ความคิดเห็นที่ 1 คงหมายถึงการเมือง ไม่อยากวิจารณ์มากเดี๋ยวดราม่า  เคยมีคนให้นิยามคำว่าการเมือง คือการแย่งชิงอำนาจ    เมื่อเกิดการแย่งชิงอำนาจกันแล้วต่างฝ่ายต่างก็ต้องใช้วิธีการต่างๆเพือให้ได้มาซึ่งอำนาจ ขอวิจารณ์แค่นี้นะครับ จากคุณ : boots on the ground เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 09:14:03

ความคิดเห็นที่ 3 ข้อ4 โดยเฉพาะพวกฝูงควาย โกหกเป็นประจำ ก๊ากๆๆๆๆๆ จากคุณ : ไผ่บูรพา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 09:45:27

ความคิดเห็นที่ 4 คนเรา  จะแตกแยกกัน เพราะความแตกกันไม่ตรงกันในเหตุ ๒ อย่าง คือ ความเห็นแตกต่างกัน และ การกระทำแตกต่างกัน ... ถ้าจะให้สามัคคีกัน ต้องปรับ ๒ อย่างนี้ให้เหมือนกัน จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 09:54:47

ความคิดเห็นที่ 5 ความเห็นไม่ตรงกัน ก็ต้องใช้ความยุติธรรมตัดสิน เมื่อใดไม่มีความยุติธรรม เมื่อนั้นก็เตรียมตัวไว้เถอะ จากคุณ : Ozzman เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 09:55:47

ความคิดเห็นที่ 6 ความสามัคคี ไงล่ะครับ... จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 09:57:03

ความคิดเห็นที่ 7 หิริ โอตตัปปะ ขาดความละอาย อ้างผิดเป็นถูก เพราะบกพร่องโดยสุจริตหลุดคดีได้ จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 10:36:53

ความคิดเห็นที่ 8 ตัวกู ของกู "ปัญหาบ้านเมืองบางอย่าง อาจแก้ไขได้โดยไม่ต้องใช้เงินทองเลย เพียงแต่ผู้นำของประเทศต้องประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดี โดยการคิด พูด และทำตรงกัน และชี้นำประชาชนในชาติว่า ปัญหาของชาตินั้นอยู่ที่ทุกคนจะต้องร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขด้วยการลด ละ และเลิก                      "ความเห็นแก่ตัว" เป็นอันดับแรก" คำวินิจฉัยของนายประเสริฐ นาสกุล อดีตตุลาการเสียงข้างน้อยคดีซุกหุ้น จากคุณ : Nine Cats เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 10:43:31

ความคิดเห็นที่ 9 ธรรมมะข้อไหนไม่รู้ แต่การพัฒนาคงผิดพลาดช่วงเปลี่ยนจากยุคเกษตรมาเป็นอุตสหกรรม เราสร้างสิ่งต่างๆมากมาย แต่ขาดการพัฒนาจิตใจและทรัพยากรธรรมชาติ วันนี้แตะไปตรงไหนก็มีปัญหา บางเรื่องเกินแก้ไข จากคุณ : moomanow2 เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 11:11:43

ความคิดเห็นที่ 10 ศีลห้าครับ เช่น  การฉ้อโกงเงินหลวงไปใช้ส่วนตัว  ก็คือการผิดศีลข้อ สอง การพูดอย่างแล้วทำอีกิย่าง  ก็คือ การผิดศีลข้อ สี่ จากคุณ : trialuck เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 11:14:52

ความคิดเห็นที่ 11 วิธีที่จะแก้ไขก็ต้องใช้ยาของพระพุทธเจ้าเท่านั้นจึงจะหาย ก็คือความเมตตาและ ยุติธรรม ที่จะมอบให้กับทุกๆคนไม่ใช่จะมีให้เฉพาะคนที่เรารักเท่านั้น ถ้าเราจะมีเมตตา และความยุติธรรมให้เฉพาะคนที่เรารักเท่านั้น สิ่งนี้ก็เป็นความเห็นแก่ตัวเราดีๆนี่เอง พระ พุทธเจ้าท่านตรัสถึงสาเหตุของอคติลำเอียงนั้นเกิดได้จาก4อย่างคือ       1.ความอคติเกิดจากความรัก       2.ความอคติเกิดจากความชัง       3.ความอคติเกิดจากความกลัว       4.ความอคติเกิดจากความโง่เขลา เนื่องจากมนุษย์มีความรู้สึกมีมันสมองมีความคิดแยกแยะมีปํญญา สิ่งเหล่านี้จึงเป็นสา เหตุสำคัญที่คนส่วนใหญ่มองข้าม บางทีก็รู้ทั้งรู้แต่ก็แกล้งมองข้าม ทั้งหลายทั้งปวงก็จึง เป็นอย่างที่เราเห็นๆกันอยู่นี้แล จากคุณ : พอใจใจดี (พอใจใจดี) เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 11:28:16

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าถามว่าคนไทยผิดธรรมะข้อใหนก็ต้องตอบว่าทุกข้อละครับ ส่วนมูลเหตุ ขอสรุปสั้น ๆ ว่าเกิดจากระบบครับ ก็คือสังคมระบบทุนนิยม(แต่ประเทศบางประเทศ และคนไทยบางกลุ่ม ยกย่องว่าเป็น "ประชาธิปไตย" แต่เนื้อแท้แล้วคือ "ระบอบทุนนิยม" แห่งการเอารัดเอาเปรียบ ที่อำนาจล้วนอยู่กับพวกนายทุน แทนที่จะอยู่กับประชาชน ระอบบนี้และครับ ที่ยั่วกิเลส และตัณหา  สังเกตุดูเถอะครับ ไม่ต้องแค่ประชาชนหรอกครับแม้แต่ สมมุติสงฆ์ที่เรากราบไหว้ก็ยังอยู่ในวังวนของระบอบที่เต็มไปด้วยกิเลสและตัณหานี้ ไม่อยากบ่นแล้วครับ ไปสู่วิธีแก้ปัญหาเถอะครับ ***วิธีแก้ปัญหา ระบอบที่ดีที่สุดทางสายกลางที่สุดในสังคมปัจจุบัน ก็คือ แนวทาง หรือผมอยากจะยกย่องให้เป็น "ระบอบเศรษฐกิจพอเพียง" เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่ชี้แนวทางการดำรงชีวิต ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระราชดำรัสแก่ชาวไทยนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 เป็นต้นมา เศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับหลักธรรมในพระพุทธศาสนามากที่สุดครับ ลองคิดดูนะครับ ถ้าทุกคนพอเพียง เช่น ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น แค่นี้ปัญหาสังคมต่างก็ลดน้อยลงแล้วครับ*** ***ไปคิดเองนะครับว่าทำไมนายทุึน หรือผู้ที่มีอำนาจจากทุน(ซึ้งมีอำนาจมากในตอนนี้)ถึงไม่ชอบ ปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียง และ อย่าลืมคิดนะครับ ว่าเศรษฐกิจพอเพียงช่วยแก้ปัญาหาสังคมได้ขนาดใหน ผมว่าทุกคนรู้ เข้าใจ แต่หลายคนทำไม่ได้ นี้แหละครับ ถึงแม้รู้ปัญหา และแนวทาง ก็ไม่สามารถแก้ได้หรือกครับ ถ้าทุกฝ่ายไม่ร่วมมือกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีอำนาจไม่ใส่ใจ ไม่สนใจ ไม่รับรู้ รับทำ และปฏิบัติตาม*** เพิ่มครับ***ขอบอกว่าผมพยายามเลี่ยงการเมืองที่สุดแล้วครับ เลยไม่ขอเสนอ หรือวิจารณ์ เกี่ยวกับสีเสือ และก็ขอย้ำอีกว่าสาเหตุแห่งความแตกแยกของ ชาวไทย ก็คือ ระบบ นี้แหล่ะครับ *** แก้ใขลบข้อความบางข้อความครับ แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 54 13:15:09 แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 54 13:13:22 แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 54 13:07:42 จากคุณ : NAPUS 57 เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 13:06:04

ความคิดเห็นที่ 13 ในสมัยพุทธกาล ศากยวงศ์ยังพินาศต่อหน้าต่อตาพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเสด็จไปห้ามทัพของเจ้าชายวิฑูฑภะ ผู้เป็นหลานตาของศากยวงศ์เอง (แม่ของเจ้าชายเป็นศากยวงศ์ที่ไม่ได้รับการยอมรับ คือ พ่อ (ตาของวิฑูฑภะ) เป็นเจ้าชายแต่แม่ (ยายของวิฑูฑภะ) เป็นวรรณะอื่น) -ถ้าย้อนกลับไปทำไมถึงเกิดเรื่องนี้ ก็เพราะพระเจ้าปเสนทิโกศลอยากเป็นญาติกะพระพุทธเจ้า เลยไปขอเจ้าหญิงศากยะมาเป็นมเหสี ข้างศากยะก็ดูหมิ่นพระเจ้าปเสนฯ ให้ลูกสาวที่เกิดจากวรรณะอื่นให้ไป ต่อมาได้โอรสคือ เจ้าชายวิฑูฑภะ แล้วความก็แตกเพราะเจ้าชายกลับไปเยี่ยมพระเจ้าตา แล้วถุกหมิ่นด้วยการเอาน้ำนมล้างเก้าอี้ ล้างทุกอย่าง (เพื่อไล่เสนิยดจากจัณฑาล) เจ้าชายกะแม่เกือบถูกประหารแต่พระพุทธเจ้าขอบิณฑบาต -แล้วทำไมจ้าชายวิฑูฑภะได้ควบคุมกองทัพ เหตุก้เพระาพระเจ้าปเสนทิโกศล พระกรรณเบา ถูกยุยงจากพวกเสนาขี้อิจฉา บอกว่า "พันธุละเสนาบดีคิดไม่ซื่อ ต้องการบัลลังก์ของพระองค์" พันธุละเสนาบดี คอืเพื่อร่วมชั้นเรียนที่สำนักตักศิลา และมารับราชการอยู่ด้วยแล้วเป็นที่ชื่นชอบของมหาชนชาวชนทที่ถูกอำมาตย์เดิมกดขี่และตัดสินคดีไมเป็นธรรม จากคุณ : ช่างต่อเรือฯ เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 13:31:03

ความคิดเห็นที่ 14 เจ้าชายวิฑูภะ ยึดอำนาจจากพระเจ้าปเสนทิโกศล โดยความช่วยเหลือของ หลานชายของพันธุละเสนาบดี ฑีฆะการยะ เนื่องจากแค้นที่ปู่และพ่อ ๆ ลุง ๆ อา ๆ ของตนเองถูกพระเจ้าปเสนทิโกศลหลอกฆ่า โดยให้ทหารทำทีเป็นโจรอยู่นอกเมือง แล้วพระเจ้าปเสนทิโกศลสั่งให้พันธุละเสนาบดีและบุตรชายแฝด 16 คู่ (32 คน) ออกไปปราบโจร แล้วพระเจ้าปเสนทิโกศลก็วางกำลังทหารรอดักสังหารพันธุละเสนาบดีและลูก ๆ อีกทีหนึ่งในเวลากลับเข้าเมือง -เหตุการณ์ครั้งนั้น ส่งผลให้พระเจ้าปเสนทิโกศลต้องเสียเมือง หนีไปสิ้นพระชนม์ที่หน้าประตูเมืองของพระเจ้าอชาตศัตรูเพียงลำพัง และ ศากยวงศ์ต้องสูญสิ้นตระกูล เพราะวิฑูฑภะเอาเลือดใช้หนี้น้ำนม ขณะเดียกวันกองทัพของเจ้าิวฑูฑภะเองก็ถูกสายน้ำกวาดทำลาย จากคุณ : ช่างต่อเรือฯ เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 13:36:53

ความคิดเห็นที่ 15 เหตุการณ์วุ่นวายในเมืองของพระเจ้าปเสนทิโกศล บรรพบุรุษสมัยพุทธกาล ก็เกิดจากการอิจฉาริษยากันของพวกอำมาตย์ เมื่อช้างตัวโตทะเลาะกัน หญ้าแพรกย่อมแหลกราญ รวมทั้งเจ้าของช้างก็วินาศไปด้วยกัน ผู้ปกครอง เสนาบดี ประชากร พินาศหมด   มันเป็นเรื่องปกติของสังคมสัตว์ มนุษย์ก็คือสัตว์ชนิดหนึ่ง ถ้าขาดสติก็ไม่ต่างไปจากฝูงสิงห์โต หรือฝูงไฮยีน่า จากคุณ : ช่างต่อเรือฯ เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 13:41:05

ความคิดเห็นที่ 16 ปัญญาหรือความฉลาดเก่งกาจทางโลก  มันก้าวล้ำปัญญาในทางธรรมเกินไป ทั้งยังก้าวย่างผ่านกึ่งพุทธกาลมาแล้ว  ความเสื่อมย่อมเพิ่มทวี จากคุณ : Dusitvet เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 18:03:37

ความคิดเห็นที่ 17 ขาด กาลามสูตร โยนิโสมนัสสิการ จากคุณ : neap เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 18:27:17

ความคิดเห็นที่ 18 ปล่อยวางครับ  เมื่อไม่นานนี้ ผู้ใหญ่ที่ผมเคารพท่านหนึ่งบอกผมว่า เหตุการณ์บ้านเมืองวันนี้ ต้องอดทน เป็นเคราะห์กรรมของบ้านเมือง จากคุณ : คุณดี. ซี. เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 18:46:48

ความคิดเห็นที่ 19 คนสมัยนี้ผิดศีล ๕ ซึ่งเป็นพื้นฐานทางศีลธรรมกันจนเป็นเรื่องปกติ เกิดค่านิยมผิดๆ ยกย่องเงินเป็นพระเจ้า ขาดศีลธรรมในใจ ยึดผลประโยชน์ตัวเองเป็นที่ตั้ง เมื่อคนเสื่อม สังคมก็เสื่อม ประเทศชาติก็เสื่อม จากคุณ : ชนาธิป - พุทธแท้ เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 19:03:05

ความคิดเห็นที่ 20 1. คนในสังคมประพฤติผิดศีล 5 จำนวนมากเกินกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรประเทศ 2. นักการเมือง ข้าราชการระดับสูง และนักข่าวบางสำนัก ลืมส่องกระจกชะโงกตรวจดูเงาตนเองว่ากำลังทำผิดศีลบางข้ออยู่ เช่น การพูดโกหกแบบเนียน ๆ ซะจนนึกว่าเราเปล่าโกหกสักหน่อย เพียงแต่พูดความจริงไม่ทั้งหมด(คล้ายในหนังเรื่องอุโมงค์ผาเมือง - แนะนำให้ทุกคนลองไปดูแล้วจะรู้ซึ้งถึงชีวิตมนุษย์ปุถุชน)  พอเกิดมิจฉาทิฐิเข้าข้างตัวเองมากเกินจริง จึงทำให้เห็นกงจักรเป็นดอกบัว เมินเฉยต่อการผิดศีลจนเป็นกิจวัตร    หรืออีกข้อคือข้อลักทรัพย์ - ข้าราชการและนักการเมืองคอรัปชั่นจนเคยตัว จนเข้าใจว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่ผิด ไม่บาป ใคร ๆ ก็ทำกันทั้งนั้น เป็นต้น 3. มีความเห็นแตกต่างกันสุดขั้วเกินกว่าจะมาบรรจบกันได้ระหว่างเสื้อสีต่าง ๆ 4. ความยุติธรรมของระบบการตัดสินผิด/ถูก ลดน้อยลงเรื่อย ๆ ไม่ได้หมายถึงกรณีของศาลนะ แต่หมายถึงกระบวนการทั้งหมด เช่น ถ้าเป็นลูกหลานนายตำรวจใหญ่ พอมีคดีความเกิดขึ้น หลักฐานที่จะถูกส่งขึ้นไปให้ศาลท่านพิจารณาก็ถูกทำให้หายสาบสูญไป ทำให้คนมีเส้นมีสี สามารถหลุดรอดคดีดัง ๆ ได้ทุกครั้งไป  กลายเป็นว่าคุกมีไว้ขังคนจนเท่านั้น   5. ความบ้าอำนาจของนักการเมือง ทั้งในระดับ สส. และระดับล่างอย่างนักการเมืองท้องถิ่น อบต. อบจ.  ล้วนกระหายอำนาจแบบเท่าไรก็ไม่พอ จะเอาอีก เอาอีก ต้องการแบบไม่สิ้นสุด จากคุณ : Sirtraderlot เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 20:17:35

ความคิดเห็นที่ 21 ขาดความสามัคคีจ๊ะ จากคุณ : annyfatgirl เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 20:28:56

ความคิดเห็นที่ 22 ยกข้อธรรม ไม่ถูก  รู้แต่ว่าเป็นเรื่องความเห็น  ถ้าเห็นตรงแปลว่าถูกว่าดี  ถ้าเห็นไม่่ตรงแปลว่าชั่วว่าต่ำช้า จากคุณ : pathomlak11 เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 20:37:41

ความคิดเห็นที่ 23 ธรรมะสำคัญที่สุดที่คนไทยประพฤติผิดนั้นก็คือ ไม่เข้าใจความเป็นอนัตตาของชีวิต คือไปเข้าใจว่าชีวิตของเรานี้เป็นอัตตา หรือเข้าใจว่าชีวิตเป็นตัวเรา-ของเรา จึงทำให้เกิดความเห็นแก่ตัวจัด แล้วเกิดความแตกแยกเพื่อผฃประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ความเข้าใจผิดนี้มันมาจากก้นบึ้ง(จิตใต้สำนึก)ของจิตใจคนไทย ถ้าจะแก้ก็ต้องแก้ที่จุดนี้ คือเปลี่ยนความเชื่อเสียใหม่ เอาพุทธศาสนาที่เป็นแก่นแท้มาสอน เพื่อกำจัดความเข้าใจผิดว่าชีวิตเป็นอัตตา ด้วยความเข้าใจที่๔กว่าอชีวิตเป็นอนัตา จากคุณ : What am I? เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 20:55:53

ความคิดเห็นที่ 24 เป็นเพราะเราไม่ให้อภัย   และเราขาดความเมตตาสงสาร เมื่อเห็นคนอื่นผิด เราโกรธ ซึ่งแม้จะน่าโกรธ ก็เป็นการคิดผิด  ที่ผิดเพราะ บาป ที่ถูก คือ เราควรสงสาร ความกรุณา เมตตา เป็นบุญ เรามักมีอคติ กับประสบการณ์ของเรา หรือจากคนที่เราเชื่อถือ ทำให้แบ่งฝักฝ่ายในใจเราไว้ก่อน ทำให้ไม่เป็นธรรม ทำนอง ถึงจะดี เราก็หาเรื่องติได้ถ้าเราไม่ชอบ และไม่ดี เราก็มองไม่เห็นได้  ถ้าเป็นฝ่ายที่เราชอบ เราควรปล่อยวางความชอบไม่ชอบไปเสีย  คิดว่า เราทำตัวให้ดี สงสารให้อภัย เขาทำดี เขาก็ได้ดี เขาทำไม่ดี เขาก็ได้รับกรรม น่าสงสารออก จึงให้สงสาร เมตตาให้มากไว้ ความแตกแยกจะค่อยลดลง และหมดไปนั่นเองครับ จากคุณ : จักรแก้ว เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 21:40:50

ความคิดเห็นที่ 25 เพราะเจริญ อกุศลกรรมบถ ๑๐ ไม่ได้เจริญ กุศลกรรมบถ ๑๐ บ้านเมืองจึงแตกแยก จากคุณ : ตามมีตามได้ ตามเหตุตามปัจจัย เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 16:49:39

ความคิดเห็นที่ 26 ขาดการฉุกคิด และทบทวนพิจารณาครับ เลยโดนปั่นหัว กลายเป็นจิ้งหรีดการเมือง  ให้สองฝ่ายสร้างความเกลียดชังขึ้นในใจของประชาชนคนไทยด้วยกัน หลายๆคนไม่น่าเชื่อ  ดูภายนอก ธรรมมะธัมโม  แต่ข้อเขียนใน facebook แสดงออกถึงความเกลียดชังในใจอย่างรุนแรง  ไม่รู้ภาวนายังไง ไม่เห็นโทสะในใจตัวเอง ผมอยากแนะนำให้ ก่อนจะสรุปว่าใครผิด ใครเลว ใครชั่ว  ให้ลองศึกษาประวัติศาสตร์ และการเมืองเยอะๆหน่อย จะมองออกเองว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมืองนี้ จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 00:59:38

ความคิดเห็นที่ 27 เพราะคนไทยขาดการให้อภัยทาน และมีอาฆาตพยาบาทรุนแรง และขาดการปฏิบัติธรรม ในการชำระกิเลสในตน จนต้องให้กิเลส มาปรากฎหน้าฉาก ในสังคม จนคนอื่นเดือดร้อนไปทั่ว จากคุณ : แล้วทำไม12 เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 17:10:58

ความคิดเห็นที่ 28 มีสาเหตุที่สลับซับซ้อน เกินกว่าจะเข้าใจได้ ดังเช่นมีการทำนายไว้แล้ว ลงพิมพ์เตือนแต่ผู้มีอำนาจไม่สนใจเอง จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 11:36:56