ความคิดเห็นที่ 1 หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน กล่าวถึง "เทวดาประจำตัว" หรือ "เทวดาประจำวันเกิด" ไว้ปรากฏตามภาพ ส่วนเรื่องเต็มทั้งหมด อ่านต่อในความเห็นถัดไป จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 12:24:52

ความคิดเห็นที่ 2 ที่มาของเรื่อง (อาจยาวนิดนึงนะจ๊ะ) จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 12:25:29

ความคิดเห็นที่ 3 . จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 12:25:53

ความคิดเห็นที่ 4 spirit guide  จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 12:51:25

ความคิดเห็นที่ 5 สาธุ ขอบคุณๆ จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 12:58:29

ความคิดเห็นที่ 6 สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิค่ะ ^^ จากคุณ : รัตติกาตาหวาน เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 13:07:02

ความคิดเห็นที่ 7 มาช่วยโหวตกระทู้จ้า  จากคุณ : ดีพอหรือยัง เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 13:24:50

ความคิดเห็นที่ 8 (๑) เรื่อง "เทวดาประจำตัว" นี้ จขกท. เองก็สงสัยมาตั้งแต่เริ่มทำบุญใหม่ๆ เมื่อ ๗ ปีก่อนนั่นเอง ก็ตามไสตน์ จขกท. ต้องไปค้นคว้าหาคำตอบเพราะอยากรู้ ( ท่านที่เข้ามาอ่าน ก็เพราะอยากรู้เหมือนกันหละสิ อิอิ ) เจอตำราหลวงพ่อจรัญ ตามความเห็นบน ท่านว่าไว้ชัดเจนมาก ต่อมาไปเจอคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านก็กล่าวว่า " ทุกคนมีเทวดาประจำตัว อย่างน้อยคนละ ๑ องค์ " เรื่องนี้ครูบาอาจารย์รุ่นต่อจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านก็ยืนยัน หลายปีก่อนไปเจอบทความนึงของ "คุณดังตฤณ" เขียนว่าเทวดาประจำตัวชนิดที่ติดตามกันไปทุกหนแห่งไม่มีหรอก จขกท. มีเพื่อนอยู่ในสายปฏิบัติของหลวงพ่อปราโมทย์ ก็เลยไปถามเพื่อน ว่าทำไม "พี่ตุลย์" (เรียกตามเพื่อนนะจ๊ะ) เขียนว่า เทวดาประจำตัวไม่มี ไปอ่านบทความทบทวน และสอบทานกับครูบาอาจารย์ คาดว่าเป็นการพูดกันคนละมุม จขกท. จึงติ๊งต่างสรุปเอาเอง คือ " เทวดาประจำตัว ในความหมาย เป็น ผู้ที่คอยดูแล คุ้มครอง แต่ก็ไม่ใช่จะต้องตามติดไปทุกแห่งหนประกบตัวกันเลยก็ได้ เพราะความเป็นทิพย์ของเทวดา รู้ความเป็นไปของมนุษย์ได้ตลอด " พอไปอ่านในพระไตรปิฎก ก็แอบคิดมีโอกาสเป็นไปได้สูง เพราะเวลาในโลกมนุษย์กับบนสวรรค์ต่างกันมาก มนุษย์เกิดแล้วตายรอบนึง บนสวรรค์ยังผ่านไปไม่ถึงครึ่งวันเลย เรื่องเกี่ยวกับ "เทวดา" หรือ  "เทวดาประจำตัว" นี้ จขกท. ก็มี "ธรรมนิยาย" หลายเรื่อง มาเล่าให้ฟังด้วยแหละ สงสัยหละสิว่า แหม เป็นเทวดาสบายจะตาย จะมาตามดูแลมนุษย์อย่างเราๆ ไปทำมะเขืออะไร ใช่ไหมหละ ? จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 13:32:49

ความคิดเห็นที่ 9 มารออ่านต่อจ้า เรื่องแบบนี้ฟังสนุกดี :) จากคุณ : snoopy21 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 13:48:55

ความคิดเห็นที่ 10 ภาคพิเศษนี้ เป็นภาคที่ต่อเนื่องมาจาก ภาคเจได (ภาค ๑) และภาค ๒ [เกาะกระแสเจได] เล่าเรื่องสนุก แสงสีเสียง การภาวนา คำแนะนำครูบาอาจารย์ ปฏิบัติเท่าไรทำไมยิ่งเก่งขึ้นๆ และอัตตามากขึ้นจัง http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11308603/Y11308603.html [ภาค ๒] เรื่องเล่า ตำนาน หลวงปู่เทพโลกอุดร ตามคำบอกเล่าของครูบาอาจารย์ และตำราต่างๆ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11335572/Y11335572.html ขอเริ่มต้นเรื่องที่ "นิทานเทวดา" เรื่องเทวดา ในพระไตรปิฎกมีอยู่จำนวนมาก บางองค์ถึงกับมาแกล้งพระภิกษุในครั้งพระพุทธเจ้าดำรงพระชนม์อยู่ บางองค์ก็มาแย่งใส่บาตรพระที่ออกจากนิโรธสมาบัติ ตามที่เคยเล่าไว้ ครูบาอาจารย์ในยุคปัจจุบันก็เล่าเรื่องทำนองนี้ไว้มากมาย ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม หาอ่านได้จากคำสอนของแต่ละองค์ ที่น่าสนใจ เช่น หนังสือประวัติหลวงปู่ปาน โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่องจริงอิงนิทาน เล่ม 1 เล่ม 2 โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นต้น สำหรับ จขกท. ก็จะนำประสบการ์ตรงของคนใกล้ตัว หรือเจอกับตัวบ้าง มานำเสนอเล่าสู่กันฟัง ให้เป็นกำลังใจ มีแรงใจในการปฏิบัติธรรม เชื่อในกฎแห่งกรรม และเคารพ ยึดมั่นในพระรัตนตรัย ซึ่งเป็น "จุดมุ่งหมาย" ของกระทู้นี้ เช่นเคย ( : อ่านนิทานจบแล้ว ก็แยกย้ายกันไปภาวนา หรือไปทำบุญ สอบอารมณ์กับครูบาอาจารย์ กันตามที่ทำกันมา เพื่อจะได้ "ไม่ต้องกลับมาเกิดกันอีก" . เรื่องมีดังต่อไปนี้ จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 14:23:42

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านแล้วก็สงสัยโดยบริสุทธิ์ใจ คิดเล่น ๆ แต่ดันสงสัยจริง ๆ ถ้าคนเรามีเทวดาประจำตัวทุกคน ถ้าเราตายไปเป็นเทวดา ก็หมายความว่าเราก็ต้องคอยดูแลใครสักคนด้วยหรือเปล่า แล้วเทวดาประจำตัวของชาวเอธิโอเปีย ของโจรที่ทำผิดเป็นนิจ ของฆาตกร อะไรพวกนี้มีหรือไม่ หรือของสัตว์ ของเปรต ฯลฯ จะมีเทวดาประจำตัวด้วยหรือไม่ หรือว่ามีแต่มนุษย์ อีกอย่าง ไม่รู้ว่ามีหลักเกณฑ์การเลือกที่จะดูแลกันอย่างไร เพราะเทวดาที่ต้องไปคอยดูแลคนพาลคงจะเหนื่อยใจน่าดู ส่วนตัวเทวดาเองก็ต้องมีเทวดามาคอยดูแลเทวดาด้วยไหม เพราะที่จริงเทวดาเองก็ใช่ว่าจะว่างมากพอมาดูแลเรา เพราะตัวเขาเองก็ยังไม่พ้นทุกข์เลย ยิ่งต้องมาคอยดูแลคนพาล บุญกุศลก็ไม่เพิ่มพูน ไม่มีบุญให้อนุโมทนา มีแต่ทำบาป แล้วอย่างนี้เทวดาจะได้อะไรจากการคอยดูแล หรือว่าเป็นหน้าที่ สงสัยเฉย ๆ เป็นความสงสัยที่เกิดจากการพิจารณาแล้วยังตอบตัวเองไม่ได้เท่านั้น จากคุณ : พักผ่อน เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 14:52:05

ความคิดเห็นที่ 12 (๒) เทวดาช่วยได้ไม่เกินกฎแห่งกรรม ในเรื่องกายเวียนว่ายตายเกิด เปลี่ยนภพภูมิ จขกท. ก็มีเพื่อนมาเล่านิทานให้ฟังว่า ตอนที่ "คนสนิท" เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ "เพื่อน" ก็รีบแจ้นไปกราบครูบาอาจารย์ ( เหมือนพี่แถวนี้คนนึง ตอนหมาตาย ก็รีบแจ้นไปหาครูบาอาจารย์เหมือนกัน 555++) ครานั้นก็เตรียมผ้าไตรจีวร พระพุทธรูป ของครบ ไปทำบุญ อุทิศให้ผู้ตายโดยเจาะจง พอผู้ตายได้รับบุญ โมทนาบุญแล้ว ก็เปลี่ยนภพภูมิเป็นเทวดาที่มีรัศมีกาย สวยงาม ( หากอ่านภาค ๑ มาแล้ว ก็จะเข้าใจมากขึ้น ) ต่อมาเพื่อนคนนี้ก็มีปัญหาเรื่องทุกข์ใจ แก้ไม่ตก ก็ไปทำบุญ พระท่านก็เมตตา แผ่เมตตาให้ เพื่อนเล่านิทานว่า พระท่านก็เรียกเทวดา องค์ที่เคยเป็นเพื่อนสนิทตนนี้ มาสอบถามและถามว่า " จำได้ไหมว่า ทำไมจึงเป็นเทวดา " " จำได้เจ้าคะ ! " " ช่วยได้ไหม " " ช่วยได้ ไม่เกินกฎแห่งกรรมนะเจ้าค่ะ " ต่อมาเพื่อนคนนี้ก็ดีขึ้นตามลำดับและบวกกับการทำบุญ สวดมนต์ เคารพยึดมั่นในคุณพระรัตนตรัย เรื่องราวต่างๆ ก็คลี่คลายลงไป ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ จขกท. สนใจใคร่รู้ว่า เทวดาประจำตัวนี่ มีไหม จะมาช่วยแบบไหนยังไงอยู่พอดี จะเป็นแบบนี้หรือเปล่านะ พอมีโอกาสไปถามพระ จึงได้นิทานต่อมาว่า จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 14:53:43

ความคิดเห็นที่ 13 สาธุ  รออยู่ว่า จขกท. จะมาตั้งกระทู้เกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่า เพราะอ่านจาก 2 กระทู้ที่ผ่านมา น่าจะมี อิอิ^^ เพราะตอนนี้ ตัวเองประสบกับเทวดาประจำตัวอยู่ ไม่กล้าเล่าให้คนนอกฟัง กลัวคนมองว่า บ้า.. จากคุณ : ปักไหมทอง เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 15:03:48

ความคิดเห็นที่ 14 (๓) ตามกฎแห่งกรรม รวมทั้งเรื่องในเรื่องภพภูมิอื่น และการเวียนว่ายตายเกิด ทั้งตามที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ในพระไตรปิฎก ใจความว่า " คนที่เกิดมาเจอกัน ไม่เคยเจอกันมาก่อนนั้น เป็นไม่มี " ในเรื่องเทวดาท่านต่างๆ ที่ดูแลรักษาก็เช่นเดียวกัน ตกอยู่ภายใต้วิบาก กฎแห่งกรรมนี้ ดังเช่น พ่อแม่มีลูก ถึงลูกเลวแค่ไหนก็ต้องดูแลเลี้ยงดู ส่งเสีย การเป็นเทวดาประจำตัว คุ้มครองก็เช่นกัน โดยมาก มักจะเป็นคนที่เคยเกิดร่วมมาในครอบครัวเดียวกัน และก็ว่ากันว่า เกิดจากวิบากกรรมต่อกัน อาจเป็นกรรมที่เคยช่วยเหลือดูแลกันในชาติก่อนก็ดี แต่ต่อมาไปเกิดกันคนละภพภูมิ ก็จะตามดูแลกันในรูปแบบอื่น แต่ดูแลช่วยเหลือกัน ทำได้แค่ไหน ก็ "ได้ไม่เกินกฎแห่งกรรม" นั่นเอง ในเรื่องนี้ก็มีผู้ประสบมาแล้ว ว่ามีเพื่อน ญาติพี่น้อง ไปเกิดอยู่ต่างภพภูมิ แวะมาหา ดังเรื่องคนใกล้ตัวของ จขกท. ที่จะเล่ากันต่อไป ย้ำอีกครั้งว่า เป็น "นิยายธรรมะ" แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง และน้อมนำไปเพื่อ "ศึกษาปฏิบัติ ตามธรรมะของพระพุทธเจ้า" จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 15:10:13

ความคิดเห็นที่ 15 นิยายแบบนี้ ชอบบบ ค๊าบบบ จากคุณ : แมงกุ๊ดจี่ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 15:15:50

ความคิดเห็นที่ 16 (๔) ครานั้น เพื่อนจขกท. นอนอยู่ที่ห้อง ( ผู้อ่านอาจเริ่มสงสัยว่า จขกท. มันมีเพื่อนกี่คนกัน(ว่ะ) หละสิ -_-") เพื่อน จขกท. เนี่ยก็ทำบุญ เคยฝึกมโนมยิทธิมาพอสมควร วันนั้นนอนเล่น ระหว่างที่นอนอยู่ เปิดไฟด้วยนะ ก็หลับไปแป๊บเดียว ตื่นขึ้นอย่างมีสติชัดเจนเลย แล้วเกิดมีความรู้สึกว่า  " ด้านหลังมีผู้หญิงมานั่งอยู่ " เป็นผู้หญิงผมยาวเสียด้วย ! ระหว่างที่รู้สึกนั้น ก็ขยับตัวไม่ได้ แต่สัมผัสถึง "กระแสพลัง" จำนวนมากส่งผ่านมาได้ พอลุกขึ้นได้เท่านั้น ก็ไปกราบหิ้งพระ แล้วสงสัยว่า ตนมีหิ้งพระเคารพบูชาในห้อง ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่ดี ไม่น่าจะเข้ามาได้ มาซะชัดมากด้วยสิ เลยไปหาคำตอบ สอบถามคนที่ปฏิบัติธรรมท่านอื่น คนที่ปฏิบัติธรรมท่านนั้น ก็หลับตา "ฝันในฝัน" 5555555++ แล้วจึงกล่าวว่า จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 15:21:51

ความคิดเห็นที่ 17 มานั่งล้อมวงรอฟังด้วยค่ะ . จากคุณ : มาดิน เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 15:41:12

ความคิดเห็นที่ 18 เข้ามาลงชื่อรอค่ะ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ปล.ถึงคุณปักไหมทอง ##คห.13## อยากฟังเรื่องเทวดาประจำตัวของคุณบ้างจังค่ะ ในนี้คงไม่มีใครว่าบ้าหรอก เผื่อจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุณ Radiant, Archangel บ้าง รออ่านอยู่นะคะ จากคุณ : หมาแม่กลอง เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 15:42:26

ความคิดเห็นที่ 19 ผู้รู้ท่านนั้น จึงกล่าวว่า ... " เก่งหนิ รับรู้ได้ด้วย อือม์ "  (นิ่ง เงียบ ไปพักนึง) " เป็นผู้หญิงจริงๆ ลักษณะและจิตเป็นเทวดา " " ท่านมาทำไมอ่ะ ? " " มานั่งอยู่นานมาก รู้สึกเหมือนขยับมาใกล้ด้วย " " องค์นี้นี่ท่านเป็นเทวดาชั้นสูง บารมีท่านเยอะนะ " " ชาติก่อนๆ เคยเกิดเป็นคู่แกไง ในชาติที่แกมีพร้อมทุกอย่าง " " ชาตินั้น แกหน้าตาดี มีฐานะ เพราะเคยอธิษฐานขอแบบนั้น จากที่ชาติก่อนนั้นไปอีกไม่มีใครสนใจ บุญมาส่งผลในชาตินั้นพอดี " " แล้วเป็นไงหละ มีพร้อมทุกอย่าง แกเลยเจ้าชู้ เทวดาที่มานี่ คือ คนที่เป็นคู่แกในชาติก่อน " " เขามาเยี่ยมแก เขาดูแลแกมานานแล้ว" " ในชาตินั้นพอตายไป เขาไปเกิดเป็นเทวดา ส่วนแก ทำผิดศีลเยอะ โดยเฉพาะข้อ ๓ เลยลงข้างล่าง แล้วก็พอมาเกิดเป็นมนุษย์ในชาตินี้ เขาก็ยังเป็นเทวดาอยู่ " " นี่แหละ เกิดมามีพร้อมทุกอย่าง ทั้งหน้าตา ฐานะ เป็นไงหละ ? " " ก็ทำบุญ ทำดีๆ ในชาตินี้นะ อย่าพลาดอีก " " แล้วทำไม เมื่อก่อนไม่รู้สึกหละ ถ้าเขาดูแลมานาน ?" " เมื่อก่อนแกยังรับความรู้สึกไม่ได้ เพราะสว่างไม่พอ และยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้สมควรที่แกจะรู้ ท่านเลยมาแบบนี้ " " เออหวะ ก็น่าจะจริง เด็วลองระลึกถึงท่านดู ฮึ้ยยย มีกระแสพลังและภาพเข้ามาในใจจริงด้วย " " นั่นแหละ องค์นี้ท่านไม่ธรรมดาเลย ท่านอยู่ใกล้นี่แหละ แกทำผิดกับเขาไว้มาก แต่เขาก็ให้อภัยนะ ทำบุญก็อุทิศให้ท่าน และขออโหสิกรรมท่านบ่อยๆ ในส่วนที่เคยผิดด้วย" " ท่านเป็นเทวดาระดับนี้ไม่ต้องมาตามติดหรอก ท่านมีสภาวะเป็นทิพย์ ถ้าอยากพบก็ระลึกถึงท่านเอา " จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 16:34:49

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณ คุณหมาแม่กลอง ที่อยากฟังเรื่องของเรา แต่เราเขียนไม่เก่งคะ อ่านนิทาน ของคุณ Radiant นะดีแล้ว อิอิ^^ ขอเสริม คห. 12, 14 ของคุณ Radiant อีกนิดว่า เทวดา ประจำตัวเรา ก็บอกเราประมาณนี้ เหมือนกัน อย่างเรากับท่าน ท่านบอกว่าอดีตชาติ เราเคยเป็นบริวารของท่าน แล้วเคยให้สัจจะ จะช่วยท่านบำรุง พระพุทธศาสนา ตอนนี้ท่านลงมาแล้ว ท่านเลยมาตาม...ฟังตอนแรก เราเอ๋อ แอนด์ เครียดเลยอ่ะ อีกอย่างหนึ่ง เรื่องวิบากกรรม ท่านบอกเราว่า ท่านยุ่งไม่ได้ ผิดศิล เป็นเรื่องของคนๆ นั้น ท่านเพียงแต่ชี้แนะ คนๆ นั้นต้องปฎิบัติเอง อย่างของเรา ท่านเร่งให้เราปฎิบัติให้ได้ ของเก่าเรามี ขอครู บา อาจารย์มาช่วย (เรื่องปฎิบัติ เรายังคลานเป็นเต่าอยู่เลยค่ะ แหะ ๆ   อ่านคนอื่นปฎิบัติแล้ว เราอายเลยคะ ) จากคุณ : ปักไหมทอง เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 16:36:24

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามาตามอ่าน คะ ถ้าสนใจเรื่องแบบนี้ มีเยอะ คะ ผู้ปฎิบัติ เห็นเป็นเรื่องปกติ คะ บางครั้ง ไม่ต้องใช้ ตาในมอง ก็สามารถเห็นได้คะ พุทธะ ถึง ย้ำอยู่เสมอ ถึง สติมั่น  เนืองจาก ผู้ที่ได้ อภิญญา หาก ไม่ดำรงสติมั่นแล้ว อาจเตลิดได้ คะ อภิญญา มีได้ทุกผู้ แม้ไม่ปฎิบัติ แต่หาก ติดมา( ที่เรียกกันว่า ของเก่า ติดตัวมา ) และในผู้ปฎิบัติ ดีแล้ว และในบางครั้ง อาจสัมผัสได้ เมื่อถึงเวลา เวลาในที่นี้ หมายถึง เวลาของแต่ละคน ที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเมื่อไร บางท่าน เมื่อถึงเวลา สามารถรับรู้ได้ บางท่าน เมื่อถึง สถานที่ ก็รำลึกได้ เหล่านี้ เรียก สัญญาเก่า คะ ดั่ง  จขกท. กล่าว ทุกอย่าง ต้องอยู่ใต้กฎแห่งกรรม ดั่งที่บอก พบเองรู้เอง  เห็นเอง รู้เอง คะ ปจจตัง จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 16:40:06

ความคิดเห็นที่ 22 (๕) มีเพื่อนอีกคนนึงของจขกท. มีเรื่องตลกกว่านั้นอีก เล่านิทานให้ จขกท. ฟังว่า ... ตอนกลางคืนนอนอยู่ พอตกดึก รู้สึกว่าในห้องมีกระแสปั่นป่วน ก็ลืมตาขึ้นมา ก็ขยับได้นิดนึง ปรากฏว่า ( นึกภาพตามประมาณเรื่องดรากอ้นบอลนะเออ -*- ) เหมือนมีก้อนพลังงานแผ่พุ่งเข้ามา พอรับรู้ได้ปุ๊บ ก็รีบกำหนดรวมจิต เป็นกำลังสมถผลักออกไป ต้านกันอยู่นาน เหมือนดราก้อนบอลปล่อยพลังใส่กัน - - ต้านกันพักนึงเพื่อนเริ่มหมดแรง แล้วจู่ๆ พลังทั้งหมดก็สลายหายไป อ้าววว -_-" พอลุกขึ้นมา แป๊บนึงก็รู้สึกว่าในห้องมีกระแส วนเวียนให้รับรู้ได้อยู่ ตอนนั้นจะตี 2 แล้ว แต่ก็ไม่รู้ทำไง เลยกดโทสับไปหาพี่อีกคนที่ภาวนาดี โชคดีพี่คนนั้นรับโทสับด้วย จึงรีบเลย จะเล่าเรื่องให้ฟัง พอเอ่ยปากจะเล่า ยังไม่ทันจะพูดได้จบประโยคแรก พี่ที่ภาวนาก็หัวเราะขำออกมา และพูดสวนขึ้นมาก่อนว่า จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 16:52:47

ความคิดเห็นที่ 23 ทู้นี้ น่าติดตามดี แหะ ชักสนุก แล้วสิ ให้ จขกท. เล่าให้จบก่อน แล้วขอร่วมแจม เรื่องเล่าสักเรื่องด้วย ท่าจะดีแหะ อิอิ ชักมันส์ หงะ จริงๆ มีเรื่องทำนองนี้เยอะมาก ฮึ่ม เรื่องแบบนี้ ถ้าเล่าแบบนิทาน ก็น่าสนใจดี เหมือนกัน อะ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:02:37

ความคิดเห็นที่ 24 ขอคั่น ด้วยการทักทายท่านต่างๆ ที่เข้ามาอ่านครับ ( : พี่ท่านต่างๆ มีประสบการณ์ กันอย่างไรก็เล่าสู่แลกเปลี่ยนกันฟัง ส่วนจะประสบมา "จริง" หรือไม่ ควรสอบทานจากครูบาอาจารย์อีกครั้ง แต่โดยมาก ผู้ที่ประสบด้วยตนเอง เป็นปัจจตัง ก็จะมีความเคารพ สนิทแนบแน่นในคุณพระรัตนตรัย และหวังเช่นเคยให้ผู้อ่านท่านต่างๆ ได้เชื่อมั่นในพระรัตนตรัย เฉกเช่นเดียวกับท่านต่างๆ ที่ประสบมาด้วยตนเอง ในกระทู้นี้กับกระทู้ก่อน มีส่วนที่อ้างถึง " บทมหาเมตตาครอบจักรวาล " อยู่หลายส่วน จขกท. เพิ่งได้หนังสือสวดมนต์เล่มพิเศษ ครบทุกบท (ปกแข็งเล่มใหญ่ รูปหลวงพ่อจรัญ) มาจากวัดอัมพวัน ก็ขออนุญาตแจก ท่านที่ติดตามอ่าน และสนใจจะสวดมนต์ ปฏิบัติธรรมนะครับ มี 10 เล่มเท่านั้น ก็ท่านที่ต้องการ จะจัดส่งให้ 10 ท่านแรก ที่มากดให้ give ในความเห็นนี้ ตามลำดับ ( : แล้วก็ส่งที่อยู่มาทางหลังไมค์ให้ จขกท. ได้เลยครับ แต่ขอเป็นท่านที่ประสงค์จะรับหนังสือสวดมนต์ และสวดบทมหาเมตตาครอบจักรวาลจริงๆ นะครับ เพราะฟรีจ๊ะ จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:05:16

ความคิดเห็นที่ 25 ที่กด กิฟให้ ไม่ได้หวัง ของฟรีหรอกคะ แต่ แจกกิฟเพราะ อยากแจก อะ  บทสวดมนต์ กับ บทสวดมหาเมตตาครอบจักรวาล ต้องถามก่อนว่ายากเปล่า แหะๆ ไม่เคยปฎิบัติ เลย สักอย่าง คะ ทุกอย่างเริ่มเอง และยังไม่แน่ใจว่าจะจบเองด้วยเปล่า อะ บทสวด ที่สวดประจำ บอกอย่างไม่อายเลยว่า ท่องแค่ นโม ตะสะ ฯ เอง เดียวนี้ดีขึ้นหน่อย ท่อง อิมินา เพิ่มกับ อรหัง ได้อีกหน่อย อะ นอกนั้นฟังเข้าใจเฉยๆ อะ แฟน มีหน้าที่สวด เรามีหน้าที่ฟัง อะ แฟน บอก สวดให้เธอฟังนั้นแหละ   อ้าวววววววว เหรอ 555.......... เคยไปสัญญา ว่าจะสวด บทหนึ่ง เมื่อเผลอ สัญญาไป เลยต้องมานั่งสวด แค่บทเดียวเล่นซะเกือบ ชม. บทสั้นนิดเดียวเอ อะ อย่าง บทบูชา องค์พิฆเนศ เหมือนกัน แค่ 2 บรรทัดสั้นๆ ยังปาไปหลายนาทีเลยอะ บท พระแม่กวนอิม เหอะ เกือบ ชม. แน่ะ ------------------------------------------------ ถามอีกครั้ง คะ ว่า *  บทสวดมนต์ กับ บทสวดมหาเมตตาครอบจักรวาล ต้องถามก่อนว่ายากเปล่า * ถ้ายาก ขอเป็นส่งแค่ไฟล์ pdf ก็ได้คะ เผื่อ แฟนอยากสวดให้ฟังอะ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:20:40

ความคิดเห็นที่ 26 หนูเป็นคนที่ 3 ได้รับหนังสือสวดมนต์ เย้เย้เย้ ^__^ จากคุณ : หมาแม่กลอง เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:24:14

ความคิดเห็นที่ 27 คุณผู้สัญจร บทสวดมหาเมตตาครอบจักรวาล ยาวมากถึงมากที่สุดเลยค่ะ(สำหรับเรา) แต่ตั้งใจว่าถ้าได้มาจะลองสวดให้ได้ จากคุณ : หมาแม่กลอง เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:27:03

ความคิดเห็นที่ 28 ส่งที่อยู่ไปแล้วนะครับ พี่  Radiant, Archangel  อิอิ  ที่ให้กิ๊ฟเพราะอยากได้ครับ   ตั้งแต่อ่าน กระทู้แรกของพี่ จขกท มา ผมก็เริ่มสวด เมตตาใหญ่ มาตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้เลย (มีสองวันที่เหนื่อยมาก จนสวดบทเมตตาบทสั้นที่อยู่ ตอนท้ายของหนังสือเล่มชมพู คู่มือปฏิบัติของวัดอัมพวันอ่ะครับ )  นอกจากบทเมตตาใหญ่ ทุกวันนี้ ก็สวด บทธัมมจักด้วยหล่ะ : ) ส่งมาให้ไวไวนะครับ ฮี่ๆ   เมื่อก่อนสมัยเข้าวัดอัมพวันใหม่ๆ สองปีแล้วหล่ะ ก็เริ่มสวด เพราะอ่านเรื่องข้างบนคห แรกๆ เนี่ยหล่ะครับ สักพักก็เลิกสวด ไปฮ่าๆ ***************************** ขอสนทนากับคุณ  ผู้สัญจร   นะครับ บทเมตตาใหญ่ สวดไม่ยากครับ คล้ายบทแผ่เมตตา  ก่อนสวดครั้งแรกผมอ่านบทแปลก่อนด้วยอ่ะครับ อยากรุ้ความหมายก่อนว่าสวดอะไร : ) อิอิ  ถ้า สวดคล่องแล้ว ใช้เวลาประมาณ  15 นาที ก็สวดจบครับ ไวป๊ะล๊ะ 555 เวลาสวดไม่ได้รู้สึกว่าเร่งหรืออะไรด้วยนะครับ สวดปกติ แต่ อาจจะไม่ช้า และไม่ ไพเราะนัก อิอิ : ) จำได้ว่าเมื่อก่อนสวดบทเมตตาใหญ่ นั่งสวดเกือบชั่วโมงเลยมั้งสวดแป๊ปๆ ก็เลิกสวด กลับมาสวดแค่พาหุง + อิติปิโสเท่า อายุตามแบบหลวงพ่อจรัญ แค่นั้น : ) ไม่รู้ว่าคิดไปเองมั้ยนะครับ เวลาสวดมนต์ ผมวางจิตไว้ที่ลิ้นปี่ แล้ว ไม่ว่าบทนั้นจะยาวแค่ไหน มันก็ไม่รู้สึกว่ามัน ยาว มันเบื่อเลยนะ  สวดได้เรื่อยๆ บางทีก็มีอาการอะไรแวบๆเข้ามาให้ได้รู้ ด้วยนะ ลอง ฝึกสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย และสวดคำสอนของพระพุทธเจ้าดูนะครับ อิอิ   : ) แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 54 17:35:17 จากคุณ : OnceWakeUp เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:31:25

ความคิดเห็นที่ 29 สงสัยมาก  ขอสอบถามคุณ OnceWakeUp หน่อยนะคะ บทสวดเมตตาใหญ่ เราว่ามันยาวมากนา สวดยังไงคะแค่ 15 นาทีเอง คุณOnceWakeUp ใช้ท่องจำจนหมดแล้วสวดหรือว่าเปิดหนังสือสวดคะ หรือมีทริคในการสวดอะไรหรือเปล่าคะ ของเรา เวลาจะสวดบทไหน เราชอบท่องให้จำได้ก่อนถึงค่อยสวด เพราะถ้าเปิดหนังสือสวดเหมือนมันไม่ต่อเนื่องอะค่ะ ต้องอ่านเอา คุณ OnceWakeUp สวดอย่างไรคะ จากคุณ : อ้วนดีนะ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:37:53

ความคิดเห็นที่ 30 อนุโมทนา สาธุ ค่ะ จากคุณ : ต้นไม้ในบ้านหลังเก่า เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:54:33

ความคิดเห็นที่ 31 ตอบ คุณอ้วนดีนะ ผมสวดโดยดู หนังสืออะครับ (บทเมตตาใหญ่) ผมดูนาฬิกาก่อนสวดกับหลังสวดด้วยนะครับ สวดธัมมจัก ประมาณ 10นาทีนิดๆ  พาหุงฯ+อิติปิโสเท่าอายุ ประมาณ 10นาที นิดๆ (ผมอายุ20 สวด 21รอบ ) แล้วก็ เมตตาใหญ่ ที่ "ยาวมาก" เนี่ย ประมาณ 15นาที ทริกไม่มีครับ สวดไปเรื่อยๆ อ่ะ ผมชอบฟังเสียงพระสวดมนต์ ก็สวดตามแบบพระท่านสวด สวดเร็วกว่าหน่อยๆด้วย จังหว่ะก็ตามท่านสวด สวดบ่อยๆ มันจะไหลลื่นไปเองมั้งครับ  (ธัมมจักรกับ เมตตาใหญ่ ยังเปิดหนังสืออยู่ ไม่งั้น สวดสลับบทกัน ฮ่าๆ แต่สวดแล้วมันไหลไปเองนะครับ ) : )   ลองสวดแล้วจับเวลาดูครับ  หรือจะให้ผมอัดเสียงผมสวดแล้วส่งไปให้คุณอ้วนดีนะลองฟังดี ฮ่าๆ    : ) หรือว่าผมสวดไวไป  ฮ่าๆ แต่มันก็ไม่ได้เร่งสวด แบบไม่หายใจ นะ ครับ มันก็ยังมีจังหวะ ทำนองอยู่ แต่ก็ไม่ได้สวดช้าและไพเราะมากนัก จะสวดแบบไพเราะๆ ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และวันที่ เวลาว่างเยอะครับ  ทุกวันนี้ เรียนหนัก ฮ่าๆ  เอาเวลาไปใช้กับการเรียน ซ๊ะมาก  ต้องใช้เวลาที่เหลืออยุ่ให้คุ้มครับ : ) จากคุณ : OnceWakeUp เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 18:10:18

ความคิดเห็นที่ 32 ของแบบนี้ต้องเอามาลองก่อนครับ จะยาวสักแค่ไหนกันเชียวหนอ ขอบคุณสำหรับหนังสือนะครับ จากคุณ : Generals เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 18:11:06

ความคิดเห็นที่ 33 คนอยู่ไกล เข้ามารายงานตัว และโหวตให้ครับ..... เอาอีก ๆ .... จากคุณ : ซำเหมาพเนจร เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 18:11:30

ความคิดเห็นที่ 34 เรียนคุณ Radiant, Archangel ผมส่งหลังไมค์ไปให้แล้วนะครับ ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญด้วยครับ จากคุณ : chatrabhin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 18:22:47

ความคิดเห็นที่ 35 ส่งหลังไมค์ไปแล้วค่ะ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ _/l\_ ปกติไม่ค่อยได้สวดมนต์เลยน่าอายจัง ตั้งใจว่าจะเริ่มแล้วค่ะ จากคุณ : peaceful moments เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 18:47:27

ความคิดเห็นที่ 36 มารอด้วยคนจ๊ะ     แต่นานนนนนแล้วน่ะ กลับมาได้แล้วจ้าา จากคุณ : KAEWOGNUNG เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 18:55:22

ความคิดเห็นที่ 37 คห.31 คุณ OnceWakeUp ไม่ต้องอัดเทปมาหรอกจ้า 5555 เคยเปิดหนังสือสวดเหมือนกัน เพราะว่าบทสวดยาวมาก จะรอท่องจนจำได้หมด ก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้สวด แต่พอเปิดหนังสือ มันก็เหมือนไม่มีสมาธิอะจ้ะ แถมจบหน้า(หนังสือ) แล้วก็ต้องพลิกหน้าต่อไปอีก เหมือนมันขัดจังหวะอะนะ นี่ก็เลยโหลดเสียงที่หลวงพ่อจรัญท่านนำสวดเปิดฟังตอนนอน กลางวันก็ท่องจำไปด้วย ขนาดนี้ยังช้าเลยค่ะ ความจำไม่ดีอะ - -" ปล. ขออภัยคุณ จขกท.ด้วยค่ะ เข้ามาคุยนอกเรื่องในกระทู้ไปซะละ จากคุณ : อ้วนดีนะ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 19:24:12

ความคิดเห็นที่ 38 เป็นเรื่องราวที่ดีครับ เป็นแรงกุศลช่วยให้คนตั้งใจสวดมนต์กันมากขึ้น ขออนุโมธนาครับ จากคุณ : Classic Joomla เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 20:07:02

ความคิดเห็นที่ 39 ตามมารออ่านอยู่ครับ บทมหาเมตตาใหญ่ ยาวมาก ๆ ยาวจริง ๆ แบบว่าสวดก่อนนอนทีไร คอพับ ร่างเซก่อนจบทุกทีเพราะง่วง -*-!! จากคุณ : Musiclism เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 22:20:08

ความคิดเห็นที่ 40 เรื่องเทวดาประจำตัว จากประสบการณ์ ยอมรับว่าไม่แน่ใจว่ามีไหม? หรือถ้ามีก็อาจจะมีเป็นบางคนหรือเปล่า? ไม่ใช่ว่าจะมีกันได้ครบทุกคนมั้ง....น่าจะมีกับเฉพาะผู้ที่มีบุญญาที่การสูง เช่น พระมหากษัตริย์ เป็นต้น หรือ กับคนที่กำลังบำเพ็ญบารมี ....แต่ที่แน่ ๆ คือเทวดาน่ะมีอยู่จริง ๆ ถ้าใครเคยปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดในสายพระป่าที่เน้นสมาธินำปัญญา(ฌานสมาบัติ --> แล้วยกขึ้นสู่วิปัสนา) แนวนี้ ถ้าทำจริง ๆ ในป่า มักจะมีโอกาสพบเห็นสิ่งมหัศจรรย์ที่รู้ได้เฉพาะตนอยู่บ่อย ๆ เช่น มีโอกาสได้ติดต่อกับเทพเทวดาบางองค์บ้าง เป็นต้น   ซึ่งเป็นเรื่องอจินไตย และเป็นปัจจัตตัง เล่าให้ใครฟังไม่ได้หรอก คนอื่นไม่สามารถรับรู้ตามได้เลย  แต่ถ้าใครเคยมีโอกาสพบสักครั้งในชีวิตก็จะจำขึ้นใจ คล้าย ๆ กับฝรั่งที่ชอบเล่าเรื่องที่ตายไปแล้วในทางการแพทย์แล้วฟื้นขึ้นมาได้ มีโอกาสได้เห็นชีวิตหลังความตาย อะไรประมาณนั้น   จากคนที่เคยไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ก็จะกลับมาศรัทธาในทุก ๆ คำสอนของพระพุทธองค์ที่เคยกล่าวไว้ รวมถึงเรื่องราวเกี่ยวกับเทพเทวดา / เทพพรหมต่าง ๆ  ด้วย จากคุณ : Sirtraderlot เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 00:32:21

ความคิดเห็นที่ 41 24 ให้กีฟนะคะ ไม่หวังได้หนังสือ แต่ถือซะว่าเป็นกีฟอนุโมทนานะคะ จากคุณ : cheewwyA เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 00:53:47

ความคิดเห็นที่ 42 สวดบทกรณียเมตตสูตรก็มีอานุภาพเหมือนกันมั๊งครับ บทนี้ผมชอบสวดและชอบอ่านบทแปล เคยสวดไปร้องไห้ไปต่อหน้าพระพุทธรูป(ในห้อง)หลายรอบด้วย(อายจัง) รวมถึงบทสวดที่ขึ้นว่า เอวัมเม สุตังเอกัง สะมะยังภะคะวา (เกี่ยวกับเมตตาเช่นกัน)ที่บรรยายถึงคุณวิเศษ11ประการของผู้มีเมตตา บทนี้สวดไปร้องไห้ไปหลายหน (ซึ้งคำแปล) ร้องจนอายพระพุทธรูป เหมือนเราอ่อนแอเกินเหตุ จากคุณ : niwatpuniw เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 03:10:14

ความคิดเห็นที่ 43 ไม่มีเรื่องเทวดามาเล่านะครับ แต่เห็นพูดเรื่องสวดมนตร์กันด้วย ก็เลยอยากมาช่วยยืนยันว่าการสวดมนตร์ช่วยเพิ่มกำลังใจได้ดีมากเลยครับ ตอนที่ผมบวชได้สวดมนตร์ทำวัตรเช้าเย็นทุกวัน ปกติผมจะกลัวผีครับ แต่ช่วงนี้ละครับที่ผมไม่รู้สึกกลัวเลย เหมือนรู้สึกมั่นใจมากๆจะเดินไปในสถานที่เปลี่ยวๆวังเวงยังไง ก็รู้สึกไม่กลัวครับ จากคุณ : boots on the ground เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 05:34:52

ความคิดเห็นที่ 44 ปกติจะสวดมนตร์ตามหนังสือสวดมนต์ของหลวงพ่อจรัญ แต่ไม่ได้สวดอิติปิโส ตามอายุ + 1 เพราะอายุเยอะเกิน นับไม่ไหว อิอิ หลังจากอ่านกระทู้คุณ Radiant เลยเพิ่มบทมหาเมตตาใหญ่ และบทกรณียเมตตสูตร  2 บทนี้ เราสวดตามเวลาและโอกาส เพราะยาวมากอย่างที่หลายๆ บอกยาวมากกก ง่วง... สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ หลังจากสวดมนตร์เสร็จต้องกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล ให้เจ้ากรรมนายเวร .... เราเคยลืม  คืนนั้นง่วงมากกก  สวดมนตร์แบบสั้นๆ นอนเลย สมาธิก็ไม่ได้นั่ง ตอนเช้าท่านก็มาเตือนอ่ะ ว่าเมื่อคืนไม่ได้อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร..ตอนนี้เลยต้องจำไว้ในใจ ตอนเช้าหลังสวดมนตร์ เราเพิ่มกรวดน้ำ ตอนกลางคืนไม่สะดวกกรวดน้ำ เพียงแต่ยกมือไหว้อุทิศส่วนกุศลอย่างเดียว จากคุณ : ปักไหมทอง เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 08:19:36

ความคิดเห็นที่ 45 กลับมาเล่าต่อนะครับ ( : เรื่องหนังสือสวดมนต์ ตามความเห็น 24 1.  ผู้สัญจร 2.  OnceWakeUp 3.  หมาแม่กลอง 4.  chatrabhin 5.  Generals 6.  Pru 7.  peaceful moments 8.  รักษาจิต 9.  boing007 10. รู้แล้ววาง 11. เส้นขอบฟ้าเวลาพระอาทิตย์ตกดิน 12. La~lA~La>>Hoo 13. cheewwyA จะจัดส่งให้ทั้ง 13 ท่านตามรายชื่อนะครับ ท่านใดยังไม่ได้ส่งที่อยู่มา ส่งมาได้เลยครับ นอกจากนี้จะแถม CD เสียงบรรยายหลวงพ่อจรัญด้วย เชื่อว่าจะได้อะไรดีๆ จากคำสอนของท่าน แน่นอนครับ แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 54 08:32:56 จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 08:31:26

ความคิดเห็นที่ 46 รายการไฟล์ธรรมบรรยาย หลวงพ่อจรัญ ที่จัดส่งไป จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 08:35:13

ความคิดเห็นที่ 47 เล่าต่อจากความเห็นที่ ๒๒ ครับ พอเอ่ยปากจะเล่า ยังไม่ทันจะพูดได้จบประโยคแรก พี่ที่ภาวนาก็หัวเราะ ขำออกมา และพูดสวนขึ้นมาก่อนว่า " เออ แกใช้ได้หนิ ปล่อยพลังกันด้วย ! " "  -__-" เอิ่มม ปล่อยพลังอะไรหละ " " แต่ยังไม่ดีนะ คราวหน้าถ้าเจอแบบนี้อีก ให้กำหนดจิตแผ่เมตตาออกไป " " สังเกตหรือเปล่าว่า ตอนแกกำหนดจิตเป็นสมถะผลักออกไป " ( ยังไม่ได้บอกไรเลย รู้ด้วยว่าทำแบบไหน ) " แกกำหนดจิตรวมมาที่หน้าอกเป็นดวงพลัง แล้วต้านกับพลังที่แผ่เข้ามา " " แต่พอผลักกันอยู่นาน ก็เหมือนว่าพลังที่ผลักแกมา มันหายไป " " รู้ไหมว่า ทำไม ? " " 555+ ก็ที่มานั่น เป็น "ยักษ์" บริวารท่านท้าวเวสสุวรรณ " " แต่ว่าเป็นยักษ์เพื่อนแก ในสมัยที่แกเคยเกิดเป็นยักษ์ " " เมื่อก่อนแกก็ชอบเล่นแบบนี้แหละ ประลองกำลังกัน " " เค้ามาหยอกแกเล่น ท่านเป็นยักษ์จริง แต่บารมีท่านไม่ธรรมดา" " ถ้าเค้าไม่ถอนกำลังออกไป แกก็สู้ไม่ไหวหรอก " " แต่แกเล่นก็ เอออ น่าสนุกนิหน่า" "   -__-"   " " จำไว้นะถ้าต่อไปมีอะไรมา ให้แผ่เมตตา กำหนดบทอิติปิโสก็ได้ " " กระแสพลังความเย็นและสว่าง อย่างบทพุทธคุณ ดีมาก " " การที่มีเพื่อนในภพภูมิอื่นมาหา เป็นเรื่องที่ปกติ " " เพราะว่า คนเราเกิดตายมานับไม่ถ้วน" " เจอซะบ้างก็ดีแล้ว จะได้ไม่มัวแต่ประมาท หลงมัวเมาในชีวิต " " จะได้รู้ว่าสิ่งต่างๆ ในภพภูมิอื่นยังมีอีกมาก บาปบุญคุณโทษมีอยู่จริง " แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 54 12:25:05 จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 08:47:13

ความคิดเห็นที่ 48 ที่นี้ จขกท. ก็รู้สึกมาสักพักละ ว่าเรื่องคนในภพภูมิอื่นมาหาธรรมดามาก คนรอบๆ ตัวนี่เจอกันจนชิน จขกท. เองก็เคยเจอบ้างนิดหน่อย เชื่อว่าพี่ๆ ในนี้หลายท่านก็มีประสบการณ์ เจอะมากะตัวแน่ จขกท. เจอแล้วก็อาศัยสอบถามท่านผู้รู้ ครูบาอาจารย์ ว่าเจอจริงหรือคิดไปเอง เรื่องเทวดาประจำตัวก็สุดแท้แต่ "ความเชื่อ" และ "ประสบการณ์ตรง" กันไป ส่วนจขกท. เชื่อหลวงพ่อจรัญ หลวงพ่อฤาษีลิงดำและพบด้วยตัวเองแล้ว จึงไม่มีอะไรให้สงสัยอีก เพราะพิสูจน์แล้ว เล่าพอสนุกสนาน มาคุยกันต่อในเรื่อง "คุณไสย" บ้างดีกว่า เรื่องนี้พูดแล้วตื่นเต้นเพราะ เจอมากับตัว ( อีกแล้ว -_-" ) เจอมากับตัวนี่ ไม่ได้โดนของเองนะ อั๊ยยะ แต่ไปดีดน้ำมันพรายใส่คนที่แอบชอบ เอ้ย!!! ไม่ใช่ คนรู้จักโดนทำของใส่ สมัยที่เรียนปริญญาตรี แถวมหาลัยริมแม่น้ำเจ้าพระยา จขกท. เนี่ยบ้าดูดวง ดูดวงมาจนปัจจุบัน เจอหมอดูมาจะครึ่งร้อยละ แต่จะมีหมอดูคนนึงที่สนิทกัน เพราะแก ก็เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญ ทุกปีจะต้องไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน ๗ วัน และชอบฝากทำบุญ ร้านค่อนข้างดังและแม่นอยู่ จขกท. ก็เคยดูดวงเรื่องความรักกะแก 555+ แต่ไม่บอกหรอกว่าร้านไหน เด็วจะมีคนไปทำของใส่แกอีก เรื่องมันมีว่า จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 09:04:03

ความคิดเห็นที่ 49 เอ๊ะ!!! รู้สึกเหมือนโดนพาดพิง อิอิ จากคุณ : ดีพอหรือยัง เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 09:25:25

ความคิดเห็นที่ 50 รอตามอ่านต่ออยู่นะครับ เล่าเรื่องได้สนุกจริงๆ จากคุณ : Generals เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 09:34:37

ความคิดเห็นที่ 51 ตามอ่านด้วยคน จากคุณ : x-philes เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 09:38:17

ความคิดเห็นที่ 52 เชื่อว่าเทวดาประจำตัวมีจริงเหมือนกันค่ะ เพราะบางครั้งเรามักจะรู้สึกเสมอว่ามีคนคอยช่วยเราอยู่ แค่เราไม่รู้และมองไม่เห็นเขาเท่านั้นเองอ่ะค่ะ จากคุณ : บ้านสายไหม เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 09:59:52

ความคิดเห็นที่ 53 รู้สึกดีใจปลาบปลื้มมากมายตั้งแต่เมื่อวานที่รู้ว่าได้หนังสือสวดมนต์ วันนี้ทราบอีกว่าแถมซีดีหลวงพ่อจรัญให้ด้วย ปลาบปลื้มมากกว่าเดิม เราเองนับถือหลวงพ่อจรัญอยู่แล้ว เริ่มสวดมนต์ก็เพราะอ่านหนังสือหลวงพ่อ สวด(เกือบ)ทุกคืน(ถ้าวันนั้นไม่ขายของเหนื่อยจนเกินไปค่ะ) สวดแล้วก็จะส่งผลบุญให้หลวงพ่อด้วย สงสัยครั้งนี้จะเป็นรางวัลจากหลวงพ่อ ^__^ ปกติไม่เคยได้รางวัลอะไร ชิงโชคไม่เคยได้ลุ้น 5555 สงสัยหลวงพ่อให้เราเตรียมตัวแน่ ๆ เพราะเดือนมกราชวนพี่ ๆ ไว้จะไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวันค่ะ   ขอบคุณคุณ Radiant, Archangel อีกครั้งนะคะ จากคุณ : หมาแม่กลอง เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 11:38:17

ความคิดเห็นที่ 54 อ่านเอาสนุก เพลิดเพลิน แล้วไปภาวนา สวดมนตร์กันเยอะๆนะ อย่าไปฝึกส่งจิตออกนอก เลียนแบบตัวอย่าง ที่น้องเรเล่าละ การรับกระแส พลัง พวกนี้เป็นทางผ่าน ภาวนาไปแล้ว มันก็ได้รู้ เห็น ตามวาสนาตนเองกันนั่นแหละ ถ้ายึดและแป๊กเลย ลป หลุย ท่านเคยสอนไว้ ว่าแต่ เล่าสน๊ก สนุก แทรกคำสอนได้อีก ! เล่าเร็วๆหน่อยได้ม๊ะ ไม่ทันใจวัยสะรุ่นเลย แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 54 14:37:43 จากคุณ : น้องต๋าว เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 12:17:55

ความคิดเห็นที่ 55 (๖) คราวนั้น จขกท. ก็แวะไปแถวมหาลัยกับเพื่อน แล้วแวะไปทักทายพี่ที่ดูดวง กะว่าจะจองคิวดูดวงความรักประจำเดือนนี้บ้างอะไรบ้าง 555++ พอเดินไปปุ๊บ เห็นคนมารอเต็มหน้าร้าน จขกท. ก็มองไปเห็นแก แกก็เปิดประตูออกมาทัก อ้าวว " น้อง .... " นะเอง เข้ามาเลย " เจอก็ดีเลยหละ พี่มีเรื่องพอดี !" ( คิดในใจว่า ตรูจะมาดูดวงกะคุณพี่นะ แล้วสรุป ใครจะดูดวงใคร งง 555++) พอเข้าไปนั่งในร้าน ร้านแกเนี่ย จะมีหิ้งพระ กระแสพลังของหิ้งพระดี มีคนเคยพบเทวดา เจ้าที่ในตรงนั้นห้องด้วยเป็นปกติ ลักษณะน่าจะเป็นชายแก่ๆ ชอบมาโมทนาบุญ โชคดีวันนั้น จขกท. มากับเพื่อนคนนึงที่ภาวนาดีมาก พอเข้าไปปุ๊บ เพื่อนที่มากับ จขกท. ก็บอกว่า " รู้สึก ในห้องนี้แปลกๆ นะ ดูอึดอัดคับข้อง " " และเหมือนมีกลุ่มกลุ่มพลังงานดำๆ เหมือนก้อนอมีบาวิ่งไปวิ่งมา " ก็เลยชวนกันคุยกับพี่ที่ดูดวง ถามแกว่า มีเรื่องอะไร ยังไง แกจึงเล่าว่า จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 12:18:49

ความคิดเห็นที่ 56 ตอนนี้เป็นบทสนทนาของพี่ที่ดูดวง กับ เพื่อนจขกท. ที่ไปด้วยกัน " หลายวันก่อน ตอนปิดร้าน ก็ไปเก็บของ ทำความสะอาดหน้าร้าน " " ก็เก็บขยะ ทั้งขยะที่ตกอยู่ในกระถางต้นไม้ไปทิ้งตามปกติ " " ก็เห็นในกระถางต้นไม้เนี่ย มันมีเหรียญ กับเส้นผม " " พี่ก็ว่าใครเอามาทิ้งนะ ? " " ตอนนั้นไม่คิดอะไร ก็เอาถุงพลาสติกมารองจับขึ้นมา จะเอาไปทิ้ง " " พอจับปุ๊บนะ มันก็มีอะไรไม่รู้ วิ่งขึ้นมาที่แขน วิ่งขึ้นมาจนถึงต้นแขน " " แต่มันก็หยุดตรงนั้น แล้วตรงต้นแขนพี่บวมมากเลย เป็นก้อนแข็งๆ เนี่ย " ( แล้วแกก็เปิดให้ดูตรงต้นแขน ) " หลายวันก่อน พี่ก็ไม่รู้จะทำไง เลยไปหาหมอ ไปมาหลายรพ. มาก " " หมอทุกคนบอกว่า หาสาเหตุไม่พบ x-ray แล้ว ผลปกติ แต่ทำไมบวม เป็นก้อน หมอก็ไม่รู้ งงเหมือนกัน " ( อ้าววว -_-" ) " ต่อมาพี่เลยไปถามเพื่อนคนที่ปฏิบัติธรรม จึงรู้ว่า " " เหรียญที่จับ คือ เหรียญปากผี และ ผม คือ เส้นผมคนตาย " " มีคนตั้งใจมาวางไว้ในกระถางต้นไม้ เพราะเรื่องธุรกิจ " " ตอนนี้พอจะรู้แล้วว่าใครทำ เป็นพวกร่างทรง เล่นของ แถวนี้แหละ " ( อ้าว ตายจริง ตรูเดินไปแถวนั้นบ่อยด้วย) จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 12:37:07

ความคิดเห็นที่ 57 **************เล่าช้าไม่ทันใจเลยแหะ       จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 12:40:13

ความคิดเห็นที่ 58 " ต่อมาพี่เลยไปวัด ไปสถานที่ปฏิบัติธรรม " " ก็พอจะดีขึ้นบ้างละ " " แต่ยังไม่หายใช่มั้ยครับพี่ " " ในห้องเนี่ย ผมจับลักษณะได้ว่ามีกลุ่มก้อนพลังงานวิ่งไปมา " " พลังงานคล้ายอมีบา แต่ผมกับจขกท. มีวัตถุมงคลครูบาอาจารย์อยู่ จึงไม่ได้รับผลกระทบมาก " " ที่พี่ไปวัด สถานปฏิบัติธรรม แต่ไม่เจอครูบาอาจารย์ใช่ไหมครับ " " ผมรู้สึกว่า คุณไสยยังไม่ได้ถูกแก้ เพียงแต่ดีขึ้นเท่านั้น " " พี่ต้องทำไงดีหละ ไม่รู้จักองค์ไหนเลย " " เอางี้ไหมพี่ แป๊บนะ ขอทดสอบก่อน" (แล้วก็หยิบมีดหมอมา เป็นมีดหมอที่อาราธนาหลวงพ่อเดิม เสกด้วย) จขกท. ก็งงว่า คุณเพื่อน ออกมาข้างนอก เอามีดหมอติดมาด้วย พระเจ้าช่วย ! " ขอโทษนะพี่ เด็วขอดูตรงต้นแขนหน่อย " " อาราธนาบารมีพระรัตนตรัยก่อน " ( แล้วก็เอามีดหมอนี้ จะไปแตะที่ต้นแขน ) พอมีดหมอใกล้ถึงต้นแขนเท่านั้น จขกท. เห็นเลยด้วยตาเปล่านี่แหละ มีควันขึ้นมา และมีกระแสไหลเวียนอากาศที่ผิดปกติตรงบริเวณนั้น " น้องตอนนี้ ตรงต้นแขนพี่ ตรงที่มีก้อน มันสั่น เหมือนจะวิ่งไปวิ่งมา " " อย่าเพิ่งเอามาแตะโดนแขนนะ ห่างๆ นิดๆ ก่อน มันสั่นมาก " แล้วเพื่อน จขกท. ก็เก็บมีดหมอ แล้วคุยต่อ จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 12:49:57

ความคิดเห็นที่ 59 มารออ่านอยู่ จากคุณ : snoopy21 เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 12:55:17

ความคิดเห็นที่ 60 " ต้องไปวัดที่มีครูบาอาจารย์ ที่ท่านได้อภิญญา " " ของแบบนี้ ตามตำราหลวงพ่อฤาษี ท่านว่าที่โดนเป็นกฎแห่งกรรม " " ขนาดหลวงปู่ปาน ปรมาจารย์ ท่านยังโดนของตอนจะอาบน้ำเลย " " ไปวัด สถานที่ปฏิบัติธรรม ได้แต่ช่วงพยุง แต่กำลังไม่พอจะแก้ " " อย่างใน กทม. ก็ไปกราบ ...... ก็ได้ หรือไปร่วมงานเป่ายันต์เกราะเพชร " " แต่งานเป่ายันต์เกราะเพชร ต้องรอเสาร์ ๕ อีกนานเลย " " ตอนนี้ก็รีบไปกราบ ...... ขอให้ท่านช่วยละกันนะ " " แล้วก็หาวัตถุมงคลที่มีอานุภาพป้องกันพวกคุณไสยติดไว้ด้วยก็ดี " " พี่ถามหน่อยคะ ว่า " มีดหมอ " นี่บูชามาจากไหนคะ " " ขอเช่าต่อเลยได้มั๊ยยคะ " ( เพื่อน จขกท. ลังเลอยู่พักนึง ) " อือม์ ก็ได้ครับ เพิ่งบูชาทำบุญกับวัดมา เด็วผมไปบูชามาใหม่ตอนขึ้นเหนือ " แล้วเพื่อน จขกท. ก็เลยเสียมีดหมอไป 555++ จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 13:19:44

ความคิดเห็นที่ 61 ต่อมาไปกราบครูบาอาจารย์ถามเรื่องมีดหมอ เล่าให้ท่านฟัง ท่านว่า " เวลาใช้ให้ อาราธนาคุณพระรัตนตรัย หลวงพ่อเดิม ฯลฯ แล้วปลอกนี่ ไม่ต้องถอดออก ใช้ทั้งแบบนั้นได้เลย " " ให้อยู่ในห้องคนเดียว แล้วเอามีดหมอลากจากจุดที่ถูกของ ไล่ออกนอกตัว ถ้ามีคนอยู่ในห้องด้วย ของมันจะวิ่งไปเข้าอีกคนหนึ่ง " จขกท. รู้แล้วก็รีบโทรไปบอกพี่เค้า ให้ทำตามนี้ ผ่านมาสัปดาห์นึงแวะไปใหม่ แกจะฝากพิมพ์หนังสือสวดมนต์ถวายวัดอัมพวัน เจอแกแล้ว ถามว่า " เป็นไงบ้างพี่ ไปกราบครูบาอาจารย์มายัง " แกว่า " พี่ไม่มีเวลาเลย แต่พี่หายแล้ว " " พี่ทำตามที่บอกมา อยู่ในห้องคนเดียว " " พอหยิบมีดหมอขึ้นมา อาราธนาเสร็จ วูบวาบร้อนไปหมด " " แล้วก็ไล่ของออกนอกตัว ทำอยู่ 4- 5 วัน จนไม่มีอาการแล้ว " " น้อง .... จะไปวัดอัมพวันใช่ไหม พี่ฝากทำบุญด้วยนะ " จขกท. เจอเรื่องคุณไสยครั้งแรก และเรื่อง มีดหมอ แก้คุณไสยได้จริงๆ นี้เอง จึงเชื่อสนิทใจ และยิ่งมีความเคารพแนบแน่นในคุณพระรัตนตรัยมากยิ่งขึ้น ต่อมา จขกท. ก็ได้เจอเรื่องแบบนี้อีก และมีนิทานอีกเรื่องนึง คือ จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 13:29:10

ความคิดเห็นที่ 62 จะมาบอกว่า แอบรออ่านอยู่นะ จะลงแดงแย่ แล้ว จากคุณ : แมงกุ๊ดจี่ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 13:31:58

ความคิดเห็นที่ 63 คราวนั้นไปกราบครูบาอาจารย์ อยู่สนทนากับท่านถึงค่ำ ก็มีพี่คนนึงมาทำบุญ พาเพื่อนมาด้วย เพื่อนนี้หน้าตาหมองคล้ำ มองด้วยตาเปล่าก็รู้สึกได้ว่าอิดโรยมาก พี่คนนั้นบอกว่า "เพื่อนถูกคุณไสย" จะทำไงดีคะ ? ท่านก็แนะนำไป แล้วท่านก็เล่าเรื่องให้ฟัง จขกท. จำแบบงูๆ ปลาๆ มาแต่งนิยายเอาเอง ได้ว่า " สมัยก่อนที่มีนักร้องเพลงลูกทุ่งดังมากกก ชื่อ ..... นักร้องคนนี้ดังเกิน คนเลยอิจฉา จึงถูกทำของใส่ ตอนนั้นเป็นหนักมากแล้ว จะไปหาหลวงพ่อ ...... ที่วัด พอไปหาท่าน จะให้ท่านช่วยแก้ของให้ แต่องค์นี้ท่านเสร็จกิจแล้ว ท่านยอมรับใน "กฎแห่งกรรม" ท่านพิจารณาแล้วเล็งเห็นว่า " เป็นวิบากกรรม และถึงวาระแล้ว" ท่านจึงไม่ได้แก้คุณไสยให้ ทั้งที่ท่านทำได้ นักร้องคนนี้เห็นว่า เป็นหนักมากแล้ว คงจะไม่รอด ตอนนั้นขับรถไปตามถนนสายเอเชีย จึงบอกคนขับรถว่า อยากจะไปกราบ "พระพุทธชินราช" ในวาระจิตดวงสุดท้าย ที่เป็นกุศลนี้เอง จับนิมิตภาพพระ นักร้องคนนี้จึงได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีขึ้น " จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 13:53:36

ความคิดเห็นที่ 64 ช่วงนึง ปิดเทอม กลับบ้านต่างจังหวัด จขกท. มีพี่สาวอยู่ต่างจังหวัด ในแถบชานเมือง บริเวณรอบบ้าน รอบอาคารเป็นทุ่ง เป็นไร่ กว้างขวาง ตอนกลางคืนจะบรรยากาศวังเวงมาก พี่สาวเล่าให้ฟังว่าเจอเปรต เปรตมันมายืน ชอบหลบมุมเคียงต้นไม้ แต่ถ้าดูให้ดีจะเห็นชัดมาก และมักเจอเปรตตัวสูงๆ เรื่องเปรตนี้ เด็กๆ ที่จขกท. สอนพิเศษก็มาเล่าให้ฟัง บอกว่า " สัปดาห์ก่อน แม่หนูเจอคนยืนหน้าต้นไม้ในสวน พอมองไปแว๊บเดียวเอง ร่างก็ขยายใหญ๋ และตัวยาว สูงขึ้น ลักษณะเหมือนเปรตในหนังสือเลย " ( ถ้าเป็น จขกท. คงช๊อกตายไปตรงนั้น ) ในต่างจังหวัดที่พี่สาวอยู่เนี่ย พี่สาวบอกว่า ในละแวกนั้นก็มีตำหนักร่างทรงด้วย คนชอบไปขอหวย 555++ ( ตำหนักร่างทรงนี่ มีทุกที่จริงๆ เด็วจะเล่าต่อๆ ไป ) แถวนั้น เวลาเล่นของ เขาจะปล่อยของกันทุกวันพระ เรียกว่า "ร้อนวิชา" วันพระค่ำๆ นี่ ถ้าใครไปเดินเล่น แล้วเกิดไปเดินตรงทางสามแพร่งบ้าง หรือไปทักเสียง ทักอะไรที่ได้ยิน ของมันจะเข้าตัว เรื่องร้อนวิชา ต้องปล่อยของทุกวันพระเนี่ย น้องที่รู้จักอีกคน อยู่ภาคใต้ ก็บอกว่าจริง เพราะมีญาติที่ทำคุณไสยได้ แต่ไม่ทำนะ คอยแก้อย่างเดียว นอกจากนี้ พวกร้อนวิชาเนี่ย ก็ยังมีปล่อยของไปในงานศพบ้าง หรือบางทีชอบลองของพระที่ท่านไปธุดงค์ ตามที่ครูบาอาจารย์ท่านเล่าให้ฟังบ่อยๆ นั่นเอง แล้วทีนี้ก็คิดว่าจะทำไงหละ คนเล่นของ เล่นคุณไสยมากแบบนี้ ? จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 14:38:08

ความคิดเห็นที่ 65 จขกท. ก็เลยไปปรึกษา เพื่อนคนที่มี มีดหมอคนนั้นนั่นเอง เพื่อนบอกว่า " ให้มีความเคารพ ยึดมั่นในคุณพระรัตนตรัย มีสติ " " หากไม่มั่นใจว่าจิตจะจับที่พระรัตนตรัยได้ตลอดไหม " " ก็จะหาวัตถุมงคลของครูบาอาจารย์ ที่มี"พุทธคุณ" มาติดตัวก็ได้ " จขกท. เลยไปค้นตำรา เจอคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ทำให้ จขกท. เข้าใจมากขึ้น และยิ่งมีความเคารพในครูบาอาจารย์ ท่านมีอุบายวิธีการ เพื่อให้คนเข้าถึงซึ่งพระรัตนตรัยได้ง่ายขึ้น สาธุ _/\_ จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 14:56:18

ความคิดเห็นที่ 66 (๗) เรื่องของคุณไสย ก็เป็นอันผ่านไป มาต่อกันที่เรื่องของ "การดูดวง" เรื่องการดูดวงนี้ เป็นหนึ่งในเรื่อง top hit แม้แต่จขกท. เองก็เหมือนกัน มาจนป่านนี้ นับรวมค่าดูดวงตลอดชีวิต คงเกินหมื่นแล้ว ม่ายยนะ ><" ตอนนี้เริ่มคิดได้ว่า น่าจะเอาเงินดูดวงไปทำบุญดีก่า ที่คนสนใจอันดับ 1 คือ " เรื่องความรัก " จขกท. เองก็ไม่รอดกะเค้าด้วย -_-" แหม พอพูดถึงเรื่องความรัก พี่ๆ แถวนี้คงกระชุ่มกระชวยขึ้นหละสิ รู้นะ ! พอ จขกท. ดูดวงไปมากเข้า จนวันนึงที่หันมาสนใจ "ธรรมะ" ของพระพุทธเจ้าแล้ว จึงได้ความคิดและความเข้าใจในหลายๆ อย่างมากขึ้น หมอดูที่ว่าดูเก่งๆ แม่นๆ ก็ไปมาหมดแล้ว (มั้ง) อย่าถามนะว่าไปดูที่ไหนมาบ้าง ไม่บอกหรอก 555++ แต่หมอดูที่เก่งจริง ก็มีอยู่นะ และก็แนะนำสอดคล้องกับพระพุทธศาสนาด้วย ก็จะเล่าให้ฟังกันต่อไป จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 15:23:09

ความคิดเห็นที่ 67 ไม่เคยได้ยินคำว่า "เป่ายันต์เกราะเพชร" มาก่อน แต่สัปดาห์นี้ได้อ่านเจอสองหนแล้ว หนแรกคือ จะไปปฏิบัติธรรมและร่วมสวดมนต์คืนปีใหม่ที่วัดของพระอาจารย์เรา และมีญาติธรรมบอกว่างานนี้จะมีเป่ายันต์เกราะเพชรด้วย  ครั้งที่สองนี่ก็ได้อ่านเจอในกระทู้นี้ บอกตัวเองเลยว่าต้องไม่พลาดโอกาสนี้ ความบังเอิญในโลกนี้ไม่มีจริงๆ ปล. เราน่าจะเป็นเคยเรียนสถาบันเดียวกันกับคุณ จขกท แน่เลย เหลืองแดงใช่ไหมคะ ^^ แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 54 15:33:39 จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 15:31:44

ความคิดเห็นที่ 68 ยันต์เกราะเพชร ตัดมาจาก "ยันต์พิชัยสงคราม" เป็นตำราพระร่วง หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านว่า เป่าได้เฉพาะ "วันเสาร์ขึ้นห้าค่ำ" เท่านั้น * หากทำนอกเหนือตำรานี้ หลวงพ่อท่านว่านอกครู และไม่มีผล ( วันสิ้นปี และวันปีใหม่นี้ ไม่ใช่วันเสาร์ขึ้นห้าค่ำ ) และผู้ที่จะทำพิธีได้ คือ ผู้ที่ได้รับ "ครอบครู" วิชา จากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ มีกันทั้งสิ้น ๗ องค์ เท่านั้น หากมิใช่ ๗ องค์นี้ทำพิธี จะไม่ใช่การเป่ายันต์เกราะเพชรตามตำรา หลวงปูปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 15:41:00

ความคิดเห็นที่ 69 ขอนอกเรื่องสักนิดนะครับคุณ Radiant, Archangel  ตกลงนักร้องดัง ที่เขียนมานั้น โดนของจริง ๆ หรือครับ เห็นทางราชการบอกว่า เป็นโรคประจำตัวจึงถึงแก่ชีวิตนะ สมัยนี้เห็นหลายคนก็เป็นเหมือนกัน อันนี้ถามเฉย ๆ นะครับ จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 16:02:03

ความคิดเห็นที่ 70 เป็นนิทานสนุกๆ นะครับ ( : เรื้องสมมติ ไม่จริงจังนะครับ เด็วเป็นประเด็น ><" อั๊ยยยยะ T T ถามคุณผ้าพับไว้ ดีกว่า ต้องรู้แน่เลย อ่านที่หลวงพี่เล็กเขียนในกระโถนข้างธรรมมาสน์ ฉบับปฐมฤกษ์ ท่านบอกว่า จริง มี ๙ องค์ แต่ธรรมวิโมกข์ ลง ๗ องค์ พอจะทราบรายชื่อไหมครับ ? ไม่รู้จะค้นหาที่ไหนเลย ขอบคุณมากกกกก จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 16:11:33

ความคิดเห็นที่ 71 โอ้ ถามเรื่องนี้เลยหรือครับ เอาเป็นว่าในตอนต้นหลวงพี่ทั้ง ๗ องค์ท่านไปขอครอบครูวิชานี้ครับ ซึ่งเผอิญว่า อีก ๒ องค์ท่านเห็นว่าเป็นวิชาของ "หลวงพ่อ" ก็น่าที่จะขอเรียนไว้ได้เหมือนกัน ท่านเลยไปขอความกรุณา ผู้จัดทำพานบูชาครูให้ช่วยจัดพานให้เพิ่มเติม ผู้จัดพานท่านนี้ต้องจัดพานไหว้ครูไว้สำหรับทั้ง ๗ องค์ก่อนอยู่แล้วนะครับ ท่านเห็นว่า "หลวงพ่อ" ก็ไม่ได้ห้ามทั้ง ๒ องค์ครอบครูเพิ่มแต่อย่างใด ท่านก็เลยจัดพานครอบครูให้ อีก ๒ องค์ ก็เลยได้สิทธิครอบครูไปด้วยครับ ทีนี้ถามว่า ๙ องค์เป็นใครบ้าง ตรงนี้ที่พอจะทราบ บางองค์ก็ยังบวชอยู่ บางองค์ก็สึกไปแล้วก็มี แต่พระท่านบอกกับหลวงพ่อว่า ถึงแม้จะสึกไป แต่ "สิทธิ" ในการจัดพิธีก็ยังมีอยู่ ถ้ามาบวชใหม่ครับ รายชื่อจริง ๆ คงต้องไปตามหาเอาล่ะครับ บอกไปเดี๋ยวจะเรื่องยาว เอาเป็นว่า ท่านใดจัดงานเป่ายันต์เกราะเพชรตรงกับวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ ก็มีแนวโน้มว่า อาจจะเป็นหนึ่งใน ๙ องค์นั้นครับ (ผมไม่ยืนยันนะ อาจจะใช่หรือไม่ก็ได้) ส่วนวิธีทดสอบอานุภาพของยันต์ฯ คงต้องรบกวนคุณ Radiant, Archangel ว่าต่อล่ะครับ อิ ๆ  ๆ จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 16:43:03

ความคิดเห็นที่ 72 =============เน้นย้ำนะครับ ตามสายหลวงปู่วัดบางนมโค และ หลวงพ่อวัดท่าซุง============== =============ต้องจัดงานเป่ายันต์เกราะเพชร เฉพาะวันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เท่านั้น ================ และไม่ใช่อยู่ ๆ จะจัดได้  ถ้า "....พระท่านไม่สั่ง....." ก็ไม่มีสิทธิจัดครับ เพราะอาศัยพระพุทธานุภาพล้วน ๆ ครับ จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 16:46:29

ความคิดเห็นที่ 73 คนชอบดูดวง  มารออ่านคะ จากคุณ : ปักไหมทอง เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 16:55:33

ความคิดเห็นที่ 74 มาลงชื่อรออ่านด้วยอีกคนครับ : ) จากคุณ : Rabbit Hill เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 19:18:41

ความคิดเห็นที่ 75 แหะๆ  ดูดวง ทรงเจ้า เข้าผี สำหรับเรา แล้วรู้สึกว่ามันไร้สาระ หงะ แม่ พาไปดู ก็ดู แม่พาไป ทรงเจ้าก้ไป( ขืนขัด โดนว่า หงะ) เรื่องดูดวงเนี้ยะ พี่สาว แม่ ชอบมาก ยิ่งพี่สาวแล้วไม่ต้องพูด ชอบขนาด ไปลงคอร์สเรียนไพ่ยิปซี ( แต่ลงชื่อ เรา หงะ เลยต้องไปเรียนแทน ดันบอก เรียนแล้วจำได้ดีกว่า ไปเรียนดีกว่า เดียวให้เค้า/พี่สาว เรียน จะเรียนไม่รู้เรื่อง อ้าว เป็น ซะงั้น อะ ) เรียนเสร็จกลับมา ดูให้คนในบ้านเท่านั้น ไปๆมาๆ ดให้เพื่อน ให้ญาติ ให้คนสนิทไม่กี่คน เราว่ามันไม่แม่น แต่ ไง คนรอบๆข้างบอกแม่น หว้า ขนาดดูให้แฟน แฟนบอกแม่น แฟนไปบอกเพื่อนๆ เพื่อนก็บอกแม่น เลยบอกใครๆว่า เชื่อม่ะ คนดู ยังไม่เชื่อที่ตัวเองดูเลย 555.......... ขนาดตัวเองยังไม่เชื่อตัวเอง ไหง ใครๆพากันเชื่อหว้า สุดท้ายเก็บไพ่ ขึ้นหิ้ง แล้วบอกเลิกดูแล้วนะ ยังไม่วาย ต้องดูให้เพื่อนใหม่ ต้องนี้ไม่ต้องใช้แหละ บอกเลิกจริงๆแล้วนะ เพราะ เวลาใครถาม จะไม่หยิบแล้ว อะ   เรียกว่า เรื่องแบบนี้ไม่เคยอยู่ในความคิดเลย ทุกวันนี้ ผี ก็ ยังไม่เคยเห็น( นอกจากอย่างอื่น นะ ) แต่ แฟนบอก เมื่อเชื่อว่าอย่างอื่นมี ทำไม วิญญาณ ผี จะไม่มีหละ ก็ไม่รู้ อะ ยังไม่เคยเห็น เลยยังไม่เชื่อ หงะ อย่างอื่นเห็นแล้ว นิ ไม่เชื่อก็ไม่ได้ อะ เพราะ เล่นแบบใกล้ชิด ทุกวัน เลยไม่รู้จะไม่เชื่อได้ยังไง อะ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 19:20:26

ความคิดเห็นที่ 76 ตอนนี้อยากดูดวงมากมาย ใครใจดีช่วยแนะนำหน่อยสิ จากคุณ : bejinpao เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 21:19:37

ความคิดเห็นที่ 77 ต่อๆๆๆ จากคุณ : ramai เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 00:48:06

ความคิดเห็นที่ 78 มารออ่านต่อครับ ^ ^ จากคุณ : V_Accy เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 02:13:09

ความคิดเห็นที่ 79 จากคุณ : แมงกุ๊ดจี่ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 08:48:02

ความคิดเห็นที่ 80 เข้ามาลงชื่อติดตาม จากคุณ : Generals เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 09:02:17

ความคิดเห็นที่ 81 เรื่องดูดวงนี่ จขกท. ไปมาหลายที่ ตั้งแต่สมัยมัธยม ก็มีเจ้าที่บอกต่อๆ ว่า เจ้าดัง อยู่แถว "แจ้งวัฒนะ" ดูไพ่ยิปซี ครั้งเดียวได้ครึ่งปี อัดเทปให้ด้วย ต่อมาก็ไปเจ้าดัง (อีกแล้ว) แถว "คู้บอน" บอกกันว่าเป็นหมอดูใบไม้ ตอนไปต้องหยิบใบไม้ไปด้วย 1 ใบ 555++ จากนั้นก็ไปดูดวงแถว "หัวลำโพง" ดูด้วยจิต คนดูบอกว่าเห็นภาพอะไรขึ้นมาจะบอกตามภาพนั้น สุดท้ายก็มาดูที่แถว "มหาลัยริมน้ำเจ้าพระยา" จนสนิทกะหมอดูที่เล่าไว้ข้างบน เพราะทำบุญกันนี่แหละ พอดูดวงข้างมหาลัยบ่อยก็เบื่อ ไปเจออีกเจ้านึง แนวเทพ - - อยู่แถว "ถนนพระราม ๔" ใช้ไพ่ยิปซีประกอบด้วย ยังมีอีก คือ เจ้านี้แถว "พุทธมณฑล" แกรู้จักกับโหรในวัง แต่รายนี้มาแปลก เพราะเป็นหมอดูอารมณ์ติส ใครรอไม่ได้ไม่ต้องรอ ไม่ง้อคนนะ คุณหญิงคุณนายมารอ บ่น เดินมาไล่ตะเพิดกลับเลย ดูเหมือนแกจะอ่านใจได้นิดๆ ด้วยหละ เจ้านี้นอกจากแปลกที่ไม่ง้อคนมาดูแล้ว แถมยังลดค่าดูให้ตามคนดูดวงอีกด้วย บางคนน่าสงสารลำบากมาก ดูกะแกเสร็จ ไม่คิดค่าดู แกแถมเงินให้ด้วยอีก แม่เจ้า ! แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 54 10:28:46 แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 54 10:24:11 จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 10:22:33

ความคิดเห็นที่ 82 หมอดูแถวพุทธมณฑล เจ้าสุดท้ายนี้ จขกท. เคยไปดูหลายที่ ปกติครั้งละ ๑,๐๐๐ บาท แกก็บอกว่าแล้วแต่น้องจะให้เลย น้องทำบุญเยอะ นั่นแน่ หมอดูแน่จริง (หว่ะ) แถมฝากเราทำบุญอีก ! ที่น่าแปลกกว่านั้น เวลาแกให้ทำ "กรรมปัจจุบัน" แกก็ใช้ตำรา "หลวงพ่อจรัญ" เสียด้วย แกบอกว่าไม่รู้จักหลวงพ่อจรัญ แต่ภาวนาเอา และแก้ไขช่วยเหลือคนมาเยอะ พื้นดวงเดิมเปลี่ยนไปตามกรรมใหม่ ให้สวดอิติปิโส พาหุงมหากา ตามแบบหลวงพ่อจรัญ แต่แกเอากำลังของวันมาช่วย เช่น เกิดวันอังคาร ก็สวดทุกวันอังคาร พฤหัส ส่วนจขกท. สวดทุกวันอยู่แล้ว ไปดูดวงเลยไม่ต้องแก้ไขอะไร คนอื่นเขาเสียกันทีเป็นพันๆ 555+ มีพี่ (แถวนี้) ก็ไปดูดวงกะแกมาเหมือนกัน อ่านแล้ว ถ้ารู้อย่ามาบ่นกะ จขกท. นะว่าทำไม่ได้พิเศษบ้างไรบ้าง ที่พิเศษเพราะแกเอาค่าดูดวง ร่วมพิมพ์หนังสือสวดมนต์นะจ๊ะ 555+ หมอดูทุกเจ้านี่ จะเหมือนกันหมด คือ จองคิวยากมากกกก บางเจ้าจองกันข้ามเดือน ข้ามปีกันเลย -_-" จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 10:29:31

ความคิดเห็นที่ 83 พอดูดวงมามากเข้า จนจำไม่ได้ว่ากี่เจ้าละ ไม่นับรวมหมอดูทั่วๆ ไป ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักนะ ก็จับหลักได้ว่า หมอดูที่เก่งและปฏิบัติธรรม จะแนะนำ "สอดคล้อง" กับ "คำสอน" ในพระพุทธศาสนา จะไม่แนะนำให้ทำบุญกับตัวเองเลย แต่จะแนะนำให้ "ทำบุญ" ในพระพุทธศาสนา หรืออย่างน้อยก็ทำบุญที่เป็น "ทาน ศีล ภาวนา" ถ้าหมอดูคนไหนให้เสียเงิน "ค่าอะไรแปลกๆ" กับตัวเอง นั่นแน่นอนว่า "ไม่ใช่" ของจริงแน่ เสี่ยงจะ "โดนหลอก" เอาดื้อๆ ค่าอะไรแปลกๆ ที่มีคนมาบ่นให้ฟัง เช่น ยกขันธ์ รับครู ตามแนวไสตน์ตำหนักดูดวง หรือต้องแก้ดวงอย่างงั้น อย่างนี้ ตนจะทำพิธีให้ จ่ายเงินชั้นมาเท่านี้บาทนะ ไม่งั้นเคราะห์ไม่หาย จขกท. ว่า "เคราะห์" มาเกิดตอนเจอหมอดูแบบนี้ และเสียเงินนี่แหละ 555++ ต่อมา พอ จขกท. มาสนใจใน "คำสอน ธรรมะ" ของพระพุทธเจ้าแล้ว เวลาไปไหน ก็มักไปกับ "เพื่อนที่ภาวนา" เลยได้อะไรสนุกๆ มาอีก ก็คือ จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 10:39:51

ความคิดเห็นที่ 84 ผมเริ่มสวดมนต์บทอติปิโส พาหุงมหากา ธัมมจักรฯ ยอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎก ชินบัญชร ทุกวันเพราะ จขกท.นี่แหละ แต่ไม่รู้ว่าควรต้องทำอะไรเพิ่มมั้ย รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ จากคุณ : เป็นตับ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 11:02:09

ความคิดเห็นที่ 85 ว่อง ๆ อย่าให้วัยสะรุ่นคอยนาน จากคุณ : น้องต๋าว เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 11:29:41

ความคิดเห็นที่ 86 เวลา จขกท. อยู่มหาลัย ก็จะลากเพื่อนมาเดินด้วย ตอนกลับบ้าน แถวนั้นเจอหมอดูเพลียๆ เยอะ เดินๆ อยู่ก็ทำมาทักว่า " หนูดูดวงมั้ย " " น้อง หน้าตามีเคราะห์นะคะ " หรือเพื่อนบางคน มาเล่าให้ฟังเจอประหลาดกว่านั้น ตอนคราวนึงมีหมอดูมาตั้งเต๊นท์ ที่อนุสาวรียื เดินๆ อยู่เจอหมอดูทัก แล้วบอกว่า " น้าขอดูมือหน่อย บอกไม่คิดเงิน " ก็เอามือไปดูใหญ่เลยก็มาคิดเงินตอนท้าย หมอดูนี้ ป่วยมาก ! เพื่อนเรานี่มาบ่นทีหลังว่า "แอบโง่ โดนหลอกได้ไง ไม่รุ" 555+ เวลา จขกท. เจอหมอดูประเภทเรียกลูกค้าแล้ว ก็เห็นใจและเข้าใจแหละว่า "หาเงิน" แต่หากินกับ "ความทุกข์" ของคนอื่นมันเกินไป เหมือนไปซ้ำเติมเค้า ทีนี้คราวนึงไปกับเพื่อนที่ภาวนาเนี่ยแหละ เดินไปผ่านโซนดูดวง เพื่อนคนนี้ "จิตส่งออกนอก" เก่ง พอเดินเฉียดไปปุ๊บนะ ก็เจอหมอดูประเภทที่ทักแบบที่เล่ามาด้านบนนี่หละ เพื่อนเลยจัดเลย ! จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 11:33:01

ความคิดเห็นที่ 87 เพื่อนก็หันไปแว๊บนึง แล้วบอกว่า หมอดูคนนี้ "มีกระแสของความหมอง คลุมเครือ คลุมอยู่" " จิตมีความทุกข์ อกุศล และมีโลภะ ฯลฯ " เพื่อนก็ว่ามาเป็นฉากๆ ยังกะฉายหนัง จขกท. ก็ตกใจว่า เอิ่มม -_-" เพื่อนตรูเอาแล้ว ไปส่องดูจิตหมอดู แล้วจัดการ "ดูดวง" ให้หมอดูไปหรือนี่ แต่ไม่ได้บอกเค้านะ หันมาบอก จขกท. คุยกัน 2 คน แล้วก็ตบท้ายว่า สงสารหมอดูบางคนเหมือนกันนะ " ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย แล้วไปดูดวงคนอื่น จะไปช่วยแก้ไข แนะนำคนอื่นได้ยังไง " ตั้งแต่นั้นมา จขกท. เลิกเลย !!! เลิกดูดวง โดยเฉพาะ หมอดูที่ตอบมาตามตำรา ตำราเนี่ยไปเปิดดูเองก็ได้หรอก ไม่ต้องมานั่งเสียเวลา เสียเงิน ความจริงพี่ (แถวนี้) บางท่าน ก็เก่งนะ "ดูดวง" ได้ด้วย แต่ใช้ "กำลังสมาธิ" นะ จขกท. ใช้บริการพี่แกบ่อย อิอิ พี่แก ต้องแอบเข้ามาอ่านกระทู้นี้ด้วยแน่ รู้นะ ><" ตอนนี้ที่ยังแวะเวียนไปหาหมอดู "บางท่าน" ก็จะมีแต่หมอดูที่ทำบุญกัน หรือไปวัดวากัน และต่อมา จขกท. เลิกดูดวงอย่างถาวร นอกจากเหตุผลที่ว่ามาแล้ว ก็มีอีกสาเหตุนึง เพราะว่า จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 11:54:25

ความคิดเห็นที่ 88 เพราะว่า หมอดู ไม่แม่น ดูเรื่องความรักว่าจะสมหวังกับคนนั้นคนนี้ แล้วก็ไม่เห็นจะสมหวังสักทีเลยหนะสิ แอร๊ยยยยย -_-"  -*- ไม่ใช่ๆ เพราะว่า ได้คำแนะนำจากครูบาอาจารย์ และพบว่าตรงกัน เห็นผลจริงในชาตินี้ ชีวิตอะไรๆ ในความเป็นอยู่ เรื่องราวต่างๆ รอบๆ ตัวดีขึ้นจริง จิตใจก็มีความสงบสุข ไม่ต้องไปดูดวงให้เสียเงิน เสียทอง ! ตำราแรก ก็แน่นอน ของหลวงพ่อจรัญนั่นเอง หลวงพ่อจรัญท่านว่า "กรรมฐานแก้กรรม" แก้กรรมของท่าน หมายถึง ใช้กรรมเก่า สร้างกรรมใหม่ ไม่ใช่ลบล้าง หักกลบลบหนี้อะไรกันนะ หลวงพ่อสอนตรงตามที่พระพุทธเจ้าสอน แต่ท่านอาจใช้คำอื่นให้เข้าใจได้ง่ายๆ พระพุทธเจ้าสอนว่า กรรมในอดีต เราไม่รู้ว่าสร้างกรรมใดมา ให้สร้าง "ปัจจุบันกรรม" ที่เป็นกุศล มีความสว่าง และแน่นอนว่า "การภาวนา หรือกรรมฐาน"ได้อานิสงส์มากที่สุด หลักการให้ผลของกรรม คือ กรรมตัวใดแรงสุดให้ผลก่อน อาจเป็น "กุศลกรรม หรืออกุศลกรรม" ก็ได้ ตัวไหนแรงกว่าตัวนั้นก็ให้ผลก่อน ครูบาอาจารย์ท่านจึงสอนว่า " หากมัวรอชดใช้กรรม (อกุศลกรรม) ไม่มีทางชดใช้ได้หมด ให้ทำบุญ (กุศลกรรม) หนีบาป " จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 12:15:38

ความคิดเห็นที่ 89 ที่นี้เรื่องไปปฏิบัติธรรมของ จขกท. เนี่ย แต่เดิมนอกจากที่เคยเล่าว่าเป็นเพราะเจอปาฏิหารย์แล้ว อีกสาเหตุก็มาจากเรื่อง "ดวง" นี่แหละ เพราะปัญหาวุ่นวาย มากมายเหลือเกิน อยากให้อะไรต่างๆ ในชีวิตดีขึ้น จึงไปปฏิบัติธรรมที่วัด ตอนไปปฏิบัติธรรมที่วัดครั้งแรกๆ ก็มีเรื่องสนุกๆ เล่านะ ยิ่งต่อๆ มารู้จักเรื่องราวต่างๆ มากขึ้น ก็เลยเข้าใจ เคยไปมาหลายวัด หลายที่ละ แต่ละที่ก็มีแนวทางต่างกันไปบ้าง โดยมาก จขกท. มักไปวัดที่มีครูบาอาจารย์อยู่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านสอนว่า " ปฏิบัติที่วัดใดที่มีพระอรหันต์อยู่ จะก้าวหน้าได้เร็ว" จขกท. ก็ไม่รู้ว่าองค์ไหนท่านเสร็จกิจหรือยัง รู้แต่ว่าวัดไหน เป็นวัดที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ก็ไปนั่นแหละ อย่างวัดอัมพวัน หลวงพ่อจรัญ เนี่ย จขกท. ก็มีประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง เพราะแต่เดิมก็สงสัย (อีกแล้ว) ว่าทำไมวัดหลวงพ่อจรัญ ปีนึงๆ คนไปเป็นแสนๆ ยิ่งช่วงเทศกาลพิเศษนะ ที่ทางคับแคบไปเลยเชียว ยิ่งกว่าตรงชั้นอาหารในพาราก้อนเสียอีก เรื่องก็มีว่า จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 12:24:37

ความคิดเห็นที่ 90 อิอิ กรรมดี กรรมเก่าเก็บมา ยักษา ยักษ์ปฎิบัติ  จิตคะนอง เพราะ สันดานเก่าพาไป บุพเพ พาประสบ พบ คูรู วาสนา ชักนำ ให้พบประสบเอ่ย ----------------------------------------- ขอโทษ คะ ที่เข้าไปยุ่งไรนิดหน่อย คะ บังเอิญ อ่านจบแล้ว คำนี้ แวบเข้ามา ให้พิมพ์กลับไป คะ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 12:51:48

ความคิดเห็นที่ 91 นึกแปลก ฉงนจิต คิดสงสัย บัดนี้ คลายข้อ ข้องจิต หายสงสัย เหตุใด มนุษย์ มักพึ่งพา ครูอาจารย์ ผู้สอนสั่ง พึ่งพา พักจิต ติดหมอดู ไหลเวียน วกวน ปนคะนอง เหตุจาก ไม่รู้ ติดตัวตน --------------------------------------------- เข้ามาอ่านเพื่อนำไปศึกษาจิตมนุษย์ คะ เข้ามาตามจิต  จขกท. เพื่อ นำสู่ สิ่งที่ติดข้องบางประการ คะ บัดนี้ รู้แจ้งบางส่วน คะ ขอบคุณมาก ที่ให้ความกระจ่าง ************************* แต่ยังตามเรื่องต่อนา เผื่อได้อะไรมากกว่าความสนุก ในการเล่า คะ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 12:58:06

ความคิดเห็นที่ 92 ( : (๘) คราวสมัยหลายปีก่อน ที่ยังเป็นผู้เริ่ม "หาทาง" ดังที่เล่าไว้ในภาค ๑ ก็ได้ไปวัดอัมพวันเป็นที่แรกๆ อยู่ปฏิวัติธรรม ๗ วัน ก่อนจะไปเจอครูบาอาจารย์องค์ที่ท่าน "เมตตา" สั่งสอนให้เป็นผู้เป็นคนจนปัจจุบัน และเจอเทวดาที่วัดท่าน ซึ่งว่ากันไปโดยย่อแล้วในภาค ๑ นั้น เรื่องที่วัดอัมพวันเนี่ย ครั้งแรกที่ไป ไปที่ศาลาลงทะเบียน จำได้ว่าสงสัยเรื่อง "ตัวเลข" ทำไมมีเลข ๒  ๓ บางคนก็ เลข ๒๐ ฯลฯ ก็เลยทำหน้าชาๆ นิดนึง เดินไปทัก พี่ๆ ที่ป้ายชื่อมี "เลขเยอะๆ" น่าแปลกคือ หลายคนที่ป้ายชื่อติดเลขเยอะ กลับดูวัยเด็ก วัยรุ่นอยู่เลย " พี่ครับ ทำไมป้ายป้ายชื่อผม มันเป็นดาว แต่ของพี่เป็นเลข เยอะจัง " " เลขนี้ คือจำนวนครั้งที่เคยมาครับน้อง พี่เนี่ยมา ๗ ครั้งแล้ว " " ที่ป้ายจึงมีเลข ๗ แล้วคนที่เคยมา กับคนที่มาครั้งแรก เขาแยกส่วนกันปฏิบัติ " " แต่พี่ยังดูไม่แก่เลย (ปากเสียนะตรู) ทำไมมาตั้ง ๗ ครั้งแหนะ " " อ๋อ คือ พี่มาแล้วได้อะไรดีๆ หนะ " "พอมาปฏิบัติธรรม แล้วบางทีก็ขอพรหลวงพ่อไว้ " " ก็สำเร็จหลายครั้งแล้ว จึงกลับมาอยู่กรรมฐานอีก " " อีกอย่างพี่มาแล้วได้อะไรดีๆ กว่านั้นเยอะ ได้ธรรมะของหลวงพ่อด้วย " สมัยนั้น เรายังไม่ค่อยรู้อะไรมาก จึงฟังและเก็บไว้ในใจ จนมาบัดนี้เคยบวชที่วัดอัมพวันแล้ว ก็เข้าใจว่า เรื่องเป็นจริงตามที่พี่คนนั้น เคยบอกเล่าสู่กันทุกประการ ในช่วงหลังๆ จขกท. จึงพบว่าทุกท่านที่มาที่วัดที่จขกท. เคยคุยด้วย มีความสุขในปัจจุบัน ชีวิตอะไรต่างๆ ดีขึ้นมาก เพราะด้วยความเคารพในพระรัตนตรัย ปฏิบัติกรรมฐาน แม้แต่ จขกท. เองก็เช่นเดียวกัน เรื่องเหล่านี้ หาอ่านได้จากหนังสือ "กฎแห่งกรรม" ที่ออกทุกวันเกิดหลวงพ่อจรัญ ในทุกๆ ปี ( : มีผู้มาปฏิบัติธรรมจำนวนมากเขียนเล่าประสบการณ์ไว้ ครูบาอาจารย์ ท่านจึงสอนว่า " ถ้าอยากรู้ว่าปฏิบัติดีหรือไม่ ให้ดูความเป็นอยู่ในปัจจุบัน ว่าดีขึ้นหรือเลวลง " ครูบาอาจารย์แต่ละองค์ที่ท่านสอน สอนไว้ไม่ผิดเพี้ยนเลยสักนิด // กราบ จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 13:36:31

ความคิดเห็นที่ 93 ต่อมา จขกท. ก็เจอคำสอนของหลวงพี่เล็ก วัดท่าขนุน ท่านสอนไว้ในหนังสือกระโถนข้างธรรมมาสน์ เดือนมิถุนายน ๒๕๔๙ " เรื่องกฎของกรรมนี่ ถ้าเรามั่นคงในทาน ศีล ภาวนา เขาจะสนองเราได้ไม่ถึง ๒๕% อีก ๓ ส่วนนั่น โดนอานุภาพของทาน ศีล ภาวนา ป้องกันไว้แล้ว เพราะฉะนั้น เราแก้กรรมทำด้วยตัวเองก็ได้ โดยเฉพาะทาน ศีล ภาวนา มันมีผลบุญสูงสุด ทานให้ผล ๑๐๐ ส่วน ศีลให้ผล ๑๐,๐๐๐ ส่วน ภาวนาให้ผล ๑,๐๐๐,๐๐๐ ส่วน เพราะฉะนั้นภาวนาจะให้ผลสุงสุด ถ้าเราทำจนกระทั่งกำลังใจทรงตัวเป็นปกติ พวกกรรมเก่ามันจะตามได้ยาก และถ้าหากว่าเรายิ่งหลุดพ้นไปเลยก็เป็นอันว่าจบ ไม่ต้องตามกันเลย " จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 13:45:33

ความคิดเห็นที่ 94 คห. 84 ขออนุญาตตอบแทนเจ้าของกระทู้นะคะ ถ้าถามเรื่องบทสวด ก็ ต้องตอบว่า แล้วแต่จะชอบเลยคะ เพราะทุกบทเป็นพุทธคุณทั้งนั้น ขอให้ระหว่างที่สวด ให้นึกถึง พระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์คะ แต่ถ้าหมายถึงหลังจากสวดบทที่เหลือแล้วต้องทำอย่างไรต่อ ถ้าตามแบบหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านก็จะให้ อุทิศส่วนกุศลเลยคะ ถ้าตามแบบหลวงพ่อจรัญ ฯ ท่านก็จะให้ แผ่เมตตาให้ตนเอง และต่อด้วยแผ่ให้แก่สรรพสัตว์ อุทิศส่วนกุศลเป็นบทสุดท้าย ปล.1 ที่กล่าวนี้ตัดขั้นตอนการนั่งกรรมฐานออกไปก่อนนะคะ เพราะถ้านั่งกรรมฐานต่อจะมีบทสวดต่ออีก ปล.2 อยากให้เพิ่มบทขอขมากรรมแด่ พระรัตนตรัยไปด้วยก็ดีนะคะ เพราะหลวงพ่อฤาษีท่านสอนไว้ว่า ในวันนึงเราอาจไม่รู้ก็ได้ว่าเราได้เผลอไปปรามาสพระรัตนตรัยหรือเปล่า ท่านจึงให้สวด บทขอขมากรรมพระรัตนตรัยด้วยทุกวันคะ ปล.3 ผิดถูกอย่างไร ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ เพราะว่านี้เป็นความรู้เท่าที่เราทราบคะ จากคุณ : มุกทะเลใต้ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 13:51:16

ความคิดเห็นที่ 95 นับต่อแต่นั้นมา จขกท ก็เลิกสนใจเรื่องการดูดวง " มีสติอยู่ในปัจจุบัน สร้างปัจจุบันกรรมในทางที่ดี เป็นกุศล " ตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า " เมื่อสร้างเหตุดี ผลก็ดี อยู่กับปัจจุบัน " นับจนวันนั้นมาจนวันนี้ จขกท ก็ติดหนี้พระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์มากเหลือเกิน ก็ได้แต่จะใช้หนี้ท่านด้วยการเพียร ปฏิบัติตามคำสอน เพื่อในวันข้างหน้าจะได้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป จขกท. ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามอ่านกระทู้มา ทั้ง ๓ ภาค และขอปิดกระทู้จบทั้งหมด แต่เพียงเท่านี้ แยกย้ายกันไปปฏิบัติ ในการที่ จขกท. เองเคยได้รับประโยชน์จากที่แห่งนี้ ในการเริ่มต้น "หาทาง" เมื่อ ๗ ปีก่อน จขกท. จึงอยากที่จะตอบแทน ด้วยการจัดส่งหนังสือสวดมนต์ วัดอัมพวัน หลวงพ่อจรัญ และซีดีคำสอน รวมทั้งไฟล์เสียง ของครูบาอาจารย์องค์ต่างๆ อาทิ หลวงพ่อจรัญ ฯลฯ ให้แก่ท่านที่ตั้งใจและเริ่ม "เดินทาง" เช่นเดียวกับที่ จขกท. เคยเริ่มต้นนั้น ขอแจก จนถึงวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๔ นะครับ ( : ลงชื่อในกระทู้นี้ก่อนวันที่ ๑๖ และแจ้งที่อยู่ทางหลังไมค์ จขกท. ยินดีจะจัดส่งให้ทุกท่าน โดยไม่คิดมูลค่า แต่มีข้อแม้ว่าได้ไปแล้วต้องฟังและสวดมนต์ในหนังสือด้วยนะ หนังสือทุกเล่มที่จัดส่ง อาจมีขนาดเล่มใหญ่เล็กต่างกันไปบ้างตามล๊อต แต่มีบทสวดมนต์ครบทุกบท ตั้งแต่อิติปิโส พาหุงมหากา ไปจนถึงมหาเมตตาครอบจักรวาลแน่นอน และหวังให้ทุกท่านได้เจอ "ครูบาอาจารย์" ตามบุญวาสนาที่สั่งสมกันมาเฉกเช่นเดียวกัน จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 14:00:57

ความคิดเห็นที่ 96 อนุโมทนาบุญด้วยคนค่ะ จากคุณ : ดญ. หัวเหน่ง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 14:10:56

ความคิดเห็นที่ 97 ขอเสริม จขกท สักนิดครับ จากประโยคที่ว่า "...โดยมาก จขกท. มักไปวัดที่มีครูบาอาจารย์อยู่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านสอนว่า ปฏิบัติที่วัดใดที่มีพระอรหันต์อยู่ จะก้าวหน้าได้เร็ว..." จริง ๆ พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านไม่ได้เน้นว่าจะต้องปฏิบัติเฉพาะวัดที่มีพระอรหันต์เท่านั้น แต่ถ้าเผอิญโชคดี ได้ไปปฏิบัติในสถานที่ ที่มีพระอริยเจ้าอยู่เป็นจำนวนมาก ก็จะส่งผลให้มีความก้าวหน้าในธรรม ได้ง่ายมากขึ้้นครับ ท่านยกตัวอย่างกรณี เตียงที่ท่านพระสารีบุตรบรรลุธรรม ปรากฏว่าเีตียงนั้นต่อมา ก็มีพระมาปฏิบัติและบรรลุธรรมอีกเป็นจำนวนมากครับ จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 14:27:52

ความคิดเห็นที่ 98 ขอถามนอกประเด็น ตกลงคนเขียนเนี่ยะ เพศไหน จากคุณ : ต้นลูกตาล เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 15:07:02

ความคิดเห็นที่ 99 อนุโมทนาบุญ ที่มาแบ่งปันเรื่องดีๆ ให้อ่านคะ จากคุณ : ปักไหมทอง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 15:17:59

ความคิดเห็นที่ 100 ลงชื่อขอหนังสือสวดมนต์ค่า อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ เริ่มสวดมนต์ได้เดือนหนึ่งแล้วค่ะ จากคุณ : นางมารร้ายใส่Lacroix เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 15:20:51

ความคิดเห็นที่ 101 สวดมนต์เล่มหลวงพ่อจรัญมาตั้งแต่สิบกว่าๆๆ จนตอนนี้สามสิบกว่าๆๆแล้ว เมื่อก่อนโชคดีมากที่ได้ไปเป็นเพื่อนป้าไปปฏิบัิตที่วัดอัมพวัน สมัยตั้งแต่แม่ใหญ่ยังอยู่ และคนที่ไปที่วัดไม่เยอะขนาดนี้ แต่ด้วยความเป็นเด็กน้อย ปฏิบัติได้ไม่กี่ปีก็ทิ้งเลิกไป แต่ยังไม่เลิกสวดมนต์ เพราะเวลามีความทุกข์เกิดขึ้นทีไร การสวดมนต์นี่แหละทีคลายทุกข์ให้ เกิดสติและพอจะประครองชีวิตได้ ตอนนี้กลับมาปฏิบัติใหม่แล้ว เรามีหนังสือสวดมนต์ของหลวงพ่อจรัญแล้วคะ แต่เล่มนี้ไม่มีสวดเมตตาใหญ่ รบกวนขอเล่มที่มีเมตตาใหญ่หน่อยนะคะ  (ส่งที่อยู่ให้หลังไมค์นะคะ) ขอบคุณ คุณ จขกท มากมายค่ะ ขอให้เจริญในธรรมนะคะ และ ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ปล. เล่มนี้สวดมานานมาก ปะซ่อมหลายทีแล้ว ตอนนี้ปกหลุดออกมาแล้วค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 54 15:35:20 จากคุณ : I know who am i เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 15:28:41

ความคิดเห็นที่ 102 ครูบาอาจารย์ท่านว่า การสวดมนต์ ขณะสวดมีศีลครบ ก็ได้ "ศีล" หากจิตมีสมาธิ แน่วแน่ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ก็เป็นการทำ "ภาวนา" ด้วยในตัว จึงเป็นบุญในการรักษาศีล และ การภาวนา * โมทนาบุญกับทุกท่านครับ การสวดมนต์เนืองๆ รอบๆ ตัวจะกระจ่าง สว่าง มีความโล่ง ซึ่งก็มีพี่ๆ หลายท่านประสบมาและเล่าสู่กันฟังอยู่เสมอว่า ในช่วงเวลาที่สวดมนต์กันสม่ำเสมอนั้น จะคล่องในกิจการต่างๆ หากประสบพบปัญหาใด ก็จะพบว่าคลี่คลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ แรกเริ่มคงต้องอดทน ทำความเพียรกัน เมื่อคงตัวแล้ว จะประสบสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตนเองครับ หนังสือสวดมนต์และเสียงคำสอน จะทยอยจัดส่งให้นะครับ ( : จากคุณ : Radiant, Archangel เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 15:37:03