ความคิดเห็นที่ 1 แล้วก่อนเกิดมาในชาติปัจจุบัน  อะไรทำให้เกิดวิญญาณขันธ์? แล้วคนที่ีระลึกชาติได้ อธิบายสิ สิ่งต่างๆที่ระลึกได้มาจากไหน? จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 20:22:55

ความคิดเห็นที่ 2 วิญญาณขันธ์ ก็คือ วิญญาณ หรือการรับรู้ที่เกิดขึ้นตามระบบประสาททั้ง ๖ ของร่างกายที่ยังไม่ตาย อย่างเช่น เมื่อรูปมากระทบตา ก็จะเกิดวิญญาณทางตาขึ้น (คือเกิดการเห็นรูป ) เป็นต้น  นี่คือวิญญาณที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า ส่วนเรื่องวิญญาณเวียนว่ายตาย-เกิดนั้น เป็นวิญญาณของพรามหณ์เขา ไม่ใช่ของพุทธ ส่วนเรื่องคนที่ระลึกชาติได้ ก็ต้องเอาหลักกาลาสูตรมาพิจารณา คือ อย่าเชื่อเพียงเพราะเหตุว่ามีคนเขาบอกต่อๆกันมา หรือเพราะมีคนกำลังเล่าลือกันอยู่กระฉ่อน เป็นต้น หลักง่ายๆแค่นี้ทำไมชาวพุทธถึงไม่เข้าใจกันก็ไม่รู้?? แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 54 20:50:50 จากคุณ : What am I? เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 20:41:42

ความคิดเห็นที่ 3 อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา เพราะอวิชชา เป็นปัจจัย สังขาร จึงมี สงฺขาราปจฺจยา วิญฺญาณํ เพราะสังขารเป็นปัจจัย วิญญาณ จึงมี วิญฺญาณปจฺจยา นามรูปํ เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามรูป จึงมี . . . . . จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 20:57:31

ความคิดเห็นที่ 4 พระพุทธศาสนาตื้นแค่นี้หรือขอรับ จากคุณ : bigjinbook เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 20:57:47

ความคิดเห็นที่ 5 จิตเวียนว่าตายเกิดนั่น เป็นเรื่องปกติของชีวิต ทางพรามณ์ฮินดูถือว่าวิญญาณเป็นอาตมัน เวียนว่ายตายเกิด  (ทางพุทธถือว่าเป็น สัสสตทิฎฐิ) ทางจารวากไม่ยอมรับว่าการเวียนว่ายตายเกิดมีอยู่จริง (ทางพุทธถือว่าเป็น อุทเฉททิฏฐิ) ส่วนทางพุทธ ถือว่า จิตเป็นอนัตตา ทุกสิ่งเป็นอนัตตา จิตเวียนว่ายตายเกิดด้วยอำนาจอวิชชา คนระลึกชาติได้นั้น มีแทบทุกเชื้อชาติ ไม่จำกัดศาสนา ดังนั้น การเวียนว่ายตายเกิดเป็นเรื่องปกติของชีิวิต แม้แต่พระพุทธองค์ก็ทรงเล่าเรื่องของท่าน เป็นชาดกต่างๆมากมาย ถ้าไม่รู้จริง อ้างอะไรออกมาก็เหมือนรัดคอตัวเองตาย ศึกษาครึ่งๆ กลางๆ เป็นแบบหมาหางด้วน กาลามสูตรเอาไว้คัดกรองข้อมูล  ไม่ใช่เอาไว้ปิดหู ปิดตา หลบอยู่ในกะลาครอบ จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 20:59:18

ความคิดเห็นที่ 6 --------- คำถามสะสมในกระทู้ที่ผ่านมาของตนเอง  ที่เจ้าของกระทู้ไม่ตอบ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11453159/Y11453159.html ความคิดเห็นที่ 13     ---------------------   ขันธ์5 เป็นสิ่งปรุงแต่ง  แล้วแปลว่า เจ้าของกระทู้เห็นว่า     1. จิตดับในร่างนี้แล้ว  ก็ไม่มีจิตเกิดในร่างอื่นอีกหรือ ? 2. เจ้าของกระทู้ ไม่รู้ตัวว่าตนมีความเห็นเป็นลัทธิขาดสูญ หรือ ? ------------------------------------------------------------------------ คำถามใน  กระทู้ของตนเอง  ที่เจ้าของกระทู้ไม่ยอมตอบ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11441867/Y11441867.html ความคิดเห็นที่ 15     ----------------- ตามที่มีผู้สันนิฐาน   ถ้าเจ้าของกระทู้  เจตนากล่าวสิ่งที่รู้ว่าไม่จริง  ด้วยเจตนา "ทุกท่านเคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมสมัยพุทธกาล ผู้ที่เคยพบเห็นหรือได้ฟังธรรมะของพระพุทธเจ้าส่วนใหญ่ จึงไม่นับถือพระพุทธเจ้า? " ----------------------- ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง  แสดงว่า เจ้าของกระทู้  เจตนากล่าวเท็จ แต่ผมไม่เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น ดังนั้นอยู่ที่เจ้าของกระทู้ว่าจะออกมาบอกความจริงว่าเป็นอย่างไร หรือไม่ จากคุณ : วงกลม     เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 10:58:31     ---------------------------------- จากคุณ : วงกลม เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 20:59:29

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องง่ายๆ ที่บางคนละ อุทเฉททิฏฐิ ไม่ได้ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ถ้าไม่ยอมรับว่า โลกหน้ามีจริง จะปฏิบัติธรรมหาแป๊ะอะไรทำไม  เพราะตายแล้วก็จบเรื่อง สู้ไปเสพสุขทางเนื้อหนัง ชีวิตยังจะคุ้มค่ากว่า ส่วนผมยอมรับว่า ยังมีความทุกข์อยู่ในใจหลายเรื่องต้องการดับทุกข์นั้น และไม่อยากจะไปเกิดอีกหลายๆ รอบด้วย แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 54 21:04:54 จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 21:03:37

ความคิดเห็นที่ 8 ข้อมูลมีอยู่ให้ศึกษาตามห้องสมุดมากมาย ร้านหนังสือก็มีเยอะแยะ แต่หางด้วน อาจจะจมอยู่กับทิฎฐิเดิมๆ ซึ่งล้าหลังมาเป็นสิบๆ ปี เพียงตำราไม่กี่เล่ม https://sites.google.com/site/reincarnationthailand/Home/hetukarn-cheing-pracaks จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 21:14:19

ความคิดเห็นที่ 9 ---------------------   ขันธ์5 เป็นสิ่งปรุงแต่ง  แล้วแปลว่า เจ้าของกระทู้เห็นว่า     1. จิตดับในร่างนี้แล้ว  ก็ไม่มีจิตเกิดในร่างอื่นอีกหรือ ? 2. เจ้าของกระทู้ ไม่รู้ตัวว่าตนมีความเห็นเป็นลัทธิขาดสูญ หรือ ? ***************** อยากจะถามกลับก่อนว่า จิตในความเห็นของคุณคืออะไร?และจิตคือขันธ์ใดจากขันธ์ ๕ ? และขันธ์ ๕ มีขันธ์ใดที่ไม่เป็นสิ่งปรุงแต่ง? ถ้าตอบได้แล้วก็จะเข้าใจได้เองว่า จิตดับในร่างนี้แล้ว  ก็ไม่มีจิตเกิดในร่างอื่นอีกหรือ ? ลัทธิที่เชื่อว่า มีจิตหรือสิ่งใดจากร่างกายที่ตายแล้วไปเกิดใหม่ได้ ก็เป็นลัทธิสัสสตทิฎฐิ รู้ตัวหรือเปล่า? (คนไทยเกือบทั้งหมดติดอยู่ในความเห็นผิดนี้กันอยู่โดยไม่รู้ตัว) แต่พุทธศาสนาไม่จัดอยู่ในทิฎฐิที่ผิดทั้งสอง(คือทั้งสัสสตทิฎฐิและอุเฉททิฎฐิ)  เพราะสอนว่า ไม่มีใครเกิด ไม่มีใครตาย แต่มีตัวเราเท่าที่ยังมีอยู่เฉพาะในชีวิตนี้ ที่ทำดีก็ได้ดี (คือได้รับผลเป็นความสุข)ในปัจจุบัน แต่ถ้าทำชั่วก็ได้ชั่ว(คือได้รับผลเป็นความทุกข์) ในปัจจุบัน จากคุณ : What am I? เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 21:16:05

ความคิดเห็นที่ 10 เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ด้วยตัวเอง ไม่มีพระเจ้าหน้าไหนมากำหนด จากคุณ : ชัยพร (c_sujjitporn) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 21:18:00

ความคิดเห็นที่ 11 แรง ช่างกล้าเสนอแบบนี้ ขอบคุณท่านวงกลม ที่ชี้แนะ เตือนไว้ คคห. 6 จากคุณ : bigjinbook เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 21:22:42

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องง่ายๆ ที่ในพระไตรปิฎกเขียนไว้เยอะแยะ  แต่กลับไม่ยอมรับ กลับไปเอาแค่ความเห็นครึ่งๆ กลางๆ ในตำราไม่กี่เล่มของบางอาจารย์มาเป็นมาตราฐานจิตวิญญาณ ถ้าแก้ไขไม่ได้ สงสัยจะกลายเป็น หางด้วน ไปทั้งโลกนี้ และโลกหน้า ใช้ปัญญาได้แค่ไหน ที่เที่ยวทึกทักว่า นั่นนี่เป็นพราหมณ์   ลองย้อนกลับไปดูตัวเองด้วยว่า ศึกษาตำราฝ่ายเขามามากขนาดไหน? แล้วรู้จักทฤษฎีและการปฏิบัติของจริงของเขามากขนาดไหน? พระพุทธเจ้าท่านมีความรู้เรื่องไตรเพท(พระเวทของพราหมณ์) แล้วก็สามารถอธิบายกับพราหมณ์ได้ด้วย อยากอ่านหาเองใน อยู่เตวิชชสูตร นี่ยังไม่รวมสาวกอีกหลายๆ องค์ที่เป็นพราหมณ์ผู้เชี่ยวชาญไตรเพทมาก่อน ดังนั้น อยากจะโพสท์โอ้อวดเขาทั้งที อย่าอวดหางด้วนๆเลย เดี๋ยวจะหงายเงิบกลับไปเสียเปล่าๆ จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 21:31:48

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าหางด้วนไปแล้ว ไม่รู้จะเอาหางอะไรมาต่อให้ ต้องไปเเกิดใหม่ในโลกหน้า ถึงจะมีหางใหม่ได้  ถ้าไม่ด้วนเหมือนชาตินี้ก็คงจะดี เรื่องจิตเกิดดับ ลึกกว่าจะมองเห็นง่ายๆ   ถ้าไปคุยเรื่องล่องลอยหรือไม่ล่องลอย มันไม่จบ แต่เอาเรื่องที่มีอยู่ในพระไตรปิฎก และมีหลักฐานต่างๆ ทั่วโลก คือเรื่องคนระลึกชาติได้ ถ้่าไม่มีเหตุ ความจำความรู้ต่างๆ มันจะมาจากไหนได้ กรุณาอย่าเอากาลามสูตรมาเป็นกะลาครอบมุดหนี  เพราะทุกอย่างต้องมีเหตุ ในคลิปนี้ ชีวิตจริง เจอของจริง ไม่ใช่แค่หางด้วนทึกทักเอาตามตำราไม่กี่เล่ม จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 21:41:10

ความคิดเห็นที่ 14 ผมพิมพ์อะไรไป จขกท กรุณาอ่านให้ครบทุกบรรทัด มีอ้างอิงเพิ่มให้เข้าไปดู จะแย้งอะไำรก็แย้งมา เวลาจะแย้งอะไรอ้างอิงที่มาให้ชัดเจนด้วย อย่าด้วน ถ้าพิมพ์ลอยๆ แบบด้วนๆ ไม่มีที่มาที่ไป ผมจะตามไล่คุณไปเรื่อยๆ อย่าหวังว่าจะได้โพสท์โอ้อวดอย่างเป็นสุข จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 21:54:38

ความคิดเห็นที่ 15 การนำคำว่า "พระเจ้า" มาใช้ แสดงถึง "อัตตา" ซึ่งพระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอน จากคุณ : Serene_Angelic เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 22:13:26

ความคิดเห็นที่ 16 วาทะของ จขกท นั้น นำเอาคำสอนของท่านพุทธทาส มาเกือบทั้งหมด เพียงแต่การยก มาเกือบทั้งหมดของจขกท นั้น มันคือ ยกมาเพียงบางส่วนของท่านพุทธทาส ซึ่งการยกมาเพียงบางส่วนที่นำมาสนับสนุนทิฐิตนนั้น แสดงถึงความเป็นอุทเฉททิฐิ ของ จขกท เต็มๆ แล้วก็ทำให้ท่านพุทธทาสถูกเข้าใจผิดไปด้วย ซึ่งทำให้พวกที่โจมตีท่านพุทธทาส ยิ้มอย่างเริงร่า สบายแฮ หยุดเถอะครับ เฮ้อ... ช่างหัวมัน จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 22:30:52

ความคิดเห็นที่ 17 ต้องไปเเกิดใหม่ในโลกหน้า ถึงจะมีหางใหม่ได้  ถ้าไม่ด้วนเหมือนชาตินี้ก็คงจะดี ***************************** อยากถามคุณ ซามูไรหมูตอน ว่า ชีวิตของมนุษย์เรานี้ มีเพียงแค่ขันธ์ ๕ หรือมีอะไรมากกว่าขันธ์ ๕?  แล้วอะไรที่จะสามารถออกจากร่างกายที่ตายแล้วเพื่อไปเกิดใหม่ได้? ช่วยตอบให้เข้าใจด้วย จากคุณ : What am I? เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 22:55:46

ความคิดเห็นที่ 18 แต่เอาเรื่องที่มีอยู่ในพระไตรปิฎก และมีหลักฐานต่างๆ ทั่วโลก คือเรื่องคนระลึกชาติได้ ถ้่าไม่มีเหตุ ความจำความรู้ต่างๆ มันจะมาจากไหนได้ กรุณาอย่าเอากาลามสูตรมาเป็นกะลาครอบมุดหนี  เพราะทุกอย่างต้องมีเหตุ ********************** นี่แสดงว่าคุณ ซามูไรหมูตอน ไม่ยอมรับหลักกาลามสูตร และ หลักอจินไตย ใช่หรือไม่? ถ้าใช่ เราก็คงสนทนากันไม่รู้เรื่อง เพราะคุณก็จะเอาแต่เรื่องที่ไม่ควรศึกษาจากหลักอจินไตยมาสนทนาเท่านั้น หรือเมื่อคุณไม่ยอมรับหลักกาลามสูตร แล้วจะสนทนากันรู้เรื่องหรือ? ในเมื่อคุณจะเอาแต่เชื่อจากคนอื่นหรือจากตำราเพียงอย่างเดียวโดยไม่สนใจความจริงที่ปรากฏอยู่ต่อหน้า จากคุณ : What am I? เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 23:02:28

ความคิดเห็นที่ 19 แม้แต่พระพุทธองค์ก็ทรงเล่าเรื่องของท่าน เป็นชาดกต่างๆมากมาย ******************* แล้วคุณ ซามูไรหมูตอน  รู้ได้อย่างไรว่า ชาดกต่างๆที่คุณว่ามานั้น คือพระตำรัสของพระพุทธเจ้าจริงๆ? จากคุณ : What am I? เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 23:07:01

ความคิดเห็นที่ 20 เอาละสิ กาลามสูตรเป็นเหตุ ไม่เชื่อไปหมดแม้แต่พระไตรปิฏก จากคุณ : KOB ON KALA เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 06:01:10

ความคิดเห็นที่ 21 จขกท นั้น ต้องเข้าใจ ถ้าท่านปฏิเสธ ภพหน้าชาติหน้า ว่าไม่มี ไม่เป็น ท่านต้องปฏิเสธ ภพนี้ ชาตินี้ของท่านด้วยเฉกเช่นเดียวกัน แต่คำว่าปฏิเสธนั้น เป็นการปฏิเสธ อัตตา โดยหลักอนัตตา ทั้งชาตินี้และชาติหน้าหรือชาติก่อน ก็ถือว่า ไม่ผิดอะไร แต่คำว่าปฏิเสธนั้น เป็นการปฏิเสธ ว่าไม่มี ก็ถือว่าท่านเป็นอุทเฉททิฐิ โดยเฉพาะถ้าท่านมีทิฐิว่า ชาตินี้ท่านมีอยู่ แต่ชาติหน้าไม่มีนั้น ถือเป็นการ ปฏิเสธหลักกฏอิทัปจยตา และปฏิจสมุปบาท นั่นคืออุทเฉททิฐิโดยปริยาย เพราะหลักปฏิจสมุปบาทและกฏอิทัปัจยตานั้น คือหลักที่อธิบายเหตุและผล ทั้งชนิดชั่วขณะจิตและแบบข้ามภพข้ามชาติของกายหยาบนี้ มันคือหลักเดียวกัน ถ้ายอมรับ สันตติของจิต ก็ย่อมต้องยอมรับการข้ามภพชาติก็เป็นเช่นเดียวกัน ท่านพุทธทาสสอนละเอียดชี้ลงมาที่เรื่องของจิตโดยตรง ท่านจึงไม่เห็นว่าการไปพิจารณาเรื่องชาติหน้าภพหน้านั้นเป็นประโยชน์ แต่ท่าไม่เคยปฏิเสธว่าไม่มีครับ ซึ่งแค่นั้นก็เสี่ยงต่อการถูกโจมตีว่าเป็น อุทเฉททิฐิแล้ว จขกทพิจารณาและใคร่ครวญอีกทีครับ เพื่อมิให้มีความเข้าใจผิดกันมากขึ้นๆ แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 54 08:07:17 จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 08:02:23

ความคิดเห็นที่ 22 พระบาลีพุทธภามีคำว่า อิทัปปัจจยตา อิทัปปัจจยตาปฏิจจสมุปาโท ผิดตกยกเว้น. จากความจำ ตรัสในหลายพระสูตร ไม่ได้ตรัสในพระสูตรใด ท่านพุทธทาสรวบรวม ๙ ตาไว้ ดังนี้ อนิจจตา ทุกขตา อนัตตา ธัมมนิยามตา ธัมมทิฏฐตา อิทัปปัจจยตา ตถตา สุญญตา อตัมมยตา อะไรเกิดทันที หลังจากตายแล้ว อดีตชาติ.  ชาตินี้. ชาติหน้า เนื่องกับ สัสสตทิฏฐิ.  ที่ต่างกับสัมมาทิฏฐิ ๙ ตา (ข้างบน)ที่ท่านพุทธทาสรวบรวมเสนอ. "มีในพระไตรปิฎก" ศึกษา สอบทาน ใครอาศัย งานท่านพุทธทาส"เอง".   อย่าประมาทฯ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 08:29:15

ความคิดเห็นที่ 23 ปฏิเสธ ชาติหน้า ว่ามีไม่จริงด้วยสาสวาสัมมาทิฏฐิ เพราะเห็นว่า ชาติหน้าตามคำกล่าวนั้น ที่่เห็นว่าเนื่องกับมิจฉาทิฏฐิ ทำไม่ได้หรือครับ ตัวอย่าง พระสูตรหนึ่ง จากความจำ ทรงเยาะลัทธิ อะไร ก็เนื่องกับ กรรมเก่า พระสูตรนี้ มีชาติหน้าแบบไหน เมื่อเนื่องกับ. กรรมมี วิบากแห่งกรรมมี (กรรมวาที) จากความจำ กรรมนั้น อันบุคคลนั้น พึงเสวยผลในอัตตภาพ. นี้.  นั่นเทียว วัตถุ (พื้นที่). อื่น หามีไม่ฯ ชาติหน้า มีไม่จริง ถ้าไม่สอดคล้องกับ. พระสูตรข้างบน จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 08:36:29

ความคิดเห็นที่ 24 ความคิดเห็นที่ 9     ---------------------   ขันธ์5 เป็นสิ่งปรุงแต่ง  แล้วแปลว่า เจ้าของกระทู้เห็นว่า     1. จิตดับในร่างนี้แล้ว  ก็ไม่มีจิตเกิดในร่างอื่นอีกหรือ ? 2. เจ้าของกระทู้ ไม่รู้ตัวว่าตนมีความเห็นเป็นลัทธิขาดสูญ หรือ ? ***************** อยากจะถามกลับก่อนว่า จิตในความเห็นของคุณคืออะไร?และจิตคือขันธ์ใดจากขันธ์ ๕ ? และขันธ์ ๕ มีขันธ์ใดที่ไม่เป็นสิ่งปรุงแต่ง? ถ้าตอบได้แล้วก็จะเข้าใจได้เองว่า จิตดับในร่างนี้แล้ว  ก็ไม่มีจิตเกิดในร่างอื่นอีกหรือ ? ----------------------  ความเห็นของคุณเขาเข้าใจแล้ว จึงถามข้อ 1 และข้อ 2 ให้คุณรู้ตัวว่าตัวเองคิดอะไร คุณตอบไม่ได้  ไม่กล้าตอบ ก็อย่ามาตั้งกระทู้ ไม่ต้องมาทำท่าว่าถามกลับ  ไม่กล้าตอบก็บอกมาเลย  เขาไม่งึดหรอก [b]ถ้าอยากเผยแพร่ความคิด ก็ตอบมาเลย  ไม่งั้นก็ไปไกลๆ 1. จิตดับในร่างนี้แล้ว  ก็ไม่มีจิตเกิดในร่างอื่นอีกหรือ ? 2. เจ้าของกระทู้ ไม่รู้ตัวว่าตนมีความเห็นเป็นลัทธิขาดสูญ หรือ ? จากคุณ : วงกลม เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 09:14:53

ความคิดเห็นที่ 25 คำว่า(ความในวงเล็บผมเพิ่ม เพื่อเข้าใจประเด็นให้ตรวกัน) จิต (คือ? ตามอัสสุตวตาสูตร) ดับในร่างนี้ จะไม่มี (หรือมี) จิต(?ตามที่ตรัสเนื่ิงด้วยจิตทุกๆ พระสูตร) ในร่างอื่นอีกหรืิอ? ก่อนจะแสดงคำตอบ ต้อง เข้าใจ (เข้าถึงด้วยปัญญาอะไร). ที่ตรัสว่า กรรมนั้นอันบุคคลนั้นพึงเสวยผล ในอัตตภาพ นี้. นั่นเทียว วัตถุ (พื้นที่). อื่น หามีไม่ (๑).ท่านใด มีทิฏฐิยืนยันว่า "ต้องมีจิต (จะทันทีหรือทีหลัง). ที่ร่างไหม่ (ไม่ที่ไหนภูมิไหน) แน่ๆ ช่วย แสดงว่า วิบากแห่งกรรม ใช่ไหม ที่ส่งผล. ไปยัง "วัตถุ(พื้นที่). นั้น" ขัดกับ พระพุทธวจนะ ข้างบนไหม? ที่ถาม ท่านใดจะตอบ.   ตอบตามที่ถาม.   เสียก่อน ก่อน "เสนอคำว่า เป็นผู้เนื่องกับลัทธิขาดสูญ".นะครับ ตอบแล้ว ก๊อปปี้ ไปที่กระทู้ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11457449/Y11457449.html ด้วย ขอบคุณ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 09:27:16

ความคิดเห็นที่ 26 สวัสดีครับคุณ เซน (F=9b) ประโยคนี้ของคุณ ------------------------------------------ กรรมนั้นอันบุคคลนั้นพึงเสวยผล ในอัตตภาพ นี้. นั่นเทียว วัตถุ (พื้นที่). อื่น หามีไม่ ----------------------------------------- ไม่มีในพระไตรปิฎกเลยครับ และความหมายตามที่คุณเสนอก็ไม่มีเลยครับในพระไตรปิฎกครับ ตกลง ไม่เป็นความเห็นของคุณคนเดียวไปหรือครับ.? หาข้อมูลที่กระชับกว่านี้มาแสดงได้ไหมครับ. เพื่อความชัดเจน. เพิ่มเติมดีครับไปสนทนาในกระทู้นี้ก็ดีครับ จะได้ไม่กะจัดกระจาย http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11456895/Y11456895.html แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 54 09:45:56 จากคุณ : P_vicha เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 09:42:18

ความคิดเห็นที่ 27 แม้แต่ หลักกาลามสูตร์ก็เป๋กันไปแล้ว........อย่าเพิ่งเชื่อ หรือปฏิเสธ ถ้ายังไม่ได้ปฏิบัติพิสูจน์ ให้วางใจเป็นกลางไว้ก่อน  ไม่ใช่ปฏิเสธเลยทันที  นี่แหละทุกอย่างไม่เที่ยง......เออ... มนุษย์หนอมนุษย์ จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 09:48:10

ความคิดเห็นที่ 28 หางด้วนเอย ทิฎฐิเจ้าจะน่าเชื่อถือกว่าพระไตรปิฎกงั้นหรือ? แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 54 10:50:46 จากคุณ : ซามูไรหมูตอน เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 10:22:55

ความคิดเห็นที่ 29 คคห ๒๖ คุณฯ ตั้งกระทู้โดยตรงไหมครับ ก๊อปปี้ คคห ๒๖ ด้วยนะครับ ทำลิงค์ ผมกลับกทม แล้ว จะเข้าไปตอบ โอเคไหมครับ จะอ้าง หลักฐานเท่าที่หาได้ ทั้งพระบาลีต้นฉบับ สำนวนแปลฉบับหลวง ฉบับ ๙๑เล่ม ฉบับมหาจุฬาฯเล่มสีฟ้าและ ในปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์ คุณP_vicha. โอเค ไหมครับ ท่านสมาชิกที่สนใจ โปรดรอ หรือจะให้ผมตั้งครับ. จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 11:05:30

ความคิดเห็นที่ 30 กำลังให้สหายธรรมค้นให้ ระบุเล่มที่ หน้าที่ บรรพที่ ฯ ทั้งนี้เพราะ ผมควรต้องรับผิดชอบ ใน ความจำ ที่เกี่ยวกับพระสูตรนั่นฯ หาใช่เรื่ิองส่วนบุคคลแต่ประการใดไม่ ทั่งนี้เพราะ เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา จำผิด สอบทานแล้วไม่ตรงก็รับผิด ไม่จำที่ผิดไว้ รอสหายธรรมจัดการให้ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 11:21:41

ความคิดเห็นที่ 31 ครับคุณ เชน(F=9b) ผมก็ได้ตั้งกระทู้ ตามลิงค์ ในความคิดเห็นที่ 26 แล้ว และคุณก็ได้ไปสนทนาในกระทู้นั้น ถึงสองความเห็นแล้ว ครับ. ผมยินดีที่จะสนทนาในการทู้ที่ผมตั้งตามลิงค์เดิม ณ.ครับ จากคุณ : P_vicha เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 11:54:49

ความคิดเห็นที่ 32 ผมเห็นควรตั้งกระทู้ใหม่ครับ แล้วอ้างอิงคือทำลิงค์ทั้ง๒ลิงค์ คือ กระทู้นี้ และ กระทู้โน้น ส่วนคุณฯจะเข้าไปที่กระทู้ใหม่หรือไม่ ไม่ใช่ปัญหา มั๊งครับ เพราะ เมื่อผมได้ข้อมูลอันเป็นหลักฐานแล้ว (๑). ผมจำผิดได้ ผมก็แสดงความผิดนั้น ในกระทู้ที่ผมตั้ง (๒). ส่วนคุณฯจะเข้าไปหรือไม่ เป็นเรื่องของคุณเอง กระทู้นี้ผมเก็บเข้าคลังกระทู้แล้วครับ รวมทั้งกระทู้ Y11456895ด้วย จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 13:25:53

ความคิดเห็นที่ 33 จขกท. ต้องการโปรโมทเวบไซท์หรือเปล่าครับ ถามจริงๆนะ จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 13:33:12

ความคิดเห็นที่ 34 กลับสู่ประเด็น รู้ตามที่ ท่าน จขกท (น่สจะก๊อปปี้) เสนอ (เอามาจากคำกล่าวของท่านใดนั้น) เสนอเพื่ออะไร? ครับ ในเมื่อข้อความนั้น ท่านไม่ได้เสนอเอง (ผมเดาถูกหรือผิดครับ) (๑). เพื่อเผยแพร่แสดงว่าเห็นด้วยกับข้อความนั้นที่ผู้ใดนั้นเสนอไว้ (๒). เพื่อสังคมออนไลน์คุณภาพ (๓) รวมๆกัน (๔). ฯ สรุป ถึงเคยผ่านตามาแล้วคำว่ากฏอิทัปปัจจยตา คือพระเจ้าของพุทธศาสนา ได้เห็นได้อ่านิีกทีต้องนับว่าเป็นบุญตา.ในกระดานนี้ฯ เสนออีกก็อ่านอีกครับ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 14:34:38

ความคิดเห็นที่ 35 ขันธ์ห้าที่คุณกล่าวถึง โดยละเิีิอียดหมายถึง รูป 28 เวทนา 6 สัญญา 6 สังขาร 3 วิญญาณ 6 ดังนั้น หากคุณต้องการแสดง จะเป็นการดีหากทราบว่า ขันธ์ใด เกิดเพราะอาศัยอะไร ยกตัวอย่าง รูปขันธ์  มีทั้งหมด 28 รูป รูปบางรูป เกิดเพราะกรรมก็มี บางรูปเกิดเพราะอาหาร เกิดเพราะจิต และเกิดเพราะอุุตุ เข่น การพูด ก็จัดเป็นรูปขันธ์  เกิดจากจิต การตั้งอยู่ได้ของรูป เกิดเพราะอาหาร เช่น พระพุทธเจ้าก่อนตรัสรู้ทรงทรมานพระองค์โดยทรงอดพระกระยาหาร แม้พระพุทธเจ้าจะทรงมีพระบุญญาธิการ แต่เม่ื่อรูปไม่ได้อาหาร พระองค์ก็ทรงซูบซีด  ต่อเมื่อมีอาหารแล้วจึงทรงมีผิวพรรณเปล่งปลั่ง รูปที่เกิดเพราะกรรม  เช่น  ตา , หู  เป็นต้น ทั้งนี้ ยังมีอีกเช่น รูปของสัตว์ที่น่าเกลียดก็เกิดเพราะอกุศลกรรม  ที่สวยงสามน่ารัก เกิดเพราะกุศลกรรม นี้เป็นกฎความเป็นไปของรูป เป็นต้น แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 54 15:18:24 แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 54 15:14:02 จากคุณ : Serene_Angelic เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 15:13:49

ความคิดเห็นที่ 36 พระพุทธเจ้าตรัส.  ธรรม รูปขันธ์มีทั้งหมด ๒๘. รูปไว้พระสูตรใหน ถามหาหลักฐานทางวิชาการ เพื่อไม่มั่ว ทางวืชาการ ไม่เกี่ยวกับประเด็นอื่น ท่านทราบเสนอด้วยขอขอบคุณ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 19:30:31

ความคิดเห็นที่ 37 ผมเพิ่งทราบว่าคุณเซนฯเชื่อเรื่องบุญด้วย จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 11:42:34