ความคิดเห็นที่ 1 "ต้นศาสนา" ไม่ใช่ ต้นวาสนา... ต้องปฏิบัติด้วยศรัทธาที่ซื่อตรงเท่านั้น จึงจะสมานฉันท์มั่นคงบนสันติธรรมได้จริง !!! [๒]            ในเมื่อศาสนากำเนิดขึ้นมาจากความต้องการอันเป็นพื้นฐานเดียวกันของมนุษย์  คือ  ความต้องการทางจิตวิญญาณทั้ง ๕ ประการ*  ซึ่งหมายถึงสิ่งที่มีคุณค่า ๕ อย่างที่สังคมมนุษย์ต่างยอมรับ และไม่มีศาสนาใดไหนเลยที่ปฏิเสธ  หากแต่ว่ามีความแตกต่างกันไปเพียงที่ การเน้น หรือ การเอาใจใส่เป็นพิเศษ ต่อข้อใดข้อ ๑ ใน ๕ ข้อของ ความต้องการทางจิตวิญญาณทั้ง ๕ ประการ ดังจะกล่าวต่อไปนี้-นั้น จิตวิญญาณทั้ง ๕ ประการนั้น  ได้แก่                                        ๑. ความสุขชั้นสูง                                        ๒. สิ่งสมบูรณ์                                        ๓. คุณความดี                                        ๔. ที่พึ่ง                                        ๕. ปรัชญาชีวิต ศาสนาฮินดู      เน้นที่พึ่ง  สิ่งสมบูรณ์  ความสุขชั้นสูง  ความดี  และปรัชญาชีวิต  ตามลำดับ ศาสนาอิสลาม  เน้นที่พึ่ง  ความดี  ปรัชญาชีวิต  สิ่งสมบูรณ์  ตามลำดับ โดยไม่เน้นหรือใส่ใจในความสุขชั้นสูง ศาสนาคริสต์    เน้นที่พึ่ง  สิ่งสมบูรณ์  ความดี  และปรัชญาชีวิต  โดยไม่เน้นหรือใส่ใจในความสุขชั้นสูง ศาสนาขงจื้อ    เน้นความดี และปรัชญาชีวิต ศาสนาพุทธ     เน้นความสุขชั้นสูง  สิ่งสมบูรณ์  ความดี  ที่พึ่งและปรัชญาชีวิต  ตามลำดับ ศาสนาประเภทวิญญาณนิยม       เน้นที่พึ่งอย่างเดียว ศาสนาฝ่ายเทวนิยม  ไม่ว่าจะเป็นเอกเทวนิยม เช่น ยิว  คริสต์  อิสลาม  หรือ  พหุเทวนิยม  อย่างศาสนาฮินดู  ต่างสอนถึงที่พึ่งอันประเสริฐคือ พระเจ้า เป็นอันดับ ๑   และพระเจ้านั้นก็เป็นแทบทุกสิ่งทุกอย่าง  คือ เป็นทั้งคุณความดี และ เป็นทั้งสิ่งสมบูรณ์  แต่ไม่ใส่ใจเน้นในส่วนของความสุขชั้นสูงที่เกิดจากสมาธิวิปัสสนา ศาสนาขงจื๊อ  เน้นในด้านความดีอย่างเดียว  คือมุ่งสอนให้มนุษย์ทำหน้าที่ของตนต่อผู้อื่นให้สมบูรณ์  ให้ทำความดีต่อกัน และรักษาคุณความดีนั้นๆ แล้วสังคมก็จะสงบสุข ศาสนาขงจื๊อไม่ค่อยสนใจในปรัชญาอันลึกซึ้งในที่พึ่งอันศักดิ์สิทธิ์  ในความสุขชั้นสูง หรือในสิ่งสมบูรณ์ ศาสนาประเภทวิญญาณนิยม  เน้นที่พึ่งอย่างเดียว นั่นคือ พิธีกรรม การบนบานบวงสรวงผู้มีคุณ  และการขับไล่-ปราบปรามผีที่มีโทษ-ที่ให้โทษ              ในสังคมชนชั้นที่ ศรัทธานับถือแนววิญญาณนิยมนี้ ไม่มีระบบปรัชญา  ไม่มีสิ่งสมบูรณ์สูงสุด  ไม่มีความสุขชั้นสูง  และไม่มีทั้งระบบจริยธรรม ศาสนาพุทธ  จะเน้นความสุขชั้นสูงมากกว่าสิ่งอื่นใด  เพราะสอนให้มนุษย์มุ่งสู่การปฏิบัติเพื่อความดับทุกข์อย่างสิ้นเชิง   ศาสนาพุทธมีคำสอนที่มุ่งให้บรรลุถึงสภาพจิตที่มีแต่ความสว่าง  สะอาด  สงบตลอดกาล ต่อจากนั้นก็สอนถึงสิ่งสมบูรณ์ที่เรียกว่า นิพพาน เป็นอันดับที่ ๒  สอนในเรื่องความดี  คือหลักจริยธรรมเป็นลำดับที่ ๓ และสอนให้เคารพนับถือในพระรัตนตนัยว่าเป็นที่พึ่ง-เป็นอันดับที่ ๔  ปรัชญาชีวิตจะสอนกันเป็นอันดับสุดท้าย         ด้วยเหตุเช่นนั้น ก็เพราะว่า...ในเมื่อศาสนากำเนิดขึ้นมาจากความต้องการอันเป็นพื้นฐานเดียว กันของมนุษย์  ย่อมจะเปรียบได้เช่นกันว่า ศาสนาในโลกนี้ก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน          เพราะเหตุต้นทางทุกอย่างทั้ง ๕ ประการนั้น ต่างก็ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่เหมือนกัน  เพียงแต่ แตกแยกออกไปตามความต้องการที่มากน้อยต่างกันไป  คือแต่ละศาสนาให้ความสำคัญในแต่ละเรื่องแต่ละลำดับทั้ง ๕ ประการนั้นไม่เท่ากัน เปรียบอย่างให้เห็นชัดเจนก็คือว่า ทุกศาสนา เหมือนกับ  กิ่งไม้  ที่แตกแยกออกมาจาก  ต้นไม้ต้นเดียวกัน  นั่นเอง และ_ธรรมชาติของต้นไม้แบ่งตามส่วนประกอบที่สำคัญได้ ๓ ส่วน คือ  ราก  ลำต้น  และ  กิ่ง รากเป็นฐานของลำต้น  และลำต้นก็เป็นฐานของกิ่ง  ซึ่งเป็นธรรมดา~ตามธรรมชาติของ กิ่ง ของต้นไม้ที่จะต้องมีหลายกิ่ง และแต่ละกิ่งย่อมมีขนาดต่างกันไป  คือมีใหญ่บ้างมีเล็กบ้าง  บรรดานกกาที่บินบนฟ้าก็มักจะลงมาอาศัยจับที่   กิ่ง  ไม่จับที่รากหรือที่ลำต้น เปรียบเทียบเข้ากับเรื่องของศาสนา ก็ดังจะเปรียบได้เช่นนี้  คือ ราก  เปรียบเหมือน    ความเป็นมนุษย์ ลำต้น    เปรียบได้กับ    ความต้องการทางจิตวิญญาณ ๕ ประการ กิ่งทั้งหลาย   เปรียบเป็นเช่นเดียวกันกับศาสนาต่างๆ และบรรดานกกาทั้งมวลนั้น ก็คือสรรพชีวิตที่เป็นมนุษย์ปุถุชน คือคนเราท่านทั้งหลายนี้-นั้น นั่นเอง นก  ผู้คน-ปุถุชน ผู้มีศาสนา  เรียกรู้กันตามนิยามนิยมว่า ศาสนิกชน กิ่ง  ศาสนาต่างๆที่มีบนโลกนี้ เกิดจากความต้องการพื้นฐานที่เหมือนกันใน ๕ ประการดังกล่าว ลำต้น  คือความต้องการทางจิตวิญญาณ ๕ ประการนั่นเอง ราก  คือความเป็นมนุษย์ มองดู ศาสนา ด้วยสายตาเปรียบเทียบกับสิ่งที่มองเห็น ตามจริง ในธรรมชาติบ้างเถิด-นะ   ลองดู และคิด~พิจารณา นก ก่อนจะลงจับกิ่งไม้ มันย่อมจะพิจารณาเรียนรู้ว่ากิ่งไหนจึงจะเหมาะสมกับขนาดของตัวมัน  นกตัวใหญ่ก็จะลงจับกิ่งขนาดใหญ่  นกขนาดกลางก็จะลงเกาะกิ่งขนาดกลางที่พอดีน้ำหนักตัวมัน และนกขนาดเล็กก็จะลงอาศัยพักอยู่บนกิ่งเล็กพอสมตัวของมัน-เช่นกัน นกใหญ่จะไม่เกิดความหยิ่งผยองในกิ่งใหญ่ที่มันเกาะจิกกรงเล็บไว้มั่นคง   และมันจะไม่หันไปดูหมิ่นเหยียดหยามนกขนาดเล็กที่จับยิ่งเล็กย่อมสุด  เพราะมันรู้ดีว่า ไม่ว่าจะกิ่งขนาดไหน ก็ล้วนแต่มาจากลำต้นเดียวกัน เป็นกิ่งของต้นไม้ต้นเดียวกันนั่นเอง  และกิ่งก็ให้ประโยชน์แก่นกทุกๆตัวเสมอกัน   มันก็อยู่กันได้อย่างสงบสุข หาลูกไม้สุกหาแมลงเพื่อการมีชีวิตต่อไปได้ตามวิถีทาง ไม่เป็นที่เดือดร้อนแก่กัน มนุษย์เราน่าจะได้คิด เอานกเป็นตัวอย่าง ในการอยู่ร่วมกันด้วยศาสนา ผู้ที่นับถือศาสนาหนึ่งไม่ควรดูหมิ่นเหยียดหยามผู้ที่นับถือศาสนาที่ต่างจากศาสนาที่ตนนับถือ   เพราะทุกศาสนามาจากพื้นฐานรากเง่าเดียวกัน  ควรที่จะมีความเห็นอกเห็นใจในกันและกัน  และมองให้เห็นว่าที่เขานับถือศาสนานั้นๆก็เพราะเขาเห็นว่าศาสนานั้นๆเหมาะสมแก่เขา เขามีความต้องการพื้นฐานทางจิตวิญญาณที่มากน้อยต่างไปจากเรา   และเพราะเขาเห็นว่าศาสนานั้นๆสามารถสนองความต้องการแห่งจิตวิญญาณของเขาได้มากกว่า~ตรงกว่าอีกศาสนาหนึ่ง   เขาจึงเลือกนับถือในศาสนานั้นๆ                     ถ้าเราท่านเข้าใจกันและกันในเรื่องการนับถือศาสนาได้เช่นนี้แล้ว ความรังเกียจหรือเหยียดหยามกันระหว่างศาสนานี้-นั้นก็ย่อมไม่มี นกตัวใหญ่ไม่ไปทำลายกิ่งอื่นๆของต้นไม้  แล้วไปบังคับนกตัวอื่นๆให้มาจับที่กิ่งตนเองที่เดียว นั่นเพราะมันรู้ว่าไม่มีวันที่มันทำลายกิ่งอื่นๆเหล่านั้นได้เลย   หรือแม้ว่าจะบังเอิญทำกิ่งนั้นๆหักลงไปได้  แต่กิ่งใหม่ๆก็จะงอกออกมาอีก  ตราบใดที่ต้นไม้ยังมีลำต้น           ถ้า นกใหญ่ตั้งใจหักทำลายกิ่งอื่นใดนั้นต่อไป  มันก็จะต้องคอยจ้องทำลายกิ่งใหม่ๆอยู่เรื่อยๆไป ๆ กระทั่งหมดกำลังแล้วตัวมันก็ต้องตายลงไปเอง                     เช่นนั้นแล  พึงที่คนในวงการศาสนา  ทั้งศาสนิกในศาสนา และ-โดยเฉพาะคนที่มีหน้าที่เผยแผ่ศาสนาที่ตนนับถือ เชื่อถือ~ศรัทธา  น่าจะได้เอาตัวอย่างจากนกกาในประเด็นนี้ไปพิจารณาด้วย   คือไม่ควรทำลายล้างศาสนาอื่นโดยวิธีการใดๆ  แล้วก็กวาดเอาศาสนิกของเขามาเข้าศาสนาของตน   เหตุผลก็เพราะว่า มันเป็นงานที่ทำได้ยากมาก และ ถึงแม้ว่าตน-ฝ่ายตนจะทำลายศาสนาอื่นๆได้หมด  เหลือแต่ศาสนาของตนศาสนาเดียว  ศาสนา ๑ เดียวนี้-นั้นก็จะอยู่อย้างโดดเดี่ยว คือ ๑ ศาสนาเดียวได้ ก็เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น   ในไม่ช้าไม่นาน ในศาสนา ๑ เดียวนั้นเอง ที่จะเริ่มมีกิ่งก้านใหม่แตกออกมา  ปรากฏขึ้นมาในรูปแบบของลัทธินิกายต่างๆ  ทั้งนี้ก็เพื่อสนองความต้องการของคนตามฐานะแห่งธรรมชาติของ "ความเป็นคน"   เช่นเดียวกับธรรมชาติของต้นไม้ ที่ย่อมมีการแตกกิ่งก้านสาขา  เหตุเพราะว่าลำต้นยังอยู่   และ_ต้นไม้ที่เปรียบไว้โดยให้ขื่อว่า ต้นศาสนา นี้ แท้จริงแล้วก็ยังไม่เคยตายไปจากโลกนี้เลย ตราบใดที่ยังมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า มนุษย์ เวียนเกิด~เวียนตาย กันอยู่อย่างนี้                และเมื่อรู้เห็นว่า สัจธรรม มันเป็นเช่นนี้แล้ว  ผู้ที่นิยมศาสนาสากล ๑ ศาสนาเดียวนั้นก็จะต้องคอยปราบปรามลัทธินิกายใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา  ซึ่งในที่สุดของเรื่องนิยมในความมี ๑ เดียวนั้น เราท่านก็จะพบว่า การปราบปรามนั้นมีแต่ความล้มเหลวและเสียเวลา   เพราะว่าไม่สามารถปราบศาสนาอื่นๆใดๆนั้นได้ราบคาบลงอย่างตั้งใจไว้ได้เลย             ถ้า จะต้องให้ยกมาเปรียบเทียบเื่พื่อได้เห็นกันอย่างชัดเจนไร้ข้อกังขา ก็จงดูตัวอย่างจากบันทึกประวัติศาสตร์ทางศาสนาของผู้คนในทวีปยุโรป ล้วนแต่เป็นเรื่องจริงๆที่เกิดขึ้นมาแล้ว กับการที่อยากเป็นศาสนา ๑ เดียว และเป็นเรื่องจริงๆที่เราท่านย่อมได้ศึกษาเรียนรู้กันมาแล้วไม่มากก็น้อย.  *  ศาสนศาสตร์ : The Science of Religion ISBN 9740849725                    เขียนโดย แสง จันทร์งาม พิมพ์ที่ ไทยวัฒนาพานิช                 พิมพ์ปี 2545/329 หน้า @ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แสง จันทร์งาม (ธรรมโฆษ@ จากคุณ : กรองคำ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 09:12:41

ความคิดเห็นที่ 2 "ต้นศาสนา" ไม่ใช่ ต้นวาสนา...ต้องปฏิบัติด้วยศรัทธาอัน  ถูกต้อง  เท่านั้น จึงจะเป็น สมานฉันท์ ที่มั่นคงบนสันติธรรมได้อย่างแท้จริง !!!   จากกระทู้ : @@ ทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดีจริงหรือ @@ ความคิดเห็นที่ 16 ต้นไม้ต้นเดียวกัน แผ่กิ่งก้าน แตกแขนง ก็เหมือน ศาสนา  ลัทธิ  นิกาย ทุกศาสนา นิกาย ลัทธิ ล้วน มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ต่างวิธีกัน นกเลือกเกาะ กิ่งใดก็ได้ เมื่อกิ่งหักก็เปลี่ยนกิ่งเกาะ ก็เหมือน มนุษย์เลือก เดินเส้นทางไหน เลือกศรัทธา เลือกนับถือ เมื่อกิ่งหัก ก็เหมือนเมื่อเลือกแล้ว รู้ว่าไม่ใช่ก็เปลี่ยนใหม่ ทุกอย่างเป็นเช่นนั้น คะ จากคุณ     : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ     : 11 ธ.ค. 54 20:57:24           กรองคำ ขอขอบคุณ ท่านสมาชิกฯ login ผู้สัญจร ที่แสดงความคิดเห็น อันนับได้ว่าเป็นอีก ๑ มรดกทางความคิดของชาวพุทธ ที่ได้ประทับ~ประดับไว้ใน สังคมแห่งการอยู่ร่วมกัน คือ ห้องศาสนา ณ เว็บพันทิปดอทคอม แห่งนี้  เพื่อที่ พุทธศาสนิกชนคนรุ่นหลังเราท่านจะ_เมื่อได้มาผ่านพบเจอ เธอเขาเหล่าผู้มาภายหลังเหล่านั้น จะได้มีสำนึกนำพาให้ใฝ่ใจเรียนรู้ศึกษา และต่อยอดหลักคิดนั้นๆ            เพื่อนำสู่การปฏิบัติอัน ถูกต้อง แก่กิจ~งานการเพื่อรักษาและสืบทอดพระพุทธศาสนา ด้วยพลังจากศรัทธาที่ ซื่อตรง ให้ได้มี-ได้เป็นความมั่นคงและยั่งยืนต่อพระศาสนาของเราท่านทั้งหลาย สืบต่อไป ฯ จากคุณ : กรองคำ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 10:18:55

ความคิดเห็นที่ 3 จากกระทู้ : @@ ทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดีจริงหรือ @@ ความคิดเห็นที่ 16  ต้นไม้ต้นเดียวกัน แผ่กิ่งก้าน แตกแขนง ก็เหมือน ศาสนา  ลัทธิ  นิกาย ทุกศาสนา นิกาย ลัทธิ ล้วน มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ต่างวิธีกัน นกเลือกเกาะ กิ่งใดก็ได้ เมื่อกิ่งหักก็เปลี่ยนกิ่งเกาะ ก็เหมือน มนุษย์เลือก เดินเส้นทางไหน เลือกศรัทธา เลือกนับถือ เมื่อกิ่งหัก ก็เหมือนเมื่อเลือกแล้ว รู้ว่าไม่ใช่ก็เปลี่ยนใหม่ ทุกอย่างเป็นเช่นนั้น คะ จากคุณ     : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ     : 11 ธ.ค. 54 20:57:24 ถูกใจ : powerinvincible, กรองคำ ปล. ขอแทนคำขอบคุณ ด้วยภาพประกอบ คคห.ที่ ๑๖ ของท่านสัญจร ไว้ ณ ที่นี้ ฯ จากคุณ : กรองคำ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 10:31:35

ความคิดเห็นที่ 4 เพิ่งเข้ามาเห็นกระทู้นี้คะ ขอบคุณสำหรับคำชม คะ จากคุณ : ผู้สัญจร เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 00:52:34