Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เอานิทานที่ชอบอ่านตอนเด็กๆมาฝากครับ : จดหมายจากพญายม ติดต่อทีมงาน

เด็กๆชอบอ่านเรื่องพวกนี้ พอดีเมื่อวานนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เลยเอามาฝากครับ 

******************************************
วันหนึ่ง ท่านพญายมเสด็จขึ้นว่าบนบัลลังก์ใน บรรยากาศที่น่าเกรงขาม ยมทูตได้ลากตัวชายสูงอายุ ผมขาวบางหรอมแหรมคนหนึ่ง และชายหนุ่มอีกคนหนึ่งขึ้นมาคุกเข่าลงเบื้องหนร้าของพระองค์ 

ยังมิทันที่พญายมจะเอ่ยความว่าอย่างไร ชายสูงอายุ ผู้นั้นก็รีบตีโพยตีพายโวยวายขึ้นมาทันทีว่า 

"ข้าแต่ผู้เป็นใหญ่ กระผมถูกจับตัวมาโดยไม่บอกกล่าวกัน อย่างนี้มันไม่ยุติธรรมเลย สมบัติพัสถานของกระผมตั้งมากมายยังไม่ได้แบ่งสรร บัญชีเงินทองของกระผม…" 

"หยุดเดี๋ยวนี้นะ" ท่านพญายมตบโต๊ะผาง "เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่นี่เป็นสถานที่แห่งใด เราเป็นใครเจ้าจึงกล้าส่งเสียงโวยวายเช่นนี้"
 
"กระผม…กระผม…" ชายสูงอายุอึกอักทำหน้าเลิ่กลั่กเขาเพิ่งสังเกตเห็นบรรยากาศอันน่าสะพรึงกลัวรอบ ๆ 

"ฮึ่ม" ท่านพญายมสำทับซ้ำด้วยเสียงในลำคอ แล้วเอ่ยด้วยเสียงก้องกังวานว่า "เจ้าทำบาปทำกรรมไว้มากเมื่อมีชีวิตอยู่ เจ้าจะต้องได้รับโทษสถานหนัก เอาละเราจะถาม เจ้าจงตอบด้วยความเป็นจริง"

"อา…กระผม…ถ้ากระผมตอบแล้ว ท่านต้องโปรดกรุณากระผมด้วยนะขอรับ…" ชายสูงอายุละล่ำละลัก 

"เอาละเราถามเจ้า" พญายมตัดบท "เงินสงเคราะห์วัยชราของแม่เฒ่าหวังข้างบ้าน เจ้าหลอกลวงเอาไปใช้แต่งสวนดอกไม้บ้านของเจ้าใช่ไหม" 

"เอ้อ…อ้า…ใช่ขอรับ…" ชายสูงอายุก้มหน้าตอบ 

"ยังมีอีก…" พญายมเอ่ยสำทับต่อ "เจ้าร่วมมือกับพรรคพวกขายผงขาว อีกทั้งเข้าหุ้นกับนายกอเจ้าของโรงงานผลิตยาทำยาปลอมหากำไร ใช่หรือไม่ใช่"

"ชะ…ใช่…ใช่ขอรับ" ชายสูงอายุก้มหน้าต่ำลงไปอีก 

"ยกขึ้นมาแค่สองเรื่องเท่านี้เอง เจ้ายังจะโวยวายว่าไม่ยุติธรรมอีกหรือไม่" ท่านพญายมจ้องหน้าชายสูงอายุเขม็ง 

"ให้เจ้าอยู่มาได้จนอายุ 76 ก็กรุณาเจ้ามากไปแล้ว" นัยน์ตาของพญายมแดงก่ำ "เอ้า มาลากตัวไปลงกระทะน้ำมัน" พญายมหันไปสั่ง 

"ขอได้โปรดเถิด…" ชายสูงอายุได้ยินคำพิพากษาโทษให้นำไปทอดในกระทะน้ำมันเท่านั้นก็หน้าซีด รีบโขกหัวกราบนับครั้งไม่ถ้วน พลางพูดว่า "ตอนมีชีวิตอยู่ แม้กระผมจะทำความชั่วร้ายไว้มากแต่กระผมทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำไมไม่มีใครเตือนกระผมเลยว่าให้รีบกลับตัว

"เหลวไหล" ท่านพญายมตบโต๊ะอีก "เรามีจดหมายเตือนเจ้าไปแล้วตั้งสามครั้ง เจ้ายังบอกได้อีกว่าไม่มีใครเตือน

"ไม่มีจริง ๆ ขอรับ…" ชายสูงอายุยืนยัน 

"เอาละเจ้าอาจจะเลอะเลือนไป" ท่านพญายมทำเสียงอ่อนลง 
"เจ้าจงสงบใจสักครู่แล้วลองทบทวนดู" ท่านพญายมทิ้งช่วงพัก แล้วเอ่ยขึ้นใหม่ว่า "เจ้าสวมแว่นตาคนแก่นี้เมื่อไหร่" 

"เอ้อ…" ชายสูงอายุยกมือขึ้นเกาศรีษะเล็กน้อย เป็นการช่วยทบทวนความจำ "เอ้อ จำได้แล้ว เมื่อตอนกระผมอายุได้ 50 ขอรับ วันนั้นเป็นวันในฤดูหนาว กระผมนั่งอยู่บนเก้าอี้โยก ดูหนังสือพิมพ์ รู้สึกนัยน์ตาพร่ามัว หลังจากนั้นกระผมก็ไปตรวจสายตาประกอบแว่น"

"นั่นแหล่ะจดหมายเตือนฉบับที่หนึ่ง ที่เราส่งไปถึงเจ้า เพื่อให้รู้ว่าวันเวลาของเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว" 

"โอ๊ะ" ชายสูงอายุอุทาน "นั่นนะหรือขอรับจดหมายเตือน" 

"ใช่แล้ว" ท่านพญายมตอบหนักแน่น "แล้วฉบับที่สองล่ะขอรับ" ชายสูงอายุยังไม่หายข้องใจ 

"จำได้ไหม วันนั้นเป็นวันเกิดอายุครบ 60 ปีของเจ้า ลูกสาวของเจ้าเดินทางไกลมาจัดงานวันเกิดให้ เจ้าตะกรามแทะน่องไก่ชิ้นใหญ่จนฟันหน้าหัก จากนั้นเป็นต้นมาฟันของเจ้าก็หลุดร่วงไปทีละซี่สองซี่จนบัดนี้เหลืออยู่ไม่กี่ซี่แล้ว นั่นแหล่ะจดหมายเตือนครั้งที่สอง" พญายมหยุดชั่วขณะ แล้วเอ่ยต่อไปว่า 

"หลังจากนั้นอีกปีหนึ่ง ผมของเจ้าที่เคยดกดำเป็นเงางามก็เปลี่ยนสีและเริ่มร่วง จนกลายเป็นผมขาวและบางหรอมแหรมอย่างนี้ นี่เป็นจดหมายเตือนฉบับที่สาม แล้วเจ้ายังจะกล้าปฏิเสธ ว่าไม่ได้รับคำเตือนอีกหรือ" 

ว่าแล้วท่านพญายมก็หันไปสั่งการ "เอาตัวชายผู้นี้ลงไปรับโทษ" ชายสูงอายุไม่มีข้อต่อรองใด ๆ อีกเลย เขาได้แต่สะอื้นไห้เดินดุปัดตุเป๋ตามแรงลากจูงไปสู่แดนทรมาน 

คนต่อไปที่มารับพิพากษาโทษพร้อมกับชายสูงอายุ คือ ชายหนุ่ม ท่านพญายมเปิดดูบัญชีแล้วส่ายหน้า บอกว่า "เจ้ายังหนุ่มยังแน่น น่าจะทำสัมมาอาชีพให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองต่อไป เหตุใดจึงต้องตกลงมาที่นี่" 

"ใช่แล้วขอรับ กระผมก็รู้สึกว่าไม่เป็นการยุติธรรมเลย" ชายหนุ่มได้ช่องก็เริ่มตีโพยตีพายต่อจากชายสูงอายุบ้าง 

"ท่านผู้เป็นใหญ่เห็นไหมขอรับ นัยน์ตาของกระผมก็ยังไม่ได้ฝ้าฟาง ผมก็ยังไม่ขาว ฟันก็ยังไม่หลุดร่วง แล้วกระผมก็ไม่ได้ก่อกรรมทำเข็ญอะไรนักหนา อีกอย่างหนึ่งก็คือ กระผมไม่ได้รับจดหมายเตือนจากท่านเลยเป็นความสัตย์จริง" 

"โธ่ ไอ้หนูหน้าโง่" ท่านพญายมลากเสียงอย่างเหนื่อยหน่าย "จดหมายเตือนน่ะไม่ได้เหมือนกันทุกรายไปหรอก" 

"ถ้าเช่นนั้น จดหมายเตือนของท่านที่ให้แก่กระผม เป็นอย่างไรล่ะขอรับ" ชายหนุ่มถาม 

"เจ้าจำชายหนุ่มเพื่อนบ้าน ที่เกิดปีเดียวกับเจ้าได้ไหม" พญายมทบทวนให้อย่างใจเย็น 

"อ๋อลูกชายแม่หม้ายจางน่ะหรือขอรับ เขาเป็นเพื่อนเล่นกับผมมาตั้งแต่เด็ก" ชายหนุ่มตอบ 

"แล้วบัดนี้เพื่อนคนนั้นของเจ้าไปไหนเสีย" ท่านพญายมถาม 

"เขาตายด้วยโรคปอดตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อนแล้วขอรับ" ชายหนุ่มตอบ "ใช่ นั่นแหละคือจดหมายเตือนครั้งที่หนึ่ง ที่เราส่งให้แก่เจ้า" 

"เอ๊ะ ไม่เหมือนกันนะขอรับ ไอ้เพื่อนของกระผมคนนั้นมันเป็นวัณโรคผอมกระหร่อง ส่วนกระผมยังล่ำสันแข็งแรง" ชายหนุ่มขึ้นเสียงค้าน 

"เราเรียกเจ้าว่าไอ้หน้าโง่น่ะไม่ผิดเลย" ท่านพญายมยังคงอารมณ์ดีกล่าวต่อไป "ไม่มีใครรับรองได้ว่าตัวเองจะไม่เจ็บป่วย เราตอบเจ้าแล้วเรื่องของความไม่เที่ยงของสังขาร แม้เจ้าจะไม่เป็นวัณโรค เจ้าก็อาจต้องทิ้งสังขารด้วยเหตุอื่น หลังจากนั้นไม่นานเราก็ได้จดหมายเตือนเจ้าไปอีก…

"ครั้งที่สองกระผมไม่ได้รับ…" ชายหนุ่มบอกปัด 

"เลวมาก" ท่านพญายมตวาดเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มชักจะเหลวไหลแล้ว "เจ้าจกลูกพี่ลูกน้องที่อยู่กับเจ้ามาสามปีไม่ได้หรือ เขาตายไปปุบปับโดยหาสาเหตุอะไรไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ยังหนุ่มยังแน่นใช่ไหม นั่นแหละจดหมายเตือนครั้งที่สอง" 

ให้เจ้ารู้ว่าจะต้องเร่งสร้างกุศลคุณงามความดี คนเราถึงความตายได้ ไม่ว่าเด็กหนุ่มสาว หรือคนเฒ่าคนชรา เตือนครั้งที่สองก็แล้ว เจ้าก็ยังใช้ชีวิตสำมะเลเทเมาอยู่เราจึงส่งจดหมายเตือนเจ้าไปอีกครั้งหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้วเป็นเส้นตายครั้งสุดท้าย 

"เป็นเส้นตายครั้งสุดท้าย" ชายหนุ่มทบทวน "ท่านได้โปรดอย่าล้อกระผมเล่นเลย กระผมไม่ได้รับจริง ๆ " 

"เจ้าหน้าโง่" ท่านพญายมชักปวดศรีษะกับมนุษย์ที่มีแต่ความหลงไว้เต็มตัวอย่างนี้ 

"เมื่อเดือนที่แล้วเกิดเหตุร้ายแรงอะไรขึ้นที่ตำบลบ้านของเจ้า จำไม่ได้แล้วหรือ เด็กสี่ห้าคนที่ไปเก็บระเบิดมือมาเล่น แล้วระเบิดตูมตายทันทีสองคน บาดเจ็บสาหัสสามคนใช่ไหม นั่นแหละเป็นจดหมายเตือนให้ทุกคนรู้ว่า ความตายไม่เลือกวัย ถ้าใครยังมัวหลงอยู่ ไม่สร้างบุญสร้างกุศล ตายแล้วก็ต้องลงมาหาเราที่นี่ทุกรายไป" 

"โอ้ ท่านผู้เป็นใหญ่ กระผมเพิ่งเข้าใจความหมายของท่านเดี๋ยวนี้เอง ชาติหน้ากระผมจะทำอย่างที่ท่านบอก…" ชายหนุ่มน้ำตาไหลพรากด้วยความสำนึกอย่างจริงใจ 

"เมื่อเจ้าเกิดความสำนึกอย่างจริงจังเช่นนี้ เราจะให้เจ้าไปเกิดใหม่เป็นกรณีพิเศษ ดูรึว่าเจ้าจะสร้างบุญสร้างกุศลใหม่เพื่อชดใช้หนี้กรรมในชานี้ได้สักแค่ไหน" เมื่อท่านพญายมมีบัญชาให้ชายหนุ่มไปเกิดใหม่แล้ว ก็ได้เสด็จลงจากบัลลังก์ไป


*******************************************

เพื่อนๆเคยได้รับจดหมายเตือนจากพญายมบ้างมั้ยครับ?

ตอนปี2 ปู่ผมเสีย ผมสะอึกทีนึง 
ตอนปี3 ลุงผมเสีย ผมสะอึกทีนึง
เรียนจบ ดูข่าว ดร.อภิวัฒน์ รายการจันทร์กระพริบ, ดีเจโจ้อัครพลเสีย ผมสะอึกทีนึง

เลยอายุ 25 ไป อาบน้ำ ถูตัวไป เริ่่มเห็นเซลลูไลท์ที่ขาตัวเอง เนื้อเริ่มเผละ ผมสะอึกทีนึง
เดือนที่ผ่านมา รู้สึกว่าฟันหน้า4ซี่โยก ผมสะอึกทีนึง
สัปดาห์ที่ผ่านมา นึกขึ้นมาได้ว่า ผมก็หงอก หน้าก็เริ่มเหี่ยว ผมสะอึกทีนึง

จากคุณ : เส้นขอบฟ้าเวลาพระอาทิตย์ตกดิน
เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 17:10:18




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com