซาง นักเขียนยอดนิยม ผู้มีแฟนคลับ ไม่น้อยเลย ถึงแม้จะยังไม่สามารถเทียบเท่ายันตระ ไม่สามารถเทียบเท่า ต้นกล้วยพะยานาค ไม่สามารถเทียบเท่า หมอน้อยเทวดา ก็ตาม (หากนับรายหัวแฟนคลับแข่งกัน)  แต่นาย "ดั่งยอดหญ้า" คนนี้ก็ มีแฟนเยอะมาก  ไปกระทบเข้า ก็เดือดร้อนกันไปตามฐานานุรูป แหล่ะครับ ก็คงจะพอสรุปได้ว่า ยังมีคนที่เห็นว่า นายยอดหญ้า ดังตฤณ นั้น ยังไม่ใช่ของจริงแท้แน่นอน ยังเป็นของเก๊ ที่มีวางขายเกลื่อนตลาดนัดอยู่น่ะ  ขนาดปู่ระนาดเอก ผู้คร่ำหวอดในห้องศาสนามา นานนนนนนนนนนนน....(แทบจะก่อนใคร ๆ ในห้องศาสนานี้แล้วม้าง) ยังโผล่พรวดขึ้นมาช่วยยืนยันน่ะ   ว่าแต่ว่า ปู่ระนาด ก็อย่าใส่อารมณ์ ให้มันมากขนาดนั้นเล๊ย  เดี๋ยวจะเป็นลม เป็นแล้งเอานาครับปู่ ปกติ คนอายุราว ๆ ครึ่งร้อยแล้ว ก็ควรจะเพลา ๆ เรื่องอารมณ์มุทะลุลงได้บ้างแล้ว นาครับ...  ผมก็ช่วยเข้ามาแสดงความเห็นยืนยันว่า แนวทางของนายยอดหญ้า ดังตฤณ นั้น ผมอ่านแล้ว ไม่เคยถูกโฉลก ไม่เคยรู้สึกว่า จะโฉมเฉลา หรือเฉลียวฉลาดอะไรเลยนะ ก็แค่คนมีอารมณ์ศิลปิน เคลิ้ม ๆ ไปกับหนังสือที่แกอ่านมามาก ๆ แล้วจับโน่นนิด นี่หน่อย เอามาเขียน ๆ ไป ขาย ๆ ไป คนไทยเรา ชอบอ่านหนังสือแนวประโลมโลกย์ ครับ  อย่าคิดมาก จากคุณ : รถเรณู เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 23:24:40

ความคิดเห็นที่ 58 เอ้...   !!! ???   ลูกศิษย์คุณดังตฤณใครสักคนช่วยไปถามให้หน่อย  ให้ช่วยอธิบายว่า  ทำไมกะปู๊ ของพวกนิโกร  ถึงใหญ่ยาวขนาดนั้น  พวกมันไปทำกรรมอะไรมา ? อยากได้ยังงั้นบ้างวุ๊ยย !!! ...     จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 23:52:11

ความคิดเห็นที่ 59 ทีนี้ก็มาส่อง ข้อความ ใน #38 กัน จะเห็นว่า วิธีเขียน "อย่างดังตฤณ" นั้น เป็นอย่างที่เรียกว่า จับแก๊ะชนแผะ !! (ไม่มีกระทั่งแพะกับแกะ) ลองยกมาดูกันทีละท่อน "ตอนเด็กอยู่ในท้อง สภาพจิตจะเหมือนคนตกอยู่ในภวังค์เกือบตลอดเวลา แม้มีความรู้สึกนึกคิดขึ้นมาบ้างก็เหมือนฝันเลอะเลือน เมื่อคุณไม่ให้เขาเกิด เขาก็ไปเกิดใหม่แบบไม่รู้เรื่องรู้ราวตามยถากรรม คือตามแต่แรงกรรมจะซัดส่งให้ไปไหนต่อ อาจไปเข้าท้องคนอีก เพราะไหนๆบุญเก่าส่งมาเข้าท้องคนได้ทีหนึ่งแล้ว ก็พอบอกได้ว่าน่าจะยังมีบุญไปเข้าท้องคนได้อยู่ แต่ถ้าขาดปัจจัยเพียงพอ เช่นจังหวะนั้นๆยังไม่มีท้องที่เหมาะสมกับกรรมเดิม ก็ต้องโต๋เต๋อยู่ในสภาพครึ่งๆกลางๆ เป็นเปรตที่มีสำนึกคิดอ่านคล้ายมนุษย์เด็กไปก่อน" การตายในลักษณะโดนแท้ง มันก็คือการถูกฆ่านั่นแหละ คน(หรือสัตว์)ที่ถูกฆ่านั้น แทบร้อยทั้งร้อย กลับบ้านเก่า (นรก!) เพราะกรรมที่เป็นเบื้องหลังของการโดนฆ่า ก็คือฆ่าเขา ปาณาติบาตเป็นกรรมที่เข้มข้น ต้องใช้เจตนาแรง แทบทั้งนั้นก็จะเห็นสัตว์ที่ตนฆ่าแสดงความตายต่อหน้า มันก็ติดประทับ ท่านเรียกว่า "เก็บกรรมลงภวังค์" ครั้นเมื่อเหตุปัจจัยสบเหมาะกัน ผู้เคยฆ่าเขา ก็จะโดนฆ่าบ้าง และกรรมที่เสพเหตุการณ์ "ส่งผู้อื่นกลับบ้านเก่า" นั่นเอง จะมาให้ผลเมื่อตนโดนฆ่าด้วย จึงว่า ร้อยแทบทั้งร้อยของผู้ถูกฆ่า จะกลับบ้านเก่า คือกรรมที่ฆ่าสัตว์ ได้กระทำจนเห็นสัตว์ตายต่อหน้าคามือตน จะมาเป็น กรรมนิมิต คตินิมิต นำสู่ภพใหม่ ก็บ้านเก่านั่นแหละ ทีนี้ ทฤษฎีดังตฤณ ว่า เด็กที่ถูกทำแท้งนั้น มันแค่ "ยังไม่มีจังหวะจะไปเข้าท้องคน" ก็เลยต้องเป็นวิญญาณเด็กล่องลอยโต๋เต๋ไป ! แถมอธิบายทำนองว่า บุญเก่าส่งให้มาเกิดเป็นคนทีนึง แต่เมื่อส่งมาแล้วปรากฏว่าฟาวล์ บุญนั้นก็เท่ากับยังไม่ได้ใช้ จึงรีสตาร์ตใหม่ได้ ! ทัศนะอย่างนี้สะท้อนให้เห็นว่า ผู้พูดไม่มีความรู้ในเรื่องสภาวธรรม เรื่องกรรมและการให้ผลของกรรม! ไม่เคยศึกษากลไกการเกิดการตายของสัตว์ จึงไม่เข้าใจว่าจิตใจทำงานกันอย่างไร?! เปรียบเทียบกับคนได้ฌาน เท่ากับสร้างกรรมจะส่งไปเกิดเป็นพรหม เมื่อตายจากมนุษย์ ถ้าตายแล้ว ไม่เกิดเป็นพรหม .. เช่น อธิษฐานไปกามภูมิ(มนุษย์, เทวดา ฯ), หรือไปทำกรรมหนัก ลงนรกซะก่อน อย่างเช่นพระเทวทัตได้ฌาน ตามหลักการต้องได้เป็นพรหม แต่ต้องลงอเวจีด้วยอนันตริยกรรม 2 ข้อ กรรมที่ได้ฌานเป็น "กรรมนำเกิด" นั้น ก็ต้องเป็นอัน โมฆะ คือจบ! ท่านเรียกว่า "กรรมที่ให้ผลในปฏิสนธิกาล" เมื่อพ้นปฏิสนธิกาลไปแล้ว กรรมนั้นก็หมดอำนาจ หมดหน้าที่ กรรมที่จะส่งผลให้พระเทวทัตได้เป็นพรหม ก็เป็นอันโมฆะ เพราะปฏิสนธิกาลได้ผ่านพ้นไปแล้ว คือปฏิสนธิในอเวจีแล้ว! เมื่อพระเทวทัตพ้นจากนรกขึ้นมาแล้ว อยากจะไปเป็นพรหม ก็ต้องทำฌานกันใหม่ จะมาอ้างว่า มีบุญเก่าส่งให้ไปเกิดเป็นพรหมได้ และบุญนั้นยังไม่ทันได้ใช้ - อ้างไม่ได้! สรุปว่า บุคคลได้ฌาน แต่ไม่เกิดเป็นพรหม ไปเกิดในภูมิอื่น ทีนี้ถ้าจะไปสู่พรหม ก็ต้องเริ่มกันใหม่ ทำฌานกันในภพใหม่นั้นแหละจนได้ฌานเพื่อให้เกิด "กรรมที่จะให้ผลในปฏิสนธิกาล" วาระใหม่! ไม่ใช่ว่า ไหนๆ บุญเก่า (คือการได้ฌาน) ก็จะส่งไปเกิดเป็นพรหมแล้ว ก็พอบอกได้ว่าน่าจะยังมีบุญไปเข้าท้องคน เอ๊ย ไปเกิดเป็นพรหมได้อยู่ แต่ถ้าขาดปัจจัยเพียงพอ เช่น จังหวะนั้นๆ ยังไม่มีท้องที่เหมาะสมกับกรรมเดิม ! เอ๊ย ไม่ใช่ (ตูละสับสนชิบ..) .. เช่น จังหวะนั้นๆ พิศมัยจะไปเกิดเป็นเทวดาชั้นดาวดึงส์ พอไปดาวดึงส์แล้ว อุปถัมภกกรรมไม่ดี ไม่มีอะไรหล่อเลี้ยง เลยตาย ( ดู เรื่องเทวดาอดีตเศรษฐีขี้เหนียว แกจะตายตกนรก แต่เศรษฐีนั้นจับอารมณ์ระลึกถึงพระพุทธเจ้าแล้วขาดใจตาย เกิดในชั้นดาวดึงส์แป๊บนึง เทวดามาเตือนให้จุติ เพราะอดีตเศรษฐีไม่เคยทำบุญสุนทานอะไรเลย ไม่มีบุญจะกินจะใช้ ฯลฯ ฯลฯ ) อย่างนี้ก็เท่ากับ "บุญเก่า" (คือการได้ฌาน) ที่จะส่งไปเกิดเป็นพรหมแล้วยังไม่ทันได้ใช้ ก็เลยรีสตาร์ตใหม่ได้ ตายจากเทวดา ก็ไปเป็นพรหมต่อเลย ?! แต่เผอิญถ้าขาดปัจจัยเพียงพอ เช่นจังหวะนั้นๆ ยังไม่มีรูปภพ(พรหม)ที่เหมาะสมกับกรรมเดิม ก็ต้องโต๋เต๋อยู่ในสภาพครึ่งๆ กลางๆ เป็นโอปปาติกะที่มีสำนึกคิดอ่านคล้ายพรหม !! ไอ้อย่างนี้ เรียกว่า "Ma Hngek Theorem" !! จากคุณ : ระนาดเอก เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 00:02:11

ความคิดเห็นที่ 60 รถเรณู #57 พ่องเป็นลูกผมตั้งแต่เมื่อไหร่วะ จำไม่ได้เลย จากคุณ : ระนาดเอก เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 10:22:27

ความคิดเห็นที่ 61 อ่านแล้วขำกลิ้ง  เลยเข้ามาแซวคุณโขตาน  เคยเห็นกะปู๋ของนิโกรด้วยหรือครับ ฮิฮิฮิ แล้วที่ว่าใหญ่ยาว เท่าของรัสปูตินอ่ะป่าว (12 นิ้วแน่ะ) HAHAHA จากคุณ : ธุวัง มรณัง (คุณหมูน้อยตัวขาว) เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 10:26:32

ความคิดเห็นที่ 62 พี่โขตานเอ๊ยยยย  อย่าลืมเพียรสร้างบุญบารมีให้ได้เกิดเป็น "มนุษย์" ด้วยล่ะ หากไอ้ที่อยากได้ใน #58  สัมฤทธิ์ผล แต่ดั๊นนน เกิดเป็นมด เป็นปลวก เป็นยุง จะเดินไม่ไหว คลานไม่ไหว บินไม่ไหว กันเลยทีเดียวนะเจ้าคะ พาให้ข้าพเจ้านึกถึงบุรุษที่ท่านพระมหาโมคคัลลานะพบที่ภูเขาคิชฌกูฏในอัณฑภารีสูตรอ่ะค่ะ   จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 10:57:01

ความคิดเห็นที่ 63 Ma Hngek Theorem  เป็นยังไงเหรอคะ (หาในดิกไม่เจอ) จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 10:59:15

ความคิดเห็นที่ 64 ทฤษฎีมะเหงก ไงครับ :D ทฤษฎีประหลาดๆที่ประกาศออกมา แล้วเจอคำว่า มะเหงกแน่ะ ไม่ใช่ยูเรก้านะครับ คือทฤษฎีมะเหงกนั่นเอง จากนกฮูกไซโคมีเดีย จากคุณ : JitZungkabuai เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 11:14:32

ความคิดเห็นที่ 65 เวียนเฮดด จากคุณ : เม็ดทรายสีฟ้า เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 11:24:23

ความคิดเห็นที่ 66 ผ่านตากับผลงานของคุณดังตฤณมาบ้าง เปิดดูตามร้านหนังสือแล้วก็วางไว้อย่างนั้น แต่ที่ซื้อเป็นหนังสือของท่านอื่นที่เขียนขึ้นจากพระไตรปิฏกเป็นหลัก ที่ผ่านมาและทุกวันนี้ กับผลงานของดังตฤณก็ถืออุเบกขา :) จากคุณ : ทุกวินาที เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 11:26:42

ความคิดเห็นที่ 67 มะเหงก   กร๊ากกก  พาซื่อไปเปิดดิกซะงั้นตรู   ขอบคุณท่านจิตค่ะ ^^ แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 54 11:29:37 จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 11:29:11

ความคิดเห็นที่ 68 อิอิ  อยากได้ใหญ่ๆไม่ต้องรอชาติหน้าคร๊าบ ไปหายุงที่มีโรคเท้าช้างให้มันกัดสักจึ๊กโลด รับรองว่า พาดบ่าเดินแน่นอน 5 5 5 จากคุณ : NotUndo เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 11:37:07

ความคิดเห็นที่ 69 เห็นกระทู้แนะนำในห้องศาสนาก็ตกใจ นึกว่าเป็น Season of the witch!!! จากคุณ : kekzo เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 11:53:55

ความคิดเห็นที่ 70 อ่าน #59 คุณระนาดเอกคิดว่าที่ถูกต้องเป็นไปตาม คคห.ที่ 59 ใช่ไหมครับ? จากคุณ : jhobby เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 11:54:51

ความคิดเห็นที่ 71 it might be this one, guy  ==>  " Season of the Jerk !!! " จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 11:58:44

ความคิดเห็นที่ 74 ถ้าคุณศึกษาพระธรรมจะเข้าใจนะคะว่า กรรมที่เกิดเป็นหญิงนี่เกิดจากกรรมกาเมสุมิจฉา ค่ะ เพราะบรรพชาอุปสมบทเป็นสมณพระสงค์ไม่ได้ แต่ข้อดีของการเกิดเป็นหญิงคือ ไม่หลงลงกามโลกีย์ค่ะ บางคนอาจจะขออธิษฐานให้ได้เป็นหญิงก็แล้วแต่ความพอใจในเพศ แต่จริง ๆ แล้วเพราะบุญที่อาศัยร่างให้เกิดไม่พอค่ะ คิดดูนะคะทำไมต้องให้มีประจำเดือนให้เกิดความรำคาญเหนอะหนะตลอดก็เพราะทำให้เกิดมาเป็นแบบนี้ค่ะ คนเกิดเป็นตุ๊ด เกย์ ทอม เลสเบี้ยน นี่ก็เกิดจากกรรมกาเมนะคะ ไปศึกษาดูค่ะแล้วจะรู้และเข้าใจ กรรมอะไรที่เราทำกันไว้ในโลก เค้าจะสร้างสรรค์ปั้นแต่งให้มีร่างแบบนั้นขึ้นมาให้เราได้ไปสถิตย์อยู่ค่ะ เคยได้ยินเรื่องคนที่มีสองเพศในร่างเดียวหรือเปล่าคะ อย่างอวัยวะเพศสองอย่างทั้ง ญ และช น่ะค่ะ พวกนี้จะแก้เรื่องเพศบริสุทธิ์ต้งทำโดยถือพรหมจรรย์ค่ะ แล้วจะได้เพศบริสุทธิ์ ทีนี้จะบวชพระ หรือ ชี ได้ก็แล้วแต่แรงกรรมแล้วค่ะ เท่าที่เคยอ่านจากอรรถกถา กว่าจะได้เป็นหญิงดีในเจ็ดชาติสุดท้าย ชาติถัดไปเกิดเป็นชาย ก่อนหน้านั้นถ้าทำกรรมกาเมไว้มาก ๆ ต้องเกิดเป็นหญิงโสเภณี ห้าร้อยชาติค่ะ จากคุณ : anumotanasatu เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 14:52:11

ความคิดเห็นที่ 75 หญิงหรือชายศึกษาธรรมะ บรรลุธรรมได้เหมือนกัน เพศหญิงสำคัญมากต่อพระพุทธศาสนา หากไม่มีเพศหญิงที่มีจิตเป็นกุศล โลกนี้ก็ไม่มีพระพุทธเจ้า ไม่มีพระพุทธศาสนา เกิดมาแล้ว หญิงชายไม่สำคัญ อยู่กับปัจจุบัน ทำปัจจุบันให้ดี นี่จึงสำคัญ จากคุณ : ทุกวินาที เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 17:15:07

ความคิดเห็นที่ 76 ความคิดเห็นที่ 74     ถ้าคุณศึกษาพระธรรมจะเข้าใจนะคะว่า กรรมที่เกิดเป็นหญิงนี่เกิดจากกรรมกาเมสุมิจฉา ค่ะ เพราะบรรพชาอุปสมบทเป็นสมณพระสงค์ไม่ได้ ไม่เห็นด้วยครับ ผู้หญิง บวชได้ครับ บวชเป็นภิกษุณี สิครับ เพียงแต่ว่าในสมัยนึงประเทศไทยขาดช่วงของภิกษุณี ทางเถรวาทเลยไม่ยอมรับให้มีภิกษุณีในประเทศนี้ ดังนั้น ถ้าไม่สนเรื่องนิกายยังบวชได้อยู่ครับ เห็นแถวนครปฐม มีวัดของภิกษุณีอยู่นี่ครับ ชื่อวัตรทรงธรรม ถ้าจำไม่ผิด จากคุณ : สระนาฬิเกร์ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 19:48:34

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณคำแนะนำของบรรดาเกจิฯกะปู๊ ทั้งหลาย  ...  แน่ใจนะว่าถ้าทำตามนั้นแล้ว มันจะไม่เน่าเฟะไปซะก่อน   ฮือๆๆ....  ขอแค่ ๙ นิ้วพอแล้วละ   ฮ่า... สมัยเด็กๆ  พวกเพื่อนเด็กๆมักจะบอกกันว่า เอาไปแหย่รังมดแดง ให้มดแดงรุมกัน  แล้วจะได้ของดีใหญ่เบ้อเริ่ม   ว๊าววว... ใครช่วยไปทดลองวิธีนี้ดูหน่อย  ได้ผลประเมินออกมายังไง  ก็อย่าลืมเอามาบอกเล่ากันเด้อออ...       จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 20:15:50

ความคิดเห็นที่ 78 ความ"..." ของดังตฤณ นี่เปรียบเหมือนภูเขาน้ำแข็ง ที่เห็นมั่วๆอย่างนี้ ทั้งหนังสือช่วงหลังๆ ฯลฯ ก็ยังเป็นเหมือนแค่ยอดน้ำแข็งที่โผล่พ้นน้ำ ถ้ารู้เรื่องราวจริงๆแล้ว อาจจะอึ้ง ในพฤติกรรมของนักเขียนรายนี้ (กับแก๊งค์) ชนิดว่า สาธยายกันแทบไม่จบไม่สิ้นทีเดียว! เช่น อวดอ้างตนเป็นผู้มีญาณวิเศษต่างๆ ชนิดไม่ไว้หน้าพระศาสดา ต้องกล่าวว่า เขาเป็นนักประพันธ์ นัก"แต่ง" ...มิใช่เป็นผู้ทรงธรรมแต่อย่างใด เพียงแต่ว่า "กลุ่มนี้" เขามีชั้นเชิง รู้ใช้วาทศิลป์ ฉลาดกว่ารายอื่นๆทั่วไป ก็เท่านั้น... แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 54 20:54:50 จากคุณ : EvaAngelion เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 20:43:07

ความคิดเห็นที่ 79 #58  คุณพระ!!!!! จากคุณ : Pig_Rangsit เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 20:55:10

ความคิดเห็นที่ 80 ด. & friend ตั้งต้นพยากรณ์ต่างๆนานา... แต่พระศาสดาเอง ก็ได้ทรงพยากรณ์ถึงคนประเภทนี้ เตือนไว้แล้ว ขอท่านผู้มีปัญญาโปรดพิจารณาให้ดีเถิด อย่าได้หลงไปในสำนวนคารมอันสละสลวย ที่เป็นเพียงฉากหน้า พุทธพจน์ต่อไปนี้ (แม้ยังอาจใช้นิยามพวกเขาได้ไม่เพียงพอ) แต่ก็ตรงเป็นอย่างยิ่ง :-             อีกประการหนึ่ง ในอนาคต ภิกษุทั้งหลายจักไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่ อบรมปัญญา พระสูตรต่างๆ ที่ตถาคตได้ภาษิตไว้ เป็นสูตรลึกซึ้ง มีอรรถลึกซึ้ง เป็นโลกุตระ ประกอบด้วยสุญญตาธรรม เมื่อพระสูตรเหล่านั้นอันบุคคลแสดงอยู่ ก็จักไม่ฟังด้วยดี จักไม่เงี่ยโสตลงสดับ จักไม่ตั้งจิตเพื่อรู้ จักไม่ใฝ่ใจในธรรม เหล่านั้นว่าควรศึกษาเล่าเรียน     แต่ว่าสูตรต่างๆ ที่นักกวีแต่งไว้ ประพันธ์เป็นบทกวี มีอักษรสละสลวย มีพยัญชนะสละสลวย เป็นพาหิรกถา เป็นสาวกภาษิต เมื่อพระสูตรเหล่านั้น อันบุคคลแสดงอยู่ ก็จักฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักตั้งจิตเพื่อรู้ จักฝักใฝ่ใจในธรรมเหล่านั้นว่าควรศึกษาเล่าเรียน เพราะเหตุดังนี้ แล การลบล้างวินัยย่อมมีเพราะการลบล้างธรรม การลบล้างธรรมย่อมมีเพราะการ ลบล้างวินัย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคตข้อที่ ๔ นี้ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยข้อนี้อันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้ว พึง พยายามเพื่อละภัยนั้น ฯ http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=22&A=2397&Z=2459 จากคุณ : EvaAngelion เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 20:59:14

ความคิดเห็นที่ 81 กร๊ากกกกกกกกกกกก   @  79       5555555 กิ๊ฟหมดอ่ะ   555555555 แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 54 21:09:41 จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 21:01:45

ความคิดเห็นที่ 82 หนูยิ้ม  .....เริ่..........ด จากคุณ : Pig_Rangsit เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 21:14:39

ความคิดเห็นที่ 83 คุณ Pig_Rangsit  ฮามากค่ะ คหที่ #79 จากคุณ : เนตังมม (เนตังมม) เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 22:17:24

ความคิดเห็นที่ 84 ตกลงเปลี่ยนประเด็นไปซะแร้ว เอิ๊ก ๆ ๆ จากคุณ : รถเรณู เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 01:05:05

ความคิดเห็นที่ 85 อย่าประมาทครับ เรื่องที่ไม่ได้ปรากฏในพระไตรปิฎก อาจไม่ใช่ไม่มีครับ ขอยกตัวอย่างเรื่องนี้ครับ --------------- เรื่องอัฏฐิสังขลิกเปรต              [๒๙๕] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันวิหาร อันเป็น สถานที่พระราชทานเหยื่อแก่กระแต เขตพระนครราชคฤห์ ครั้งนั้น ท่านพระลักขณะกับท่านพระ มหาโมคคัลลานะอยู่ ณ คิชฌกูฏบรรพต ครั้นเวลาเช้า ท่านพระมหาโมคคัลลานะครองอันตรวาสก แล้ว ถือบาตรจีวรเข้าไปหาท่านพระลักขณะจนถึงที่อยู่ ครั้นแล้วได้กล่าวคำนี้กะท่านพระลักขณะ ว่า อาวุโส ลักขณะมาเถิด เราจะเข้าไปบิณฑบาตยังกรุงราชคฤห์ด้วยกัน ท่านพระลักขณะรับคำ ท่านมหาโมคคัลลานะว่า ได้ อาวุโส              ขณะที่ท่านพระมหาโมคคัลลานะ กำลังลงจากคิชฌกูฏบรรพตนั้น ได้แย้มให้ปรากฏ ณ ประเทศแห่งหนึ่ง จึงท่านพระลักขณะได้ถามท่านพระมหาโมคคัลลานะว่า อาวุโส มหาโมคคัลลานะ อะไรหนอ เป็นเหตุ อะไรหนอ เป็นปัจจัยให้แย้ม?              ม. อาวุโส ลักขณะ ยังไม่สมควรที่จะพยากรณ์ปัญหานี้ ท่านจงถามปัญหานี้กะผม ในสำนักพระผู้มีพระภาคเถิด              ครั้นท่านพระลักขณะกับท่านพระมหาโมคคัลลานะ เที่ยวบิณฑบาตในกรุงราชคฤห์ กลับ จากบิณฑบาตในเวลาภายหลังภัตรแล้ว จึงพากันเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ท่านพระลักขณะได้กล่าวคำนี้กะท่านพระมหาโมคคัลลานะว่า ท่าน พระมหาโมคคัลลานะ เมื่อกำลังลงจากคิชฌกูฏบรรพต เขตพระนครราชคฤห์นี้ ได้ทำการแย้มให้ ปรากฏ ณ ประเทศแห่งหนึ่ง อาวุโส โมคคัลลานะ อะไรหนอ เป็นเหตุ อะไรหนอ เป็น ปัจจัยให้แย้ม              ท่านพระมหาโมคคัลลานะกล่าวว่า อาวุโส ผมลงจากคิชฌกูฏบรรพต เขตพระนคร ราชคฤห์นี้ ได้เห็นอัฏฐิสังขลิกเปรตมีแต่ร่างกระดูก ลอยไปในเวหาส ฝูงแร้ง เหยี่ยว และนก ตะกรุม พากันโฉบอยู่ขวักไขว่ จิกสับโดยแรง จิกทึ้ง ยื้อแย่งตามช่องซี่โครง สะบัดซึ่งเปรต นั้นอยู่ไปมา เปรตนั้นร้องครวญคราง อาวุโส ผมนั้นได้คิดเช่นนี้ว่า น่าอัศจรรย์จริงหนอ น่า ประหลาดจริงหนอ ที่สัตว์แม้เห็นปานนี้ ยักษ์แม้เห็นปานนี้ เปรตแม้เห็นปานนี้ การได้อัตภาพ แม้เห็นปานนี้ก็มีอยู่              ภิกษุทั้งหลายพากันเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ท่านพระมหาโมคคัลลานะอวดอุตตริมนุสสธรรม              ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สาวกทั้งหลาย ย่อมเป็นผู้มีจักษุอยู่ ย่อมเป็นผู้มีญาณอยู่ เพราะสาวกได้รู้ได้เห็น หรือได้ทำสัตว์เช่นนี้ให้เป็น พยานแล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อกาลก่อนเราก็ได้เห็นสัตว์นั้น แต่เราไม่ได้พยากรณ์ ถ้าเรา พยากรณ์สัตว์นั้น และคนอื่นไม่เชื่อเรา ข้อนั้นก็จะพึงเป็นไปเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ แก่เขาเหล่านั้นสิ้นกาลนาน ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์นั้นเคยเป็นคนฆ่าโคอยู่ในพระนคร ราชคฤห์นี่เอง ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น เขาหมกไหม้อยู่ในนรกหลายปี หลายร้อยปี หลาย พันปี หลายแสนปี แล้วได้ประสบอัตภาพเช่นนี้ ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น แหละที่ยังเป็นส่วน เหลืออยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย โมคคัลลานะพูดจริง โมคคัลลานะ ไม่ต้องอาบัติ. จาก http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=1&A=10876&Z=11364 ------------- ผมขอเตือนสติไว้นิดหนึ่งครับ เรื่องที่ไม่มีในพระไตรปิฎก ไม่ได้แปลว่า "ไม่จริง" เสมอไปครับ ผมอยากให้ทุกคนเผื่อใจว่าคุณดังตฤณเขาอาจรู้ในเรื่องที่ "ไม่ปรากฏ" ในพระไตรปิฎกครับ ด้วยพระพุทธองค์ก็ทรงตรัสไว้แล้วว่าสิ่งที่พระองค์ตรัสสอนนั้นมีไม่มาก เปรียบใบประดู่ลายในกำมือ ส่วนสิ่งที่ไม่ได้สอนมีมากกว่าหลายเท่าเปรียบใบประดู่ลายทั้งป่า เรื่องอวัยวะทั้งหลายทำไมจะไม่เป็นของสำคัญล่ะครับ ยิ่ง "ส่วนนั้น" ยิ่งสำคัญครับ มหาปุริสสลักษณะประการหนึ่งคือ "พระคุยหะเร้นอยู่ในฝัก" (คุยหะแปลว่า ...ของท่านชายครับ ) นั่นก็มีที่มาเพราะกุศลในชาติก่อนเช่นกัน http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=9&A=2742&w=คุยหะ สรุปว่า เราทุกคนควรหมั่นสร้างกุศล งดอกุศลทุกชนิดครับ จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 17:29:21

ความคิดเห็นที่ 86 [๑๕๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเคยเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ภพก่อน กำเนิดก่อน เป็นผู้นำพวกญาติมิตรสหายผู้มีใจดีที่สูญหายพลัดพรากไปนานให้กลับ มาพบกัน นำมารดากับบุตรให้พบกัน นำบุตรกับมารดาให้พบกัน นำบิดากับบุตร ให้พบกัน นำบุตรกับบิดาให้พบกัน นำบิดากับพี่น้องให้พบกัน นำพี่ชายกับ น้องสาวให้พบกัน นำน้องสาวกับพี่ชายให้พบกัน ครั้นทำเขาให้พร้อมเพรียงกัน แล้ว ก็ชื่นชม ตถาคตย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เพราะกรรมนั้น อันตนทำ สั่งสม พอกพูน ไพบูลย์ ฯลฯ ครั้นจุติจากสวรรค์ แล้ว มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ย่อมได้เฉพาะซึ่งมหาปุริสลักษณะนี้ คือมีพระคุยหะ เร้นอยู่ในฝัก พระมหาบุรุษสมบูรณ์ด้วยลักษณะนั้น ถ้าอยู่ครองเรือนจะได้เป็น พระเจ้าจักรพรรดิ ฯลฯ เมื่อเป็นพระราชาจะได้อะไร เมื่อเป็นพระราชาจะได้รับ ผลข้อนี้ คือ มีพระโอรสมาก พระราชบุตรของพระองค์มีกว่าพัน ล้วนกล้าหาญ มีรูปทรงสมเป็นวีรกษัตริย์ สามารถย่ำยีเสนาของข้าศึกได้ ถ้าพระมหาบุรุษนั้นออก จากเรือนผนวชเป็นบรรพชิต จะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคา คือกิเลสอันเปิดแล้วในโลก เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้อะไร เมื่อเป็นพระพุทธเจ้า จะได้รับผลข้อนี้ คือ มีพระโอรสมาก พระโอรสของพระองค์มีจำนวนหลายพัน ล้วนเป็นผู้แกล้วกล้า มีความเพียรเป็นองค์สมบัติ กำจัดปรเสนาเสียได้ พระผู้มี- *พระภาคตรัสเนื้อความนี้ไว้ พระโบราณกเถระทั้งหลายจึงกล่าวคาถาประพันธ์นี้ใน พระลักษณะนั้นว่า             [๑๕๑] พระมหาบุรุษเป็นมนุษย์ในชาติก่อนๆ ได้ทรงนำพวกญาติมิตร                          สหายที่สูญหายพลัดพรากไปนานให้กลับมาพบกัน ครั้นทำให้                          เขาพร้อมเพรียงกันแล้ว ก็ชื่นชม เพราะกุศลกรรมนั้น พระองค์                          จึงหลีกไปสู่ไตรทิพย์ เสวยความสุขและสมบัติเป็นที่เพลิด-                          *เพลินยินดี จุติจากเทวโลกแล้วเวียนมาเกิดในโลกนี้ ย่อมได้                          องคาพยพที่ปิดบังด้วยผ้าตั้งอยู่ในฝัก พระมหาบุรุษเช่นนั้นมี                          พระโอรสมาก พระโอรสของพระองค์มากกว่าพัน เป็นผู้                          กล้าหาญ เป็นวีรบุรุษ สามารถให้ศัตรูพ่ายไป ให้ปีติเกิดและ                          ทูลปิยพจน์แก่พระมหาบุรุษที่ยังทรงเป็นคฤหัสถ์ เมื่อพระ-                          *มหาบุรุษทรงผนวชบำเพ็ญพรต มีพระโอรสมากกว่านั้น ล้วนแต่                          ดำเนินตามพระพุทธพจน์ พระลักษณะนั้น ย่อมเป็นนิมิตส่อง                          ความนั้นสำหรับพระมหาบุรุษที่เป็นคฤหัสถ์หรือบรรพชิต ฯ http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=11&A=3182&Z=3922 จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 17:47:07

ความคิดเห็นที่ 87              พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓              ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค              ลักขณสูตร [บางส่วน]              [๑๖๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเคยเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ภพก่อน กำเนิดก่อน ละคำเพ้อเจ้อ เว้นขาดจากคำเพ้อเจ้อ พูดถูกกาล พูดแต่คำที่เป็นจริง พูดอิงอรรถ พูดอิงธรรม พูดอิงวินัย พูดแต่คำมีหลักฐาน มีที่อ้าง มีที่กำหนด ประกอบประโยชน์โดยกาลอันควร ตถาคตย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เบื้องหน้า แต่ตาย เพราะกายแตก เพราะกรรมนั้น อันตนทำ สั่งสม พอกพูน ไพบูลย์ ฯลฯ              ครั้นจุติจากสวรรค์นั้นแล้ว มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ย่อมได้เฉพาะ ซึ่งมหาปุริสลักษณะนี้ คือ มีพระหนุดังว่าคางราชสีห์ พระมหาบุรุษสมบูรณ์ด้วย ลักษณะนั้น ถ้าอยู่ครองเรือนจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ฯลฯ              เมื่อเป็นพระราชาจะได้อะไร เมื่อเป็นพระราชาได้รับผลข้อนี้ คือ ไม่มีใครๆ ที่เป็นมนุษย์เป็นข้าศึกศัตรูกำจัดได้ ถ้าออกจากเรือนผนวช เป็นบรรพชิต จะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ามีหลังคาคือกิเลสอันเปิดแล้ว ในโลก เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้อะไร เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้รับผลข้อนี้ คือไม่มีข้าศึกศัตรูภายในภายนอก คือ ราคะ โทสะ โมหะ หรือสมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหม ใครๆ ในโลกกำจัดได้ พระผู้มีพระภาคตรัสคำนี้ไว้              พระโบราณกเถระทั้งหลายจึงกล่าวคาถาประพันธ์นี้ในพระลักษณะนั้นว่า              [๑๖๙] พระมหาบุรุษ ไม่กล่าวคำเพ้อเจ้อ ไม่กล่าวคำปราศจากหลักฐาน                          มีคลองพระวาจาไม่เหลวไหล ทรงบรรเทาเสียซึ่งคำที่ไม่เป็น                          ประโยชน์ ตรัสแต่คำที่เป็นประโยชน์และคำที่เป็นสุขแก่พหุชน                          ครั้นทำกรรมนั้นแล้วจุติแล้วจากมนุษยโลก เข้าถึงแล้วซึ่งเทวโลก                          เสวยวิบากอันเป็นผลแห่งกรรมที่ทำดีแล้ว จุติแล้วเวียนมาใน                          โลกนี้ ได้แล้วซึ่งความเป็นผู้มีพระหนุดังว่าคางราชสีห์ที่                          ประเสริฐกว่าสัตว์สี่เท้า เป็นพระราชาที่เป็นใหญ่กว่ามนุษย์                          แสนยากที่ใครจะกำจัดพระองค์ได้ พระองค์เป็นผู้ใหญ่ยิ่งของ                                                  มวลมนุษย์ มีอานุภาพมากเป็นผู้เสมอด้วยเทวดาผู้ประเสริฐ                          ในชั้นไตรทิพย์และเป็นเหมือนพระอินทร์ผู้ประเสริฐกว่าเทวดา                          เป็นผู้มั่นคง อันคนธรรพ์ อสูร ท้าวสักกะและยักษ์ผู้กล้าไม่                          กำจัดได้โดยง่ายเลย พระมหาบุรุษเช่นนั้น ย่อมเป็นใหญ่ทุก                          ทิศในโลกนี้โดยแท้ ฯ http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=11&A=3182&Z=3922              ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=11&i=130              หมวดหนังสือธรรมะ              เรื่อง ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ http://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html แนะนำ :-              อ่านและค้นพระไตรปิฎก ๔๕ เล่ม              อรรถกถาชาดกทั้งหมด ๕๔๗ เรื่อง              พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์              พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม     http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/              พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม                สารบัญประเภทธรรม http://84000.org/tipitaka/dic/d_type_index.php?                   หมวดหนังสือธรรมะ http://84000.org/tipitaka/book/              เรื่อง ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ http://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html              เรื่อง สิ่งที่เป็นมงคล (มงคล ๓๘) http://84000.org/tipitaka/book/bookpn06.html              เรื่อง ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก http://84000.org/tipitaka/book/bookpn01.html                      เรื่อง                           ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก                           การใช้ทรัพย์ ๕ ประการ                           มหาทาน                           ทานของสัตบุรุษนัยที่ ๑                           ทานของสัตบุรุษนัยที่ ๒                           กาลทาน ๕ อย่าง                           ให้ทานในที่ใดมีผลมาก                           ทานที่เจาะจงและไม่เจาะจง ๒๑ ประเภท                           สังฆทาน ๗ ประเภท                           ถวายภิกษุรูปเดียว ก็เป็นสังฆทาน                           ทัททัลลวิมาน-แสดงอานิสงส์ของสังฆทาน                                       เรื่องเศรษฐีเท้าแมว                           ความบริสุทธิ์แห่งทักษิณาทาน ๔                           อานิสงส์ของทาน ๕ อย่าง                           ทานที่มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก ๖                           ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก ๑ http://84000.org/tipitaka/book/bookpn01.html จากคุณ : ฐานาฐานะ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 19:41:52

ความคิดเห็นที่ 88 ความคิดเห็นที่ 79 เจ๊ Pig_Rangsit เห็นอะไรเข้าเหรอ ฮี่ๆๆๆ จากคุณ : น้องริชาร์ด (ทุกวินาที) เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 20:50:22

ความคิดเห็นที่ 89 กระทู้นี้ได้ความรู้ใหม่ๆเยอะเลย.. ต่อไป ข้าพเจ้าจะหมั่นบริจาคทานด้วยน้ำมันจิ้งเหลน T_T จากคุณ : น้องริชาร์ด (ทุกวินาที) เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 20:52:29

ความคิดเห็นที่ 90 ถูกใจ ความคิดเห็นที่ 89 ถ้าคุณน้องริชาร์ด (ทุกวินาที) บริจาคทานด้วยน้ำมันจิ้งเหลน ส่วนข้าพเจ้าจะหมั่นบริจาคทานด้วย ไวอากร้า จากคุณ : วิสุทธิธรรม เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:08:40

ความคิดเห็นที่ 91 พิจารณาแล้ว เห็นชอบด้วยตามความคิดเห็นที่ 80 "...อีกประการหนึ่ง ในอนาคต ภิกษุทั้งหลายจักไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่ อบรมปัญญา พระสูตรต่างๆ ที่ตถาคตได้ภาษิตไว้ เป็นสูตรลึกซึ้ง มีอรรถลึกซึ้ง เป็นโลกุตระ ประกอบด้วยสุญญตาธรรม เมื่อพระสูตรเหล่านั้นอันบุคคลแสดงอยู่ ก็จักไม่ฟังด้วยดี จักไม่เงี่ยโสตลงสดับ จักไม่ตั้งจิตเพื่อรู้ จักไม่ใฝ่ใจในธรรม เหล่านั้นว่าควรศึกษาเล่าเรียน    แต่ว่าสูตรต่างๆ ที่นักกวีแต่งไว้ ประพันธ์เป็นบทกวี มีอักษรสละสลวย มีพยัญชนะสละสลวย เป็นพาหิรกถา เป็นสาวกภาษิต เมื่อพระสูตรเหล่านั้น อันบุคคลแสดงอยู่ ก็จักฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักตั้งจิตเพื่อรู้ จักฝักใฝ่ใจในธรรมเหล่านั้นว่าควรศึกษาเล่าเรียน เพราะเหตุดังนี้ แล การลบล้างวินัยย่อมมีเพราะการลบล้างธรรม การลบล้างธรรมย่อมมีเพราะการ ลบล้างวินัย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคตข้อที่ ๔ นี้ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยข้อนี้อันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้ว พึง พยายามเพื่อละภัยนั้น ฯ..." http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=22&A=2397&Z=2459 จากคุณ : EvaAngelion   เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 20:59:14   ภาษิตที่พระพุทธศาสดาทรงแสดงไว้นั้น  ดีแล้ว ชอบแล้ว ด้วยประการทั้งปวงครับ เนื่องด้วยความเป็นมือใหม่ ที่เริ่มหัดศึกษาธรรมะจากสาวกภาษิต ยังไม่ค่อยได้อ่านพระไตรปิฏก เนื่องจากมองว่าภาษาที่ใช้ เข้าใจค่อนข้างยาก จึงอาจมองอะไรผิดพลาดไปได้บ้าง เป็นเรื่องธรรมดา ขออภัยจากทุกท่าน ณ ที่นี้ด้วยนะครับ แต่สาวกภาษิตอย่างของคุณดังตฤณ ก็มีส่วนทำให้ผม หันมาสนใจธรรมะและพระพุทธศาสนานะ อย่างไรก็มีส่วนดีอยู่มาก ก็คงต้องพิจารณาเลือกเอาส่วนดีมาใช้ คงเป็นอย่างที่คุณ smiling-girl กล่าวไว้ว่า ผมปลื้มนักเขียนมากเกินไป จนอาจเห็นผิดเป็นถูก คงต้องพยายามอ่านพระไตรปิฏกให้มากขึ้น ทำใจเป็นกลางต่อสาวกภาษิต ขอปิดกระทู้ไว้เพียงเท่านี้ ขอบพระคุณมากครับสำหรับทุกความคิดเห็นครับ จากคุณ : megamix100 เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 07:42:37

ความคิดเห็นที่ 92 สาธุ ค่ะ คุณmegamix100  เราขอชื่นชมคุณจากใจจริงเลยค่ะ   รับธรรมะเข้ามาในใจแล้วก็แบบนี้แหละค่ะ  ใจเปิด  การยึดมั่นถือมั่นลดลง  ชื่นชมจริงๆ ค่ะ กิ๊ฟเราหมดแล้ว  รับดอกไม้นะคะ ^^ จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 13:11:20

ความคิดเห็นที่ 93 อนุโมทนากับความคิดเห็นที่ 91 ครับ :) จากคุณ : ทุกวินาที เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 13:54:58

ความคิดเห็นที่ 94 เมื่อก่อนเคยชื่นชอบนักเขียนคนนี้ แต่เมื่อเขาเริ่มทำนายวิบากกรรมต่างๆ มากขึ้น กรรมนี้เกิดจากอะไร บางเรื่องที่ไม่ควรทำนายอย่างเช่นขนาดอวัยวะเพศ หรือการปวดประจำเดือนของสตรี เขาก็ทำนาย เราเลยสงสัยว่าเรื่องวิบากกรรมเป็น 1 ใน 4 อจิณไตยไม่ใช่เหรอ แล้วดังตฤณรู้ได้ยังไง แม้แต่พระพุทธเจ้าเองก็ไม่เคยสอนในบางเรื่องที่นักเขียนคนนี้ทำนาย ก็เลยเลิกติดตามผลงานนักเขียนคนนี้ หนังสือที่มีอยู่แจกคนอื่นไปหมดเลย และไม่คิดจะอ่านอีกเด็ดขาด ดังตฤณก็ไม่แตกต่างกับแม่ชีทศพร เพียงแต่มีการศึกษามากกว่า มีวาทศิลป์และจิตวิทยาดีกว่า รู้จักประดิษฐ์ประดอยคำพูดให้สวยงาม แต่เนื้อแท้แล้วทำให้คนหลงทาง จากคุณ : FruitChocolate เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 14:42:31

ความคิดเห็นที่ 95 ความคิดเห็นที่ 91     พิจารณาแล้ว เห็นชอบด้วยตามความคิดเห็นที่ 80 "...อีกประการหนึ่ง ในอนาคต ภิกษุทั้งหลายจักไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่ อบรมปัญญา พระสูตรต่างๆ ที่ตถาคตได้ภาษิตไว้ เป็นสูตรลึกซึ้ง มีอรรถลึกซึ้ง เป็นโลกุตระ ประกอบด้วยสุญญตาธรรม เมื่อพระสูตรเหล่านั้นอันบุคคลแสดงอยู่ ก็จักไม่ฟังด้วยดี จักไม่เงี่ยโสตลงสดับ จักไม่ตั้งจิตเพื่อรู้ จักไม่ใฝ่ใจในธรรม เหล่านั้นว่าควรศึกษาเล่าเรียน   แต่ว่าสูตรต่างๆ ที่นักกวีแต่งไว้ ประพันธ์เป็นบทกวี มีอักษรสละสลวย มีพยัญชนะสละสลวย เป็นพาหิรกถา เป็นสาวกภาษิต เมื่อพระสูตรเหล่านั้น อันบุคคลแสดงอยู่ ก็จักฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักตั้งจิตเพื่อรู้ จักฝักใฝ่ใจในธรรมเหล่านั้นว่าควรศึกษาเล่าเรียน เพราะเหตุดังนี้ แล การลบล้างวินัยย่อมมีเพราะการลบล้างธรรม การลบล้างธรรมย่อมมีเพราะการ ลบล้างวินัย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคตข้อที่ ๔ นี้ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยข้อนี้อันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้ว พึง พยายามเพื่อละภัยนั้น ฯ..." http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=22&A=2397&Z=2459 จากคุณ : EvaAngelion   เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 20:59:14   --------------------------------------------------------------------------- สาธุค่ะที่ท่านยกพระสูตรนี้ขึ้นมา จากคุณEvaAngelion   และสาธุกับคุณ : megamix100  ที่เข้าใจพระสูตรนี้ค่ะ ถึงแม้คุณจะไม่เคยอ่านพระไตรปิฎกแต่เมื่อมีผู้ยกขึ้นมากลับเข้าใจได้ดี สุดยอด สุดยอด อนุโมทนาค่ะ คุณลองดูในกระทู้นี้ก็ได้นะลองไปศึกษาดูค่ะ   http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10922084/Y10922084.html จากคุณ : เนตังมม (เนตังมม) เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 15:24:34

ความคิดเห็นที่ 96 ^ ^ เป็นเอามาก...อะไรที่โฆษณาได้ต้องทำ  น่าเบื่อนะครับ^^ จากคุณ : Bitter Coffee เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 17:21:31

ความคิดเห็นที่ 97 เฮ้อ!!! เคยผ่านตา มีคนเอาบทความเรื่อง "สวิงกิ้งไม่ผิดศีล"ของตังตฤณมาลงที่พลังjit ถึงกับอึ้งทึ่งไปเลย เป็นไปได้ไง ถึงจะเป็นความสมัครใจของตนเองก็ตาม ศีล๕ก็ครอบคุมไปถึง ลูกเค้ามีพ่อ มีแม่ มีพี่ มีน้อง  ถ้าคนเหล่านี้รู้เรื่องเข้าจะยอมรับได้มั้ย? หรือเรื่องที่ได้ทำลงไป สามารถเอาไปเล่าให้พ่อ แม่ พี่ น้อง ฟังได้มั้ย?... จากคุณ : ในความฝันของใครสักคน เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 54 20:08:00

ความคิดเห็นที่ 98 เพิ่งเห็นกระทู้  หนังสือคุณดังตฤณ ไม่ใช่หนังสือไว้อ้างอิงเสียหน่อย  อ่านผ่านๆกันมั่งก็ได้  ส่วนใหนที่เวอร์หรือใช้ความคิดตัวเองตอบมากไป ฟังแล้วก็ขำๆหรือคิดว่าโม้ป่าวไปซะ  หรือจะเอามาถามในนี้ เพื่อจัดเบาๆก็สนุกดี ก็เหมือนกระทู้นี้ไง   การพูดไปถึงว่า เชื่อไม่ได้ฟังไม่ได้ เสื่อมอะไรนี่ ผมยังไม่คล้อยตามหน่ะ  คิดว่าหนังสือคุณดังตฤณยังอยู่ในแนวทางที่ดีอยู่      สงสัยคุณดังตฤณเขียนให้เด็กอ่านมากกว่า  ผู้ใหญ่ๆคงไม่อยากอ่านเท่าไหร่แบบ  รู้เยอะกว่าคนเขียนมั้ง และคงไม่ใช่แนวที่ค้นหา  ไม่ถูกจริต ว่างั้น  ราวๆนั้น       แปลกใจไม่เห็นท่านเซนฯ ในกระทู้  ไม่รู้ไปวุ่นอยู่ที่ใหน จากคุณ : กัป' เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 54 22:15:09