ความคิดเห็นที่ 1 จะอย่างไรก็ถือว่าได้บุญไม่ต่างกันแน่นอนครับ จากคุณ : ซุปเปอร์เดปอร์ เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 18:14:59

ความคิดเห็นที่ 2 ตาม ชาดก อรรถกถา หรือ พระสูตร ไหน  จำไม่ได้ ที่พระราชา ใช้ให้ ข้าราชบริพาร ใส่บาตรแทนตนเอง ทุกวัน พอตายไป พระราชา ลงนรก แต่ข้าราชบริพารที่ใส่บาตรแทนให้ ขึ้นสวรรค์ อะไร ทำนองนี้ รอคนต่อไป เซิร์ซหามาให้อ่านดีกว่า จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 18:15:45

ความคิดเห็นที่ 3 ู^          "ลำดับนั้น ท่านควัมปติมาสู่มนุษยโลกแล้ว ได้บอกอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงให้ทานโดยเคารพ จงให้ทานด้วยมือของตน จงให้ทานโดยความนอบน้อม จงอย่าให้ทานอย่างทิ้งให้ เจ้าปายาสิมิได้ให้ทานโดยเคารพ มิได้ให้ทานด้วยมือของตน มิได้ให้ทานโดยความนอบน้อม ให้ทานอย่างทิ้งให้ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เข้าถึงความอยู่ร่วมกับพวกเทพชั้นจาตุมหาราช คือได้วิมาน ชื่อเสรีสกะอันว่างเปล่า         ส่วนอุตรมาณพซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในทานของเจ้าปายาสินั้น ให้ทานโดยความเคารพ ให้ทานด้วยมือของตน ให้ทานโดยความนอบน้อม มิได้ให้ทานอย่างทิ้งให้ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ คืออยู่ร่วมกับพวกเทพชั้นดาวดึงส์" ปายาสิราชัญญสูตร http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=10&A=6765&Z=7553&pagebreak=0 ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=10&i=301 ต่อ -  หลังจากที่ท่านไปเกิดเป็นเทวดา ก็มีคนไปพบท่าน เสริสสกวิมาน http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=26&A=2771&Z=2939 อรรถกถา http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=84 จากคุณ : Serene_Angelic เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 18:28:43

ความคิดเห็นที่ 4 ถือว่าได้ แต่ยังไม่ครบองค์ของทานในส่วนการให้ด้วยตนเองค่ะคุณ Smiling-girl แต่ถือว่าทานมัยสำเร็จแล้วค่ะ จากคุณ : Serene_Angelic เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 18:29:58

ความคิดเห็นที่ 5 ได้บุญครับคุณหนูยิ้ม แต่คงได้บุญน้อยกว่าคนใส่บาตรเองครับ น่าจะตื่นเช้าอีกนิดนะครับ จะได้ได้บุญเยอะขึ้นอีกหน่อย ตอนผมบวช ออกบิณฑบาต เวลาเห็นคนใส่บาตรแล้วรู้สึกปีติยินดีกับกุศลกรรมของเขา คนที่ใส่ ก็ใส่ทุกวัน บ้านที่ไม่ใส่ ก็ไม่ใส่ซักวัน ความดี จึงเป็น "นิสัย" อย่างหนึ่งครับ เวลานิสัยที่ทำสั่งสมมานานๆก็จะให้ผลกับชีวิตได้เป็นเรื่องเป็นราวครับ สรุปผมว่าถ้าพระท่านมาที่บ้านแล้วก็รีบตั้งนาฬิกาปลุกตื่นมาใส่บาตรเถิดครับ จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 18:33:58

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณค่ะ คุณซุปเปอร์เดปอร์  คุณนา และคุณสติ นะคะ ค่ะ จะเพียรพยายามทำให้ได้ค่ะคุณสติ  เราขาดวินัยหลายอย่าง  แย่มากถึงมากที่สุดเลยค่ะ ในหมูบ้านไม่มีร้านขายอาหารที่จะซื้อใส่บาตร  ต้องทำอาหารเองด้วยค่ะ มีพระเดินเข้ามาบิณบาตรในหมู่บ้านองค์เดียวค่ะ เข้าใจว่าท่านแบ่งสายกันเดินตามหมู่บ้าน จะได้โปรดญาติโยมอย่างทั่วถึง  พอถึงท้ายหมู่บ้าน  คนในหมู่บ้านก็จะขับรถพาท่านกลับส่งวัดค่ะ  ขากลับของท่านจะเยอะค่ะ จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 18:45:31

ความคิดเห็นที่ 7 เอ่อ  รบกวนขออีกหนึ่งคำถามนะคะ ในทางกลับกัน ป้าแม่บ้านทำอาหารไว้เรียบร้อย  แล้วเราไม่ได้ช่วยทำอะไร รอนำของมาตักใส่บาตรพระอย่างเดียว   แบบนี้จะถือว่าเรา  คือ โดยกริยาถือว่าเราใส่บาตรน่ะค่ะ  แต่ในแง่ของเจตนาล่ะค่ะ จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 18:49:51

ความคิดเห็นที่ 8 ทุกอย่างอยู่ที่เจตนา อย่าคิดมากจนเกินไป ไม่งั้นแม่ค้าที่ตลาด ได้บุญท่วมหัวไปแร้ววว... จากคุณ : นัยนะ เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 19:11:08

ความคิดเห็นที่ 9 สวัสดีค่ะ อ่าาา.... อนุโมทนาด้วยเลยค่ะ ตื่นๆ มาดาม.. ตื่นให้เช้า แล้วไปใส่บาตร สูดอากาศสดชื๊น สดชื่น ให้รื่นรมย์ ง่วย อิจฉาจาตาย .. อีกอย่างน้าา นอนดึก บ่ดีต่อสุขแพล่บ... อะ เพลงมาแฝะ (ฝาก+แปะ และรีบเผ่นไป..).. คุณนายตื่นสาย.. จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 19:21:36

ความคิดเห็นที่ 10 ตื่นเช้าซักวัน แล้วทำ จะดีกว่าครับ จากคุณ : mangwan เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 20:07:38

ความคิดเห็นที่ 11 อือม..  ตามที่คุณสติว่า นั่นแหละ จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 20:33:09

ความคิดเห็นที่ 12 พอๆกะ นู่ยิ้มเลยค่า   ตื่นเช้าไม่ทันพระ   ( ขนาดพระท่านบิณฑบาตร กลับวัดสายแล้วเชียวนา .. แต่เราตื่นสายกว่า???? ) จากคุณ : annyfatgirl เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 20:48:11

ความคิดเห็นที่ 13 ............อยู่ที่เจตนาครับ ถ้าตั้งใจอยากถวายพระ ออกเงินด้วย แม้ไม่ได้ใส่เองก็ต้องได้บุญ แต่คงได้ไม่เท่าใส่เอง เพราะเจตนายังไม่มากจนขยันตื่นเช้า             "ในทางกลับกัน ป้าแม่บ้านทำอาหารไว้เรียบร้อย  แล้วเราไม่ได้ช่วยทำอะไร รอนำของมาตักใส่บาตรพระอย่างเดียว" แล้วไม่ได้ออกเงินด้วย              - แบบนี้น่าจะได้บุญเพียงเล็กน้อยครับ จากคุณ : ชนาธิป - พุทธแท้ เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 21:43:20

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าคุณหนูยิ้มมีเจตนาแบบพระเจ้าปายาสิ ก็ได้บุญน้อย เนื้อเรื่องตามที่คุณ Serene_Angelic ลงไว้ข้างบนครับ แต่ถ้าคุณหนูยิ้มมีเจตนาแบบฆฏิการมาณพและบิดามารดาที่ตาบอด จะได้บุญเยอะ ขนาดทั้งคู่ขอให้พระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตักแกงเอาเอง ไม่มีใครตักใส่บาตรถวาย ยังได้บุญมหาศาลเลยครับ ป.ล. บิดามารดาของท่านฆฏิการมาณพตาบอดทั้งคู่ เลยตักถวายไม่ได้  [๔๑๘] ดูกรมหาบพิตร ครั้งหนึ่ง อาตมภาพอยู่ที่นิคมชื่อเวภฬิคะนั้นเอง. เวลาเช้าอาตมภาพนุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร เข้าไปหามารดาบิดาของฆฏิการะช่างหม้อถึงที่อยู่ แล้วได้ถามว่า ดูเถิด นี่คนหาอาหารไปไหนเสียเล่า? มารดาบิดาของฆฏิการะช่างหม้อตอบว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อุปัฏฐากของพระองค์ออกไปเสียแล้ว ขอพระองค์จงเอาข้าวสุกจากหม้อข้าวนี้ เอาแกงจากหม้อแกงนี้เสวยเถิด. ดูกรมหาบพิตร ครั้งนั้น อาตมภาพได้เอาข้าวสุกจากหม้อข้าว เอาแกงจากหม้อแกงฉันแล้ว ลุกจากอาสนะหลีกไป. ลำดับนั้น ฆฏิการะช่างหม้อเข้าไปหามารดาบิดาถึงที่อยู่แล้วได้ถามว่า ใครมาเอาข้าวสุกจากหม้อข้าว เอาแกงจากหม้อแกงบริโภคแล้วลุกจากอาสนะหลีกไป. มารดาบิดาบอกว่า ดูกรพ่อ พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่ากัสสปอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเอาข้าวสุกจากหม้อข้าว เอาแกงจากหม้อแกงเสวยแล้ว เสด็จลุกจากอาสนะหลีกไป. ครั้งนั้นฆฏิการะช่างหม้อมีความคิดเห็นว่า เป็นลาภของเราหนอ เราได้ดีแล้วหนอ ที่พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่ากัสสปอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงคุ้นเคยอย่างยิ่งเช่นนี้แก่เรา. ดูกรมหาบพิตร ครั้งนั้น ปีติและสุขไม่ละฆฏิการะช่างหม้อตลอดกึ่งเดือน ไม่ละมารดาบิดาตลอดเจ็ดวัน. จาก ฆฏิการสูตร http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=13&A=6596&Z=6824 แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 54 22:56:03 จากคุณ : คืนวันอันแสนดี เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 22:54:48

ความคิดเห็นที่ 15 ^ อ่านความเห็นที่ 14 ของ คุณ คืนวันอันแสนดี   แล้วอินตามเลย จากคุณ : annyfatgirl เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 23:39:48

ความคิดเห็นที่ 16 รู้ไหมครับ หลาย ๆ คนคงมีปัญหาเดียวกัน คือ ตื่นไม่ทันแต่ก็อยากใส่บาตร แต่ผมว่าคงมีไม่กี่คนหรอก ที่จะซื้อและฝากคนที่เขาใส่บ่อยไปใส่ให้ โดยมากตื่นไม่ทันก็ไม่ใส่ซะงั้น อย่างผมเป็นต้น ไม่เคยคิดจะฝากใครเลย เพราะฉะนั้น ผมว่าในกรณีนี้น่าชื่นชมครับ และเชื่อว่าคุณ Smiling-girl คงไม่พอแค่นี้หรอก เรียกได้ว่าเป็นผู้ฉลาดในการหาบุญ ก็มันตื่นไม่ทันนี่นาแต่ไม่อยากตกบุญ ไว้วันไหนตื่นเช้าก็ใส่เองก็ได้ครับ แต่ถ้ามันตื่นไม่ทันผมว่าแบบนี้ดีมากเลยครับ ทำเอง ฝากคนอื่นทำ ไม่เกี่ยง ขอให้ได้บุญเป็นพอ อนุโมทนาด้วยครับ วิธีนี้สงสัยต้องเอาไปทำบ้าง ผมเคยใส่บาตรทุกเช้า หลัง ๆ ไม่ได้ใส่เลยเพราะตื่นไม่ทันเช่นกัน แต่เพราะประมาท ไม่ได้ฝากใครไปใส่เลย ทำให้จิตใจไม่เกาะเกี่ยวในบุญ ก็มีแต่ไม่ได้ทำ ไม่ได้ทำ และไม่ได้ทำอยู่ร่ำไป ถ้าฝากคนอื่นไปทำ อย่างน้อยก็จะต้องคิดเรื่องนี้ทุกวัน เดี๋ยวก็อยากไปทำเองบ้าง แต่ถ้าไม่ฝากแล้วกลายเป็นขาดใส่บาตรไป ไม่นานก็จะลืมไปเหมือนผมนี่ล่ะครับ จากคุณ : พักผ่อน เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 00:25:23

ความคิดเห็นที่ 17 เจตนาคือกรรมครับ ในเมื่อทุกคนมีเจตนาในการใส่บาตรถวายทานแด่พระสงฆ์ ดังนั้นทุกคนก็จะต้องได้บุญ แต่ถ้าจะถามว่าใครได้บุญมากน้อยกว่ากันอย่างไร คงเกินกว่าวิสัยปุถุชนจะตอบได้ หรือไม่ก็เป็นการอนุมานเอา จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 01:34:15

ความคิดเห็นที่ 18 ข้าพเจ้าคิดว่า "ได้บุญ" แน่ๆ เพราะท่านมี "เจตนา" ที่จะทำ เจตนาที่จะทำบุญโดยช่วยเรื่องเงิน เจตนาที่จะทำบุญโดยช่วยใส่บาตร จากคุณ : KONICHIWA เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 08:01:02

ความคิดเห็นที่ 19 คุณหนูยิ้มจ้า มีใจอยากใส่บาตร ก็ได้บุญได้กุศลแล้วนะคะ แต่ว่าขาดความตั้งใจไปนิ้ดนึง แน่ๆเลยนะคะ สมทบทุนค่าอาหารใส่บาตร แต่ตอนพระเดินมารับอาหารจากเรา เราก็ไม่เห็น ความปิติก็ไม่เกิดอะค่ะ คุณหนูยิ้มลองตั้งนาฬิกาปลุก ตื่นเช้าอีกซักนิดสิคะ ไม่ต้องถึงกับลงมือทำอาหารเองก็ได้ แต่น่าจะให้ทันพระมาหน้าบ้าน ถ้าได้ใส่บาตรเองเมื่อไร จะรับรู้ถึงความปิติยินดีที่แตกต่างกับตอนฝากป้าแม่บ้านใส่บาตรให้เลยค่ะ :) จากคุณ : อ้วนดีนะ เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 08:31:57

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าคุณรู้สึกปลื้มใจเหมือนได้ใส่เองก็ได้บุญไม่ต่างกันครับ บางคนแค่อนุโมทาอย่างเดียว แต่จิตมีปิติมากกว่าคนใส่เองกับมือ ยังจะได้บุญมากกว่าอีกมั้ง จากคุณ : Generals เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 08:45:46

ความคิดเห็นที่ 21 ของผมเรื่องมากกว่าคุณอีกครับ ผมไม่ศรัทธากับพระที่มาบิณฑบาตรแถวบ้าน ผมก้เลยเอาเงินไปถวายวัดที่ผมศรัทธาเป็นค่าภัตตาหารเป็นรายอาทิตย์แทน  ไปใส่เองไม่สะดวกเหมือนกัน  อย่างไรแม่ชีก็ต้องทำเพิ่มถวายอยู่ดีโดยเฉพาะพวกผัก  ผลไม้ จากคุณ : Bitter Coffee เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 09:23:31

ความคิดเห็นที่ 22 ความคิดเห็นที่ 7     เอ่อ  รบกวนขออีกหนึ่งคำถามนะคะ ในทางกลับกัน ป้าแม่บ้านทำอาหารไว้เรียบร้อย  แล้วเราไม่ได้ช่วยทำอะไร รอนำของมาตักใส่บาตรพระอย่างเดียว   แบบนี้จะถือว่าเรา  คือ โดยกริยาถือว่าเราใส่บาตรน่ะค่ะ  แต่ในแง่ของเจตนาล่ะค่ะ จากคุณ : Smiling-girl     เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 18:49:51     ------------------ ^ ขอแนะนำให้เราเอาเงินค่าอาหาร(และค่าแรงทำอาหาร)ให้คุณป้า แล้วช่วยปลุกเราให้ด้วย ตื่นแล้วก็รีบล้างหน้าล้างตาลงมาใส่บาตรเอง แบบนี้ก็ได้บุญเต็มเปี่ยมแล้วครับ อนุโมทนาล่วงหน้าทุกๆวันนะครับ (ขอแบ่งบุญด้วยเด้อ) จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 11:29:13

ความคิดเห็นที่ 23   เอาเป็นว่า....   ทุกอย่างที่ ที่คุณหนูยิ้ม คิด และทำ ตั้งแต่คำถามแรก จนถึงคำถามสุดท้าย (หนูน้อยจำไม !!!) ในกระทู้นี้...ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของ การทำบุญ และการ "ได้บุญ" ทั้งนั้นครับ   เพียงแต่ว่า มีระบบการเปรียบเทียบการได้บุญน้อย ได้บุญมาก  ก็เลยต้องว่ากันไปตามนั้น  แต่สรุปว่า คุณหนูยิ้ม ทำบุญ ก็เป็นบุญแน่นอนครับ ขอแสดงความยินดีด้วย (บางคนเขาพูดกันว่า อนุโมทนาด้วย..ประะมาณนั้น ๆ )    ผมเองกลับมองว่า เรื่องนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกนะครับ หากเราไม่สะดวก เราก็หาวิธีอื่น ๆ ที่ฉลาดกว่า และเหมาะกับเรามากกว่า เช่น วิธีของคุณBitter Coffee  เป็นต้น พระได้ฉันทีเดียวพร้อม ๆ กันทั้งวัดเลย เชียวนา                    ผมเองก็ใช้วิธีนี้บ่อย ๆ เช่นกัน  ..อย่างไรก็ตาม ผมก็ทำหลาย ๆ วิธีครับ ทั้งตักบาตรบ้าง ไปถวายสังฆทานบ้าง นิมนต์พระมาฉันภัตตาหารที่บ้านบ้าง ชำระเงินให้พระบ้าง หากเห็นว่าท่านกำลังฉันอยู่ในร้านอาหาร ในขณะที่ีท่านเดินทาง   และแน่นอน เวลารัฐบาล สนับสนุนเงินงบประมาณ จัดสร้างสิ่งต่าง ๆ แก่พระศาสนา หรืออุดหนุนพระภิกษุสามเณร ในด้านการศึกษา - นิตยภัต หรืออื่นใดก็ตามที่รัฐ จัดสรรงบประมาณถวาย  ผมก็จะรับรู้ได้ถึงบุญทุกครั้งเช่นกัน เพราะผมเชื่อว่า ในงบของรัฐบาลก้อนนั้น  มีเงินของผมรวมอยู่ด้วย เพราะผมเสียภาษีให้รัฐทุกปี  เราสามารถทำบุญ สร้างกุศลได้มากมายครับ คงไม่เจาะจงเฉพาะ ตักบาตร...แต่การได้ตักบาตร ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีทีเดียว   อีกวิธีที่ง่าย ๆ ก็คือ คุณหนูยิ้ม ก็ลอง หาทางให้ตัวเอง ติดซีรี่ส์หนังเกาหลี ซักเรื่องสิครับ เลือกเอาตอนที่มันมาซัก ประมาณ ตี 5 น่ะ จะได้ลุกขึ้นมาดู แล้วจะมีผลพลอยได้ที่เป็นกุศลมหาศาล คือการได้ทำกับข้าวใส่บาตรตอนเช้าไง๊  หากวิธีนี้ ยังไม่เวิร์ค ก็อาจจะต้องเลี้ยงกุมารทองสักตัว แล้วบอกว่า ให้ช่วยปลุกแม่ ตอนตีห้านะลูกนะ แล้วลูกเองก็จะได้ตื่นเช้าด้วยเลยนะ เด็กดี  ฯลฯ มีวิธีอีกตั้งเยอะน่ะ... หากพยายามทุกวิธีแล้ว ก็ยังตื่นไม่ไหว แต่ใจมันอยากตื่น ก็ลองวิธีสุดท้าย...  ขอร้องให้ลุงโข ส่งหมอผีวูดู เพื่อนของแกน่ะ เป่าคาถาข้ามทวีปมา ให้กริ่งที่บ้านดังลั่นตอนตีห้า...ผมเองก็จะสมทบด้วยการส่งควายธนู ไปช่วยขวิด รั้วประตูบ้านอีกแรงนึง...(ที่สวนหลังบ้านผม มีความธนู ที่ถูกใช้มาจนเกษียณแล้ว บางคนเขาเอามาให้ทำลาย แต่ผมก็เหลือ ๆ เอาไว้บ้าง ให้มันยืนเฝ้ากระถางบอนไซ น่ะ)  หวังว่า คงจะพอปลุกให้หนูยิ้มตื่นได้.....มั้ง แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 54 13:03:57 จากคุณ : รถเรณู เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 12:45:57

ความคิดเห็นที่ 24 อนุโมทนาบุญกับการใส่บาตรนะครับ ใส่บาตรแล้วอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับข้าพเจ้าด้วย ขอกันง่ายๆแบบนี้แหละ ปล.อย่าลืมกรวดน้ำและอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนะครับ สำคัญมาก จากคุณ : ทุกวินาที เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 15:18:17

ความคิดเห็นที่ 25 ตื่รตี4ตึ5มาใส่บาตรกับมาปฏิบัติธรรมอันไหนดีกว่ากันครับ จากคุณ : มันตรัย2009 เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 18:15:20

ความคิดเห็นที่ 26 ขออณุญาติแตกเรื่องใส่บาตรครับ จากคุณ : มันตรัย2009 เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 18:16:13

ความคิดเห็นที่ 27 จากคุณ : เอิงเอย เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 19:43:14

ความคิดเห็นที่ 28 ==> เช้านี้ดีจัง ทำอาหารตักบาตรพระมาค่ะ จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 08:52:21