ความคิดเห็นที่ 2 สะสมบุญไปเรื่อยๆครับ ไม่รีบร้อน อยากเป็นพระอสีติสาวก ระลึกชาติได้ซักแสนกัป 555 ชาตินี้ ขอไปเกิดเป็นพรหมก็พอใจแล้ว หลบกลียุคไปก่อน จากคุณ : เขียนบน iPhone (ฮิมาวาริซซัง) เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 22:19:06

ความคิดเห็นที่ 3 อ้าวทำไม คห.1 หายไปซะงั้น เอ๊ะ ยังไง งง คห. 2 จะรออีก 1 พุทธธันดร เลยเหรอครับ หุหุ แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 54 22:24:19 จากคุณ : artinfinity เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 22:23:39

ความคิดเห็นที่ 4 โสดาบันครับ จากคุณ : ted_chen เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 22:27:41

ความคิดเห็นที่ 5 คห.หาย  งง เหมือนกัน พระโสดาบัน รู้จักปัญจุปาทานขันธ์ ภิกษุ ทั้งหลาย. ! เมื่อใดแล สาวกของพระอริยเจ้าในธรรมวินัยนี้ มารู้จักความก่อขึ้นแห่งอุปาทานขันธ์ห้า, รู้จักความตั้งอยู่ไม่ได้ของอุปาทานขันธ์ห้า, รู้จักรสอร่อยของอุปาทานขันธ์ห้า, รู้จักโทษอันร้ายกาจของอุปาทานขันธ์ห้า, และรู้จักอุบายที่ไปให้พ้นอุปาทานขันธ์ห้านี้เสียตามที่ ถูกที่จริง; ภิกษุ ทั้งหลาย. ! เมื่อนั้นแหละ สาวกของพระอริยเจ้า ผู้นั้น เราเรียกว่าเป็นพระโสดาบัน ผู้มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เที่ยงแท้ต่อพระนิพพาน จักตรัสรู้ธรรมได้ในกาลเบื้องหน้า. ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๙๖/๒๙๖. จากคุณ : ซุ้มเฟื่องฟ้า เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 22:32:25

ความคิดเห็นที่ 6 ตอบ .เลียนแบบ ฮิมาวาริซซัง อิอิ... สะสมบุญไปเรื่อยๆไม่รีบร้อน อยากเป็นสตรีผู้ช่วยทำนุบำรุง  อุปฐากพระพุทธศาสนา  ระลึกชาติได้ซัก 5 แสนกัป อิอิอิ ชาตินี้ ขอไปเกิดบนสวรรค์ชั้น 5 หรือไม่ก็ 6 ก็พอใจแล้ว หลบกลียุคไปก่อน หุหุ หมายใจ...ว่าเกิดมาชาติใด ขอให้งามอรชรดั่งเทพสลักเสลา มีเงินทองนับอนันต์ ทำบุญได้ไม่อั้น มีสัมมาทิฐิ สัมมาปัญญา สัมมาอาชีวะ  มีอริยทรัพย์ 7  & infinity จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 22:39:39

ความคิดเห็นที่ 7 เลือกข้อสามค่ะ ไม่อยากเกิดเป็นมนุษย์อีกแล้ว จากคุณ : lovely beagle เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 22:42:57

ความคิดเห็นที่ 8 ข้อ4ครับ  มั่นใจ อิอิ! จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 22:59:51

ความคิดเห็นที่ 9 ขอทรงฌาน  ไปเซฟเป็นพรหม ได้คงดี จากคุณ : กันดั้มตัวนี้สีชมพู เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 23:00:54

ความคิดเห็นที่ 10 เอาแบบจริงๆเลย  ขอขั้นต้นก่อน ขอให้ได้ถึง แยกรูปแยกนาม  เห็นการเกิดดับของรูปและนาม ถ้าได้ดังนี้ในชาตินี้  ก็พอใจแล้ว  ^^ จากคุณ : annyfatgirl เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 23:02:15

ความคิดเห็นที่ 11 ณ วินาทีนี้....หวังว่าจะไปนั่งสมาธิได้ ก็พอแล้ว สำหรับบัดนี้ค่ะ แต่ถ้าถามตัวเอง...คิดว่าหนทางยังอีกยาวไกล กิเลสยังหนาปึ้ก พอกพูนท่วมท้นอยู่เลยค่ะ สำหรับคำถาม....ถ้าได้โสดาบันแล้ว สิ่งที่ปฏิบัติได้นั้นจะฝังแน่นอยู่ในสัญญาแน่นอน ตามที่เคยได้ยินมา บรรลุโสดาบันในชาตินี้ เกิดอีกไม่เกิน 7 ชาติ ก็จะเข้าสู่นิพพานแล้วค่ะ ถ้าได้อนาคามี...จะไปเกิดในชั้นพรหม(ชั้นไหน จำไม่ได้) แล้วนิพพานในชั้นพรหมนั้น ไม่กลับมาเกิดบนโลกมนุษย์อีกแล้ว จากคุณ : seeyou_cu เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 23:17:52

ความคิดเห็นที่ 12 เลือกข้อ5 ครับ    ใครจะไปพรหมโลกนัดเจอกะผมได้นะ จากคุณ : yariv_80 เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 23:24:18

ความคิดเห็นที่ 13 ตั้งเป้าไว้ที่โสดาบันอะ แต่จะได้แค่ไหน ก็คงสุดแต่บุญกรรม+ความเพียร  ที่ทำมา จากคุณ : goodfriday เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 23:35:41

ความคิดเห็นที่ 14 ขอโสดาบันเป็นขั้นต่ำค่ะ แต่จริงๆหวังมากกว่านั้น แต่ถ้าต้องมาเกิดชาติหน้าอีก ก็หวังจะเกิดเป็นผู้ชายค่ะ พอหมดภาระทางโลกแล้วจะขอบวชเป็นพระตลอดชีวิตเลย จากคุณ : ยัยก้อย เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 23:48:27

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบ คำถามนะครับ ถ้าชาตินี้ได้บรรลุโสดาบันแล้ว กิเลสบางตัว เช่น มิจฉาทิฏฐิ (ทิฏฐิเจตสิก)  และ วิจิกิจฉาเจตสิก (ความลังเลสงสัย ในพระรัตนตรัย ฯลฯ) ก็จะถูกประหารโดยสิ้นเชิงไปแล้ว แม้จะ จุติ และปฏิสนธิในภพชาติใหม่ ก็จะไม่มีกิเลสในส่วนนี้เกิดขึ้นแล้ว  และ การทำอกุศลกรรมบท ๑๐ อันประกอบด้วยทิฏฐิเจตสิก ก็จะไม่สามารถเกิดในบุคคลนั้นได้เลย จากคุณ : ชาวมหาวิหาร เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 23:49:20

ความคิดเห็นที่ 16 ภิกษุ ทั้งหลาย. ! เมื่อนั้นแหละ สาวกของพระอริยเจ้า ผู้นั้น เราเรียกว่าเป็นพระโสดาบัน ผู้มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เที่ยงแท้ต่อพระนิพพาน จักตรัสรู้ธรรมได้ในกาลเบื้องหน้า. จากคุณ : ซุ้มเฟื่องฟ้า เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 00:39:18

ความคิดเห็นที่ 17  ไม่สนใจ  คำว่า ไม่สนใจในที่นี้ มิได้หมายถึงว่า ไม่สนใจเรื่องนี้นะ เพียงแต่ ไม่ได้ตั้งความหวัง ว่าจะไปถึงขั้นไหนครับ  ขอเพียงแค่ มีจิต ที่ตั้งมั่น อยู่ร่วมทำนุ บำรุง ศาสนาสืบไป รักษาตน ให้อยู่ในศีล อยู่ในธรรม สวดมนต์ ภาวนา  ปฏิบัติธรรมไปเรื่อยๆ ในชีวิตประจำวัน ผมไม่ได้ตั้งความหวัง ว่าจะไปถึงขั้นไหน ไม่ว่าจะถึงไหน การปฏิบัติธรรมนี้  ทำไป ก็ไม่ขาดทุนอย่างแน่นอน เพราะ ผลที่ได้ มันได้เลยทันที อาทิเช่น นั่งสมาธิ ก็เกิดปีติ ทำให้ชีวิตมีความสุข อิ่มเอิบใจ  ฝึกสติ รวมถึงฝึกอานาปาณสติ ก็ส่งผลให้ ชีวิตประจำวัน เป็นไปอย่างราบรื่น มีความใจเย็นอยู่ตลอดเวลา คิดอะไรก็คล่อง ไว  มีปัญญาเพิ่มขึ้น ยังไม่ต้องพูดกันถึงลำดับขั้น แค่นี้ก็คุ้มค่ามากแล้ว ที่ได้ฝึกปฏิบัิติธรรมครับ  ขอให้ทุกๆท่าน เจริญ ในศีล ในธรรม ยิ่งๆขึ้นไป จากคุณ : indysoft เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 01:47:18

ความคิดเห็นที่ 18 ขั้นต่ำโสดาบันค่ะ กลัวอบาย จากคุณ : supatra.p เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 07:07:17

ความคิดเห็นที่ 19 ผมตามกระทู้นี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10997150/Y10997150.html จากคุณ : Terkrub เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 07:47:21

ความคิดเห็นที่ 20 เรื่องของจิต..........อยากได้   มันจะไม่ได้ จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 08:23:22

ความคิดเห็นที่ 21 ให้ทำความเข้าใจเส้นทาง ทิศทาง แล้วเดินต่อไปให้ดี ก็พอแล้วมั้ง เพราะการไปหมายปลายทางอะไรไว้ ลองสังเกตให้ดี ขณะนั้นมันได้ไปก่อร่างสร้างเตรียมซึ่ง "ภพ" แบบนั้นๆ แล้วก็พาตัวตนมุ่งไปสู่ภพตามความหมายมั่นนั้นต่อ แยบคายในจุดนี้กันให้ดีด้วย อย่าลืม อย่าทิ้งปัจจุบัน อันเป็นทางดำเนินไป จากคุณ : รู้สึกตัว เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 08:50:10

ความคิดเห็นที่ 22 เลือกข้อ ที่ 6 ตอนนี้ไม่สนใจแล้วครับ ว่าจะบรรลุหรือไม่บรรลุ เพราะว่า ผมปรุงแต่ง เหตุ-ปัจจัยไปเรื่อยๆ ตามมรรคมีองค์ 8 โดยไม่สนใจว่าผลลัพธ์ในอนาคตจะเป็นอย่างไร  (ผลลัพธ์ในอนาคตสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ตามเหตุ-ปัจจัย) แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 54 08:58:37 จากคุณ : นิยมวัตถุ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 08:55:58

ความคิดเห็นที่ 23 สะสมไปเรื่อยๆคะ คิดว่า.......เมื่อเหตุปัจจัยถึงพร้อม ทุกอย่างจะเป็นไปโดยอัตโนมัติคะ จากคุณ : linada เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 09:02:47

ความคิดเห็นที่ 24 เป้าสูงสุดก็ต้องอรหันต์ซิครับ แต่ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น จากคุณ : ป๊าป๋ามือใหม่ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 09:06:51

ความคิดเห็นที่ 25 ขอให้ได้สมประสงค์ทุกๆท่านครับ แต่จะขออย่างเดียวไม่ทำไม่ได้ครับ ควรต้องทำเหตุให้สมควรแก่ผลที่ประสงค์ด้วยครับ เจริญในธรรมครับทุกๆท่าน ปล.เมื่อบรรลุธรรมแล้วจะติดตัวไปในชาติหน้าด้วยครับไม่ต้องไปบรรลุใหม่ครับ จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 09:16:04

ความคิดเห็นที่ 26 ตั้งสูงๆ ไว้ค่ะ พระอรหันต์ เหมือน คห.24 แต่พินิจบุญตัวเองแล้ว โสดาบันก็ยังดี ชาตินี้ จากคุณ : monkeypim เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 09:18:52

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าถามถึง "ชาตินี้" ก็คงต้องตอบอย่างรวดเร็วว่า ขอเลือกก้าวขึ้นบันไดขั้นแรกก่อน คือ "พระโสดาบัน" เพราะรู้ตัวว่ายังไม่เก่งมากนัก เข้ากระแสมรรคผลขั้นแรกได้ก็รู้สึกโล่งใจมากแล้ว เพราะถือว่าได้ปิดอบายได้สำเร็จ ไม่ไหลลงต่ำอีกไม่ว่าจะเป็นชาติภพไหนๆ มีแต่จะเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป และเที่ยงแท้ต่อการเข้าสู่นิพพานโดยแน่แท้ แบบนี้แหละ สุดยอดดด จากคุณ : snoopy21 เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 09:53:28

ความคิดเห็นที่ 28 ตั้งไว้ข้อ 1 ค่ะ ไม่อยากกลับมาเกิดอีกแล้ว  การบรรลุนิพพานเชื่อว่าการตัดสักกายทิฐิตัวเดียวก็พอไปได้แบบด่วน ๆ คำสอนสมเด็จองค์ปฐม : วิธีคิดแบบรวบรัดเพื่อตัดตรงไปพระนิพพานได้ง่ายที่สุด “เจ้าจงใคร่ครวญอย่างนี้ จงคิดว่าเราเป็นผู้ไม่มีอะไรเลย ทรัพย์สินไม่มี ญาติ เพื่อน ลูก หลาน เหลนไม่มี แม้ร่างกายเราก็ไม่มี เพราะทุกอย่างที่กล่าวมามีสภาพพังหมด เราจะทำกิจที่ต้องทำตามหน้าที่ เมื่อสิ้นภาระคือร่างกายพังแล้ว เราจะไปนิพพาน เมื่อความป่วยไข้ปรากฏจงดีใจว่าวาระที่เราจะมีโอกาสเข้าสู่พระนิพพานมาถึง แล้ว เราสิ้นทุกข์แล้ว คิดไว้อย่างนี้ทุกวัน จิตจะชิน จะเห็นเหตุผล เมื่อจะตายอารมณ์จะสบายแล้วก็จะเข้านิพพานได้ทัน” จากคุณ : sunnyorchids เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 11:02:58

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่ได้ตั้งไว้เลยค่ะ ทำดีไปเรื่อยๆ ถือศีล ทำสมาธิ ทำทาน ถ้าจะต้องเกิดอีกเป็นมนุษย์อีก ก็รับได้ค่ะ ขอให้ได้อยู่ภายใต้พระพุทธศาสนา และมีสัมมาทิฐิ ขอมีโอกาสบำรุงพระพุทธศาสนาตลอดไป จากคุณ : chan_miki เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 13:17:51

ความคิดเห็นที่ 30 สำหรับผม ไม่ว่าเกิดเป็นอะไรก็น่ากลัวพอกัน เพราะยังต้องเผชิญกับความไม่รู้ทุกครั้งที่เกิดมา รวมความแล้วไม่อยากเห็นความเกิดแม้เพียงชาติเดียวไม่ว่าของใครก็ตาม เพราะมันเป็นทุกข์เหลือคณา หาคนที่มีความสุขกับการเกิดในโลกนี้ไม่เจอเลย คนบางคนอาจจะเกิดอย่างสบาย แต่ก็ยังมีความไม่รู้ปนมาอยู่ดี เหมือนพระโพธิสัตว์เกิดมาในภพชาติสุดท้าย กว่าจะแสวงหาสัจธรรมเจอ ก็ต้องบำเพ็ญทุกรกิริยาไปถึง 6 ปี ฉะนั้น ความเกิดเป็นทุกข์อย่างยิ่ง ยิ่งเกิดบ่อย ๆ ยิ่งทุกข์ แต่จะเกิดทั้งที่ต้องให้มีปัญญาแสวงหาสัจธรรม ต้องมีปัญญาต่อสู้กับความทุกข์ ต้องมีปัญญาตั้งมั่นเพื่อหนทางของพระนิพพานไปทุก ๆ ชาติ ในเมื่อมันเลี่ยงความเกิดไม่ได้ ก็ขอแค่ว่าเราเกิดมาได้รู้เป้าหมายที่แท้จริงไปทุกชาติ และได้กระทำตามเป้าหมายนั้นให้เต็มที่ในทุก ๆ ชาติ เป็นอย่างน้อย หากถามถึงเป้าหมายสูงสุดที่คิดจะทำให้ได้ในชาตินี้ ก็คือ ทำให้คนทั้งโลกหมดกิเลส เข้าถึงนิพพาน อีกทั้งหมื่นโลกธาตุ อนันตจักรวาลที่เหลืออยู่ โลกนี้ก็คงจะเป็นโลกที่สงบสุขและมั่นคงอย่างถาวรอย่างแท้จริง ทำให้โลกนี้เป็นดั่งพระนิพพาน ไม่มีทุกข์ ไม่มีการเกิด ไม่มีการตาย ไม่มีใครต้องเศร้าโศก ไม่มีใครต้องตกนรก ไม่มีใครต้องไปเป็นเปรตอสุรกาย ไม่มีใครคิดร้ายต่อกัน แน่นอนว่า มันเป็นเพียงความฝันสำหรับตอนนี้ แต่ถ้าถามถึงสิ่งที่อยากจะทำให้ได้ในชาตินี้ ลึก ๆ แล้วก็ต้องตอบแบบนี้ เพราะเป็นสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นจริง ๆ เพราะส่วนตัวแล้ว ไม่คิดว่าจะต้องใช้เวลานานอีกกี่ชาติถึงจะสำเร็จตามเป้าหมาย เพราะวัฏฏสงสารมันไม่ใช่ของเล่น ที่เราจะกะ ๆ เอาได้ว่าอีกกี่ชาติจึงสำเร็จ โดยที่แท้แล้ว แค่ตายเกิดอีกเพียงชาติเดียว ก็น่ากลัวมากพอแล้ว จึงไม่คิดว่าชาติหน้าอยากเป็นอะไร หรือชาตินี้อยากจะบรรลุขั้นไหน ซึ่งในความจริง ตอนนี้ทำได้เพียงมองดู และพยายามปรับปรุงตัวเองเท่านั้น แม้แต่โสดาบันก็ยังไม่ใกล้เคียง แม้แต่ผู้มีศีลเพียบพร้อมก็ยังไม่ได้ แต่มันเป็นสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นจริง ๆ ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นเพราะเราหรือเพราะใครก็ตาม เพียงแต่คิดว่า เรื่องแบบนี้ทำคนเดียวไม่มีวันสำเร็จ หากใครทำให้เราบรรลุจุดประสงค์ได้ หรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียง เราก็จะสนับสนุนเต็มที่ หรือหากทำแล้วมันยังไม่ได้ ก็จะพยายามต่อไปไม่มีวันยอมแพ้ ไม่อยากเห็นผู้มีปัญญามานั่งขัดแย้งกัน เพราะมันหาประโยชน์อะไรไม่ได้เลย ผู้คนอีกมากยังเป็นทุกข์ ผู้คนอีกมากยังไม่รู้ ผู้คนอีกมากยังประมาท ใครช่วยกันได้ทางไหนก็ช่วยกันไป ตามความถนัดของตน เราจะไปนิพพานเพียงคนเดียว หรือจะไปแค่หยิบมือเดียว ไม่มีใครไปห้ามได้ เพียงแต่ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ เราก็ช่วยกันได้ เพียงแค่มีความตั้งใจจริงเหมือน ๆ กันก็พอ เพราะวัฏฏสงสารมีความโหดร้าย เพราะโลกนี้ไม่ใช่อะไรที่อยู่ได้อย่างง่ายดาย ความยากปรากฏอยู่ในทุกที่ทุกแห่งในภพสามนี้ เราจึงต้องร่วมมือกันให้มากที่สุดเท่านั้น จึงจะพอเป็นไปได้ อย่างน้อย ๆ ก็ระงับอารมณ์และกิเลสของตนได้ให้มากที่สุดก็ยังดี เพื่อไม่ให้เพิ่มปัญหาแก่คนอื่นมากไปกว่านี้ นี่คือสิ่งที่ผมพยายามทำให้ได้อย่างน้อยที่สุดในตอนนี้ จากคุณ : พักผ่อน เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 13:21:38

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าเอาความอยาก โสดาบันอย่างต่ำ สกิทาคามีอย่างสูงค่ะ อีกสองยังมิอาจเอื้อม แหะๆ แต่ทุกวันนี้ที่ปฏิบัติอยู่ ไม่ได้ตั้งหวังว่าต้องถึงนะคะ เอาแค่คลายทุกข์ มีสติพอที่จะไม่เผลอทำบาป และลดโทสะ โมหะ โลภะตัวเองให้ได้อย่างที่ต้องการก็พอแล้วค่ะ จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 13:24:15

ความคิดเห็นที่ 32 ความอยากจริงๆ คือนาคามี อยากตัดเรื่องรักกับโกรธให้เด็ดขาดเลย เพราะสองอย่างนี้กำลังเป็นมารตัวเอ้ในเวลานี้เลยค่ะ แต่มันง่ายกันซะที่ไหนล่ะ ยิ่งตอนนี้มารเยอะเหลือเกิน จากคุณ : Friday13th เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 16:19:04

ความคิดเห็นที่ 33 หวังนิพพานครับ  แต่กดเลือกโสดาบันไป เพราะตั้งใจไว้ว่า จะเอาให้ถึงโสดาบันเป็นขั้นต่ำ จะถึงไม่ถึงในชาตินี้ไม่เป็นไร ไม่อยากเกิดแล้ว อยากไปถึงสุดทางแห่งทุกข์เสียที ตั้งใจไว้ว่า จะทำทาน รักษาศีลตามฐานะ ศีลห้าเมื่อเป็นฆารวาส ให้บริสุทธิ์ แล้วหมั่นเจริญภาวนาไปเรื่อยๆ  จะถึงไหน ก็เอาทั้งนั้น  มนุษยภูมิเป็นขั้นต่ำก็พอ จะกลียุคมั้ย ยังไง ก็ตามแต่ ไม่สน หากเราตั้งใจแน่วแน่ เป็นคนดี จะกลัวอะไร : ) จากคุณ : OnceWakeUp เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 20:07:27

ความคิดเห็นที่ 34 หวังนิพพาน และเบื่อการเกิดเต็มที่แล้ว ถ้าไม่ติดอะไร คงเลือกเป็นพระอรหันต์ชาตินี้ นิพพานไปเลย GG แต่ว่าพอดี ติดที่เราต้องสร้างบารมีเพื่อผู้อื่นด้วย ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองอย่างเดียว ก็เลยต้องทนอยู่ เอาตัวรอด สร้างบารมีต่อไป และหวังว่าคงประคองตัวสร้างบารมีเช่นนี้ไปได้ทุกชาติ ตราบถึงชาติสุดท้าย ป.ล.สังเกตคนสมัยก่อน ปรารถนาช่วยทั้งตนทั้งผู้อื่นให้พ้นทุกข์กันก็เยอะ แต่คนยุคปัจจุบัน มองคนอื่นน้อยลงหรือเปล่า ถึงเห็นมีแต่คนเอาตัวเองให้พ้นทุกข์ก่อน จากคุณ : ABP@BDZ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:25:49

ความคิดเห็นที่ 35 เราว่า  คนสมัยก่อน   ก็ต้องเอาตัวเองก่อนเหมือนกันนะ   ต้องเอาตัวเองให้รอดเสียก่อน   ให้พ้นทุกข์เสียก่อน   ค่อยไปช่วยคนอื่น มิฉะนั้น  จะกลายเป็น  คนตาบอดจูงคนตาบอด   จูงไปจูงมา  จะขึ้นสวรรค์หรือลงนรก  ก็ยังไม่รู้เลยนะเออ อย่างหลวงปู่มั่น   ท่านก็ปฎิบัติจนรู้้แจ้งเสียก่อน  จึงสอนผู้อื่น  :) จากคุณ : annyfatgirl เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:56:18

ความคิดเห็นที่ 36 สร้างเหตุปัจจัย สะสมบุญบารมี เพื่อไปถึงฝั่งที่ปลายทางให้ได้ หากยังคิดว่าตัวเราจะไปขั้นนั้นขั้นนี้ก็เท่ากับยังไม่ละสักกายทิฏฐิที่มีตัวเรา ของเรา ทำให้ไม่มีทางพ้นปุถุชนไปได้ ติดอยู่ตรงมีตัวเรานี่แหละ จากคุณ : หมาชายหาด เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 11:19:08

ความคิดเห็นที่ 37 คำถาม คือ  "ชาตินี้" มิใช่หรือ  เห็นผลโหวตแล้วงงนิดๆ ของเราขอสะสมไปเรื่อยๆ ค่ะ ทำทุกวันให้ดีที่สุด เราตั้งใจอยู่แค่นั้นจริงๆ เป้าหมายสูงสุดในชาติสุดท้าย ซึ่งไม่รู้ว่าจะคือชาติไหน ก็คือ บรรลุมรรคผลนิพพาน จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 12:42:40

ความคิดเห็นที่ 38 สั่งสมบุญไปเรื่อยๆค่ะ ไม่รีบร้อนค่ะ จากคุณ : nujuli3 เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 12:57:17

ความคิดเห็นที่ 39 ปรารถนาพุทธภูมิ เท่านั้น จ้า จากคุณ : เฮียต่วย (thuay) เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 19:40:06