คุณรถเรณูครับ
เรากำลังคุยกันเรื่อง สัมมาสมาธิ
ไม่ใช่นั่งหลับตานะครับ
....................................................................................
ใช่แล้วครับ เราคุยเรื่องสัมมาสมาธิ แต่หากคุณอ่านดี ๆ และมีสติในการอ่าน คุณก็จะเข้าใจว่า การเขียนของผมนั้น มีทั้ง เปรียบเทียบ อุปมา อุปมัย เพื่อยกตัวอย่างให้เห็นว่า คนบางคน แม้รู้ว่า สัมมาสมาธิ คืออะไร แต่วิธีที่เขาปฏิบัตินั้น ไม่ได้สื่อว่า เป็นสัมมาสมาธิ ไงเล่าครับ....
หวังว่า คุณคงจะกลับไปอ่าน และทำความเข้าใจได้ ว่าผมหมายถึง ใคร อะไร? โอเคไหมครับ ไม่งั้นเสียเวลาแย่ ที่จะต้องมานั่งชี้แนะกันอย่างนี้เรื่อยไป
.........................................
ว่าแต่ทำไมอยากชกผมจัง ครั้งที่แล้วก็จะทำอะไรนะ.. ผมจำไม่ได้
อืม..ก็เหมาะแล้วที่ คุณควรจะจำไม่ได้ (ควรไปตรวจภาวะ อัลไซเม่อร์บ้างนะครับ ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วล่ะเราน่ะ )
ก็ลองขนาดว่า ในกระทู้นี้ ไม่มีอะไรตรงไหน ที่บ่งบอกว่า ใครอยากจะชกใคร คุณ ก็ระแวงสงสัยไปซะขนาดนั้น และการยกคำเปรียบเทียบว่า สมมติว่า คุณโดนชกจนสลบไป คุณก็ไม่ได้ทำผิดอะไร ในมรรคแปด ในขณะที่กำลังสลบ !!!
หากคำพูดประโยคนี้ มันทำให้คุณเกิดระแวง ว่า ผมจะไปชกคุณแล้วล่ะก็ ผมคิดว่า วันที่คุณไปตรวจอัลไซเม่อร์ คุณก็ควรปรึกษาจิตแพทย์ไปด้วยเลยนะครับ อาการระแวงมาก ๆ แบบนี้ น่ากลัวว่า สุขภาพจิต อาจจะไม่ค่อยดีแล้วล่ะ..นะครับ
...................................
คุณรถเรณูไม่เข้าใจเรื่องสัมมาสมาธิก็ไม่แปลกใจหรอกครับ
ครับ คุณก็ไม่ควรแปลกใจอะไรครับ และผมก็แค่อยากรู้ว่า ตลอดเวลา ที่ผ่านมา คุณได้ใช้ สติและปัญญา ที่อยู่ส่วนใหน ของคุณ มาตัดสินว่า คุณ รถเรณู ไม่เข้าใจเรื่องสมาธิ? มีแต่คุณและอาจารย์ ของคุณเท่านั้น ที่เข้าใจเรื่อสมาธิ?
......................................
สังเกตนะครับ เรากำลังคุยเรื่องสัมมาสมาธิ
ดีแล้วครับ คุณเอง ก็ควรสังเกต ให้แยบคาย และพยายามอ่านภาษาไทยให้แตกฉาน นิดนึง ก็จะดีเองนะครับ ก็ไหนคุยนักคุยหนา ว่า เขียนอะไร ได้ตั้งมากมาย คนอ่านตั้งมากมายอ่ะไรน่ะ แค่ภาษาไทย ง่าย ๆ ของรถเรณู (ที่เชื่อว่ามีคนอ่านเข้าใจ ไม่น้อยไปกว่า sirnitfi สักเท่าไหร่ ดอกกระมัง) คุณก็ยังไม่สามารถทำความเข้าใจได้ ? หมายความว่าไง หืมมม์?
........................
ขอย้ำนะครับ
กรรมฐาน ไม่ใช่การนั่ง ไม่ใช่การยืน ไม่ใช่การเดิน ไม่ใช่การนอน
มันทำได้ทั้งวัน โดยที่คุณทำงานและพิมพ์กระทู้นี้อยู่ก็สามารถเจริญกรรมฐานได้
แล้วมีใครเถียงคุณตรงไหนจ๊ะ ว่า กรรมฐานไม่สามารถทำได้มากมายหลายอิริยาบท (แนะนำให้คุณลองไปอ่าน กรรมฐาน ๔๐ เพื่อประเทืองปัญญาดูบ้างนะ)
ส่วนเรื่องนั่งหลับตา นั่น ก็ลองขึ้นไปอ่านดูดี ๆ อีกที ว่า เขาเอามาพูดในบริบทไหน กับใคร ที่อ้างอิงอะไรมาก่อน..อย่างไร
และหากคุณกำลังจะ พยายามสื่อว่า ในมรรค มีองค์แปดนั้น ทุก ๆ มรรค เราสามารถใช้อารมณ์กรรมฐานได้ ก็จะไม่มีใครว่าอะไรนิ...หากคุณเข้าใจ ในการใช้ภาษาแบบนี้มาแต่ต้น คนอื่น เขาก็จะรู้ล่ะ ว่า อย่างน้อย คุณก็เข้าใจได้ดีในระดับหนึ่ง
แต่ไม่ได้เป็นอย่างนั้น คุณกลับพูดในเรื่องที่ ทำให้คนเขาเข้าใจว่า สัมมาสมาธินั้น มีเพียงอย่างเดียว มรรคอื่น ๆ ก็ไม่สำคัญ หรือ มีสัมมาสมาธิเพียงอย่างเดียว มรรคอื่น ๆ ก็ไม่ผิด
ซึ่ง ประโยคหลังนี้ ผมก็บอกไปแล้วว่า คำพูดของคุณ แสดงให้เห็น ว่า คุณคิดได้ แค่ สพฺพปาปสฺส อกรณํ เท่านั้น (ลองขึ้นไปอ่านให้ละเอียด)
...............................
ผมถึงมีจิตสงสัยอยู่ว่า คุณไปเอาคำว่า กรรมฐาน มาจากไหน ?
อืมม... คุณก็สมควร สงสัย นะครับ เพราะ แน่นอนว่า ผมและคุณ ศึกษามาต่างกัน ก็มี เหมือนกันก็มี และมีครูบาอาจารย์ ที่ต่างกัน คนละสไตล์
แต่แน่นอนว่า เรื่องกรรมฐาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกรรมฐาน ๔๐ อย่าง หรือ ธุระในพุทธศาสนา ๒ ประการ ที่มีให้ศึกษานั้น ผม มีสติปัญญา มีเวลา และมีความพร้อมที่จะศึกษา และปฏิบัติไม่แพ้อาจารย์คุณหรอกครับ
อาจารย์คุณ ศึกษา มาจากพระพุทธเจ้าเช่นไร ผมก็ศึกษามาเช่นนั้น แต่ครูบาอาจารย์ของคุณ อาจจะมีลีลา อ้อมโลก ก็แล้วแต่ท่าน แต่สำหรับผม ผมไม่อ้อมโลก (ครูอาจารย์บางท่าน อ้อมโลกจนพาลูกศิษย์ เดินกันจนเหนื่อย อ้อมกันไป เรี่ยไรกันไป สร้างศาลากันใหญ่โตมโหฬาร ฯลฯ ด้วยเงินที่ลูกศิษย์ซื้อบุญนั่นแหล่ะ)
ก็สรุปว่า การศึกษากรรมฐาน ของผม จะมาจากไหน อย่างไร คุณมีสิทธิ์ที่จะสงสัยครับ ไม่มีใครสามารถห้ามความสงสัยกันได้ แต่หากให้ผมตอบ ผมก็ตอบคุณว่า ครูบาอาจารย์ของคุณศึกษามาจากไหน ผมก็ศึกษามาจากสำนักเดียวกับอาจารย์คุณ หรือ อาจารย์ของอาจารย์ของคุณอีกที....เพียงแต่ผม ไม่ขอเดิน อ้อมโลก เพียงแต่ผมไม่สนใจไปนั่งเสกใบไม้ให้เป็นตัวต่อแตน ผมไม่สนใจไปนั่งเป่ายันต์ ฯลฯ......เคลียร์ไหมครับ
แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 54 15:20:59