PANTIP.COM : Y10989305 พ่อมดแห่งไพ่ทาโร [กระดานชนวน]

ความคิดเห็นที่ 12

ถ้าเป็นของเวท ในเวบต์มีค่ะ
http://www.tarotteachings.com/symbol-meanings-of-tarot-introduction.html
เลือก copy ได้เลย

ถ้าเป็นของคราวลี่ย์ ต้องเวบต์นี้ึ้ค่ะ
http://www.corax.com/tarot/cards/index.html?chariot

จริงอยากแนะนำหนังสือ Empath 101 จากเวต์ มีท้ังหมด 9 บทถ้า copy จะราว 100 หน้าค่ะ

- ในเมืองนอกคำว่า Empath หมายถึงคนที่ไวต่อสิ่งเร้ารอบตัว เขาพิสูจน์แล้วว่ามันทำงานที่ระบบประสาทรวมศูนย์ส่วนกลาง เป็นเซนเซอร์ตอบสนองด่านแรกคือสัญชาติญาณในการเอาตัวรอด โดยใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ ตา หู จมูก ปาก ลิ้น กาย รวมใจ ที่สัมผัสกับ

- สิ่งแวดล้อม
- อุณหภูมิ
-เสียง
- กลิ่น
- การมองเห็น
- การมองเห็น หรือรับรู้สิ่งที่ซ่อนอยุ่เบื้องหลังของอารมณ์

คนส่วนใหญ่จะมี Empath แต่ไม่ปริมาณมาก เพียงพอปกป้องตนเองจากอันตราย คนที่มีมากพวกนี้จะไวต่อสิ่งที่กล่าวมาข้างบนมาก ทำให้ "reading" คน สภาพแวดล้อม ได้ลึกกว่าคนอื่น

ถ้าเป็นชนเผ่าอินเดียนแดงสมัยก่อน เขาจะเอาเด็กๆที่มีEmpathไว มาฝึกเพื่อเป็นนักรบแห่งสายรุ้ง หรือฝึกให้เป็นชาร์แมน ที่เรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ มองเห็นคนอื่นได้ลึก

ในหนังสือ Empath 101 จะอธิบายเรื่องพลังจิตของมนุษย์ผ่านมุมมองของ Empath ค่ะ ว่าเริ่มต้นยังไง จะพัฒนายังไง แต่ว่ามันเป็นบทความที่อ่านยากพอควร ศัพท์ไม่ยาก แต่รูปแบบของการเขียน จะต้องมีสมาธิสักหน่อย จะได้ไม่หลุดจากความหมายที่เขาพยายามจะบอกค่ะ

ที่นี้ เขาอธิบายผ่านคลื่นสมองของคนเรามี 5 ระดับ
1 ระดับเบต้า นี่คือคลื่นสมองที่เราตื่น เราคิดตัดสินใจ ผ่านการทำงานของคลื่นสมองระดับนี้ที่มีความถี่เร็ว การตัดสินใจผ่าน การมองเห็นของตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ แต่ว่าบางสิ่งบางอย่างอาจจะหลุดหายไปบ้าง เช่นถ้าเรามองด้วยตา ในจิตปัจจุบันที่มอง เราเก็บรายละเอียดไม่หมดค่ะ

- การสื่อสารของจิตที่ตื่นในสมองเบต้า ใช้คำพูดค่ะ ร่างกายเป็นเรื่องรอง

2 ระดับอัลฟ่า คลื่นสมองจะช้ากว่าเบต้า เรียกว่าจิตใต้สำนึก จะเก็บรายละเอียดทุกอย่างที่ ตา จมูก หู ลิ้น กายและใจ สัมผัสมองเห็นที่วัดค่าได้เป็น "ความรู้สึก" เพราะจิตสำนึกตีความหมายไม่ได้

จิตใต้สำนึกจะบันทึกทุกอย่าง ดังนั้นทุกพื้นที่ผิวของเราคือ เซนเซอร์สำหรับจิตใต้สำนึก เช่น ร้อนมากไป หนาว พอดี สีแดง สัญลักษณ์ คลื่นความรู้สึกของคนอื่นด้านหลัง เป็นต้น

การทำงานระหว่างจิตที่ตื่นนอนกับจิตใต้สำนึกจะทำงานคู่กันค่ะ ในขณะตื่น เมื่อใดก็ตามที่ จิตใต้สำนึก รับรู้สึกสิ่งที่เป็น "อันตราย" ที่มีสัญญาณแรงพอ มาจะมาเคาะประตูให้จิตปัจจุบันได้รับรู้ ผ่านบริเวณจุดศูนย์กลางของสมองส่วนกลาง มาถึงตอนนั้น เราจะรับรู้ถึงอันตราย แม้มันจะมาจากด้านหลังก็ตาม

คนที่ไวEmpath เขาจะรับรู้จิตใต้สำนึกได้เร็ว มองเห็นอารมณ์ของคนที่ซ่อนอยู่ใต้จิตปัจจุบัน รู้ว่าที่เขาพูดเบื้องหน้าโกหก หรือจะรู้ว่า ที่เขาพูดแบบนี้ เขาอิงเหตุผลอะไรในใจ

ระดับเทลต้า คลื่นสมองจะช้าลง ปกติจะเกิดในระดับที่เรากำลังฝัน ดวงตาจะกรอกไปมา การสื่อสารของจิตในระดับเทลต้า คือภาพ สัญลักษณ์ที่จะต้องตีความ ทุกอย่างในความฝัน หรือนิมิตในขณะที่เราเข้าสมาธิ คือเทลต้าเป็นระหัสของสัญลักษณ์ที่ต้องตีความค่ะ

จะตีความเข้าใจหรือเปล่าขึ้นอยู่กับตนเอง แม้ในพุทธประวัติจะเห็นว่า ทุกความฝันคือสัญลักษณ์ที่ต้องตีความหรือถอดระหัสค่ะ

เช่นลูกค้าเดินมาหาเรา เขามีความต้องการบ้างอย่างที่ลึกกว่าความรู้สึกในระดับอัลฟ่า ถ้าจิตใจของเราอยู่ในระดับเทลต้า เราจะเห็น หรือรู้สึก pop-upเป็นสัญลักษณ์ เช่น

มีลูกค้ามาถามเรา เราใช้ไพ่ทาโรเป็นอุปกรณ์ ว่า ตอนนี้ชีวิตเป็นอย่างไร เรารู้สึกเหมือนเครื่องบินกำลังจะ take off แต่เครื่องบินหนักมาก ในวูบหนึ่งของความรู้สึก เราทราบว่า ตอนนี้โอกาสบางอย่างมาแล้ว ชีวิตจะดีขึ้ยในระดับหนึ่ง แต่ยังต้องอยู่ในระดับนี้นานหน่อยเพราะเครื่องบินหนักและยังไม่บิน แต่กำลังจะทะยานขึ้น

หรือ

มีลูกค้ามาถาม ว่าชีวิตจะเป็นยังไง และเรารู้สึกเหมือน กำแพงหนาๆสูงใหญ่ นั้น มีน็อตที่ขึ้นสนิทขนาดใหญ่ ขันติดแน่นเอาไว้ จู่น็อตขนาดใหญ่สูงเท่าฟ้า มันดัง "แคร็รก" ทำให้กำแพงกับน็อตมีช่องว่าง พอที่กำแพงจะเลื่อน ให้ทางออกได้ แปลว่า กรรมที่เคยผูกติดคุณไว้กับสถานการณ์ใด สถานการณ์หนึ่ง กำลังคลายตัว คุณจะเป็นอิสระจากสิ่งนั้น

ที่นี้ก็มาดูไพ่ประกอบ การสื่อสารระดับเทลต้า คือการเห็นภาพ

ระดับ เดลต้า คลื่นสมองจะช้ากว้าเทลต้า เป็นระดับที่เกิดจากการ visualiztion ของจิต ในขณะที่จิตกำลังทำสมาธิ และการสร้างนิมิตให้เคลื่อนไหวนั้น การเห็นจะต้อง คม ชัด ลึก หรือในแบบที่เราเรียกว่า ปฏิภาคสมาธิ แต่เราต้องทำในขณะลืมตาอย่างเป็นธรรมชาติ หรือที่ฝรั่งเรียกว่า remote viewing ค่ะ

ยกตัวอย่าง สมมติว่า เรามีหนังสือที่ซื้อมาจากร้านอื่นที่ซื้อไว้นานแล้ว และวันนี้เราจะไปดูหนังสือที่ร้านคิโนะ พอเราคิดอย่างนี้ ภาพของร้านคิโนะ หรือความรู้สึกที่เราเคยเดินเข้าไปใน้รานคิโนะจะปรากฏขึ้นในใจ เราเห็นภาพว่า เราเดินเข้าไปแล้ว สัญญาณกันขโมยหน้าร้านมันจะดัง และถ้าเราอยากจะพิสูจน์ก็ไปที่ร้านคิโนะ ปรากฏว่ามันดังจริงๆ เพราะระบบของหนังสือสมัยก่อน ยังคงติดอยู่ในหนังสือ

หรือเมื่อลูกค้า เดินเข้ามาในร้าน เราเห็นภาพชัดเจนของกระบวนการของลูกค้า เขายกตัวอย่างว่า เราอยู่กับ ปฏิภาคนิมิตทุกอย่างเช่น เมื่อมีคนพูดแอลบเปลิ้ ภาพของแอปเปลิ้ จะมาในความรู้สึก สีแดง กลิ่น ความช่ำ

ปฏิภาคนิมิต ไม่จำเป็นจะต้องเริ่มต้นเห็นเหมือน "3D" แบบ Hologram แต่เริ่มจากการสร้าง "รูป" ภายใน อาจจะเริ่มแค่รู้สึก ยิ่งเราเห็นปฏิภาคนิมิต ชัดเท่าไร พลังจิตของเราจะเข้มแข็งมากขึ้น

ระดับแกรมม่า ไม่มีคำอธิบายระดับจิตวิญญาณ

แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น เราจะต้องเห็นเข้าใจ แค่ "ความรู้สึก" อย่างเอา อารมณ์ และปรุงแต่ง เข้าไประบายในสิ้งที่ปรากฏ แค่ดูมันและเข้าใจมันอย่างที่มันเป็น

มาถึงตอนนี้ เขาอธิบายเรื่องไพ่ทาโร และอุปกรณ์อื่นทางโหราศาสตร์ ว่าคืออุปกรณ์ของระดับแกรมม่า เพื่อให้เราพัฒนาจิตใจของเราตั้งแต่เบต้า ไต่ระดับจนถึงแกรมม่า และไพ่แต่ละสำรับ จะตอบสนองแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ

เขาบอกว่า ลองเดินดู และเลือกมาสักสำรับ และอย่าไปติดแหง็กอยู่ที่การทำนาย ว่าใช้หรือไม่ใช่ ให้ลองมองในแนวทางใหม่ที่เขานำเสนอค่ะ

พออ่านแล้ว ก็เลยคิดเอาเองว่า ทั้ง A.E.Waiteและ Aleister Crowley น่าใช้ไพ่ทาโร ในแนวทางนี้ค่ะ เช่นเดียวกับคาร์ล จุง แต่ว่าอาจจะอธิบายไม่เก่งเท่าคนเขียน Empath 101

จริงๆ เพิ่งจะอ่าน Empath 101 เมื่อวานนี้ ลุยอ่านมา 3 วันเต็มๆ เลยเข้าใจ เปิดมุมมองใหม่ ในการทำความเข้าใจอะไรหลายอย่างขึ้นมาค่ะ เลยเล่าสู่กันฟัง

จากคุณ : พยัคฆ์น้อย

เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 06:37:33