ความคิดเห็นที่ 1 สวัสดีครับ พี่น้องที่รักทุกท่าน วันก่อน พ่อเปิดเข้าไปดูเว็บไซต์ของอัครสังฆมณทลกรุงเทพฯ และกดเข้าไปดูรายงานและภาพ เกี่ยวกับ งาน “ทั่วโลกพร้อมเพรียง ไม่สิ้นเสียงสายประคำ” ของเขต 3 ที่จัดขึ้นที่วัดธรรมาสน์นักบุญเปโตร บางเชือกหนัง ภาพที่พ่อได้เห็น ทำให้เกิดความปลาบปลื้มใจเหลือเกิน คือ พระคุณเจ้า พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ของเรา ได้ให้เกียรติไปเป็นประธานมิสซาและแห่แม่พระ ท่ามกลางบรรดาสัตบุรุษจำนวนมาก รวมทั้งพระสงฆ์หลายองค์ทีเดียว ทำให้พ่อรู้สึกทันทีว่า พลังแห่งความรัก ความศรัทธาต่อแม่พระนั้นยิ่งใหญ่เหลือเกิน จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 17:38:43

ความคิดเห็นที่ 2 ในตอนแรกพ่อเอง ในฐานะหัวหน้าเขต 1 ก็คิดจะเชิญพระคุณเจ้า พระคาร์ดินัล ให้มาเป็นประธานมิสซา งานเดียวกันนี้ที่เขต 1 จัดขึ้นที่วัดพระมหาไถ่เหมือนกัน แต่แล้วก็เกรงว่าสัตบุรุษและพระสงฆ์ อาจจะมาน้อยไม่สมเกียรติของท่าน จึงตัดสินใจไม่เชิญดีกว่า แต่ในความเป็นจริง สำหรับพระคุณเจ้าพระคาร์ดินัลแล้ว คงไม่สำคัญนักว่าคนจะมามากหรือน้อย สิ่งสำคัญก็คือ ท่านเองต้องการแสดงออกถึงความรัก ความศรัทธา ต่อแม่พระต่างหาก พ่อคิดว่านี่คือแบบฉบับ ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 17:39:42

ความคิดเห็นที่ 3 นอกจากนี้ สิ่งที่มีคุณค่าและมีความหมายสำหรับพ่อมากกว่านั้น ก็คือ บทเทศน์ของท่านตอนหนึ่ง ที่ท่านสอนอย่างซื่อๆ ง่ายๆ ว่า “แม่พระไม่เบื่อที่เราสวดภาวนา ( สวดสายประคำ บทวันทามารีย์ ) ซ้ำ ๆ ซาก ๆ ทุกวัน แต่แม่พระอยากได้ยินทุก ๆ วัน เช่นเดียวกับที่คนรักกัน มักจะพูดว่า “ฉันรักเธอ” โดยไม่เบื่อ” คำสอนนี้ถูกใจพ่อจริง ๆ ทำให้รู้สึกได้ว่า ในการสวดสายประคำ 1 สาย ถึงเราจะสวดบทวันทามารีย์ ถึงห้าสิบกว่าครั้ง แต่ดูเหมือนยังน้อยเกินไป เพราะแม่พระ อยากได้ยินมากกว่านั้น แม้จะสวดซ้ำไปซ้ำมาอยู่นั่นก็ตาม จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 17:41:20

ความคิดเห็นที่ 4 ที่น่าเสียดายคือ ยังมีอีกหลายคน ไม่สนใจเรื่องสายประคำเอาเลย บางคนสบประมาท การสวดสายประคำว่า เป็นการสวดเหมือนเครื่องจักรและไร้คุณค่า แต่พ่อกลับคิดว่า การสวดบทวันทามารีย์ ซ้ำไปซ้ำมา เป็นการจารึกถ้อยคำแห่งพระวาจา ซึ่งเต็มไปด้วยความเชื่อ ความหวัง และความรัก ในองค์พระผู้เป็นเจ้า ลงในจิตใจของผู้สวด และถ้อยคำเหล่านี้จะไม่มีวันสูญหายไปเลย จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 17:43:38

ความคิดเห็นที่ 5 แน่นอน พ่อเห็นด้วย ที่ ไม่ว่าการสวดใด ๆ การสวดอย่างตั้งใจ พร้อมด้วยบทรำพึง และความเข้าใจในทุกถ้อยคำ ย่อมมีคุณค่ามากกว่า และควรสนับสนุน แต่กระนั้น การสวดแบบท่องจำ ก็ใช่ว่าจะไร้คุณค่าเสียทีเดียว นิสัยของการสวด ย่อมเพิ่มพูนพลังให้กับชีวิตได้เสมอ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 17:44:54

ความคิดเห็นที่ 6 พ่อจำได้ว่า ในพระคัมภีร์ตอนหนึ่งหรือหลายตอนด้วยซ้ำ ที่ให้คำสอนกับประชากรของพระเจ้าว่า “จงเขียนบทบัญญัติเหล่านี้ มิใช่บนกระดาษ แต่เขียนลงในหัวใจของเจ้า” จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 17:46:03

ความคิดเห็นที่ 7 เพราะหากเรามนุษย์ เอาแต่สนใจข้อความบนกระดาษ และด้วยความฉลาดของมนุษย์ ก็ย่อมหาทางหลีกเลี่ยง บ่ายเบี่ยง ในการไม่ปฏิบัติตามได้เสมอ อย่างที่บรรดาฟาริสีและคัมภีราจารย์ มักจะกระทำ ในการเอาภาระให้คนอื่นแบก แต่ตนเองไม่ขยับแม้ปลายนิ้ว เพราะข้อความบนกระดาษนั้นย่อมดิ้นได้ไปมา หรือมิฉะนั้น ก็จะปฏิบัติตามเพียงระดับขั้นต่ำที่สุด หรือไม่ก็แบบขอไปที จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 17:47:51

ความคิดเห็นที่ 8 สิ่งที่เกิดขึ้นในพระวรสารวันนี้ ก็เป็นเรื่องเดียวกัน เพราะผู้รับเชิญไปงานเลี้ยงวิวาห์ทั้งหลาย “มิได้สนใจ” จึงมีเหตุผลมากมายที่จะปฏิเสธ มิหนำซ้ำยังพาลเกเร ทำร้าย และฆ่าผู้รับใช้ของกษัตริย์อีกด้วย เหมือนกับที่ชาวยิวทำร้าย และฆ่าบรรดาประกาศกของพระเจ้า จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 17:48:45

ความคิดเห็นที่ 9 หรือเหมือนกับที่สัตบุรุษสมัยนี้ โกรธเคืองและด่าว่าพระสงฆ์ ที่ชอบเตือน เรื่องการแต่งกายเข้าวัดให้เหมาะสม เรื่องการร่วมพิธีกรรมและการรับศีลมหาสนิท อย่างสมควรหรืออย่างถูกต้อง ทำนองนั้น เพราะมีเหตุผลของ “ฉัน” มากมายที่จะไม่ปฏิบัติ แต่อันที่จริงเป็นเพราะ “มิได้สนใจ” เสียมากกว่า จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 17:50:12

ความคิดเห็นที่ 10 ผู้คนมากมาย มีชีวิตเหมือนไม่สนใจคำเชิญให้ไปสวรรค์ เพราะเอาแต่วุ่นวายกับเรื่องฝ่ายโลก ในการแสวงหาความร่ำรวย อำนาจและความสุขสบาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะ ไม่มีถ้อยคำแห่งพระวาจา จารึกอยู่ในหัวใจ บางคนคิดว่า การไปสวรรค์นั้น ก็แค่ปฏิบัติตาม ข้อเรียกร้อง ขั้นต่ำสุดเท่านั้น จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 17:51:42

ความคิดเห็นที่ 11 ทำนองเดียวกับ การสอนเรื่องระเบียบวินัยว่า มิใช่อยู่ในหนังสือคู่มือ แต่ต้องอยู่ในหัวใจ จึงจะเป็นระเบียบวินัยที่แท้ได้ นั่นแหละ มิฉะนั้น คนขับรถก็จะคอยระวังตำรวจอยู่ร่ำไป หรือไม่ก็เอาแต่ ทำตามคนขับรถที่เห็นแก่ตัวทั้งหลาย นั่นเอง คุณพ่อ สุรสิทธ์ ชุ่มศรีพันธุ์ สารอาสนวิหารอัสสัมชัญกรุงเทพ 9 ต.ค. 54 จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 17:52:53

ความคิดเห็นที่ 12 บทวันทามารีย์ (Ave Maria) วันทามารีย์ เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน พระเจ้าสถิตกับท่าน ผู้ได้รับพระพรกว่าสตรีใดๆ และพระเยซูโอรสของท่าน ทรงได้รับพระพรยิ่งนัก สันตะมารีย์ พระมารดาพระเจ้า โปรดภาวนาเพื่อลูกทั้งหลายผู้เป็นคนบาป บัดนี้และเมื่อจะตาย อาแมน จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 17:53:46

ความคิดเห็นที่ 13 ผมเป็นผู้หนึ่งที่ได้นิมิตเห็นพระแม่มารีย์ ทั้งๆที่ผมนับถือพุทธ อยากจะเล่าเพื่อสรรเสริญท่าน วันหนึ่งผมฝันว่าได้้นั่งเครื่องบินลำใหญ่มาก  มีหลายชาติหลายภาษาฝรั่งก็เยอะ จู่ๆเครื่องบินลำนั้นที่บินอยู่ในกลุ่มเมฆเหมือนถูกบังคับให้ค่อยๆร่อนลงจอด ผมและหลายๆท่านก็เดินลงจากเครื่องบิน เดินไปตามทางยาวไกลสุดตา แล้วบันดลก็มีคนตะโกนว่า   ''พระแม่เสด็จแล้ว  พระแม่เสด็จแล้ว'' ทุกคนชี้ไปบนฟ้า  ผมก็มองตาม พอผมมองไปที่ท้องฟ้า   ผมเห็นหญิงท่านหนึ่ง ใส่เสื้อคลุมยาว  ที่ศีรษะก็มีผ้าคลุมผม อุ้มเด็กน้อยคนหนึ่ง ข้างๆหญิงท่านนี้มีเด็กคนหนึ่งยืนข้างขวาท่าน ส่วนข้างซ้ายมือท่านเป็นแพะ,วัวกองฟาง ท่านลอยอยู่บนฟ้าค่อยๆลดลงสู่เบื้องล่าง ตอนนั้นทุกคนที่ยืนอยู่ก็รีบคุกเข่าลงกับพื้น ผมก็ทำตาม  ผมยังงงๆว่าท่านเป็นใคร หนึ่งในคนที่มากับผมตะโกนว่า  ''พระแม่มารีย์เสด็จแล้ว ๆ ๆ'' ผมเลยได้รู้จักว่าเป็นพระแม่มาีรีย์ <ในความฝันน่าจะออกเสียงว่า พระแม่มาเีีรียมากกว่า> ครั้นวันหลังผมพาลูกชายไปสมัครเีรียนที่รร.อัสสัมชัญ   ผมก็ได้เห็นรูปพระแม่ที่นั่น  เหมือนในนิมิตทุกอย่าง ผมไม่รู้ว่าท่านสื่ออะไร แต่ผมก็ได้รับความสุขที่ครั้งหนึ่งได้สัมผัสท่าน ขอให้ท่านเมตตาคุ้มครองโลกด้วย จากคุณ : เต่ากินผักบุ้ง เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 19:21:54

ความคิดเห็นที่ 14 บทสวด..บทวันทามารีย์ (Ave Maria) เป็นบทสวดที่ดิฉันชอบมากๆสมัยเป็นเด็กนักเรียนที่โรงเรียนฯ เวลาเกิดความทุกข์ต้องการความช่วยเหลือ มักจะสวดบทนี้ค่ะ ไม่ได้สวดมานับได้ 40 กว่าปี แล้ว คิดถึงแม่พระจังค่ะ!! จากคุณ : hayashimali เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 20:07:53

ความคิดเห็นที่ 15 บทสวดนี้เหมือนเนื้อเพลงเพลงนี้หรือเปล่าครับ ผมชอบฟังมากเลย จากคุณ : ชิวตัวเป็นขน เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 21:12:11

ความคิดเห็นที่ 16 เจอแล้ว อันนี้เวอร์ชันโปรดผม จากคุณ : ชิวตัวเป็นขน เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 21:18:22

ความคิดเห็นที่ 17 ขอขอบพระคุณทุกคนที่รักแม่พระครับ เดือนนี้เป็นเดือนแม่พระ มีโอกาสสวดบทวันทามารีย์ ถวายแม่พระกันนะครับ ขอแม่พระ ประทานพระหรรษทานให้ทุกคนครับ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 22:33:30

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณมากครับ พระแม่ไม่เบื่อที่เราสวดภาวนา และไม่เคยเบื่อที่จะรักเราครับ จากคุณ : กระดาษโน๊ต เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 22:39:12

ความคิดเห็นที่ 19 คุณ hayashimali ไม่ได้สวดนานแล้วหรือครับ บทสวดปัจจุบันเปลี่ยนไปเล็กน้อย ให้เข้ากับภาษาสมัยใหม่ มีโอกาสลองสวดบทใหม่นี้ถวายแม่พระดูบ้างนะครับ คิดว่าแม่พระคงดีใจ ที่ได้ยินเสียง คุณ hayashimali อีกครั้งหนึ่งครับ ขอบคุณ คุณเต่ากินผักบุ้งที่แชร์ประสบการณ์นะครับ นับว่าคุณมีวาสนาผูกพันกับแม่พระนะครับ ท่านแม่พระถึงได้มาประจักษ์ให้คุณเห็นในความฝัน มีโอกาสก็สวดวิงวอนแม่พระนะครับ แต่ไหนแต่ไรมา ไม่เคยมีคนสวดวิงวอนขอแล้วแม่พระจะไม่ช่วยครับ ขอบคุณ คุณชิวตัวเป็นขนครับ เพลงเพราะมากทั้งสองเพลงเลย เพลงเป็นภาษาละติน แต่ความหมายเหมือนกับบทสวดของภาษาไทยเราครับ Ave Maria (Franz Shubert)   Ave Maria Gratia plena Maria, gratia plena Maria, gratia plena Ave, ave dominus Dominus tecum Benedicta tu in mulieribus Et benedictus Et benedictus fructus ventris Ventris tuae, Jesus. Ave Maria Ave Maria Mater Dei Ora pro nobis peccatoribus Ora pro nobis Ora, ora pro nobis peccatoribus Nunc et in hora mortis Et in hora mortis nostrae Et in hora mortis nostrae Et in hora mortis nostrae Ave Maria จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 22:53:58

ความคิดเห็นที่ 20 การภาวนาย่อมนำ ความสงบสุขมาสู่จิตใจแก่ผู้ตั้งใจภาวนานั้นเสมอ ชอบการภาวนาเช่นกันครับ จากคุณ : นายอิ่ม เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 13:08:12

ความคิดเห็นที่ 21 วันนี้เรามาสวดสายประคำให้แก่ผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมกันนะคะ ^_^ จากคุณ : agape_love_22 เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 19:26:39