Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
จริงๆแล้วท่านพุทธทาสเชื่อว่า นรกสวรรค์ไม่มีจริง!! ติดต่อทีมงาน

ความจริงแล้วท่านเชื่อว่านรกสวรรค์ไม่มีจริง

แต่ว่าเรื่องเหล่านี้กลับอยู่ในพระไตรปิฎก อยู่เต็มไปหมดอยู่หลายครั้ง

แต่ว่าพระพุทธเจ้าท่านไม่โกหก ตัวท่านพุทธทาสเองก็เคารพในพระพุทธเจ้า คิดว่าขนาดตัวท่านเอง

(ท่านพุทธทาส) ยังรู้เลยว่านรกสวรรค์ไม่มีจิง ระดับพระพุทธเจ้าก็ต้องรู้อยู่แล้ว

เมื่อเป็นดังนี้ แล้วเรื่องราวพระไตรปิฎกคืออะไร ท่านก็ต้องหาทางออกเรื่องนี้

ก็เลยบอกว่าเรื่องนรกสวรรค์ เป็นเรื่องของพราหมณ์มีมานานแล้วโดยสมบูรณ์


"พอพระพุทธเจ้า มีขึ้นในโลก เรื่องเหล่านี้ มันมีอยู่แล้ว
จะไปเสียเวลาหักล้าง ก็ไม่ไหว พิสูจน์ให้คนโง่ เห็นไม่ได้

เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้า ท่านจึงพลอยตรัส เอออวย
ไปตามคำที่พูดๆ กันอยู่ แต่แล้ว ก็ทรงแสดง สิ่งที่ดีกว่า
ให้เขาเลิกละ ความสนใจหรือ ติดแน่นในสิ่งนั้นเสีย"


ตัวท่านเองเคารพพระพุทธเจ้า ก็เลยบอกว่าท่านไม่ได้โกหก เพียงแค่เอออวยไปตามที่มีอยู่แล้ว

เจตนาเพื่อความสงบในสังคม ท่านไม่ได้โกหก แต่เป็นกุศโลบาย

ทั้งที่จริงๆแล้ว อย่างนั้นแหละเรียกว่าโกหก

ถ้าหากท่านเชื่อจริงว่านรกสวรรค์มีจริง ทำไมต้องบอกว่าพระพุทธเจ้าท่านเอออวยตามความเชื่อที่มี
อยู่แล้ว  ถ้าท่านเชื่อว่ามีจริงก็ต้องบอกว่าพระพุทธเจ้าท่านไปรู้ไปเห็นในเรื่องนี้ แล้วจึงนำมาสอน

"เรื่องเหล่านี้มันมีมาอยู่แล้ว พระองค์ก็เลยเอออวย"

บ่งบอกชัดเจนว่า พระองค์ทรงพูดไปตามที่มีอยู่แล้ว ไม่ได้ไปรู้ไปเห็นเอง

"เรื่องเหล่านี้มันมีมาอยู่แล้ว" เป็นการพยายามชี้ว่าเรื่องเหล่านี้มันเป็น"แค่เรื่องเล่า"

"เรื่องเหล่านี้ มันมีอยู่แล้ว จะไปเสียเวลาหักล้าง ก็ไม่ไหว "

ประโยคนี้ชัดเจนว่าหมายถึงหักล้างเรื่องนรกสวรรค์



"เรื่องนี้ขอให้ทนฟังอาตมาเล่านิดหน่อย เรื่องว่า พระพุทธเจ้าขึ้นไปบนเทวโลกนั้นนะ มันเป็นเรื่องจำ

เป็นที่ต้องมีในพุทธศาสนาของเรา เพราะว่าในศาสนาอื่นๆหรือแม้ว่าไม่เกี่ยวกับศาสนาเป็นลัทธิอื่นนั้น

เขาจะมีว่าศาสดาของเขา หรือบุคคลสำคัญของเขาต้องเคยขึ้นไปบนเทวโลกทั้งนั้น แล้วในฝ่ายพุทธ

ศาสนาถ้าพูดว่าเราไม่มีมันก็แย่ เพราะฉะนั้นมันต้องมีกับเขาบ้างให้จนได้
ทีนี้มันจะมีได้โดยฝีมือของใคร นี้มันเป็นเรื่องที่จะต้องมี เพื่อสร้างสถาบันที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่นเราจะต้องพูด

ว่า พระพุทธเจ้าท่านมาเหยียบรอยพระบาทไว้ที่สระบุรี นั้น ถ้าไม่พูดว่าพระพุทธเจ้ามาเหยียบไว้แล้ว

ไม่มีใครสนใจหรอก ทีนี้เราจะต้องมีอะไรที่ทำให้สนใจให้เป็นสถาบันเสียก่อน พอมันเป็นสถาบันแน่น

แฟ้นในจิตใจของประชาชนแล้ว มันใช้ได้แล้ว มันจะจริงหรือไม่จริงก็ช่างมันเถอะ เพราะเขาต้องการ

สถาบันอันแน่นแฟ้นในจิตใจของประชาชน ที่ประเทศอินเดียครั้งกระโน้นก็เหมือนกัน ต้องการสถาบัน

อันนี้ให้เชื่อว่าพระพุทธเจ้าของเราเก่งไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง
ทุกคนจะต้องระลึกถึงข้อที่ว่า เราสวดกันอยู่ทุกวันว่า “ สัตถา เทวะมะนุสสานัง” ถ้าเรื่องมันไม่จริงเราก็

โกหกทุกวัน เราพูดว่า “ สัตถา เทวะมะนุสสานัง”, “อิติปิโสภควา อรหังสัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะ

สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง” ท่านเป็นครูทั้งของ

เทวดาและมนุษย์ ไม่ขึ้นไปบนเทวโลกแล้วจะเป็นครูของเทวดาได้อย่างไร เราก็สวดอยู่ทุกวัน ฉะนั้น

เรื่องมันต้องเป็นไปได้ ต้องเข้ารูปกันได้ ฉะนั้นมันก็เป็นหน้าที่ของผู้รับผิดชอบในสมัยนั้น จะเป็นพระ

มหาเถระที่เป็นประธานสงฆ์ทั้งหมดในเวลานั้นก็ดี หรือจะเป็นพระมหาจักรพรรดิที่รับผิดชอบ เป็นองค์

อุปถัมภ์ของพุทธศาสนาในเวลานั้นก็ดี จะต้องช่วยกันรับผิดชอบให้มันเกิดสถาบันอันนี้ให้แน่นแฟ้นลง

ไปในจิตใจของคนทั้งปวง ว่าพระพุทธเจ้ามีอะไรครบพร้อมหมดทุกอย่าง ทุกเรื่อง แม้กระทั่งขึ้นไปบน

สวรรค์
ทีนี้ดูหินสลักที่จำลองมาไว้ที่นี่ หินสลักสมัยสาญจีนี้มัน พศ. ๔๐๐ – ๕๐๐ เท่านั้นเอง เมื่อ พศ. ๔๐๐ –

๕๐๐ มีความเชื่อเรื่องพระพุทธเจ้าขึ้นสวรรค์เสร็จแล้ว ไปดูเถอะ เขาสลักบันไดขึ้นสวรรค์ลงสวรรค์

ของพระพุทธเจ้าในหินสลักนั้น ฉะนั้นแสดงว่าประชาชนเชื่อกันหมดแล้ว โดยอำนาจของพระราชามหา

จักรพรรดิให้สลักเหล่านี้ ประชาชนต้องเชื่อ ในยุคที่มันพ้องกันกันไม่เชื่ออยู่สักครึ่งอายุคน พอตายหมด

ยุคหลังมันเชื่อหมดว่าพระพุทธเจ้าขึ้นไปบนดาวดึงส์ นี่ พศ. ๔- ๕๐๐ นี้เป็นอันว่าประชาชนเชื่อแน่น

แฟ้นแล้ว มีหินสลักเหล่านี้เป็นพยาน แล้วหนังสือคัมภีร์เรื่องพุทธประวัตินั้นเขียนทีหลังหินสลัก คัมภีร์

ลลิตวิตตะหรือว่าพระพุทธจริตะอะไรก็ตาม เรื่องพุทธประวัติมันเขียนทีหลัง เมื่อประมาณ พศ. ๙๐๐ -

๑๐๐๐ เพราะฉะนั้นหนังสือที่เขาเขียนตามหินสลัก หินสลักเขาสลักในสมัยที่ไม่ได้ใช้หนังสือ ทีนี้หิน

สลักนี้ พศ. ๔-๕๐๐ ถ้าก่อนหินสลัก พศ. ๔ – ๕๐๐ นี้ขึ้นไปอีก มันก็ถึงสมัยพระเจ้าอโศกเท่านั้น"


จากประโยคข้างบนนี้ ถ้าท่านเชื่อเรื่องนรกสวรรค์เทวดาท่านจะพูดทำไมว่า

1. "ศาสนาเป็นลัทธิอื่นนั้นเขาจะมีว่าศาสดาของเขา หรือบุคคลสำคัญของเขาต้องเคยขึ้นไปบน

เทวโลกทั้งนั้น แล้วในฝ่ายพุทธศาสนาถ้าพูดว่าเราไม่มีมันก็แย่ เพราะฉะนั้นมันต้องมีกับเขาบ้างให้จน

ได้"

2.ถ้าท่านเชื่อว่ามีจริงทำไมต้องบอกว่า "พอมันเป็นสถาบันแน่นแฟ้นในจิตใจของประชาชนแล้ว มันใช้

ได้แล้ว มันจะจริงหรือไม่จริงก็ช่างมันเถอะ"


มันชัดเจนที่สุดแล้วว่าท่านเชื่อว่านรกสวรรค์ไม่มีจริง


ทีนี้ต่อมาภายหลังมีคนสงสัยเรื่องนี้ไปถามท่านโดยตรง

พุทธทาส: เราไม่ได้พูดว่า ไม่มีนรก ไม่มีสวรรค์ หรือแม้แต่หลังจากตายแล้ว เราว่ามีทั้งสองอย่าง นรก

สวรรค์ต่อตายแล้ว ก็ว่าไปตามเดิม ไม่ไปแตะต้องเขา นรกสวรรค์ที่นี่และเดี๋ยวนี้ นี่ยืนยันมากให้ตรง

ตามพุทธประสงค์ นรกสวรรค์อยู่ที่อายตนะทั้ง ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นอันว่ามันมีนรกชนิดนี้ก็มี

นรกสวรรค์ต่อตายแล้วไม่ได้ไปแตะต้องเขา ไม่ได้ไปวิพากษ์วิจารณ์เขา ขอให้เก็บไว้ แต่ควบคุมได้

โดยที่จัดนรกสวรรค์เดี๋ยวนี้ให้ถูกต้อง มันควบคุมถึงไปได้ถึงสวรรค์ต่อตายแล้ว เป็นอันว่ามีนรกสวรรค์

ทั้งสองชนิด ทั้งสองประเภท ไม่ได้ยกเลิกชนิดไหนเลย


ก็มีคนอ้างข้อความนี้ แล้วบอกว่า ท่านเชื่อว่ามีจริง

แต่ถ้าย้อนกลับไป ตอนที่ท่านบอกว่า พระพุทธเจ้าท่านทรงเอออวย ไปตามความเชื่อที่มีอยู่แล้ว จะไป

เสียเวลาหักล้างก็ไม่ไหว

ตัวท่านท่านเคารพพระพุทธเจ้า ท่านก็เลยทำตามพระพุทธเจ้ามั่ง

ก็เอออวยบอกว่า " เราว่ามีทั้งสองอย่าง"

แต่ประโยคที่บอกว่า "นรกสวรรค์ต่อตายแล้ว ก็ว่าไปตามเดิม ไม่ไปแตะต้องเขา"

"นรกสวรรค์ต่อตายแล้วไม่ได้ไปแตะต้องเขา ไม่ได้ไปวิพากษ์วิจารณ์เขา"

ถ้าท่านเชื่อว่ามีจริงทำไมต้องกล่าวเช่นนี้ "ก็ว่าไปตามเดิม ไม่ไปแตะต้องเขา"

มันเหมือนกับคนที่เชื่อว่ากินยันต์เผาไฟ แล้วจะหายป่วย ถ้าบอกว่า "ก็ว่าไปตามเดิม ไม่ไปแตะต้อง

เขา"

มันชี้ว่าเชื่อว่าไม่จริง แต่ไม่ไปขัดเขา


ไม่ใช่เพียงเท่านี้ทิฏฐิของท่าน ยังเพี้ยนในหลายเรื่อง เช่นแมวมันกินหนู ก็บอกว่าแมวไม่มีเจตนาฆ่า

มันก็แค่ต้องการจะกิน คำสอนท่าน ก่อเกิดความคิดวิปลาสในสังคมปัจจุบันมากมาย

เช่นฆ่าสัตว์เพื่อทำอาหารไม่บาป เราแค่ต้องการจะกิน

แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 01:12:37

แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 01:00:26

แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 00:56:18

จากคุณ : imanust_261204
เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 00:51:16




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com