ความคิดเห็นที่ 1 (ยอห์น 8:31-32) 31 พระเยซูเจ้าตรัสกับชาวยิวที่เชื่อถือในพระองค์ว่า “ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง 32 ท่านจะรู้ความจริง และความจริงจะทำให้ท่านเป็นอิสระ” จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 23:43:50

ความคิดเห็นที่ 2 ความจริงทำให้เราเป็นอิสระ เป็นคำสอนของพระเยซูคริสตเจ้า ที่เราสามารถนำมาประยุกต์ ในชีวิตของเราได้ตลอดเวลา การเป็นคนที่มีชนักติดหลัง หรือวัวสันหลังหวะ อยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถนำพาความสุข มาให้กับเราได้ ซึ่งเราก็ทราบอยู่แล้ว มนุษย์ทุกคนเป็นคนอ่อนแอ เราพลาดพลั้งได้เสมอ แต่อย่ายอมให้ความพลาดพลั้งนั้น มันครอบงำใจเรา ความอ่อนแอและความพลาดพลั้งของมนุษย์ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ และเราแต่ละคน ก็จะต้องเข้าใจธรรมชาติประการนี้ ของผู้อื่นด้วย เราจะสามารถเข้าใจผู้อื่นได้ง่ายขึ้น จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 23:51:24

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าเราลองคิดถึงตัวเราเอง เวลาเราพลาดพลั้งทำผิด เรารู้สึกอย่างไร เมื่อมองไปที่ผู้อื่น เราคงอยากจะให้ทุก ๆ คน ที่อยู่รอบตัวเรา เป็นต้นคนที่เรารักมากที่สุด เข้าใจถึงความอ่อนแอของเรา และให้อภัยเรา มิใช่หรือ พระวาจาของพระเจ้า เตือนใจเราว่า “เราต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติอย่างไรกับเรา เราจงปฏิบัติอย่างนั้นกับเขาเถิด” เมื่อเราพิจารณาถึงเรื่องนี้ พ่อคิดว่า การให้อภัยผู้อื่นด้วยใจกว้าง เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ คนที่พลาดพลั้งหลาย ๆ คน คงอยากสารภาพความผิดพลั้งของตน ต่อคนที่ตนรักและคนที่สำคัญสำหรับตนมากที่สุด แต่ก็ไม่กล้า เพราะท่าทีของเรา ไม่ได้แสดงออกถึง ความใจกว้างพร้อมที่จะให้อภัย จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 23:58:05

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่สำคัญ ต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว พ่อ-แม่-ลูก สามี-ภรรยา เราคงจะต้องเริ่มทำความเข้าใจ เกี่ยวกับธรรมชาติความอ่อนแอของมนุษย์ เริ่มให้อภัยและให้กำลังใจ กันและกัน ต่อความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ เสียก่อน ทำอยู่เสมอทำเป็นประจำ จนกลายเป็นความรู้สึกที่ดี ความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ในครอบครัว อย่าซ้ำเติม ในยามที่คนล้ม ไม่ประสบความสำเร็จ อยากคาดหวังกับคนอื่นมากเกินไป เพื่อหวังว่า มันจะเป็นแรงผลักดัน ให้เขาฮึดสู้ ตรงกันข้าม มันกลับกลายเป็นการเหยียบย่ำ จนเขาไม่มีแรงลุกขึ้นก้าวต่อไป ความเข้าใจและกำลังใจต่างหาก ที่เป็นประดุจ มือและอ้อมแขน ที่คอยพยุงคนที่ล้ม ให้มีกำลังใจก้าวหน้าต่อไป ความจริงใจ เป็นเรื่องที่สำคัญ ในการดำเนินชีวิตร่วมกัน การให้อภัยด้วยใจกว้าง จะเกิดขึ้นแน่ ถ้าเราดำเนินชีวิตด้วยความจริงใจต่อกัน จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 00:00:23

ความคิดเห็นที่ 5 แม้บางครั้งความพลาดพลั้ง จะเกิดขึ้นบ้าง แต่ทุกคนต่างรู้ว่า นั่นเป็นความอ่อนแอ เพราะแม้ต่างคนจะต่างเข้าใจ ถึงแก่นใจของกันและกันแล้ว แต่ถ้าขาดความจริงใจต่อกัน ความจริงจะถูกบังซ่อนไว้ ในก้นบึ้งแห่งจิตใจ มีแต่ความหวาดระแวง กลัวถูกจับได้ ไม่กล้าคุยกัน อย่างตรงไปตรงมา เมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น สภาพอย่างนี้ จะมีความสุขได้อย่างไร เพราะต่างฝ่ายต่างรู้ว่า ความลับไม่มีในโลก สิ่งที่คุยกันในที่ลับ จะถูกประกาศบนหลังคาเรือน จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 00:02:15

ความคิดเห็นที่ 6 พระเยซูคริสตเจ้า สอนให้เราปลดแอกเหล่านี้ ออกจากใจของเรา จากครอบครัวของเรา โดยให้เรา อยู่ฝ่ายความจริงและความถูกต้องเสมอ ใครอยู่ฝ่ายความจริง ก็อยู่ฝ่ายพระเป็นเจ้าด้วย จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 00:04:13

ความคิดเห็นที่ 7 พ่อเชื่อว่า ทุกคนอยากมีความสุข ในการดำเนินชีวิต ถ้าเช่นนั้น เราต้องดำเนินชีวิต อยู่กับความจริง เป็นคนเปิดเผย พยายามปลดแอกแห่งความซ่อนเร้น ออกจากใจของเรา และครอบครัวของเรา โดยมีความจริงใจต่อกัน เชื่อว่าสิ่งนี้ จะเป็นทางหนึ่ง ที่นำความสุขกลับมา สู่ตัวเราและครอบครัวของเรา พระเจ้าสถิตกับท่าน จากคุณพ่อเจ้าวัด คุณพ่อ สมชาย อัญชลีพรสันต์ วัดพระชนนีของพระเป็นเจ้า 17 ก.ค. 54 จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 00:05:01

ความคิดเห็นที่ 8 สำหรับคนที่จะ มีความสุขในทุกเวลา แล้ว ก็ไม่ต่างจากคนบ้าเท่าไร แต่สำหรับคนที่มีเป้าหมายในการดำเนินชีวิต เพื่อผู้อื่นแล้ว ความทุกข์ยาก นั้นจะให้ทักษะแก่เขาด้านการอดทนและเพียรพยายาม หลังจากทุกข์ยากมาสิบปี กับสุขสนุกสนานเพลิดเพลินมาสิบปี คุณมีความเห็นว่า ผลของมัน สร้าง หรือทำลาย คุณค่าของคน ต่างกัน ใช่ไหม สำหรับคนฉลาดในการดำเนินชีวิตแล้ว ไม่เคยให้ความสำคัญกับความสุข ไปมากกว่าความทุกข์ที่เผชิญอยู่เลย และเขารู้ดีว่าความทุกข์ยากที่พระองค์ทรงประทานมาในชีวิตเขานั้น จะทำให้เขา เป็นอิสสระจาก ความอ่อนแอได้ จากคุณ : boon-m1 เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 03:14:23

ความคิดเห็นที่ 9 ความสุข ความทุกข์ สิ่งที่น่าพอใจ ไม่น่าพอใจ ต่างก็เป็นปัจจัยภายนอกที่มา ทดลองเรา ทดสอบเรา การทดลอง เกิดขึ้นเมื่อ ความเชื่อของเรายังไม่มั่นคง การทดสอบ เกิดขึ้นเมื่อ เราคิดว่าความเชื่อของเรามั่นคงดีแล้ว ถ้าเราผ่านการทดลอง เราจะเรียนรู้ พัฒนาต่อไป ถ้าเราผ่านการทดสอบ เราก็สามารถเป็นคนที่พระใช้งานได้ ทำงานให้พระองค์ได้ เป็นสิ่งที่พระใช้สอนคนอื่นได้ แต่ขณะเดียวกัน ปัจจัยภายนอกเหล่านี้ ก็ทำให้เราสะดุดได้ ตกในบาป ลืมพระ หรือ สูญเสียความเชื่อ หลงทางละทิ้งความเชื่อ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 09:36:25

ความคิดเห็นที่ 10 วันนี้วันพระบังเกิด เย็นนี้ผมจะไปวัด จะสวดภาวนาให้ท่าน FOB  ด้วย จากคุณ : เฮโรด (Youth In Asia) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 16:01:39

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบพระคุณในความมีน้ำใจของคุณเฮโรดมากนะครับ ปีที่แล้ววันนี้ ผมมีโอกาสได้ถวายดอกกุหลาบให้แม่พระ เสียดาย ปีนี้ไม่มีโอกาสได้ไป ขอพระอวยพรให้คุณเฮโรดครับ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 16:43:24