ความคิดเห็นที่ 1 อย่าเลิยครับ มีผลกระทบแน่ๆ จากคุณ : mangwan เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 10:00:07

ความคิดเห็นที่ 2 ปัญหามีสองส่วน 1 เี่สี่ยงที่ดังจากสุเหร่า 2 เี่สี่ยงที่ดังจากสุเหร่ามากระทบหู เกิดเวทนา ใจรับไปไปปรุงแต่งเวทนา เกิดเป็นอารมณ์รำคาญหงุดหงิดใจ ทางแก้ไข 1 ลดสิ่งที่มากระทบ 1.1 เดินไปบอกให้ทางสุเหร่าลดเสียง 1.2 ไปที่อื่นระหว่างที่เขาประกอบพิธีหรือย้ายไปอยู่ที่ใหม่ 2 แก้ที่ใจ เสี่ยงสักแต่ว่าเสียง 3 ใช้สองวิธีร่วมกัน จากคุณ : romporn เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 10:03:04

ความคิดเห็นที่ 3 แก้ไขที่สุเหร่าเค้าคงไม่ชอบใจแน่ๆๆอย่างน้อยชุมชนรอบสุเหร่้า ก็เป็นแขก ลองหาที่อุดหูพอช่วยได้ หรือไม่ก็ฝึกภาวนาในใจเสียงที่ดังรำคาญนั้นจะหายไปทันทีครับ จากคุณ : พาลท้อแท้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 10:23:13

ความคิดเห็นที่ 4 เสียงดังจากสุเหร่า หรือเสียงดังจากการสวดมนต์ไหว้พระตอนเช้ามืดตามวัด หากเป็นการรบกวนก็คุยกันได้ครับ คนไทยเหมือนกัน จากคุณ : ทุกวินาที เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 10:32:17

ความคิดเห็นที่ 5 กระทู้แบบนี้ในห้องนี้ มีมาเยอะเหลือเกิน ตั้งเป็นปัญหาระดับชาติเสนอนายกปูเลยดีไหมคะ ^^ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 54 12:05:42 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 11:28:33

ความคิดเห็นที่ 6 ลองแก้แบบใหม่มั้ยครับ พอได้ยินเสียง ให้กำหนดรู้ แล้วตามสังเกตุความรู้สึกเราไปเรื่อยๆ จากคุณ : M_moshi เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 11:45:22

ความคิดเห็นที่ 7 ท่าน จขกท. บอกว่าจะอ่านหนังสือครับ ถ้าอ่านหนังสือเล่นยังพอทำเนาครับ  ถ้าอ่านหนังสือเรียน ที่ต้องใช้ความเข้าใจเยอะ(ต้องรู้เรื่องที่คิด) จะไปเจริญสติด้วยคงลำบากครับ จากคุณ : บ่าวอุดรคนโก้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 12:45:43

ความคิดเห็นที่ 8 "หรือเสียงดังจากการสวดมนต์ไหว้พระตอนเช้ามืดตามวัด หากเป็นการรบกวนก็คุยกันได้ครับ คนไทยเหมือนกัน จากคุณ : ทุกวินาที " ---------------- เสียงสวดมนต์ที่วัดตอนเช้ามืด  สวดเฉพาะในพรรษา และหลายๆวัดก็สวดเฉพาะในโรงอุโบสถหรือหอสวดมนต์ ไม่ได้ต่อออกลำโพงดังมานอกวัด แต่คงไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าเป็นเสียงสวดมนต์ตามวัด คุณสามารถไปเรียกร้องพระคุณเจ้าในวัดได้ เช่นว่าไม่้ต้องสวดออกลำโพง  แต่ถ้าหากเป็นเสียงดังตามสุเหร่าหรือมัสยิด  ขอแนะนำว่า คุณควรแก้ที่ตัวคุณเท่านั้น เช่น หาอะไรมาอุุดหู หรือต้องทำเป็นไม่ได้ยิน หรือถ้ารำคาญมากๆ ก็ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น  คุณไม่มีสิทธิที่จะไปพูดหรือขอร้องใดๆทั้งสิ้นครับ  เพราะคุณจะถูกหาว่า ไม่เคารพสิทธิเสรีภาพทางศาสนา ในทันที แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 54 14:03:31 แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 54 14:02:29 จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 14:00:40

ความคิดเห็นที่ 9 น่าเห็นใจมาก อ่านหนังสือขนาดเพื่อนคุยอยู่ข้างๆยังรำคาญเลย จากคุณ : แฟนตาแว่น เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 14:10:00

ความคิดเห็นที่ 10 สามารถบอกทางมัสยิดได้ครับ  ว่าเสียงดังกว่าเก่ามาก  ขอให้ลดเสียงให้ดังเท่าเดิมก็ยังดี แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 54 14:30:15 จากคุณ : abubilal เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 14:29:56

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ได้หรอกครับ ยิ่งตอนอยู่ที่ปัตตานี(ผมเคยลงไป) มีทางเดียวคือต้องยอมทนครับ .. เพราะเขาถือว่าประกาศให้คนแถวนั้นได้ยิน จะได้เดินมาร่วมสวด จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 14:37:10

ความคิดเห็นที่ 12 ใครอยู่ตรงกันก่อนกัน ระหว่างคุณกับสุเหร่า คนมาทีหลังทำใจด้วยฮะ เรื่องสามัญมาก ๆ จากคุณ : BrawnyCycle เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 14:37:48

ความคิดเห็นที่ 13 ความคิดเห็นที่ 8 วัดแถวบ้านผมสวดตอนตีห้าทุกวันครับ ออกเครื่องขยายเสียงได้ยินไปทั่ว ซึ่งพระท่านก็สวดไม่นานนัก ได้ยินเสียงพระสวดมนต์ตอนเช้าก็ชื่นใจ นอกจากเสียงสวดมนต์ในตอนเช้าแล้ว ก็ยังมีเสียงสวดของพี่น้องมุสลิมที่สวดตามเวลาต่างๆของเขา ก็สวดไม่นานเหมือนกัน อยู่กันอย่างนี้มานานหลายสิบปีแล้วครับ ไม่มีปัญหาอะไร ต่างคนต่างเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน จากคุณ : ทุกวินาที เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 15:02:06

ความคิดเห็นที่ 14 นี่ถ้าอยู่ในเมืองภูเก็ต หรือ เยาวราช หรือใกล้ศาลเจ้า โดยเฉพาะช่วงกินเจ ตรุษจีน หรือ แก้บน นี่คงแย่ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 54 15:40:26 แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 54 15:37:43 จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 15:37:23

ความคิดเห็นที่ 15 จะว่าไป บางทีก็ลองตั้งใจฟังเหมือนกันว่าเขาสอนว่าอะไร (ได้ยินถนัดแบบรู้เรื่องเลยทีเดียว) ตอนพูดไทยก็ฟังเข้าใจ เช่น เรื่องการตีความ ในการประพฤติตัวต่างๆ ตามหลักศาสนา  การสอนให้มีศรัทธา ......  แต่ตอนสวดเป็นภาษาอาหรับสั้นๆนี่ไม่รู้เรื่อง เรื่องทำใจ ....ทำอยู่แล้วครับ  แบบปิดกระจกให้สนิทลดเสียง ถ้าจะอยากดูหนัง ฟังเพลง หรือนอน ใครมาอยู่ก่อนนี่ไม่แน่ใจ ........คิดว่าสุเหร่าคงมาอยู่ก่อน  ส่วนที่อยู่นี่ก็เป็นสิบๆปีแล้วเหมือนกัน เรื่องสวดนี่เข้าใจนะครับ แต่เรื่องเปิดลำโพงดังขึ้นนี่ไม่เข้าใจ เพราะชุมชนมุสลิมเขาก็บริเวณเท่าๆ เดิม ไม่ได้ใหญ่ขึ้น ............คิดว่าึคงลองโทรไปบอกเขาดู  ...........ได้ไม่ได้ก็ลองดูก่อน  เรื่องเขียนจดหมายคงไม่เอา กลัวมันจะแรงไป     ส่วนไอ้ที่จะไปแจ้งทางการ อย่างตำรวจ หรือ กทม คงไม่มีประโยชน์อะไร ถึงแม้มันจะผิดกฏหมายก็เถอะ...... อย่างช่วงเดือนรอมดอน ที่ผ่านมาปีนี้ก็รู้สึกจะคึกคักเป็นพิเศษ  ....แทบจะเหมือนอยู่ในสุเหร่าไปด้วยเลย ขอบคุณทุกความเห็นครับ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 54 18:39:13 แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 54 18:08:08 จากคุณ : birdeyeview เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 18:04:21

ความคิดเห็นที่ 16 ....      ลองปรึกษาที่นี่ดูครับ นักงานตำรวจแห่งชาติ http://www.royalthaipolice.go.th/ แจ้งเบาะแสที่ 191, 1193, 1155, 1195 กระทรวงวัฒนธรรม http://www.m-culture.go.th/culture01/cindex.php โทรศัพท์ ๐ ๒๔๒๒ ๘๘๘๘ ร้องเรียน http://www.m-culture.go.th/culture01/contactus/contactus.php?lang=th สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย http://www.cicot.or.th โทรศัพท์ 0-2949-4079, 0-2949-4114 ร่วมด้วยช่วยกัน http://www.rd1677.com/index_main.php ร้องทุกข์ : http://www.rd1677.com/FM96/AddComplain.php โทรศัพท์ 1677 จส.100 http://www.js100.com/ โทร. 1137 เรื่องเล่าเช้านี้ http://www.thaitv3.com/variety/story_of_morning.html e-mail : morningtalk@bectero.com fax : 0-2262-3936 แสดงความคิดเห็น โทร. 0-2262-3444,0-2262-3480 จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 18:21:35

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องของศาสนาคุณอย่าหาเรื่องเลย  เดี๋ยวไม่ได้อ่านหนังสือ สมัยเด็กๆบ้านผมอยู่ใกล้สุเหร่าแม่บาง ห่างไม่กี่เมตร ถ้าไม่ไปสนใจเสียง มันก็ไม่ได้เข้่ามา  แต่ถ้าไปสนใจเสียงแล้วเราอาจจะไม่ชอบใจ ให้ลองคิดตรงกันข้ามกับปัจจุบัน  ว่าชอบมากเหมือนที่คนอิสลามเขาชอบ คุณอาจจะสนุกับเสียง  แล้วถ้าวันไหนเขาไม่เปิดคุณอาจจะกระวนกระวายใจ อาจจะฟังก็ได้  ทุกอย่างอยู่ที่คุณคิด จากคุณ : เต่ากินผักบุ้ง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 19:45:28

ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อก่อนตอนเรียนมหาลัยก็เคย อยู่หอพักหญิงที่ใกล้กับสุเหร่าเหมือนกันคะ ได้ยิน เสียงตามสายจากสุเหร่าทุกวันเหมือนกันคะ  แรกๆก็รำคาญ พออยู่นานๆไปก็ชินคะ สงสัยจะปรับตัวได้  อยู่จนเรียนจบหละคะ ถ้าคิดว่ามันไม่มีปัญหา มันก็ไม่เกิดปัญหา ถ้าคิดว่าไม่น่ารำคาญ มันก็ไม่เกิดลำคาญ ไม่รู้สินะ บางทีก็นึกขอบคุณสุเหร่านะ พอเค้าเปิดเครื่องขยายเสียงเรียกคน ก็เหมือน ปลุกเราด้วย ให้ลุกมาอ่านหนังสือได้แล้ว หรือลุกไปออกกำลังกายแต่เช้า อะไรแบบนี้ คิดไปในด้านบวกดีกว่าคะ  ในเมื่อต้องอาศัยอยู่ย่านนั้นแล้ว ทำใจซะ แล้วก็จะชินไปเอง จากคุณ : aoiyuki เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 19:58:40

ความคิดเห็นที่ 19 กระทู้เ้รื่องเสียงอาซานนี้ เคยมีคนตั้งไปบ้างแล้วครับ เสียงอาซานนั้น บางคนฟังแ้ล้วเพราะกินใจ บางคนฟังไม่รู้ความ ก็อีกอารมณ์นึง แต่ก็เป็นเพียงช่วงสั้นๆ แต่หากเสียงเทศน์วันศุกร์ ก็ขอแนะว่าให้ไปสนทนากับท่านอิหม่ามน่าจะดี ไม่แนะนำให้โทรไป ร้องเรียนอะไรหรอกครับ เรื่องแค่นี้ หากคุยกันดีๆ อิหม่ามก็น่าจะรับรู้ หากมองในแง่ดีก็คือ แม้แต่พระที่อยู่ในวัดตีระฆัง หรือบางมีเสียงสวดมนต์วัตรเช้าหรือเย็น ท่านก็ไม่ทราบว่าจะมีใครรู้สึกว่า รำคาญหรือไม่ เรื่องเช่นนี้ คนที่มีหน้าที่จะคิดว่ากำลังทำความดีอยู่ เช่นเดียวกันแล้ว ขอให้วางใจไว้ว่า ไม่มีใครอยากจะ แสดงความรบกวนเพื่อนบ้านหรอกครับ มีแต่คนที่เจตนาดีเป็นส่วนมาก ส่วนเรื่องเทศกาลอะไรๆ ต่างๆ มันก็นานๆ ที คุยกันดีๆ ผมเชื่อว่าท่านอิหม่ามน่าจะเข้าใจคุณได้นะครับ จากคุณ : หน้ากาก ธรรมะ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 20:18:33

ความคิดเห็นที่ 20 เคยมีคนร้องเรียน ทางนั้นเขาให้เหตุผลว่า เขาตั้งมานานแล้วคุณย้ายไปใกล้เขาเอง ร้องเรียนจนท ก็ไม่มีใครกล้าจัดการ คิดว่าต้องทนสถานเดียว หรือคุณทำสำเร็จอย่างไร เขียนกระทู้ให้ทราบด้วยนะ จากคุณ : swsrs เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 23:09:45

ความคิดเห็นที่ 21 ประเด็นคลาสสิคและอ่อนไหวมากจริง ๆ เรื่องนี้ จากคุณ : ckman เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 23:36:31

ความคิดเห็นที่ 22 ทางแก้ที่ง่ายที่สุด ซื้อสำลีอุดหูครับ ปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกายทั้งระยะสั้นระยะยาว กว่าเดินไปบอกสุเหร่าเย้อะ จากคุณ : cantona_z เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 00:38:12

ความคิดเห็นที่ 23 โหเสียงสุเหร่าไม่เท่าไหร่หรอกคุณถือว่าโชคดีแล้ว ถ้ามาเจอแบบดิฉันสิจะบ้าตาย บ้านน่ะเงียบเชียบเชียว นั่งสมาธิสบายมากๆทั้งกลางวันกลางคืน แต่ตอนจะเข้านอนนี่สิ เดินเข้าห้องนอนเสียงนังแควนกรนซะเต็มห้องทุ๊กคืน ไม่มีวันหยุดซะด้วย จากคุณ : Rinta เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 06:04:11

ความคิดเห็นที่ 24 บ้านเรามีวัดติดกับสุเหร่าเลย ตอนแรกก็มีปัญหาบ้าง เพราะเสียงตีกัน พระทำวัตร สุเหร่ามีเสียงสวด ต่อมาก็มาคุยกัน และเลี่ยงเวลาสวดให้ไม่ตรงกันค่ะ และลดเสียงไม่ให้ดังเกินไป เวลาที่วัดมีงานบุญใหญ่ๆคนเยอะๆ คนอิสลามก็มาช่วยดูแลผู้คนให้ เวลาสุเหร่าจัดงานคนเยอะๆ คนพุทธก็ไปช่วยดูแลอีกแรง แถวสุเหร่ามีที่ดูนกธรรมชาติ แต่ไม่มีที่จอดรถ ก็มาคุยกัน สรุป คือจอดรถที่วัด แล้วเดินเข้าไปดูนก ค่ะ ^^ จากคุณ : มามั่ว เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 09:56:16

ความคิดเห็นที่ 25 ^ แถวบ้านคุณมามั่ว รักสามัคคีกันดีจังเลยค่ะ น่ารักจัง คุณจขกท. บ้านใกล้ขนาดเห็นโดมนี่ แนะนำให้เดินไปบอกเค้านะคะ การที่เค้าเอาเสียงขึ้น อาจเกิดจากคนบ้านไกลกว่าคุณ บอกไม่ได้ยินก็เป็นได้ค่ะ ถ้าเราอยากให้เบาลงก็ลองไปคุยกับเค้าดูนะคะ   แต่ควรพูดเหตุผลเราดีๆ นคะ อย่าไปบอกเค้าว่ารำคาญโง้นงี้ เดี๋ยวแทนที่เค้าจะลดเสียงให้เค้าจะไม่อยากลดให้ แล้วก็ควรไปบอกให้ถูกคนนะคะ ไปถามเค้าว่าจะคุยเรื่องเสียงลำโพงคุยกับใคร เพราะถ้าคุณไปบอกคนในนั้น แต่เค้าไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจเรื่องเสียง หรืออาจเป็นแค่คนไปละหมาด   เสียงก็อาจดังเหมือนเดิมแล้วคุณก็อาจเข้าใจว่าเค้าไม่ลดให้ แต่จริงๆเกิดจากคุยผิดคนก็ได้ค่ะ จากคุณ : LuNaTicCaT เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 10:23:19

ความคิดเห็นที่ 26 นั่งสมาธิสิครับ เดี๋ยวก็จะสามารถที่จะไม่สนใจเสียงสวดได้เอง ลองดูนะครับ จากคุณ : Sawakato เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 12:40:09

ความคิดเห็นที่ 27 ไปหาซื้อที่ปิดหู หรือหาซื้อลำโพงใหญ่ๆเปิดเพลงแข่งกันไปเลยมันๆ จากคุณ : จะมาเอาอะไรกับโผ๊มมมมม เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 13:16:21

ความคิดเห็นที่ 28 น่าเห็นใจ พูดยากเรื่องนี้ ถ้าทางนู้นเห็นใจคนต่างศาสนาเขาคงเปิดไม่ดังมากหรอก จากคุณ : Ch_Chang เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 13:51:55

ความคิดเห็นที่ 29 บ้านผมอยู่ตรงรังสิต ก็มีสุเหร่านะ อยู่ใกล้ๆ กันด้วย ตอนเช้าๆ กับตอนเย็นๆ ก็ได้ยินประจำ (แรกๆ ก็สนใจตลอด เพราะเรายังไม่ชิน) แต่พอนานๆ ไปก็ไม่หยักกะใส่ใจแล้ว  เพราะเราไม่ได้เอาจิตไปผูกไว้กับเรื่องนั้น เขาก็นับถือของเขาแบบนั้น ทำใจกว้างๆ หน่อย เรื่องแค่นี้คงไม่เดือดร้อนอะไรเรามากหรอกมั้งครับ จากคุณ : IT Boys เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 17:35:51

ความคิดเห็นที่ 30 เคยบ้านอยู่ใกล้สุเหร่าเหมือนกันค่ะ ก็ไม่เป็นไร อาจจะเป็นเพราะไม่ได้ไปรำคาญอะไร (หรืออาจจะชิน ^^) ว่าไปฟังเพลินๆ ก็เพราะดีน่ะ  แต่ตอนนี้ย้ายมาอยู่ใกล้วัด ตอนมีจัดงานบวชนี่ กระจกหัวเตียงสั่นเลยค่ะ (เวลามีงานบวช เปิดเครื่องไฟซะกระหน่ำ เจ้าภาพคงคิดว่านานๆ จะบวชกันที แต่ลืมไปว่าคนแถวนั้นฟังกันประจำ)  สุดท้ายก็ทำใจได้น่ะ เพราะมันยังมีคนหลงในพิธีผิดๆ อยู่เยอะ  น้องชายเราสองคนบวช ไม่มีแห่อะไรเลย เดินแห่นาคกันเงียบๆ ในหมู่ญาติ (ตอนเดินนี่ จิตใจสงบดีแท้ เพราะเงียบ ได้ยินแต่เสียงฝีเท้า) แล้วก็มีเลี้ยงพระ เลี้ยงกันเองนิดหน่อย    อ้าว.... ยาวเลย  ไม่สามารถช่วยอะไร จขกท ได้ ^^    อย่างที่คุณ IT boys บอกนั่นแหละค่ะ ทำใจกว้างๆ จะได้อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข จากคุณ : anindita เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 19:07:10

ความคิดเห็นที่ 31 ความอดทนต่อสิ่งเร้าน้อยไปหรือเปล่าคะ ? การที่ได้ยินเสียงสวดมนต์ แม้ว่าจะต่างศาสนาก็ย่อมดีกว่าได้ยินเสียงคนกร่นด่าผรุสวาทกันนะ สมัยก่อนทั้งที่บ้านที่โรงเรียนเราติดทางรถไฟ วันๆ นึงเจอรถไฟไม่รู้ตั้งกี่รอบ แถมที่บ้านติดถนนใหญ่อีก เสียงอึกทึกกันแทบจะตลอดเวลา เราก็ไม่ได้มีปัญหากับการอ่านหนังสือมากมายอะไร คนเราถ้าใจจดจ่อ เสียงน้ำหยดจากข้างบ้านก็ยังรบกวนแหละ ทางออกที่ดีที่สุดคือการปรับสภาพจิตใจตัวเองนะ จากคุณ : Living Extreme เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 21:09:47

ความคิดเห็นที่ 32 เราเห็นใจ จขกท.นะ ถ้าดีจริง ก็ไม่ควรทำให้คนอื่นเดือดร้อน ไม่ว่าใครจะมาก่อนหรือมาหลังก็ตาม  -*- จากคุณ : ฟ้ากัมปนาท เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 11:47:28

ความคิดเห็นที่ 33 บ้านผมอยู่ใกล้วัด เวลา ๐๔.๓๐ น. - ๐๕.๑๐ น. ทุกเช้า พระที่วัดฯจะสวดมนต์ มีกระจายเสียงด้วยครับ ก่อนนู้น ยังไม่ค่อยได้ศึกษาพระพุทธศาสนา ก็มีเวทนาเป็นทุกขเวทนา อยู่มานานวัน ผมได้ศึกษาพระพุทธศาสนามากๆเข้า เดี๋ยวนี้ ก็รู้สึกดี ที่มีเสียง สวดมนต์ให้ฟังแต่เช้าตรู่ ถือว่าเราได้รับได้เรียนรู้ธรรม ได้ฟังธรรมแต่เช้าตรู่เลยทีเดียว ปกติเป็นคนที่ตื่นเช้าอยู่แล้วก็เลยไม่มีปัญหาอะไร เพื่อนบ้านที่ไม่ชอบเขาก็บ่น เช่นเดียว หรือคล้ายกับ จขกท นี่แหละครับ. จากคุณ : ยามประจำวัน เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 15:24:24

ความคิดเห็นที่ 34 เราเคยอยู่สตูล  แบบว่าใกล้ๆกับที่เขาสวดกันมากๆ  ก็แบบคุณเลย เข้ามาอ่านแบบเคยสงสัยเหมือนกันว่ามีใครเป็นเหมือนเราบ้างไหม แบบว่าเสียงสวดไม่เป็นไร  แต่จะมีเสียงประมาณเทศน์สอน  หรืออะไรสักอย่าง ที่เหมือนเสียงตะคอกเลย คล้ายๆอารมณ์ปลุกระดมทางการเมืองเลย ตามเวทีที่เขาเดินขบวน  และใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ  คนที่เคยอยู่แบบสถานที่ ที่เขาเคร่งมากๆ  ไม่ใช่ในเมือง  หรือแถวกรุงเทพฯ  บรรยากาศมันเงียบมาก ในตอนกลางคืน  แต่จะสะดุ้งกับเสียงเหล่านี้  บางทีตอนเช้าก็สะดุ้ง เพราะนึกว่าใครทะเลาะกัน  จิตตกเล็กน้อย    และเคยไปปรึกษา เพื่อนท้องถิ่น  และได้คำตอบมาดังนี้คะ ก็ให้ปรับตัว  และทำอะไรไม่ได้คะ  มันเรื่องจริงนี่นะ  ก็ขนาดโรงเรียน นักเรียนชาวพุทธมากกว่า  แต่ทั้งโรงเรียนต้องยกเลิกเนื้อสัตว์ต่างๆ มาใช้วิธี  กินอย่างชาวอิสลาม  เพราะเหตุว่า  ชามช้อนจะปนกันได้ ได้เห็นน้ำจิตน้ำใจของคนพุทธที่ยอมเสียสละ  เด็กๆไม่มีใครบ่น ว่าไม่ยุติธรรม  กินกันจนเบื่อไก่ไปเลย  เรื่องนี้เลยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้องอดทน  และวิธีก็ไม่มีอะไรนอกจากอดทน  แล้วจะชินไปเอง พอนานเข้าอะไรที่เราไม่ไปใส่ใจ  มันก็กลายเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง ที่เราไม่ได้ไปหยิบยก  มาตรึก  มานึก  เป็นอารมณ์ เรานับถือ  และชื่นชม  ชาวพุทธที่อยู่ในดินแดนของศานาอื่นๆมาก เพราะชาวพุทธที่นั่น  ไม่เคยเรียกร้อง  ไม่เคยขออภิสิทธิ์  การกินอยู่ หลับนอน อะไร  และพวกเขา  ก็รักกันดี  ที่เห็นขัดแย้งก็แค่คนกลุ่มเล็กๆเท่านั้น แต่สามารถเป็นข่าวออกสื่อได้  ส่วนขาวบ้าน  เด็กๆ  ต่างศาสนาก็รักกัน อะไรอดทนได้ก็ทำก่อนนะคะ  แต่เป็นที่รู้กันว่า  การขอร้องอะไรแบบนั้น มันไม่เป็นผลดี  พูดไม่ได้จริงๆ จากคุณ : goodsthailand เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 15:59:22

ความคิดเห็นที่ 35 ยังดีกว่าบ้านผม ได้กลิ่นเผาศพ จากวัดใกล้ๆ จากคุณ : DEEC (DEEC) เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 17:05:37

ความคิดเห็นที่ 36 อืม... นึกว่าจะเจอแต่ มัสยิดซะอีก วัดส่งเสียงดังรบกวนแต่เขตไม่แก้ไข! รำคาญวัดจำปา วัดเรไร กับ วัดมณฑป มาก ชอบเปิดลำโพงเสียงดัง ร้องเรียนเขตก็ไม่ได้ผลบอกว่าเปิดธรรมะบ้าง เปิดเสียงทำวัตรเช้าบ้าง แล้วที่เปิดเพลงระนาดนิ๊งๆหน่องๆกับเพลงแหล่เนี่ยเพื่ออะไร วัดเรไรนี่เป็นประจำไม่ใช่วันพระก็เปิด เมื่อเช้านี้ได้ยินตั้งแต่ตี 4 กว่าๆ เป็นเสียงคนเหมือนท่องบทสวดอะไรซักอย่างน่ารำคาญมาก ช่างทำลายพุทธศาสนาทางอ้อมด้วยวัฒนธรรมการใช้เสียงแบบผิดๆได้ดีเหลือเกิน ไม่มีสามัญสำนึก เพื่อนเคยบ่นให้ฟังเรื่องบ้านอยู่ใกล้มัสยิดแล้วต้องรำคาญเสียงละหมาดที่ออกลำโพงดังมากๆ เรายังบอกเลยว่าบ้านเราไม่มีเรื่องแบบนี้อยู่ใกล้วัดสงบสบาย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ววัดต้องการเผยแผ่พระธรรมด้วยเครื่องขยายเสียง ท่านเทพโมลีเจ้าคณะอำเภอก็ช่วยอะไรชาวบ้านไม่ได้ วันก่อนเจ้าอาวาสวัดจำปายังอ้างชื่อออกลำโพงว่าได้รับมอบหมายจากพระเดชพระคุณองค์นี้ให้ทำการอบรมในกิจกรรมบางอย่าง สงสัยอีกหน่อยทุกวัดในตลิ่งชันคงใช้แต่ลำโพงเสียงเปิดแข่งกันทุกวัน สนุกจริงๆ ขนาดมีคนร้องเรียนตั้งหลายคนเขตยังไม่สนใจ อ้างแต่ว่าสอบถามคนในพื้นที่แล้วไม่มีใครได้รับความเดือดร้อน ก็คนแถวนั้นเค้าไม่ได้ยินเค้าก็ไม่เดือดร้อน แต่คนที่ได้ยินเค้าร้องเรียนพวกคุณกลับไม่สนใจ บางคนที่เดือดร้อนพอคุณไปถามก็ไม่พูดความจริง แต่ข้อเท็จจริงคือมีการกระทำเช่นนี้เกิดขึ้นจริงๆใช่หรือไม่ มีผู้ร้องเรียนทาง webboard เพราะเค้าไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นมารศาสนาแล้วไปมีปัญหากับวัด แต่พวกคุณที่เป็นเจ้าหน้าที่เขตกลับไม่สนใจ สงสัยต้องไปร้องเรียนกับผู้ว่าหรือไม่ก็นายกละมั้งถึงจะได้รับการแก้ไข โดย : คนตลิ่งชัน [58.9.2.49] วันที่ 9 ก.ย. 2553 14:31:33 น. http://203.155.220.239/subsite/index.php?strOrgID=001055&strSection=webboard_view&intPostID=10381 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 17:20:40

ความคิดเห็นที่ 37 เราแนะนำ  ให้ซื้อที่อุดหูในร้านขายยา  มันจะเป็นก้อนขุ่นๆ  เอามาปั้นเป็นก้อน  อุดเสียงได้ดีมากเลย  เราว่าคงต้องทำใจนะ  เรางั้นเขาถึงว่า เจองูกับเจอแขก ให้ตีแขกก่อน จากคุณ : nuch_tre เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 20:46:55

ความคิดเห็นที่ 38 ผมว่ากระทู้นี้จะต้องยาว 555 จากคุณ : spitfireboy เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 21:13:21

ความคิดเห็นที่ 39 แขกตี๋กันเลยทีเดียว จากคุณ : เขียนบน Nokia 3310 (ยิงเสียบสามเหลี่ยม) เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 21:14:26

ความคิดเห็นที่ 40 ^^ นั่นแขกโพกหัวนะครับ บางคนก็น่าจะตีแขกก่อน หรือจับงูไปมัดคอแขกจริงๆ จากคุณ : ทุกวินาที เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 21:18:34

ความคิดเห็นที่ 41 .....เข้ามาแซว ยกตัวอย่างความเลวของคนอื่นมาเป็นข้ออ้างในการทำความเลวของตัวเอง ทำเพื่อจะได้เลวต่อเหรอครับ ?? เมื่อไร ตรรกะความคิดนี้จะหมดไปซักที เมื่อมีคนเดือดร้อน ควรช่วยแก้ไขดีกว่า ดีกว่าจะมาอ้างว่า พวก "คุณ" บางคนก็ทำแบบนั้น พวก "เรา" ทั้งหมดเลยทำได้ จากคุณ : แมงกุ๊ดจี่ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 07:27:16

ความคิดเห็นที่ 42 ใจเขาใจเราครับ   วิธีแก้มีหลายวิธี แต่แนะนำอย่าไปบอกกับทางสุเหร่าเลยครับ เดี๋ยวจะผิดใจกันป่าวๆ เพราะเรื่องความศรัทธานั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน http://www.esafetythailand.com/product-th-613640-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87.html ลองซื้อไปใช้ดูครับ อาจจะดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย จากคุณ : เจตบุตร เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 08:18:01

ความคิดเห็นที่ 43 กระทู้ขัดตาทัพนะ........ฮา จากคุณ : คนแปลกหน้าในโลกดุนยา เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 08:47:16

ความคิดเห็นที่ 44 ที่บ้านผมอยู่มาต้องแต่เกิดเลบ  . . . หลังบ้านเป็นวัด ด้านซ้ายถัดไปสัก ๒๐ เมตรเป็นศาลเจ้าอันนี้ตอนเด็กๆวิ่งเล่นประจำ ติดกับศาลเจ้าเป็นสุเหร่า หน้าบ้านติดถนนใหญ่รถทัวน์วิ่งทั้งวันทั้งคืน แต่ก่อนตอนผมอยู่บ้านตอนเช้าได้ยินเสียงระฆังตอนเช้า ฟังพระสวดมนต์ ตอนเย็นๆฟังเสียงสวดจากสุเหร่า ชอบฟังเพราะดีแต่ว่าแต่ก่อนแบกลัวนิดหนึ่งเสียงหน้ากลัว ส่วนถ้าเจอช่วงเทศกาลของศาลเจ้าล่ะก็สนุกสนานเลยทีเดียวทั้งประทัด เสียงงิ้ว กลิ่นควันธูป อันนี้สุดยอดเป็นพิเศษเลย              แต่ว่าถ้าที่ใหนมีงาน ที่บ้านผมไปช่วยหมดแหละครับ ไม่สนว่าศาสนาไหนอย่างไรเพราะว่าเราอยู่ไกล้ๆกันมีอะไรพอช่วยกันได้ก็ช่วยกัน อันไหนพอให้อภัยกันได้ก็ให้อภัยกัน เพราะว่าสังคมจะเป็นสุขได้ก็ด้วยความมีไมตรีจิตต่อกัน แค่นั้นผมว่าก็มีความสุขแล้วครับ จากคุณ : ช้างป่าเข้ากรุง เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 10:32:47

ความคิดเห็นที่ 45 ข้ามาอ่าน เห็นได้ว่าบางท่านน่ารักมาก แต่ก็มีคนในห้องศาสนาหลายท่านมีอคติกับเขาอยู่ จากคุณ : เพราะคุณคนเดียว เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 10:37:21

ความคิดเห็นที่ 46 ถ้าเป็นเราคงโทรไปบอกเขาก่อน หาเหตผลที่สมควร   ถ้าไม่ได้ผลก็ต้องมาหาทางแก้ไขทางด้านตัวเอง ขอให้ผ่านปัญหาไปได้นะคะ จากคุณ : มังคุดม่วง เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:44:52

ความคิดเห็นที่ 47 เรื่องนี้แม่ผมเล่าให้ฟัง ผมเด็กๆ อยู่ตอนนั้น ทำหนังสือเป็นเรื่องเป็นราว เนื้อหานุ่มนวลหน่อย พร้อมลายเซ็นคนแถวๆ บ้านคุณจำนวนหนึ่งน่าจะพอได้นะครับ เพราะแถวบ้านผมก็เคยมีเรื่องทำนองนี้ ตั้งแต่เด็กๆ ที่แถวนั้นเดิมทีเป็นของชาวมุสลิมด้วยซ้ำ แต่พอมีหมู่บ้านของผมขึ้นมา เลยทำให้ชุมชนมุสลิมดูเล็กลงไป วันนึงก็มีคนถือจดหมายมา เนื้อหาก็ขอความร่วมมือเบาเสียงสวดลงหน่อย สวดไรไม่ทราบครับแต่สวดทุกเย็น (อาจจะมากกว่านั้นแต่ผมได้ยินแค่ตอนเย็นกลับจากโรงเรียน) ให้คนในหมู่บ้านเซ็น แม่ผมก็เซ็นไปเพราะมันรบกวนจริงเค้าว่าแบบนั้น หลังจากนั้นไม่กี่วันแม่ก็บอกเสียงสวดก็หายไปเลย ได้ความว่าเปลี่ยนลำโพง มัสยิดอยู่ตรงปากทางพระรามเก้าตัดใหม่ เส้นพระรามเก้าตัดรามคำแหงน่ะครับ เค้าใช้ลำโพงแบบแรงๆ เพื่อให้ชุมชนมุสลิมในหมู่บ้านผม ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ราชมังคลาได้ยิน 0_0 ไกลมากครับ คุยได้แต่ต้องระวังเนื้อหาหน่อยมั้งครับของแบบนี้ จากคุณ : มาเลซานี่ตกงาน เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:53:51

ความคิดเห็นที่ 48 บ้านผมอยู่จว.ปัตตานี บ้านอยู่ติดศาลเจ้า (รั้วเดียวกัน) เวลาศาลเจ้ามีงานประจำปี มีเสียงดังกว่าปกติ ใจนั้นไม่ชอบเท่าไหร่ ก็พยายามคิดว่า นานๆมีซักครั้ง จึงพยายามทำใจให้เคยชิน เวลามีเสียงประทัดดังๆ บางครั้งนอนๆอยู่ก็ตกใจ นึกว่า มีระเบิด ก็พยายามทำใจแยกให้ออกว่า นี่คือเสียงประทัด หรือระเบิด ไม่ไกลกันเท่าใดนัก มีมัสยิด อยู่ 4-5 แห่ง เปิดลำโพงแข่งกัน ได้ยินไปไกล พยายามตั้งใจฟัง เออ..มันก็ไพเราะดีเหมือนกัน แม้จะฟังไม่รู้เรื่องก็ตาม บางทีก็ขำตรงที่ ไม่ยอมเริ่มต้นพร้อมๆกัน ตรงนี้ขึ้นที ตรงโน้นที ก็หลอนๆบ้างเป็นเวลา ยิ่งเวลาเคลิ้มช่วงตี4 ตี5 นี่ละ เสียงชัดเจนมาก นึกสงสัย เลยถามจนท.เทศบาลว่า เวลาวัดทำวัตรเช้า ไม่มีเสียงตามสายบ้างหรือไร จนท.ตอบกลับมาว่า "มี" แต่เสียงเบากว่าอีก4-5 มัสยิดนั่น ตนเองไม่แน่ใจ ลองตั้งใจฟังดีๆ มีจริงนะ แต่เบามาก ไม่ตั้งใจก็ไม่ได้ยิน ในทางกลับกัน หากเจ้าของกระทู้ มาอยู่แถวบ้านผม คงแย่แน่ๆ แต่ผมทำใจให้ชินนะ รู้ว่า หากตนเองเรียกร้องไปในสถานการณ์แบบนี้ มันคงแย่ไปกว่านี้แน่ๆ ทนได้ก็ทน มองข้ามได้ก็มองข้ามไป พยายามมองโลกในแง่ดีด้วยซ้ำไปว่า ดีเหมือนกัน มีเสียงบอกเวลาให้ได้ยินทุกวันๆละ5ครั้ง ดีเหมือนกันที่ตอนนี้ ตนเองแยกเสียงดังๆได้แล้วว่า นี่คือเสียงจากประทัด เสียงจากระเบิด เสียงจากอาก้า เสียงจากเอ็ม16 แต่ผมเข้าใจจขกท.นะครับ ว่าคุณทุกข์ คุณรำคาญยังไง แต่ก็อยากให้มองผ่านบ้าง มันจะได้ไม่ทุกข์มากนัก จากคุณ : ขนอุย เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 18:33:51

ความคิดเห็นที่ 49 กระทู้ ร้องเรียนว่า  บุคคลที่หนึ่ง ส่งเสียงทำความเดือดร้อนให้บุคคลอื่น เลยไปค้นข้อมูลมาว่า บุคคลที่สาม ก็ส่งเสียงทำความเดือดร้อนให้บุคคลอื่นด้วย สรุปเลย แข่งกันส่งเสียงดังกันต่อไป หรือ ? ? ? . จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 19:24:08

ความคิดเห็นที่ 50 ยกตัวอย่างความเลวของคนอื่นมาเป็นข้ออ้างในการทำความเลวของตัวเอง ทำเพื่อจะได้เลวต่อเหรอครับ ?? เมื่อไร ตรรกะความคิดนี้จะหมดไปซักที เมื่อมีคนเดือดร้อน ควรช่วยแก้ไขดีกว่า ดีกว่าจะมาอ้างว่า พวก "คุณ" บางคนก็ทำแบบนั้น พวก "เรา" ทั้งหมดเลยทำได้ จากคุณ : แมงกุ๊ดจี่     เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 07:27:16   ถูกใจ : AvijJA   จขกท. เค้าก็บอกว่าแค่เฉพาะแถวบ้านเขา ที่เปิดดังลั่นขนาดนั้น  เขาไม่ได้หมายถึงมัสยิดทั้งหมดทั่วประเทศไทยนี่  ในส่วนของพวกคุณ ฉันก็แค่เอามาเปรียบให้ดูบ้าง  ไม่ได้หมายรวมนี่ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 19:49:26 แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 19:47:28 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 19:40:30

ความคิดเห็นที่ 51 เคยเดินผ่านได้ยินเหมือนกัน พึมพำอะไรไม่รู้ น่ารำคานมาก - -* จากคุณ : kittenishly เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 02:08:38

ความคิดเห็นที่ 52 อ่านความเห็นดูมีหลายทางเลือกเลยนะคะ เอาซักอย่างนึง แต่อย่าไปบอกให้ทางสุเหร่าลดเสียงเลยค่ะ มันจะไม่งาม จากคุณ : airtwoBS เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 08:49:44

ความคิดเห็นที่ 53 ผมเข้าใจคุณ จขกท ครับ ปกติผมไม่เดือดร้อนหรอก แต่มีอยู่วันนึงผมต้องแก้งานถึงเช้า กำลังเครียดเลยครับ มาเจอเสียงสวดของพี่น้องมุสลิมอีก รำคาญสุดๆไปเลยครับ ผมก็ไม่เข้าใจนะว่า เปิดแต่พอควรไม่ได้หรือไง แต่เสียงจากวัดก็มีนะครับ เป็นเสียง ตีระฆัง เม้งๆๆๆ เม้งๆๆๆ แล้วก็เงียบไป จากคุณ : Kidnap Me Plz เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 17:29:27

ความคิดเห็นที่ 54 งานวัดบ้านเราก็ดังนะ แต่ไม่ทุกวัน จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 20:46:29

ความคิดเห็นที่ 55 สงสัย สมัยก่อนที่ยังไม่มีลำโพง ไม่มีไฟฟ้าใช้ เขาทำยังไง จากคุณ : รีบเก็บของ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 00:22:00

ความคิดเห็นที่ 56 หลาย คคห. ดูท่าทาง ไม่อยากให้ไปยุ่งกับต้นกำเนิดเสียงเลย  ให้หาวิธีป้องกันตนเองดีกว่า จะ เกรง หรือจะ กลัว  อะไรอะไร  ก็ไม่ทราบ แต่สรุปโดยรวมต้นกำเนิดเสียง คงจะเปนจำพวก Untouchable PERSON  ในสังคมนี้ไปซะแล้ว จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 08:01:01

ความคิดเห็นที่ 57 เปรียบเทียบเพื่อ.... จากคุณ : โปรยปราย เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 10:56:18

ความคิดเห็นที่ 58 ถึง Ms.Kohlanta จากประโยค "จขกท. เค้าก็บอกว่าแค่เฉพาะแถวบ้านเขา ที่เปิดดังลั่นขนาดนั้น เขาไม่ได้หมายถึงมัสยิดทั้งหมดทั่วประเทศไทย" แค่ตอบคำถามนี้ก็พอว่า "มัสยิดทั้งประเทศ...มีกี่มัสยิดเปิดลำโพงกระจายเสียงสวดไปชุมชนรอบข้าง? วัดทั้งประเทศ...มีกี่วัดที่เปิดลำโพงกระจายเสียงสวดไปชุมชนรอบข้าง?" เสียงที่เปิดดังจนได้ยินไปไกลนั้น...คนที่อยู่รอบๆย่อมได้รับผลกระทบอยู่แล้ว ส่วนดังจนเดือดร้อนรำคาญหรือไม่นั้น...ขึ้นอยู่กับปัจจัยในตัวบุคคลแต่ละคนแล้วว่าเมื่อสัมผัสกับเสียงที่ความดังระดับนั้นแล้วจะรู้สึกเช่นไร หากมีศรัทธาเป็นทุน ฟังรู้เรื่อง...เสียงนั้นย่อมไพเราะเสนาะหู หากแม้ไม่ศรัทธา แต่รู้จักปล่อยวาง...เสียงนั้นแม้กระทบหูแต่ย่อมไม่ระคายใจ หากแม้ไม่ศรัทธาและไม่อาจตัดใจ...เสียงนั้นย่อมสร้างความเดือดร้อน...เป็นธรรมดา ผมก็แค่เอามาเปรียบให้ดูบ้าง  ไม่ได้หมายรวมเหมือนกัน จากคุณ : ผ่านมาแซว (ไผ่แผ่วพริ้ว) เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 11:12:30

ความคิดเห็นที่ 59 วันนี้วันศุกร์ที่จะมีเทศน์กะว่าจะโทรไปซักที  .....ว่าจะรอฟังให้มันชัดๆ ด้วยใจเป็นธรรมเสียก่อน เอาให้มันเต็มๆ ไปเลย  ว่าขนาดไหน จะยังโทรไปหรือเปล่า .....สรุปว่าวันนี้ เขาเบาเสียงไปแล้วละครับ  ถ้าไม่ตั้งใจฟังก็ไม่ยิน  เปิดหน้าต่างออกได้ยินแค่คนพูดแว่วๆ   แต่ไม่รู้ว่าพูดอะไร  ...แบบนี้ ค่อยยังชั่วหน่อย (ของเดิมเหมือนมายืนพูดอยู่ข้างหน้าต่าง  ....ที่ปิดกระจกไปแล้ว) ไม่รู้ว่ามีคนอื่นๆ ที่เขาเดือดร้อนช่วยสงเคราะห์ไปบอก  หรือเขาคิดกันเอง .....รอดไปทีเรา  ...หลีกวจีกรรมไปได้  ํำYes ! จากคุณ : birdeyeview เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 12:43:53

ความคิดเห็นที่ 60 เสียงประทัด กับ เสียงสวด ใครดัง น่ารำคาญกว่ากันหนอ? จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 14:18:29

ความคิดเห็นที่ 61 ^ ^ ผิดรูปไปหน่อย   ใครอยู่ภูเก็ตนะ โดยเฉพาะ " คืนส่งพระ " คืนสุดท้ายเนี่ย ไม่ต้องทำอะไรกันเลย สงครามกลางเมืองจนเกือบหัวรุ่งเลยทีเดียว หากเกิดอยากจะร้องเรียนก็ไม่รู้ต้องโทรร้องเรียนใครเหมือนกัน??? อย่างนี้ไม่เป็นประเด็นใช่ไหม? อคติชนทั้งหลาย แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 54 14:28:42 จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 14:25:38

ความคิดเห็นที่ 62 ใกล้เข้ามาแล้วนี่คะ เทศกาลนี้ จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 15:15:34

ความคิดเห็นที่ 63 บ้านอยู่ต้นซอยข้างบ้านผมเปิดวิทยุเสียงดัง ก็เลยเอาไปบ่นกับเพื่อนว่าเค้าเปิดเพลงเสียงดัง เพื่อนคนที่ 1 : เอาหน่าเพื่อนบ้านกัน อะไรนิดหน่อยก็วางๆกันบ้าง พึ่งพากันดีกว่า เพื่อนคนที่ 2 : (ไม่พอใจอย่างแรง) ทำไมไม่มีความเกรงอกเกรงใจกันบ้าง เพื่อนคนที่ 3 : (พอดีรู้จักกับคนข้างบ้าน) ว่ากลับไปว่า ทีเพื่อนคุณเปิดเพลงเสียงดังอยู่ท้ายซอยทำไมไม่เอามาเป็นประเด็นบ้าง ตลกดีนะครับ โกรธไปโมโหไปก็ได้ได้ช่วยแก้ปัญหา และคนที่เค้าเอามาบ่นเค้าไม่อยู่ท้ายซอยเค้าก็ไม่ได้เดือดร้อนกับปัญหาท้ายซอย และเค้าไปบังคับคนอื่นไม่ได้ด้วย(อาจจะมีไปเตือนกันบ้าง) สรุปเพื่อนคนที่ 2 และที่ 3 ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาใดๆเลย กับเพื่อนคนที่ 1 ที่ช่วยแนะแนวทางการปล่อยวางได้ จากคุณ : โปรยปราย เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 15:17:21

ความคิดเห็นที่ 64 คคห.61 ดังเฉพาะงานเทศกาล ไม่ใช่หรือ??? จากคุณ : HINTCY เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 17:50:34

ความคิดเห็นที่ 65 #58 -----ส่วนดังจนเดือดร้อนรำคาญหรือไม่นั้น...ขึ้นอยู่กับปัจจัยในตัวบุคคลแต่ละคนแล้วว่าเมื่อสัมผัสกับเสียงที่ความดังระดับนั้นแล้วจะรู้สึกเช่นไร หากมีศรัทธาเป็นทุน ฟังรู้เรื่อง...เสียงนั้นย่อมไพเราะเสนาะหู หากแม้ไม่ศรัทธา แต่รู้จักปล่อยวาง...เสียงนั้นแม้กระทบหูแต่ย่อมไม่ระคายใจ หากแม้ไม่ศรัทธาและไม่อาจตัดใจ...เสียงนั้นย่อมสร้างความเดือดร้อน...เป็นธรรมดา ----- ผมชอบข้อความนี้จัง มันแสดงให้รู้ว่า การดูจิต ดูใจตัวเองนั้น ใช้ได้กับคนบางกลุ่ม คนหลายคนในสังคม ต้องการสิทธิพื้นฐานบางอย่าง  ก็พึงสามารถกระทำได้ และก็ขอขยายเพิ่มว่า ในทางพุทธนั้น วาทะกรรม "ดูจิต ดูใจ" ตัวเองนั้น มักจะถูกเอามา กระแหนะกระแหน กรณีเกิดการกระทำ ที่เป็นในเชิงของการเรียกร้องตามเหตุปัจจัยของชาวพุทธ เช่นนี้ แล้วพุทธศาสนา ไม่ใช่ศาสนาที่ระบบแ้ก้ไขปัญหาเพียงแค่ จิตใจของคนใดคนหนึ่งเท่านั้น แต่ยังมีมิติของ การแก้ไขปัญหา จากภายนอกอีกด้วย จากคุณ : หน้ากาก ธรรมะ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 22:37:08

ความคิดเห็นที่ 66 โดยส่วนตัวไม่อาจจะทราบได้ว่า จำนวนศาสนสถานในประเทศไทย   เช่น วัด  มัสยิด  หรือ โบสถ์ (อันด้วยปัญหาที่มาจากการสร้างความรำคาญด้วยเสียงอันดังชนิดที่ว่า ดังแบบผิดปกติ ไม่ว่าจะเนื่องด้วยการจัดกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่  หรือ พิธีกรรมของศาสนานั้นๆ  ) จำนวนของศาสนสถานของแต่ละศาสนานั้น ศาสนาใหนจะมากกว่ากัน แต่โดยส่วนตัว ในชุมชนที่ฉันอาศัยอยู่ มีหลายมัสยิด ที่มีระยะห่างของมัสยิดแต่ละทีไม่ไกลกันมากนัก มันไม่ได้สร้างความรำคาญด้วยเสียงอันดัง แบบ ผิดปกติ ตามแบบ ที่ จขกท ว่ามาแต่อย่างใดเลยค่ะ เพิ่มเติม เห็นด้วย กับ คุณ คห .58 ในกรณีเปรียบเทียบ และเห็นด้วยกับคุณ    หน้ากาก ธรรมะ เช่นกันค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 54 23:21:10 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 23:02:42

ความคิดเห็นที่ 67 อยู่มาเป็นสิบปี น่าจะชินจนไม่มีปัญหานะคะ บ้านที่เราอยู่ตั้งแต่เด็ก อยู่ติดกับวัดเลย ขนาดเดินข้ามคลองถึงกันได้ เวลาที่วัดทำอะไร ก็จะได้ยินหมด ไม่ว่าจะสวดมนต์ จะคุยกัน ฯลฯ ยิ่งเวลามีงานวัด สมัยก่อนเล่นกันเกือบสว่าง ทั้งโขน ลิเก หนังกลางแปลง 4 จอ เราใช้ชีวิตอยู่ตรงนั้น เกือบ 40 ปี  ไม่เคยมีปัญหาอะไร เพราะมันชินแล้ว ชินขนาดที่ว่า สามารถหลับข้างเวทีคอนเสริต์พี่ป้างมาแล้วด้วย เวลาใครมาที่บ้าน ก็จะพูดเหมือนกันหมดว่า "อยู่กันได้ยังไง" ก็อยู่กันได้นะ อยู่แบบมีความสุขด้วย ของอย่างนี้ มันก็อยู่ที่ใจเหมือนกันนะ ถ้าใจเรารู้สึกเฉย ๆ มันก็ไม่เดือดร้อน แต่ถ้าใจเราเพ่งโทษ ยิ่งเพ่งก็ยิ่งร้อนใจกระวนกระวาย พิมพ์มาตั้งเยอะ อยากจะบอกว่า ถ้าใจคิดว่าไม่เดือดร้อนกับเรื่องเสียงนี้ ในที่สุด ก็จะไม่เดือดร้อนจริง ๆ นะ ลองดูนะคะ จากคุณ : ประดับดาว เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 23:38:11

ความคิดเห็นที่ 68 ^ ^ เห็นด้วยครับ ฉะนั้นเราจึงอย่าเลือกเพ่งโทษกันเลย หากย้อนมองตัวเองบ้างก็จะพบว่า แต่ละพิธีกรรมของแต่ละศาสนา ก็มีผลกระทบที่ส่อไปในทางละเมิดสิทธิ์ขั้นพื้นฐานที่มักนำมากล่าวอ้างเป็นเครื่องมือกันทั้งนั้น ใช่ว่าทุกคนจะยินดี ปรีดา กับ ทุกกิจกรรม ทุกพิธีกรรม ทุกเทศกาล ของทุกคนในสังคมเสียที่ไหน แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 54 13:57:37 จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 13:55:32

ความคิดเห็นที่ 69 ที่สามจังหวัดชายแดนใต้หนักหนากว่ามาก วัดถูกล้อมด้วยมัสยิด สุเหร่า เวลาละหมาดทีนึงก็หันลำโพงมาทางวัด เหมือนจะแกล้งให้พระอยุ่ไม่ได้ แต่พระก็ไม่ว่า ไม่เตือน ไม่ทำอะไรเลย ทนอย่างนั้น ต่อมาวัดมีงานบ้าง เปิดเสียงดังบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับคราวละหมาดที่ดังซะหูแตก ตัวแทนมุสลิมก็เข้ามาขอร้องให้วัดเปิดเบาๆ ??? ทำไมเขาไม่คำนึงถึงผู้อื่นที่ได้รับผลกระทบจากเขาบ้าง เห็นแต่จะอ้อนวอนพระเจ้า ดังให้กระหึ่มไปทั้งโลก  แค่เปิดใส่หูฟัง พระเจ้าก็ได้ยิน ไม่ต้องดังรบกวนชาวบ้านก็ได้ อย่าเห็นแก่ตัวนักเลย.... เกรงใจผู้อื่นบ้างได้มั้ย เป็นมั้ย??? จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 14:06:51

ความคิดเห็นที่ 70 ^ ^ เรื่องเสี้ยมๆแบบนี้ ได้ยินมาจากไหนเหรอ? มหาเถระรึปล่าว? ปทุมฉัตรสหัสรังษี คุ้นๆกับเรื่องซื้อตึกใหญ่ใกล้วัดเพื่อทำมัสยิด แล้วหันลำโพงใส่ ที่เคยได้ยินมาเลย จะ... วัดถูกล้อมด้วยมัสยิด  หันลำโพงมาทางวัด เหมือนจะแกล้งให้พระอยุ่ไม่ได้ หรือ... มัสยิดถูกล้อมด้วยวัด  หันลำโพงมาทางมัสยิด เหมือนจะแกล้งให้อิหม่ามอยุ่ไม่ได้ คำพูดลอยๆแบบนี้...ที่ล้วนพยายามสร้างภาพ เสี้ยมให้หวาดระแวงกัน เลิกเหอะครับ แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 54 14:57:12 จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 14:53:16

ความคิดเห็นที่ 71 ขออภัยนะครับคุณ  laliklalee ผมมิได้หวังเสี้ยมให้ทะเลาะกัน ผมไปพบเหตุการณ์นี้มาด้วยตัวเอง... ไม่งั้นผมไม่มาแสดงความเห็นแบบนี้หรอกครับ ถ้าคุณเห็น คุณคงสงสารพระคุณเจ้ารุปนั้น จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 17:53:26

ความคิดเห็นที่ 72 ถ้าเป็นดิฉันจะคิดว่าเสียงจากสุเหร่า ยังดีกว่า เสียงคนนินทาว่าร้าย หรือเสียงซุบซิบนินทา ถ้าทนไม่ไหวจริงๆน่าจะขายบ้าน หรือ หาทำเลใหม่อยู่ บริเวณที่มีเสียงแบบนี้จะมีคนอิสลามอยู่เยอะๆ ซึ่งไม่่เป็นการดี ถ้าหากคุณ ไม่พอใจเสียงนั้น ถ้าเป็นดิฉัน ดิฉันจะทนค่ะ จากคุณ : Glico_strawberry เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 18:48:41

ความคิดเห็นที่ 73 คห.71 มันพิสูจน์ยากครับ ว่าเป็นเรื่องจริง หรือ ใส่สีตีไข่ เพราะคนเราหากมีอคติย่อมเอื้อไปในทางเติมแต่งเสียมาก 1. มัสยิดที่ล้อมวัดอยู่ เป็นการมองโดยเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางรึปล่าว? วัดนั้นอาจไปตั้งในที่ๆมีมุสลิมอยู่หนาแน่นดั้งเดิม จะด้วยวัตถุประสงค์อะไรก็แล้วแต่ แต่มัสยิดที่มีเยอะกว่า และวัดที่มีเพียงวัดเดียวไปตั้งท่ามกลางมัสยิด ด้วยความรู้สึกที่ประหนึ่งอยู่คนละฝ่ายกันเป็นทุนเดิม  จึงเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในวัดประหนึ่งถูกล้อมไว้โดยมัสยิด เพราะสังเกตุจาก "ถูกล้อม" เป็นการเลือกศัพท์คล้ายกับเป็นการถูกคุกคามโดยฝ่ายตรงข้าม ที่ตนเองอาจหวาดระแวงอยู่แล้วเป็นทุนเดิม 2. เป็นธรรมดาของมัสยิดที่ เครื่องกระจายเสียงจะหันออกไปจากมัสยิดทุกทิศทาง ไม่มีเหตุที่พิสูจน์ได้ว่า ต้องหันไปทางวัดเป็นการเฉพาะตามที่วัด หรือ เจ้าอาวาสรู้สึก เพราะการอะซาน เป็นการเรียกคนมาละหมาด จะหันไปหาวัดเป็นการเฉพาะเพื่ออะไร? เพราะพระคงไม่อยากมาละหมาดเป็นแน่ พระ และ เจ้าอาวาส ควรทำใจให้อุเบกขา พิจารณาดีๆว่า ลำโพงเขาหันไปด้านอื่นด้วยหรือไม่? จงใจหันมาเพื่อแกล้งตนเองตามที่อ้างจริงหรือ? 3. การอ้างว่าเปิดเสียงดังจนหูแตกนั้น เกินจริงหรือไม่? เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริงชาวบ้านที่เป็นมุสลิมมากกว่าย่อมได้รับผลกระทบโดยตรงเช่นกัน เพราะอย่างที่กล่าวไปแล้ว ลำโพงต้องเน้นกระจายเสียงไปทางมุสลิมเพื่อเรียกร้องมาละหมาดมากกว่า ที่สำคัญที่สุด หากพื้นฐานการคิดของมัสยิด ทำการ อะซาน ละหมาด หรือ ขอพร เพื่อวัตถุประสงค์ทีเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อนบ้านที่เป็นต่างศาสนิก ก็แน่นอนว่าการกระทำดีเหล่านั้นย่อมสูญสลายไป และสูญเปล่า ซึ่งคงไม่มีใครยอมแลกผลบุญตัวเอง กับ บาปใหญ่ เพื่อความสะใจเล็กๆน้อยๆที่ไร้สาระแบบนั้น สรุปแล้ว โดยส่วนตัว ผม "ไม่เชื่อ" แต่หากคุณ ปทุมฉัตรสหัสรังษี มีข้อเท็จจริงเพิ่มเติม หักล้างข้อสังเกตุใน 3 ข้อข้างบนได้ ก็ยินดีรับฟังครับ จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 10:50:19

ความคิดเห็นที่ 74 ไหนๆ ก็ไหนๆ นะครับ ไม่อยากให้ทะเลาะกัน ผมว่าทั่วไป ทางสุเหร่าเขาก็ไม่ได้ "ตั้งใจ"  จะให้ไปเดือดร้อนใครหรอกครับ  แถวๆนี้เราก็อยู่กันมานาน เรียบร้อยดี ไม่มีปัญหา คิดว่า.....อาจจะเป็นเจ้าหน้าที่เขาบางคน หรือมีใครไปเล่นเร่งเสียงให้ดังขึ้นด้วยความหวังดีเกิน ........หรือความไม่รู้  ........แต่สุดท้ายเขาก็เบาลงไปแล้ว ลงท้ายว่าถ้าใครได้รับความเดือดร้อน  ก็ขอให้ลองเจรจากับเขาดีๆ เสียก่อนนะครับ  ......ถ้ามันสุดจะทนจริงๆ ก็ค่อยรักษาสิทธิของเรา ไม่ให้เขาล่วงละเมิดด้วยการไปพึ่งราชการ หรือ ศาล ปล. 1.   จริงๆ ถ้าเป็นการละหมาดตอนเช้ามืดละก็  แถวนี้ได้ยินเสียงมาจากสุเหร่าร่วม 3 แ่ห่งเลยครับ เหมือน echo สะท้อนไปมา  .......เพราะมันเงียบ  ...........แต่ก็หลับทุกที ไม่เป็นไร 2.   ผมไม่คิดว่า ศาสนา จะอยู่เหนือกฏหมายบ้านเมืองนะครับ ควรจะไปด้วยกัน ไม่งั้นคงจะแย่  ตัวศาสนาเองไม่มีปัญหา แต่ "คน" ที่นับถือ หรือเชื่อ ก็อาจจะมีปัญหาได้ ......ถ้าเอาความเชื่อไปใช้ผิดๆ   ลำโพงหรือเครื่องขยายเสียง ในอดีตก็ไม่มี  เพราะฉะนั้นไม่ว่าวัดหรือสุเหร่า ถึงไม่มีลำโพงขยายเสียง ก็ไม่เห็นว่าจะเป็นอะไร   ....น่าจะเป็นการยึดขนบข้อบัญญัติเ้ดิมตามจารีตเสียด้วยซ้ำ 3.  ถึงตัวผมจะถือพุธ แต่ก็เบื่อวัดที่เสียงดังๆ เหมือนกัน  เคยไปวัดที่จัดงานวัด แบบเวทีลูกทุ่งวันลอยกระทง เสียงดังมากๆ ......ไหว้พระในโบสถ์ (แข่งกับเสียงร้องแล้ว) แล้วเดินผ่่านรอบเดียวกลับบ้านดีกว่า จากคุณ : birdeyeview เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 13:00:53

ความคิดเห็นที่ 75 จริงๆแล้วหาก จขกท. คิดได้แบบนี้เสียก่อนตั้งกระทู้ก็คงดีกว่านี้ครับ แต่อาจเป็นไปได้ว่า เพิ่งได้รับทราบข้อมูลหลายๆมิติ  เพิ่ง get ก็ขอให้ข้อมูลเหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อการตั้งกระทู้ในครั้งต่อๆไป หากไม่รู้ก็ให้ค่อนไปทางตั้งคำถาม มากกว่าการระบายแบบใส่อารมณ์แล้วกันนะ ปล.กระทู้นี้ก็เป็นแบบสำรวจทัศนคติที่ดี หากประเมินจากคนให้กิ๊ฟท์ จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 13:43:10

ความคิดเห็นที่ 76 ู^ ^ ผมเชื่อว่า ศาสนาใด ก็ไม่มีสิทธิื เอาความเชื่อของตนเอง ไปทำละเมิดสิทธิของผู้อื่น ไม่งั้นบ้านเมืองก็คงอยู่กันไม่ได้ ในเมื่อต่างฝ่ายต่างอ้าง เอา "ความเชื่อ" ของตนเองเป็นที่ตั้ง กระทู้นี้ ก็ไม่ได้เป็น การ "ใส่ร้าย"  สุเหร่าแต่อย่างใด (เหมือนที่มีหลายความเห็นพยายามจะจูงไปอย่างนั้น)  ที่ผมมาตั้งกระทู้ ก็เป็นผลจากการที่สุเหร่า ปรับเสียงให้ดังขึ้นจนเกินปกติ เกินสมควร   .....สุเหร่าไม่สมควรและไม่มีสิทธิที่จะทำอย่างนั้นโดยชอบ...... ......ศาสนาที่ดีก็ไม่น่าจะสอนคนให้ทำอะไรอย่างนั้น  น่าจะเป็นเรื่องของ "คน" ที่ยึดเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง  ทำตามใจชอบโดยอ้างศาสนามากกว่า คุณ laliklalee ถึงจะนับถือศาสนา อิสลาม ก็ลองคิดดูละกันครับ ปล. เรื่องแบบนี้ มีปัญหามานานแล้ว ดูเหมือนทางองค์กรที่บริหารศาสนาอิสลาม ก็ตระหนักทราบดี http://www.muslimthai.com/main/1428/content.php?category=25&id=14248 http://www.muslimthai.com/main/1428/content.php?category=109&id=19494 กฏหมายเกี่ยวกับเรื่องการใช้เสียง :-   พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ประมวลกฎหมายอาญา พระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 จากคุณ : birdeyeview เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 17:54:45

ความคิดเห็นที่ 77 ประเด็นก็จะวนกลับไปที่เดิม ที่อ้างว่า ดังจนเกินปกติ เกินสมควร   นี่มันแค่ไหน อย่างไร? อย่าให้กลับกลายเป็นเรื่องของ "คน" ที่ยึดเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง  ทำตามใจชอบโดยอ้างกฎหมายหลวมๆเลยครับ ปล. ต้องอ้างอิงไป ตปท.เลยเหรอครับ เอาคล้ายๆกันในประเทศก็ได้ http://203.155.220.239/subsite/index.php?strOrgID=001055&strSection=webboard_view&intPostID=9285 http://watyaiweb.igetweb.com/index.php?mo=5&qid=372783 http://www.cm108.com/bbb/index.php?/topic/41733-ciaoeaeoaaeiaoauneacoaaoaocnaeoanan/ http://www.prakard.com/default.aspx?g=posts&m=2607566 ผมว่า สวดแบบนี้ เสียงดัง ยาวนานมากกว่าไหม? จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 20:27:09

ความคิดเห็นที่ 78 เทียบกับแบบนี้ คนฟังใครเครียดกว่ากัน? ดูปฏิกิริยาตอบสนองสิครับ จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 20:38:15

ความคิดเห็นที่ 79 รูปแบบดั้งเดิม จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 20:41:36

ความคิดเห็นที่ 80 ถ้าจะใช้กฎหมาย ก็ต้อง เป็นธรรมครับ จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 20:43:27

ความคิดเห็นที่ 81 การที่คุณ laliklalee พยายามจะเอาเรื่องที่วัดก็มีส่งเสียงดัง มาเป็นประเด็นโต้แย้งนั้น  มีคนพูดไปแล้วในความเห็นกระทู้  ......หรือที่ผมก็บอกว่าผมก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน   เรื่องที่ว่าดังขนาดไหน  ก็ขนาดรำคาญ ดูทีวีไม่รู้เรื่อง .....ถ้าจะให้วัดเป็นกี่เดซิเบล ก็ลองไปตั้งถามห้องหว้ากอก็ได้ เอาเป็นว่าสำหรับท่านที่ได้รับความเดือดร้อน ในลักษณะเดียวกัน  ......ถ้าติดต่อพูดคุยทางสุเหร่าแล้วยังรู้สึกว่าไม่ได้รับความสนใจ สามารถร้องเรียนไปได้ที่ คณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร                                             โทรศัพท์ 02-949-4184 โทรสาร 02-949-4330 http://www.cicot.or.th/2011/main/content.php?page=sub&category=101&id=548 สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ โทรศัพท์ : 02 949 4308, 02 949 4114 โทรสาร : 02 949 4250, 02 949 434 จากคุณ : birdeyeview เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 07:27:40

ความคิดเห็นที่ 82 อ้อ..อีกอย่างครับ จริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องเป็นศาสนสถาน หรือ ประเพณี ความเชื่อ ตามท้องถนนตามที่ยกให้ดูเป็นข้อมูลประกอบ บ้านผมอยู่ใกล้โรงเรียน ช่วงที่มีกิจกรรมตอนเช้า หรือ กีฬาสี นี่ ถ้าดูทีวีก็คงไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ส่วนการดูทีวีไม่รู้เรื่อง หรือฟังเพลงไม่ได้อรรถรสนั้น ต้องใช้เสียงกี่เดซิเบล คงต้องไปห้องหว้ากอจริงๆครับ ^^ จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 08:24:42

ความคิดเห็นที่ 83 จาก ความคิดเห็นที่ 73 ผมไม่จำเป็นต้องหักล้าง อย่างไรเสีย เปิดลำโพงดังก็รบกวนอยู่ดี มารยาททางสังคมก็ต้องมีบ้าง .. ใจเขาใจเราใช่มั้ยล่ะครับ แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 54 17:02:51 แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 54 17:02:50 จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 17:02:38

ความคิดเห็นที่ 84 ครับ ตั้งใจเปิดลำโพงดังให้รบกวนนี่มารยาทไม่ดีแน่นอน แต่ก็ยังน้อยกว่าปั้นน้ำเป็นตัวครับ จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 01:49:55

ความคิดเห็นที่ 85 คุณจะเข้าใจว่าผมปั้นน้ำเป็นตัวก็ได้... สิทธิ์ของคุณ แต่ผมขอยืนยัน ว่า เรื่องจริง จากคุณ : ปทุมฉัตรสหัสรังษี เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 15:30:33

ความคิดเห็นที่ 86 ก็เป็นสิทธิ์ของคุณที่จะยืนยัน "เรื่องเล่าลอยๆ" ของตนเองที่ขัดแย้งกับตรรกะที่ผมยกมาใน คห. 73 ว่าเป็น "เรื่องจริง" เช่นกันครับ จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 16:54:43