ความคิดเห็นที่ 1 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 54 20:22:22 จากคุณ : issarasena เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 16:29:46

ความคิดเห็นที่ 2 ทำไมต้องไปด้วยละครับ จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 16:30:39

ความคิดเห็นที่ 3 สอบถามไปท่านก็คงไม่ตอบ ไม่ใช่กิจของสงฆ์และกงการอะไรของเรา ท่านคงตอบแบบนี้อ่ะครับ แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 54 17:02:20 จากคุณ : Nok-Pik เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 17:01:23

ความคิดเห็นที่ 4 หาหนังสือ ๕๐ ปีสวนโมกข์อ่านเป็นโหมโรงฯ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 17:04:38

ความคิดเห็นที่ 5 รู้ (ตรงตามจริง). ไม่ต้องคิด คิดเพราะยังไ่ม่รู้. (แต่สำคัญว่ารู้) ดังที่ตรัสว่า. ศาสดาและสาวกย่อมกล่าวตรงกันในปฏิจจสมุปบาท จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 17:40:14

ความคิดเห็นที่ 6 ท่าน จขกท ฉุกคิดอะไรไหมครับ เช่น ผู้ที่กล่าวหาท่านพุทธทาสฯ ล้วน ฆราวาสที่แตกต่างกับภิกษุเหล่านั้น ที่ท่านอ้างอิง แล้วก็พยายามแย่งชิงเนื้อที่สื่อ นี้ คือห้องศาสนาเพื่อการใดนั้น นับจำนวนได้ เก่าไปใหม่มา ท่าน จขกท เสนอกระทู้นี้นับเป็นกุศลครับ ขออนุโมทนา จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 17:47:46

ความคิดเห็นที่ 7 เคยอ่านหนังสือประวัติหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ มีตอนหนึ่งที่กล่าวถึงท่านพุทธทาสจึงขอคัดมาลงดังนี้ค่ะ "เมื่อเอ่ยถึงท่านพุทธทาส แห่งสวนโมกขพลาราม จ.สุราษฎร์ธานี หลายๆ คนต้องรู้จัก เพราะท่านเป็นพระที่สอนการปฏิบัติธรรมแบบทางตรงไม่อ้อมค้อม จนบางครั้งมีผู้สงสัยว่า ไม่เห็นท่านเอ่ยถึงนรก สวรรค์ ชาตินี้ ชาติหน้า ซึ่งบรรดาลูกศิษย์ของท่านหลายๆ คน เลยตัดสินว่าที่ท่านไม่พูดนั้นแสดงว่า ไม่มีจริงเพราะท่านสอนแบบประโยชน์ในปัจจุบันจริงๆโดยเขาอ้างว่าตามพระไตรปิฎก ที่พระพุทธเจ้าสอนพุทธธรรมกำมือเดียวแต่ใบไม้ที่นอกกำมือมีอีกมาก จะปฏิเสธไปเลยทีเดียวไม่ได้ตามการวิเคราะห์ของผู้เขียนผู้ที่เข้ามาสนใจในการปฏิบัติธรรม มีหลายจำพวก แยกได้คือ ๑.มาด้วยศรัทธา ๒.มาด้วยความทุกข์ ๓.มาเพื่อสร้างปัญญา พวกที่ศรัทธานั้นมีหลายประเภทบางคนมาด้วยสนใจในอิทธิฤทธิ์ พวกพระเครื่อง ฯลฯโดยเริ่มจากวัตถุมงคลเป็นตัวชักนำพวกที่มาด้วยความทุกข์ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครเลยเข้ามาหาศาสนาพวกที่ศรัทธาแท้ๆ นั้น เสมือนพวกเรียนอุดมศึกษา ระดับมหาวิทยาลัยท่านพุทธทาส ท่านจะสอนเน้นนักศึกษาระดับนี้เป็นการสอนแบบเซน (สูญญตวาทะ) บางครั้งการสอนเรื่องจิตว่างของท่านซึ่งใช้คำว่า "จงทำงานทุกชนิดด้วยจิตว่าง"เป็นการทำงานเพื่องานทำบุญโดยไม่หวังอะไรซึ่งระดับจิตต้องพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งเคยมีวิวาทะระหว่างท่านคึกฤทธิ์กับท่านพุทธทาสในเรื่องนี้มีหนังสือตีพิมพ์ออกมาเป็นการพูดกันคนละมุม เมื่อมีเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ จึงเกิดข้อสงสัยในพวกปฏิบัติธรรมว่าท่านพุทธทาส อาจเป็นพระประเภทสุขวิปัสสโกทำให้ไม่รู้เรื่องสวรรค์ นรกแต่ในความเป็นจริงแล้วถึงแม้ว่าได้แบบปัญญาล้วนๆ ก็ย่อมไม่ปฏิเสธในเรื่องเหล่านี้ เมื่อมีคณะศิษย์ของหลวงปู่ดู่ได้เดินทางไปนมัสการท่านพุทธทาสโดยนำสังฆทานพร้อมพระพุทธรูปที่อธิษฐานจิตโดยหลวงปู่เพื่อนำไปถวาย พร้อมคำถามที่จะกราบเรียนถึงเรื่องลึกลับต่างๆ ว่าจะมีจริงหรือเป็นตามคำเล่าลือหรือไม่ว่าท่านไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ ผู้คนไปนมัสการท่านมาก เป็นปกติของพระผู้ใหญ่ คณะที่ไปจัดแจงนำสังฆทานเข้าไปถวาย  เมื่อเห็นว่าปลอดคน ท่านพุทธทาสรับสังฆทานเสร็จเรียบร้อย ท่านถามว่า "พระนำมาจากไหน" เมื่อได้รับคำตอบจากคณะศิษย์ ท่านพูดขึ้นมาว่า "เรื่องนี้ต้องคุยกันนาน ไว้ตอนกลางคืนมาคุยกันใหม่" สรุปว่ายังไม่รู้คำตอบที่แท้จริง เพราะภายในวัดสวนโมกข์ไม่ค่อยมีการสร้างพระพุทธรูปและวัตถุมงคลต่างๆ ตกกลางคืนตามที่ท่านนัดหมายเมื่อคณะศิษย์ของหลวงปู่เข้าไปกราบท่าน ท่านจึงพูดขึ้นว่า "เราเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า จะปฏิเสธเรื่องของพระพุทธเจ้าไม่ได้ นรก สวรรค์นั้น ก็เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าเป็นจริง ชาตินี้ ชาติหน้า แม้แต่ยุคพระศรีอาริย์ก็มีจริง แต่เราเล็งเห็นความหยาบของจิตในมนุษย์เหล่านี้ เราเลยไม่สอน สอนแต่บรมธรรมของพระพุทธเจ้าเท่านั้น" คณะที่ไปกราบรับฟังและพร้อมกับขอขมาโทษในองค์ท่านเพราะทุกคนไม่คิดจะได้ฟังประโยคเหล่านี้ ทำให้หมดสงสัย ซึ่งตรงกับที่หลวงปู่ดู่เคยพูดไว้เมื่อมีลูกศิษย์ของท่านกล่าวเชิงวิจารณ์ท่านพุทธทาสโดยท่านเตือนว่า "อย่าไปประมาทท่าน  ท่านก็มีดีของท่าน เราไม่รู้จริง เดี๋ยวเป็นบาปนะแก"                                                                                    ที่มา : ร่มเงาพุทธฉัตร โดยอาจารย์ศุภรัตน์ แสงจันทร์ จากคุณ : peaceful moments เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 18:52:28

ความคิดเห็นที่ 8 รู้เห็นธรรมในธรรม พระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ จากคุณ : chiwat เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 19:02:01

ความคิดเห็นที่ 9 คือจริงๆแล้วผมก็เคารพนับถือหลวงพ่อพุทธทาสท่านนะครับแต่ผมอยากได้ข้อความที่เหล่าครูบาอาจารย์ที่ท่านยกมาว่าเคยพูดถึงท่านยังไงบ้างหรือคลิปเสียงก็ยังดีครับด้วยรักเคารพและนับถือแต่ผมอยากรู้หรือได้ยินจริงๆนะครับ จากคุณ : wutthitham (wutthitham) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 19:19:46

ความคิดเห็นที่ 10 เสริมนิดครับ ยังมี ท่านติช นัท ฮัน และ ท่านดาไลลามะ ซึ่งเป็นพระระดับโลก ก็ยังให้การเคารพท่านพุทธทาส จากคุณ : Hippokib เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 20:41:34

ความคิดเห็นที่ 11 คห.10 ผมไม่เคยเห็นทั้งสองท่านนั้น กล่าวร้ายกับใครเลยนะครับ แม้ท่านทั้งสองจะโดนเจ้าหน้าที่รัฐของจีนและเวียดนาม บีบคั้นสารพัดวิธีก็ตาม ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ท่านจะชื่นชมทุกๆ คนที่ท่านรู้จักและพบเจอ เพราะฉนั้น จะเอามาเป็นมาตราฐานอะไรไม่ได้หรอกนะครับ จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 20:50:07

ความคิดเห็นที่ 12 คคห ๗ นรก ท่านพุทธทาส. เอามาจากพระโอษฐ์  ฉผัสสายติกนรก. จะนรกใต้ดินหรือตามที่ตรัสคำว่า ฉผัสสายติกนรก. ก็เนื่องกับสัสสตทิฏฐิ หรือสัมมาทิฏฐิของผู้นั้น สวรรค ท่านพุทธทาสเอามาจากพระโอษฐ์ ฉผัสสายติกสวรรค์ เท่าที่มีข้อมูล นรก สวรรค์ ตามที่เอามาจากพระโอษฐ์ ก็ท่านพุทธทาสท่านแรก มิใช่หรืิอที่สอน. เป็นท่านแรก ฯในรอบ๑๐๐ปีฯ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 21:28:01

ความคิดเห็นที่ 13 ความคิดเห็นที่ 11     คห.10 ผมไม่เคยเห็นทั้งสองท่านนั้น กล่าวร้ายกับใครเลยนะครับ แม้ท่านทั้งสองจะโดนเจ้าหน้าที่รัฐของจีนและเวียดนาม บีบคั้นสารพัดวิธีก็ตาม ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ท่านจะชื่นชมทุกๆ คนที่ท่านรู้จักและพบเจอ เพราะฉนั้น จะเอามาเป็นมาตราฐานอะไรไม่ได้หรอกนะครับ จากคุณ : ซามูไรหมูตอน     เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 20:50:07     เรื่องของท่านติช นิท ฮัน (ซึ่งผมก็เคารพเหมือนกัน) กับท่านดาไลลามะ ผมอ่านเจอมาด้วยตัวเอง ว่าท่านทั้งสองพูดถึงท่านพุทธทาสอย่างไร ว่าแต่ คุณมายุ่งอะไรกับผมครับ? แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 54 21:42:53 จากคุณ : Hippokib เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 21:39:15

ความคิดเห็นที่ 14 อย่าเชื่อเพียงเพราะเหตุว่า มีคนเขาบอกมา แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 54 22:22:33 จากคุณ : What am I? เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 22:21:15

ความคิดเห็นที่ 15 ปัญหาคือเราบรรลุธรรมหรือเปล่า จากคุณ : Serene_Angelic เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 22:28:32

ความคิดเห็นที่ 16 กระทู้นี้ ใครจะตอบก็ได้ครับ เป็นที่สาธารณะครับ ผมพูดจริงตามที่รู้มา แต่ถ้าไม่พอใจก็ด่าผมได้ ทำอะไร ทำให้ที่สุด อย่าคาใจ แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 54 22:38:57 จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 22:38:30

ความคิดเห็นที่ 17 หลวงบอย จะให้ไปสอบถาม หลวงปู่ศรี มหาวีโร ใน โลงเย็น ท่านใดจะไปก็รีบๆ หน่อย   แต่ถ้าหลวงปู่ ลุกขึ้นมาสนทนา ด้วย จะทำไงดี จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 00:31:43

ความคิดเห็นที่ 18 จขกท. น่าจะสอบทาน จากพระไตรปิฏกดีกว่า การไปถามท่าน เป็นการเสียมารยาท ไม่มีใครอยากว่าใครสอนผิดหรอก จากคุณ : KOB ON KALA เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 06:42:07

ความคิดเห็นที่ 19 "อย่าไปประมาทท่าน  ท่านก็มีดีของท่าน เราไม่รู้จริง เดี๋ยวเป็นบาปนะแก" ชอบตรงนี้ที่สุด จากคุณ : โอม37 เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 08:27:32

ความคิดเห็นที่ 20 ทุกวันนี้ ข้าพเจ้าก็ยังตามอ่านหนังสือของท่านพุทธทาสเรื่อยๆ รู้สึกท่านสอนเน้นเฉพาะเรื่องที่เป็นแก่นธรรมของพระพุทธเจ้า เป็นทางตรง ทางใกล้ที่สุด ที่จะนิพพานได้ จากคุณ : KONICHIWA เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 08:55:51

ความคิดเห็นที่ 21 ปฏิบัติ กันดีกว่า อย่ามัวเสียเวลาเลย จากคุณ : เสือแผ่น เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 10:58:14

ความคิดเห็นที่ 22 เวลามีคนไปถามท่านพุทธทาส ท่านก็จะกล่าวออกมาลักษณะนี้ แต่เจตนาในการเผยแพร่ทิฏฐิของท่าน ที่บิดความหมายของพระธรรม ไปมากมาย ท่านปฏิเสธพระสัพพัญญุตญาณ. ปฏิเสธการบำเพ็ญพุทธบารมีหลายแสนมหากัปป ปฏิเสธพระไตรปิฎกส่วนที่กล่าวถึงภพภูมิทั้งหมด หากท่านอยากเลือกสอนเฉพาะธรรมในภพชาตินี้ แล้วทำไมท่านต้องปฏิเสธพระไตรปิฎกส่วนอื่นอีกกว่าครึ่งด้วย (ท่านไม่เชื่อว่ามีพระอรหันต์ 500 รูปมาร่วมในปฐมสังคายนาที่ถ้ำสัตบรรณ ด้วยซ้ำ) ที่สำคัญ นิยามของ "นิพพาน"  ของท่านพุทธทาส ก็ยังไม่ใช่ "นิพพาน" ที่เป็นเป้าหมายของพุทธศาสนา ยังไม่พอแค่นั้น ท่านพุทธทาส ยังสรุปเอาเอง(จริงๆต้องใช้คำว่ากล่าวตู่) ว่าพระพุทธเจ้าตรัสเอออวยกับพราหมณ์ อันเป็นต้นชนวนที่ทำให้ลูกศิษย์ท่านพุทธทาสนำไปกล่าวหมิ่นพระอรรถกถาจารย์ ดังที่เราเห็นในเวบบอร์ดนี้ ความเข้าใจว่างานของท่านพุทธทาส"ตรงทาง"นั้น เข้าใจผิดนะคะ พระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีอยู่ในพระไตรปิฎกค่ะ ช่วยกันรณรงค์ให้ศึกษาพระธรรมจากพระไตรปิฎกกันดีกว่าค่ะ แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 54 11:53:07 จากคุณ : เอิงเอย เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 11:17:27

ความคิดเห็นที่ 23 จะต้องไปถามพระเหล่านั้นทำไม? และพระเหล่านั้น จะสามารถยืนยันอะไรได้หรือ ก็ในเมื่อรายชื่อพระที่เอ่ยมาน่ะ ไม่เห็นว่า จะมีท่านไหน ที่จะเทียบชั้น กับท่านพุทธทาสได้เลย ไม่ว่า ทางปริยัติ หรือปฏิบัติ   ท่านที่มีรายชื่อต้น ๆ ขอยกไว้  แต่ไอ้รายชื่อล่าสุด พระปราโมช น่ะ เขี่ยทิ้งไปห่าง ๆ ได้ไหม อย่าได้เอามาร่วมวิเคราะห์ หลักคำสอนท่านพุทธทาสเลย  พระพรรค์อย่างนั้นน่ะ (ใช่พระหรือเปล่า ก็ยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำ) จากคุณ : รถเรณู เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 11:21:38

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นความเห็นของคุณ รถเรณู แล้วก็น่าสนใจ ว่าเราเองที่เล่นบอร์ดอยู่นี้ เทียบชั้นอะไรได้กับใครบ้างหรือยัง จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 13:22:19

ความคิดเห็นที่ 25 พระปราโมทย์ ทำอะไรครับ ไม่เห็นจะทำอะไร ไปเรียกพระพรรค์อย่างนั้น เสี่ยงนรกนะครับท่าน จากคุณ : แล้วทำไม12 เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 16:09:50

ความคิดเห็นที่ 27 พระปราโมทย์ ทำอะไรครับ ไม่เห็นจะทำอะไร ไปเรียกพระพรรค์อย่างนั้น เสี่ยงนรกนะครับท่าน จากคุณ : แล้วทำไม12 เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 16:11:22

ความคิดเห็นที่ 28 พระพุทธทาสกล่าวตู่พระสูตร กล่าวว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าบางอย่าง "พร่ำเพรื่อ ไม่มีประโยชน์" (ภาพจากคุณเฉลิมศักดิ์) แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 54 18:18:42 จากคุณ : Serene_Angelic เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 18:18:05

ความคิดเห็นที่ 29 แรกๆก๋อ่านของท่าน ไม่ค่อยเข้าใจ-- หลังๆ พบว่า มีศิษย์ฆราวาสไปต่อเติมเสริมเอาเอง  เช่น เรื่องศาลพระภูมิ จริงๆแล้วในโลกแห่งความจริง ก็มีทุกๆที่ แม้แต่ห้างสรรพสินค้า คอนโด และมีผู้ที่ทำผิด ลบหลู่ศาลพระภูมิ -เจ้าที่ ตายไปกันไปเยอะ โดยไม่สมควรที่จะต้องตาย --หลังๆ ทางสายท่านก็ไม่ได้ว่าปฏิเสธเรื่องปาฏิหาร แต่เน้นทางให้เรามีปัญญา --ล่าสุด พี่สาวได้พบกับ จิตว่าง จิตเดิมแท้ จิตว่างที่ไร้กระแส โดยมีอาจารย์สอน และประยุกต์เรื่องความว่าง -จิตว่างของท่านมา ซึ่งคิดว่าเป็นทางลัดตรง เพราะสมาธิวิปัสสนาทุกแบบ  เธอได้ปฏิบัติมาหมดแล้ว ท่านพุทธทาสนี้ของจริงครับ  โดยที่ผมและพี่สาวก็เรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ -ชอบคิดวิเคราะห์อยู่แล้วครับ --ยิ่งธรรมมะของพระพุทธองค์เป็นของลึกซึ้ง เรียนไม่มีจบครับ ธรรมมะง่ายๆทำกันได้หรือยัง - แต่ธรรมมะจริงๆ ก็ไม่ง่ายและไม่ยาก อยู่รอบตัวเรา และในตัวเราอีกด้วย แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 54 21:55:36 จากคุณ : jesdath เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 21:54:02

ความคิดเห็นที่ 30 ความเห็นที่ ๒๕ ....ไปเรียกพระพรรค์อย่างนั้น เสี่ยงนรกนะครับท่าน ... ผมขอตอบว่า....    เอานรก ไปขู่คนอื่นเถอะครับทั่น .....ผมไม่ใช่คนเส้นตื้น ที่อะไร ๆ ก็กลัวนรกจะมากินกบาล....    รู้ไหมว่า ในนรกน่ะ ใครคุม?  ....ลูกน้องผมเองแหล่ะ ...หมอนั่นตายไป แล้วไปเป็นยมบาล  มันส่งข่าวมาเสมอว่า หากลูกพี่สนใจจะไปเยี่ยมนรกเมื่อไหร่....เขาจะเปลี่ยนกะทะทองแดง เป็นอ่างน้่ำวนจากุ๊ดชี่ ไว้ต้อนรับ....เขาว่ามายังงั้นอ่ะนะ    ผมก็ตอบลูกน้องเก่าไปว่า...อืม จะขอลองคิดดูก่อนนะ ว่าจะไปนรกก่อน หรือไปสวรรค์ก่อนดี....เพราะทางสวรรค์ พระอินทร์ (เพื่อนผมเองแหล่ะ) ก็เชิญมาเหมือนกัน....เห็นบอกว่า จัดอ๊อฟชั่นไว้เพียบน่ะ ไว้ต้อนรับ รถเรณู เพื่อนรัก  ..ว่างั้น  พระอินทร์ บอกว่า วันแรก ของการรับน้องใหม่ บนสวรรค์ แกจะยกอัปสรทั้ง ๕๐๐ นาง  ให้มาคอยนวดเท้า ให้รถเรณู ให้สมกับชื่อตำแหน่งของนางพวกนั้น ที่เรียกกันว่า "ปาทจาริกา"   พระอินทร์บอกว่า  ยกให้หมดเลยนะ รถเรณุู เพื่อนรัก แต่ขอสงวนไว้เพียงเทพธิดา ๔ นางเท่านั้น คือ สุธัมมา สุจิตตรา สุนันทา และสุชาดา  ผมก็บอกพระอินทร์ไปว่า ขอบใจนะ อินทร์เพื่อนรัก ถึงเพื่อนจะยก ๔ นางนั้นให้ผม ผมก็ไม่ขอรับ เพราะทั้งสี่นั้น เป็นภรรยาสุดเลิฟ ของเพื่อนนี่นา      เอ้า...สรุปว่า ใครก็ตาม ที่กังวลว่า รถเรณู จะตกนรก หรือ จะขึ้นสวรรค์ ขอให้เลิกกังวลซะ  คนอย่างรถเรณู ดูแลตัวเองได้ ทั้ง ๓ โลก...     โอเคไหม..พี่น้อง? แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 54 18:30:41 จากคุณ : รถเรณู เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 02:04:21

ความคิดเห็นที่ 31 . แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 54 10:19:41 จากคุณ : นิแรน เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 10:10:08

ความคิดเห็นที่ 32 โอเคค่าาาาาาาาาา จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 11:44:31

ความคิดเห็นที่ 33 ตายไปแล้วคงรู้กันครับคนอย่างนี้เปรียบเหมือน ปทปรมะน่ะ ผมว่าลงพรหมฑัณฑ์แกเถอะ จากคุณ : wutthitham (wutthitham) เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 14:10:57

ความคิดเห็นที่ 34 คนที่ หวังจะไปรู้อะไร ต่อมิอะไร หลังจากตาย  เข้าโลงไปแล้วกระมังครับ ถึงควรจะเรียกตัวเองว่า ปทปรมะ ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ตอนยังไม่ตาย ยังโง่ได้ปานนั้น แล้วต่อเมื่อตายแล้ว จะยังไปแสวงหาความรู้ด้วยอะไร? หากคิดว่า เอาวิญญาณ ล่องลอยไปรับรู้อะไรต่อมิอะไรได้....ก็ลองเริ่มต้นศึกษา คำว่าวิญญาณ เสียใหม่ ในพุทธศาสนานะครับ ว่า แท้จริง วิญญาณ ในพุทธศาสนานั้นแปลว่าอะไรกันแน่ ก็แค่หลักสูตรนักธรรมตรีเท่านั้น หากคุณไม่เป็นปทปรมะ ของแท้ ก็คงจะรู้ได้ไม่ยากมั้ง คุณ: wutthitham อืม คนอย่าง : wutthitham หากจะลงพรหมฑัณฑ์ผมไปตลอดชีวิต ผมก็อยากจะพูดดัง ๆ ว่า ...อนุโมทนาด้วย นะครับ.. ผมเองก็คงไม่อยากจะรำคาญ คนประเภทที่จะไปแสวงหาคตวามรู้เอาตอนที่ตายเข้าโลงแล้ว อย่างคุณ: wutthitham  สักเท่าไหร่หรอกครับ  พูดไปก็คงไม่ค่อยเข้าใจกันสักเท่าไหร่ น่ารำคาญ และเสียเวลาชีวิตครับ จากคุณ : รถเรณู เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 18:28:48

ความคิดเห็นที่ 35 ได้อ่านทุกความคิดเห็นเรียบร้อยแล้ว ขอขอบคุณทุกท่านที่แสดงความคิดเห็น จากคุณ : azazelzx เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 21:57:20

ความคิดเห็นที่ 36 คุณรถเรณูครับ ผมเข้าใจว่าท่านกำลังพูดประชดประชันอีกท่านครับ จากรูปแบบการพูดของท่าน เหมือนไม่อยากให้ใครมาสอน แต่อย่าว่าผมสอนนะครับ แค่เตือนแล้วกันว่า ท่านกำลังผิดศีลข้อ 4 อย่างรุนแรงครับ พระอินทร์อะไรต่าง ๆ ที่ท่านกล่าวมา ผมว่าไม่มีใครติดใจครับ (ถ้าท่านรับรู้) แต่กรรมมันเกิดแล้วครับ อย่าทำเลย ยิ่งพูดยิ่งทำ มันยิ่งไม่เป็นผลดีกับท่านครับ ส่วนท่านหลังจากลาโลก ไปไหน ผมว่าคงไม่มีใครใส่ใจครับ รวมทั้งผมด้วยถ้าลาโลกไป เพราะเราไม่รู้จักกันสนิทขนาดนั้น สัมมาวาจาครับ แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 54 14:31:18 จากคุณ : XL_SiZe เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 14:30:21