ความคิดเห็นที่ 1 ดูว่าครบองค์ 5 หรือปล่าว    ๑. สัตว์มีชีวิต            ๒. รู้ว่าสัตว์มีชีวิต            ๓. จิตคิดจะฆ่า            ๔. พยายามเพื่อจะฆ่า            ๕. สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น ถ้าครบก็ ศีลข้อ 1 ก็ขาด ถ้าไม่ครบ ก็ด่างพร้อยไป จากคุณ : locomotion เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 21:20:12

ความคิดเห็นที่ 2 ก็ครบเลยซิ หุๆ แต่บวกลบข้อ ๒ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 54 21:39:12 จากคุณ : Jouette เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 21:38:03

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าศีลแค่ด่างพร้อยแล้วจะต้องเป็นเจ้ากรรมนายเวรต่อกันหรือไม่ จากคุณ : Jouette เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 21:40:40

ความคิดเห็นที่ 4 ศีลก็ศีล บาปก็บาป ต้องแยกนะ แต่ละเคสที่ถามมา ไม่เหมือนกัน บางเคสผมไม่เข้าใจ ขอรายละเอียดหน่อยสิครับ บาปอยู่ที่จิตชั่วนะ จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 23:43:27

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าตอบจริงๆคือ ไม่ทราบครับ เพราะไม่มีความสามารถรู้วาระจิตขณะทำกรรม ของบุคคลเหล่านั้น รู้แต่ว่าการกระทำเหล่านั้น ยากนักที่จิตจะไม่เป็นอกุศลจิต จากคุณ : Generals เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 08:53:35

ความคิดเห็นที่ 6 ผิดศีลแต่ไม่บาป มีไม๊คะ อาจมีเศษของกรรม เราว่าน่าจะดูเจตนาด้วย นี่เป็นเจตนาดี จากคุณ : GravityOfLove เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 09:23:03

ความคิดเห็นที่ 7 ผิดศีลแต่ไม่บาป ก็มีได้ เช่นศีลแปด  หากเราทานอาหารยามวิกาล ถือว่าเราผิดศีล แปด แต่ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดบาป แต่อย่างใด   เว้นแต่เราจะตั้งใจว่าจะถือศีลแปด แต่เกิดทำผิดศีลดังกล่าว แล้วมีจิตคิดแล้วว่า เราทำสิ่งผิด หรือสิ่งไม่ดี เพราะละเมิดข้อศีลนั้น  จิตเศร้าหมอง ก็เกิดบาปนั่นเอง จากคุณ : -tak- เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 10:46:37

ความคิดเห็นที่ 8 ครบองค์ 5 หรือปล่าว   ๑. สัตว์มีชีวิต   ๒. รู้ว่าสัตว์มีชีวิต   ๓. จิตคิดจะฆ่า   ๔. พยายามเพื่อจะฆ่า   ๕. สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น เมื่อมารดามีภาวะภรรค์เป็นพิษรุนแรง ทารกในครรค์มีภาวะบวมน้ำรุนแรง หญิงนั้นถูกข่มขืนแล้วตั้งครรภ์ หญิงประสบปัญหาทางจิตใจหรือร่างกายจากการตั้งครรภ์ สูตินรีแพทย์ที่ต้องยุติการตั้งครรภ์ ถ้านั่นหมายถึงความมีชีวิตบังเกิดขึ้นแล้ว ถึงจะด้วยเหตุหรืออยู่ในภาวะใดก็ตาม เราว่าครบองค์ 5 นั่นแหละ หากต้องทำเพื่อระงับไม่ให้มีการเกิด ความเศร้าหมองทั้งในจิตของคนทำและคนที่ถูกทำย่อมจะเกิดขึ้นนะ ส่วนเรื่องเวรกรรม เศษกรรมจะมีมากน้อยแค่ไหน ก็คงจะขึ้นอยู่กับเจตนาในการทำบริสุทธิ์แค่ไหน เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ให้คนที่ศึกษามากๆ มาตอบ เพราะก็อยากทราบเหมือนกันค่ะ จากคุณ : sailsky เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 14:16:54

ความคิดเห็นที่ 10 บาปบุญอยู่ที่ใจครับ ถ้าสูติแพทย์ผู้นั้นเกิดความลังเลสงสัยว่าสิ่งที่ตนทำคือการฆ่าทารก เมื่อนั้นแล้วชีวิตก็ย่อมจะไม่มีความสุข ด้วยความรู้สึกว่าสิ่งที่ทำเป็นบาปไป อาจจะไม่ตรงทีเดียว แต่คิดว่าพอจะเปรียบกับการฉันเนื้อสัตว์ของพระภิกษุได้ ...ห้ามฉันเนื้อสัตว์ที่เขาฆ่าทำถวาย เจาะจงภิกษุ ทรงปรับอาบัติทุกกฏแก่ภิกษุที่ฉันเนื้อสัตว์ที่เขาเจาะจงฆ่าทำถวาย ในขณะเดียวกันก็ทรงอนุญาตให้ฉันปลาและเนื้อที่บริสุทธิ์ โดยเงื่อนไข ๓ ประการ คือ (๑) ไม่ได้เห็น (๒)ไม่ได้ยิน (๓)ไม่ได้นึกรังเกียจว่าเขาฆ่าเพื่อให้ตนบริโภค ... จากคุณ : IceSwaN เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 13:57:13