สุรา หมายถึง ทุกสิ่งที่ทำให้สติปัญญามึนเมาและหลงลืม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มชนิดใด
ทุกสิ่งที่ดื่มแล้วทำให้มึนเมาไม่ว่าปริมาณมากหรือน้อย ถือว่าเป็นสิ่งต้องห้าม (หะรอม)
จากท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮา กล่าวว่า ท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม ถูกถามถึงเรื่องอัลบิตอิ เครื่องดื่มจากน้ำผึ้ง - ท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
ทุกสิ่งที่ดื่มแล้วมึนเมา สิ่งนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องห้าม (หะรอม)
(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 5586 สำนวนหะดีษเป็นของท่าน และมุสลิม หมายเลขหะดีษ 2001)
วิทยปัญญาในการห้ามเสพสุรา
สุราเป็นปฐมบทของความชั่วร้าย เป็นที่ต้องห้ามในการที่จะไปเกี่ยวข้องไม่ว่าจะด้วยกับกรณีอันใด การดื่ม การขาย การซื้อ การผลิต การให้บริการที่นำไปสู่การดื่ม ผู้ที่ดื่มมันจะทำให้ลืมสติ มันจะส่งผลอันตรายต่อร่างกาย จิตวิญญาณ ทรัพย์สมบัติ ลูกหลาน เกียรติภูมิ ปัจเจกบุคคล และรวมถึงสังคม และมันจะเพิ่มให้เกิดโรคความดันโลหิต เป็นสาเหตุให้ตัวเขาและลูกมีปัญหาทางสมอง สติฟั่นเฟือน อัมพาต และเป็นเหตุนำไปสู่การก่ออาชญากรรม
สิ่งมึนเมาทำให้เกิดความเอร็ดอร่อยและมีพลังเพิ่มขึ้น พร้อมกันนั้นทำให้สติปัญญาไม่สามารถแยกแยะได้ ผู้ที่ดื่มไม่รับรู้ในสิ่งที่พูด ด้วยเหตุผลดังกล่าวอิสลามจึงห้ามและมีบทลงโทษเพื่อสกัดกั้นผู้ที่จะไปเกี่ยวข้องพัวพัน
1. อัลลอฮฺตะอะลาตรัสว่า
โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย แท้จริงสุรา การพนัน แท่นหินสำหรับเชือดสัตว์บูชายัญ และการเสี่ยงติ้วนั้นเป็นสิ่งโสมมอันเกิดมาจากชัยฏอน ดังนั้นพวกเจ้าจงห่างไกลจากมันเสียเพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับความสำเร็จ
แท้จริงชัยฏอนต้องการที่จะให้เกิดการเป็นศัตรูและการเกลียดชังกันระหว่างพวกเจ้าในสุราและการพนันเท่านั้น และมันจะหันเหพวกเจ้าออกจากการรำลึกถึงอัลลอฮฺและการละหมาด แล้วพวกเจ้าจะยุติไหม (อัลมาอิดะฮฺ / 90-91)
2. จากอบีอุรอยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ แท้จริงท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
ผู้ทำซินา (ผิดประเวณี) จะไม่ทำซินาขณะที่ทำซินาเขาอยู่ในสภาพที่เป็นมุมิน
เขาจะไม่ดื่มสุราขณะที่ดื่มสุราเขาอยู่ในสภาพที่เป็นมุมิน
เขาจะไม่ขโมยขณะที่ขโมยเขาอยู่ในสภาพที่เป็นมุมิน
และเขาจะไม่ปล้นชิงทรัพย์สินผู้อื่นโดยที่ผู้คนยืนมองเขาในสภาพที่เขาเป็นมุมิน
(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 6772 สำนวนหะดีษเป็นของท่าน และมุสลิม หมายเลขหะดีษ 57)
หลักฐานยืนยันกำหนดโทษการเสพสุรา
ยืนยันการกำหนดบทลงโทษในการเสพสุราด้วยกับ2 ประการ ต่อไปนี้
1. ผู้ดื่มยอมรับว่าเขาเป็นผู้ดื่มสุรา
2. มีพยานผู้ชายที่มีความเที่ยงธรรมมายืนยัน 2 คน
บทลงโทษของผู้ที่ดื่มสุรา
1. เมื่อมุสลิมได้ดื่มสุราด้วยความสมัครใจ และรู้ว่าหากดื่มมันในปริมาณมากจะทำให้มึนเมา เขาจะถูกลงโทษโดยการโบยจำนวน 40 ครั้ง และสำหรับความเห็นของผู้นำ (อิมาม) สามารถเพิ่มให้หนักยิ่งขึ้นโดยการเฆี่ยนตีจำนวน 80 ครั้งเป็นการตักเตือน หากเขาเห็นว่าบุคคลนั้นจมปลักอยู่กับการดื่ม
2. ผู้ที่ดื่มสุราครั้งแรกให้โบยตามบทลงโทษของการดื่มสุรา หากดื่มครั้งที่สองก็ให้โบย หากดื่มครั้งที่สามก็ให้โบย และหากดื่มครั้งที่สี่ ให้ผู้นำลงโทษโดยการกักขังหรือประหารชีวิตเป็นการตักเตือน เพื่อเป็นการปกป้องปวงบ่าวที่เหลือและสกัดความเสื่อมเสียที่จะติดตามมา
3. ผู้ที่ได้ดื่มสุราแล้วในโลกดุนยาแล้วเขาไม่ได้เตาบะฮฺต่ออัลลอฮฺ(สารภาพผิดและกลับตัว) ในโลกอาคิเราะฮฺเขาจะไม่ได้ดื่มอีกถึงแม้ว่าเขาจะได้เข้าสวนสวรรค์ก็ตาม ผู้ที่เสพติดสุราจะไม่ได้เข้าสวนสวรรค์ ผู้ที่ดื่มสุราแล้วมึนเมาการละหมาดของเขาจะไม่ถูกตอบรับเป็นระยะเวลา 40 วัน หากเขาเสียชีวิตลงจะได้เข้านรก หากเขาเตาบะฮฺ (สารภาพผิด) อัลลอฮฺก็จะทรงรับการเตาบะฮฺของเขา และผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำในวันกิยามะฮฺอัลลอฮฺจะให้เขาดื่มน้ำผลไม้คั้นของชาวนรก
จากญาบิร เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ แท้จริงมีชายคนหนึ่งได้เดินทางมาจากญัยชานเป็นสถานที่หนึ่งซึ่งอยู่ในประเทศเยเมน แล้วเขาได้ถามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม ถึงเครื่องดื่มที่ชาวเมืองของพวกเขาดื่มกันทำมาจากข้าวโพดมีชื่อเรียกว่าอัลมิซรู ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม ถามว่า มันทำให้มึนเมาหรือไม่?
เขาตอบว่า "ใช่ มันทำให้เมาได้ "
ท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม ตอบว่า ทุกสิ่งที่ทำให้มึนเมาถือว่าหะรอม แท้จริงอัลลอฮฺอัซซาวะญัลลาได้สัญญากับผู้ที่ดื่มสิ่งมึนเมาจะให้เขาดื่มฏีนะฮฺ อัลเคาะบาล"
พวกเขาถามว่า โอ้ท่านรอสูลุลลอฮฺดื่มฏีนะฮฺ อัลเคาะบาลคืออะไร?
ท่านตอบว่า "เป็นเหงื่อของชาวนรกหรือน้ำผลไม้คั้นของชาวนรก (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลขหะดีษ 2002
จากอิบนิอุมัร เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุมา แท้จริงท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
ผู้ใดที่ดื่มสุราในโลกดุนยาแล้วเขาไม่ได้เตาบะฮฺ (สารภาพผิด) เขาจะถูกห้ามไม่ให้ดื่มในโลกอาคิเราะฮฺ
(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 5575 สำนวนหะดีษเป็นของท่าน และมุสลิม หมายเลขหะดีษ 2003)
เป็นที่อนุญาตให้แก่ผู้นำตักเตือนโดยการทำลายข้าวของหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสุรา เผาแหล่งมั่วสุมของผู้ที่ดื่มสุรา โดยพิจารณาขึ้นอยู่กับประโยชน์ที่เขาเห็นว่าเหมาะสมเป็นการสกัดกั้นและเป็นการเตือนผู้ที่ดื่มมัน
หัมมัด บิน อิบรอฮีม อัตตุวัยญิรีย์แปลโดย : ยูซุฟ อบูบักรฺ / Islam House