ความคิดเห็นที่ 1 ^ ^ ^ ในขณะที่นักเรียนมุสลิมทั้งโรงเรียนก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนางสาวอาทิตยา สุไลมาน เหมือนกันนะครับ จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 00:14:27

ความคิดเห็นที่ 2 ก็กฏระเบียบของ รร เขาวางไว้ก่อนแบบนั้น  ก็ต้องเคารพกฏ    ควรไปหา รร อื่นๆที่ไม่ได้วางกฏระเบียบแบบนี้  มีไหม ? จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 00:42:54

ความคิดเห็นที่ 3 กรณีนี้ก็น่าสนใจอยู่นะครับ....การที่เด็กต้องการใส่ฮิยาบมาโรงเรียนเพื่อต้องการปฏิบัติตามข้อห้ามทางศาสนา....แต่โรงเรียนก็มีข้อห้ามเหมือนกัน....แล้วตอนเรียนวิชาพละนี่ถ้าไม่ถอดฮิยาบคงเรียนลำบากน่าดู....แล้วจะแต่งลูกเสือ....เนตรนารี...ได้อย่างไร.....ผมว่าเราทุกคนควรเคารพกฏเคารพสถานที่ไม่ใช่เอาแต่ใจตนเป็นใหญ่....ในสังคมก็จะอยู่กันลำบาก.....ถ้าคุณจะถือศีลเคร่งครัดตามหลักศาสนาผมเองก็เห็นด้วยครับ....ชื่นชม...แต่ก็ควรอยู่บ้าน....ไม่ทำความเดือดร้อนลำบากใจให้ผู้อื่น... จากคุณ : คนนวมินทร์ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 07:51:55

ความคิดเห็นที่ 4 เดี๋ยวพอเรียกร้องข้อนี้ได้...ก็เอาข้ออื่นอีก....ขอละมาดให้เสร็จก่อนค่อยมาโรงเรียน....หรือช่วงถือศีลอดขอเลิกเร็วกลับบ้านก่อน....ฯลฯแล้วโรงเรียนต้องยอมละเมิดกฏให้หมดก็แย่นะครับ.....ตานี้เด็กคนอื่นก็จะเอาเยี่ยงอย่าง..... จากคุณ : คนนวมินทร์ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 07:57:02

ความคิดเห็นที่ 5 ผมสงสัยนะ ว่าน้องเค้าจะเรียนในโรงเรียนนี้ได้อย่างมีความสุขเหรอ ไม่ถูกครูหรือเพื่อน เมิน ก็โดนนินทาล่ะ อคติของคนทั่วไปมันแรงนะ เกรดอยู่ที่ปลายปากกาเลย เป็นผม ผมจะย้ายโรงเรียนนะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (ฮิมาวาริซซัง) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 09:02:01

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้างั้น  นักเรียนชาวพุทธ  จะขอหยุดทุกๆวันพระ  ๘ ค่ำ  และ ๑๕ ค่ำ  ทั้งข้างขึ้น ข้างแรม  เพื่อปฏิบัติธรรม  จะได้ไหม ?? จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 09:34:27

ความคิดเห็นที่ 7 บริษัทเอกชนก็น่าจะหยุดวันพระเพื่อปฏิบัติธรรมะด้วยนะครับ จากคุณ : ชลิโต เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 09:47:25

ความคิดเห็นที่ 8 เหตุผลว่าแต่งกายไม่ถูกระเบียบเนื่องจาก............... ------------- ข้อวินิจฉัย 1.ข้อแรก น่าจะอยู่ที่ ระเบียบดังกล่าว  และว่ามีกฎของกระทรวงศึกษา ที่อนุญาตไว้    ก็ต้องพิจารณาว่า กฎ ระเบียบ อันใดที่จะเป็นอันที่ใช้ในกรณีนี้ 2.เมื่อพิจารณา  กฎ ระเบียบแล้ว หากยังไม่ยอมรับ(ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง) จึงพิจารณาว่าจะแก้ไขให้สอดคล้องกับจารีตวัฒนธรรมของท้องถิ่น ได้อย่างไร จากคุณ : วงกลม เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 11:12:58

ความคิดเห็นที่ 9 -------- การอยู่ในสังคมส่วนรวมเพื่อให้เกิดความสงบสุขสันติ ต้องอาศัยกฎหมาย กฏ  ระเบียบ    หากกฎหมาย กฎ ระเบียบ มีปัญหาค่อยแก้  แต่ต้องยึดเป็นหลักไว้ก่อน จากคุณ : วงกลม เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 11:15:36

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ นวมินทร์ก็คิดไปซะไกลเลยนะคะ ^^ คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกกระมังคะ เช่นถ้าจะเรียนวิชาพละ เด็กมุสลิมเรียน รร อื่นๆ ที่เค้าอนุญาตให้คลุม ฮิญาบ พวก เค้าก็มีเรียน วิชาพละ ก็ไม่เห็นว่า ฮิญาบ จะเป็นปัญหาตรงใหน สวม ฮิญาบ ก็สามารถ ใส่ชุดลูกเสือเนตรนารีได้เหมือนกัน ไม่ลำบากอะไรค่ะ ส่วนเรื่องที่จะขอละหมาดให้เสร็จก่อนแล้วค่อยมาเรียน นี่ยังไงอ่ะคะ  เพราะเวลาละหมาด มีทั้งหมด 5 เวลา ต่อ 1 วัน ถ้าเป็นช่วงละหมาดกลางวัน คือจะเป็นช่วงเวลาที่เด็กนักเรียนอยู่ รร  คือ ช่วงเที่ยง ซึ่งช่วงนี้ ก็จะเริ่มเวลา ละหมาดได้ คือ  12.30 น. จะเป็นช่วงพักกินข้าวเที่ยง ตรงนี้เด็กมีเวลาละหมาดได้ค่ะ ไม่กระทบวลาเรียน ช่วงบ่ายอีกที ก็เริ่ม ประมาณ 15.30 น. ซึ่งเวลานี้ รร.คงจะเลิกแล้ว ก็สามารถกลับไปละหมาดที่บ้านได้ เวลาต่อไปคือ ประมาณ เย็น 18.30  เวลา ค่ำ 19.30 และ สุดท้าย คือย่ำรุ่ง ตี 05.00 น. ถ้าหากช่วงเดือนถือศีลอด ขอเลิกเร็วนี้ ไม่ได้อยู่แล้ว จะมาอ้างข้อนี้ไม่ได้ค่ะ ถ้า นักเรียนอ้างขอกลับบ้านเร็วผิดแน่นอน และก็คงไม่มี มุสลิมคนใหน เห็นด้วย ช่วงเวลาที่ ละศีลอด คือ เวลา ประมาณ 18.00 น. เป็นต้นไป อะไรก็ตาม ที่ไม่เป็นเหตุ เป็นผล  หรือ เรียกร้องจนเกินเลย อ้างนู้น อ้างนี้ ( แบบนี้เค้าเรียกว่า ตามใจตัวเอง ไม่ใช่ ตาม ศาสนา )  อันนี้ ดิฉันก็ไม่เห็นด้วยค่ะ อ่อ แต่ถ้าเป็น รร. เอกชนสอนศาสนาอิสลาม รร.มักจะเลิกก่อนเวลาเรียนปกติค่ะ หรือ รร.บางที่ที่เป็นของรัฐเอง ที่มีเด็ก มุสลิมเรียนเยอะ มีครู มุสลิมเยอะ ก็รู้สึกว่าจะมีนะ ที่ทาง รร. เค้าให้เลิกเร็วขึ้น เคยเห็นอยู่ แต่จำไม่ได้ว่า รร. อะไร   อย่าง รร. ที่ดิฉันเคยเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม แถว 3 จว.ใต้ ปกติเลิกเวลา 16.30. แต่ พอช่วงเดือน ถือศีลอด ทาง รร. ก็จะเลิกเร็วหน่อย คือ เวลา 15.30 ค่ะ ( ช่วงนี้จะชอบมากเลย ) เราแลกเปลี่ยนกันนะคะ คุณ นวมินทร์ เรื่องบางเรื่อง คุณอาจจะไม่ค่อยเข้าใจอิสลามมากนัก แต่ก็ไม่ว่ากัน เมื่อเข้าใจคลาดเคลื่อน ก็อธิบายกันไป ไม่ใช่เรื่องยากอะไรไม่ใช่ว่าจะต้องมานั่งจับผิดกัน เท่าที่ทราบ คุณ ก็เป็นคน มีเหตุ มีผล อยู่บ้าง  เท่าที่ ดิฉันติดตามอ่าน กระทู้ต่างๆของคุณ ในห้องศาสนาแห่งนี้ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 55 07:09:41 แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 55 12:07:50 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 12:02:07

ความคิดเห็นที่ 11 ทางพุทธ เห็นว่าการคลุมศีรษะเวลาสอน มีข้อเสีย เช่นโดนคนอื่นตำหนิ ในสมัยโบราณอาจมีการตำหนิว่าเหมือนสอนคนกำลังทำงาน เว้นคนป่วย การนั่งที่สูงกว่าครู มีข้อเสีย การหันเท้าไปทางครูมีข้อเสีย ทางมุสลิมเห็นว่า ควรคลุมศีรษะเพราะ ถ้าไม่คลุม ไม่เพียงพอต่อการป้องกันกิเลสของผู้ชายที่เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ผู้หญิง  ยกเว้นญาติ และถือเป็นการทำตามหลักคำสอน ทางพุทธเห็นว่า จริยธรรม มโนธรรมของครู มีความเพียงพอ เปรียบเหมือน บิดามารดาคนที่2 ทำตามหลักคำสอนตามพุทธสืบต่อกันมา ปัญหาที่เกิดจึงเป็น ความเพียงพอที่ไม่เท่ากัน   ความเห็นต่อครูไม่เหมือนกัน  จึงปฎิบัติต่างกัน แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 55 12:35:03 แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 55 12:34:15 จากคุณ : aunemaek2 เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 12:33:40

ความคิดเห็นที่ 12 นำเรียน ความคิดเห็นที่ 2 ก็กฏระเบียบของ รร เขาวางไว้ก่อนแบบนั้น  ก็ต้องเคารพกฏ    ควรไปหา รร อื่นๆที่ไม่ได้วางกฏระเบียบแบบนี้  มีไหม ? ท่านโขตานคงจะเลือนชื่อสถาบันใหญ่ที่อยู่ต่างประเทศฟากขะโน้นไป...จึงถามว่า -มีไหม? เพียงแต่ว่า...ที่โน่นเขาจะรับไหม ถ้ายังไม่ผ่าน ม.๖ ในประเทศเหมือนพวกรุ่นพี่ของเธอ ??? รุ่นพี่ของเธอ...ก็กลุ่มฯที่พาตัว _เธอ_ ออกทำ rode show บน U-tube เพียงคนเดียวเท่านั้น .. จากจำนวนอีกตั้งเท่าไหร่ใน ร.ร.วัดหนองจอก พวกเธอเหล่านั้น เมื่อถึงบ้าน เมื่อถึงเวลา ก็ปฏิบัติศาสนกิจ ใช้ผ้าคลุมหัวตามเวลา เมื่อต้องไปศึกษาหาวิชาความรู้  เข้าชั้นนั่งเล่าเรียนตามคาบตามเวลารับวิชาใดๆนั้นๆจากครู ไปอยู่กับเพื่อนร่วมวัย พวกเธอเหล่านั้นก็รู้จักการอยู่ร่วมในสังคมนั้น          คือ โรงเรียน ที่มี กฏ&~ระเบียบ อัน ก.ศธ. ได้อนุญาต ให้มี เป็น เฉพาะกาล ตามความเหมาะสม ของแต่ละสถานศึกษานั้นๆ ซึ่งพวกเธอรับทราบ และยอมรับในกฏระเบียบและการปฏิบัติใดๆนั้นๆ ของ ร.ร. มาตั้งแต่วันแรกที่ มอบตัว เป็นนักเรียนในสังกัดของ ร.ร. นั้นๆ อนุประโยชน์ของ กฏ&ระเบียบเฉพาะกาละ-สถานที่ เช่นนี้ มี มาเนิ่นนานแล้ว กลุ่มจัดตั้งที่ ฟาวล์ มาครั้ง ๑ เมื่อปีก่อนโน้นต่างหากเล่า  ที่ไม่ยอมรับรู้ว่าสิ่งอันใดควรได้ภสิ่งอันใด ไม่ควรหวัง และไม่ควรฝืนประพฤติ  เพราะมันมีแต่ ผลเสีย ทางเดียวเท่านั้น หากเราท่านจะย้อนกลับไปดูเนื้อหาใน คลิประดมพล จากกระทู้ ๑ ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่า ความไม่รู้ในเรื่องของกฏ-ระเบียบทางสังคม ยังมีในกลุ่มบุคคลที่แสดงตนเป็น หัวขบวน อยู่ในคลิปนั้นถ้วนหน้า !!!         เช่น การกล่าวอ้าง พรบ.ว่าด้วยเครื่องแบบฯ ปี ๒๕๔๐ ขึ้นมาสนับสนุนการเรียกร้องฯ ซึ่งได้สำเร็จ การแสดงกิจกรรม ไปแล้ว เมื่อตอนสายๆ ของวันที่ ๑๐ ม.ค. นั้น เป็นการอ้างอิงเอาข้อความใน เอกสารเก่า ขึ้นมาอย่างคนเขลาปัญญาเบา ขาดการศึกษาให้ ถ่องแท้ ถี่ถ้วน และถูกต้องเสียก่อนที่จะ นำมาใช้เพื่อให้ได้ประโยชน์ตามที่หวัง พรบ.ว่าด้วยเครื่องแบบในสถานศึกษา ปี ๒๕๔๐ ได้ยกเลิกไปทั้งฉบับ ตั้งแต่เมื่อมีการประกาศใช้ พรบ.ฉบับใหม่ ขึ้นมา ตามกาล&วาระสมัย [พรบ.ปี '๔๘ มั๊ง???]         และใน พรบ.ที่คงการบังคับใช้เป็นล่าสุดอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ คือ ฉบับปี '๕๑ นั้น  ตามข้อที่ ๑๒. ที่มีการยกมาอ้างการมี สิทธิ์ เพื่อหาความชอบธรรมให้แก่การเรียกร้องชนิด "กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา" นั้น ก็มี บทแยก ซึ่งตราไว้ เพื่อให้แต่ละสถาบันการศึกษา มีกฏระเบียบปฏิบัติเป็นเฉพาะกาลสถานที่นั้นๆได้ โดยไม่ฝืนหรือขัดต่อ พรบ. หลัก         ฯ ล ฯ ปล. ดูคลิป ๑ นี้ [CLICKme!!] จากกระทู้นี้ [CLICKme!!2] แล้วย้อนกลับมาดูอีกคลิป ๑ ณ กระทู้นี้ สัจธรรมที่เห็น-ที่เป็นไป น่าจะมี/เป็น จริงตามท้ายคลิป ที่นำมาประกอบ คคห.นี้-นะ ท่านสาธุชน ศาสนิกชนคนเราท่านทั้งหลาย [-ว่าม๊ย ท่านโขตานที่รักของ กรองคำ หุ-หุ]         โดยเฉพาะ ท่าน จขกท. ท่านหัวหน้าหมู่ของเราท่าน ณ.เวลานี้ คือ  ท่านนายหมู่ใหญ่ น่าจะได้ อ่าน-ดู-รู้-ฟัง ข่าวสารใดๆนั้นๆให้ ถ่องแท้ มากกว่าที่มี-ที่เป็นอยู่ ตามข่าวนั้น-นี้ อีกนิดจะ สมภูมิแห่งพุทธทายาทเราท่าน ที่เห็น ธรรมตามจริง  อันปรากฏแล้วนั้น ฯ จึงนำเรียนมาด้วยความเคารพในท่านฯ / และใน ธรรมตามจริง ฯ  ถ่องแท้ ถ่องแท้ : ว. ชัดเจนแจ่มแจ้ง, ถูกแน่, แน่นอน. อ้างอิง : พจนานุกรม ราชบัณฑิตยสถาน Uploaded by TNDtelevision on 22 Jun 2011 *แก้ไข link และเพิ่มเติม Clip Credit ให้ถูกต้อง แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 55 13:06:28 จากคุณ : กรองคำ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 13:00:11

ความคิดเห็นที่ 13 ผมไม่ทราบหรอกครับว่า ระเบียบของโรงเรีัยนกำหนดไว้ว่าอย่างไร แต่ถ้าเรายังไม่ยอมรับความแตกต่าง ว่าเป็นสิ่งที่อยู่ร่วมกันได้ก็จะมีปัญหาตามมาไม่จบ ไม่สิ้น  หัดเปิดใจยอมรับความงดงามของของทุกศาสนา อย่างที่น้องนักเรียนคนนั้นบอก ฮิญาบไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน สิ่งที่ทำให้คนเดือดร้อน คือ หัวใจของคนที่ไม่ยอมรับฮิญาบ จากคุณ : นายหมู่ใหญ่ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 14:08:30

ความคิดเห็นที่ 14 อ้างถึง ความคิดเห็นที่ 13 ของ จขกท. ท่าน นายหมู่ใหญ่ ผมไม่ทราบหรอกครับว่า ระเบียบของโรงเรีัยนกำหนดไว้ว่าอย่างไร  <@ ข้อนี้ ท่านไม่ทราบ หรือท่านฯเป็นอีก ๑ ในจำนวนของกลุ่มหนึ่งในสังคมเราท่านที่ อยู่ร่วมกัน ในทุกวันนี้ ที่ไม่ยอมรับใน กฏเกณฑ์ ~ กติกา ~ ระเบียบปฏิบัติ ซึ่งมีขึ้นไว้ให้ คนปฏิบัติตาม เพื่อคงความเป็น การอยู่ร่วมกัน นั้นๆ ให้มี  การอยู่ร่วมกันได้  โดยเสมอภาคแห่งมวลรวมของสิทธิ์สมบูรณ์ แห่งเฉพาะกาล&สถานที่ นั้นๆ         ท่าน จขกท. อาจจะชอบ เข้าสูทเนคไทด์ แบบไม่รูดจรดขึ้นไปถึงดุมเม็ดบนสุดชิดปก         เพราะมันค้ำกระเดือกติดใต้คาง กลืนเก็บน้ำลายไม่สะดวก  แต่ ขณะที่ท่านฯนั่งทำงานในคอกกั้นของ front ธนาคาร  ตอนนั้นท่านฯ รูดไทด์ลงตามชอบได้หรือไม่ ??? ยามเมื่อถึงเวลาพักเที่ยง ท่านฯเดินออกไปทานข้าวราดปลาดุกขี้เมากรอบเจ้าอร่อยในตรอกข้างๆธนาคารนั้นเอง  ท่านฯรูดไทด์ลงได้หรือไม่ เพื่อความอร่อยคล่องคอ สบายเนื้อสบายตัว คลายกล้ามเนื้อต้นคอในยามพักผ่อนช่วงสั้นๆกับมื้ออร่อยมื้อนั้น ?                  จะมีใครที่มันจะย่องเข้าโต๊ะมาตบไหล่-สะกิดศอกแขนข้างที่ยก-กำลังจะพาช้อนคำอร่อยนั้นเข้าปาก แล้วเขาคนนั้นกระซิบแบบเข่นฟัน บอกแก่ท่านฯว่า "นายแต่งตัวไม่เข้าท่าหว่ะ,ใหญ่ _ เดือนนี้หัก ๑% - นะ !!"           จะมีใครบ้าใช้ระเบียบใน สนง. นั้นกับท่านฯตอนนั้นมั๊ย?          ฉันใด ก็ ฉันนั้น ... นะครับ ท่าน จขกท. ตอนนี้...มาถึงประโยคกินใจ  ซึ่ง วาทะแห่งประโยคนั้น จะหวานชุ่มชื่น~ลึกซึ้งสุดก้นบึ้งแห่งหัวใจs  หรือ  จะขมขื่น&เฉียบคมขนาด ปาดคอ คนฟังขาดได้ในเชือดเดียว -นั้นก็แล้วแต่ว่าเป็น ใคร ที่ประดิษฐ์ความ และ/หรือ เป็นใคร ที่อยู่ในฐานะผู้เสพสื่อ  คือ ดู & ฟัง...                                       ฮิญาบไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน สิ่งที่ทำให้คนเดือดร้อน  คือ  หัวใจของคนที่ไม่ยอมรับฮิญาบ ตั้งแต่นี้ไป เป็น คหสต. ของ กรองคำ คนเดียว-นะครับ ท่าน จขกท.  [-และ รับรองว่าไม่ได้ ยก จากของใครมาใช้ ณ ที่นี้ด้วย-นะ]          ประโยคแรกนั้น น้อง นร. ม.๖ นั้น เธอพูดถึงสิ่งที่เป็นความจริง-ไม่มีใครปฏิเสธ          ซึ่งก็ ตรง ตามคำกล่าวของ ๑ บุคคลแรกและเป็น คนสุดท้าย ในคลิปที่เป็นนักแสดง ชายล้วน คือกลุ่มคนที่ปรากฏใน คลิประดมพล นั้นเอง          "แค่ฮิยาบ-ผ้าสี่เหลี่ยมเล็กๆผืนเดียว...ฯ"  ย่อมไม่ทำความเดือดร้อนให้ใครคนใดได้ ถ้าไม่ได้เอาไปใช้ผิดประสงค์ ด้วยความเหมาะสม ทั้งกาล ทั้งเวลา & สถานที่ สิ่งที่ทำให้คนเดือดร้อน คือ หัวใจของคนที่ไม่ยอมรับฮิญาบ ~ [ของเราอ่ะค่ะ] [ถ้อยคำ เต็ม ตามในคลิป]           แล้ว-ตอนนี้ ณ เวลาอันสำคัญต่อชีวิตวัยเรียนของ น.ร. คนนี้ ... คนที่เดือดร้อนอย่างแท้จริง  คือใคร  คนเดียว ???              น้อง นร. ม.ปลาย คนที่ปรากฏในคลิป และเป็นคนเดียวกับที่ไปปรากฏตัว ณ สถานที่ชุมนุมของการ รวมพลคนมุสลิมกลุ่ม ๑  เมื่อวานนี้ [๑๐ ม.ค.'๕๕] เธอ คือ นักเรียนที่ขาดโอกาสการเรียนการศึกษาตามปรกติของ ภาคที่ ๒ ปีการศึกษาสุดท้ายของเธอ - นั้นเอง ...           เหตุ ~ เป็นเพราะ/ด้วยตัวเธอเอง หรือเพราะผ้าผืนเล็กที่เรียกว่า ฮิยาบ ผืนนั้น ?            หัวใจของเธอ ไม่ยอมรับว่า ฮิยาบ เป็นเรื่องของการประกอบศาสนกิจ ตามข้อหลัก ธรรมตามจริง ในศาสนาที่เธอศรัทธา  ซึ่งเธอได้เคยใช้ตามกาล-ตามเวลา และในสถานที่อันเหมาะสมแก่ ศาสนกิจ ของเธอมาก่อน นานแล้ว ใช่หรือไม่ ???              เพราะว่า บัดนี้ เวลานี้  หัวใจของเธอเอง  ไม่ได้ อยู่ในตัวตนแห่งจิตวิญญาณที่เธอมี ตามฐานะที่เธอเป็นอยู่มาก่อน             เธอ น.ร. ม.๖ คนนี้-คนนั้น จึงยอมรับให้มีการนำเอา ฮิยาบของเธอ เข้าไปปะปนกับชีวิตทางสังคมการศึกษา ซึ่งเธอต้องอยู่ร่วมกับคนหมู่มาก และเธอก็ได้อยู่อาศัยในช่วงวันวัยของการศึกษานั้น ผ่านมาแล้วอย่างปรกติดี อย่างเท่าเทียมกับคนอื่นๆ ใช่หรือไม่ ???             เธอไปเรียนได้โดยสะดวก มีความสบายใจ และมีความสุข ไม่มีขาดพร่องไปในสรรพวิชาความรู้และอุปกรณ์เสริมความรู้ เพื่อ สร้างความเป็น คนสมบูรณ์ ให้มีขึ้นแก่ตัวเธอ            ไม่มีอุปสรรคใดๆในการเข้าชั้น เข้าโรงเรียน หรือแม้กับการนั่งสนทนาสมาคม เฮฮาทานข้าวกลางวัน กับผองเพื่อนสนิท เพื่อนรัก ~ เพื่อนชอบ ณ ในโรงอาหาร .. บัดนี้ ทุกอย่างทุกประการนั้น เปลี่ยนไปเช่นนี้-เช่นนั้น มันเพราะอะไรเป็นเหตุ ???             ไม่ใช่เพราะ หัวใจของเธอเองหรอกหรือ ที่มันถูกกกระทำให้ ไม่ยอมรับ ฮิยาบ ตามฐานะที่แท้จริงของ ฮิยาบ  ที่เธอเคยยอมรับ              และ เป็นที่ หัวใจของเธอเอง มิใช่หรอกหรือ ที่มันพลิกผันไป  ไม่ยอมรับในสถานะสภาพแห่งตน ที่เป็น คน ๑ ในสังคมแห่งการอยู่ร่วมตามวัยวัน ณ ขณะนี้ ???         ซึ่ง ณ เวลานี้ เวลาของเธอ นร. ชั้น ม.ปลาย ของ ภาคเรียนที่ ๒ ช่วงชั้นสุดท้าย ของปีการศึกษา ๒๕๕๔... คือการเรียน และสอบต่อชั้น เพื่อก้าวต่อไปในระดับชั้นที่เธอรู้แก่ใจดีว่ามันสำคัญกว่าสิ่งใดๆ - ณ เวลานี้ ฯ             ซึ่งส่วนประกอบแห่งชีวิตวัยของเธอเหล่านี้ ~ เหล่านั้น ทุกสิ่งอัน สารพันบรรดามีอย่างสมควรที่จะมี สมควรที่จะได้-จะเป็น อย่างเหมาะสม และถูกต้องแก่วัยวุฒิ อันเป็น ภาระกิจหลัก ตามวัยของเธอ...ที่ เธอ คือ เธอ ผู้ต้องรู้ตัวรู้ตน มีสำนึกอยู่ตลอดเวลา ทั้งชีวิตวัยนี้ ด้วยจิตใจของความเป็น นักเรียน               สิ่งเหล่านี้-เหล่านั้นล้วนถือเป็นความสำคัญเบื้องต้นเพื่อเธอจะได้ผ่านพ้นไปสู่ ชีวิต ที่รอข้างหน้า  เวลาที่ผ่านไป และเวลาที่จะต้องผ่านมา พร้อมเหตุการณ์ใหม่ๆ ในอีกมากมายหลายพันหมื่นชั่วโมงของลมหายใจของเธอ ซึ่งไม่มีใครแบ่งปันให้แก่เธอได้ นอกจากตัวเธอมีให้แก่ตัวเอง             สิ่งอันใด ๆ ... สิ่งอันนั้นๆ ล้วนแต่เป็นสิ่งอันที่มีความสำคัญต่อเธอ ณ ที่ฐานะแห่งปัจจุบัน ที่สองเท้าเธอยืนอยู่บนหน้าแผ่นดินนี้ ทั้งสิ้น             สิ่งนั้นนั้น คือ สังคมทางการศึกษา ณ วันเวลาที่โลกต้องการคนที่พร้อมสรรพกับสังคมแห่งการอยู่ร่วมกัน-ด้วยความเข้าใจในตนเอง และพอใจ-อยู่ได้ดีในสิ่งแวดล้อมใดๆนั้นๆ             สิ่งนั้นนั้น คือ การมีเพื่อนกลุ่มใหญ่รอคอยแบ่งปันความรักความอาทร การแบ่งปันตามกาลเหมาะลม และความสนุกสนานตามวัยในโรงเรียน               สิ่งนั้นนั้น คือ การมีครูอาจารย์ที่เฝ้าห่วงใยในความรู้ในสมองของคนคน ๑ ครูที่รอคอยอยู่ตลอดเวลา เพื่อสั่งสอนอบรมบ่มวิชาให้แก่ ลูกศิษย์ โดยเสมอหน้ากัน อย่างหวังดี อยากให้เธอเป็น ๑ คนที่ดีพอสำหรับการอยู่ในสังคมมนุษย์ไปตามวัย และดุด่าว่ากล่าวตักเตือน ลูกศิษย์ ทุกๆคนที่ อ่อนประพฤติ โดยไร้อคติใดๆทั้งสิ้น             สิ่งนั้นนั้น คือ การที่มีห้องเรียน-ซึ่งเธอมีความรู้สึกที่ดีดีต่อมัน หลายครั้งเธอยังเคยบอกตัวเองว่า ห้องเรียนนี้มีความสุขให้เธอมากยิ่งกว่าห้องส่วนตัวที่บ้าน               เธอคิดถึงวันที่แอบชิมขนมทำเองกับเพื่อนๆได้อย่างพอมีความสนุกตามวัย นั้น ถึงกับอมยิ้มคนเดียวได้ในวันหยุดที่เหงาอยู่ในบ้าน ... แล้วตอนนั้น ในหัวใจของเธอก็ชื่นใสเบิกบาน เป็นดอกไม้ยิ้มกับผีเสื้อ อะไรแบบนี้-นี่ ก็เคยมี ก็เคยเป็นอยู่บ่อยๆไปนี่-นะ             สิ่งนั้นนั้น คือ - คือสิ่งใดๆ...คือสารพัดสิ่งอย่างที่เธอ นร. ม. ปลาย คนนี้ เคยมี ~ เคยได้ ~ เคยเป็น ตามหัวใจเธอจะปรารถนา ดั่ง-ยิ่งกว่ามีแก้วสารพัดนึกรอคอยเธออยู่ในห้องเรียนของเธอ... ภายในรั้วโรงเรียน-โรงเรียนของเธอ มิใช่หรือ ??? กรองคำ ไม่อยากจะมองเห็นสิ่งที่ปรากฏขึ้นตามจริงนั้นๆ  ด้วย กรรม อันเป็น/คือเครื่อง ชี้ เจตนา ...ด้วย การแสดงออกแก่สังคมเบื้องหน้า เหมือนกับว่า เราท่านได้เห็นพร้อมๆกันว่า เธอ-เด็ก/น้อง นร. ม.๖ ร.ร.มัธยมวัดหนองจอกคนนี้-คนนั้น ให้ใครไม่รู้เอาผ้าผืนเล็กๆนั้นห่อหัวใจเธอไปฟาดกำแพงเฉพาะกิจที่ก่อขึ้นมา... เพียงต้องการจะให้มี ภาพกิจกรรม ปรากฏแพร่ออกไปในโลกดุนยากลมๆใบนี้ เท่านั้นเอง - นะ   ตื่น~ลืมตา แล้วลุกขึ้นเดินออกมาหาสิ่งที่ หัวใจ เคยยอมรับว่ามี/เป็นความสงบสุขตามวัยของเธอจริงๆเถิด ... นักเรียนที่รักของครูอาจารย์ทุกคน ฯ ปล. ดีเท่าไหร่แล้วนะ ที่ ร.ร. ในบ้านเมืองเรายังไม่มีพฤติกรรมอย่างบ้านอื่นเมืองอื่น ที่ นักเรียนส่วนหนึ่ง จำเป็นต้องทำตามระเบียบที่มี-เช่นนี้ [CLICKme!!] - นะ ว่ามั๊ยครับ จขกท. ท่าน นายหมู่ใหญ่ ที่นับถือ ??? *กลับเข้ามาเพิ่มเติม link ประกอบความคิดเห็น ขยายความตาม ปล. นะครับท่าน จขกท. แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 55 17:51:06 จากคุณ : กรองคำ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 17:33:57

ความคิดเห็นที่ 15 กฏ ไม่รู้ว่ามีไว้ทำไม นะครับ กฏ ของ ศาสนา มีไว้ทำไม กันครับ กฏ ของ บ้านเมืองมีไว้ทำไมกันคับ กฏ ของ ชุมชนมีไว้ทำไมกันครับ กฏ ของ โรงเรียนมีไว้ทำไมกันครับ กฏ ของ ที่ทำงานมีไว้ทำไมกันครับ กฏ ของ บ้านมีไว้ทำไมกันครับ --------------------- กลับกัน ถ้า จะให้เลิก กฏ ของ บางศาสนา เพียงเพราะ ศาสนาอื่นไม่เห็นด้วย ควรหรือครับ คงต้องอย่างที่ คุณ กรองคำว่า หละครับ อยู่ตรงไหน ก็ต้องทำตามกฏตรงนั้น ครับ เข้าเมืองตาหลิ่ว จะไม่หลิ่วตาตาม ก็ กะไร อยู่ นะครับ จากคุณ : a235 เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 20:02:22

ความคิดเห็นที่ 16 รร วัดหนองจอก ที่เกิดเรื่องนักเรียนหญิงมุสลิมคนนี้ก่อนเรื่องขึ้นมานั้น   เขาตั้งมา ๕๗ ปีแล้ว และไปเช่าพื้นที่ของวัดหนองจอก  เงื่อนไขของการเช่าพื้นที่ตอนทำสัญญากับทางวัด  ได้ระบุไว้แล้วว่า  ห้ามนักเรียนแต่งกายที่แสดงสัญญลักษณ์ทางศาสนาที่ขัดแย้งกับศาสนาพุทธ  และนักเรียนที่เป็นมุสลิมทุกๆรุ่น  ทุกๆคนที่ผ่านมา ใน ๕๗ ปีนั้น ก็ไม่เคยมีใครก่อปัญหานี้  ..เพิ่งมามีคนนี้แหละ... และที่กฏระเบียบของโรงเรียนเขาก็วางไว้ก่อนแล้วตามหลักที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดแนวทางไว้   ... นี่คือปัญหาของมุสลิมทั่วโลก   ที่มักจะก่อความขัดแย้งโดยเอาตนเองเป็นจุดศูนย์กลาง  แบบนี้เอง ไม่สนใจสังคมส่วนรวมที่ตนไปสังกัดอยู่นั้น ..ในประเทศฝรั่งเศสเขาไม่ยอมเด็ดขาด  เช่น การขับรถเขาห้ามคลุมศรีษะเด็ดขาด  หญิงมุสลิมคลุมศรีษะขับรถ เขาจับทันที จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 21:24:48

ความคิดเห็นที่ 17 ^ "....ห้ามนักเรียนแต่งกายที่แสดงสัญญลักษณ์ทางศาสนาที่ ขัดแย้ง กับศาสนาพุทธ..." อืม... ขอถามคุณ โขตานนะคะ ขัดแย้ง ยังไง กับ ศาสนาพุทธ ช่วยอธิบายให้เห็นภาพหน่อยได้ไหมคะ ขัดแย้งกับพระไตรปิฏก หรือว่า พระพุทธเจ้าท่านตรัสห้ามไว้คะ คือท่านสั่งห้ามไว้ไหมคะ ว่า พุทธศาสนิกชนต้องจะต้องไป "ยึดติด" กับ สัญลักษณ์ หรือ อัตลักษณ์ ภายนอกนะ เอ่ หรือว่าอย่างไรคะ เท่าที่ทราบ ศาสนาพุทธก็ไม่ได้สอนให้คนไปยึดติดอะไรภายนอก ไม่ใช่หรือ ไม่เข้าใจค่ะ แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 55 22:31:01 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 22:29:06

ความคิดเห็นที่ 18 ผมเป็นชาวพุทธเหมือนกับคนอีกว่า 90%ของปรเทศนี้ ผมว่าเราท่านหลายๆคนไม่คุ้นเคยกับการที่ต้องเป็นคนส่วนน้อย ที่ถูกกดขี่ กีดกัน ถ้าคุณเคยอยู่ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้เหมือนผม ที่ยังมีชีวิต หรือเหมือนกับเพื่อนร่วมอาชีพของผมอีกหลายร้อยคนที่เสียชีวิต คุณจะไม่มีวันที่จะคิดแบบคนที่ยึดถือว่าตนเองเป็นคนดีของสังคม โดยมองคนอื่นว่ามีปัญหา ทั้งๆที่คุณคือคนที่สร้งปัญหา แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 55 23:12:52 จากคุณ : นายหมู่ใหญ่ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 23:12:20

ความคิดเห็นที่ 19 ด้วยความเคารพ แก่ทุกความเห็น แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 55 22:46:14 จากคุณ : นายหมู่ใหญ่ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 23:15:48

ความคิดเห็นที่ 20 แค่นี้ต้องเอามาขู่เลยเหรอ....มากไปมั้ง จากคุณ : คนนวมินทร์ เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 00:28:05

ความคิดเห็นที่ 21 นำเรียน ท่านนายหมู่ใหญ่ อ้างถึง : ความคิดเห็นที่ 19 ด้วยความเคารพ แก่ทุกความเห็น ด้วยความเคารพ แก่ทุกความเห็น  เช่นกัน-และตอนนี้ก็ยังทำงานในพื้นที่อยู่อีกรอบ ๑ แล้ว  เป็นรอบที่ ๓ - นะครับ         สิ่งเทียมอำนาจที่ท่านฯถือในมือในท่าพร้อมพัก/กึ่ง พร้อม-ไก  นั้นแหละ ที่ตอนนี้ เรา เรียกมันว่า ปฏิปักษ์อุปกรณ์ ในการ ทำงาน ปจว. [หวังว่าท่านใหญ่ จะเข้าใจตรงนี้-นะ] เพราะ_ยกเป็น ตย. ณ กระทู้นี้  เมื่อมัน สิ่งเทียมอำนาจ ปรากฏขึ้นใน คคห.ที่ ๑๙  ทันทีนั้น > ความหมายแห่ง ธรรมตามจริง ที่มีใน คคห.ที่ ๑๘  ก็ลางเลือนลงไปมากกว่ามาก            ด้วยเหตุผลว่า สิ่งนี้ - [A~1/635] นั้นแหละ  มัน ไม่ควรจะปรากฏ-แม้ว่ายามนอนต้องเอามือก่ายกดมันไว้ทุกคืนอยู่นี่ก็ตามที-นะ ท่านใหญ่ สิ่งอันใด  ที่เป็น ปฏิปักษ์ ต่อมวลรวมแห่งชนหมู่ใหญ่  เป็นเรื่องที่ หลายึนในกลุ่มคนกลุ่ม ๑ ไม่เข้าใจ  ยิ่งเมื่อเห็น การกล่าว ระบุคำว่า ปฏิปักษ์ ใน บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ราชอาณาจักรไทย เรื่องการมีสิทธิเสรีภาพใดๆนั้นๆ  พวกเขาก็ตีความไม่ถูกกันเลยทีเดียว ... ก็จึง ฟาวล์ โดนปรับ ๕ แต้มมา จนทุกวันนี้-นะ เท่านี้ก่อนนะครับ ท่านใหญ่ฯ... กรองคำ ยินดีที่ได้ทราบว่า ท่านก็เคยลงมาทางนี้เช่นกัน วันนี้ฝนหนักมากมาย และพรุ่งนี้ ยุลูกใหญ่กว่าวันนี้ก็จะเข้ามาซ้ำอีก-ทั้งวันละมั๊ง  ขอตัวพักผ่อนก่อนละ-นะครับ  พรุ่งนี้ กวาดไหล่ทาง ~ ส่งพระท่านบิณฑบาตรเสร็จแล้วก็มีทำ HA~LO ที่ ๑๑ นาฬิกา/NW-บาเจาะ  เพราะเหตุ XDC-1 เมื่อหัวค่ำของวันนี้-เมื่อสักตะกี้นี้เอง  ดูข่าวรู้รึยังน๊อ  ...  saYGooD นะครับ จากคุณ : กรองคำ เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 00:55:39

ความคิดเห็นที่ 22 ตอบ..Ms.Kohlanta ...  อันนั้นเป็นข้อตกลงตั้งแต่เริ่มแรกที่ตั้งวัดหนองจอก  เพราะทาง รร ต้องการขอเช่าที่ตั้ง รร  และได้ทำข้อตกลงแบบที่ว่านั้นมาตั้งแต่เริ่มแรกเมื่อ  ๕๗ ปีก่อน  การตั้งข้อตกลงแบบนั้น  เป็นเรื่องของทางวัดกับทาง รร ไม่เกี่ยวกับหลักการใดๆของศาสนาพุทธ  แต่ในเมื่อตกลงกันแล้ว ก็ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงนั้น   ไม่งั้นทาง รร ควรย้ายไปหาที่อื่นๆดีกว่า   คืนที่ดินกลับให้วัดไป  ดีไหมละ ?  ทางวัดจะได้เอาที่ดินกลับไปทำอย่างอื่นๆต่อไป  เช่น อาจจะสร้างวิทยาลัยสงฆ์ หรือโรงพยาบาล  ซึ่งก็ไม่ต้องมีปัญหาวุ่นวายกับเรื่องคลุมหน้าของหญิงมุสลิมอีก จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 03:10:10

ความคิดเห็นที่ 23 ^ จาก คห. คุณ โขตาน ยัง งง อยู่ แต่จะพยายามเข้าใจว่า ฮิญาบ มัน ขัดแย้ง กับศาสนาพุทธยังไง????? ตามที่ได้กล่าวเอาไว้ว่า ห้ามนักเรียนแต่งกายที่แสดงสัญญลักษณ์ทางศาสนาที่ "ขัดแย้ง" กับศาสนาพุทธ จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 07:16:40

ความคิดเห็นที่ 24 โดยส่วนตัวก็คงยังไม่เข้าใจอยู่ดี ทั้งๆที่คุณ โขตานบอกไว้ว่า "การตั้งข้อตกลงแบบนั้น  เป็นเรื่องของทางวัดกับทาง รร ไม่เกี่ยวกับหลักการใดๆของศาสนาพุทธ" ในเมื่อมันไม่เกี่ยวกับหลักการใดใด ของศาสนาพุทธ แล้วทำไมต้องเอา ศาสนา มาอ้าง  แล้วตั้งกฏเอาไว้ว่า ห้ามนักเรียนแต่งกายที่แสดงสัญญลักษณ์ทางศาสนาที่ "ขัดแย้ง" กับ ศาสนาพุทธ แล้วตกลงว่า มัน ขัดแย้งงงงงงง กับ  "ศาสนาพุทธ" ยังไง???? T_T'' จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 13:35:39