เรื่อง หมู..หมู..ที่ไม่หมูของมุสลิม{แตกประเด็นจาก Y11536594}
|
 |
เพื่อนๆหลายท่านเคยได้ยินคำถามหรืออยากถามว่า..ทำไมมุสลิม...ไม่กินหมู ซึ่งเป็นประโยคยอดฮิตและคงฮิตตลอดกาล
หลายๆคนได้ตอบไปแล้ว และคงยังตอบอีกต่อไป
-หมู คือเนื้อสัตว์ต้องห้ามตามหลักการศาสนาอิสลาม -หมู คือเนื้อสัตว์ที่มากมายด้วยพยาธฺิ โดยเฉพาะพยาธิตัวจี้ด -หมู คือเนื้อสัตว์ที่ อุดมไปด้วยไขมันและคลอเรสเตอรอล -หมู คือสัตว์ ที่บริโภคอาหารที่สกปรก
-ฯลฯ สารพันคำตอบ สารพันคำถาม ในแนวนี้ที่มีหลายคนได้เคยตอบมาแล้ว
แต่ถ้าเป็นผม ผมก้จะบอกว่าถึงหมูเป็นสัตว์ต้องห้ามตามหลักการศาสนาอิสลาม แต่หมูก็มีชีวิต หมู ก็บอกว่า เลิกฆ่าฉัน เลิกกินฉันได้ไหม ยิ่งคนเลิกกินเนื้อมากขึ้นเท่าไหร่ หมู เดือดร้อน หมูต้องตายเพิ่มมากขึ้น และสุดท้ายราคาเนื้อหมู ก้แพงตามขึ้นมาด้วย อ้าว...ซวยผู้บริโภคสะเแล้ว
ส่วนผม ซึ่งผู้เป็นมุสลิม บอกว่า เลิกกินเนื้อเยอะๆ นะดีแล้ว วัว ควายยิ่งมีจำกัด เด๊่ยวมันจะสูญพันธ์เอา ราคาเนื้อทุกวันนี้ มันก็เริ่มขยับตัวมากขึ้น ถ้าคนหันไปกินหมูมากๆ ไม่กินเนื้อต้องเป้นผลดี ต่อมุสลิมอย่างแน่นอน
จากรายงานของ นสพ มติชน
วันศุกร์ ที่ 2 กรกฎาคม 2553 วิกฤตควายไทย ใกล้สูญพันธุ์ จากเคยมีมากสุดในโลก เหลือเพียงแค่ล้านกว่าตัว เนื่องจากพบว่าช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีจำนวนลดลงอย่างมาก เหลือประมาณ 1 ล้านตัวเศษจากที่เคยมีจำนวนประชากรควายมากที่สุดในโลก ในปี 2523 คือประมาณ 6 ล้านตัว ทว่าการส่งเสริมอุตสาหกรรมของรัฐอย่างไร้ทิศทาง ทำให้ประชากรควายลดลงอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันควายไทยมีเหลือประมาณ 1.3 ล้านตัว ในขณะที่ปัจจุบันประชากรควายที่ประเทศเพื่อนบ้านส่วนใหญ่มีจำนวนใกล้เคียงถึงมากกว่าประเทศไทยแล้วคือ มาเลเซีย 2 แสนตัว กัมพูชา 8.4 แสนตัว ลาว 1.4 ล้านตัว พม่า 1.8 ล้านตัว เวียดนาม 2.2 ล้านตัว และอินโดนีเซีย 2.8 ล้านตัว
สำหรับสาเหตุที่ปริมาณควายไทยลดลงก็เนื่องมาจาก ความนิยมในปัจจุบัน
เปลี่ยนจากการใช้แรงงานควายมาเป็นการใช้เครื่องจักรในการทำนา นอกจากนี้ สาเหตุที่ทำให้ประชากร "ควายไทย" ลดลงจนใกล้สูญพันธุ์ คือ คนไทยกินเนื้อควายกันมาก โดยเฉพาะคนไทยในภาคเหนือและอีสานบางส่วน โดยอาหารที่โปรดปรานของคนไทยบางกลุ่ม คือตัวอ่อนที่อยู่ในท้องแม่ควาย
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้กรมปศุสัตว์ได้เตรียมพัฒนาควายพื้นเมืองให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจเหมือนเช่นอดีตที่ผ่านมา
เพื่อให้ควายเป็นสัตว์ที่ช่วยกู้วิกฤตเศรษฐกิจ เป็นแรงงานที่ยั่งยืนของชาวชนบทและคนไทย นอกจากนี้ได้เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเพื่อลดการบริโภคเนื้อควายลง อย่างไรก็ตาม จากการที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีความห่วงใยชาวนาไทยที่ประสบความยากจนจากการประกอบอาชีพการทำนา อันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทรงอยากให้ชาวนาไทยกลับมาใช้ควายในการทำนา ดังนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้น้อมรับและสนองพระราชดำริดังกล่าว โดยในปี 2552 ได้จัดทำ "โครงการพลิกฟื้นธนาคารควายไถนาตามพระราชดำริ" ขึ้นเพื่อรณรงค์ส่งเสริมสนับสนุนให้ชาวนาฟื้นฟูวัฒนธรรมประเพณี และเป็นการแก้ไขปัญหาเชิงระบบ
สำหรับแนวทางการดำเนินงานเสริมให้เกษตรกรแต่ละชุมชนรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน พร้อมจัดหาควายมาให้เลี้ยงรายละ 2-3 ตัว
โดยกรมปศุสัตว์จะให้ยืมควายจากธนาคาร โค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ (ธคก.) ขณะที่กองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้เตรียมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ไว้ให้เกษตรกรผู้ยืมซื้อควาย จากนั้นจะเร่งฝึกอบรมวิธีการเลี้ยงควายให้เกษตรกร เพื่อให้ใช้งานได้จริงคาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้เกษตรกรหันมาประกอบอาชีพการทำนาโดยใช้แรงงานควาย ครอบคลุมพื้นที่ 3,410 ไร่ สามารถลดค่าใช้จ่ายจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไร่ละ 132 บาท คิดเป็นเงิน 4.5 แสนบาท/ปี ลดค่าใช้จ่ายจากปุ๋ยเคมีโดยสามารถผลิตปุ๋ยคอกได้ปีละ 1,236 ตัน คิดเป็นมูลค่าปีละ 1.1 ล้านบาท โดยจัดโครงการนำร่องทั่วประเทศ 12 จังหวัด และในปี 2553 จะเร่งดำเนินการขยายผลโครงการอย่างต่อเนื่องต่อไป
************************************************ สำหรับสถาการณ์เนื้อ ในไทย มีรายงานดังนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร มีการประเมินการบริโภคเนื้อโคของประชากรไทยในปี2553 อยู่ที่ 2.77 กิโลกรัม/คน/ปี ซึ่งเป็นค่านิยมในการบริโภคเนื้อโคที่ใกล้เคียงกับที่มีการประเมินไว้เมื่อ 6 ปีก่อนที่ 2.8 กก./คน/ปี แต่ไม่เป็นไปตามผลการวิจัยที่นำไปใช้อ้างประกอบการสนับสนุนโครงการโค 1 ล้านครัวเรือนเพื่อสนับสนุนให้มีการเลี้ยงโคเพิ่มที่ว่า คนไทยจะมีการบริโภคเนื้อโคเพิ่มจนถึงเกือบ 10 กก./คน/ปี ตามแบบอย่างประเทศที่เจริญขึ้นบางประเทศในแถบเอเชีย อย่างไรก็ตาม แม้ค่านิยมในการบริโภคเนื้อโคโดยเฉลี่ย/คน/ปีไม่เพิ่ม ในปี2553 ประชากรในประเทศไทยที่มีอยู่ทั้งสิ้น 67,096,390 คน ถูกประเมินว่าจะต้องมีการบริโภคเนื้อโค เป็นจำนวนรวม 185,857,000 กิโลกรัม คิดเป็นจำนวนโค 1,327,550 ตัว ซึ่งทั้งประเทศมีโคอยู่ทั้งสิ้น 6,577,349 ตัว มีอัตราการผลิตโคเพื่อการบริโภคโดยเฉลี่ย/ปีอยู่ที่ 5.7 : 1 ตัว ซึ่งหมายถึงจะผลิตโคเพื่อการบริโภคได้เพียง 1,164,631 ตัว/ปี น้อยกว่าความต้องการบริโภคอยู่ 162,919ตัว และยังมีการส่งออกที่คาดว่าคงไม่ต่ำกว่า 200,000 ตัว/ปี ขณะที่ยอดตัวเลขนำเข้าปีที่แล้วน้อยเป็นประวัติการณ์ นำเข้าไม่ถึงหมื่นตัว จึงพอสรุปได้ว่า โคในประเทศจะลดลงอย่างแน่นอนประมาณ 3.6 แสนตัว หรือราว 5% ************************************************ ถ้า หมู วัว ควาย พูดภาษาคนได้ ก็คงภาคภูมิใจ ที่มนุษย์เริ่มตระหนักถึงคุณค่าชีวิตของมัน
เถียงกันไป เถียงกันมา ระหว่าง มุสลิม กับไม่ใช่มุสลิม ผลสุดท้ายความซวย ไปตก ที่สัตว์สามประเภท
สัตว์สามประเภท ก็บอกว่าแล้วมันเรื่องอะไรของเอ็ง ฟะ ไอ้คนขรี้ เหม็น เถียงกันจังเลย เดี่ยวพร้อมใจกันกลั้นใจตาย ทั้งสามชนิด
ว่าก็ว่าไป สัตว์สามชนิดก้มีความน่ารักอยู่ในตัวของมัน หมู ตัวน้อย ตัวเล็กน่ารัก เสียงร้อง อู้ดๆๆๆๆ พอโตขึ้นมาเข้าโรงฆ่า โดนทุบหัว ก็จะร้อง อู้ด อี้ด
ไม่เชื่อไปดูที่เชียงใหม่สิ หมูน้อยผู้น่าสงสาร ร้องสะจนกลายเป้นชื่อซอยเลยว่า ซอย อู้ด อี้ด
ทำไมมันต้องร้องอู้ด อี้ด ด้วย อ้าว ถามแปลกวุ้ยส์ จะไม่ให้มันร้องงี้ได้ไง ก็มันโดนทุบกบาล ด้วย ฆ้อนปอนด์ ถามมาได้แปลกๆ วุ้ยส์ แล้วทุบอีท่าไหนละ
เช้านี้มีคำตอบว่า เค้าจะจูงมันมา มัดตีน ทั้ง สี่ข้างให้แน่นเอาคนล้อคหัวมันไว้ จากนั้น ซัดเปรี้ยงด้วยฆ้อนปอนด์ ซัดทีแรก มันร้อง อู้ดดดดด ด้วยความโหยหวน ไม่ตายแหะ เอาอีกเปรี้ยงนึง อี้ดสสสสส์ ด้วยความโหยหวล แต่ครานี้เสียงไม่ลากยาวสั้นลง แล้วคร้อก ตายคาสองที ไม่ใช่ตายคาที่ มีคำถามต่อมา ไอ้ จิม สอสระเอื้อก รู้ได้ไง ก็มันได้ยินเสียงทุกวัน โรงเชือดมันใกล้บ้านนะ แถว ศิริเกษม บางแค พอไปซื้อบ้านอีกหลังที่เชียงใหม่ แจ้คพอท ไม่ดูตาม้าตาเรือ ไปซื้อใกล้ซอย อู้ด อี้ดสื สะอีก เฮ้อ ผีซ้ำด้ามพลอย เจงๆๆ
มาถึงวัว กับควายบ้าง นะครับ วัว กับควาย ถือว่า เป็นสปีชี้ซ์ ที่ใกล้เคียงกันแต่กต่างกันคนละหน้าตาและนิสัย เท่านั้น แต่โดยพื้นฐาน เป็นสัตว์ที่น่าสงสาร เกิดมาเพื่อรับใช้คน เกิดมาเพื่อเป็นสัตว์ งาน และสัตว์อาหาร แถมยังถูกมนุษย์แย่งซีน แย่งหน้าที่ความรับผิดชอบไปอีก ไปสร้างควายเหล้กมา Vs ควายไทย
ตอนเด็กผมไปเรียน ปอเนาะ ท่าอิฐ ศึกษา ในช่วงปิดเทอม ทุกปี
ตำบลท่าอิฐ มีอาชีพหลัก นอกจากสวนทุเรียน สวนลิ้นจี่ แล้วก้มีโรงเชือดวัว เชือดควาย ผมชอบไปดูเวลาเค้าจูงวัวควายมาเชือด เพื่อเก็บความรู้สึกวัว ควาย ว่ามีแอคติ้งเช่นใดเวลาถูกเชือด
ถ้าจะเชือดสัตว์สองประเภท เค้าจะแยกเข้าห้องเชือด ทีละตัว ไม่ให้มันเห้นกันเดี่ยวมันจะดื้อไม่ยอมตาย บางตัวแอบไปเห็นพวกโดนเชือด มันร้องไห้ น้ำตาไหล แต่ไม่ร้องออกเสียง เลยไม่รู้จะอธิบายว่าร้องอู้ดอี้ดเหมือน หมู ได้หรือไม่ จินตนาการไม่ออกจริงๆ
เพชรฆาต ต้องเตรียมอุปกรณ์คือมีดด้ามใหญ่ยาว คมกริบ ลับคมจนเกือบจะโกนขนได้เลย ถามว่าทำไมต้องลับจนคม คำตอบคือ เพื่อเควี้ยวเดียว ดับสนิท ไม่ต้องร้อง
เหมือน โน้ต อุดม บอกว่า ฆ่าตัวตายด้วยมีด มันเสียวไส้ ไม่แน่ใจ ว่าแทงฉึกเดียวจะตายทันทีหรือเปล่า เลยไม่ตาย กินมาม่า สองห่อ เปลี่ยนใจไม่ตายดีกว่า
ถามว่าเฉือนตรงไหน ทีแควบเดียวดับสนิท อ้าวทุกอย่างมันต้องมี เทคนิค สิ พี่น้อง เค้าให้ลากใบหู ของสัตว์สองประเภนี้ หูสุดตรงไหนนั่นแหละตำแหน่งเชือด แต่หลักการคือ ใต้กระเดือกของสัตว์ทุกชนิดที่จะทำการเชือด
ย้ำ......ใต้กระเดือกของสัตว์ทุกชนิด เฮ้ย..อิสลามมันเรื่องมากจริงวุ้ยส์
ผมตอบว่า แค่นี้ยังน้อยไปไอ้น้อง การเชือดตามหลักการศาสนาอิสลาม ต้องเชือดให้ขาดสามเส้น หนึ่งคือเส้นเลือดที่จะวิ่งไปเลี้ยงสมอง สองคือเส้นเลือดที่ไหลกลับลงมาจากสมอง สามคือเส้นหลอดลม ข้อสำคัญต้องทำให้มันตายด้วยเส้น 3 เส้นนี้ขาด ใต้กระเดือกของมัน
ยุ่งอิอ่าย จะฆ่าทั้งทีพิธีรีตรองเยอะ ไม่กินไม่เกิน มันละ
ผมตอบว่าดีไม่กินไม่มีใครมาแย่งข้าฯกิน แต่เดววๆ ยังมีอีก
อะไรอีก ...สัตว์ทุกชนิด ที่ผ่านการเชือด อย่างแรก ต้องขอพรสวดมนต์ ตามแบบฉบับของอิสลามก่อน งองูสองตัววุ้ยส์
และที่สำคัญ ต้องตายในทันที ถ้าไม่ตายทันทีมันชักกะแด่วๆๆ ไปตายในน้ำบังลัยเลย อดกิน กินไม่ได้ ต้องยกให้เพื่อนต่างศาสนิกกินไป
เอออ...งี้หวานคอแร้งวุ้ยส์ ไอ้ จิมเพื่อนเลิฟ เอ็งเชือดพลาดบ่อยๆนะดี ข้าฯได้กินของฟรี เป้นสะงั้นวู้ยส์ เพื่อนเรา
เดี่๋ยวๆๆ ช้าก่อน ข้าฯ ขอถามหน่อย ข้าฯเชือดเสร็จแล้ว จะตายแบบกินได้ หรือแบบกินไม่ได้ เอ็งจะให้ข้าฯ แปรรูปเป็นกับข้าวให้เอ็งหรือไม่
ถามได้ ไอ้จิม เอ็งทำข้าก็กิน แต่ถ้าข้าฯ ทำเอ็งกินไม่ได้ ใช่ไหม
เฉือกรู้อีก ทำไมเอ็งรู้ได้ไง ป้าด..ว่าแล้วเพื่อนผมมันก้ตบกบาล ให้พลั้กนึง ก็เอ็งใช้มุกมาก่อนหน้านี้ทำไมข้าฯ จะไม่รู้ทันเอ็ง
เอ้งอวดดีว่ารู้มุกข้าไหนอธิบายมาให้ฟังหน่อยสิ....แหะะะะ กูไม่รู้...กูเดาเอา ผมเลยตบกบาลกลับคืนไปหนึ่งพลั้ก นี่...เฉือกตบกบาลกูก่อน โดยการสันนิษฐาน สันดาน เอ้ย
ว่าแล้วผมก็อธิบายยาวๆให้มันฟังว่า
สาเหตุใดที่ต้องเชือดใต้กระเดือก สาเหตุใดต้องเชือดให้ขาดสามเส้น สาเหตุใดต้องเชือดให้ตายในทันที สาเหตุใดก่อนเชือดต้องสวด และคนเชือดต้องมุสลิม สาเหตุใดต้องผมปรุงอาหารให้เพื่อน
พักกินน้ำกินท่า ก่อนนะพี่น้อง สไตล์ พี่ อู้ด เดวมาครับ
ด้วยความเคารพทุกท่าน
พี่จิม
ปล....อยากรู้ ชูจักกะแร้ ขึ้นด้วยครับ
แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 11:20:43
แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 11:18:37
แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 10:18:47
แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 10:15:00
แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 10:14:42
แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 10:12:14
จากคุณ |
:
Jimbovy
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ม.ค. 55 10:10:43
|
|
|
|