PANTIP.COM : Y11381885 ***ผู้ตามรอยหลวงพ่อเทียน พบธรรมใน 2 สัปดาห์**** []

ความคิดเห็นที่ 11

ขอโทษที่ตอบช้าไปหน่อยนะครับ

เป็นอย่างที่คุณ saengdaed กล่าวครับ
แต่ขอลำดับแบบนี้ครับ เมื่อจิตเริ่มหยุดปรุงแต่ง ก็เริ่มพบธรรมชาติเดิม
แม้ตอนนั้น กิเลสจะยังไม่ฝ่อมาก แต่ธรรมชาติเดิมแท้ที่ปรากฏ จะหยุดการปรุงแต่ง
ทำให้กิเลสค่อยๆ หมดความหมาย เพราะจิตปล่อยความยึดมั่น จะเริ่มฝ่อตั้งแต่นั้น

การเห็นธรรมชาติเดิมก็มีการพัฒนา ตั้งแต่การเห็นน้อยๆ จนเห็นแจ้ง
ตามกระบวนการปล่อยความยึดมั่น เพราะเห็นด้วยปัญญา
พอความยึดมั่นคลายจนถึงที่สุด สติปัญญาแก่รอบ เห็นความจริงธรรมชาติมากพอ
จิตจะวางทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก และสลัดคืน(ปฏินิสัคคะ) ความยึดมั่นต่างๆ กลับคืนสู่ธรรมชาติ
วันนั้นแหละครับ สิ่งที่ไม่เกิดไม่ดับ ไม่มีบัญญัติ อยู่นอกเหนือความหมาย และการอธิบายทางตัวอักษร จะปรากฏตัว
วันนั้นจิตจะเริ่มเข้าสู่กระบสนการใหม่ ที่ไม่มีความทุกข์มาเบียดเบียนแล้ว
มีกิเลสที่ยังนอนเนื่องในสันดาน แต่กิเลสนั้นไม่สามารถปรุงความทุกข์ได้
เพระจิตตกไปในกระแสของความไม่เกิดดับนั้นแล้ว ผลจากการสลัดคืนอันนั้นครับ
การตกเข้าไปนี้ เราเรียกกันว่า บรรลุ

กิจที่เหลือจากนี้ คือขัดเกลากิเลสที่นอนเนื่อง ที่เรียกว่าสังโยชน์ ให้เกลี้ยงไปจากขันธ์จริงๆ จึงหมดเครื่องผูกพันธ์ อันจะนำมาเกิดอีก

ส่วนความเริงร่า....ภาษาโลกอาจกล่าวว่า ยินดี เริงร่า เป็นความยินดีของขันธ์ ในกองขันธ์ทั้ง 5
แต่สิ่งนี้อยู่นอกเหนือขันธ์ 5 ...จึงไม่เกี่ยวข้องกับความยินดี หรือยินร้ายใดๆ เลยครับ

ไม่น่าแปลกที่ครูบาอาจารย์ บอกว่าอธิบายไม่ได้
สิ่งที่ไม่สามารถ ...รู้สึก... นึก... หรือคิด จินตนาการ ถึงมันได้ว่ามันเป็นอย่างไร
จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ ยิ่งอธิบายยิ่งผิด
เพียงบอกอาการได้ว่า ไม่ปรากฏการเกิด ตั้งอยู่ หรือดับไป ของสิ่งนี้
ไม่อาจกล่าวได้ด้วยซ้ำ ว่ามีอยู่ หรือไม่มี....

เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่สุด ที่จิตเป็นนามธรรม แม้จะเป็นธรรมอันละเอียด
แต่ถ้าเทียบกับสิ่งนี้ จิตจะกลายเป็นของหยาบไปทันที
จิตเป็นสิ่งที่หยาบกว่า... แต่กลับมีความสามารถเข้าถึงสิ่งนี้ได้
เป็นความอัศจรรย์อย่างสุดซึ้ง ที่บรมครูของเราค้นพบได้
สิ่งที่จิตจะพบกับสิ่งนี้ได้ ต้องทำอาการ บรรลุ เพียงอย่างเดียว
แค่ เห็นหรือ สัมผัส อันนั้น ยังไม่แจ้งถึงตัวจริง
แต่อาจเรียกได้ว่า นิพพานชิมลอง ตามคำครูครับ

บรรลุธรรม แล้ว ไม่มีทุกข์ เพราะจิตบรรลุกระแสความไม่ปรุงแต่งแล้ว
ไม่มีความปรุงแต่ง จิตก็ไม่ทุกข์

เล่ามายาวเลย ขอจบแค่นี้นะครับ

จากคุณ : ทางนี้

เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 23:29:05