ความพยาบาท เป็นไฉน
จิตอาฆาต การกระทบกระทั่ง ความกระทบกระทั่ง
ความยินร้าย ความเคือง การขุ่นเคือง ความขุ่นเคือง
ความคิดประทุษร้าย การมุ่งคิดประทุษร้าย ความมุ่งคิดประทุษร้าย
ความพยาบาทแห่งจิต ความคิดประทุษร้ายแห่งใจ
ความโกรธ กิริยาที่โกรธ ภาวะที่โกรธ
ความคิดประทุษร้าย กิริยาที่คิดประทุษร้าย
ภาวะที่คิดประทุษร้าย ความคิดปองร้าย
กิริยาที่คิดปองร้าย ภาวะที่คิดปองร้าย
การยินร้าย ความยินร้าย ความดุร้าย ความปากร้าย
ความไม่แช่มชื่นแห่งจิต อันใด นี้เรียกว่า พยาบาท
............................................
มีคำแนะนำจากพุทธพจน์ ดังนี้
ถ้อยคำที่คนอื่นจะพึงกล่าว ๕ ประการ
[๒๖๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ทางแห่งถ้อยคำที่บุคคลอื่นจะพึงกล่าวกะท่านมีอยู่ ๕ ประการ คือ
กล่าวโดยกาลอันสมควรหรือไม่สมควร ๑
กล่าวด้วยเรื่องจริงหรือไม่จริง ๑
กล่าวด้วยคำอ่อนหวานหรือคำหยาบคาย ๑
กล่าวด้วยคำประกอบด้วยประโยชน์หรือไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ๑
มีจิตเมตตาหรือมีโทสะในภายในกล่าว ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เมื่อบุคคลอื่นจะกล่าวโดยกาลอันสมควร หรือไม่สมควรก็ตาม
จะกล่าวด้วยเรื่องจริงหรือไม่จริงก็ตาม
จะกล่าวถ้อยคำอ่อนหวานหรือหยาบ*คายก็ตาม
จะกล่าวถ้อยคำประกอบด้วยประโยชน์ หรือไม่ประกอบด้วยประโยชน์ก็ตาม
จะมีจิตเมตตาหรือมีโทสะในภายในกล่าวก็ตาม
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ในข้อนั้น พวกเธอพึงศึกษาอย่างนี้ ว่า
จิตของเราจักไม่แปรปรวน เราจักไม่เปล่งวาจาลามก
เราจักอนุเคราะห์ด้วยสิ่งอันเป็นประโยชน์
เราจักมีจิตเมตตา ไม่มีโทสะในภายใน
เราจักแผ่เมตตาจิตไปถึงบุคคลนั้น
และเราแผ่เมตตาจิตอันไพบูลย์ ใหญ่ยิ่ง หาประมาณมิได้
ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาท ไปตลอดโลก ทุกทิศทุกทาง
ซึ่งเป็นอารมณ์ของจิตนั้น ดังนี้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาด้วยอาการดังที่กล่าวมา นี้แล.
[๒๖๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษ
ถือเอาจอบและตะกร้ามาแล้ว กล่าวอย่างนี้ว่า....
....
.ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ในข้อนั้น พวกเธอพึงศึกษาอย่างนี้ว่า
จิตของเราจักไม่แปรปรวนเราจักไม่เปล่งวาจาที่ลามก
เราจักอนุเคราะห์ด้วยสิ่งที่เป็นประโยชน์
เราจักมีจิตเมตตา ไม่มีโทสะภายใน
เราจักแผ่เมตตาจิตไปถึงบุคคลนั้น
และเราจักแผ่เมตตาจิตอันเสมอด้วยแผ่นดิน
ไพบูลย์ ใหญ่ยิ่ง หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาท
ไปตลอดโลก ทุกทิศทุกทาง ซึ่งเป็นอารมณ์ของจิตนั้น ดังนี้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เธอทั้งหลายพึงศึกษาด้วยอาการดังที่กล่าวมานี้แล.
เปรียบเหมือนบุรุษเขียนรูปในอากาศ
[๒๖๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษ
ถือเอาครั่งก็ตาม สีเหลืองสีเขียว หรือสีเหลืองแก่ก็ตามมาแล้ว
กล่าวอย่างนี้ว่า เราจักเขียนรูปต่างๆ ในอากาศนี้
กระทำให้เป็นรูปเด่นชัด ดังนี้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
บุรุษนั้นจะเขียนรูปต่างๆในอากาศนี้ กระทำให้เป็นรูปเด่นชัดได้หรือไม่?
....
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลอื่น
จะกล่าวโดยกาลอันสมควรหรือไม่สมควรก็ตาม
จะกล่าวด้วยเรื่องจริงหรือไม่จริงก็ตาม
จะกล่าวถ้อยคำอ่อนหวานหรือหยาบคายก็ตาม
จะกล่าวถ้อยคำประกอบด้วยประโยชน์ หรือไม่ประกอบด้วยประ*โยชน์ก็ตาม
จะมีจิตเมตตาหรือมีโทสะในภายในกล่าวก็ตาม
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ในข้อนั้นพวกเธอพึงศึกษาอย่างนี้ว่า
จิตของเราจักไม่แปรปรวน เราจักไม่เปล่งวาจาลามก
เราจักอนุเคราะห์ด้วยสิ่งอันเป็นประโยชน์
เราจักมีจิตเมตตา ไม่มีโทสะในภายใน
เราจักแผ่เมตตาจิตไปถึงบุคคลนั้น
และเราจะแผ่เมตตาจิตอันไพบูลย์ ใหญ่ยิ่ง หาประมาณมิได้
ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาท ไปตลอดโลก
ทุกทิศทุกทาง ซึ่งเป็นอารมณ์ของจิตนั้น ดังนี้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษา
ด้วยอาการดังกล่าวมานี้แล.
.............
นี้เป็นตัวอย่าง วิธีการลดความพยาบาท.