ความคิดเห็นที่ 1 ปลายปีที่แล้ว ได้พบกับเพื่อนใหม่ เพื่อนใหม่ ผ่านการแนะนำ จากเพื่อนเก่าของแฟน เมื่อพบครั้งแรก เพื่อนคนนี้ ก็ทักแฟน   คำแรกที่ทัก...........ยิ้มกว้าง ท่านนี้เป็นพราหมณ์ กี่ภพกี่ชาติ ยังไม่เบื่ออีกหรือ ? จขกท. .............( เข้าใจว่า เพราะ ไว้ผมยาว มั๊ง  / แฟน ผมยาว ) อ้อ  เปล่าหรอก เค้าเลือกช่าง นะ ไม่ใช่ช่างคนนี้ไม่ยอมให้แตะหรอกผมเค้าเนี้ยะ เพื่อน......... เปล่าครับ เค้านะ ภที่แล้วก็เป็นพรหมาณ์ เคยเจอกันมาหลายชาติแล้ว  แล้วยังทัก เราอีก  คุณมีองค์ นะครับ จขกท.  ( เอ้าละสิ หมอนี้ เพี้ยนเปล่า นะ )  เห็นเหรอ คะ  เพราะเคยมีคนทักแบบนี้แล้ว คะ เพื่อน.......... เห็นสิครับไม่เห็น จะทักรึ  คุณมีถึง 2 องค์ เป็นแบบจีนกับแบบไทย จขกท.  ................ยิ้มเฉยๆ ( ในใจคิด หมอนี้เพี้ยนแน่ แหะ) จากนั้นก็คุยกันเรื่องงาน เพราะ มาเรื่องงาน จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 20:18:26

ความคิดเห็นที่ 2 วันนั้น เพื่อนคนนี้ คุยซะยื่นยาว ไม่พ้นเรื่องนี้ เรื่องงานแทบไม่คุย ( ประหลาดคนแหะ เพิ่งรู้จัก คุยซะ ขนาดนี้ ไม่เพี้ยนเรียกไร นะ ) เค้าบอก  จขกท. มีเทพ 2 องค์ ภาคไทย ถือดาบ 2 ข้าง  ภาคจีน มีธง 2 ข้างเสียบหลังไว้ แถมบอก พระร่วง ลุกมาเต้นด้วย ( เหอะๆ เพี้ยนแน่แบบนี้ ) หลังจากนั้น เค้าก็ให้นามบัตรทิ้งไว้ กลับมา นั่งค้นหาข้อมูล ได้ความว่า เพื่อนคนนี้ มักชอบชวนคุยเรื่องปรัชญา เรื่องธรรม เรื่องพิชัยสงคราม  ข้อความที่โพส มัก ใช้ศัพท์ ที่สวยหรู เหมือน นักวิชา คงแก่เรียน เลยคุยกับแฟน สงสัย ถ้าใครเจอหมอนี้ ไม่ว่า บ้าก็ว่าเพี้ยนแน่ ท่าทาง เหงาเนอะ อยากหาเพื่อนคุยมากเลยมั๊ง 555........... --------------------------------------------------- ผ่านไป 2 วัน ก็โทรคุยเรื่องงานอีก แต่แฟน ยังติดใจเรื่องนี้เลยชวนคุย เค้า บอก ขอโทษ วันนั้นดีใจมากไป เก็บอาการไม่อยู่ เพราะ เค้ารู้อยู่แล้วว่าจะต้องมาเจอ เรา 2 คน แต่ไม่รู้ว่า วันไหนเวลาไหน เหมือนเดจาวู ( เดจาวู คืออะไร หว้า  จขกท. งง  แฟนเลยต้องแปลให้ฟัง ) เค้าบอก เค้ารู้ว่า ต้องเจอ เค้าเฝ้าคอยนานแหละ ว่าจะต้องเจอให้ได้เพราะงาน ที่จะเริ่ม มาจากเรา 2 คน ( ตอนนั้น  จขกท. ว่า หมอนี้เพี้ยนจริงๆแน่ แหะ ) จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 20:26:17

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่นาน เค้าก็มาหาอีกครั้ง เพื่อนำงานที่จะทำมาให้ แล้วก็คุยเรื่องนี้อีก เค้า บอก เพื่อนเก่าแฟน( คนที่พามา เป็น ราหู ชีวิต จึงเวียนวนกับ กลุ่มนี้เสมอ ) จากนั้น งานก็เริม่เป็นรูปเป็นร่าง  มีการตั้งบริษัทขึ้น ถือหุ้นหลายฝ่าย โดยให้แฟนเป็น หัวหน้าฝ่ายวิจัย จะเอาเราไปถือหุ้นด้วย  เลยบอก ไม่ต้อง ให้แฟนคนเดียวพอ  จขกท. ช่วยห่างๆดีกว่า ( ไม่มั่นใจ อะ  บ. นี้ ร่วม กลุ่มเพี้ยนเปล่าหว้า 555++++++ ) ผู้บริหาร หลายคน เพื่อนเก่าเป็น ผู้บริหาร เพื่อนคนนี้็ร่วมบริหารด้วย แต่ งานแทบไม่ได้คุย กับคุยถึงเรื่องนี้ ตลอด โทรคุยวันละหลายชั่วโมง( คุยกับแฟน) เพื่อนคนนี้ ย้ำตลอดเวลา ว่า จะพาไปพบผู้ใหญ่ ท่านหนึ่ง เมื่อพบ ทุกอย่างจะไขปริศนาออกหมด เค้า พร่ำบอก ผู้ใหญ่ท่านนี้ เป็นอย่างโน้นอย่างนี้ตลอด  บอกตลอด ถ้าได้ไปพบ อาจจะถึงเวลาของ จขกท. ก็ได้ จขกท. ก็ ได้แต่ พยักหน้าหงึกๆ ( ไม่รู้จะพูดอะไร นิ พูดไม่หยุด เรื่องแบบนี้  จขกท. เห็นว่า เรื่องหลอกเด็ก หลอกให้ ปฎิบัติ  งมงาย ไร้สาระ หงะ ) ----------------------------------- จนวันหนึ่ง มีเหตุต้องขึ้นเหนือ เพื่อพบ ผู้ใหญ่ท่านนี้ ท่านเป็น ผู้ใหญ่ใจดี ผู้ใหญ่ที่เก่ง ฉลาด รอบรู้ แทบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องวิทย์ เรื่องพุทธ เรื่องประวัติ ใกล้ชิดผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเรา ผู้ใหญ่ที่มีแต่ให้ 555........ อันนี้ ความลับ คะ บอกไม่ได้ว่าท่านคือใคร อะ ห้ามหลังไมค์ถาม คะ บอกไม่ได้จริงๆ อะ --------------------------------------------- ก่อนขึ้น เหนือ เพื่อพบท่าน จขกท. ต้องเข้ากรุงเทพ เพื่อค้างคืน เพราะเช้า้องขึ้นเหนือเลย ไปนอนค้างบ้านแฟน ( ขึ้นเหนือเพื่อรางาน การจัดตั้ง  บ. และ รับงานจากท่าน ) คืนนั้น ค้างบ้านแม่แฟน ไปทั้งครอบครัว นำลุกสาวไปด้วย คืนนั้น แฟนก็นอนดูหนังข้างนอก คุยกับพี่สาวแฟน เกือบทั้งคืน  จขกท. เข้านอนกับลูกสาว  ประมาณ ตีสามกว่าๆ ลูกสาวตื่น เพราะเสียงไก่ขันเลยต้องหาหมอนปิดหูให้ลูกสาว ยังไม่หลับ แต่อยากหลับมากเพราะเช้าต้องเดินทางไกล พยายามหลับตา แต่ เมื่อหลับตาลง เกิดภาพขึ้นขณะหลับตา โกดัง ข้างๆโกดัง มีประตูเปิดอยู่ มีคน 2 คนเดินออกจากประตู สวมเสื้อโปโลสีขาว ชลิบสีเขียวอ่อน หน้าอกซ้ายมีแถบสีแดง เดินลงมา คุยกันมือหอบเอกสาร บริเวณที่จอดรถ  ขวักไขว่ ไปด้วยการขนของขึ้นรถ รถขนของ หลายคันเรียงรายเต็มโรงรถ อะไรหว้า ที่เห็น???????? จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 20:42:38

ความคิดเห็นที่ 4 ครับ ต่อเลยครับ???? จากคุณ : M_moshi เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 23:22:52

ความคิดเห็นที่ 5 หายไปเอาลูกสาวไปนอนคะ ต่อเลยคะ....................... เช้าตื่นมาเล่าให้แฟนฟัง พี่สาวแฟน ทำหน้า เว้อ  หันมาบอกหน้าแฟน แฟนบอกยังไม่ได้เล่าให้ฟัง จริงๆนะ แล้วบอก เมื่อคืนคุยกับพี่สาว ว่า เปิด บ.  อยากได้เสื้อ บ. เป็นแบบที่เห็น คือเสื้อที่ใส่สบายๆ สีขาวๆสะอาดๆ มีสีเขียวปนนิดหน่อย ให้สบายตา เลยถามแฟน เขียวแบบนี้ใช่มั๊ย แฟนบอกใช่ สีแบบนี้แหละ เลยวาดภาพที่เห็นให้ดู  สรุป ฉัน เห็นไรหว้า เอาละสิ เราเพี้ยนเปล่า หว้า หรือฟัง เพื่อนคนนี้มากไป จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 23:44:11

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อขึ้นเหนือ ไปพบท่าน เพื่อนเล่าตลอดทางว่าท่านผู้ใหญ่ท่านนี้ เป็น ผู้ใหญ่ระดับบิ๊กๆ ใกล้ชิด??????????????? ในภาคเทวา ท่านสามารถรู้ รายละเอียดของแต่ละคนที่พบครั้งแรก เหมือนดูหนังเรื่องๆหนึ่งเลยทีเดียว ( เหอะๆ เหมือนฟังนิทานเลย อะ  ................ ในใจคิดแบบนี้ตลอดทาง แต่ ไม่พูดไรมาก ได้แต่ยิ้มตลอดทาง  ก็ไม่ใช่เรื่องของฉัน นิ ฉันไปเพราะแฟนฉันไป เท่านั้นเอง ) เมื่อขึ้นไปพบท่าน  มีการรายงาน การทำงานที่ผ่านมา ผลงานที่คิดจะทำ ตลอดเวลาที่คุย  จขกท. ไม่ได้ ฟังตลอด เนืองเพราะ ต้องเล่นเป็นเพื่อนลุกสาว วิ่งไล่จับ ตลอดเวลา จน รายงานผลงานเรียบร้อย ก็ถึงเวลาคุยเรื่องทั่วไป  เพื่อนก็ชวนเข้าห้องพระ ไปไหว้พระ เพื่อนบอก ห้องพระท่าน ปกติไม่ให้ใครเข้าง่ายๆ มีของที่ เป็นที่ถกกันว่า ในพิพิธภัณฑ์จริงหรือไม่ เมื่อเข้าห้องพระ  จขกท. เกิดอาการ อึดอัด หายใจไม่คล่อง( ฉัน คงเหนื่อยมั๊งวิ่งเล่นกะลูก เหนื่อยมั๊ง ) แต่ เหอะๆๆๆ................ แค่เหลือบมอง พระพุทธรูป บนหิ้ง( องค์เล้กๆ ไม่ใช่พระประธาน สักหน่อย ตาฝาดเปล่า หว้า ฉัน ..................!!!!!!! จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 23:51:55

ความคิดเห็นที่ 7 ภาพที่เห็น  พระพุทธรูปองค์เล็กๆ เหลือบตามองแฟน หงะ?? แต่ ปกติเป็นคนไม่ค่อยตกใจอะไร เรื่องแบบนี้คยเกิดตอนเด็กๆ สมัยเรียนประถม เห็นภาพประหลาด แทนที่จะตกใจ กลับ จ้องมอง เหลียวซ้าย แลขวา มองรอบๆห้อง ว่ามันมาจากไหน มาได้ยังไง ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เห็นพระพุทธรูป ลืมตามองแฟน ไม่ได้ร้องตกใจ แต่ เพ่งมอง แบบ เราตาฝาดเปล่าหว้า มองแล้วมองอีก จ้องมองนิ่งๆ ว่า เห็นจริงเปล่าหว้า ตรู แล้วก็เงียบๆ ไม่ได้เล่าอะไร ไหว้พระเสร็จ เพื่อนก็พาไป เทวาลัย บอก ในนั้นมีเทวรูป ไปไหว้กัน ก็ไป ระหว่างเดินไป เทวาลัย กระซิบถามแฟน เมื่อกี้ อึดอัดมั๊ยเห็นไรเปล่า แฟน บอก ไม่อึดอัด โล่งโปร่งสบายไม่เห็นมีอะไรเลย เลยเล่าให้ฟัง เมื่อกี้เห็นพระพุทธรูปเหลือบมองเธอด้วยหละ แถมอึดอัดหายใจไม่ออกด้วย ถึงเทวาลัย เข้าไป ไหว้ เทวรูป ภายในเทวาลัย มี เทวรูป พระศิวะ พระพิฆเนศ และอีกเยอะแยะ ในเทวาลัยเคยเป็นสถานที่ พักผ่อนของ ผู้ใหญ่ในบ้านเราท่านหนึ่ง เมื่อเอ่ย ทุกคนจะรู้จัก ถ้าเป็นคนไทย เพื่อนก็เล่าให้ฟังอีก ห้องนี้มีของสำคัญมาก ระดับที่เรียกว่า สำคัญมากมายมหาศาล ในห้องนี้ ไม่รู้สึกอะไรเลย ปลอดโปร่งโล่งๆ ไม่เห็นอะไรเลย แต่แฟน ดิ  อึดอัดหายใจไม่ออก จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 00:00:49

ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก็ ลากลับ ท่านกให้พร ให้สำเร็จการงาน ขึ้นรถตู้ลงเขา ก็เย็นแล้ว ประมาณ 4 โมงกว่าเกือบ 5 โมง ระหว่างทางแวะซื้อ ของฝากจากเขา ซื้อของเสร็จก็ขึ้นรถ ต่างคนต่างเพลีย เริ่มพักผ่อนกัน แฟน เริ่มคล้อยจะหลับ เพื่อนหลับไปแล้ว แต่เราดิ หลับไม่ได้ หงะ  หลับตาที่ไร เห็น ภาพ เทวรูป พระพุทธ ลอยเคว้งคว้าง ตอลดเวลา หงะ สะกิดถามแฟน  ตัวเอง ติดตาเปล่า ? แฟนถามอะไรติดตา? เทวรูป หงะ ลอยตลอดเวลาเลย หลับตาทีก็เห็นที เหนื่อยด้วย หายใจไม่ทัน อะ แฟน.............ไม่เห็นเป็นไรเลย  แล้วก็นอนต่อ จขกท.  ..............ทำไงดีหละ มันติดตา หงะ หลับทีก็เห็นที ไรไม่รู้เต็มไปหมด อะ  ภาพที่เห็น เหมือน ภาพฉายสไลด์ เลย เดียวมาทางซ้าย เดียวลอยไปมา เดียวผลุบขึ้นมาเฉยๆ เดียว ลอยลงมา เวียนไปเรื่อยๆ ภาพที่เห็นมีตั้งแต่ ครุฑ สฟิงค์ ปิรามิด พระอินทร์ พระพรหม อีกเยอะแยะ แม้กระทั่ง ภาพสัตว์แปลกๆ เต็มไปหมด ปลาเหมือนในภาพวาด สัตว์ในหิมพานต์ ก็มี หายใจไม่ทัน จนต้องสะกิดแฟน  .............. ตัวเอง เค้าไม่ไหวแล้ว จะเป็นลม อะ แฟน...........ไปสะกิดเรียกเพื่อนที่หลับอยู่ เพื่อนบอก  รู้แล้ว เพราะตาที่สามเค้าเปิดอยู่ปิดไม่ได้ จขกท.   ........... เวลานี้ไม่สนใจแล้ว อะ ตาที่สามไร ฉันไม่รู้  รู้แต่ ฉันเหนื่อย หายใจไม่ทัน จะเป็นลมแล้ว ตัวเย็นเฉียบ   [b]ตอนนี้หนักกว่าเก่าอีก ไม่ต้องหลับตาก็เห็นแล้ว อะ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 00:13:00

ความคิดเห็นที่ 9 ขอตัวไปนอนก่อนคะ พรุ่งนี้วันหยุด ไม่แน่ใจว่ามีเวลา มาเล่าต่อเปล่าคะ เนืองจาก ลุกสาว ตัวซนอยู่บ้านด้วย อะ บายคะฝันดี คะ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 00:15:20

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณ จขกท  ที่แบ่งปัน รออ่านต่อนะครับ ^ ^ จากคุณ : V_Accy เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 00:31:37

ความคิดเห็นที่ 11 ตื่นมาเล่าต่อเพราะนอนไม่หลับคะ คงเพราะเมื่อบ่ายนอนมากไปมั๊ง ----------------------------------------- ภาพที่เห็นมีอะไรบ้าง? * เส้นสีขาว พาดยาว เพื่อน ว่า ...........  เส้นกั้นมิติ ระหว่าง โลกมนุษย์ และเทวา อาหมอ ( อา ที่เพื่อนนับถือ ) เคยเห็นมาแล้ว * รูปร่างคล้ายพระพุทธรูป ปางสมาธิ มีสังวาย์คาดเฉียง 2 ข้าง กายสีเขียว มีทั้ง หญิง และ ชาย เพื่อน.............. องค์นี้ อาหมอเคยเห็นแล้ว ภาค ชาย แต่ แปลก ภาพหญิง ยังไม่เคยมีใครเห็น รู้ว่ามี แต่ยังไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน * กำแพง ยาวสุดสายตา ยอดเป็นรูปเสมา เพื่อน............. กำแพงเจ็ดชั้น ( ภายหลัง  จขกท. เข้าใจว่า น่าจะเป็น กำแพงเจ็ดชั้น ในบทสวด จำชื่อบทสวดไม่ได้ คะ ผู้ท่านท่านใดทราบ ช่วยเสริมด้วยคะ ) ที่ มีใจความคลับคล้าย ว่า กำแพงเจ็ดชั้น ราชสีมา ไรแบบเนี้ยะคะ ภาพที่ทำให้ หอบ หายใจไม่ทันจนเกือบเป็น ลม คือ  " ภาพ เหมือนกองทัพ ฝุ่นตลบไปหมด มี ไม่แน่ใจว่าเป็น ช้าง หรือ ม้า มีเครื่องทรงด้วย สีขาว( เห็นเพียงเสี้ยวเดียว ด้านหลัง มีเครื่องทรงเหมือนออกศึก) มีคนแต่งกายเหมือนพระราม ในโขนที่มีการแสดง ยืน บน ม้าสีขาว( ให้เป็นม้าแล้วกันคะเพราะไม่มั่นใจว่า ม้า หรือช้างกันแน่) ในมือถือศร หรือ ไรไม่มั่นใจ( อีกแหละ ลัษณะ คล้าย คันศร ในเรื่องรามเกียรติ์ หรือธนู นะคะ) ภาพนี้ เล่นเอาเกือบเป็นลม   เพื่อน บอก ภาพนี้ยังไม่เคยมีใครเห็น ไม่รู้เหมือนกันว่า คืออะไร ( แต่ตอนหลัง หลายเดือนผ่านมา แฟน บอก น่าจะเป็น นารายณ์อวตารภาคเกากลี ( สะกดถูกเปล่าไม่แน่ใจคะ จำมาจากแฟนอีกทีคะ) แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 02:11:10 จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 02:09:56

ความคิดเห็นที่ 12 ถึงภาพนี้ ไม่ต้องหลับตาแล้วคะ เพราะเห็นแม้กระทั่งลืมตา ภาพจะขึ้นซ้อนมาให้เห็นเลย คะ หายใจไม่ททัน เหมือนคนจะเป็นลม ตัวเย็น หนาวสั่นทั้งตัว เพื่อน บอก...........ให้นั่งสมาธิ อะไรที่นับถือที่สุดให้ นึกถึง ( ไม่อยากจะบอกเลยว่า ไม่มีอะไรที่นับถือที่สุด นอกจาก พ่อ แม่ คะ  ส่วน พระสงฆ์องค์เจ้า ไม่มีเลยสักนิด เพราะไม่เคยเข้าวัด ไม่เคยสวดมนต์ อะ ) เพื่อนทำไรไม่รู้ สาดมือ  แล้วบอกว่า ขอข้างบนให้แล้วให้เพลาๆ  น่าอิจฉา ท่านพ่อ( ท่านที่ไปพบ เพื่อคุยงาน) ท่านรับคุณเป็น บุตรบุญธรรม แล้ว เหอะๆ  ตอนนั้นนึกในใจ รับเมื่อไร หว้า ไม่ได้คุยสักคำ มัวไปวิ่งเล่นกะลูกสาวเนี้ยะนะ เมื่อถึง ศาล  เจ้าตาก( ศาลพระเจ้าตากสินมหาราช ) ตอนนั้นที่แทบไม่ไหวแล้ว คนในรถ ตื่นลงไปไหว้ แล้วขึ้นมา ถามไม่ลงไปไหว้เหรอ เป็นไรหน้าซีดเชียว นอนไม่หลับเหรอ แล้ว ก็ต่างคนต่างนอนต่อ แต่ตอนนั้น ไม่มีกะจิตกะใจไปตอบไรเค้าแล้วคะ ขอแค่หายใจทันพอ เหมือนหอบ สมาธิ ไม่ต้องพูด ทำไม่ได้แล้ว ทั้งที่ปกติ สมาธิเมื่อไรก็ได้ ตอนนี้ เห็นเตลิดไกลมาก คะ ----------------------------------------- ภาพที่เห็น   กำแพงสีต่างๆ เพื่อนบอก.........เป็นระดับชั้น ของสวรรค์ ยังไม่มีใครหลุดไปถึงชั้นนี้แม้แต่อาหมอเค้า จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 02:20:29

ความคิดเห็นที่ 13 ภึง ไม่แน่ใจว่า นครสวรรค์ หรือ แม่ฮ่องสอน คะ รู้แต่รถจอดปั้ม ให้เข้าห้องน้ำ แฟนถามเข้าห้องน้ำมั๊ย ..............ไป สิ ขอไปล้างหน้าหน่อยเผื่อจะดีขึ้น แฟนพยุงลงไปล้างหน้า ดีนะว่าตลอดทางลกสาวหลับตลอดไม่ลุกมากวนใจเลย แฟนพยุงลงรถ ภุงพื้น จะเดินไปล้างหน้ แค่นั้น ทรุดทั้งยืนเลยคะ หายใจไม่ออกแล้ว เพื่อนรีบเข้ามาดู เราก็พยายามพูดว่าเห็นอะไรอยู่ตอนนี้ เพราะคิดว่า น่าจะเป็นประโยชน์บ้าง ( ตอนนี้ไม่เชื่อ ไร้สาระ พักไว้ก่อน เชื่อก่อนก็ได้ ขอให้ รอดไปก่อน ใจคิดแบบนี้คะ) ------------------------------------------------ จขกท. ...................กำแพงสีรุ้ง องคยืนใหญ่มาก สีทอง ใหญ่จริง เพื่อนก็ไม่พูด ไม่รู้ทำไรอยู่ จขกท. ............... กำแพงแก้ว สีทอง องค์ใหญ่เหมือนเมื่อกี้ องค์นี้สีเขียว เพื่อนจุดธูปกำเบ่อเริ่ม จขกท.  ......................... ไม่มีกำแพงแล้ว องค์ใหญ่มาก เหมือนอยู่อวกาศ สีขาวทั้งองค์เลย เพื่อน ตวาด หยุดไม่ต้องพูดแล้ว แล้วเค้าก็ เอามือ จขกท. ไป จับธูปทั้งกำ สวดไรไม่รู้ แล้วบอก  จขกท. นึกถึงพระร่วงไว้นะ แล้วเพื่อนก็ พูด  ลูก ขอ ให้ สตรีท่านนี้ ได้โปรด เมตตา ค่อยๆบรรเทา ให้เธอด้วย ( น่าจะเป็นทำนองนี้คะ รายละเอียดตอนนั้นจำไม่ค่อยได้ คะ) น่าแปลกตรง พอเพื่อนปักธูปลงพื้นเท่านั้น หายใจโล่งขึ้นดีขึ้นทันที ค่อยๆหายใจทัน แฟนนวดมือ สักครู่ก็ลุกขึ้นเองได้ บอกไม่เป็นไรแล้วดีขึ้นแล้ว เดินพอไหว แฟนพยุงไปล้างหน้า แล้วก็ขึ้นรถ หลังจากนั้น ก็ ดีขึ้นคะ ได้นอนกับเค้าบ้าง ---------------------------------------------- ถึงกรุงเทพ  เพื่อน บอก  ญาณเปิด แบบทันที เค้าบอก มีหลายเคสที่เป็นแบบนี้เมื่อขึ้นไปพบท่าน แต่ยังไม่เคยมีใครเป็นหนักเท่านี้มาก่อน น่าอิจฉามาก เพราะยังไม่มีใครขึ้นถึงขั้นนั้นแม้แต่อาหมอ ตัวเค้าก็ยังไม่ถึง ------------------------------------------- หลังจากขึ้นรถ ภาพที่เห็น คือ พื้นเหมือนพื้นปูน  ใหญ่ กว้าง มีร่องเหมือนขีด แต่ละร่องมีอักขระ ทุกๆช่อง เพื่อน...............แปลไม่ได้ ภาพ............. เหมือน โบสถ์ หรือสถานที่ทางศสนา มีลักษณะคล้ายมือ หรืออะไรไม่รู้ เต็มกำแพง เพื่อน...............แปลไม่ได้ แต่ เมื่อไม่นาน ค้นภาพ เจอ ถึงทราบ ที่เห็น คือ บุโรพุโธ ----------------------------------------- ภายหลัง เพื่อน เฉลยให้ฟังว่า ที่เค้าซีเรียสมากตอนนั้นเพราะ  จขกท. เกือบหลุดเข้าสู่แดนนิพพาน  กาลามสูตร อย่าเพิ่งเชื่อว่าทุกอย่างที่กล่าวอ้างนั้นจริง บทสรุปที่เพื่อนอ้างถึง จนทุกวันนี้  จขกท. ยังหาไม่ได้ จึงยังไม่เชื่อมากนัก เนืองเพราะ ไม่เคยพบมาก่อน ยังไม่เคยเข้าสู่แดน นิพพาน ไม่เคยอ่าน มาก่อนเช่นกันคะ เพื่อนว่า 3 องค์สุดท้ายที่เห็น คือ พุทธองค์ องค์สุดท้ายที่เห็น คือ  องค์ปฐม อันนี้ ตามที่เค้าบอกนะคะ  จขกท. ก็ไม่เคยรู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน  ไม่ยืนยัน เพราะไม่รู้จัก ให้เห็นจริงก็คงไม่ทราบว่าใช่หรือเปล่า คะ ) จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 02:39:15

ความคิดเห็นที่ 14 กลับถึงบ้าน ได้พักสมใจ เพื่อนคอยโทรมาถาม บอกไม่เป็นไรแล้ว เค้าถาม ยังเห็นอะไรอีกมั๊ย จขกท. .................... ยังเห็นบ้างแต่ดีขึ้นไม่เหนื่อยเหมือนตอนนั้น เห็นทีละภาพ ค่อยๆมา เพื่อน ............. ก็ขอไว้ให้ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไง ภาพที่เห็น ไม่มีเทพแล้ว คะ มีแต่ พระโพธิสัตว์ องค์ที่ไม่รู้จัก คล้ายเทวรูปจีน ธิเปต เต็มไปหมด อะ แทบไม่รู้จักเลยสักองค์ อะ เพื่อนบอก  ก็ เทพ มาเกือบหมดสวรรค์แล้วมั๊ง จขกท. ........................ แล้วให้เห็นทำไม เห็นเพื่ออะไร เพื่อน .................... เพื่อแสดงให้เห็น ว่าทุกๆองค์มีจริง  ทุกองค์ ที่ จขกท. เห็น สามารถให้ท่านช่วยเหลือ หรือ ขอพรท่านได้ เพราะ ที่เห็น คล้ายๆกับว่า สามารถสื่อถึงแล้ว ????????????????????????? คำถาม ร้อยแปด ผลุดขึ้นมาทันที  เห็นทำไม หว้า เห็นแล้วได้ไร ขอพร  ขอทำไม ไม่เห็นต้องมาให้เห็นเลย นิ ไม่เห็นขอพรไม่ได้เหรอ  อ้าว แล้วที่เค้าไหว้กันเค้าเห็นกันแล้วเหรอ ถ้าไม่เห็น แล้วเค้าขอพร จะสำเร็จเปล่า เหอะๆๆ เหมือนคนไม่รู้อะไรเลย หงะ ก็บอกแล้วว่าไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน เพื่อน ว่า จากนี้ไป จะเห็นเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดสวรรค์แหละ ตายเลย เทพ เทวา โพธิสัตว์มีกี่องค์ หละ เพื่อนบอก เฉพาะ พระแม่กวนอิม ก็ ไม่มากไม่มาย 84 ปางเอง แต่ เมื่อไรเห็นปางพันกร ก็ระวังหน่อยนะ อาจจะหนักเหมือนตอนลงก็ได้เพราะ ท่านมีฤทธิ์มาก มหาศาล แค่นั้นแหละ  กลัวขึ้นมาทันที  ทุกครั้งที่เห็น ถ้ามีหลายมือ จะรีบทำไงดี ทำไงดี 555........ กลัวมากตอนนั้น แล้วก็เห็นทุกวันด้วย สิ อาบน้ำ สงสัยจิตว่างมั๊ง เพราะอาบน้ำจะเห็นทุกครั้ง   ยิ่งหลับตาล้างหน้า แค่นั้นแหละ ภาพขึ้นมาทันที จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 02:52:09

ความคิดเห็นที่ 15 จขกท เป็นแบบคนทรงเจ้าหรือเปล่าคะ ทำไมถึงได้เห็น ถูกทำของใส่หรือคะ อยากรู้ค่ะ จากคุณ : ต้นลูกตาล เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 03:12:43

ความคิดเห็นที่ 16 รออ่านต่ออยู่นะคะ จากคุณ : Valily เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 05:16:13

ความคิดเห็นที่ 17 มีรุ่นน้องคนหนึ่ง เธอเห็นผีด้วยตาเปล่าตั้งแต่เด็กๆเหมือนทีวีซีรี่ส์เรื่องโกสต์ วิสเปอร์ ส่วนมีอีกคน ตระกูลนี้มีความสามารถ แม่ก็มีประสบการณ์ แล้วลูกสาวคนเล็กก็เห็นพวกวิญญาณ ตอนแรกแม่คิดว่าคุยกับเพื่อนในจินตนาการที่สมมติขึ้นแบบเด็กๆ   แต่ว่าเมื่อลูกโต เพื่อนเล่นที่มองไม่เห็นก็ไม่ได้หายไป แล้วลูกมักจะมีความรู้แปลกที่เด็กในวัยไม่กี่ขวบจะรู้ได้ ก็ค่อยๆคุยกับลูก จนเชื่อว่าลูกเห็นวิญญาณ แม่เลยต้องปรับตัว เพื่อให้ลูกเติบโตมาเป็นปกติ   ส่วน spirit guide มีทุกคน และในแต่ละช่วงเวลาก็แตกต่างกันไป แต่ไม่ใช่หมายถึงว่า พอ spirit guide ไม่อยู่คนอื่นเสียบแทน  ยกตัวอย่าง เจ้าชายสิทธัตถะ  มี spirit guide มากมาย แต่ละท่านมาช่วยในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน แต่หลักๆคือท้าวจตุบาลทั้งสี่   ที่ไม่อยากจะเรียกเทวดาประจำองค์ เพราะคำว่าเทวาด สำหรับคนไทยนั้น ส่วนใหญ่หมายถึง คนตายไปแล้วเกิดในภพภูมิสวรรค์ เรียกว่าเทวดา   แต่คำว่า เทวดาทีีทำหน้าที่เหมือน คนแนะนำ ในเชิง spirit guide นั้น คำว่าเทวดา คือ ผู้เกิดในภพภูมิสวรรค์ ที่มีหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งอาจจะมีหน้าที่บนสวรรค์และมีหน้าที่ต่อมนุษย์ ไม่ใช่เทวดาทั่วๆไป  เพราะเทวดาทั่วๆก็คล้ายกับมนุษย์ สนใจแต่เรื่องตนเอง ความสุขของตนเอง จะมีมนุษย์บางพวกเท่านั้นที่บำเพ็ญตน คล้าย "จิตอาสา" คอยช่วยเหลือในบางวาระ บางโอกาส เมื่อมีเงื่อนไขพอเหมาะ พอดี   ในบางกรณีอาจจะเป็น "ญาติ" ที่ล่วงลับไปแล้ว แต่มาแค่ชั่วครั้ง หรืออาจจะแค่ครั้งเดียวในชีวิต เพราะชีวิตของเขา ยังไม่ได้เคยบำเพ็ญจิตอาสา แต่เข้ามายุ่งเพราะพันธะผูกพันในความเป็นญาติและสายเลือด  spirit guide ที่เรามักจะรู้สึกสนิทสนมคือ เวลาเราไหว้ครูในสาขาอาชีพ กับspirit guide ที่เราบูชาท่านเช่นเจ้าแม่กวนอิม และ spirit guide แบบที่เรามักจะเรียกว่า เทวดาประจำตัว   ในระดับหนึ่ง เราอาจจะมี spirit guide พร้อมๆกันหลายท่านได้ แต่จะมีเพียงท่านเดียวที่เราสนิทสนมทางใจมากกว่า   ในแต่ละวัฒนธรรม จะมีความเชื่อเรื่อง spirit being หรือdevine โดยทั่วไปแล้ว -  spirit being หรือdevine  ที่ดูแลเรื่องสังสารวัฏ คือดูแลเรื่องพลังงานของสังสารวัฏ เช่น ฝน ลม แผ่นดิน  พวกเหล่านี้บางทีเกิดมาพร้อมกับสายลม แบบที่เราเรียกว่าจุติ หรือเหมือนนางเมขลาที่เป็นปฏิกิริยาล่อแก้ว แต่สิ่งเหล่านี้อาศัยองค์ประกอบรวมกันคือ spirit being หรือdevine , ธรรมชาติและพฤติกรรมมนุษย์ เป็นส่วนผสมเพื่อให้ธรรมชาตืสมดุลย์ จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้   spirit being หรือdevine มีการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะคล้ายเหมือนเป็นตำแหน่ง แต่ว่าอายุขัยของเหล่า spirit being หรือdevine นั้นยืนยาว บางคนมีอายุขัยมานานพร้อมโลกแล้ว  แม้แต่เจ้าที่ดูแลบ้าน คนจีนเชื่อว่าเป็นตำแหน่งเช่นกัน ถ้าเรามีบ้านแต่เราไม่ได้ขอเทวดาที่มีตำแหน่งนี้มาช่วยพิทักษ์บ้าน เราจะได้วิญญาณทั่วไปแถวนั้นเป็น "ขาใหญ่" นั้นเป็นเหตุผลของทั้งไทยและจีนอัญเชิญ "เทวดา"   ของไทยอัญเชิญเทวดา โดยไม่ระบูว่ามีหน้าที่อะไร ส่วนชาวจีนจะระบุไว้ตอนเชิญค่ะ โบราณแล้ววันแรกที่เชิญจะต้องมีเทียบเชิญค่ะ   เหล่า spirit being หรือdevine ที่ดูแลสังสารวัฏนั้น มีรัก โลภ โกรธ หลง แต่ก็ทราบว่ามันไม่ดี ทางทิเบตเชื่อว่า ถ้าจะขออะไรบ้างอย่างเช่น ขอฝนไม่ตก จะต้องมีของแลกเปลี่ยน เป็นกฏทั่วไป มีเรื่องเล่าจากทิเบต ว่าแม่คนหนึ่ง ยากจน อยากจะได้เงิน จึงขอจาก spirit being หรือdevine สังสารวัฏ และแล้วก็ได้เงินจำนวนมาก แต่ได้จากค่าตอบแทนที่ลูกชายเสียชีวิตจากการรบ คล้ายๆกฏ แรงเท่ากับแรงปฏิกิริยา แรงและสสารไม่สูญหายไปไหน - spirit being หรือdevine ที่ดูแลเรื่อง การบรรลุธรรม เช่นท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ที่เป็นถึงพระโสดาบันเป็นต้น เหล่า spirit being หรือdevine จะมีหน้าที่ดูแลสังสารวัฏในมุมมองของการภาวนา ชาวทิเบตบอกว่า ถ้าเราภาวนาเราจะมี ธรรมบาล ปกป้อง จะมีเหล่า spirit being หรือdevine ทำหน้าที่เป็นเสมือนที่ปรึกษา เหมือนเราไปเรียนหนังสือ เราจะมีเพื่อนร่วมทาง ในระดับเพื่อนเชิงจิตวิญญาณและครูที่ปรึกษาหลายท่าน  - ส่วนใหญ่แล้ว คนที่เขาเชื่อเรื่อง spirit being หรือdevine จะบอกว่า ทันทีที่เดินบนเส้นทางจิตวิญญาณหมายถึงการหันมาสนใจพัฒนาจิตใจเพื่อพ้นทุกข์ จะมีเหล่า spirit being หรือdevine พร้อมเป็นพันธมิตร คอยช่วยเหลือ ประคับประคอง เตือน เช่นเดียวกับ สมัยที่พระโพธิสัตว์ ในบางภพ ลืมว่าจะต้องอธิษฐานจิตตั้งโพธิญาณ จะมีเทวดาระดับมหาพรหม มาเตือนใจให้ระลึกได้ แล้วระหว่างทางเดินก็คือ เราจะต้องเดินด้วยพลังของเราเองอย่างเต็มกำลังสุดความสามารถ จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 05:30:32

ความคิดเห็นที่ 18 หยั่งงี้ก็แสดงว่าจขกทมีองค์ใช่มั๊ยครับ งั้นช่วยให้พรผมหน่อยได้มั๊ยครับ ผมมี5สิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จก่อนตาย ทำแล้วเสร็จไป1 อันที่2กำลังจวนๆจะสำเร็จ งั้นให้พรผมที ว่าขอให้สำเร็จทุกประการทั้ง5ข้อครับ ขอบคุณ จากคุณ : niwatpuniw เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 05:41:55

ความคิดเห็นที่ 19 ลักษณะการเห็น ของ จขกท.เหมือน ญาติผมคนหนึ่งเขาไปฝึก มโนมยิทธิที่วัดท่าซุงมาแล้ว สำเร็จมาด้วย พอถามว่าคนตายแล้ว ไปไหนแกตอบได้หมดไปอยู่สวรรค์ชั้นนั้นชั้นนี้ เจอพระองค์นั้น องค์นี้ หลวงปู่ที่มรณะภาพไปแล้วก็ไปอยู่สวรรค์ชั้นเดียวกัน ผมว่า จขกท. ลองไปฝึกดูก็ได้น่ะครับอาจจะสำเร็จและควบคุม การเห็นภาพนิมิตรได้  ผมลองไปฝึกมาแล้วเกือบจะได้แต่ไม่ได้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ฝึกแล้วเป็นตามเขากำหนดไม่เห็นภาพอะไร เลยเงียบสนิท รู้สึกว่าที่เห็นบางอย่างก็แปลก ๆ น่ะ อาจจะจริงก็ได้แต่ว่าไม่รู้ว่าเป้นอะไร จากคุณ : KOB ON KALA เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 06:55:39

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ทราบว่าตอนนี้การเปิดหูเปิดตาเสร็จสิ้นสมบูรณ์หรือยัง ใครที่ได้รับความสามารถพิเศษแบบนี้ถ้าท่านชอบคำพูดแบบในภาพยนต์ ของไอ้แมงมุมแบบพลังพิเศษย่อมมากับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่อะไรทำนองนี้ นะครับขอจำไว้นะครับในโลกวิญญาณเมื่อเราเห็นเขาก็เท่ากับพวกเขาก็เห็นเราด้วยแน่นอนการได้รับการปกป้องจากองค์เทพเป็นสิ่งที่จำเป็นเเละชีวิตหลังจากการรับรู้โลกทิพย์ได้นั้นคือภาระกิจครับ แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 08:14:41 จากคุณ : คนกรุงธน เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:13:56

ความคิดเห็นที่ 21 อรุณสวัสดิ์คะ แวะมาทักทายก่อนคะ ส่วนเรื่องตอบ ว่างแล้วมาตอบ คะ เล่าต่อ  แล้วค่อยมาเล่าต่อ คะ เดียวต้องพาลูกสาวไปเล่นกับหมาก่อนคะ ---------------------------------- ตอบคุณต้นลูกตาลก่อนคะ ( อิอิ เรื่องสำคัญ หงะ ) จขกท. ไม่ใช่คนทรงคะ แอนตี้เอามากๆ ด้วยสิ แม้ทุกวันนี้ยังว่า เพ้อเจ้อ  ไร้สาระ คะ เพราะอะไร ตามอ่าต่อแล้วกันคะ ท้ายๆ มีข้อสรุปทั้งหมดที่ผ่านมาคะ ทุกสิ่ง เชื่อเมื่อพบเอง  เห็นเอง  ประสบเอง อย่าเชื่ออะไรจนกว่าจะพบเอง  เห็นเอง  เจอเอง ทุกอย่างที่อ่านมา  ทุกอย่งที่ฟังมา  อาจโกหก ก้ได้  จขกท. อาจโม้ก็ได้  จขกท.อาจเล่าเพื่อหวังอะไรสักอย่างก็ได้ จขกท. อาจดนผีอำ วิญญาณ หลอน ก็ได้ คะ ทุกอย่าง ต้องพิสูจนได้ อย่าเชื่อเพราเค้าเล่าว่า  อย่าเชื่อเพราะเค้าบอกว่าเจอเอง อย่าเชื่อเพราะเ้ค้า คือผู้มีอภิญญา  อย่าเชื่อเพราะเค้ามีชื่อเสียง เค้าได้ชื่อว่า อริยสงฆ์ องค์เจ้า ทุกอย่าง ให้เชื่อเมื่อปฎิบัติแล้ว เชื่อเพราะประสบเอง  เชื่อเพราะเห็นเอง เชื่อเพราะได้ยินเอง  เชื่อเพราะเจอเอง คะ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:30:32

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณ  คุณ พยัคฆ์น้อย คะที่เข้ามาอธิบาย ขยายความให้ จขกท. ได้พอเข้าใจอะไรเพิ่มขึ้น คะ คุณ ต้นลูกตาล ......... จขกท. ไม่ใช่คนทรง คะ ไม่ชอบเอามากๆด้วยคะ สาเหตุที่ไม่ชอบเพราะ เห็นมา เจอมามีแต่คนหลอกลวง คะ ยกตัวอย่าง เพื่อนเก่าแฟน คนที่แนะนำเพื่อนคนนี้ เพื่อนเก่าแฟน มีอาจารย์แม่ ที่สนิทมาก ให้คำแนะนำตลอด ถึงขนาด จะยกอาจารย์แม่ให้เป็นที่ปรึกษาด้านจิตวิญญาณ แต่ อ.แม่ นะ ถ้าเอ่ยชื่อมา เอาไปค้นหาข้อมูลทางเนต หละก้ เหอะๆ เพี๊ยบ คดีเพี๊ยบ คะ ตัดกรรม 6500 ใครเขาไปหา คนนี้มีเด็กตามมา ถ้าเป็น หญิง คุณเคยทำแท้งมา ถ้าตอบเปล่า ก็จะบอก ชาติก่อนเคยทำแท้งมา ถ้าเป็น ชาย ก็ คุณเคยเป็นทหารเจ้าตาก มา กี่คนๆ เหมือนกันหมด ตัดกรรม 6500 ไม่ต้องไหว้พระ เพราะคุณคือ ศิษย์พุทธองค์โดยตรง ??? ผิดเพี้ยนมากมาย ขนาด  จบกท. กำลังจะเป็นลม ขณะอยู่ที่ปั้ม เธอเดินมา บอก  รับเลยลูก อย่าฝืน ลูกฝืนแล้วจะทรมานกับตัวเองนะลูก จขกท.  ............. รับองค์ไหนหละ มาทั้งสวรรค์แบบเนี้ย  คนจะตายอยู่แล้ว ยังจะมาให้รับไรอีกหละ -------------------------------------------------------- คุณ niwatpuniw   ถ้า  จขกท. สามารถให้พรคุณได้ หรือสามารถ อวยพรใครได้ ก้อยากทำ คะ ให้ทุกๆคนสำเร็จสมความตั้งใจทุกๆคน แต่ จนบัดนี้  จขกท. ก็ยังไม่เชื่อว่า ตัวเองสามารถทำได้ คะ หาก ต้องการความสมเร็จ  จขกท. ให้คำแนะนำได้คะ อยู่ในวิริยะ อุตส่าหะ ตั้งในความเพียร มานะ บากบั่น ทุกสิ่งสามารถสมเร็จ สมตั้งใจ ทุกๆท่าน คะ ------------------------------------------------------------------ คุณ KOB ON KALA   มโนมยิทธิ เคยได้ยินชื่อ แฟนเคยเล่าให้ฟังหลายๆเรื่องเหมือนกันคะ แต่ ยังไม่เคยไปสถานปฎิบัติธรรมใดๆเลย คะ อาจเนืองเพราะ ยังไม่มีที่ที่  จขกท. อยากไป หรือเกิดความศรัทธา จนอยากไป คะ อย่างที่บอก คะ ขาดศรัทธา อยู่คะ  อยาก ค้นหา คูรู / ผู้อบรม อยู่เป็นเนือง คะ ขอบคุณที่แนะนำ คะ เก็บไว้พิจารณา คะ ----------------------------------------------------------------- คุณ คนกรุงธน   ............... คำนี้ แฟนพูดประจำ คะ อิอิ ได้ยิน บ่อยมาก ก่อนเดิมที คำถาม มีเสมอมา เห็นทำไม เพื่ออะไร เพราะอะไรถึงเห็น  เห็นจริงเหรอ ตอนนี้ได้คำตอบที่ เฝ้าถามแล้วคะ เพราะมีหน้าที่ ที่ต้องทำ เพราะ สัตย์ที่ให้ไว้ หมั้นไว้ แต่ก่อนเก่า นับแสน โกฎิ ปี คะ   ถาม...........ทำไม ถึงคิดเช่นนั้น ท้ายๆเรื่องมีคำตอบ คะ ว่าเพราะอะไร  จขกท. จึงมีความเชื่อแบบนั้น ว่า เพราะหน้าที่ เพราะ สัตย์มีหมั้นหมายไว้แต่ก่อนเก่า เกิดเพราะหน้าที่  ดำรงเพราะ หน้าที่  และจักต้องตายเพราะหน้าที่ คะ ---------------------------------------------------------- เดิมที ลังเล และไม่คิดจะเล่า เพราะ การเล่า อาจนำไปซึ่ง ความงมงาย ความลุ่มหลง ความเพ้อเจ้อ สำหรับผู้ที่ คิดริเริ่มอยากปฎิบัติ แต่หาก ผู้ที่คิดปฎิบัติชอบ ปฎิบัติดีแล้ว มีสิ่งที่อยากให้ดำรงไว้เสมอ คะ มีสติทุกขณะจิต ดำรงสติมั่นทุกปราณ เข้าออก อย่า ปฎิบัต เพียงเพราะ อยากมีอภิญญา อยากได้  อยากมี แฟนเคยประสบคำถามนี้มาแล้ว  ทำไม ไม่เห็นมีเหมือนคนอื่นเค้า นะ จขกท.  ตอบ  มีแล้วทำไม ไม่มีแล้วทำไม  มีแล้วเหาะเหินเดินอากศได้รึ มีแล้วหายตัวได้รึ มีเพื่ออะไร มีเพื่ออยากอวด อยากโชว์ มีทำไม ไม่มีแล้วเสียอะไร มี ไม่มีต่างกันตรงไหน เราก็ยังต้องกินข้าว กินน้ำ ยังต้อง นอนหลับ ยังต้องทำงาน ยังต้อง เจ็บป่วย  ยังต้องแก่ ต้องตาย เมื่อตายทุกอย่างก็คืนสู่ธุลี ต่างกันตรงไหน กับที่มี ---------------------------- จขกท. เห็น เจอ  แล้วทำไม ที่สุด ก็หิวเหมือนกัน อิอิ หมดเวลาคะ ต้องไปทำกับข้าว ให้ ลูก ให้แฟนกิน  เห็น ป่ะ ก็คนธรรมดาคนหนึ่ง ที่บังเอิญ ไปประสบเรื่องนี้เข้า ก็แค่นั้นเอง คะ ---------------------------- ทุกวันนี้ เรื่องการเห็น  จขกท. ยังเห็นอยู่ แต่การเห็นต่างไปจาก เมื่อแรก คะ เห็นได้ทุกขณะที่ต้องการเห็น เห็นเมื่อไร ก็ได้ แต่เห็นแล้วทำไม เราไปบังคับให้เป็นอย่างที่เราอยากเป็นได้รึ? อนาคต อดีต บังคับการเห็นได้ แต่ เห็นอนาคตแล้วทำไม เห็นแล้วไม่สามารถระบุเวลาที่แน่นอน เห็นไปก้เปล่าประโยชน์ เห็นกรรมคนอื่นแล้วทุกใจเปล่าๆ คะ ที่มา ของการ ต้องดำรงสติทุกขณะจิต ดำรงสติมั่นทุกปราณเข้าออก ไงคะ เพื่อไม่ให้ ความคิด เตลิด จน บ้า ไง คะ ไปทำกับข้าวก่อนจ๊า ว่างแวบมาเล่าต่อ คะ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 12:19:40

ความคิดเห็นที่ 23 สงสัยหลายท่าน อยากจะคุยกับ spirit guide ^^ จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 13:57:22

ความคิดเห็นที่ 24 เย้  ลูกสาว แม่มารับไปหน้าร้านแหละ ว่างๆ ตัวซนไม่อยู่ต่อได้ ค่ะ  555.......... ---------------------------------------- หลังจากลงจาก พบท่านแล้ว เป็นช่วงหลังปีใหม่ คะ  ( ต้นปี 54 นี้เอง) หลังจากกลับ ภาพต่างๆ เห็นทุกวัน เห็น จน งง ว่าเห็นอะไร เพราะ ไม่รู้จักสักอย่าง เลยใช้วิธี จดบ้าง วาดบ้าง เช่น อาบน้ำเสร็จ  ......... ตัวเอง ก้อนหิน เหมือนภาพแกะสลัก หน้าคนเต็มไปหมดเลย เรียงเป็นแถวเลย มีแต่หน้าคน อะ แฟน..............เปิดภาพให้ดู ถามใช่เปล่า  เออ ใช่ มีด้วยเหรอ  สรุปคือภาพ หินหน้าคนที่เกาะอีสเตอร์ หรือไงเนี้ย ถ้าจำไม่ผิด นะ ----------------------------------------------------- ตัวเอง......ภาพ คล้ายๆโบสถ์ บอกลักษณะ แฟนก็หาไป สิ แล้วก็เปิดภาพ ใช่เปล่า คำตอบ เดิมๆ  ใช่ๆ มีด้วยเหรอ 555..............คำยอดฮิตเลยคะ ช่วงนั้น  ใช่ๆๆ มีด้วยเหรอ คำถาม ที่ตามมา แล้วให้เห็นทำไม อะ งง ไม่เข้าใจ เห็นทำไม คนที่จะตอบได้ ณ เวลานั้น ก็ เพื่อนคนนี้แหละ คนต้นเรื่อง เพื่อนก็จะตอบ อาจเพราะสัญญาเก่า สถานที่เก่า ที่เราคุ้นเคย ??? แล้วภาพอีกมากมายที่หาไม่เจอ หละ ตีความหมายไม่ได้ หละ เพื่อนก็ ........... ต้องหาต่อไป จนกว่าจะเจอ แล้วจะเจอเมื่อไร หละ ------------------------------------------------------ ตอนนั้นอาการไม่ค่อยมีแล้วคะ มีบ้างนิดหน่อยไม่มากนัก เช่น ไปเดินเล่นที่องค์พระ  ช่วงนั้นใกล้ตรุษจีน มี แห่สิงโต จาก ศาลเจ้าแห่งหนึ่ง มาเพื่อ ทำการเคารพ พระร่วง และขอพร เชิดสิงโต ตั้งแต่หน้าบันไดพระร่วง จนขึ้นบันได จนถึงหน้าพระร่วง ทำความเคารพ พระบรมสารีริกธาตุหน้าพระร่วง จขกท. ยืนดู หน้าประตู ไม่ได้เข้าไปชมใกล้ๆ ไม่ได้ขึ้นบันได้ แต่ ภาพที่เห็น   ตัวเอง  เห็น ผอบที่ใส่พระบรม เปล่า เปล่งแสงได้ด้วย มีแสงสีทอง พระบรมฯ ชัดมากเลย มั๊ยเห็น หละ นั้นสิ ยืนข้างล่าง มองขึ้นไป ทำไมเห็นชัด ชัดกว่ายืนใกล้ วะอีก แล้วแสงสีทองมาจากไหน อะ ยืนชมการเชิดสิงโต  รู้สึก อยากร้องไห้ คอตีบ เหมือน จุกที่คอ แฟนบอก นั้นอาการ ปิติ  แล้ว ตร มาปิติ อะไร หว้า ( ในใจนึกแบบนี้คะ ) ------------------------------------------------ เค้าแห่เจ้า จาก โรงเจ ก็ไปเหน ภาพ เหมือนคนตัวเล็กๆแต่งชุดเหมือนงิ้ว อยู่บนเสลี่ยง เห็นไรอีกเนี้ยะ ตอนนั้น สับสน และ รำคาญมาก คะ ถามเพื่อน เพราะอะไร เพื่อน.............. ตาที่สามเปิด จขกท. .............. ปิดได้มั๊ยไม่อยากใช้ อะ ไม่เอาเลยได้เปล่า เพื่อน ............. หัวเราะ แล้วบอกมีแต่คนอยากได้ ปิดได้มั๊ย ลองขอข้างบนดู ดิ จขกท. ................ ขอยังไง หละ เพื่อน ................. ตั้งจิต แล้วขอ เอา แต่จนแล้วจนรอด ก้ไม่ได้ขอเพราะทำไม่เป็น อะ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 14:39:03

ความคิดเห็นที่ 25 อาการหนักที่สุด หลังจากกลับมาแล้ว วันนั้น น่าจะเลยตรุษจีนมาแล้ว มั๊ง อาบน้ำเสร็จ( อีกแหละ ทำไม ชอบเห็นตอนอาบน้ำ ไม่รู้ สิ ) ภาพ พระแม่กวนอิม( ตอนนั้นเข้าใว่าเป็นพระแม่กวนอิม  แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าที่เห็น คือ องค์ อวโลกิเตศวร คะ) มือเต็มเลย เอาแล้วไง มาแล้ว ปางพันกร ( โดนขู่ไว้ด้วยดิ ) กลัวเลยวันนั้น กลัวมากด้วย เดินเข้ามา บอกแฟน  ตัวเอง มือเต็มเลย แฟน ขำ แล้วก็บอก หายใจลึกๆ สิ ( จริงแล้ว หลังจากกลับ เห็นมาตลอด เมื่อมีอาการ  จขกท. จะหางานทำให้ยุ่งทั้งวัน จะไม่รู้สึกอะไรเลย  เพื่อนบอก นันเรียกสมาธิ คือ ดึงจิตไปที่อื่น คราวนี้ทุกครั้งที่เห็น จะเล่นเกมส์ ทำงาน เรียกว่าทำให้ยุ่งเข้าไว้ คะ อิอิ ) ------------------- แต่คราวนี้ไม่อยู่ อะ ทำงานก็แล้ว  เล่นเกมส์ก็แล้ว แฟน โทรไปหาเพื่อน  เพื่อนรับสาย บอกโทรหา ท่านมั๊ย? บอกเบอร์ให้ แล้วบอก ให้เค้ารายงานท่านก่อนนะ ว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่ ไม่เอา อะ ไม่เคยคุยเลยสักคำ จู่ๆ จะให้โทรไปบอกว่ามีอาการแบบนี้ๆ ท่านว่าบ้า หละ ใครจะไปรู้ ท่านเชื่อเรื่องนี้เปล่า ให้เพื่อนบอกว่า สิ่งที่ได้มานี้ มาจากท่านก็เหอะ ไม่ได้คุยไรเลยสักคำ เป็นไปได้รึ ไม่เชื่อคนหละ ............................................ จขกท. เลือก วิธี  นอน  ไม่เอาหละนอนดีกว่า หนักทั้งบ่า หนักทั้งหัว น้ำหูน้ำตาไหลเลยอะ มึกมาก ปวดกระบอกตา แบบปวดข้างใน ปวดกลางเบ้าตา ข้างใน อะ ปวด จนกดกระบอกตา กดหนักๆเลยก้ไม่หาย นอนๆๆ คิดแบบนี้คะ เลยลงไปนอน โชคดีที่หลับได้ คะ ตื่นมา เฮ้อ    ดีขึ้น ปวดบ่าแบบเมื่อย ตื่นมาเย็นแล้ว เลยไปหน้าร้าน ให้พี่สาวนวดให้  พี่สาวก็นวดให้ ถามไปทำไรมา บ่าแข็งเชียว เลยบอก ไม่รู้สิ ปวดบ่า อะ พี่สาว ก็นวดไปเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ จนมาถึง วันนี้ เพื่อน(เพื่อนพี่สาว) มาบ้าน บอกไปไหว้ พระแม่กวนอิม มา วันนี้วันเกิดท่าน แป้ว  มิน่าหละ ตรู วันนี้ทั้งวันฉันเห็นแต่พระแม่ทั้งวัน จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 14:55:45

ความคิดเห็นที่ 26 การเห็น  จขกท. เห็นทุกวัน เห็นจน จะเห็นไปทำไม นะ เมื่อไรเิลิกเห็นซะที วเวียนอยู่นั้น คำถาม แบบนี้ เห็นทำไม เห็นได้ยังไง ให้เห็นเพื่ออะไร --------------------------------- ช่วงนั้น  บ. ที่เปิด มีปัญา เรื่อง เพื่อนเก่าแฟน ปลอมแปลงเอกสาร เลยปรึกษากันว่าจะถอดตัวออกดีกว่า เลยพากันถอดตัวออก จาก  บ. เลิกเกี่ยวข้องด้วย แล้ว เพื่อนก็มาปรึกษา ว่าเปิด บ. ใหม่ดีกว่า แฟน ก็ เอาไงก้ได้ เปิดก็ได้ไม่เปิดก็ได้ ไม่ได้ซีเรียสไร ดิ ไม่เปิด งานส่วนตัวก็มีอยู่แล้ว ไม่ได้เดือดร้อนไร นิ สรุป เปิด  บ. ใหม่ ผู้บริหาร 3 คน มี เพื่อนคนนี้ แฟน แล้ว ก็ จขกท. ( อ้าวไง ไปๆมาๆ  เราไปเกี่ยวข้องด้วยหว้า ในใจคิด แต่ก็เฉยๆ ไม่ซีเรียส เพราะ ถ้าเปิด มันต้องใส ดิ แบบนั้นไม่เอา) คราวนี้ต้องขึ้นไปรายงาน ท่านอีก เพื่อให้ รับรู้ความคืบหน้าของงานและขออนุญาตนำชื่อท่านออกจาก  บ. เก่าด้วย เหอะๆ  กลัวมากเลยตอนนั้น บอกว่าจะต้องขึ้นไปอีก นะ แถมคราวนี้มีค้างคืนด้วย ถึงตายเปล่าหว้า คราวนี้ นอนไหนไม่นอน  นอนหน้าเทวาลัยด้วย     ค้าง 1 คืนด้วย คราวก่อนแค่แวะไปหาท่านแล้วกลับเลยไม่ได้ค้างบ้านท่าน คราวนี้ บอกตรงๆ คะว่ากลัวมากจริงๆ แฟน ขำ บอกไปกลัวไร  ก็ไม่ได้เป็นไง นิ เลยไม่กลัว คราวก่อน หายใจไม่ทัน เกือบตายนา จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 15:09:33

ความคิดเห็นที่ 27 ขึ้นไปครั้งนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยสักนิดเดียว เฮ้อโล่งอก คะ กลับลงมา ก็วุ่นกับเรื่องเปิด  บ. ขั้นตอนการเปิด บ. ยุ่งยากชมัดเลยวุ้ย หา หุ้นส่วนเปิด หาทุนเปิด  หา ทนาย  หา นักบัญชี วุ่นไปหมด จะเปิดวันไหน ไม่ได้ดูฤกษ์หรอกคะ เรียกว่า ได้วันไหนก็วันนั้นแหละ แต่ จะเปิดยังไง หละ เพื่อนที่ออกจาก  บ. เก่า แทบไม่มีเงินเลยสักคน จะเปิดยังไง ทำยังไง ทนายหละ แต่ จู่ๆ  ก้ได้รับข่าวจากเพื่อนว่า  เพื่อนท่าน คนหนึ่งเป็น อดีต ทหาร ยศ พลเอก อยากมาเที่ยวบ้าน เพราะชอบกล้วยไม้  ( จขกท. สะสม และเป็นนักเล่นกล้วยไม้ คะ  ห้องเรือนกล้วยไม้ รู้จักเกือบทุกคน อะ ) แล้วก็นัดวันมาบ้าน ท่าน พลเอก  มาบ้านพร้อม ทนายส่วนตัว 2 คน บอก 2 คนนี้อยากมาดูกล้วยไม้ด้วยเลยพามา นั่งคุยกัน เพื่อนก็ชวนท่าน ร่วมหุ้นด้วย ท่านควักเงิน บอก ร่วมหุ้นด้วยเลย มีเอกสารยัง  บอกยัง คะ ท่านเลยให้ ทนายท่าน ร่างเอกสาร แล้วลงมือทำ สรุปแบบ งง จดทะเบียน บ. เอกสารเรียบร้อย ครบแหละ  พรุ่งนี้ไป จดได้เลย ???????? ไรจะง่ายขนาดนั้น อะ  ทนายที่ท่านพามาด้วย เป็น ทนายของ กระทรวงพานิชย์ ทำงานประจำอยู่ที่นั้น ???? บทจะง่าย มั๊ย ง่ายขนาดนั้น หว้า ---------------------------------------  ตอนนี้เข้าใจแล้วคะ ว่า ทุกอย่างไม่มีบังเอิญ ทุกอย่าง ถูกลิขิตไว้หมดแล้ว เพียงแต่เราเลือกเดิน ถ้าเราเลือกทางที่ถูก  ผลงานก็จะง่ายขึ้นและเร็วขึ้น หาก เรา หรือมนุษย์เลือกผิก  เบื้องบนก็จะดลให้เลือกใหม่ จนกว่า มนุษย์จะเข้าสู่ เส้นทางที่ลิขิตไว้ สำหรับ งานที่เป็นเรื่องสำคัญ คะ ส่วน ถ้าทั่วไป น่าจะขึ้นอยู่กับ วาสนา และบุพเพ คะ ) แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 19:35:37 จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 15:20:15

ความคิดเห็นที่ 28 ตลอด 10 เดือนที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ จขกท. พิสูจน์แล้ว  เห็นแล้ว ในหลายๆเรื่อง หลายครั้งที่เห็น พิสูจน์แล้วว่า ที่เห็นนั้นมีจริง แม้  จขกท. จะไม่รู้จัก  ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีอยู่จริง -------------------------------------- ครั้งหนึ่ง  เพื่อนของเพื่อนคนนี้ มาหา เพราะมีงานต้องติดต่อ เค้าเป็น ล๊อบบี้ยีส คนหนึ่งคะ เค้าบอกใครจะทำงานเค้าขอพาไปเช็คกับ อาจารย์เค้าหน่อย เอ้า อยากไปก้ไป ไม่ว่าไร เลยไป พา อ. เค้า เค้าเรียก  แม่........  ไปไหว้ แม่.......... เค้าบอกมีค่าครู  ค่าครู คนละ 9 สลึง เอ้าไม่ได้มากมาย แสดงว่ไม่หลอก ไม่เป็นไร ไหว้ครู ก็ไหว้ ------------------------------------ ก่อนเข้าบ้าน  แม่.......... นั่งแท๊กซี่ไป แค่เลี้ยวเข้าซอยบ้าน เหอะๆ เอาเรื่องแล้วมั๊ย หละ อ๊วกเลยคะ มวนท้อง ท้องไส้ ปั่นป่วน อาเจียนเลย แม.......... ล๊อบบี้ยีส คนนี้บอก แม่......เป็นร่างแม่ปาราวตี ( ตอนหลังพอรู้เรื่องว่าเป็น เมียพระศิวะ  ปางใจดี ไม่ดุ ) ไปถึงก็พบกับ ผู้หญิงเรียบร้อย หน้าตาไปทางแขก แต่คนไทย คะ  นามสกุล  ถ้าเอ่ย ขึ้นมา น่าจะรู้จักทุกคน นะ เพราะ นามสกุล ทหาร ระดับผู้ใหญ่ คะ เคยเป็น  ผบทบ. ด้วย คะ นามสกุลนี้ ------------------------------------------- ไปถึงก็ไม่มีไร ถึงหน้าบ้านอาการ หายสนิท เออ แปลกดีแหะ ( ในใจคิดแค่นั้นเอง ) ไปถึง แม่...ก็ให้ไหว้ครู ยกพานไหว้พระ สวดมนต์ ธรรมดา ไม่ไรพิเศษเลย นโม  กับ  อะระหัง เท่านั้นเอง คะ แล้ว  แม่......ก้ ถาม อยากรู้อะไร  เพื่อนก็ถามเรื่องงาน แม่ก็ตอบให้ การตอบเหมือน ฟังอะไรไม่รู้แล้วตอบ คือ หลับตา แล้วตอบค่อยๆ ช้าๆ พอมาถึง  จขกท.  ไม่รู้ จะถามอะไร อะ ไม่มีอะไรน่าสงสัย น่าถามเลย(เพราะคิดว่า ขืนถามเรื่องการเห็น ดีไม่ดี โดนว่าบ้าแน่เลย 555.........) แต่  แม่ กลับ พูด มาว่า องค์โพธิสัตว์ แบ่งภาค อวตาร มานับแสน ต้องผ่านการคัดกรอง คัดเลือก  คุณ (  จขกท.) คือ ผู้ที่ คัดเลือกแล้ว?????????????? ฉันเนี้ยนะ เหอะๆ เชื่อก็บ้าสิ ตอนนั้นคิดยังงี้จริงๆ นะ เพราะในความคิด  จขกท. แล้ว องค์โพธิสัตว์ อยู่สูงจนไม่เคยคิดหรอกว่าจะมีใครแอบอ้าง เอามาล้อเล่นแบบนี้ (แต่จริงๆแล้ว เพื่อน ทักมาแล้วหนหนึ่งว่า พระโพธิสัตว์ จุติแล้ว ให้ระวัง เมื่อพระโพธิสัตว์ จุติ ย่อมต้องมีมาร ฤทธิืเท่าเทียวมกัน ตามมาด้วย เป็นของคู่กันเสมอ ) ความคิด  จขกท. ถึงวันนี้ก้ยังไม่เชื่อ คะ ไม่มีวันเชื่อด้วยว่าจะเป็นจริงไปได้ เหมือนการลบหลู่ องค์โพธิสัตว์มาก แต่ งง ตรง เาละสิ ทักเหมือนกันอีกแล้ว คนที่ 2 แล้วนะที่ทักแบบนี้ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 15:36:27

ความคิดเห็นที่ 29 ความจริงแล้ว การเล่าเรื่องนี้ถือเป็นการเสี่ยงพอควร คะ เนืองเพราะ  จขกท. เอง 1  อยู่ในพันทิพ นานหลายปี มิ้ติ้งก้เคย หล่ยห้องด้วย 2 ภาพ  จขกท. ก็มี ค้นหาไม่ยาก เจอแน่ 3  เสี่ยงกับการถุกกล่าวว่า ปรามาส พุทธองค์ เสี่ยงกับการว่า งมงายไร้สาระ แอบอ้าง เพื่อหลอกลวง หรือการสิ่งใดสิ่งหนึ่ง 4  เสี่ยงกับการถูกหาว่า บ้า 5 เสี่ยงกับการโดนต่อว่า ซึ่ง  จขกท .  ไม่เคยโดนต่อว่าเรื่องหลอกลวงเลย เพราะ เล่นเนตเพื่อความสนุก ความบันเทิง --------------------------------------------- ทำไม ถึงเลือกที่จะเล่านะ เพราะ 1  เพราะคิดว่า น่าจะเป็นบทเรียนอะไรสักอย่าง อาทิ จงอย่าเชื่อจนกว่าจะพิสูจน์ เห็นจริง ค่อยกล่าว เห็นจริงค่อยเชื่อ   จขกท. พิสูจน์แล้วบางเรื่อง กล้าเล่าเรื่องทั้งหมด เหลือที่ควรปิด  เช่น  ชื่อบุคคลบางท่าน  เนืองจาก  ท่านที่ปิดบังชื่อนั้น เป็น บุคคลสำคัญ ระดับสูงๆ คะ ไม่อยากให้มีการโดยแอบอ้าง หรือ นำไปกล่าวอ้างทางที่เสีย 2  เพราะคิดว่า บทสรุป จะนำไปสู่การศรัทธา ในพุทธองค์ เพราะ จริงๆแล้ว บทสรุป มีอีก คะ ตอลด 10 เดือนที่ผ่านมา ( เพื่อนคนนี้บอก แค่ 10 เดือน ถือว่า พัฒนาการที่เร็วมาก แต่สำหรับ  จขกท. แล้ว ถึงว่าเหมือนแรมปี ทรมานและเปลี่ยนแปลงชีวิต  จขกท. โดนสิ้นเชิง คะ) 3  การเห็น จากกายใน ตาใน เห็นด้วยจิต ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพราะ คนรอบข้าง  จขกท. รวมแล้ว เกือบทุกคน คะ เรียกว่ามี ผู้ถือหุ้น 10 คน เห็นแล้วซะ เกือบหมด ยกเว้น แฟนคนเดียวที่ไม่เห็น  ทำให้เห็นว่า เรื่องการเห็น การหยั่งรู้อนาคต การพบปะ พุทธองค์ การพูดคุยเทวา เทพเจ้า โพธิ ไม่ใช่เรื่องยากเย็นเลย  หากเรามีจิตที่ สะอาด ตั้งมั่นใจความศรัทธา เมื่อถึงเวลาแต่ละคนแล้วย่อมกลับสู่สัญญาเก่า คะ 4  คำสั่งสอน การสนทนาธรรม การศึกษาธรรม จริงๆแล้วไม่ยากเลย ดั่งที่ทุกคนคิด ศัพท์สูงๆ คำสวยหรู แทบไม่ต้องใช้เลย ธรรมะ พื้นๆ เพียงไม่กี่ข้อ มนุษย์ ปฎิบัติได้ ก้แทบ บรรลุแล้ว คะ ฝึกทั้งชีวิต ธรรม ข้อเดียว ยังไม่ผ่านเลย ธรรมสูงๆไม่ต้องพุด คะ เป็นการแตกแขนง หรือการขยายความเท่านั้นเอง ะรรมง่ายๆ สอนง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ แต่ปฎิบัติทั้งชีวิตให้ดำรงอยู่เสมอ แค่นั้นก็ทำแทบไม่ได้แล้วคะ ดำรงสติมั่น ทุกขณะจิต  ดำรงสติ ทุกปราณเข้าออก คำ 2 ประโยคนี้  จขกท. ไม่ได้คิดเอง คะ หากแต่มาจาก เบื้องบน มาจาก การที่ ทั่วๆไป เรียก   องค์ลง คะ ความหมายตามนั้น คะ องค์ลง ลงจริงๆ ลงแบบ สนทนาซึ่งๆหน้า สนทนาธรรม ธรรมะง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ไม่สวยหรู แม้บางคำอาจเป็นกลอน แต่ เรียบง่าย กระฉับ สั้น กินความหมาย เข้าใจง่ายๆ คำๆหนึ่งที่ เบื้องบนมักกล่าวเสมอ " อยู่แค่ปากถ้ำ เข้าไปทำไม ในถ้ำ เข้าไปแล้วเจอมั๊ย ? " ทุกครั้งที่ เบื้องบนทิ้งปริศนาให้แก้ ปริศนาธรรม ขบคิด ไตร่ตรอง หาคำตอบ สุดท้าย ต้องถามเบื้องบน ถามท่านที่ลงมา ท่านจะเฉลยให้ฟัง และ ย้ำเสมอ  ง่ายๆ แค่ปากถ้ำ เข้าไปลึกจะหาเจอรึ? ธรรมะ  คือ  ธรรมชาติ พุทธะ  คือ ผู้ตื่น  ย้ำทุกครั้งที่ เบื้องบนลงมา   กระทู้นี้ขอปิดดีกว่าคะ ค่อนข้างเสี่ยง แถมเสี่ยงสูงด้วย ดิ เบี่ยงเบน นิด จะกลายเป็นไปสร้าง ความงมงายให้ พุทธะ  ธรรมะ  ศาสนา จะผิดเพี้ยน มีข้อพิพาทเกิดขึ้นได้ จริงๆแล้วกระท้นี้ไม่ควรกิดขึ้นเลย ตามความตั้งใจเดิม ที่คิดจะปิดไม่เปิดเผย เพราะ   ปจจตัง พบเอง  เห็นเอง  รู้เอง พิสูจน์เอง องค์ที่ลง ขออนุญาตเบื้องบนแล้ว ขอเอยนามท่าน คะ องค์ อวโลวกิเตศวร  ท่าน สอนไว้  คิดเยอะ กรองเยอะๆ อย่าคิดลึก คิดเยอะๆ กรองหลายๆครั้ง สิ่งที่เหลือ นั้นคือแก่น แก่นที่แท้จริง นี้คือคำตอบที่แฟนถาม เมื่อ องค์ลงครั้งแรก แฟนถาม  รู้ได้ไงว่าที่ลง คือของจริง ไม่ใช่สิ่งที่แอบอ้างมา หลอกให้เชื่อว่าใช่ ท่าน ตอบว่า  ใช้จิตที่บริสุทธิ จิตที่ปราศจากอคติ ไม่คิดเข้าข้าง ไม่คิดลำเอียง ไม่มีคติใดๆ ไม่เอาจริตที่ปรุงแต่งมาวิเคราะห์ คิดให้ดี คิดเยอะๆ คิดหลายๆครั้ง กรองแล้วกรองอีก จนเหลือที่ตะแกรง นั้นแหละคือแก่น แก่นที่แท้จริง แก่นที่พิสูจน์แล้ว พิสูจน์ เอง ------------------------------------------------- ถามหลายๆคน ถามเพื่อน เชื่อได้แค่ไหนว่าที่ลงมา นั้นไม่ใช่คิดไปเอง ไม่ใช่ผีมาหลอก คำตอบ จากเบื้องบน ไม่ใช่จากเพื่อน คือ ภูตผี วิญญาณ สรรพเวสี( สะกดถุกเปล่าไม่แน่ใจ อะ ) ไม่สอนหลักธรรม ธรรมะที่สอน ลองใช้จิตของเจ้าพิสูจน ว่าจริงหรือไม่ พุทธองค์ ท่าน ตรัสไว้  กาลามาสูตร ทั้ง 10 เจ้าต้องพิสูจน์เอง พิสูจน์แล้ว เข้าใจแล้ว ศรัทธาแล้ว จงเชื่อ เทิด อย่าเชื่อโดยไม่พิสูจน์ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 16:05:27

ความคิดเห็นที่ 30 ปิดกระทู้นี้แล้วคะ ไม่อยากให้กลายเป็นข้อถกเถียง นำมาซึ่งการวิจารณ์ ( จริงๆลแ้วตอนนี้ หนักบ่า ปวดกระบอกตาอีกแล้ว หงะ ) จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 16:14:47

ความคิดเห็นที่ 31 มหัศจรรย์มากค่ะ เราเข้ามาอ่านตามสัญญา และไม่หาว่าบ้า เราเห็นด้วยกับคุณนะ เรื่องแบบนี้ไม่เห็นเอง ไม่เจอเอง คงไม่เชื่อ ยังไงก็ตามแต่ถ้าคุณเป็นคนที่ท่านเลือกมาแล้วขอให้คุณทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุดนะคะ คืนนี้เราก็กลับไปสวดมนต์ต่อบ้าง นั่นคือหน้าที่ของเราเหมือนกัน ^__^ จากคุณ : หมาแม่กลอง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 16:37:29

ความคิดเห็นที่ 32 เราก็กำลังติดตามอ่านอยู่เลยค่ะ  เสียดายอยากรู้ตอนจบ ^ ^ เรื่องบางเรื่องถ้าเราโตมากับมัน  มันก็จะมองเป็นเรื่อง ปกติค่ะ แต่กับคนที่ไม่เคย  ก็จะคิดว่ามันเพ้อเจ้อ   สำหรับเรามองว่า  เป็นเรื่องปกติค่ะ  อาจจะมีจริง  และไม่ มีจริงก็ได้  เหมือนกับการปฏิบัติธรรม  บางที่อาจจะถูก จริตกับเราหรือไม่ถูกกับเรา แต่ทุกคนคงจะเหมือนๆกัน ตรงถ้ามันใช่ มันก็จะมีคำตอบในใจว่า  ใช่แล้วทางนี้ แหละที่เราตามหา  เราต้องเดินทางนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างเราว่าแล้วแต่ บุญหรือกรรมที่สร้างสมมา ในอดีตด้วย ว่าเกิดมาเจอพระพุทธศาสนาทั้งที  แต่กลับ ไปผิดทาง  เท่ากับว่าเสียเวลาเปล่าในชาตินั้นๆ ( เราว่าคุณมาถูกทางนะ  เท่าที่เคยอ่านการตอบคำถาม เกี่ยวกันธรรมะ  เราอ่านแล้วเข้าใจ แต่ถ้ามาเขียนเรื่อง ร่างทรงองค์เทพ  ก็ต้องทำใจเนอะ ว่าอาจมีคนไม่ชอบ ได้  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางที่เราต้องเดิน มีทางเดียวคือ เดิน ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า  ไปสู่นิพพาน ) จากคุณ : ทาโร่ตาโปน เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 17:03:48

ความคิดเห็นที่ 33 อ่านมาตั้งแต่เมื่อคืน จะร่วมลงชื่อในกระทู้ก็เกรงว่ายังไม่จบ ลงชื่อ... "อ่านแล้ว" จากคุณ : ผู้ชำนาญการด้านความเหงา เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 18:00:52

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณค๊าที่เข้าใจ เหตุว่าทำไมจู่ๆต้องปิดกระทู้ กระทันหันแบบนี้ เอาเป็นว่า  จขกท. จะโพส ข้อความที่ ข้างบน ลงมาสอน ดีกว่าคะ อาจมีประโยชน์บ้าง  แต่อย่างเคย คะ พิจารณา ธรรม ให้ถ่องแท้ก่อน ใช้จิตที่ไร้อคติ วิเคราะห์  กรองเยอะๆ คิดเยอะ แล้วค่อยปฎิบัติคะ ---------------------------------------------- ศรัทธา ก่อเกิดความรัก ความรัก.. ไม่ใช่ศรัทธา ศรัทธาที่แท้ คือ รักที่บริสุทธิ์ รักไม่ใช่ ตัณหา รักที่แท้ ปราศจาก ตัณหา ศรัทธาในตัวตน ก่อเกิดรักที่ยิ่งใหญ่ ศรัทธาที่แท้ ปราศจาก กิเลส ตัณหา และอารมณ์ ศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ คือศรัทธาใน พระเจ้า ผู้ที่ลงมา เหอะๆ ไปตีความกันเอง นะคะ ว่าใครเพราะท่านมา เอ่ยนามเช่นนี้คะ Yozu Bousu........ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 19:54:29

ความคิดเห็นที่ 35 พระแม่กวนอิม คะ ท่านที่ลงมา กล่าวว่า เกิดจากรากเหง้าเดียวกัน หนึ่งเบ่งบาน ไร้มลทิน หนึ่ง เป็นอาหาร ปู เต่า ------------------ หนึ่งเมล็ด เติบโต แผ่กิ่งก้าน กว้างไกล เมล็ดข้าว เม็ดเล็กๆ เป็นอาหาร เล่ามวลมนุษย์ และสรรพสัตว์ ทรายเม็ดเล็ดเล็กๆ ก่อเกิดภูผา ยิ่งใหญ่ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 19:56:44

ความคิดเห็นที่ 36 ส่วนนี้ ปราณ คือ ชีวิต ดำรงสติทุกปราณเข้าออก ผ่อนปราณ เข้าออก ยาวๆๆ ศิ- ษะ - ยะ - นะ ..........ผู้เรียนรู้ คูรู.............ผู้อบรม เนืองจาก เบื้องบนลง แต่ผุ้ฟัง ไม่ทราบ เลยมีการคุยกันเล่นๆ ในกลุ่มว่า แหม ข้างบนลง น่าจะบอกมั๊งนะว่าท่านใด จะได้ จดบันทึกได้ถูก ลงจากนั้น ทุกครั้ง ท่านจะเอย บ้าง มาเป็นปริศนา บ้างคะ ไปตีความกันเอง คะ ทุกๆครั้งที่  องค์ลง หลาน จะ บันทึกเสียง บางครั้งบันทึกภาพ บางครั้งจดเอาไว้ เพราะ คิดว่า น่าจะเก็บไว้เพื่อศึกษา คะ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 20:00:54

ความคิดเห็นที่ 37 หลังจาก  ข้างบน  แฟนไม่เข้าใจเรื่อง การหายใจ พอ องค์ลง แฟนเลยถาม ท่าน คะ คำตอบที่ได้ ทำให้ ถึงกับร้อง  อ้อ  ยังงี้เหรอ  ทำไม มันตื้นขนาดนี้ นะ ไม่เคยคิดว่า มันแค่พื้นๆเอง พี่สาวแฟน เคยไปปฎิบัติธรรม ที่ อัมพวัน หลวงพ่อจรัญ เธอบอก  ที่ท่านสอน เหมือนกับที่หลวงพ่อ สอน คะ ปราณ คือ ชีวิต ดำรงสติ ทุกปราณเข้าออก -------------------------------- ปราณ เข้า - ออก.......... พุธ-โธ พุทธะ .......ผู้รู้ ผุ้ตื่น ผู้เบิกบาน โธ ( ธัมมะ )........ ธรรมชาติ ตื่น สติ ........ เข้า ธรรมชาติ .........ออก ------------------------ ไสยะ การหลับไหล การลุ่มหลง พุทธะ การตื่น ผู้รู้ ผู้เบิกบาน ------------------------------- ดำรงสติ ทุกขณะจิต เป็น อาจิณ ------------------------------ อะ วะ นะ กิ เต ศะ ระ นะ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 20:03:49

ความคิดเห็นที่ 38 จบบริบูรณ์ คะ ส่วนธรรมะอื่นๆ เป็นแค่พื้นฐานทั่วไป ไม่ลึกซึ้งมากมายนัก คะ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 20:06:28

ความคิดเห็นที่ 39 ให้กำลังใจ จขกท.ค่ะ เพราะตัวเองก็กำลังเผชิญอยู่  เราเครียดจนต้องขอเล่าเรื่องของท่านกับคนอื่น..  ท่านอนุญาต แต่เราต้องเลือกเล่าเหมือนกันนะคะ  เพราะไม่งั้น คงต้องเครียดหนักกว่าเก่า ทุกวันนี้ เราต้องสวดมนตร์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ  อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร วันไหนเกเร มีโดนเหมือนกันนะคะ ว่าปฏิบัติหลวม (สำนวนของท่านค่ะ..แต่เราขำ อิอิ) จากคุณ : ปักไหมทอง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 21:59:03

ความคิดเห็นที่ 40 ตามอ่านตั้งแต่เมื่อวาน เปิดดูเช้า เที่ยง เย็น กลางคืน :D ขอบคุณมากๆครับ :D จากคุณ : เส้นขอบฟ้าเวลาพระอาทิตย์ตกดิน เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:10:51

ความคิดเห็นที่ 41 ก่อนปิดกระทู้ผมอยากถามเรื่องที่มันคาใจข้างในลึกๆอีกสักอย่างครับ   ว่าผู้ที่นับถือเจ้าแม่กวนอิมต้องห้ามกินเนื้อวัว-ควาย    แล้วนมวัวดื่มได้มั๊ยครับ  กระเป๋า-รองเท้าหนังวัวใช้ได้มั๊ย?   เพราะไม่มีใครกล่าวถึงเท่าไหร่      นำโม กวนสี่อิมผ่อสัก    เจริญๆทุกท่านนะครับ จากคุณ : niwatpuniw เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:24:25

ความคิดเห็นที่ 42 สำหรับตนเองน่ะค่ะ - ไม่ทานเนื้อวัว แต่ว่าก็ดื่มนมวัว แต่ว่าไม่ได้ดื่มทุกวัน น้ำเต้าหู้บ้าง ไม่ค่อยดื่มของพวกนี้เท่าไร - ส่วนกระเป๋า รองเท้าหนัง สมัยนี้แพง ก็แล้วแต่ละท่านจะตัดสินใจว่าจะใช้หรือเปล่า ปกติตอนนี้ ไม่ได้ใช้อะไรที่เป็นหนังค่ะ จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 00:14:01

ความคิดเห็นที่ 43 ผู้ที่นับถือเจ้าแม่กวนอิมต้องห้ามกินเนื้อวัว-ควาย    แล้วนมวัวดื่มได้มั๊ยครับ  กระเป๋า-รองเท้าหนังวัวใช้ได้มั๊ย?  ที่บ้านก็นับถือ ไม่กินเนื้อวัวแต่ก็ดื่มนมวัวครับและยังมีเครื่องหนังจากสัตว์  อันนี้ก็แล้วแต่คนเคร่งไม่เคร่งครับ คนที่ไม่เคร่งก็ (มักจะ) มีเหตุผลอธิบายอ้างอิงไปเรื่อยๆ เช่นที่บ้านผม นมวัว : เราไม่ได้ไปเอาชีวิตเค้ามาทั้งชีวิตนี่น่า แค่แบ่งปันกันกิน เครื่องหนัง : เราไม่ได้ฆ่าเค้ากับมือเราเองนี่ แต่ไหนๆเค้าก็อุทิศเลือดเนื้อเพื่อเป็นอาหาร และ เครื่องนุ่งห่มแล้ว เราก็หามาใช้สอยเป็นนุ่งห่มเถอะ ก็คงขึ้นอยู่กับมุมมองมั้งครับ จากคุณ : ผู้ชำนาญการด้านความเหงา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 01:28:41

ความคิดเห็นที่ 44 จะปิดกระทู้ ไม่เล่าแล้วเหรอคะ เสียดายจัง เราเชื่อนะคะ เพราะได้สัมผัสมาแล้ว จากคุณ : Valily เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 04:13:15

ความคิดเห็นที่ 45 สวัวดีตอนเช้าคะ ** ก่อนปิดกระทู้ผมอยากถามเรื่องที่มันคาใจข้างในลึกๆอีกสักอย่างครับ   ว่าผู้ที่นับถือเจ้าแม่กวนอิมต้องห้ามกินเนื้อวัว-ควาย    แล้วนมวัวดื่มได้มั๊ยครับ  กระเป๋า-รองเท้าหนังวัวใช้ได้มั๊ย?   เพราะไม่มีใครกล่าวถึงเท่าไหร่      นำโม กวนสี่อิมผ่อสัก    เจริญๆทุกท่านนะครับ  ** คำถามนี้แฟนกำลังคิดอยากจะถามเหมือนกัน คะ ส่วนตัว คิดว่า ไม่มีข้อกำหนดใดๆ คะ แต่มนุษย์ปรุงแต่งขึ้นเอง โดยการดึงจากประวัติที่รับรู้ตามๆกันมา จากนั้น ดึง ชักโยง เรื่องแล้วสร้างจริตขึ้นเพื่อปรุงแต่งให้สวยงาม การเลือกปฎิบัติ  อยู่ที่ เราพิจารณาแล้วว่า เกิดผลเสียหรือไม่ เป็นข้อดีหรือไม่ มีข้อจำกัดในการปฎิบัติตามหรือไม่มากกว่า คะ -------------------------- คุณ ปักไหมทอง....................... จขกท. ไม่ได้โดนไร บีบบังคับเลยคะ เพียงแต่เมื่อวาน เล่ามาถึงจุดๆหนึ่ง พรันนึกขึ้นได้ ว่าหากเล่าต่อ เกิดการล่อแหลม คะ เพราะหลังจากนั้นจะถึงจุดที่ อาจสร้างความงมงาย หรืออาจสร้างศรัทธา ก็ได้ เป็นดาบสองคม คะ ให้กระจ่างชัดอีกหน่อย คือ ต่อจากการเห็น คือการ รับรู้สัมผัสได้ถึงสิ่งที่มองไม่เห็น  แฟนเรียกว่าเป็นการฝึกการใช้ สัมผัสได้  เห็นผ่านกาลเวลา กำหนดทิศทางการเห็น แฟนบอก ให้ฝึกใช้ มีใครสักกี่คนที่ได้สิ่งนี้ ฝึกใช้กับวัตถุ มงคลต่างๆ ช่วงที่ฝึกสิ่งนี้ สนุกก็สนุก แต่ อาการตามมาเยอะ คะ ท้องมวน ปั่นป่วน เดินผ่านเวียนหัว น้ำหูน้ำตาไหล ณ ช่วงที่ฝึก การสัมผัสวัตถุมงคล ได้มาซึ่งหลายสิ่ง ได้เห็น สิ่งเหนือจากนั้น แสงรอบกายคน  ย้อนไปเห็น อดีตของคนใกล้ๆ เห็นร่างจิตเดิม แม้กระทั่ง เห็น พุทธประวัติ ไปนั่งร้องไห้ที่สนามพระ เพราะเห็น พุทธประวัติ ไม่ใช่เพราะปิติ หากแต่ เพราะ โศกสลด เมื่อเห็น เพลิงเผาพระศพ( ใช้คำถูกเปล่าไม่แน่ใจคะ ) เกิดการรับรู้ รับสัมผัส จู่ๆเกิดอยากร้องไห้ ช่วงที่ฝึก เรื่อง วัตถุมงคล เพื่อนร่วมหุ้น เปิดญาณ ที่นี้หลายๆคนตามมา อ่านเรื่อง ใช้จิตตามเรื่อง ใช้จิตพิสูจน์ สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์ จนถึงวันหนึ่ง ที่รับสัมผัสอย่างตรงๆ ที่เรียกกันว่า  องค์ลง ทำให้เกิดการขัดแย้ง กับที่เคยเห็นมา เคยได้ยินมา ทำไมเวลาลงองค์ลง(ทั่วไป ) ทำไม ต้องสั่น ทำไมต้องอาเจียน แต่ทำไม กับ  จขก. สิ่งนี้ไม่มีขึ้นเลย ทุกขั้นตอน  จขกท. ยังติด สงสัย มาตลอด ทำไม ทำไม เกิดขึ้นเสมอ ขาดศรัทธา แม้ทุกสิ่งจะเกิดกับ  จขกท. เอง แต่ยังไม่เชื่อ เพราะมันเกินความเชื่อได้ อดีต ที่เห็นจริงหรือ  อนาคตที่เห็นจริงหรือ เพราะ เพิ่งพิสูจน์ผ่านไปแค่ 2 เรื่องเอง ย้อนอดีตได้จริงหรือ ทุกอย่างที่เห็น เห็นจริงรึ จนวันหนึ่ง จขกท. โดน สิ่งลึกลับ ไม่ปิดกั้นความรู้สึก มีสติตลอดเวลา แต่ดึงให้จมสู่อดีต ให้เห็น แม้ขนาดดำรงสติมั่น เห็นภาพของจุดเริ่มต้น ที่ จักนำมาให้พบเพื่อหน้าที่ บัดนั้น ความศรัทธา  มาแบบไร้ข้อกังขา ไร้ข้อสงสัย นำมาซึ่งความศรัทธา อย่างเปี่ยมล้น เนืองจาก พิสูจน์แล้ว คะ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 08:49:17

ความคิดเห็นที่ 46 สาธุ..กับ จขกท คะ  ที่ผ่านขั้นตอนการพิสูจน์ด้วยตนเอง แล้วนำมาซึ่งความศรัทธา อย่างเปี่ยมล้น ส่วนของเรา เพิ่งประสบเหตุการณ์ตั้งแต่ปลายเดือนกันยาที่ผ่านมา  จนถึงวันนี้ เหตุการณ์ที่ผ่่านมาเกือบ 3 เดือน ท่านบอกเราเสมอว่า อย่าเพิ่งเชื่อท่าน ให้พิสูจนฺ์และสังเกตุสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเรา  ตอนนี้เรา ก็ลองพิสูจน์ของเราไปเรื่อยๆ อิอิ... จากคุณ : ปักไหมทอง เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 10:54:52

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณที่นำสิ่งที่พบเห็นมาแบ่งปันให้ได้อ่าน เคยสงสัยบ่อยๆว่า ใช่หรือ ? เป็นไปได้หรือ ? บังเอิญหรือเปล่า ? ไม่อยากจะเชื่อ เหมือนอากาศ มองไม่เห็น แต่รู้สึกได้ จากคุณ : mingxing เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 11:58:58

ความคิดเห็นที่ 48 . จากคุณ : mingxing เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 12:09:44

ความคิดเห็นที่ 49 อนุโมทนากับ จขกท ค่ะ  ที่กรุณามาเล่า เรามาติดตามอ่านตั้งแต่ต้นแล้ว.. ได้ทั้งความรู้  จนเกิดศรัทธาอีกด้านหนึ่งขึ้น และได้ทั้งความเพลิดเพลิน-ที่จิตจะได้ท่องไปรู้ตามประสบการณ์ของ จขกท.. ส่วนเรื่องที่ จขกท ห่วงว่าคนอ่านจะหลงไปเชื่อในด้านงมงายนั้น สำหรับเรา..วางใจได้เลยค่ะ เรามีพื้นฐานการเรียนรู้ใจ-กายมาแบบง่ายๆ แต่หนักแน่นพอสมควร ครูบาอาจารย์หลายท่านที่สอนเรามา  มีความรู้กว้างขวาง เราจึงพอจะเข้าใจได้ว่าเรื่องทำนองนี้มีอยู่ (และเราก็สนใจมากด้วยสิคะ) เพียงแต่ท่านมุ่งไปที่เรื่องใจ-กาย  ด้วยมีเวลาน้อย  และติดขัดพระวินัย แต่ธรรมชาติจิตซุกซนของเราก็ชอบที่จะรู้เรื่องทำนองนี้มากๆ นอกจากยังความศรัทธาและความเพลิดเพลินแก่เราแล้ว   ยังเสริมสร้างความเข้าใจทางธรรมให้เราได้ดีขึ้นอีกด้วย ขอบคุณ.. และกราบอนุโมทนาอีกครั้งค่ะ . จากคุณ : มาดิน เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 12:29:43

ความคิดเห็นที่ 50 บัดนั้น ความศรัทธา  มาแบบไร้ข้อกังขา ไร้ข้อสงสัย นำมาซึ่งความศรัทธา อย่างเปี่ยมล้น เนืองจาก พิสูจน์แล้ว คะ ชอบครับ เอากิ๊ฟท์ไปอีกเลยครับ จากคุณ : ผู้ชำนาญการด้านความเหงา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 13:08:08

ความคิดเห็นที่ 51 มาลงชื่อว่าอ่านและได้รับประโยชน์เ่ช่นกัน นอกนั้นขออนุญาตก็อปปี้ความเห็นคุณมาดินค่ะ :) จากคุณ : +++sLeEPYnOmORE+++ เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 13:38:06

ความคิดเห็นที่ 52 แปลก อ่านแล้วมีความสุขดี จากคุณ : แมงกุ๊ดจี่ เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 17:53:52

ความคิดเห็นที่ 53 แล้วคุณ จขกท. เคยถามท่านรึป่าวครับ ว่าที่ให้เห็น ให้รู้ จะให้ทำอะไร หรือให้รู้ทำไม จากคุณ : รวดเดียว เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 19:13:37

ความคิดเห็นที่ 54 ** แล้วคุณ จขกท. เคยถามท่านรึป่าวครับ ว่าที่ให้เห็น ให้รู้ จะให้ทำอะไร หรือให้รู้ทำไม ** ถ้าการเห็น เทพ เทวา โพธิ ไม่ถามแล้วคะ เลิกถามไปนานแล้วคะ เพราะ ไม่รู้จะถามทำไม เห็นก็ปล่อยให้เห็นไป ถือหลักว่า  เห็นแล้วทำไม  ไม่เห็นแล้วทำไม เห็น ก็คือเห็น เลยเลิกสนใจคะ แต่ เห็นอนาคต แบบที่ไม่ได้อยากเห็น แล้วให้เห็น  ตอนนี้ทราบแล้วคะว่าให้เห็นเพราะอะไร  โดยการดึงให้จมสู่อดีต เพื่อรำลึกถึง สัตย์ที่เคยหมั้นไว้       ...........พยากรณ์ ที่เคยได้รับ หน้าที่  ที่จักต้องทำ เพื่ออะไร เพราะอะไร นอกนั้นไม่ค่อยสนใจแล้วคะ เห็นจนเกิดความเคยชิน มั๊ง คะ เคยบางครั้ง ต้องการดูอนาคต ก็เห็นได้แค่ช่วงหนึ่ง จากนั้นจะถูกห้าม คะ มีเรื่องขำๆมาเล่าให้ฟังคะ แฟน ถามถึง เรื่อง  บ. ก็ดูให้ แฟนถามถึงวิวัฒนาการของสินค้า พระปางห้ามพระญาติ ขึ้นตรงหน้าภาพเลยคะ 555......... บอกแฟน  ตัวเอง พระปางห้ามพระญาติ ขึ้น หงะ สงสัยไม่ให้ดูมั๊ง 555......... มีหลายครั้งคะที่เป็นแบบนี้ เข้าใจคะว่า สิ่งที่โดนห้าม เพราะอะไร เนืองเพราะหากการเห็นเราไปรบกวน อนาคต จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น [/b] แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 54 03:42:41 จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 19:43:24

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณครับ จากคุณ : jin leng เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 21:21:55

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณ จขกท.มากครับอยากให้เล่าต่อครับ เผื่อจะทำให้คนแถวนี้(ผมเอง)ตาสว่างในเรื่องที่ชาตินี้คงไมมีทางได้สัมผัส อย่างน้อยๆจะได้ปฤิบัติดีขึ้น จากคุณ : ชินจัง..ชักจะชินแล้ว เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 07:13:21

ความคิดเห็นที่ 57 คนที่ฝึกให้มีสติอยู่กับปัจจุบัน สม่ำเสมอ จะไม่หวั่นไหวกับอะไรทั้งนั้น สิ่งที่เจอ จะใช่ของจริง หรือ ของปลอม ให้ดูที่สติขณะเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านั้นนั่นแหล่ะ จะเป็นตัวชี้วัดได้ดีที่สุด จากคุณ : Generals เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 16:40:03

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณ จขกท ที่เล่าให้ฟังครับ ^ ^ จากคุณ : V_Accy เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 16:00:52

ความคิดเห็นที่ 59 ** คนที่ฝึกให้มีสติอยู่กับปัจจุบัน สม่ำเสมอ จะไม่หวั่นไหวกับอะไรทั้งนั้น สิ่งที่เจอ จะใช่ของจริง หรือ ของปลอม ให้ดูที่สติขณะเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านั้นนั่นแหล่ะ จะเป็นตัวชี้วัดได้ดีที่สุด  ** ขอบคุณคะ *********************** ข้อชี้แนะ สำหรับผู้ที่เห็น สัมผัสสิ่งเหล่านี้ เห็น เพียงพื่อเห็น เห็น รับรู้ว่าเห็น เห็น แล้วไง  ไม่เห็นแล้วไง สัมผัส  รับรู้ว่าสัมผัส เมื่อรับรู้แล้ว ก็ วางซะตรงนั้น ไม่ต้องนำติดมา( ไม่ต้องรำลึกถึง ) -------------------- ไม่งั้นมีสิทธิ์ สติเตลิดได้ค่ะ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 16:13:37