คำว่าไม่ทำอะไรในความหมายของผม ไม่ได้หมายความว่าผมไม่รู้นะว่า เขาได้ออกกฎมาแล้ว แต่แค่การออกกฎ ใคร ๆ มันก็ออกได้ หากออกแล้ว ไม่สนใจว่า จะถูกนำไปปฏิบัติหรือไม่ เช่นออกกฎว่า ห้ามทิ้งขยะ บริเวณลานวัด แต่ก็มีคนเอามาทิ้งทุกวัน โดยที่ กุฎิของผู้ออกกฎ ก้อยู่ใกล้ ๆ ที่ทิ้งขยะนั่นแหล่ะ ...... แบบนี้ จะออกกฎทำไม และจะเรียกว่าทำงานไหม ผมก็ถือว่า ไม่ทำ ทำงานไม่เป็น ไม่ติดตามงาน ฯลฯ |
|
|
- ปัญหานี้ อยู่ที่ตัวฆราวาส และ พระที่วัดครับ ลำดับการปกครองคณะสงฆ์เขามีอยู่
ถ้าพระที่วัดไม่ปฏิบัติตามกฎของมหาเถรสมาคม ญาติโยมที่เห็นไม่ชอบ ทำไม ไม่ไปร้องเรียนในพระสังฆาธิการที่บังคับบัญชาเจ้าอาวาสวัดนั้นล่ะครับ ???
เจ้าคณะตำบล , เ้จ้าคณะอำเภอ, เจ้าคณะจังหวัด, เจ้าคณะภาค , เจ้าคณะหน
มีหลายระดับเยอะแยะนี่ครับ หรือมิใช่
ถ้าจะต้องให้ พระระดับสมเด็จฯ รองสมเด็จฯ มานั่งไล่ตามจับ ไล่บี้สมมติสงฆ์ที่ทำผิดเอง ผมว่ามันตลกเกินไปครับ
แล้วแบบนี้ จะมีพระสังฆาธิการไว้ทำอะไรล่ะครับ ?
ก็มีเถรสมาคม แล้วก็ให้บรรดาท่านเจ้าคุณวิ่งทำงานทุกอย่างไม่ดีกว่าหรือ(ประชดตรง ๆ นะครับ)
- ต่อมา ถ้าญาติโยมไม่สนใจ ไม่แจ้ง ปล่อยไปตามเวรตามกรรม ญาติโยมก็มีส่วนผิดเหมือนกัน คือดีแต่นินทา แล้วก็มาบอกว่า พระไม่ทำอย่างนั้น พระไม่สนใจอย่างนี้ แล้วญาติโยม คอยดูแลพระไหมล่ะครับ ??
อย่าลืมว่า พระทีอยู่ในวัดส่วนมาก คือลูกหลานของคนที่อาศัยอยู่ในละแวกวัดนั้นเป็นส่วนมาก ถ้าอยากให้ลูกหลานเป็นพระที่ดี ก็ต้องคอยดูแลครับ ไ่ม่ใช่ว่า ให้พระดูแลอย่างเดียว สมัยนี้ที่เห็นส่วนใหญ่ ก่อนบวชก็ต้องมอมเหล้ากันให้เต็มเหนี่ยวก่อนหลายราย บางรายมาถึงขานนาคไม่เป็นก็มี
พอพระจะไม่รับให้บวช ก็บอกว่าพระไม่เมตตา นี่คือเรื่องจริงครับ แล้วผมจะบ่นทำไม ไม่เห็นตรงประเด็น
สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อคือ ญาติโยมรอบวัดเอง ก็ผลักภาระทุกอย่างไปให้วัด ให้มหาเถรสมาคมดูแล พอเถรสมาคมดูแลไม่ไหว ก็มาบอกว่า เถรสมาคมไม่ทำงาน ปล่อยปละละเลย แบบนี้ผมว่ามันก็ไม่เป็นธรรมครับ
ดีแต่วิจารณ์น่ะ ใคร ๆ ก็ทำได้ครับ