บทความขัดแย้งกันเองชัดเจนครับ
เพราะเหตุไรมุสลิมที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผุ้ทรงคุณวุฒิและพากภูมิใจในวิทยา การที่รุ่งเรือง,แต่ในปัจจุบันกลับกลายเป็นผู้ที่ต้องพึ่งพาอาศัยประเทศอื่น ทั้งทางเศรษฐกิจและทางสังคมรวมทั้งวิทยาการต่างๆ?
เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าในสมัยท่านศาสนทูตมูฮัมมัด เมื่อมุสลิม ปฏิบัติ ตามอัลกุรอานอย่างถูกต้องมุสลิมมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองและมีชัยชนะอยู่ตลอด เวลา,
แต่ทันทีสิ้นศาสนทูตมูฮัมมัดไป,และมุสลิมเริ่มละทิ้งอัลกุรอานซึ่งเป็น พระวจนะของ พระเจ้าในอัลกุรอาน และปฏิบัติตามแนวทางการสอนที่ไม่ ถูกต้องตามหลักการของ อิสลามที่แท้จริงและการ ต่อเติมและ ประดิษฐ์ขึ้น มาโดยผู้นำ ทางศาสนา,สังคมมุสลิมเริ่มเข้าสู่ แนวทางที่ นำไป สู่ความแตก แยกและตกต่ำ ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนในการ เกิดความไม่สงบ ใน บรรดา ประ เทศมุสลิม ในภาคตะวันออกกลาง ในอาฟริกาและในแถบ ต่างๆทั่วโลกตลอด มาจนถึงปัจจุบันนี้
จริงๆ แล้วมุสลิมนั้น เจริญรุ่งเรืองทางวิทยาการ ในหลังจากที่ท่านศาสดาจากไปแล้ว นั่นแปลว่า มุสลิมสมัยนั้นก็เริ่มใช้ฮะดีษแล้วครับ
การอ้างว่า มุสลิมเริ่มละทิ้งอัลกุรอ่าน แล้วปฏิบัติตามการสอนที่ไม่ถูกต้องนั้น ต้องถามว่า คำสอนที่ไม่ถูกต้องคื้ออะไร? และสิ่งประดิษฐ์คืออะไร ถ้าบอกว่าคำสอนที่ไม่ถูกต้องนั้นคือฮะดีษ ล่ะก็...
โกหกครับ!!! เป็นการโกหกที่ปราศจากหลักฐานโดยสิ้นเชิง เพราะฮะดีษนั้น เป็นการรวบรวม คำอรรถาธิบายของท่านศาสดามุฮัมมัดไว้อย่างถี่ถ้วน และถูกต้องที่สุดแล้ว ถ้าเราไม่เอาฮะดีษ แปลว่าเราจะไม่รู้เลยว่าท่านนบีได้ปฏิบัติศาสนกิจต่างๆ อย่างไร เพราะไม่มีหลักฐานจากแหล่งอื่นอีกแล้ว
ยิ่งการพาดพิงไปถึง บรรดาปราชญ์หรือผู้นำทางศาสนาด้วยแล้วยิ่งเป็นการใส่ร้ายท่านเหล่านั้นเข้าไปใหญ่ เป็นการกล่าวหาพล่อยๆ โดยปราศจากความรับผิดชอบ โดยคนที่ปราศจากคุณสมบัติทางวิชาการแบบแมทท์ด้วย
ทั้งการกล่าวหาว่า บิดเบือนคำสอนของกุรอ่าน แต่ถามว่าบิดเบือนอย่างไร? แมทท์เคยบ้างไหม ที่จะหาเหตุผลมาบอกว่า คำสอนของปราชญ์ ที่ทั้งคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ มากกว่าแมทท์ไม่รู้กี่สิบ กี่ร้อยเท่านั้น ผิดอย่างไร
เพราะท่านเหล่านั้นไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องมาบิดเบือนอิสลาม หรือแต่งเติมอิสลาม กลับกัน ท่านเหล่านั้นยังเป็นผู้ปกป้องไม่ให้่กุรอ่านถูกบิดเบือน และปกป้องไม่ให้อิสลามถูกต่อเติมอีกด้วย โดยท่านเหล่านั้นอุทิศชีวิตของท่านให้กับเรื่องศาสนา เช่นการคัดกรองฮะดีษ ที่ไม่ใช่การแต่งฮะดีษขึ้นมาเอง แต่เป็นการคัดเอาฮะดีษปลอมๆ ที่ถูกแอบอ้างออกไปต่างหากล่ะครับ
ซึ่งหนึ่งในการบิดเบือนกุรอ่าน และต่อเติมอิสลาม ก็คือการปฏิเสธฮะดีษนี่แหละครับ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ก็เพราะการปฏิเสธฮะดีษ เท่ากับว่า เปิดโอกาสให้คนชั่วๆ สามารถอ้างไปถึงนบีได้ โดยปราศจากการตรวจสอบ
ตัวอย่างง่ายๆ เลยนั่นคือ การที่แมทท์เคยแอบอ้างว่า ห้ามกล่าวนามบุคคลในละหมาด เป็นต้น หรือาการบอกว่าไม่มีบทขอพร หรือดุอาใดในละหมาดนอกจากสรรเสริญพระเจ้าเท่านั้น
ซึ่งไม่มี ไม่เคยมีหลักฐานใดๆ บ่งบอกถึงการละหมาดแบบที่แมทท์อ้างนะครับ แต่แมทท์ก็อ้างขึ้นมา แบบนี้ เป็นการบิดเบือน การปฏิบัติศาสนกิจตามใจตัวเอง
ถามว่า ถ้ามีคนแบบแมทท์มาบิดเบือนเรื่องต่างๆ ในอิสลามตามใจไปเรื่อยๆ สักร้อยคน การละหมาดก็จะมีได้เป็นร้อยๆ แบบนั่นแหละครับ โดยอ้าง คำง่ายๆ พล่อยๆ ไร้สาระว่า "ละหมาดตามบรรพบุรุษ" แล้วเราก็ตรวจสอบไม่ได้ด้วยครับว่า บรรพบุรุษที่สอนแบบนั้นไปเอามาจากไหน ตกทอดมาจากท่านนบีจริงหรือไม่ ใครรายงาน โกหกขึ้นมาเองหรือเปล่า เป็นต้น
นี่ต่างหากล่ะครับ ความมั่ว และถ้าพิจารณาดูแล้วความล้าสมัยของมุสลิมในปัจจุบันเพราะไปตามก้นฝรั่ง แต่ไม่ทำตามนบีกันต่างหาก ครับ
แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 55 21:45:27