 |
สมถะ ( ฌาน ) ที่เป็นบาทของวิปัสสนา http://larndharma.org/index.php?/topic/235-%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%96%E0%B8%B0-%E0%B8%8C%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%AA%E0%B8%99/ สมถะยังไม่ใช่วิปัสสนา แล้วจะขึ้นสู่วิปัสสนาได้อย่างไร ?
ถามว่า เริ่มตั้งวิปัสสนาอย่างไร ? แก้ว่า จริงอยู่ พระโยคีนั้น ครั้นออกจากฌานแล้วกำหนดองค์ฌาน ย่อมเห็นหทัยวัตถุ ซึ่งเป็นที่อาศัยแห่งองค์ฌานเหล่านั้น ย่อมเห็นภูตรูป ซึ่ง เป็นที่อาศัยแห่งหทัยวัตถุนั้น และย่อมเห็นกรัชกายแม้ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นที่อาศัย แห่งภูตรูปเหล่านั้น. ในลำดับแห่งการเห็นนั้น เธอย่อมกำหนดรูปและอรูปว่า องค์ฌานจัดเป็นอรูป, (หทัย) วัตถุเป็นต้นจัดเป็นรูป. อีกอย่างหนึ่ง เธอนั้น ครั้นออกจากสมาบัติแล้ว กำหนดภูตรูปทั้ง ๔ ด้วยอำนาจปฐวีธาตุเป็นต้น ใน บรรดาส่วนทั้งหลายมีผมเป็นอาทิ และรูปซึ่งอาศัยภูตรูปนั้น ย่อมเห็นวิญญาณ พร้อมทั้งสัมปยุตธรรมซึ่งมีรูปตามที่ตนกำหนดแล้วเป็นอารมณ์ หรือมีรูปวัตถุ และทวารตามที่ตนกำหนดแล้วเป็นอารมณ์. ลำดับนั้น เธอย่อมกำหนดว่า ภูตรูปเป็นต้น จัดเป็นรูป, วิญญาณที่มีสัมปยุตธรรม จัดเป็นอรูป.
------------------------------------------ วิสุทธิ ๗
------------------------------------------ จิตตวิสุทธิ หรือ สมาธิวิสุทธิ โดยอาจารย์แนบ มหานีรานนท์
http://www.dharma-gateway.com/ubasika/naab/naab-02.htm
การเจริญวิปัสสนาของท่านผู้ที่ได้ฌาน เมื่อทำฌานได้แล้ว จะทำอย่างไรเล่า จึงจะทำลายวิปลาสในสมาธิออกเสียได้ เพราะตามธรรมดาผู้ที่ได้ฌานแล้วนั้น ย่อมเป็นสุข และ ย่อมเพลิดเพลินในสุขนั้น
ก็มีอีกนัยหนึ่ง ซึ่งเป็นนัยของวิปัสสนาที่เกิดจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้บอกทางแนะนำให้ โดยมีพราหมณ์ ถามว่า เมื่อเข้า รูปฌาน หรือ อรูปฌาน แล้ว พระองค์จะทรงแนะนำอะไรกับเขาบ้าง
ก็มีอยู่ทางเดียว อย่างเช่น ปฐมฌาน ก็มี วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา 5 องค์
สุขนี้นั้นเกิดจากอะไร
เกิดจาก ปีติ ปีติเป็นเหตุ
ปีติ นั้นเกิดจาก สมาธิ
ที่ทำให้เรารู้สึกเป็นสุขนั้น เพราะ ปีติ เป็นองค์สำคัญ เวลายกขึ้นสู่ วิปัสสนา ท่านจึงเอา ปีติ ซึ่งเป็นองค์ของ ฌาน นั้นแหละขึ้นสู่วิปัสสนา
ปีติ นี้เป็น นามธรรม อาศัยเกิดที่ หทัยวัตถุ ไม่ใช่เกิดจาก ตา หู หรือ โสตวัตถุ ฆานวัตถุ ชิวหาวัตถุ กายวัตถุ ไม่ใช่อย่างนั้น
ปีติ นี้เกิดจาก หทัยวัตถุ ซึ่งเป็นรูป
พิจารณาอย่างนี้แล้ว ท่านก็เพ่งปีติ
ตามธรรมดาการทำฌาน ไม่ได้เพ่ง นามรูป แต่เพ่ง กสิณ มีเพ่ง น้ำ ดิน ไฟ ลม เป็นต้น
แล้วแต่ตัวกรรมฐานที่จะให้ได้ในฌานนั่น อารมณ์ของปีติ หรือ อารมณ์ของฌานในปีตินั้น มีอารมณ์กรรมฐานที่ตนเพ่งมาก่อนเป็นนิมิต หรือ เป็น ปฏิภาคนิมิต หรือ อุคคหนิมิต จากอารมณ์นั้นแล้วจึงได้เข้าถึงฌานในฌานนั้นก็มีอารมณ์อยู่อย่างนั้น
แต่เวลาที่จะยกขึ้นสู่วิปัสสนานั้น ไม่ได้เพ่งอารมณ์กรรมฐานมีกสิณ เป็นต้น อารมณ์เหล่านั้นเป็น บัญญัติธรรม ไม่มีสภาวะที่จะให้เห็นว่าเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ได้
เพราะฉะนั้นจะยกขึ้นสู่อารมณ์วิปัสสนาไม่ได้ ท่านก็ยกเอาปีติ เพราะเป็น นามธรรม เป็นนามขันธ์ เป็น สังขารขันธ์ มีสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา จึงยกเอาปีติขึ้นเพ่ง
ธรรมชาติของปีตินั้น จะเพ่ง หรือ ไม่เพ่ง ก็มีการ เกิด ดับ และจิตเป็นสมาธิ ก็มีการเกิด ดับ เมื่อปีติที่อาศัยจิตที่ได้ฌานแล้ว ปีติก็เกิด ดับอยู่เป็นธรรมดาเช่นเดียวกัน แต่ว่าเกิด ดับ ติดต่อรวดเร็วมาก จนกระทั่งไม่สามารถจะเข้าไปรู้ว่า เขาไม่เที่ยง หรือ เขาเกิด ดับได้ และก็ไม่ได้ดูด้วย
------------------------------------------------------- พระพุทธพจน์ สพฺพโส นามรูปสฺมึ ยสฺส นตฺถิ มมายตํ อสตา จ น โสจติ ส เว ภิกฺขูติ วุจฺจติ ผู้ใดไม่มีความยึดถือในนามรูป ว่าของเราโดยประการทั้งปวง และย่อมไม่เศร้าโศกเพราะนามรูปไม่มีอยู่ ผู้นั้นแลเรากล่าวว่า เป็นภิกษุ ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท -----------------------------------------------------------
ทิฏฐิวิสุทธิ ( นามรูปปริจเฉทญาณ ) โดยอาจารย์แนบ มหานีรานนท์
http://larndham.org/index.php?/topic/19112-%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%8F%E0%B8%90%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4/
---------------------------------------------------------------
ที่สำคัญ ลองไปตรวจดูตำราดีๆ นะครับ นามรูปปริเฉทญาณ ไม่มีคำนี้ในพระไตรปิฎก มโนมยิทธิ มีในระบุไว้ในพระไตรปิฎกหลายตอน
จากคุณ : ซามูไรหมูตอน
------------------------------------------------ คุณซามูไร ครับ แต่ มโนมยิทธิ ในพระไตรปิฏก อรรถกถา ก็ไม่เหมือนวิธีที่ อาจาริยวาท หรือ อัตตโนมติ ที่กำหนดขึ้น นั่งสมาธิ เป็นกลุ่ม ๆ แล้วพาไปเห็น นรก สวรรค์ นิพพาน พระพุทธเจ้า ซึ่งสมาธิแบบนี้ ไม่เป็นไปเพื่อ จิตตวิสุทธิ หรือ สมาธิวิสุทธิ
แต่ ไม่สอนให้กำหนดรู้ทุกข์ในรูป นาม , ให้เห็นรูป นาม ตามความเป็นจริง ตามพระไตรปิฏก อรรถกถา
ฝากคุณซามูไร พิจารณาให้ดี
จากคุณ |
:
เฉลิมศักดิ์1
|
เขียนเมื่อ |
:
31 ต.ค. 54 09:57:01
|
|
|
|
 |