ส่วนที่คุณmax25003 กล่าวว่า
-------------------------------
ทำไมไม่ตรัสว่า แดนนิพพานไม่มีจริง ตือไม่ต้องรอให้สาวกสมัยนี้ อ้บอกแทนพระศาสดา
ตรัสสาพระองค์ทรง ไม่มีกำมือของอาจารย์ (ผิดตกยกเว้น). คือขยักธรรมที่รู้. กลัวศิษย์แก่งกว่า
คำพูดนี้ก็จะย้อนกลับไป
จูฬสุญญตาสูตร นั้นตอนไหนหมายรวมถึงนิพพานหรือครับ
จากคุณ : max25003
---------------------------
ลองเอาข้อความนี้ไปอ่าน
ว่าด้วยสุญญตาวิหาร
[๓๔๒] ดูก่อนอานนท์ สมณะหรือพราหมณ์ในอดีตกาลไม่ว่าพวกใด ๆ ที่เข้าถึงสุญญตสมาบัติอันบริสุทธิ์ เยี่ยมยอดอยู่ ทั้งหมดนั้น ก็ได้เข้าถึงสุญญตสมาบัติอันบริสุทธิ์ เยี่ยมยอดนี้เองอยู่ สมณะหรือพราหมณ์ในอนาคตกาลไม่ว่าพวกใด ๆ ที่จะเข้าถึงสุญญตสมาบัติอันบริสุทธิ์ เยี่ยมยอดอยู่ ทั้งหมดนั้น ก็จักเข้าถึงสุญญตสมาบัติอันบริสุทธิ์ เยี่ยมยอดนี้เองอยู่ สมณะหรือพราหมณ์ในบัดนี้ ไม่ว่าพวกใด ๆ ที่เข้าถึงสุญญตสมาบัติอัน บริสุทธิ์ เยี่ยมยอดอยู่ ทั้งหมดนั้นย่อมเข้าถึงสุญญตสมาบัติอัน บริสุทธิ์ เยี่ยมยอดนี้เองอยู่
ดูก่อนอานนท์ เพราะฉะนั้นแล พวกเธอพึงศึกษาไว้อย่างนี้เถิดว่า เราจักเข้าถึง
สุญญตสมาบัติอันบริสุทธิ์ เยี่ยมยอดอยู่.
-----------------------
อรรถกถาอธิบายว่า
.... เพราะสมณพราหมณ์ คือพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระสาวกของพระพุทธเจ้าในอดีตก็ดี สมณพราหมณ์คือพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และสาวกของพระพุทธเจ้า ในอนาคตก็ดี สมณพราหมณ์คือพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และสาวกแห่งพระพุทธเจ้าในปัจจุบันก็ดี เข้าสุญญตะอันบริสุทธิ์ยอดเยี่ยมนี้อยู่แล้ว จักอยู่และกำลังอยู่...
ก็คือ ไม่ว่าพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า หรือพระอรหันต์ ในอดีต ปัจจุบัน ในอนาคตก็ตาม ย่อมเข้า "สุญญตะ" อันบริสุทธิ์
ดังนั้นก็ชัดอยู่แล้ว ว่า "สุญญตะ" นี้ คือ นิพพาน และ นิพพาน = สุญญตะ (ว่างจากกิเลส ว่างจากอัตตา = อนัตตา)
ส่วนที่คุณ Max เขียนราวกับว่า ... กำลังพยายามคาดคั้้นเอากับ "พระผู้มีพระภาคเจ้า" ให้ทรงตอบว่า
..."ทำไมไม่ตรัสว่า แดนนิพพานไม่มีจริง ตือไม่ต้องรอให้สาวกสมัยนี้ อ้บอกแทนพระศาสดา"..
อันนี้ ผมและใครๆคงจะช่วยตอบอะไรไม่ได้ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไมพระองค์จึงไม่ทรงตอบในเรื่องที่คุณถาม นอกจากจะลองคิดด้วยกำลังสติปัญญาของตนเองว่า..
"ในเมื่อพระุพุทธศาสนาเกิดขึ้นมาเพื่อปฏิเสธลัทธิอัตตานิยม ความเชื่อเรื่องอัตตาทั้งหลาย ประกาศ อนัตตา ขึ้นมาแล้ว จะไปมีพระสงฆ์ที่ไหนเข้าใจอีกล่ะว่า นิพพานเป็นอัตตา นิพพานเป็นดินแดน จะมีก็แต่พระสงฆ์ที่เข้าใจว่า พระอรหันต์ตายแล้วสูญ เพราะไม่มีนิพพานเป็นดินแดน (เช่น พระยมกะ)
จนพระสารีบุตรต้องมาแก้ความเข้าใจผิดว่า พระอรหันต์ตายแล้ว จะเรียกว่าสูญไม่ได้ เพราะโดยแท้จริง ไม่มีขันธ์ใดๆ ทั้งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่จะเรียกว่า มีสัตว์ มีบุคคล ในขันธ์เหล่านั้น (แม้แต่จะเรียกว่า นั่น นี่ เป็นพระอรหันต์ก็ตาม) เมื่อพระขีณาสพนิพพานแล้ว จึงมีสภาวะเพียง ดับแล้ว ถึงแล้วซึ่งการตั้งอยู่ไม่ได้"
ดังเช่นข้อความในยมกะสูตร สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค ข้อที่ ๒๐๔ ความว่า
[๒๐๔] พระสารีบุตร. ดูก่อนท่านยมกะ ถ้าชนทั้งหลายพึงถามท่านอย่างนี้ว่า ท่านยมกะ ภิกษุผู้ที่เป็นพระอรหันตขีณาสพ เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเป็นอะไร ท่านถูกถามอย่างนั้นจะพึงกล่าวแก้ว่าอย่างไร ?
พระยมกะ. ข้าแต่ท่านสารีบุตร ถ้าเขาถามอย่างนั้น. ผมพึงกล่าวแก้อย่างนี้ว่า รูปแลไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นดับไปแล้ว ถึงแล้วซึ่งการตั้งอยู่ไม่ได้ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นดับไปแล้ว ถึงแล้วซึ่งการตั้งอยู่ไม่ได้. ข้าแต่ท่านสารีบุตร ผมถูกเขาถามอย่างนั้น พึงกล่าวแก้อย่างนี้.
[๒๐๕] พระสารีบุตร. ดีละ ๆ ยมกะ
---------------------------
ถ้าพระขีณาสพตายแล้วไปเกิดอีก(ในแดนนิพพาน, อายตนะนิพพาน, เมืองนิพพานฯลฯ พระสารีบุตรก็คงต้องกล่าวว่า "พระอรหันต์ตายแล้วไปอายตนะนิพพาน" หรือไปแดนนิพพานอะไรก็ว่าไป
ส่วนที่คุณ max25003 พยายามใช้ตรรกะย้อนไปย้อนมา ทำนองว่า "โอ๊ย ถึงในพระไตรปิฎกจะไม่มีตรัสถึง แดนนิพพาน แต่ก็ไม่ได้ตรัสเหมือนกันว่า ไม่มีแดนนิพพาน นี่หว่า"
ผมว่าตรรกะแบบเด็กอนุบาลทะเลาะกันอย่างนี้คงไม่ค่อยจะเหมาะกับการนำมาใช้ ถกธรรมล่ะมั้งครับ..
ก็ในเมื่อเรากำลังกล่าวถึงพระไตรปิฎก ว่า "ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้อย่างไร"
ก็ต้องเอาพระไตรปิฎกมากางกัน แล้วบอกว่า "ไม่มีเรื่องแดนนิพพาน ในพระไตรปิฎก" หรือ "มีเรื่องแดนนิพพาน ในพระไตรปิฎก"
ทีนี้เมื่อในพระไตรปิฎกไม่มี คุณก็พยายามบอกว่า "ไม่มีในพระไตรปิฎก ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีแดนนิพพานนะโว้ย เพียงแต่ไม่มีบอกไว้ในพระไตรปิฎกเท่านั้นเอง ว่ามีหรือไม่มี"
คล้าย ๆ กับคนที่เข้าไปในเซเว่นอีเลฟเว่น แล้วไม่เห็นเป๊ปซี่ในตู้แช่ พนักงานก็บอกแล้วว่า "ในตู้แช่และในร้าน ไม่มีเป๊บซี่ เป๊ปซี่หมดแล้ว"
คนๆนั้นก็คงจะโวยวายว่า "ไม่จริง! ถึงจะไม่เห็นเป๊ปซี่ในร้าน หรือในตู้แ่ช่ ก็ไม่ได้หมายความว่าที่นี่ไม่มีเป๊ปซี่นะโว้ย!!" แล้วก็เอะอะโวยวายเพื่อจะบอกว่ามีเป๊ปซี่ให้ได้ ทั้งๆที่มันไม่มี
คนประเภทนี้ คุณ Maxฯ คิดว่าควรจะส่งโรงบาลปากคลองสาน หรือส่งศรีธัญญาดีครับ?
ผมว่า เอาง่าย ๆ ดีกว่า ไม่ต้องใช้ตรรกะ ไม่ต้องอ้างอะไรให้มากมาย แค่ยอมรับตามตรงว่า "ในพระไตรปิฎก ไม่มีแดนนิพพาน ถ้ามีแดนนิพพานอยู่จริง พระพุทธเจ้าก็ต้องตรัสไว้แล้ว"
ส่วนคุณจะเชื่อว่า "ต้องมีแดนนิพพานสิ ถ้าไม่มี พระองค์ก็ต้องตรัสเอาไว้แล้วสิว่ามันไม่มี" ... (ไม่คิดบ้างว่า ในเมื่อมันไม่มี แล้วพระองค์จะต้องตรัสอีกทำไมว่ามันไม่มี ??) อันนั้นก็เป็นสิทธิของคุณ (และอีกหลาย ๆ ท่านหลาย ๆ คน) ที่จะเชื่อเช่นนั้น และจะบอกเช่นนั้น
ผมและใครๆ เพียงแต่บอกได้ว่า "ไม่มีในพระไตรปิฎก" ก็เท่านั้นเอง
แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 54 01:13:31