|
ท่านเล่าสู่กันฟังก็เป็นอันทราบประวัติความเป็นมา แล้วท่านก็เลยถามว่าท่านรู้ไหม ว่าตัวท่านเองเคยร่วมในการก่อสร้างวัดนี้มาก่อน ก็เลยถามว่าผมเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดนี้รึ ท่านบอกว่าไม่เคย แต่ว่าเป็นฆราวาสเคยสนับสนุนในการสร้างวัดนี้ เป็นตัวตั้งตัวตีในการทะนุบำรุง เรียกว่าทำมาแล้ว 2 วาระ ก็เลยบอกว่าท่านว่าความรู้สึกมันก็เป็นยังงั้น เวลาที่เจ้าอาวาสไปนิมนต์ก็รู้สึกว่าเจ้าอาวาสองค์นี้คงจะเข้ากันไม่ได้ เพราะว่ามีจริยะกันคนละทางตามความรู้สึก แต่ทว่าที่ตัดสินใจมาก็เพราะความรู้สึกอีกดวงหนึ่งมันเกิดขึ้น ว่าวัดนี้ เราเคยบูรณะปฏิสังขรณ์มา แต่กำลังจะทรุดโทรมหนัก มีสภาพไม่เป็นวัดก็อยากจะมาทำคืน ให้มันทรงตัวขึ้นมา มีความรู้สึกอย่างนั้น ก็เลยถามท่านว่า ผมมานี่ก็รู้สึกลำบาก นาวาอากาศเอกอาทร โรจนวิภาตกับภรรยาก็รู้สึกว่ายังเป็นเด็กอยู่ ไม่กว้างขวาง เพราะว่ายังไม่เคยเป็นผู้หลักผู้ใหญ่มาก จะไปเกณฑ์ใครก็ยาก นี่ผมจะทำได้หรือขอรับ ท่านก็ตอบว่าได้ ท่านผู้ใหญ่ทั้งหมดที่มาประชุม เป็นพระอริยเจ้าทั้งหมด มีพระไม่ใช่พระอริยะเจ้ามีหลวงพ่อเล่ง หลวงพ่อไล้เท่านั้นที่ตายไปแล้ว แต่ว่าหลวงพ่อไล้ก็เป็นพระฌานโลกีย์ จัดว่าดีอยู่ ตัวท่านเองที่พูดท่านก็บอกว่าเป็นพระอริยะเจ้า ท่านบอกว่าทุกองค์เต็มใจช่วย เทวดาเขาก็ช่วย ไม่เป็นไร ก็เป็นอันว่าปีต้น นาวาอากาศเอก อาทร กับ ศิริรัตน์ โรจนวิภาตเป็นกำลัง แล้วคุณอาทรก็มาบวช เงินช่วยในการบวชเขา 8,000 บาท เขาไม่ได้หักค่าใช้จ่ายเลย เอาเงินส่วนตัวจ่าย ถวายเข้ามาเป็นทุนซ่อมวัด ตอนที่อยู่วัดสะพานเขาจัดงานกันขึ้น ในฐานะที่จะรวมสตางค์ทอดผ้าป่าหรือทำบุญนั่นแหละ เลี้ยงพระเพลได้เงิน 8,000 บาท ให้อาตมาไว้รักษาตัว อาตมาใช้ไป 2,000 บาท เหลือ 6,000 บาท เลยเอามารวมหมด แล้วปีนั้นก็ปรากฏว่าพลอากาศโทพะเนียง กานตรัตน์ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารอากาศคนปัจจุบัน มาทอดกฐินให้ ขณะที่ทอดกฐินก็ปรากฏว่าพลอากาศตรีหม่อมราชวงศ์ เสริม สุขสวัสดิ์ เจ้ากรมสื่อสารทหารอากาศมาด้วย ก็เลยขอร้องท่านบอกว่า ขอให้เป็นทายกประจำวัด ปรากฏว่าหลังจากนั้นเป็นต้นมา ท่านพลอากาศตรีหม่อมราชวงศ์ เสริม สุขสวัสดิ์ เจ้ากรมสื่อสารทหารอากาศ กับภรรยาก็เป็นกำลังใหญ่ ช่วยทุนบำรุงวัดนี้เท่าที่เป็นอยู่ปัจจุบันนี่แหละ นับตั้งแต่วัดโกรงเกรงมีสภาพไม่เป็นวัด จนกระทั่งบัดนี้รู้สึกว่าเป็นวัดในชนบทพอที่จะลืมตาอ้าปากได้ เรียกว่าพอโชว์เขาได้นิดๆ นะ ไม่ใช่สวยหรู วัดชนบท พอดูหน้าดูตาเป็นวัดขึ้นมาได้ ถ้าจะดูวัดแถวอุทัยกันละก็ วัดชนบทด้วยกันน่ากลัวจะไม่พบละ ดีกว่าเขา ใช้เวลาก่อสร้างเอาที่เป็นล่ำเป็นสันจริงๆ แค่ 2 ปี คือ ปี พ.ศ. 2513 กับ พ.ศ. 2515 เพราะปี พ.ศ. 2514 ไปสร้างเสียที่โน่น วัดสามจีนท่าโป๊ะ ยกคณะไปสร้างกันที่นั่น แล้วก็ปี พ.ศ. 2511 ก็ทำกันแต่ที่พักอาศัย ปี พ.ศ. 2512 ทำอาคารสื่อสารขึ้นมา เป็นอาคารชั่วคราว เพื่อเป็นการรับกฐิน ทีนี้กำลังงานจริงที่เป็นหลักเป็นฐานจริงๆ ก็แค่ 2 ปี คือ พ.ศ. 2513 กับ พ.ศ. 2515 แล้วก็มาดูกันเอาก็แล้วว่าชั่วระยะเวลา 2 ปี ท่านพลอากาศตรีหม่อมราชวงศ์ เสริม สุขสวัสดิ์ พร้อมด้วยภรรยารับเป็นภาระธุระทายกประจำ ชักชวนบรรดาญาติมิตรทั้งหลายมาซ่อมแซมบูรณะปฏิสังขรณ์แล้วก็สร้างใหม่ในวัด นี้ มีอะไรบ้าง อย่าขอให้บอกเลย ประเดี๋ยวจะหาว่าโชว์พรรคพวกมากเกินไป จะเลยดีไป
จากคุณ |
:
โชติช่วงชัชวาล
|
เขียนเมื่อ |
:
วันออกพรรษา 54 20:36:13
|
|
|
|
|