เรียนคุณวงกลม คห 1 ครับ
ใช้คำตอบของพระสารีบุตรเถระนะครับ องค์ท่านขยายความคำดำรัสขององค์พระศาสดา องค์ท่านได้อธิบายไว้ใน สุทธัฏฐกสุตตนิทเทส (บางเรื่อง ที่พระพุทธองค์ไม่ได้ขยายความ แต่จะมีพระสารีบุตรที่ช่วยพระองค์ในการอธิบาย
นอกเรื่องนิดนึง ในความเห็นของผมนะครับ ผมมองว่าบางข้อสงสัยเหมือนกับว่าเหล่าพระอรหันต์โดยเฉพาะพระสารีบุตรท่านนี้ ท่านน่าจะทราบว่าในอนาคตจะมีคำถามเหล่านี้ในสังคม แล้วมีจะเกิดปัญหากับชาวพุทธภายหลัง เช่น นิพพานเป็นอัตตาหรืออนัตตา ซึ่งพระสารีบุตรองค์ท่านขยายความและตอบชัดเจนว่า นิพพาน(หรือนิโรธ)เป็นอนัตตา
ส่วนสมัยพุทธกาลนั้นผู้เริ่มฟังพระพุทธเจ้าหรือเริ่มศึกษาพระพุทธศาสนาเขาเหล่านั้นไม่มีปัญหาเรื่องอัตตาหรืออนัตตา เพราะ เขามีความเชื่อมาตลอดเรื่องอัตตาตัวตนว่ามีอยู่ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง แต่พอเขาพบพระพุทธเจ้้า พระองค์ตรัสเรื่องอนัตตา เขาเหล่านั้นจึงไม่สงสัยเรื่องการปฏิบัติเพื่อละกิเลส ละตัวละตน เหมือนเขาใฝ่หาสิ่งเหล่านี้มานานแล้ว บารมีเขาแกร่งกล้าพอจะหลุดพ้นแล้ว)
กลับมาที่คำตอบนะครับ.....
"ว่าด้วยการละบุญและบาป"
พระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ 29 หน้า 108-109
ดังนี้...
------------------
ปล .
ถึงทุกๆท่านที่ติดตามอ่านกระทู้ร่วมกันศึกษาพระไตรปิฎก
หากมีคำถามแล้วผมยังไม่ได้ตอบ(ผมอาจจะไม่ได้กลับมาดูที่กระทู้เมื่อตั้งกระทู้แล้ว)
ถามในกระทู้แล้วก็หลังไมค์มาหาผมด้วยก็ได้นะครับ ผมจะพยายามหาคำตอบเท่าที่จะทำได้( ผมพยายามจะนำคำตอบจากพระไตรปิฎกมาอ้างอิงให้มากที่สุดนะครับ)
ร่วมกันเรียนรู้ครับ หรือ ท่านอื่นๆตอบได้ ก็ตอบได้เลยครับ (ผมจะได้หาความรู้ด้วย ...:)...)
ขออนุโมทนาบุญคุณวงกลมที่ใฝ่หาความรู้ในธรรมะครับ
แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 55 15:37:27
แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 55 15:20:47
แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 55 15:18:22
แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 55 15:14:20