Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บทบัญญัติอิสลาม..รู้ได้อย่างไร..ว่าชายต้องขลิบ{แตกประเด็นจาก Y11530011} ติดต่อทีมงาน

อัลกรุอาน เป็นคัมภีร์จากองค์พระผู้เป็นเจ้า เอกองค์อัลเลาะห์ (ซ.บ.)
อัลกรุอาน เป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธ์ เพราะเต็มไปด้วยพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า
อัลกรุอาน เป็นคัมภีร์ที่เป็นธรรมนูญชีวิต ของมนุษย์ยุคสุดท้ายก่อนวันดับสูญของโลกใบนี้

อิสลาม กับการดำเนินชีวิต ให้ยึดถือคำสอนและแบบอย่างจาก คัมภีร์ และจาก หะดีษ ของท่านศาสดา มูฮำมัด (ซล)

คำสั่งสอนทุกคำ คือการป้องกัน ตั้งรับ และแก้ใข ปัญหาต่างๆในสังคม

ในที่นี้ พี่จิม...ซึ่งมีความรู้ทางศาสนาอันน้อยนิด ไม่อยากยก ข้อความในคัมภีร์มากล่าวอ้าง เพียงแต่อยากเสนอ สิ่งในโลกนี้ ที่เพื่อนต่างศาสนิกสามารถสัมผัสได้ และมีความเข้าใจในอิสลาม โดยง่ายดาย เพื่อความที่จะต้องอยู่ร่วมกันอีกยาวนาน

พี่จิม...จะขอกล่าวในที่นี้ถึงการขลิบ....ในแง่มุมที่ได้เรียนรู้มา และสัมผัสมาจริงๆ ประโยชน์ที่จะได้รับเป้นอย่างไร

พอพูดถึงคำว่า ขลิบ...ชายทั้งหลายไม่ว่า มุสลิม หรือไม่ เสียวสันหลังวาบ เอามือกุมเป้าทันที ยิ่งจิตนาการไปไกล ถึงคมมีดโกน ขาววับ อึ๋ยส์ เสียวละ
แต่เหตุการณ์จะเป้นเช่นไร มาติดตามกันนะครับ

ในทางการแพทย์ พี่จิม ขอยกบทความของหมอ เอ้ ที่สนทนากับเพื่อน ที่มาเข้ารับอิสลาม มาให้ฟังนะครับ


“ขลิบ”จนขาด (ความรู้สึก)

“ขลิบ” กับความรู้สึกทางเพศที่ลดลง?

พบกับหมอเอ้อีกเช่นเคยครับ ช่วงนี้หมอเอ้ได้มีโอกาสพบกับเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนที่โรงเรียนชายล้วนด้วยกันค่อนข้างบ่อย เพราะฉะนั้นก็ตามฉบับที่ผู้ชายคุยกัน ส่วนใหญ่ก็จะหนักไปทางเรื่องผู้หญิงหรือไม่ก็เป็นเรื่องใต้เข็มขัดกันซะส่วนใหญ่ ซึ่งหมอเอ้ก็เจอหัวข้อหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย ก็เลยอยากที่จะนำมาเล่าสู่กันฟัง หัวข้อดังกล่าวก็คือ “การขลิบ”

เพื่อนของหมอเอ้คนหนึ่งชื่อว่า “ป้อม” ซึ่งเป็นคนที่รูปร่างสูง ใหญ่ เจ้านี่สมัยเรียนเป็นคนที่ค่อนข้างห่าม แกร่ง แล้วก็มีเสน่ห์มาก เรียกได้ว่าไปเที่ยวที่ไหน ได้หญิงกลับมาทุกครั้ง(แต่ไม่สำเร็จสักครั้ง)  แต่มาวันนี้สีหน้าของป้อมดูจ๋อยไป หมอเอ้ก็เลยถามว่าเป็นไรสบายดีหรือไม่ ป้อมก็ตอบมาว่า “สบายห่_ไรล่ะ กรูเพิ่งไปเจี๋ยนจู๋กรูมาเนี่ย แม่_เจ็บฉิบ...” ว่าแล้วเพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ก็เริ่มล้อมวงกันเข้ามาเพื่อฟังเรื่องที่น่าสนใจของป้อม ซึ่งก็ได้ความว่าป้อมต้องไปขลิบก็เนื่องมาจากป้อมกำลังจะแต่งงานกับเจ้าสาวผู้นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งตามกฎแล้วเพศชายที่กำลังจะแต่งงานก็ต้องผ่านการขลิบก่อน แต่ด้วยความรักที่มีต่อเจ้าสาวถึงแม้ว่ามันจะเจ็บและน่าหวาดเสียวสักเท่าไรป้อมก็ยอมครับ แต่ว่าตอนนี้ป้อมของเรากำลังบ่นและพรั่งพรูคำถามออกมามากมายเลยทีเดียวเชียว...


“ขลิบ” คืออะไร แล้วจะคุ้มหรือที่ต้องไปตัดมันทิ้ง?

การขลิบ (Circumcision) คือ การตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย เพื่อให้สามารถรูดหนังหุ้มอวัยวะเพศให้เปิดออกทำความสะอาดส่วนปลายได้ง่าย ซึ่งสรุปก็คือเพื่อให้เรามีสุขอนามัยที่ดีนั่นเอง เพราะถ้าหากเราไม่ขลิบก็จะก่อให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกภายใต้ผิวหนังจำนวนมาก ซึ่งบางทีก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมทั้งการอักเสบต่าง ๆ ที่เกิดจากเชื้อโรคได้อีกด้วย   ที่สำคัญที่สุดของการขลิบสามารถที่จะลดความเสี่ยงของการมีโรคทางเพศสัมพันธ์อีกหลายชนิดได้อีกด้วย ทั้งนี้เนื่องมาจากเมื่อขลิบแล้ว ผิวหนังบริเวณนั้นจะหนากว่าทำให้ไม่มีเซลล์ที่อ่อนแอ ทำให้ความเสี่ยงต่อการติดโรคทางเพศสัมพันธ์น้อยลง เพราะฉะนั้นถ้าให้สรุปข้อดีของการขลิบก็มีหลายข้อเหมือนกันเช่น

•        ลดอัตราการเกิดการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ

•        ลดอัตราการเกิดมะเร็งองคชาติ

•        ป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับหนังหุ้มปลาย

•        ป้องกันภาวะหนังหุ้มปลายตีบตัน

•        ลดอัตราการเป็นมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง

•        ลดอัตราการติดเชื้อทางระบบสืบพันธุ์

•        ลดปัญหาเรื่องของการหลั่งเร็ว (คาดว่าหลายคนคงพึงพอใจกับข้อนี้...แฮ่ ๆ ครับ )

มาถึงคำถามของเจ้าป้อมเพื่อนของหมอเอ้กันบ้างนะครับ (บางคำถามอาจดูทะลึ่งไปบ้างนะครับ แต่ถ้ามองให้ดีก็เป็นแค่เรื่องธรรมชาติทางเพศที่ควรรู้นะครับ)



ป้อมถาม: หลังจากขลิบแล้วจะทำให้ความรู้สึกทางเพศลดลงหรือใช่เปล่าครับ?

หมอเอ้ตอบ: สำหรับการขลิบและเรื่องของความรู้สึกทางเพศ มีงานวิจัยหลายฉบับพบว่าไม่พบความแตกต่างก่อนและหลังขลิบในเรื่องของความรู้สึกทางเพศ ในขณะที่บางงานวิจัยสรุปว่าอาจจะมีลดลงบ้างเล็กน้อยเนื่องจากเนื้อเยื่อส่วนที่ไวต่อความรู้สึกถูกตัดออกไปบ้าง รวมถึงปลายอวัยวะเพศที่เอาหนังหุ้มออกไปแล้วจะถูกกระตุ้นอยู่ตลอดเวลา จึงอาจทำให้เรารู้สึกชินและมีความต้องการทางเพศน้อยลง อย่างไรก็ตามหมอเอ้ค่อนข้างชัวร์ว่าการขลิบมีผลต่อความรู้สึกทางเพศเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นแนะนำว่าหากเริ่มมีความรู้สึกดังกล่าวหมอเอ้คิดว่า อาจจะเป็นเนื่องมาจากเรื่องของอารมณ์ จิตใจ และสภาพบรรยากาศมากกว่า ซึ่งอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศบ้าง การใช้อุปกรณ์เสริมบ้าง หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เราและคู่สบายใจ



ป้อมถาม: เป็นไปได้ไหมว่าหลังขลิบ ผมรู้สึกว่าอวัยวะเพศใหญ่ขึ้น?

หมอเอ้ตอบ: อืม....อันนี้หมอเอ้คาดว่าคุณป้อมคงคิดไปเองมากกว่าครับ ลองคิดดูนะครับการขลิบคือการเอาผิวหนังบางส่วนออกไปไม่ใช่การเติมเนื้อหนังเข้ามานะครับ อันนี้หมอเอ้ว่าไม่น่าจะมีขนาดใหญ่ขึ้นนะครับ แต่ถ้าคุณป้อมรู้สึกว่าใหญ่ขึ้นจริง ๆ หมอเอ้กำลังสงสัยว่าอวัยวะเพศคุณป้อมอยู่ในช่วงอักเสบอยู่หรือเปล่า?  หรืออีกสาเหตุก็อาจจะเนื่องมาจากคุณป้อมอาจจะเปลี่ยนมุมมองใหม่เปรียบเช่น ถ้าคุณป้อมถอดเสื้อออก (เอาหนังหุ้มออก) คุณป้อมก็จะเห็นกล้ามใหญ่ ๆ ของคุณป้อม...

ป้อมถาม: จริงหรือไม่ครับที่หลังการขลิบผมรู้สึกหลั่งช้าขึ้นครับ?

หมอเอ้ตอบ: ก็เป็นไปได้ครับ เนื่องจากการขลิบจะเป็นการตัดเอาผิวหนังบางส่วนที่ไวต่อความรู้สึกออกไปก็จะมีผลทำให้เราหลั่งช้าขึ้นได้

เพราะฉะนั้นสรุปนะครับว่าจริง ๆ แล้วเรื่องของการขลิบ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพนะครับ เพียงแต่อาจจะเจ็บตัวอยู่ประมาณ 1 เดือน แล้วก็เสียค่าใช้จ่ายบ้างเล็กน้อย พอหลังจากนั้นก็จะสามารถออกรบได้อีกครั้ง ส่วนใครจะบรรลุภารกิจได้ช้าหรือเร็วนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและสภาพของสนามรบมากกว่านะครับคุณป้อม....

************************************************

ทะนี้มาในส่วนของผมมั่งนะครับ เรื่องการขลิบ มีนัยยะทางสำคัญกับ ศพ อย่างไร

มีกรณีตัวอย่าง สัก 2 ตัวอย่าง

เรื่องแรก ขณะที่ผมเรียน ปวช ปี3 แม่ได้ซื้อรถมอร์เตอร์ไซค์ให้เพื่อขับไปเรียนที่เซนต์จอห์น ลาดพร้าว ช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอม ซื้อ คอนคอร์ดสะด้วย
ผมเองเป็นคนขับและขีรถเร็วมาก ถ้าแมงกะบรื้อ นู้นเลย มีเท่าไหร่ไม่ยั้ง นอนขีเลย น้าชายมาเห้นบอกว่า เอ็งขี่แบบนี้ ไปทัวร์อเวจี 90 %

ผมก็ได้แต่เกากบาลแกรกๆ วันนึงผมขี่รถฉวัดเฉวียนเล่น ไปจอดรถแถวร้านกาแฟ มีหญิงกลางคนในขณะนั้นคนนึงยืนรดน้ำต้นไม่หน้าบ้าน แกหันมามงที่ผมแล้วตะโกนเรียก ไอ้หนู มานี่สิ ผมก็เดินเข้าไปหา แล้วถามว่า มีอะไรครับน้า

หยิงคนนั้นบอกว่า เอ็งขายรถคันนี้สะเหอะ ผมก้ งองูสองตัว ขายทำไมละน้า แม่ผมพึ่งซื้อมา ป้ายยังไม่ได้เลย

หญิงคนนั้นบอกว่า รถคันนี้มีแววมรณะ เอาละสิ ตรู ไม่เป็นไรมั้ง

พอกลับมาบ้าน มานั่งมองรถ มองไปมองมา ชักเสียวสันหลังเหมือนกันละ จอดดูสถาการณ์ ก่อนดีกว่า ว่าแล้วผมก็ไม่จับมันอีก ประมาณ 2 วัน

ระหว่างนั้น น้าชายมาที่บ้าน อ้าว น้า...ทำไมไม่เอาแมงกะบรื้อของน้ามาละ.... รถข้าเสีย ละ  แล้ว น้ามีธุระด่วนไรป่าว

มีดิ เอ็งปิดเทอมมะใช้รถ ข้า ขอยืม เอ็งขี่ไปทำงานสัก อาทิตย์นึงนะ

ตกลงผมให้น้าชายยืมไป

ผ่านไป 7 วันเร็วเหมือนโกหก วันนั้นผมจำได้คือวันอังคาร ตอนบ่ายแก่ๆ น้าสะใภ้ เดินหัวกระเซิงมาที่บ้าน มาหาแม่ผม ร้องไห้ขี้มูกโป่งมาเลย ผมและแม่ถามว่า อ้าวร้องทำไม น้ำสะใภ้ตอบว่า บังรอน  คือชื่อของน้าชายผม  ออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้ามืดวันจันทร์ ป่านนี้ยังไม่กลับเลย ติดต่อก็ไม่ได้ สมัยก่อนไม่มีมือถือ เหมือนสมัยนี้

เนี่ยบังรอนไม่เคยไม่กลับบ้าน นี่หายไปจะสองวันแล้ว เอาละสิ แม่ผมถามว่า ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า น้ำสะใภ้พยักหน้าหงึกๆ มันมี สาวมาติดไหม น้าสะใภ้บอกไม่มี หรอก บังรอน เป็นคนเคร่งครัดศาสนา แฟมิลี่แมนจะตายไป  ทำไงดีหว่า ติ้กต้อกๆๆๆ.......

โบ้..โบ้  แกพาน้าสะใภ้แกไปหา ป๋าแกที่ทำงานดิ เผื้อจะมีอะไรจะต้องช่วยหรือตามหาที่ไหน

ผมจัดแจงพาน้าสะใภ้ ....ไปหาป๋าที่ร้านอาหารที่สีแยกบ้านแขก ป๋าชอบไปกินอาหารและแวะซื้อกับข้าวสำเร็จกลับบ้าน

ไปถีงเจอป๋า กำลังโซ้ยข้าวอยู่พอดี เลยเล่าเรื่องให้ป๋า ฟัง
ป๋าถามว่า รอน มันออกไปไหนในวันจันทร์ น้าสาวบอกว่าจะไปต่อใบขับขี่ ที่กรมตำรวจ สมัยนั้นการทำใบขับขี่ต้องไปทำที กองทะเบียนกรมตำรวจที่ แดนเนรมิตร ป๋าก็ติ้กต้อก สักพัก แล้วบอกกับผมว่าไม่ต้องบอกน้าสะใภ้ แกนะ เมื่อวานตอน 11 โมงกว่า ฉันขับรถบนถนนวิภาวดีขาออก เห็นฝั่งตรงข้ามตรงการบินไทย รถติดยาว มองไปแวบๆเห็นรถมอร์เตอร์ไซค์ คว่ำโคโล่ตรงนั้น

ไปไป กัน ว่าแล้วป๋าก็พามาที่สถานีตำรวจสุทธิสาร พอเดินผ่านกรงเก้บรถที่เกิดอุบัติเหตุเท่านั้นแหละ ผมเห้นเจ้าแมงกระบรื้อ ของผมจอดอยู่
ผมสะกิดป๋าให้ดู ไม่ต้องพุดอะไร เด๊่ยวน้าสะใภ้ ลมจับ

พอขึ้นโรงพักเท่านั้นแหละถามร้อยเวร ก็เลยได้ความว่าน้าชายผมเสียชีวิตแล้ว น้าสาวผมลมใส่ ผมก็รีบโทรติดต่อด้วยเบอร์บ้านตามญาติกัน พอมีคนมา  ก้ทำเรื่องส่วนผมกับป๋า และญาตบางคน ไปดูมะยัต หรือศพ ทีโรงพยาบาลตำรวจ ไปถึงโรงพยาบาลตำรวจ

ผมไปสะชินแล้วไม่มีความกลัวใดๆตอนนั้น 2 ทุ่มกว่า ประมาณนั้น ที่ไปสะชิน เพราะเพื่อนเลิฟ ป่าผม เรียนเทพศิรินทร์มาด้วยกัน พล.ต.อ. ประเวศ คุ้มภัย หมอชำแหละศพ ผมตามตูดป่าไปหาแกบ่อยๆ หมอประเวศ ก็ออกมาจัดการให้
ระหว่างตรวจความเรียบร้อยของศพ ผมมองรอยผ่าที่หน้าท้องเล็กนิดเดียว ผมเลยถามหมอ ว่าทำไม หยุดผ่าละครับ หมอบอกว่า พอมาเห้น อวัยวะเพศ มีขลิบ ก็เลยหยุดไว้แค่นั้น สันนิษฐานว่าเป็นอิสลาม

มีข้อตกลงร่วมกันระหว่าง กรมตำรวจกับสำนักจุฬา ว่า คนอิสลามจะไม่ประสงค์ผ่าศพ ต้องรอญาตมายินยอมก่อน

หมอบอกว่าถ้ารอสัก 4-5 วันไม่มีญาตมาติดต่อ จะแจ้งไปที่สำนักจุฬา

ที่ตามใครไม่ได้ตอนเกิดอุบัติเหตุ เพราะเอกสารทุกอย่างหายหมด รถยังไม่ได้ป้ายทะเบียน

สมัยนั้นไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีระบบออนไลน์ใดๆ ก็เป็นแบบนี้แหละครับ

นี่ละครับ การขลิบ มีประโยชน์ทำให้พิสูจน์ทราบว่า ใครเป้นใคร โดยที่ไม่ต้องอาศัยเครืองมือ ไฮเทคแต่อย่างใด

เดี๋ยวพักโฆษณาแวบนึง พี่จิม ขอนุญาต ทำธุระส่วนตัว เดี๋ยวจะมาเล่าเรื่อง ศพ ที่ 2 เป็นอย่างไร

จากคุณ : Jimbovy
เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 17:29:51




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com