PANTIP.COM : Y11442580 บัวแต่ละเหล่าและการบรรลุ []

ความคิดเห็นที่ 2

1. ในสมัยพุทธกาล คนจำนวนมากเมื่อได้ฟังพระธรรมของพระพุทธองค์ก็บรรลุได้เป็นกลุ่มเลย ไม่ทราบว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น (ไม่อยากใช้คำว่า ง่าย เพราะรู้ว่าไม่ง่าย แต่ก็ไม่ทราบความเป็นมา)

ตอบ เพราะคนเหล่านั้นเคยสร้างเหตุร่วมกันมาแบบเ็ป็นกลุ่ม ตัวอย่างเช่น พระยสะ และสหาย อดีตชาติเคยฌาปนกิจศพผู้หญิงที่ไร้ญาติ ตอนฌาปนกิจพระยสะและเหล่าสหายก็ได้ร่วมกันพิจารณาซากศพ ได้เห็นความไม่งามในร่างกายที่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ของซากศพ

พอมาเกิดอีกหนเมื่อครั้งพุทธกาล พระยสะตื่นขึ้นมากลางดึกได้เห็นนางระบำนอนกลิ้งเกลือกจึงรู้สึกสังเวชใจว่าเหมือนซากศพที่ถูกทิ้งให้นอนเกลื่อนป่าช้า

ทั้งนี้เพราะเคยทำเหตุด้วยการฌาปนกิจศพไร้ญาติมาในชาติก่อน สัญญาเก่าๆจึงกระตุ้นเตือนให้เห็นผู้หญิงนอนเสื้อผ้าหลุดรุ่ย น้ำลายไหล นอนก่ายสะเปะสะปะแล้วนึกไปถึงซากศพแทนที่จะเกิดอารมณ์กำหนัดเฉกเช่นคนทั่วไป ท่านจึงเดือดเนื้อร้อนใจจนถึงกับกล่าวว่า "ที่นี่วุ่นวายหนอ ที่นี่ขัดข้องหนอ"

ท่านและสหาย 54 คนได้บรรลุธรรมโดยง่ายเพราะ ฟังอนุปุพพิกถา และอริยสัจ 4

อนุปุพพิกถา มีเนื้อหาไล่เรียงจากง่ายไปหายาก โดยเริ่มจากทานกถา พรรณนาถึงอานิสงส์ของทาน ซึ่งเป็นเรื่องง่ายแก่การทำความเข้าใจ

ตามด้วยสีลกถา พรรณนาถึงประโยชน์แห่งศีล เป็นเรื่องการประพฤติปฏิบัติตนให้มีกาย วาจา ใจ เป็นปกติ (ศีล แปลว่า ปกติ) อันนี้ก็ง่ายแก่การทำความเข้าใจ

และกล่าวถึงสัคคกถา พรรณนาถึงสวรรค์ อันเป็นคติที่ไปในภพหน้าของผู้ที่บำเพ็ญทานและศีล เป็นเครื่ีองจูงใจคนได้เป็นอย่างดี

และหักมุมด้วยกามาทีนวกถา คือกล่าวถึงโทษแห่งกาม อันประกอบด้วย รูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ (สัมผัส)

และปิดฉากด้วยเนกขัมมานิสังสกถา กล่าวถึงอานิสงส์แห่งการออกจากกาม หรือเนกขัมมะ ประพฤติเนกขัมมะทางกายคือการออกบวช ประพฤติเนกขัมมะทางใจคือการทำโลกุตตรฌานให้เกิดขึ้น

จึงได้ดวงตาเห็นธรรมโดยทั่วกัน เพราะท่านเหล่านี้เคยมีอสุภะสัญญาในอดีตชาติ

อีกตัวอย่างเช่น ค้างคาว 500 ตัวที่ห้อยหัวฟังพระเทศน์เรื่องอภิธรรม แม้จะไม่เข้าใจแต่ก็มีจิตยินดีว่านี่คือเสียงธรรม พอมาเกิดอีกครั้งในสมัยพุทธกาล เป็นลูกศิษย์ของพระสารีบุตร พอได้ฟังเทศน์พระอภิธรรมบทเดิม จึงบรรลุพร้อมกันโดยง่าย เพราะเคยมีธรรมสัญญาจากเมื่อครั้งอดีต

อีกสาเหตุหนึ่ง เพราะท่านเหล่านี้ล้วนแต่ปฏิสนธิเกิดมาเป็นมนุษย์ที่ประกอบด้วยไตรเหตุ คือ อโลภะเหตุ อโทสะเหตุ อโมหะเหตุ เป็นติเหตุกบุคคลผู้มีปัญญา

บุคคลประเภทนี้ สามารถทำฌานให้เกิดขึ้นได้ในชาตินี้ และทำมรรคผลนิพพานให้เกิดขึ้นได้ภายในชาตินี้

ต่างจากคนทั่วไปที่เกิดเป็นทวิเหตุกบุคคล และสุคติอเหตุกบุคคลที่ไม่อาจทำฌานและมรรคผลนิพพานให้เกิดขึ้นได้ภายในชาตินี้ ได้แต่สร้างกุศลและเหตุปัจจัยให้บรรลุมรรคผลในชาติต่อๆไป

2. บัวแต่ละเหล่าสามารถบรรลุได้เลยจากสถานะของตนขณะนั้นได้หรือไม่ คือไม่ต้องพัฒนาจากบัวใต้โคลน บัวที่จมน้ำ ... ไปเป็นบัวระดับที่สูงขึ้น

ตอบ เกณฑ์การแ่บ่งคนตามประเภทของบัวนั้น แบ่งตามความช้า-เร็วในการบรรลุธรรม บัวเหล่าแรก หมายถึงคนที่ฟังพระธรรมเทศนายังไม่ทันจบก็บรรลุ (เช่นฟังธรรมเพียง 2 บาท หรือกึ่งคาถา / 1 คาถา มีทั้งหมด 4 บาท)

ส่วนบัวเหล่าที่สอง หมายถึงคนที่ฟังพระธรรมจนจบ จึงบรรลุ

ส่วน เนยยะ บัวเหล่าที่ 3 หมายถึงคนที่ฟังพระธรรมแล้วก็ยังไม่บรรลุ ต้องอาศัยความเพียรจึงบรรลุ

ปทปรมะ บัวเหล่าสุดท้าย หมายถึงคนที่เป็นสุคติอเหตุกบุคคล ได้แก่บุคคลที่เกิดมาเป็นบ้า ใบ้ ตาบอด หูหนวก ปัญญาอ่อนแต่กำเนิด

จากคุณ : คืนวันอันแสนดี

เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 02:11:36