|
ในฐานะที่เป็นผู้ตามอ่านสังเกตุการณ์และไม่อยากเข้าไปยุ่งกับการถกเถียงเรื่องนี้ ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจมากที่มีการจะแบ่งเป็นฝ่าย 150 กับ 227 มันเหมือนการแตกแยกจริงๆเลยครับ เกิดอะไรกันขึ้นในหมู่ชาวพุทธเรา?
ศาสนาพุทธเราตั้งแต่บรรพกาล ในประเทศเรา เราถือนิกายเถรวาท คำว่าเถรวาท แปลง่ายๆคือ เราเชื่อคำสอนสั่งของพระเถราจารย์ เราสืบทอดคำสอนโดยพระเถราจารย์จนถึงปัจจุบัน พระเถราจารย์ และ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ท่านก็สอนและถ่ายทอดเรามา ไม่ว่าตั้งแต่รุ่นหลวงปู่มั่น, หลวงพ่อชา , หลวงพ่อพุธ จนถึง หลวงตามหาบัว ทุกท่านก็ทำปาฎิโมกข์ 227 ข้อ ทั้งนั้น ทุกท่านก็เจริญในธรรมจนถึงปลายทางในพระพุทธศาสนา เป็นตัวอย่างอันดีให้พวกเราไปกราบบูชา
แม้พระไตรปิฎก พระสูตรที่เราใช้ศึกษากันอยู่ ก็ไม่ได้จดบันทึกในขณะที่พระพุทธเจ้าตรัส หากแต่มาจากความจำของ พระอานนท์เสียเป็นส่วนใหญ่ แล้วเราจะตัดความสำคัญของพระเถระทั้งปวงได้อย่างไร ควรหรือที่เราจะปฎิเสธโอวาทของพระเถระ
พระพุทธองค์ก่อนเข้าสู่ปรินิพพาน ก็ไม่ได้ให้ใครสืบทอดเป็นหลักของพระศาสนา หากแต่ท่านได้ตรัสไว้ว่าให้ใช้พระวินัยเป็นหลักแทน ก็ด้วยเหตุที่จะให้คณะสงฆ์ได้ปกครองกันเองในรูปแบบของคณะสงฆ์ ซึ่งการณ์ใดในพระศาสนาแต่นานมาก็ล้วนแต่ใช้มติสงฆ์ตัดสิน ดังนั้นคงต้องถาม มติสงฆ์ ส่วนใหญ่ ท่านสวดปาฎิโมกข์ 227 กันมาเนิ่นนานแล้วก็ไม่ได้มีมติให้เปลี่ยนแต่อย่างใด
ในการบวชเป็นพระสำคัญที่สุดสำหรับพระคือ พระอุปัชฌาย์ ที่เปรียบเสมือน พ่อแม่ของพระแต่ละรูป และควรที่เราจะต้อง เชื่อฟังคำสั่งท่าน ถ้าพระรูปใดรูปหนึ่ง จะทำอะไรที่ผิดจากมติสงฆ์ อาทิสวดปาฎิโมกข์ 150 ข้อนั้น ไม่ทราบว่าพระอุปัชฌาย์ ในฐานะที่เป็นบิดามารดาทางสงฆ์ของพระรูปนั้นท่านได้รับทราบและอนุญาตหรือยัง และถ้าท่านได้ห้ามปรามแล้ว ควรหรือที่เราจะขัดคำสั่งสอนของพ่อแม่ของเรา?
ผมฝากให้คิดครับ ขอร้องเลยอย่าแบ่งเป็นฝ่าย 150 หรือ 227 เลย ศาสนาของเราที่อยู่มา 2554 ปีก็เพราะการที่ พุทธบริษัทสี่ เคารพในมติสงฆ์ เคารพในคำสอนพระเถระ กตัญญูในพระอุปัชฌาย์ เราจึงยังมีพระศาสนาที่นำพาเราไปสู่ความหลุดพ้นได้จริงถึงทุกวันนี้ครับ
ปล. ที่ผมมาแสดงความเห็นในครั้งนี้ เป็นความเห็นและความเป็นห่วงพระศาสนาเป็นการส่วนตัวของผมจริงๆนะครับ กรุณาอย่าดึงครูบาอาจารย์ของผมเข้าสู่การถกเถียงในครั้งนี้ เพราะท่านไม่ได้เกี่ยวข้องเลยนะครับ
จากคุณ |
:
ประมุขพรรคบัวขาว
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ส.ค. 54 23:23:38
|
|
|
|
|