ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามาโหวตเป็นคนแรก    เค้าขอเปิดชิงละน้า    อิอิอิ  ^^ ( ปล. ซิง  เขียนไม่ได้แหะ  ว้า ) แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 55 21:41:43 แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 55 21:41:05 จากคุณ : annyfatgirl เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 21:40:45

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าไม่มีชาติหน้า ..........แล้วจะสะสมบุญบารมีไปเพื่ออะไรกันล่ะ   เสพสุขสะให้พอ    เดี๋ยวตายไปก็จบกันแล้ว   จะโกงใครก็โกงสะให้พอ    ไม่มีชาติหน้า  ไม่ต้องไปใช้หนี้กรรมใครทั้งนั้น ปล.  ไอ้ความคิดแนวนี้   ต้องบอกว่า  พระเจ้าไม่ยุติธรรมสิน่ะ    เพราะให้คนเกิดมาไม่เท่าเทียมกัลลลล บางคนเกิดมาหน้าตาเป็งอิปลวก    บางคนเกิดมาหน้าตาอย่างเรยา    หาใช่เพราะบุญ-กรรมชาติก่อนไม่   แต่เพราะพระเจ้าลำเอียงไงจ๊ะ   หุหุหุ จากคุณ : annyfatgirl เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 21:45:52

ความคิดเห็นที่ 3 อจินไตยอีกแล้ว เชื่อว่ามีชาติหน้าครับ แต่เรื่องจิตแยกหรือไม่แยก ไม่รู้ ไม่สนด้วย จากคุณ : โอ่อี๊โอ (oiooo) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 22:28:02

ความคิดเห็นที่ 4 เรามาเชื่อเรื่อชาติก่อนชาติหน้าก็ตอนที่เข้าใจว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไรนี่แหละ ปัญญาขนาดนี้ไม่อาจสะสมได้ในชาติเดียว จากคุณ : แมวเก้าแต้ม เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 22:53:07

ความคิดเห็นที่ 5 ขอตอบดังนี้ (จะจัดเป็นข้อ ๆ เพื่อให้อ่านง่าย) ๑. ผมเชื่อ เรื่องชาติก่อน - ชาติหน้า ๒. ผมไม่กลัวผี ไม่สนใจเทวดา เพราะสองอย่างนี้ ไม่จำเป็นต้องมาเกี่ยว กับชาติก่อนชาติหน้า ก็ได้ ๓. ผมคิดว่า แม้คนบางคนที่ไม่เชื่อชาติก่อน-ชาติหน้า ก็เป็นคนดีได้ เขาไม่จำเป็นต้องคิด แบบที่ คุณความเห็นที่ ๒ บอกว่า "จะโกงใคร ก็โกงซะให้พอ" สามารถทำชั่วได้ทุกอย่าง อะไร ๆ ทำนองนั้น   การที่เขาเกิดมาเป็นมนุษย์ ได้รับการศึกษาที่ดี มีครอบครัวที่ดี ๆ ก็ช่วยให้เขาเป็นคนดีได้  ดังจะเห็นได้ว่า ในโลกนี้ มีคนที่ี่ ไม่มีศาสนา จำนวนมาก  แต่คนเหล่านั้น ก็ไม่ได้มีความคิดว่า โกงให้สะใจ  ผมยืนยันได้ เพราะผมรู้จักคนเหล่านี้จำนวนมาก เขาไม่มีแม้แต่ศาสนา แล้วเขาจะเชื่อเรื่องชาติก่อน ชาติหน้า ไปทำไมกัน?.....แต่วิถีชีวิต ของพวกเขาเรียบง่าย และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่โกงใครเพื่อสะใจแน่ ๆ นอกจากนั้นแล้ว คนเหล่านี้ ยังสนใจในการบริจาค เพื่อผู้ยากไร้ มากกว่า พวกคนมีศาสนา บางคนซะอีก  จึงอยากจะให้ทำใจกว้าง ๆ กันนะครับ ในเรื่องนี้ ๔. ผมไม่ปฏิเสธเรื่อพระเจ้า แต่ผมก็ไม่จำเป็นต้องนับถือศาสนาที่มีพระเจ้านี่นา จริงไหมครับ  และแน่นอนว่า แม้ผมจะไม่ปฏิเสธเรื่องพระเจ้า  แต่ผมก็ ไม่ได้ยอมรับว่า อำนาจทั้งหมด พระเจ้า จะสามารถกำหนดเองได้ อย่างเบ้ดเสร็จ  เช่นเรื่อง เกิดมาหน้าตาดี  หรือไม่ดี  กระนั้นก็ตาม ผมก็ไม่ยกให้ศาสนาไหน ๆ มากำหนดเรื่องหน้าตาดี ไม่ดีหรอกนะครับ  ผมยกให้ แนวคิดของ ชาร์ล ดาร์วิน ซะน่าจะเท่ กว่าเยอะเลย  หากจะลงรายละเอียดกัน ของเรื่อง พัฒนาการ ของมนุษย์ และสายพันธุ์ สิ่งมีชีวิต ล่ะก็ จึงขอสรุปว่า - ผมเชื่อเรื่อง ชาติก่อน -ชาติหน้า  แต่ ผมก็เชื่อ ในแนวความคิดอื่น ๆ ส่วนตัวของผมเช่นกัน เรียกว่า เชื่อชาติก่อน ชาติหน้าด้วย  เชื่อตนเองด้วย......  .ใครจะมีปัญหาอะไรกับผมมั๊ย ครับ จากคุณ : รถเรณู เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 22:54:31

ความคิดเห็นที่ 6 ^ หูย.... ใครจะกล้าไปมีปัญหากะคุณปู่ รถเรณู ละค่า    ( ชอบคำบรรทัดสุดท้ายสะจิงๆเชียวล่ะ ^^ ) คนที่ดีอยู่แล้ว   แม้จะไม่เชื่อเรื่องชาติก่อนชาติหน้าก็มีอยู่  ( อย่างที่ท่านปู่ รถฯ กล่าวไว้ ) แต่............คนที่ ไม่เชื่อเรื่องชาติหน้า    และไม่สนใจที่จะสร้างบุญบารมีก็มีมาก    ถึงขนาดแม้แต่ชวนทำบุญ 10 บาท    ยังไม่เอาเลย  ......แบบความคิดของเขาคือ   จะทำไปทำไม!!! จากคุณ : annyfatgirl เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 23:08:06

ความคิดเห็นที่ 7 สำหรับผม มั่นใจว่า ชาติก่อน ชาติหน้า มีแน่นอนครับ อย่างจากอ่านหนังสือที่คนเขากลับชาติมาเกิดในชาตินี้(แม้ชาติก่อนของเขาจะผ่านไป10 ปี 20 ปีที่แล้วและมาเกิดใหม่) ทั้งๆที่มาเกิดใหม่ แต่สามารถจำอดีตชาติตัวเองได้ รู้ว่าพ่อแม่ชาติก่อนเป็นใคร  อะไรแบบนี้ จากคุณ : เด็กชายแสนดี เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 23:13:31

ความคิดเห็นที่ 8 โหวตแล้วนะ...ถ้าไม่มีชาตก่อนผมจะเกิดมาได้อย่างไร....จะมีชาตินี้ได้อย่างไร....ถ้าไม่มีเมื่อวาน....จะมีวันนี้ได้อย่างไร...แนวความคิดคุณรถเรณู...ผมเห็นด้วยครับ... จากคุณ : คนนวมินทร์ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 23:52:00

ความคิดเห็นที่ 9 ขอฟันธงว่า คนที่ไม่เชื่อเรื่องการเวียนวายตายเกิด ไม่ใช่ชาวพุทธครับ และอย่าเรียกตนเองว่าพุทธศาสนิกชนเลย ยกมือประนมไหว้ก็อาย องค์พระศาสดาเปล่า ๆ จากคุณ : Up_To_You เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 55 00:56:06

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนแรกอ่านเป็น"ชาติก่อนชาติหน้า"= ชาตินี้ ตอบคำถาม เชื่อว่ามีครับ จากคุณ : เส้นขอบฟ้าเวลาพระอาทิตย์ตกดิน เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 55 01:10:54

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าหากไม่เชื่อแล้ว?.... จะทำอะไรแย่ๆ เช่นเบียดเบียนผู้ตามใจชอบ ชาติหน้าไม่มีอยู่แล้วนี่... หรือหากเชื่อแล้ว... หลีกเลี่ยงการเบียดเบียนผู้อื่น หมั่นสร้างแต่กรรมดี... อืมม์ ควรจะเลือกข้างที่เชื่อดีกว่าเนอะ?... ว่าไหม? :P จากคุณ : UnExpected เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 55 01:57:38

ความคิดเห็นที่ 12 ขอตอบ 2 มุม ครับ 1.ผมเชื่อเรื่องภพชาติมีจริง ตามคำสอนของพระพุทธองค์ครับ 2. แต่คำว่า  "ตายแล้วมีจิตแยกจากร่างกาย"   .....ไม่เห็นด้วย....แม้แต่กับตัวคำถามเลยครับ คนแม้จะ....ยังไม่ตาย  (ตามคำสอนของพระพุทธองค์) ก็มีจิต(วิญญาณ) แยกต่างหากจาก ร่างกาย(รูป)อยู่แล้ว ทั้งนี้ ตามที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ในขันธ์ 5 .....เมื่อตายลง  จิตจะไปอาศัยรูปอื่น ในกรณีที่ชาติใหม่นั้นมี 5 ขันธ์ .....แต่ในกรณีไปเกิดเป็น  ..."อรูปพรหม"....  มี 4 ขันธ์  ก็ไม่ต้องอาศัยร่างกาย(รูป) .....หรือกรณีเกิดเป็น...."พรหมลูกฟัก/อสัญญสัตตาพรหม".... ก็มีแต่รูป 1 ขันธ์ ไม่มีจิต จากคุณ : Eikewsang เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 55 05:26:10

ความคิดเห็นที่ 13 1. เชื่อว่ามีชาตินี้ ชาตหน้าครับ 2. พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า จิตหรือวิญญาณเกิดดับตลอดเวลา ไม่ใช่สิ่งที่เวียนว่ายตายเกิด แต่สิ่งที่เวียนว่ายตายเกิดคือ สัตว์ที่มีอวิชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก จากคุณ : nslife2514 เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 55 08:58:17

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าเชื่อว่า "เมื่อวาน" มีจริง.. "พรุ่งนี้" มีจริง ก็เชื่อว่า "ชาติก่อน" มีจริง.. "ชาติหน้า" มีจริง ผู้ที่จะไม่เกิดอีก คือผู้ที่ได้ "นิพาน" หมดกิเลสแล้วเท่านั้น แต่อะไรไปเกิดอีก... บางท่านก็ สมมุติเรียกว่า "วิญญาณ" แต่ไม่ใช่ "วิญญาณ" ในขันธ์ 5 (รูป, เวทนา, สัญญา, สังขาร, วิญญาณ) หรือจะเรียกว่า "จิต" ไปเกิดก็ได้ เพราะ "บาป"  หรือ "บุญ" ก็สะสมอยูที่ "จิต" บางท่านก็เรียกรวมกันไปเลยว่า "จิตวิญญาณ"... แต่อะไรจะเป็นตัวเชื่อมภพชาติ... บาป หรือ บุญ หรือเรียกรวมๆ ว่ากรรม จะติดตามไปทุกภพทุกชาติ... จนกว่าจะถึง "นิพาน" จากคุณ : pakakaew เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 55 09:44:19

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าให้ตอบตรง ๆ คือไม่รู้ แต่เชื่อและไว้ใจชาวพุทธที่สืบทอดต่อ ๆ กันมา สังคมพุทธเป็นสังคมแห่งศีลแห่งสัตย์ การสืบทอดต่อกันมาผมมั่นใจว่าสืบทอดไปถึงสมัยพุทธกาลนั้นเป็นไปได้จริง และมั่นใจปัญญาของชาวพุทธที่อยู่มาก่อนเรา มั่นใจศักยภาพผู้ทรงศีลทรงธรรมภายในพุทธศาสนา   แต่ทฤษฎีวิทยาศาสตร์ ผมไม่ไว้ใจครับ เพราะแก้ทฤษฎีกันอยู่เรื่อย ๆ และผมเล็งเห็นแล้วว่า เมื่อผมตายไป เขาก็จะยังไม่เลิกแก้ไขทฤษฎีแน่นอน ผมเชื่อเขาแล้ว สุดท้ายพอผมตายไป เขาดันเปลี่ยนทฤษฎีที่ผมเคยไปเชื่อ ผมก็แย่สิครับ ดังนั้นผมจึงไม่สามารถปลงใจเชื่อ ทิฏฐิความเห็นความเชื่อของนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นกระแสหลักในปัจุบันนี้ได้ครับ  ถ้าเขายืนยันจะไม่แก้ทิฏฐิหรือทฤษฎีของเขาอีกแล้ว ผมก็อาจรับความเชื่อของนักวิทยาศาสตร์มาพิจารณายึดถือ ชีวิตผมแสนสั้นผมไม่มีเวลารอการเก็บข้อมูลของนักวิทยาศาสตร์ครับ เพราะทิฏฐิมีผลเป็นอย่างสูงต่อความก้าวหน้า และความจริงจังในการปฏิบัติ ถ้าเขาสรุปกันไม่ได้เสียที ผมไม่รอหรอกเขาครับ ชาิตินี้ชาติหน้า มีบันทึกอยู่ทั่วไปในคำภีร์ชาวพุทธไม่ว่าจะนิกายไหน ผมก็ขอนอนอุ่นอยู่ในทิฏฐิความเชื่อของเหล่าชาวพุทธทั้งมวลที่สืบทอดมาครับ ผมตายตาหลับได้จริง จากคุณ : TaraLek เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 55 12:28:40

ความคิดเห็นที่ 16 ถามไปทำไมหรือคะ ?? >< เรื่อง ชาติก่อนชาติหน้าเนี่ย.. ถ้าลองคิดกันดูให้ดีๆนะ... คุณ จขกท. สามารถสมมติให้ใครเป็นชาติก่อนของคุณก็ได้.. เพราะอะไรรู้ป่าว? เพราะเราจำไม่ได้.. เราจำอดีตชาติของเราไม่ได้ ถึงแม้เราจะเคยเกิดมาแล้วเป็นแสนๆชาติ แต่ทุกๆครั้งที่เราไปเกิดใหม่ เราจะจำอดีตชาติที่เราเคยเกิดๆมาไม่ได้เลย.. จำไม่ได้เลย แล้วอดีตชาติของเรา ก็ไม่ได้หน้าตาแบบเรา ไม่ได้นิสัยแบบเรา แทบไม่มีอะไรที่เหมือนกับเราในตอนนี้เลย.. เพราะฉะนั้น.. คุณจะให้อดีตชาติของคุณเป็นใครก็ได้.. แค่เอาความรู้สึกของคุณเข้าไปอยู่ในร่างคนนั้น.. แค่นี้ คนๆนั้นก็เป็นอดีตชาติของคุณแระ.. (งงไหม?) เราว่า.. การคิดถึงอดีตชาติ มีแต่เป็นการเพิ่มตัวตนให้กับตัวเอง (คนพุทธใช้คำว่า อัตตา แทนคำว่า ตัวตน ใช่ไหมคะ?) เราไม่ค่อยเก่งคำศัพท์อ่ะ แต่เราจะบอกว่า การไปยึดกับอดีตชาติ มันเป็นการเพิ่ม"ตัวตน"ให้กับตัวเอง แค่ลำพังที่เราคิดว่า ตัวตนชาตินี้เป็นของเรา ร่างกายนี้เป็นของเรา แค่นี้ก็ทำให้กิเลสหนาตึบแระ --' แล้วถ้าไปยึดตัวตนในอดีตชาติอีก โห.. เพิ่มมาเป็น 2 ตัวตน.. กิเลสยิ่งหนาเข้าไปอีก อดีตชาติ แทบไม่มีความหมายกับชาติปัจจุบันของเราเลย.. (ไม่งั้น เราจะตายแล้วเกิดใหม่ทำไม) เขาให้เราตาย ให้เราเกิดใหม่ เพื่อให้เราลืมความทุกข์ในอดีตให้หมด (คนเราจะยิ่งโตยิ่งทุกข์นะคะ ถ้าเรามีอายุขัยสัก 200 ปี คงมีเรื่องทุกข์ใจมากมาย ยิ่งอายุยืน เรื่องทุกข์ใจก็ยิ่งมาก แล้วถ้าไปจำอดีตชาติได้อีก.. ก็ยิ่งทุกข์เข้าไปใหญ่) เราคิดว่า เหตุผลที่เรามาเกิดใหม่ เพราะเขาต้องการให้เรา เริ่มต้นใหม่.. อดีตชาติจะเป็นคนเลวแค่ไหน หรือจะเคยทำกรรมอะไรไว้ก็ช่าง อย่าไปยึดติดกับมัน ทำชีวิตปัจจุบันให้ดีที่สุด ให้บริสุทธิ์ที่สุด.. ให้ผ่องใสที่สุด ปัจจุบัน คือตัวนำทางให้กับเรานะคะ อดีตชาติไม่มีความหมายกับเรา เพราะเขากับเราเป็นคนละคน คนละหน้าตา คนละชื่อ คนละนามสกุล ทุกข์หรือความเลวหรือความดีที่เขาเคยทำ มันจบไปแล้ว แก้ไขไม่ได้แล้ว การไปยึดติดกับอดีตชาติ มันเป็นการเพิ่มความทุกข์ให้เราเปล่าๆ เราควรทำปัจจุบันให้ดีที่สุด จากคุณ : mooesha เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 55 13:41:46

ความคิดเห็นที่ 17 ถามชาวพุทธ ทำไมไม่ศึกษา คำสอนของพระพุทธเจ้าล่ะครับ จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 55 19:45:05

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าไม่มีชาติหน้า ..........แล้วจะสะสมบุญบารมีไปเพื่ออะไรกันล่ะ   เสพสุขสะให้พอ    เดี๋ยวตายไปก็จบกันแล้ว   จะโกงใครก็โกงสะให้พอ    ไม่มีชาติหน้า  ไม่ต้องไปใช้หนี้กรรมใครทั้งนั้น ปล.  ไอ้ความคิดแนวนี้   ต้องบอกว่า  พระเจ้าไม่ยุติธรรมสิน่ะ    เพราะให้คนเกิดมาไม่เท่าเทียมกัลลลล บางคนเกิดมาหน้าตาเป็งอิปลวก    บางคนเกิดมาหน้าตาอย่างเรยา    หาใช่เพราะบุญ-กรรมชาติก่อนไม่   แต่เพราะพระเจ้าลำเอียงไงจ๊ะ   หุหุหุ จากคุณ : annyfatgirl   เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 21:45:52   ถูกใจ : บ่าวบ้านบาก ************* ถ้าคุณ annyfatgirl    เข้าใจว่า "แท้จริงมันไม่ได้มีตัวเราหรือตัวตนของใครๆอยู่จริง" คุณก็จะมองเห็นความยุติธรรมของพระเจ้า(ธรรมชาติ)ได้ จากคุณ : What am I? เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 55 20:57:35

ความคิดเห็นที่ 19 การเวียนว่ายตายเกิดแบบวิญญาณอมตะไม่มีทั้งในแบบชั่วขณะและแบบข้ามชาติ จะมีการแต่การสืบเนื่องกันแบบปฏิจจสมุปบาททั้งสองแบบเราวันนี้กับเมื่อวาน ก็ไม่ใช่คนๆเดียวกันแต่เป็นคนที่สืบเนื่องมาจากกันและกันคล้ายกับการแบ่งเซลล์ของอวัยวะในร่างกายเซลล์ตัวใหม่ได้รับdnaจากตัวเก่าก็เช่นเดียวกันเราตอนนี้ กับเมื่อสักครู่นี้ก็ใช่และไม่ใช่คนเดียวกันสิ่งที่เราต้องทำก็คือหยุดทำสำเนาตัวเองขึ้นมาแบบไม่รู้จบสักทีโดยหยุดการหมุนของอวิชชาแม้สักประเดี๋ยวก็ยังดีด้วยปฐมฌานไม่ใช่ด้วยตรรกะจากอวิชชา จากคุณ : คนกรุงธน เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 55 21:48:01

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่รู้ว่าเชื่อหรือไม่เชื่อ และก็ยังไม่ได้สนใจหาคำตอบครับ จากคุณ : ลำปาว เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 18:48:14

ความคิดเห็นที่ 21 ลองพิจารณาโดยไม่เอาศาสนาพุทธมาเกี่ยวข้อง.......ทำไมไม่อ่านที่นักวิทยาศาสตร์ เขาศึกษารวบรวมจากคนที่ระลึกชาติได้ล่ะ มีหลักฐานทุกอย่าง ทำไม คนที่ระลึกชาติได้บอกเรื่องราวในอดีตชาติได้อย่างถูกต้อง แม้แต่เรื่องส่วนตัวที่ไม่มีใครรู้เลย ก็บอกได้ย่อมแสดงว่า เป็นตัวของเขาเองแน่นอน......นี้ว่ากันเอาตามเหตุผลนะ ไม่ต้องอ้างพระพุทธเจ้าหรอก จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 15:22:21

ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อ "ความจริงข้อหนึ่ง มีอยู่ว่า" (๑) ปุถุชน  จะสามารถ เข้าใจ เข้าถึง  "ตามที่ตรัสว่า"  ---> อวิชชา นั่นแหละ เป็นคติ  (เครื่องไป)  ของสัตว์เหล่านั้น   อย่างไร? <---- (เมื่อ เข้าใจ เข้าถึง ตรงตามที่ตรัส ได้  หรือไม่ได้   แล้วจะโหวตตามกระทู้  ผล ที่ออกมา  ก็ แบบหนึ่ง) (๒) ทีนี้ สมัยต่อมา เมื่อ  "มีการสดับ" "ตามที่ตรัส"  (เรื่องจิตนี้เป็นประภัสสรฯ)  คือ ลุ "สู่ อริยสาวกผู้มีการสดับฯ" (เมื่อ เข้าใจ เข้าถึง ตรงตามที่ตรัส ได้  หรือไม่ได้   แล้วจะโหวตตามกระทู้  ผล ที่ออกมา  ก็ แบบหนึ่ง) สรุป เมื่อท่าน  จขกท  ตั้งกระทู้ โหวต  นี้ ขึ้นมา  "แบบ ที่ตั้ง คือ ง่ายๆ"  ฯ แล้ว "ที่ง่ายยยย" นั้น มัน เนื่องกับ "พุทธปัญญา"  "ที่ตรัสว่า"  ---> อวิชชา นั่นแหละ เป็นคติ  (เครื่องไป)  ของสัตว์เหล่านั้น   อย่างไร? <---- หรือไม่? (รออ่าน ฯ แล้ว ค่อย  พิจารณาโหวต  ตามที่เสนอไว้ ฯ ครับ) จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 55 18:09:12