อถโข ภควา เยน อุปฏฺฐานสาลา
เตนุปสงฺกมิ อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ ฯ
นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าไปยังอุปัฏฐานศาลา
ประทับนั่งบนอาสนะที่เขาจัดถวาย
ครั้นพระผู้มีพระภาคประทับนั่งแล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
ตสฺมาติห ภิกฺขเว เย เต มยา ธมฺมา อภิญฺญา
เทสิตา เต โว สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา อาเสวิตพฺพา
ภาเวตพฺพา พหุลีกาตพฺพา
ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย ธรรมเหล่าใดที่เราแสดงแล้วด้วยปัญญาอันยิ่ง
ธรรมเหล่านั้น พวกเธอเรียนแล้ว พึงส้องเสพ
พึงให้เจริญ พึงกระทำให้ มากด้วยดี
ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺฐิติกํ ตทสฺส
พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย
อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ ฯ
โดยประการที่พรหมจรรย์นี้จะพึงยั่งยืน ดำรงอยู่ได้นาน
เพื่อประโยชน์ของชนเป็นอันมาก เพื่อความสุขของชนเป็นอันมาก
เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขของเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย
กตเม จ เต ภิกฺขเว ธมฺมา มยา อภิญฺญา
เทสิตา เย เต สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา อาเสวิตพฺพา
ภาเวตพฺพา พหุลีกาตพฺพา
ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ
อสฺส จิรฏฺฐิติกํ ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย
โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย
สุขาย เทวมนุสฺสานํ ฯ เสยฺยถีทํ ฯ
ก็ธรรมที่เราแสดงแล้ว ด้วยปัญญาอันยิ่ง ...
เหล่านั้นเป็นไฉน คือ
จตฺตาโร สติปฏฺฐานา สติปัฏฐาน ๔
จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา สัมมัปปธาน ๔
จตฺตาโร อิทฺธิปาทา อิทธิบาท ๔
ปญฺจินฺทฺริยานิ อินทรีย์ ๕
ปญฺจ พลานิ พละ ๕
สตฺต โพชฺฌงฺคา โภชฌงค์ ๗
อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค ฯ มรรคมีองค์ ๘
อิเม โข เต ภิกฺขเว ธมฺมา มยา อภิญฺญา เทสิตา เย เต สาธุกํ
อุคฺคเหตฺวา อาเสวิตพฺพา ภาเวตพฺพา พหุลีกาตพฺพา
ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺฐิติกํ ตทสฺส
พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย
หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานนฺติ ฯ
ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย ธรรมเหล่านี้แลที่เรา
แสดงแล้วด้วยปัญญาอันยิ่ง ... ฯ
อถโข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ หนฺททานิ ภิกฺขเว
อามนฺตยามิ โว วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสเตือนภิกษุทั้งหลายว่า
ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนพวกเธอ
สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมเป็นธรรมดา
พวกเธอจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม
น จิรํ ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ อิโต ติณฺณํ มาสานํ
อจฺจเยน ตถาคโต ปรินิพฺพายิสฺสตีติ ฯ
อิทมโวจ ภควา อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา
ความปรินิพพานแห่งตถาคต จักมีในไม่ช้า
โดยล่วงไปอีกสามเดือนแต่นี้ ตถาคตก็จักปรินิพพาน
อถโข ภควา อายสฺมนฺตํ
อานนฺทํ อามนฺเตสิ สิยา โข ปนานนฺท
ตุมฺหากํ เอวมสฺส อตีตสตฺถุกํ
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกท่านพระอานนท์มารับสั่งว่า
ดูก่อน อานนท์ บางทีพวกเธอจะพึงมีความคิดอย่างนี้ว่า
ปาวจนํ นตฺถิ โน สตฺถาติ น โข ปเนตํ
อานนฺท เอวํ ทฏฺฐพฺพํ โย โว
ปาพจน์มีพระศาสดาล่วงแล้ว พระศาสดาของพวกเราไม่มี
ก็ข้อนี้ พวกเธอไม่พึงเห็นอย่างนั้น
อานนฺท มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปญฺญตฺโต โส โว
มมจฺจเยน สตฺถา ยถา โข ปนานนฺท เอตรหิ ภิกฺขู อญฺญมญฺญํ
ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ
ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ
อถโข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ หนฺททานิ ภิกฺขเว
อามนฺตยามิ โว วยธมฺมา
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย
บัดนี้ เราขอเตือนพวกเธอว่า
สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถาติ ฯ
สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา
พวกเธอจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด ฯ
อยํ ตถาคตสฺส ปจฺฉิมา วาจา ฯ
นี้เป็นพระปัจฉิมวาจาของพระตถาคต ฯ
............................
ขอความเจริญในธรรมจงมีแด่ทุกท่านที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบเทอญ