เหนื่อยกาย แต่อย่าเหนื่อยใจ
|
|
พระพุทธองค์ทรงสอนว่า กาย เป็นของที่ต้องลำบากอยู่แล้ว ต้องเจ็บ ต้องพัง รักษายังไงก็ให้ดีเต็มที่ไม่ได้ เรารักษาอะไรกายไม่ได้มาก ไม่ต้องเป็นห่วงมาก แต่จิตของเรา ต้องรักษาให้ดี เพราะการเป็นทุกข์ของกายเป็นเพียงธรรมดา แต่การเป็นทุกข์ของจิตนั้นเป็นกิเลสล้วน
เพราะสิ่งที่ทำให้เป็นทุกข์หรือเป็นสุขได้จริงนั้น เป็นจากจิต ไม่ใช่จากกาย
บางครั้ง พระพุทธองค์ทรงพระประชวร ด้วยพระโรคบางอย่างในกาย ก็ทรงใช้สมาบัติข่มพระโรคนั้นได้ ดังนั้น แม้กายจะกระสับกระส่ายเพียงใด เหนื่อยล้ากับงาน หรือกับโรค หรือกับสิ่งใด จิตต้องไม่กระสับกระส่าย
นกุลปิตาสูตร ว่าด้วยกายเปรียบด้วยฟองไข่
[๑] ..
ครั้งนั้นแล คฤหบดีชื่อนกุลบิดาเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายอภิวาทแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระองค์เป็นผู้แก่เฒ่าเป็นผู้ใหญ่ ล่วงกาลผ่านวัยแล้วโดยลำดับ มีกายกระสับกระส่าย เจ็บป่วยเนืองๆ พระพุทธเจ้าข้าก็ข้าพระองค์มิได้เห็นพระผู้มีพระภาคและภิกษุทั้งหลาย ผู้ให้เจริญใจอยู่เป็นนิตย์ ขอพระผู้มีพระภาคโปรดสั่งสอนข้าพระองค์ ขอพระผู้มีพระภาคโปรดพร่ำสอนข้าพระองค์ ด้วยธรรมที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพระองค์ตลอดกาลนานเถิด.
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า นั่นถูกแล้วๆ คฤหบดี อันที่จริง กายนี้กระสับกระส่าย เป็นดังว่าฟองไข่ อันผิวหนังหุ้มไว้ ดูกรคฤหบดี ก็บุคคลผู้บริหารกายนี้อยู่ พึงรับรองความเป็นผู้ไม่มีโรคได้แม้เพียงครู่เดียว จะมีอะไร เล่า นอกจากความเป็นคนเขลา
ดูกรคฤหบดี เพราะเหตุนั้นแหละ ท่านพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เมื่อเรามีกายกระสับกระส่ายอยู่ จิตของเราจักไม่กระสับกระส่าย ดูกรคฤหบดี ท่านพึงศึกษาอย่างนี้แล.
...
นกุลปิตาสูตร จากพระไตรปิฎก http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=17&A=8&Z=105&pagebreak=0
จากคุณ |
:
Serene_Angelic
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ต.ค. 54 01:38:47
|
|
|
|